ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าขายที่รักมารักข้าซะดีๆ

    ลำดับตอนที่ #3 : Rr

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 57




    ♥ [Free!'s Fiction] Orca and Dolphin
    posted on 27 Jan 2014 23:51 by annew-me  in Free  directory Fiction, Cartoon
    オルカとドルフィン
    Orca and Dolphin
     
     
    Title : Orca and Dolphin
    Fandom : TV アニメ Free! Iwatobi Swimming Club
    Pairing : Tachibana Makoto x Nanase Haruka
    Rate : PG-15
     
     
    คำเตือน : ฟิคชั่นเรื่องนี้มีเนื้อหาแนวชายรักชาย หากไม่ประสงค์เสพกดมุมปุ่ม 'X' ที่มุมขวาบนได้ตามสบายค่ะ
     
     
     
    “...เหมือนจังเลยน้า...”
     
     
    ประโยคปริศนาที่อยู่ๆนางิสะก็พูดขึ้นมาหยุดการกระทำของทุกคนที่อยู่รอบข้างได้ชะงัก ใบหน้าบ่งบอกถึงความงงงวยของทุกคนมองไปยังเจ้าของประโยคคล้ายต้องการกระตุ้นให้อธิบาย
     
    "มาโกะจังกับฮารุจังน่ะ มองทีไรฉันก็คิดว่าเหมือนเจ้านั่นจังเลยนะทุกทีเลย”
     
    คำตอบที่ได้กลับมาไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยลดน้อยลงแต่อย่างใด ทุกสายตายังคงมองที่นางิสะเหมือนต้องการให้เอ่ยประโยคอธิบายให้มากกว่านี้เจ้าตัวร่ายมาอยู่ แต่ดูท่าพ่อหนุ่มร่างเล็กจะไม่เข้าใจ ซ้ำยังเอาแต่ทั้งแกว่งเท้าพยักหน้าหงึกหงักอยู่คนเดียว ลำบากถึงพื่อนร่วมชั้นที่กำลังวอร์มอัพร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกประจำวันให้เป็นฝ่ายเอ่ยถามต่อ
     
    “เจ้านั่นที่ว่านี่มันอะไรกันครับนางิสะคุง พูดให้สงสัยแล้วไม่ต่อให้จบมันเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยนะครับ”
     
    “อ้ะ อะไรกันทุกคนจำไม่ได้เหรอ เจ้านั่นไง” ทำไม้ทำมือประกอบขนาดตามไปด้วย “เจ้าสองตัวที่อยู่ในห้องมาโกะจังไง เหมือนมากเลยนะ”  พยักหน้าหงึกหงักเสริมคำพูดของตนเองด้วย
     
    “ในห้องนอนงั้นเหรอ... หมายถึงตุ๊กตาปลาสองตัวนั่นใช่มั้ย ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเป็น...”
     
    “วาฬเพชฌฆาตสีขาวดำกับโลมาสีฟ้า”
     
    กลับเป็นเสียงของคนที่นอนลอยคออยู่ในน้ำเอ่ยตอบแทนแบบไม่ต้องให้คนอื่นเดาต่อ ฮารุกะขยับเปลี่ยนท่าทางกลับมายืนอยู่ในสระน้ำข้างผู้ตกเป็นหัวข้อสนทนาร่วมกับตน ตาเรียวคู่สวยหรี่ลงเช่นยามตนรู้สึกสงสัย “ทำไม” เอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความกดดันให้ตอบ
     
    “ฉันแค่คิดว่าเวลาฮารุจังกับมาโกะจังอยู่ด้วยกันมันเหมือนเจ้าสองตัวนั้นดีน่ะ ตอนว่ายน้ำก็เหมือนเห็นเจ้าสองตัวนั้นกำลังเคลื่อนไหว เวลาคุยกันก็เหมือนเห็นโลมากับปลาวาฬกำลังคุยกันอยู่ จะให้พูดว่ายังไงดีล่ะ... เหมือนตุ๊กตาสองตัวนั้นเป็นตัวแทนของแต่ละคนล่ะมั้ง... นะ?”
     
    จบการอธิบายด้วยเสียงอ้อมแอ้มแบบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นักของนางิสะรอบบริเวณพลันเงียบกริบเหมือนทุกคนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด ก่อนจะเป็นเรย์ที่เรียกสติกลับคืนมาได้ เจ้าตัวขยับแว่นตากันน้ำให้เข้าที่ด้วยท่าทางที่ตนคิดว่าเพอร์เฟคที่สุด เรย์สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วโวยวายดังลั่น
     
    “นางิสะคุงจะบ้าหรือไงกันครับ! เอาคนไปเทียบกับสิ่งมีชิวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำได้ยังไง!? แถมในกรณีนี้ยังเป็นตุ๊กตาอีกต่างหาก! คุณอย่าไปบอกใครเชียวนะครับว่ารู้จักกับผม!"
     
    "อะไรกันล่ะเรย์จัง ก็ฉันคิดแบบนั้นจริงๆนี่!"
     
    "มันไม่ใช่ว่าคุณคิดหรือไม่คิดครับ มันเป็นเรื่องของเหตุผล! คุณไม่เข้าใจหรือไง!?"
     
    การโต้เถียงของสองเพื่อนสนิท(?)ดังต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ฮารุกะมองความวุ่นวายด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ 
     
    "หนวกหู..." ดวงตาคู่สวยหรี่ลงแล้วบ่นเบาๆ
     
     
    "ฮะๆ แต่ก็เรื่องจริงนี่นะฮารุจัง เรื่องเจ้าสองตัวนั้นน่ะ" มาโกโตะหัวเราะกับท่าทางดูหงุดหงิดแบบไม่จริงจังของ
    คนข้างกายพลางเอ่ยเย้าเสียงเบาที่ท้ายประโยค
     
     
    "ฉันยังจำได้เลยนะ วันนั้นน่ะฮารุจังไม่สบาย......"
     
     
     
     
     
    ท้องฟ้ากลางฤดูหนาวของวันนี้ไม่มีสีฟ้าดั่งปกติที่ควรจะเป็นเนื่องจากเมฆครึ้มปกคลุมไปทั่วตั้งแต่ช่วงเช้า ส่งผลให้อากาศหนาวที่พัดมาลดอุณหภูมิลงมากขึ้นไปอีก ยิ่งพอตกสายหิมะสีขาวปลอดก็ค่อยๆร่วงหล่นลงมาสลับกับหยุดเป็นระลอก เหมือนจะตอกย้ำคนที่นอนแหมบอยู่บนเตียง
     
    นานาเสะ ฮารุกะที่กำลังนอนจับไข้อยู่บนเตียงมองตาปรอยออกไปนอกหน้าต่าง เพราะอากาศที่อยู่ๆก็เปลี่ยนไปช่วงเย็นเมื่อวานทำให้เจ้าตัวที่นอนแช่น้ำนานจนเผลอหลับเกิดจับไข้ขึ้นมากระทันหัน และเพราะเป็นคนที่นานๆครั้งเชื้อโรคจะทำอันตรายได้พอร่างกายอ่อนแอก็เลยอยู่ในสภาพหนักกว่าคนทั่วไป
     
    ปวดหัวแถมร่างกายยังหนักไปหมด...
     
    เปลือกตาสีมุกปิดลงคล้ายตั้งใจระงับอาการครั่นเนื้อครั่นตัวให้หายไป คิ้วเรียวขมวดมุ่น หงุดหงิดใจในความอ่อนแอครั้งนี้ หากเป็นยามปกติเขาคงจะไปนอนแช่น้ำให้หายป่วย แต่วันนี้แรงจะลุกยังไม่มีคงต้องทนนอนต่อไปแบบนี้...
     
    "ขออนุญาตครับ!"
     
    เสียงประตูบ้านดังลั่นพร้อมเสียงเอ่ยขอและเสียงฝีเท้าหนักๆของคนคุ้นเคยชนิดที่ไม่ต้องเดาฮารุก็รู้ว่าเป็นใคร 
     
    "ฮารุจัง! เป็นยังไงบ้าง!?"
     
    ไม่นานเท่าใจคิด ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมร่างสูงใหญ่ของคนที่วิ่งมาหาแบบยังอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนแถมยังสะพายเป้ติดมาด้วย ดูท่าว่าอีกคนจะยังไม่แวะกลับไปที่บ้านด้วยซ้ำ
     
    " มาโกโตะ...เสียงดัง... ปวดหัว..." คนป่วยเอ่ยกระท่อนกระแท่นด้วยเสียงแหบพร่า
     
    "ขะ... ขอโทษทีฮารุ ฉันตกใจไปหน่อย..."
     
    ทาจิบานะ มาโกโตะ หนุ่มนักกีฬาร่างสูงใหญ่ที่ยังหอบน้อยๆยกนิ้วเกาแก้มด้วยความประหม่า เขารีบวิ่งตรงมาบ้านของครอบครัวนานาเสะโดยที่ไม่กลับไปเก็บของบ้านเพราะเป็นห่วงฮารุ ความจริงเขานั่งไม่ติดตั้งแต่ที่รู้ว่าฮารุไม่ได้ตามมาโรงเรียนแล้วแต่ไม่สามารถโดดคาบเรียนออกมาก่อนได้ พอถึงเวลาเลิกเรียนเขาจึงรีบไปบอกลาพวกนางิสะแล้วขอตัวกลับมาก่อน
     
    ยิ่งมาเห็นด้วยตาว่าฮารุที่ยามปกติจะมีสีหน้านิ่งเฉยและเข้มแข็งแบบที่คนภายนอกยังรู้สึกเกร็งเวลาอยู่ด้วยตกอยู่ในสภาพช่วยตัวเองไม่ได้แถมสีหน้ายังดูทรมานด้วนพิษไข้ขนาดนี้มาโกโตะยิ่งรู้สึกว่าหัวใจของเขาเจ็บแปล๊บ 
     
    “ฮารุ... ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่มั้ย เดี๋ยวฉันกลับไปบ้านขอให้คุณแม่ทำข้าวต้มให้นะแล้วจะรีบกลับมา ฮารุอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย?” 
     
    รอยยิ้มอ่อนโยนแบบที่ฮารุมักได้เห็นตลอดในยามนี้ซีดเซียวไปบ้างแถมยิ้งมีเหงื่อเม็ดเล็กๆให้เห็นอีกด้วย คนป่วยส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบปฏิเสธ ถึงใจจะอยากกินซาบะมากกว่าข้าวต้มแต่ก็ไม่อยากทำให้มาโกโตะต้องเหนื่อยมากกว่านี้แล้ว 
     
    มองหน้าแดงๆเพราะพิษไข้แล้วก็ได้แต่ขำอยู่ในใจ ฮารุมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ทำตัวนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไรแต่ความจริงแล้วทุกอย่างออกมาทางสีหน้าหมด ฝ่ามือใหญ่แนบเข้าที่หน้าผากร้อนก่อนเลื่อนไปลูบกลุ่มผมสีดำละเอียดคล้ายต้องการปลอบประโลมและไล่ไข้หวัดให้หายไป 
     
    “จะทำข้าวต้มแถมปลาซาบะให้แล้วกันนะ ฮารุจังนอนเป็นเด็กดีอยู่นี่ ห้ามไปไหนรู้มั้ย” 
     
    คำพูดราวกับปลอบเด็กตัวน้อยๆนั้นช่างขัดหูนัก ฮารุขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมแสดงอาการไม่พอใจแต่ก็ไม่สะบัดหัวหนีฝ่ามือที่ให้ความรู้สึกสบายแต่อย่างใด “อย่ามา... เติมจังที่ชื่อคนอื่นนะ...” บ่นเรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่ก็ได้เพียงแค่รอยยิ้มขบขันกลับมาเป็นการตอบรับ 
     
    มาโกโตะจัดการผ้าห่มให้เผื่อว่าร่างบางจะนอนหลับระหว่างที่รอเขากลับมา และยังไม่ลืมที่จะนำผ้าชุบน้ำมาวางแปะไว้แทนเจลลดไข้อีกด้วย เขาคิดว่าควรจะต้องซื้อแผ่นลดไข้สำรองมาไว้ซะแล้วเผื่อเกิดเวลาคับขันแบบครั้งนี้จะได้มีตัวช่วยให้ฮารุหายไข้ได้เร็วขึ้นหน่อย ด้วยสำหรับอีกฝ่ายนั้นการจะใช้แค่ยาให้หายป่วยคงจะยาก ก็อีกคนเล่นทำหน้าเหม็นเบื่อแถมต่อต้านการกินยามาตั้งแต่ยังแบเบาะเลยนี่หน่า 
     
    หลังจากจัดการกับร่างกายตัวเองและวานให้คุณแม่ทำข้าวต้มพร้อมย่างปลาซาบะให้มาโกโตะถึงรู้ว่าปลาซาบะที่บ้านหมดเรียบร้อยแล้วเพราะน้องๆทั้งสองคนที่กำลังทำตัวเลียนแบบพี่ชายข้างบ้านจัดการฟาดทั้งเช้าและเย็น ด้วยเหตุผลว่าตัวเองจะได้ดูดีแบบฮารุจังบ้าง ท้ายที่สุดมาโกโตะจึงอาสาจะไปซื้อปลาให้แค่รบกวนให้คุณแม่จัดการทำข้าวต้มให้ก็พอ แถมพอจะออกมายังโดนแซวเสียจนเกือบล้มหน้าคว่ำกลางลานบ้านอีกด้วย 
     
    “แม่ว่ามาโกโตะต้องเป็นสามีที่ดีแน่นอนเลยจ้ะ” 
     
    มาโกโตะทำได้เพียงยิ้มแห้งๆรับคำ กระชับผ้าพันคอและเสื้อกันหนาวตัวหนาเล็กน้อยแล้วรีบเดินออกจากบ้านด้วยความรวดเร็ว การเดินทางใช้เวลาไม่นานนักเพราะระยะทางก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่แถมหิมะก็ใจดีหยุดตกให้เสียด้วย ระหว่างรอให้คนขายจัดการกับปลาที่ตนเลือกไว้เขายังมีเวลาให้เขาได้ซื้อเจลลดไข้และนิตยสารว่ายน้ำรายสัปดาห์อีกด้วย เมื่อได้ของสมใจแล้วร่างสูงก็รีบจ้ำอ้าวตั้งหน้าตั้งตาเดินกลับบ้านทันที  
     
    “เอ๊ะ?” 
     
    ขาเรียวที่ก้าวอย่างรวดเร็วหยุดชะงักลงเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นสิ่งที่น่าสนใจตรงหัวมุมถนน รอยยิ้มถูกฉายขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของตนคืออะไร จากที่หมายมั่นว่าจะรีบกลับไปหาคนป่วยที่นอนรออยู่ยามนี้กลับขอสละเวลาชั่วครู่เพื่อเดินเลี้ยวตรงเขาร้านอย่างไม่ลังเลใจ 
     
     
     
    “แค่กๆ...” 
     
    ร่างที่นอนซมอยู่บนเตียงไอออกมาอีกครั้ง ดวงตาสีซัฟไฟร์ที่ปรือปรอยด้วยพิษไข้กระพริบตาปริบๆ รู้สึกหนักตาจนอยากจะหลับไปทั้งอย่างนั้นแต่กลับทำไม่ได้  ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วที่ใครอีกคนบอกว่าจะไปจัดการตัวเอง ฮารุจำได้ว่าหลังจากมองแผ่นหลังกว้างเดินออกจากห้องไปแล้วตนก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนมองเพดานสลับกับมองประตูอยู่อย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเหงาหรืออะไรหรอกนะ แค่คิดว่ามาโกโตะจะไม่รีบร้อนมากเกินจนเกิดอะไรขึ้นต่างหาก 
     
    ก็เป็นห่วง... นิดๆล่ะมั้ง 
     
    เสียงประตูหน้าบ้านดังแว่วมาให้ได้ยิน ตามด้วยจังหวะการเดินหนักหน่วงที่เป็นเอกลักษณ์  คนที่นอนอยู่ฟังเสียงก้าวแต่ละก้าวพลางคิดไปด้วยว่าตอนนี้อีกคนกำลังเดินอยู่บริเวณไหน จากเสียงที่ได้ยินดูเหมือนมาโกโตะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้วตรงไปยังห้องครัวหยุดอยู่ชั่วครู่เพราะเสียงเงียบหายไป อาจจะไปจัดการกับข้าวต้มและซาบะที่อีกฝ่ายบอกจะนำมาให้ ไม่นานเท่าไหร่นักเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอีกครั้งแต่กลับเป็นวนไปที่ห้องนั่งเล่น เสียงซ่อกแซ่กที่ฟังดูน่าจะเป็นเสียงถุงดังแทรกมาพร้อมๆกับเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของบันได ดูเหมือนมาโกโตะจะถือเจ้าถุงที่ว่านั่นขึ้นมาด้วย 
     
    “ฮารุ? นอนหรือยังน่ะ ฉันเอาข้าวต้มกับซาบะย่างมาเสิร์ฟแล้วนะ” 
     
    ใบหน้ายิ้มแย้มแทรกเข้ามาหลังอีกฝ่ายจัดการวางถุงที่ฮารุได้ยินไว้หน้าห้อง ในมือของมาโกโตะมีถาดข้าวที่คลับคล้ายคลับคราว่าจะเป็นของประจำบ้านทาจิบานะพร้อมชามข้าวต้มชามใหญ่และจานปลาซาบะ กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอลอยมาปะทะจมูกจนคนที่ไม่ได้หาอะไรลงท้องมาทั้งวันต้องสูดเข้าเสียดังฟุดฟิด ท่าทางเหมือนแมวป่วยที่รอเจ้าของมาเสิรฟ์ข้าวเสียจริง 
     
    “ค่อยๆขยับนะฮารุ” มาโกโตะวางถาดอาหารไว้ตรงหัวนอนแล้วถลามาช่วยเมื่อเห็นว่าฮารุเล่นยันตัวซะแรงจนหน้ามืดเกือบหงายไปอีกรอบถ้าเขาไม่มารับไว้ทัน “หิวมากเลยสินะ” จัดผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วจัดการวางถาดข้าวลงบนหน้าตักผู้ป่วย 
     
    “ฮารุจัง? ไม่กินเหรอ?” เสียงนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฮารุเพียงแค่ก้มลงมองเท่านั้นไม่เริ่มลงมือแตะต้องกับข้าวตรงหน้าเลยทั้งๆที่ดูเหมือนจะหิวมากแท้ๆ  
     
    “.....ป้อน....” ประโยคงึมงำจากริมฝีปากเล็กก็ทำให้เขาต้องร้องหืมในลำคอด้วยความสงสัยพร้อมขยับกายเข้าไปใกล้มากขึ้น เห็นดังนั้นเจ้าของเรือนผมดำสนิทก็เงยหน้าแดงๆที่ไม่รู้ว่าเกิดจากพิษไข้หรือจากคำพูดของตนมามองหน้าแล้วเอ่ยอีกครั้ง 
     
    “ให้มาโกโตะป้อน...” 
     
    สายตาแน่วแน่และคำพูดน่ารักๆที่ยามปกติจะต้องไม่มีวันได้ยินแน่ๆทำเอาลมหายใจเขากระตุกหยุดไปชั่ววูบ ตาเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะปรับอารมณ์ให้คงที่แล้วยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ฮารุรู้สึกว่ามันน่าหมั่นไส้เสียเหลือเกิน “โอเคๆ ป้อนนะ” จัดการคว้าถาดข้าวมาไว้บนตักตัวเองแล้วเริ่มการให้อาหารแมวป่วยที่งอแงผิดวิสัย 
     
    บรรยากาศภายในห้องช่างอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและกลิ่นอาหารหอมๆ หนึ่งคนนั่งป้อนอาการคนป่วยพลางเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ฟังด้วยรอยยิ้ม อีกหนึ่งนั่งเคี้ยวข้าวต้มสลับกับปลาซาบะแล้วฟังแต่ละเรื่องที่ออกมาจากปากอีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจ เป็นความรู้สึกพิเศษแบบที่หาได้ยากนักในยามปกติ การกระทำนั้นเรื่อยไปจนกระทั่งชามข้าวต้มพร่องไปเกินครึ่ง แมวเซาในร่างคนจึงส่ายหน้าไม่รับข้าวเข้าปากแล้ว  ซึ่งมาโกโตะพอรู้ว่าสาเหตุว่าส่วนหนึ่งอาจเพราะเป็นไข้ฮารุจึงกินได้ไม่เท่าปกติ และอีกสาเหตุหนึ่งอาจจะเพราะปลาซาบะหนึ่งตัวที่หมดไปเข้าไปแหวกว่ายเต็มกระเพาะน้อยๆของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวจึงหมดความสนใจกับอาหารมื้อนี้ 
     
    และงานยากของทาจิบานะ มาโกโตะก็มาถึง 
     
    “กินยาสักหน่อยนะฮารุแล้วค่อยน....... โถ่...  ฮารุ” 
     
    เป็นไปตามที่คิด แค่ได้ยินคำว่ายาอีกฝ่ายก็ล้มตัวลงนอนหันหน้าเข้าหากำแพงแบบไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย  เจลลดไข้ก็ยังไม่แปะเลยนะฮารุ!
     
    “ฮารุ ฉันซื้อที่ฮารุน่าจะชอบของมาให้ด้วยนะ ถ้ายอมกินยาแค่เม็ดเดียวฉันจะไปหยิบมาให้เลย อยู่หน้าห้องนี่เอง” 
     
    ประโยคที่คล้ายกับประโยคหลอกเด็กถูกยกขึ้นมาใช้อย่างอับจนหนทาง เขาไม่มั่นใจนักหรอกว่ามันจะใช้ได้ เพียงแต่เขาจำได้ว่าตอนเด็กๆคุณน้า... คุณแม่ของฮารุเคยใช้วิธีนี้จนทำให้อีกฝ่ายยอมกินยาที่เจ้าตัวเกลียดนักหนาลงไปได้ ยามนี้เขาจึงงัดมันขึ้นมาใช้อีกครั้ง 
     
    แต่ฮารุโตขนาดนี้แล้ว คงใช้ไม่ได้ผลหรอกมั้ง...  
     
    “...ของอะไร...” 
     
    หรืออาจจะได้ผล 
     
    มาโกโตะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่หันหลังหนีเขาไปสนใจกำแพงมากกว่าเอี้ยวตัวมามองด้วยสีหน้าที่ถึงแม้จะนิ่งแต่เขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลังเล ดีจริงๆที่เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ 
     
    “อ่า... ยอมกินยาก่อนแล้วฉันจะเอามาให้นะ” 
     
    “ไม่... เอาของมาก่อน” 
     
    มีต่อรอง... น้ำเสียงและหน้าตาจริงจังแบบนั้นบอกได้โดยทันทีว่าอีกฝ่ายไปยอมตามน้ำกินยาก่อนเป็นแน่ ครานี้มาโกโตะจึงเป็นฝ่ายยอม เขาพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มให้คนป่วยที่ตอนนี้ยันตัวขึ้นมานั่งมองเขาอีกครั้ง ท่าทางให้ความสนใจกับสิ่งที่เขาพูดสุดๆ 
     
    เสียงถุงพลาสติกขยับดังอยู่ชั่วครู่ก่อนร่างสูงจะอุ้มมันเข้ามาในห้องแล้ววางไว้ตรงหน้าของคนช่างต่อรองทันที มือเรียวจัดการแกะถุงพลาสติกขนาดกลางที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างไม่รีรอ และเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในดวงตากลมก็เบิกกว้าง มันคือตุ๊กตาปลาวาฬเพชรฆาตสีขาวดำตัวขนาดกลางพอดีสำหรับอ้อมกอดของฮารุ 
     
    ร่างบางบนเตียงนอนมองสิ่งที่อยู่ในถุงอยู่นานก่อนเงยขึ้นมองคนตัวสูงที่ยืนเกาแก้มด้วยความประหม่า สายตาเลิกลั่กที่เหลือบมองระหว่างฮารุและมาโกโตะนั่นทำให้คนป่วยพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายคงลุ้นไม่น้อยว่าเขาจะชอบมั้ย 
     
    “... ยา ...”
     
    ในที่สุดหลังเงียบไปนาน ฝ่ามือเรียวก็จ่อมาที่หน้าพร้อมคำพูดสั้นๆ มาโกโตะตกใจไม่น้อยไปกว่าตอนที่ฮารุเห็นของเท่าใดนัก มรกตสีฟ้าเหลือบมองใบหน้าเหวอๆของอีกฝ่ายแล้วรีบหันหนี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เห็นอยู่ที่ว่าแก้มลามไปยังใบหูของฮารุมีริ้วสีแดงทาบทับ เห็นแบบนั้นคนที่ยอมเขินมาตลอดทางเพราะโดนคนแถวบ้านล้อเรื่องตุ๊กตาก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ 
     
    ยาเม็ดโตถูกกลืนลงท้องด้วยความรวดเร็วโดยคนที่เกลียดยาอย่างสุดซึ้งแต่ไม่ยอมบอกใคร หลังจากนั้นเขาก็จัดการเช็ดตัวและรออีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จ เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วมาโกโตะก็เตรียมตัวพร้อมสำหรับการพาตัวเองกลับบ้านไปทานข้าวเย็นกับครอบครัว แม้เขาอยากจะอยู่ต่อแต่การรบกวนคนป่วยต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ 
     
    “เรียบร้อยหมดแล้ว  นอนพักผ่อนเยอะๆนะจะได้หายไวๆ” 
     
    ฝ่ายที่ลงมือเก็บถาดข้าวและของใช้ลงถุงพลาสติกที่คราแรกนั้นใส่ตุ๊กตามาเอ่ยกำชับ ตัวฮารุไม่ร้อนเท่าครั้งแรกที่เขาวัดไข้แล้วและสามารถลุกมานั่งกอดตุ๊กตาปลาวาฬตัวโตไว้ในอ้อมแขนชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมปล่อยได้แบบนี้  คาดว่าสักวันสองวันก็น่าจะไปโรงเรียนได้เพราะงั้นเขาจึงอยากให้ฮารุนอนพักให้เยอะเข้าไว้ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับฟังและพยักหน้ารับ แต่ยังคงให้ความสนใจกับตุ๊กตาที่อยู่ในมือ บีบๆจับๆส่วนครีบเล่นอย่างดูจะสนุกสนานแถมไม่หันกลับมาสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย 
     
    “….งั้นฉันกลับแล้วนะฮารุ”
     
    อดอมยิ้มไม่ได้เมื่อคิดว่าคนที่ได้เห็นท่าทางเหมือนตอนฮารุยังเด็กนั้นมีเพียงเขาแค่คนเดียว รอยยิ้มอบอุ่นส่งให้คนป่วยเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่สามารถนับได้ นิ้วเรียวเกลี่ยข้างแก้มแดงๆเพราะฤทธิ์ไข้เป็นการบอกลา 
     
    “มาโกโตะ...” 
     
    “หืม?” 
     
    คนที่กำลังจะลุกทรุดนั่งลงอีกรอบเมื่อโดนกระตุกชายเสื้อพร้อมมองหน้าคนตรงข้ามที่ดูเหมือนมีเรื่องอยากจะพูด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่ยามมองเมื่อไหร่ก็รู้สึกเหมือนโดนดูดเข้าไปจ้องเขากลับมานานจนกระทั่งความนุ่มนิ่มของส่วนที่เรียกว่าครีบตุ๊กตาวางแปะเข้าที่สองข้างแก้มของเขา ยังไม่ทันให้เอ่ยถามใบหน้าแดงๆก็เลื่อนเข้ามาใกล้ ความร้อนจากลมหายใจปะทะใบหน้า ก่อนจะทันเอ่ยอะไรริมฝีปากนิ่มของฮารุก็แตะเข้าที่ปากของเขาเสียแล้ว 
     
    เหมือนลมหายใจขาดช่วง มาโกโตะรู้ตัวอีกทีก็ตอนเห็นใบหูแดงก่ำเพียงเสี้ยวที่โผล่พ้นหลังตุ๊กตาตัวใหญ่ออกมา ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าเบื้องหลังนั้นใบหน้าของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรเพราะตอนนี้เขาก็เป็นอยู่เช่นกัน ความเห่อร้อนไหลผ่านทั่วทั้งหน้า แถมรอยยิ้มก็กว้างเสียจนหุบไม่อยู่อีกด้วย 
     
    “ขะ... ขอบคุณ”  
     
    คำพูดตะกุกตะกักที่แม้จะเบาแต่เขาก็ได้ยินชัดเจนทำให้เขาอดไม่ไหวอีกต่อไป คว้าตัวคนเป็นไข้เข้ามากอดไว้แน่นโดยไม่สนใจว่าจะมีวาฬเพชรฆาตมาขวางกั้น 
     
    “ฮารุจัง น่ารักที่สุดเลย!”
     
    “อย่ามาเติมคำว่าจังใส่ท้ายชื่อคนอื่นนะ...” 
     
    ประโยคแสดงความไม่พอใจบัดนี้กลับเหมือนคำกล่าวเพื่อกลั้นความเขินอาย มาโกโตะหัวเราะร่าไม่กอดคนในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย 
     
    "ครั้งหน้าฉันจะซื้อโลมาอีกตัวมาให้เป็นคู่กันนะ ตัวนี้แทนตัวฉันส่วนโลมาให้แทนตัวฮารุจังแล้วกันเนอะ!”
     
    “อยากทำอะไรก็ทำ.....”  
     
    หลังจากนั้นอีกสองวันฮารุก็หายไข้แต่กลับกลายเป็นมาโกโตะที่เป็นฝ่ายรับไข้มาแทนจนต้องสลับบทบาทกับฮารุ แถมคนที่ซื้อตุ๊กตาโลมาก็ยังเป็นฮารุอีก ด้วยเหตุผลว่า “โลมาแทนตัวฉัน ฉันต้องเป็นคนซื้อ” ซึ่งแน่นอนว่ามาโกโตะก็หัวเราะและรับไว้ด้วยความยินดี 
     
     ส่วนเหตุผลว่าทำไมตุ๊กตาทั้งสองตัวมันถึงไปอยู่ที่ห้องนอนมาโกโตะได้ คำตอบง่ายๆก็เพราะฮารุมักไปค้างคืนที่บ้านมาโกโตะจนเจ้าตัวขี้เกียจเทียวไปเทียวมาทิ้งปลาวาฬกับปลาโลมาให้อยู่คู่กันเสียเลย 
     
     
     
     
     
    “...จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นอยู่ด้วยกันที่บ้านฉันทั้งคู่เลย”
     
    รอยยิ้มเช่นปกติที่ตอนนี้ช่างดูน่าหมั่นไส้ถูกส่งให้คนที่ยืนฟังอยู่ ฮารุเพียงเหลือบมองแล้วพ่นลมหายใจออกมาพลางเดินแยกตัวออกนอกวง ขึ้นจากสระน้ำเพื่อจะแต่งตัวแล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน เกือบจะพร้อมๆกันกับเสียงน้ำที่ดังตามมาก็พอทำให้รู้ว่าใครอีกคนนั้นขึ้นตามมาด้วย
     
    “นี่ฮารุ”
     
    ร่างสูงที่มาหยุดยืนข้างกายเอ่ยเรียกไปด้วยขณะที่เช็ดผมตัวเองให้แห้ง เจ้าของชื่อเพียงตอบรับด้วยเสียงหืมในลำคอไม่สนใจจะหันไปคุยด้วย
     
    “ถึงมันจะฟังดูไม่ดีก็จริง แต่ฉันน่ะ...” หางเสียงแผ่วลงพร้อมหน้าที่เลื่อนเข้ามาใกล้ใบหู “...ชอบเวลาฮารุไม่สบายมากเลยนะรู้มั้ย” กระซิบเสียงดังพอให้ได้ยินกันเพียงสองคน
     
     มือที่ขยี้ผมเปียกๆชะงักลง ใบหน้านิ่งขึ้นสีริ้วแดงอย่างรวดเร็วกับคำพูดน่าอายที่ตนได้รับ เมื่อทำตัวไม่ถูกจึงเลือกหันหลังพร้อมคว้าชุดนักเรียนเดินหนีเข้าไปยังส่วนที่เป็นห้องน้ำ ทั้งๆที่ปกติก็แต่งตัวกันตรงนี้แท้ๆ ตัวต้นเหตุยิ้มกว้างกับการกระทำของตน แม้จะรู้ว่าต้องโดนฮารุว่าอยู่ในใจแน่ๆแต่มันก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
     
     
    ก็อะไรที่เป็นส่วนนึงของฮารุมันน่ารักที่สุดในสายตาของมาโกโตะนี่น่ะ
     
     
    Orca and Dolphin
    Let’s Swim Together
     
     ■  ■  ■  ■  ■  ■  ■  ■  ■  ■
     
    มาโกะฮารุบันไซ!
    ฟรีซีซั่นสองบันไซ!
    จำได้ว่าลงมาโกะเวอร์ชั่นมาโกโตะไป คราวนี้มาเป็นฮารุเวอร์ป่วยบ้างค่ะ เห็นมีคอนเม้นท์ไว้ด้วย ไม่รู้จะประทับใจหรือเปล่า แต่เราจะพยายามเพื่อความโม่ยของคู่นี้ต่อไปค่ะ ฮา
     
    กลายเป็นสุดยอดคู่รัก(?)อีกหนึ่งคู่ในดวงใจไปแล้วล่ะค่ะคู่นี้ พ่อวาฬเพชรฆาตกับโลมาสีน้ำเงิน หลังจากนี้ต้องมีออกมาอีกเรื่อยๆเป็นแน่เพราะมีพล๊อตที่ตั้งใจไว้แล้วทั้งเรื่องไททั่น ครกบาสและฟรี ชีวิตสนุกสนานเพราะผู้ชายทูดีมากเลยค่ะ!
     
    แฟนคลับหนุ่มๆไปคุยกันได้นะคะ เมนชั่นเปิดตลอดเวลา หาพวกร่วมฟิน คิคิ @ennewiis
     
    ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ ♥
    Tags: free, haruka, makoharu, makoto2 COMMENTS
    Comment
    Name:
    Website:
    Comment:
          
      
     
      Tweet
    อ๊ากกกกกกกกกกกก อ๊ากกกกกกกกกกกกกก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก 
    ยิ่งอ่านก็ยิ่งกรี๊ดนะคะคู่นี้ ฮื้ออออออออออ จะน่ารักเกินไปแล้วววววว 
    เห็นด้วยกับคุณแม่มาโกะจังมากๆว่ามาโกะจังโตขึ้นต้องเป็นสามีที่ดีแน่ ขนาดแค่นี้ยังดูแลดีแล้วเลย แง้งงงงงงง (แค่จิ้นตามเป็นภาพก็เตลิดไปไหนต่อไหนแล้วค่ะ)  
    ฮาระจังตอนป่วยนี่ก็น่ารักเหมือนแมวน้อยไม่มีผิด มีอ้อนด้วย มีจุ๊บเขาด้วย อ๊ยยยยยย ถ้าเราเป็นมาโกโตะก็จะไม่แค่กอดแต่จับฟัดเลยค่ะ น่ารักชะมัด #พ่ายแพ้แด่สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล <<อยากหาตุ๊กตาวาฬโลมามาไว้ในครอบครองบ้างเลยล่ะค่ะ  
    แล้วที่สุดท้ายฮารุจังก็ไปค้างๆบ้านมาโกะบ่อยๆจนเอาตุ๊กตาไว้ด้วยกันนี่คืออะไรคะ เตรียมเป็นลูกสะใภ้? แต่เราก็เห็นด้วยว่ารักกันขนาดนี้ก็แต่งกันไปเถอะค่าาาาา (ถึงที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนแต่งงานกันอยู่แล้วก็เถอะ)<< อยากให้ผู้ชายมีลูกกันได้จริงก็กับคู่นี้นี่ล่ะค่ะ ต้องเป็นครอบครัวที่มุ้งมิ้งกันมากแน่เลยเนอะ > <!! 
    ขอบคุณสำหรับฟิคน่ารักๆนะคะ > <!!
    #1 By projectZORO on 2014-02-12 13:57
    อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา น่ารัก>//////< โลมากับปลาวาฬตัวนั้นก็มาสมทบกับตุ๊กตาอีกสามตัว นึกถึงภาพมาโกะจังกอดโลมาแน่นเลยค่ะ น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลย ฮารุป่วยงอแงเป็นเด็ก คงเป็นด้านที่มาโคโตะได้เห็นคนเดียวแน่ๆเลยค่ะ 
    #2 By นูนู่@Papytan on 2014-02-26 03:07
     
    It's me Annew ♥
    View my profile
    RECOMMEND
    PREVIOUS
    ♥ [Free!'s Fiction] Grown Up
    ♥ [Free!'s Fiction] Orca and Dolphin
    ♥ [Attack on Titan's Fiction] One Last Time
    ♥ [KNB's Fiction] As You Wish
    ♥ [Free!'s Fiction] Merry X'Mas, Makoto
    CATEGORIES
    Books  
    Free  
    Kuroko  
    Lifestyle  
    Titan  
    Tohoshiki  
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×