ลิขิตรักลำน้ำไนล์ Re-Up
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ ซึ้งกินใจ Tags : ลิขิตรักลำน้ำไนล์, อียิปต์, ฟาโรห์, ย้อนเวลา, มัลลิกา
ผู้แต่ง : mallika
My.iD :
https://my.dek-d.com/mallika/writer/
ตอนที่ 2 : บทที่ 1 ตอนที่ 1
บทที่ 1
สาวน้อยจากเมืองไทย
ตอนที่ 1
ดวงตะวันยามบ่ายคล้อยสาดแสงแรงกล้า เหยี่ยวทะเลทรายสีน้ำตาลเหลือบอำพันบินโฉบเหนือยอดพีระมิดสีทองสูงเสียดฟ้า เจ้าแห่งเวหาโบกปีกกว้างใหญ่หยอกล้อกับสายลมอย่างเริงร่าแล้วโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามเหลือบแดงด้วยท่วงท่าสง่างาม
ก่อนจะร่อนลงเกาะบนเนินทรายสูงชันพลางแหงนหน้าขึ้นมองเครื่องบินสีขาวลำใหญ่ที่กำลังลดเพดานบินลงช้าๆ เจ้าสัตว์แสนรู้กรีดเสียงร้องดังก้อง แล้วโผบินจากไป การรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว กงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มหมุนอีกครั้ง ตามพระบัญชาของทวยเทพผู้ปกปักดินแดนไอยคุปต์
บนเครื่องบินลำใหญ่ที่บรรทุกผู้โดยสารมาจากแดนไกล ร่างบางสมส่วนนั่งก้มหน้าอยู่เหนือกระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่วางอยู่บนตัก มือเรียวค้นหาข้าวของในกระเป๋าง่วน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้มหวานด้วยความยินดี เมื่อสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้แล้ว โดยหารู้ไม่ว่ารอยยิ้มของตนสร้างความหวั่นไหวให้กับคนรอบข้างเพียงใด
เจ้าหล่อนเป็นหญิงสาวสวยจัด รูปร่างเล็กบอบบาง ผิวขาวผ่องอมเหลืองนวลเนียนลออตา ดวงหน้าเรียวสวยหวานแบบคนเอเชีย หน้าผากมนได้รูปสวย จมูกโด่งเล็ก ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ สองแก้มปลั่งแต้มด้วยลักยิ้มบุ๋มน่ารัก คิ้วเรียวสวยพาดอยู่เหนือดวงตากลมโตเจิดจรัส ยามแย้มยิ้มส่องประกายรื่นเริงจนคนพบเห็นแทบหยุดหายใจ
เมษา พิทักษ์โยธิน สาวน้อยจากประเทศไทย ดินแดนแห่งลุ่มน้ำอุษาคเนย์ เจ้าของดวงหน้าเรียวสวยหวานชวนมอง เธอเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านมานุษยวิทยาจากประเทศอังกฤษ และเดินทางมาที่อียิปต์ตามคำชวนของกาซิม เพื่อนรุ่นพี่ซึ่งกำลังทำงานขุดค้นทางโบราณคดีอยู่ที่พีระมิดทางตอนใต้ของเมืองดาชูร์
กาซิมกับเมษาศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน พวกเขาถูกชะตากันตั้งแต่แรกเห็น ชายหนุ่มมักจะติดตามอยู่ข้างกายเธอเสมอ แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีที่มากไปกว่าความเป็นเพื่อน เมษาเรียนปริญญาตรีทางด้านมานุษยวิทยา ในขณะที่กาซิมเรียนโบราณคดี เขาคลั่งไคล้ทุกอย่างที่เป็นอียิปต์ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะเขาเป็นชาวอียิปต์
แต่ที่แปลกก็คือ เขาชอบเคี่ยวเข็ญเพื่อนสาวให้ชอบและศึกษาในวิชาอียิปต์วิทยาตามเขา ตอนแรกเธอก็อิดออดเพราะไม่สนใจศาสตร์ด้านโบราณคดีสักเท่าไร แต่เมื่อไม่สามารถขัดใจเพื่อนหนุ่มได้ เมษาจึงลงเรียนวิชาอียิปต์วิทยาหลายตัว จนเธอมีความรู้ด้านภาษาไฮโรกลิฟฟิกและภาษาไฮราติกหรืออักษรภาพของอียิปต์โบราณเป็นอย่างดี
ความจริงเมษาไม่ได้สนใจเรื่องราวของอียิปต์โบราณสักเท่าไร เพราะเธอเป็นนักมานุษยวิทยา ไม่ใช่นักโบราณคดี หรือนักอียิปต์วิทยา หญิงสาวพูดเสมอว่าสิ่งที่เธอสนใจศึกษาก็คือคนที่มีชีวิต ไม่ใช่อิฐหักๆ กับซากศพแห้งๆ อายุหลายพันปี แต่ที่เดินทางมาอียิปต์ครั้งนี้ก็เพราะขัดคำเชิญของเพื่อนรักคนนี้ไม่ได้
“เจอแล้ว หาแทบตายแน่ะ ยับไปหน่อยแต่ยังพออ่านได้” หญิงสาวพึมพำเบาๆ ด้วยภาษาแม่ ดวงตากลมโตดำขลับแฝงแววซุกซนจับจ้องไปยังแผ่นพับยับย่นในมือ แล้วเริ่มต้นอ่านข้อความภาษาอังกฤษที่พิมพ์อยู่บนกระดาษเคลือบมันด้วยความสนใจ
“พีระมิดแห่งฟาบา อนุสรณ์สถานที่ถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ผืนทรายมาถึงสามพันเจ็ดร้อยปี กำลังรอคุณมาร่วมค้นหาความลับของฟาโรห์รูปงามที่ไม่เคยถูกกล่าวถึงในประวัติศาสตร์มาก่อน ฟาโรห์เมนโนฟิส กษัตริย์ผู้ถูกลบพระนามออกจากราชวงศ์ ลึกลับดีแท้ ฟาโรห์พระองค์นี้”
เสียงหวานอ่านข้อความในแผ่นพับพร้อมกับสรุปความเห็นของตนปิดท้าย ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบิน เบื้องนอกมหาพีระมิดที่เห็นอยู่ไกลๆ ส่องประกายสีทองตัดกับแผ่นฟ้าสีครามเข้ม บางทีการมาอียิปต์ในครั้งนี้คงไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะอย่างน้อยอาทิตย์อัสดงท่ามกลางผืนทรายและหมู่พีระมิดก็งดงามน่าชมมิใช่น้อย
“สวยจังเลย…” หญิงสาวพึมพำอย่างเผลอไผล มนต์เสน่ห์แห่งดินแดนไอยคุปต์ไม่เคยจืดจางตามกาลเวลา แม้แต่คนที่ไม่เคยสนใจเรื่องราวอียิปต์โบราณอย่างเธอยังอดจ้องมองตาค้างไม่ได้
“ท่านผู้โดยสารโปรดรัดเข็มขัด ขณะนี้เครื่องของเรากำลังจะลงจอดที่สนามบินไคโร ก่อนลงจากเครื่องกรุณาตรวจสอบสัมภาระของท่านให้เรียบร้อย ยินดีที่ได้รับใช้ทุกท่าน ขอให้มีความสุขในดินแดนแห่งอารยธรรมลุ่มน้ำไนล์ ขอบคุณค่ะ”
เสียงประกาศของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินดึงสายตาของเมษากลับมาจากภาพเบื้องนอก หญิงสาวเก็บแผ่นพับในมือใส่กระเป๋าสะพายใบเก่งแล้วรีบปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ก่อนจะเอนหลังพิงพนักพร้อมกับหลับตาลง
เธอขึ้นเครื่องบินมาก็มาก แต่อาการใจสั่นตอนล้อเครื่องสัมผัสพื้นดินไม่ยอมหายไปสักที นั่งเครื่องบินเป็นวันๆ เธอไม่เคยรู้สึกอะไรเลย แต่พอจะลงจอดทีไรมีอันต้องอึดอัดเหมือนใจจะขาดทุกครั้งไป
แรงกระแทกหนักๆ ที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ดวงตากลมโตลืมขึ้นพร้อมกับถอนใจเบาๆ
“ถึงซะทีนะ”
####################
ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านในช่องผู้โดยสารขาเข้า เมษาเดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปตามทางเดินช้าๆ สนามบินไคโรในยามนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลายชาติหลายภาษา ทั้งชาวตะวันตกหัวแดง ชาวอาหรับรูปร่างสูงใหญ่ในชุดประจำชาติ และชาวเอเชียผิวเหลืองแบบเธอก็มีให้เห็นบ้าง แม้จะมีน้อยกว่ากลุ่มคนสองสัญชาติข้างต้นก็ตาม
อียิปต์ไม่เคยสิ้นมนต์ขลังจริงๆ แหล่งอารยธรรมโบราณยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนได้เสมอ ในแต่ละปีสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติเป็นกอบเป็นกำ ถ้าเธอเป็นชาวอียิปต์เธอจะก้มกราบบรรพบุรุษผู้สร้างอารยธรรมไอยคุปต์ด้วยความสำนึกในบุญคุณทุกวัน เพราะแม้พวกเขาจะตายไปร่วมห้าพันปีแล้ว ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานใช้เลี้ยงชีพมาจนถึงทุกวันนี้
หญิงสาวหยุดยืนตรงทางออกของสนามบินพลางกวาดตามองหากาซิมเพื่อนหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งเป็นคนชวนเธอมาเที่ยวอียิปต์ในครั้งนี้
“อยู่ไหนนะ” เสียงใสพึมพำเบาๆ ดวงหน้าสวยหวานเริ่มง้ำน้อยๆ เมื่อมองหาเท่าไรก็ไม่เห็นร่างสูงผิวสีน้ำผึ้งของกาซิมสักที หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เครื่องบินก็เข้าตามกำหนดเวลานี่นา เธอบอกแล้วว่าจะมาเที่ยวนี้ ถ้าลืมมารับจะงอนให้เข็ดเลย คนไม่ชอบรอครุ่นคิดในใจพลางกวาดตามองไปรอบๆ โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่อยู่ในสนามบิน
“ไอซ์ ทางนี้”
เสียงทุ้มคุ้นหูดึงสายตาของเมษาให้หันไปมองทางซ้ายมือ ทันทีที่เห็นเพื่อนรัก ความตั้งใจที่จะ ‘งอน’ ก็บินหายไปโดยพลัน เธอรีบถลาเข้าไปหาเพื่อนหนุ่มชาวอียิปต์ ก่อนจะอ้าแขนออกกว้างโอบกอดเพื่อนรุ่นพี่ที่ไม่ได้พบกันมาเกือบปีแน่นด้วยความคิดถึง
“กาซิม คิดถึงนายจังเลย” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวาน ดันร่างสูงออกห่าง ดวงหน้าเรียวประดับรอยยิ้มสดใส ก่อนจะย่นจมูกใส่ เมื่อเห็นสภาพเพื่อนหนุ่มเต็มตา
“อยู่ที่นี่คงอดอยากมากสินะ ดูสิทั้งผอมทั้งดำ ดูไม่จืดเลยจริงๆ”
กาซิมหัวเราะเสียงก้อง ก่อนจะแกล้งหยอกคืนบ้าง “พูดมากเหมือนเดิม เพราะปากแบบนี้สิถึงได้หาแฟนไม่ได้ซะที”
เมษาเท้าสะเอวฉับ ดวงหน้าเรียวเชิดขึ้นอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ใคร ใครบอกว่าฉันหาไม่ได้ ฉันไม่เอาเองต่างหาก อย่างฉันราชินีไอซ์ แค่ชายตาก็วิ่งมาเป็นพรวนแล้ว”
“ขี้โม้ เลือกมากระวังจะขึ้นคานนะแม่คุณ พอแก่เหนียงยานแล้วต่อให้ลดแลกแจกแถมก็ไม่มีใครเอา” กาซิมเอ่ยกลั้วหัวเราะพลางยื่นนิ้วจิ้มหน้าผากมนของเพื่อนสาวด้วยความเอ็นดู
“ช่างฉันเถอะ ว่าแต่เรียกมาถึงนี่จะให้ดูอะไร ถ้าไม่เด็ดจริงอย่างที่บอกไว้ละก็น่าดู” หญิงสาวว่าพลางปัดมือเพื่อนหนุ่มออก ก่อนจะยัดคันลากกระเป๋าเดินทางใส่มือเขาแล้วเดินนำออกจากสนามบินทันทีราวกับคนที่รู้จักทางเป็นอย่างดี
“แน่นอน ระดับนี้แล้ว พรุ่งนี้เธอจะได้เห็นพีระมิดแห่งฟาบากับตา ถ้าไม่เด็ดจริงฉันให้เหยียบเลย” ผู้เป็นเพื่อนร้องบอกพลางลากกระเป๋าเดินทางหนักอึ้งตามไปติดๆ
“เอาไว้ก่อนเถอะ ฉันนั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงทั้งหิวทั้งเหนื่อย ไม่มีแรงเหยียบนายหรอก พาไปหาอะไรกินหน่อยสิ แล้วฉันก็อยากอาบน้ำด้วย นายจองโรงแรมไว้ให้ฉันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“ขอรับองค์ราชินี เชิญทางนี้เลยเดี๋ยวบ่าวจะพาไปเสวย” ชายหนุ่มเอ่ยพลางหยุดยืนข้างรถโฟร์วีลสีดำกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งที่จอดอยู่ในลานจอดรถด้านหน้าสนามบิน มือแข็งแรงดึงประตูรถเปิดกว้าง ก่อนจะก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมพร้อมกับผายมือไปด้านข้างด้วยท่าทางโอ่อ่า
“ดีมากเจ้าไพร่ แล้วข้าจะตบรางวัลให้ไม่ต้องห่วง”
เมษาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถด้วยท่าทางดุจนางพญา ทำเอา ‘เจ้าไพร่’ กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ กาซิมหัวเราะด้วยความขบขัน หญิงสาวหัวเราะตาม เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังก้องลานจอดรถ ก่อนที่รถโฟร์วีลคันเก่งจะแล่นจากไป ทิ้งสนามบินไคโรไว้เบื้องหลัง
####################
***อ่านลิขิตรักลำน้ำไนล์ได้ 2 ช่องทาง ดังนี้***
***อ่าน ปาริมา ราชินีไอยคุปต์ ฉบับสมบูรณ์ได้ที่เมพ***
***อ่าน เพลิงเสน่หา มนตราทะเลทราย ฉบับสมบูรณ์ได้ที่เมพ***
***อ่าน บันทึกรักสุดผืนทราย ฉบับสมบูรณ์ได้ที่เมพ***
***อ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ของมัลลิกา ได้ที่เมพ***
0 ความคิดเห็น