ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YAOI] Dear Mom, I'm Pregnant :: ท้องก็บ้าแล้ว!

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 01 :: เลิกก็เลิก

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 59


    ? themy butter

     

     

     

    CHAPTER 01

    เลิกก็เลิก

     

     

     

    ขายาวหยุดยืนอยู่ทางเข้า สถาบันวิทยาศาสตร์ชาติเจริญเหินฟ้า เงยหน้าขึ้นมองป้ายโครงการขนาดใหญ่ซึ่งมีจุดเด่นคือค่าตอบแทนเป็นจำนวนเลขศูนย์หลายหลักล่อตาล่อใจอยู่ เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษายับ ๆ ยืนนิ่งตรงนั้นชั่วอึดใจ ก่อนจะสะบัดสองมือแล้วจัดเผ้าผมให้เนี๊ยบ

     

    คิ้วหนาขมวดมุ่นพร้อมเพ่งตาคมไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้า เช่นเดียวกับผู้ชายหลากหลายวัยที่กำลังเบียดเสียดเข้าไปยื่นใบสมัคร

     

    เออ ไอ้ซันก็เป็นหนึ่งในนั้น หนึ่งในเหยื่อผู้ท้าชิงเงินรางวัลที่เขาคิดว่าไม่น่าจะได้เพราะไอ้โปรเจ็คท์เหลาเหย่นี่คงเละไม่เป็นท่าเพราะทดลองไม่สำเร็จ ผู้ชายจะท้องได้ยังไงวะถามจริง มันคงมีแค่นิยายเกย์ที่น้องสาวเขาเขียนในเวปบอร์ดเท่านั้นแหละ

     

    จะหาว่าคิดแบบคนไม่ค่อยมีความรู้ก็ได้ แต่คำถามที่ตามมาคือผู้ชายจะคลอดทางรูไหนถ้าเกิดท้องสำเร็จจริง ๆ ซึ่งทางโครงการก็ช่วยตบกะโหลกให้ไอ้ซันได้รู้ว่าถ้าอุ้มท้องไปจนถึงเวลานั้นได้โดยที่เด็กไม่ตายไปก่อน การผ่าท้องแหวกเอาลูกออกมานั่นแหละคือคำตอบที่ถูกต้อง

     

    โอ้พระสงฆ์... ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้วว่าผู้หญิงต้องท้อง ผู้ชายต้องเกณฑ์ทหาร ถ้าไอ้โครงการงี่เง่านี่สำเร็จ (ซึ่งคิดว่าไม่) ในอนาคตเผ่าพันธุ์ชายไม่ถึงคราวหายนะกันพอดีเหรอวะ

     

    แต่ในเมื่อเพื่อนชั่วท้าให้ลองของพร้อมวางเงินคนละห้าพันบาท ไอ้ซันก็ไม่อยากขัดกับการทดลองที่ไม่เสียหายอะไรสักบาทเดียว แต่ที่เคยโม้ไปว่าอยากลองของเองน่ะคือเล่าไม่หมด ที่จริงมันมีเรื่องเงินเพื่อนเข้ามาเอี่ยวด้วย แต่ก็อายเกินกว่าที่จะเล่าให้ฟัง เข้าใจไหมว่าตอนนั้นภาพมันไวมาก พอเห็นเพื่อนวางเงินปุ๊บเขาก็รีบเข้าเวปไซต์โครงการ ปริ๊นท์แบบฟอร์มใบสมัครออกมากรอกอย่างไร้สติ

     

    ซันนี่ได้คุยกับลุงคนหนึ่งที่สวมเสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์สีส้มเบอร์สิบสี่ระหว่างรอตรวจร่างกาย เราผูกมิตรกันด้วยการแลกเปลี่ยนความจนของตนเองให้อีกฝ่ายฟัง ค่อนข้างถูกคอเลยทีเดียว กระทั่งผู้หญิงชุดขาวตะโกนเรียกชื่อเขาให้เข้าไปด้านในนั่นแหละ บทสนทนาชั่วคราวจึงจบลง

     

    พอตรวจเช็กร่างกายและข้อมูลทุกอย่างผ่านเรียบร้อยเด็กหนุ่มจึงถูกนำไปอีกโซนหนึ่ง เพื่อพบกับเจ้าของน้ำเชื้อในโครงการนี้ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมได้ต้องเป็นคู่ผัวเมียซึ่งรวยอยู่ในระดับหนึ่ง แน่ล่ะ ไก่กาอาราเล่คงมาเข้าร่วมไม่ได้กับสังคมที่ต้องพึ่งต้นทุน ระหว่างทางเห็นคนมีเงินมากหน้าหลายตา ประคองเมียเดินเข้ามาประหนึ่งกลัวว่าจะสะดุดอากาศล้ม

     

    ผู้หญิงก็คลอดลูกกันทั้งโลกปะวะ ถ้ากลัวเมียเจ็บมากก็ไม่ต้องมีมันแล้วลูกเลิกเนี่ย เห็นคนรวยที่ใช้เงินไปกับเรื่องไม่เข้าท่ามันหงุดหงิดโว้ย คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นดิ ถุย ถุย ถุย!

     

    และวันนั้นซันนี่ได้เจอกับหมอภีร์ เจ้าของน้ำเชื้อที่คาดว่าคงไปอยู่ในตัวเหยื่อทดลองอีกหลายคน รู้สึกเป็นเมียน้อยแปลก ๆ อารมณ์แบบ อ๋อ เธอก็ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวสินะ อะไรประมาณนี้

     

    เราคุยกันแค่ไม่กี่ประโยคซึ่งเนื้อ ๆ ก็เป็นเรื่องดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อชีวิตตัวอ่อนซึ่งอ่อนแอกว่าที่เกิดด้วยการปฏิสนธิจากท้องแม่ วันนั้นหมอไม่ได้พกเมียมาด้วย เห็นว่าเจ้าหล่อนไปต่างประเทศ และก็ดูเหมือนเธอจะเป็นคนรักการบินเหลือเกิน เพราะซันนี่ไม่เคยมีโอกาสได้เจอหน้าเมียหมอเลย แม้เราจะนัดเจอกันหลายครั้งแล้ว

     

    ขอโทษนะคะ ทางร้านเราไม่มีพริกน้ำปลาค่ะ

     

    เด็กหนุ่มหลุดออกจากความคิด กระพริบตาปริบ ๆ พลางมองไปยังสาวเสิร์ฟที่ยืนยิ้มเจื่อนอยู่ข้างโต๊ะอาหาร ซันนี่หันกลับมาสบตากับคนตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะพบรอยยิ้มบาง ๆ ซึ่งแฝงไปด้วยความกวนตีนของหมอภีร์ที่มีให้กับเขา

     

    ที่นี่ไม่มีของที่คุณต้องการล่ะ สุริยันต์

     

    งั้นน้ำปลาอย่างเดียวก็ได้พี่

     

    เอ่อ ขอโทษอีกครั้งนะคะคุณลูกค้า ทางร้านของเราไม่ได้ใช้น้ำปลาในการปรุงรสน่ะค่ะ เธอยิ้มอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะโค้งศีรษะอย่างมีมารยาทหลังจากหมอภีร์พยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอกลับไปทำงานต่อได้

     

    ไม่มีพริกน้ำปลาคือไร มันคือสิ่งที่ทุกร้านต้องมีไหม ขนาดตามสั่งป้าพรปากซอยยังมีแบบซองเลย ซันนี่ถอนหายใจอย่างหัวเสีย กวาดตาคมมองไปรอบ ๆ ร้านอาหารหรูซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของประเทศห่าไร ไม่เคยเข้ามากิน

     

    ร้านตามสั่งก็แบบนั้นแหละ คนตัวเล็กอมยิ้มอย่างพอใจ ซึ่งตอนนี้ซันนี่พอจะเดาออกแล้วว่ามันเป็นแผนของหมอภีร์ที่คิดจะกวนตีนเขา ถึงได้พามากินที่นี่

     

    ก็รู้ว่าไม่ชอบให้กินเค็มเพราะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายจนส่งผลถึงเด็กในท้องขนาดนั้นเปล่าวะ กูเกรี้ยวกราดแล้วนะ อีสปาเก็ตตี้คลุกน้ำขาว ๆ นี่ก็รสชาติสมถุยเกินกว่าที่จะกินโดยไม่ปรุงรสด้วย มันเรียกว่าอะไรอะ คาโบโปเตฮ่าปะ ไม่ดิ คาโบนาร่า เออนั่นแหละ จืดชืดไม่ทน งงว่ากินไปได้ยังไง

     

    อาหารตามสั่งมันใส่น้ำมันเยอะ แคลอรี่ก็สูง

     

    แล้วอีที่ผมกินอยู่นี่ไม่แคลสูงเหรอเหรอวะ

     

    หนึ่งจานเท่ากับพิซซ่าฮาวายเอี้ยนหนึ่งชิ้น คุณกินพิซซ่าอิ่มภายในชิ้นเดียวหรือเปล่าล่ะสุริยันต์?

     

    หมดคำจะเถียงกับหมอภีร์ คือจากสภาพคงรู้อยู่แก่ใจว่าอีเส้น ๆ นัวใส่สปาเก็ตตี้นี่ก็ไม่ได้แคลต่ำไปกว่าอาหารตามสั่งหรอก อยากหรูก็บอกมาตรง ๆ ทำเหยียดข้าวกล่อง หึย!

     

    เขาก็กินตามสั่งกันทั้งประเทศ หมอไม่ชอบก็ไม่ต้องกินดิ

     

    ผมไม่กินอยู่แล้ว และผมก็ไม่อยากให้ลูกกินด้วย คนตัวเล็กพูดหน้าตาย พลางชี้นิ้วมายังท้องของเขา

     

    เด็กหนุ่มตัวสูงเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม มองคนอายุมากกว่าที่เอาส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ เข้าปาก พร้อมมองมาด้วยรอยยิ้มกวนเหมือนในทีแรก

     

    เมื่อไหร่จะพาซ้อมาให้ผมเจอ

     

    มีธุระอะไรหรือเปล่า? ดูถามเข้า ไม่มีธุระปะปังนี่จะเจอหน้าเมียพี่ไม่ได้เลยหรือ

     

    ผมจะได้ฟ้องซ้อว่าหมอแม่งโคตรเผด็จการ ซันนี่ถลึงตามอง กำช้อนกับส้อมไว้พร้อมยื่นหน้าไปหยุดอยู่กลางโต๊ะเป็นเชิงขู่

     

    คราวก่อนก็ห้ามของทอด ของมัน หมูสามชั้นก็ยังไม่ได้ หมอภีร์เติบโตโดยไม่กินของพวกนั้นได้ยังไง เสียชาติเกิดอย่างแรง

     

    คิดว่าเธอจะฟังคุณเหรอ?

     

    ทำไม จะบอกว่าซ้อก็นิสัยเหมือนหมองั้นดิ?

     

    ก็ไม่หรอก แต่ก็ไม่น่าคล้ายคุณ มันเขี้ยวลักยิ้มของหมอว่ะ อยากเข้าไปดึงแก้มแรง ๆ เอาให้แหกปากร้องลั่นร้านไปเลย ตอนนั้นคงสะใจดีพิลึก

     

    ช่างเหอะ สักวันหมอก็ต้องพาซ้อมาเจอผมอยู่ดี

     

    อ่าฮะ

     

    แต่ถ้าเกิดซ้อติดใจพ่ออุ้มบุญจนเทหมอขึ้นมา มันก็คงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้นะ ซันนี่ยังคงพยายามเอาชนะ ซึ่งเจ้าของใบหน้าขาวก็หลุดขำออกมาก่อนจะใช้ทิชชู่เช็ดปากราวกับว่าเรื่องที่เขาพูดมันคงไม่มีวันเป็นไปได้และน่าตลกสิ้นดี

     

    ดูดิ บอกเขาว่าอย่าหงุดหงิดบ่อย ๆ เพราะมันจะส่งผลถึงลูก แต่หมอภีร์เคยย้อนมองดูตัวเองบ้างไหมว่าแต่ละสิ่งที่ปฏิบัติต่อเขาเนี่ย นอกจากจะไม่ส่งไปในทางดีแล้ว ก็มีแต่เรื่องชวนให้เกรี้ยวกราด

     

    อ้อ สำหรับเดือนนี้ ผมโอนให้แล้วนะ

     

    กราบขอบพระคุณค่ะหมอ ภีร์มองเด็กหนุ่มตัวสูงที่กรีดมือชดช้อยพนมมือไหว้เขาพร้อมปลายนิ้วหัวแม่มือที่จรดหัวคิ้วอย่างประชดประชัน ก่อนจะเงยหน้าทะเล้น ๆ ขึ้นมายิ้มให้

     

    ต่อไปนี้เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น เพราะงั้นอย่าออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ่อย ๆ ล่ะ

     

    บ่อยที่ว่าคือบ่อยแค่ไหน? ซันนี่ขมวดคิ้ว พยายามม้วนเส้นสปาเกตตี้เป็นคำใหญ่ ๆ แล้วยัดเข้าปากภายในคำเดียว คนตัวเล็กเห็นอย่างนั้นก็ทนไม่ได้ จึงเอาทิชชู่ที่ถูกพับไว้ออกมาสยายออกแล้วยื่นให้เด็กหนุ่มเช็ดปากตนเอง

     

    อาทิตย์ละสองครั้ง

     

    ก็ยังไม่บ่อยมาก ซันนี่ไหวไหล่ ถ้าเจอกันแบบรายวันก็ว่าไปอย่าง

     

    พอเข้าเดือนที่สี่ก็อาทิตย์ละสามครั้ง เดือนที่ห้าสี่ครั้ง ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เด็กหนุ่มก็ค้างอยู่ในท่าอ้าปาก และส้อมที่ม้วนสปาเก็ตตี้ไว้เป็นคำใหญ่ก็เช่นกัน

     

    หมอไม่ทำงานทำการเหรอ อะไรจะว่างขนาดนั้น

     

    เพราะคุณท้องจากการทดลอง อัตราการเสี่ยงเลยสูงกว่าผู้หญิงที่ท้องโดยธรรมชาติ ผมไม่ไว้ใจคุณแล้วอะไรคือการมองมาด้วยสายตาดูถูกดูแคลน นี่ก็รักตัวเองไหมล่ะสังคม ไม่ได้ใช้ชีวิตมั่วซั่ว ที่บอกว่าเจอก็ช่วงหัวค่ำ ตอนกลางวันผมก็ต้องทำงาน

     

    ลูกหมอไม่ไหลออกมาตอนขี้หรอก ผมถามทางสถาบันแล้ว เริ่มจะเดือดดาลละนะ ถึงไอ้ซันจะเรียนไม่เก่ง ดูไม่ค่อยฉลาด แต่เขาก็พอจะรู้โว้ยว่าอะไรเป็นอะไรเข้มงวดขนาดนี้ไม่ท้องเองเลยล่ะ

     

    ทำไมผมต้องทดลองเองในเมื่อผมมีเงิน

     

     

    หน้า – ถึง – กับ – โยก – ไป

     

     

    กินเถอะ เดี๋ยวเราจะไปเดินย่อยกันต่อ

     

    หมอภีร์ยังคงเป็นคนเดียวที่ดูสนุกกับการกินมื้อเย็นในวันนี้ ซันนี่ถอนหายใจกับความเรื่องมากของผู้ชายตรงหน้า ที่อยากเจอเมียหมอก็เพราะเหตุผลนี้แหละ เขาอยากรู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงหน้าตาแบบไหน นิสัยยังไงถึงอยู่กับคนแบบนี้ได้

     

     

    *

     

     

    ตัวนี้ ตัวนี้ แล้วก็ตัวนี้

     

    เยอะไปแล้วหมอ

     

    เอาไปลองดูก่อน ถ้าไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที คนตัวเล็กวางเสื้อตัวสุดท้ายลงบนท่อนแขนแกร่งของคนอายุน้อยกว่า ก่อนจะกอดอกพร้อมชี้นิ้วไปทางห้องลองชุดซึ่งอยู่ด้านขวามือ

     

    ซันนี่ดูไม่เต็มใจนัก หลังจากถูกลากเข้าร้านเสื้อผ้าชายในห้าง ซึ่งราคามันแพงหูฉีกกว่าที่แขวนอยู่ตามแผงในตลาดนัดหลายเท่าตัว เจ้าเด็กขี้บ่นไม่ได้นอยด์เพราะเกรงใจที่เขาต้องจ่ายเงินค่าเสื้อผ้าแพง ๆ ให้ แต่ที่มีสีหน้าแบบนั้นก็เพราะเจ้าตัวบอกว่าให้เอาเงินมา แล้วจะเอาเงินไปซื้อเอง

     

    แบบนี้ตลาดนัดรถไฟก็มี แถมถูกกว่าด้วย ซันนี่ป้องปากกระซิบเพื่อไม่ให้พนักงานได้ยิน ซึ่งหมอภีร์ก็ผละออกมาสบตาเขาราวกับจะถามว่าแล้วไง

     

    ของก๊อปน่ะเหรอ ใส่เดี๋ยวเดียวก็ยุ่ยแล้ว คุณควรมองเรื่องคุณภาพมากกว่าราคาสิสุริยันต์

     

    ก็อยากมองอยู่หรอกถ้าบ้านผลิตเงินได้ หมอจะจ่ายเงินหลายพันไปทำไมในเมื่อเอาแบงค์พันยัดใส่มือเขาให้ไปหาซื้อใส่เองได้ แถมยังเอาเงินที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้อีก เช่นซื้อของในเกม และเปย์แฟนสาวอีกที

     

     

     

    *

     

     

     

    รถยนต์สีดำขับเทียบจอดหน้าบ้านทาวเฮาส์หลังเก่าซึ่งมีรถเข็นน้ำเต้าหู้จอดอยู่ ภีร์ชะโงกหน้าเข้าไปข้างใน และคาดว่าตอนนี้พ่อแม่ของซันนี่คงหลับไปแล้ว เขาจึงอ้อมไปเปิดประตูเบาะหลัง ก้มลงคว้าเอาถุงเสื้อผ้าทั้งหมดออกมา ก่อนจะยื่นให้เด็กหนุ่มที่ยืนทำหน้ามึนอยู่ตรงระตูบ้าน

     

    ตามตรงเลยนะ เห็นหมอทำแบบนี้ทีไรผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงทุกทีเลยว่ะ ขนลุกเด็กตัวสูงตวัดแขนกอดตัวเองและสั่นให้ดูจนเวอร์เกินจริง ขณะมองใบหน้าหวานสุดเรียบเฉยของหมอผิวหนัง

     

    ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติกับคนท้อง แต่ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นไปเองมันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ลึก ๆ ในใจคุณมีความเป็นสาวน้อยอยู่หรือเปล่าสุริยันต์ ลองถามใจตัวเองดู

     

    อ้าวหมอ กวนตีนละ ซันนี่สบถเบา ๆ ขณะสบตากับคนตัวเล็กที่ย้ำถุงในมือตนเองเพื่อให้เขารับไว้สักที

     

    เด็กหนุ่มถลึงตามอง พร้อมกระชากถุงมาอย่างแรงก่อนจะเดินถอยหลังทีละก้าวทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกห่าง ภีร์ยืนกอดอกยิ้มให้กับความเป็นเด็กของพ่ออุ้มท้อง ซันนี่ยังเอาแต่อ้าปากพูดแบบไม่มีเสียงซึ่งคาดว่าคงเป็นการก่นด่าเขาล้วน ๆ

     

    คนตัวเล็กยืนอยู่ตรงนั้นกระทั่งมั่นใจแล้วว่าลูกและเด็กขี้บ่นเข้าไปในบ้านอย่างปลอดภัย เขาจึงเดินอ้อมไปหยุดอยู่ตรงประตูรถฝั่งคนขับ และกลับบ้านพร้อมความสบายใจ

     

     

    *

     

     

    เป็นไงบ้างครับซันนี่ผีท้องอ่อน เดทกับผัวเมื่อวานสนุกไหม? เป็นเสียงเจ้าของผมสกินเฮดอย่างไอ้เซฟที่ส่งเสียงทักทายรับยามสายของวัน ซันนี่นั่งลงบนม้าหินอ่อนตัวเดิมเมื่อไอ้บอสขยับให้นั่ง ก่อนจะวางกระเป๋าสะพายใบใหม่ลงข้างตัว

     

    เข้ สุพรีมนิวคอลเลคชั่น!”

     

    ใบนี้กูเห็นว่าแพงมาก นี่ซื้อเองหรือหมอภีร์ซื้อให้? ไอ้บอสถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น และอีกสองตัวที่เหลือก็เช่นกัน

     

    ใช่จ้า หมอซื้อให้เองจ้า ซันจีบปากจีบคอพูด กูบอกให้เอาเงินมาเดี๋ยวไปซื้อเองก็ไม่ฟัง แบบนี้มันไม่ใช่สไตล์กูอะเข้าใจไหม มันเกาหลีเกินไป

     

    ทำไมวะ เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็อินเกาหลีกันทั้งนั้น ขนาดไอ้ปั๊บยังไปเต้นโคฟกับพวกเด็กท่องเที่ยวเลย บอสว่าพร้อมสำรวจกระเป๋าใบใหม่อย่างใส่ใจ

     

    สไตล์หมอเขาล่ะมั้ง หน้าก็แนว ๆ นักร้องเกาหลีอยู่ เป้เสริม ซึ่งซันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน กับความโอป้าเกาหลีตัวผอม ๆ ขาว ๆ ตัวเล็กเหมือนหมดสูงตอนช่วงอายุสิบเจ็ดสิบแปด ปากนิดจมูกหน่อยนั่นน่ะ หมอดูไม่แก่ตามวัยสักเท่าไหร่

     

    กูว่าเขาน่ารักดีนะ

     

    เดี๋ยวไอ้บอส นั่นผู้ชาย ซันนี่เหล่มองเพื่อนอย่างหวาด ๆ แต่อีกฝ่ายกลับตีหน้ามึนราวกับว่าเป็นเรื่องปกติที่จะชมผู้ชายว่าน่ารัก ยังไงก็ได้

     

    ทำไม ตอนหมอยิ้มกูก็ว่าน่ารักดีออก เด็กหนุ่มตัวสูงคิดว่าที่เพื่อนพูดออกมาคงไม่ใช่การอธิบายเพื่อแก้ต่าง แต่มันเป็นการย้ำเพื่อให้เขาคิดว่าหมอภีร์เป็นอย่างที่มันพูดจริง ๆ หรือมึงไม่คิดแบบนั้น?

     

    หะ? คนถูกยิงคำถามถึงกับเลิกคิ้วมอง นี่มันส้นตีนอะไรกันที่เขาต้องมาคิดหนักกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ ความน่ารักของหมอภีร์คือสิ่งใด น่ารักแบบไหนจึงกลายเป็นหัวข้อประจำวันไปได้ ไหนบอก

     

    ผัวมึงอะ น่ารักเปล่า?

     

    ผัวพ่องดิ

     

    ซัน!” ทั้งสี่หนุ่มหันไปตามเสียงเรียกที่ดังมาจากหน้าซุ้มคณะ ตอนนั้นซันนี่ก็ได้รู้คำตอบแล้วว่าความน่ารักที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งนั่นก็คือแฟนสาวของเขาที่เข้ามาช่วยขัดจังหวะบทสนทนางี่เง่าของเพื่อน ๆ นั่นเอง

     

    ใครผัวใครเมียก็ดูกันตรงนี้ เด็กหนุ่มตัวสูงยิ้มมุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นเดินตัวเบาไปหาแฟนสาวที่ยืนทำหน้าไม่เอาโลกอยู่ตรงนั้น

     

    เป็นอะไรอีกล่ะวันนี้ เมนส์มา ปลาร้าหกใส่กระเป๋าเหรอ อะไรยังไง

     

    จ๋าพิงค์

     

    เตงมานานยัง

     

    ยังเลย เค้าเพิ่งถึงเมื่อกี้นี้เอง ไม่เชื่อถามพวกไอ้เป้ได้ เดี๋ยวหาว่ากูไปเล่นเกมแล้วไม่โทรหาอีก ซันนี่ผายมือยังไอ้เวรสามตัวนั้นที่กำลังทำหน้านิ่งพร้อมค่อย ๆ ชูสามนิ้วขึ้นจนสุดแขน ม็อกกิ้งเจย์มากมั้งพวกมึง

     

    เค้ามีเรื่องจะคุยด้วย

     

    เอาสิ เด็กหนุ่มยิ้ม ล้วงสองมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขณะมองดวงหน้าเรียวเพราะฉีดโบของหญิงสาวตัวเล็ก

     

    ไปตรงนั้นได้ไหม แถวนี้คนเยอะ พอได้ยินอย่างนั้น ซันจึงขยับปากบอกโอเค ก่อนจะโอบไหล่แฟนสาวให้เดินไปด้วยกัน

     

    ที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนนัก อาจเป็นเพราะมันใกล้ถังขยะซึ่งคงมีแต่อีพิงค์ที่คิดได้ว่าที่นี่ช่างเหมาะสมในการคุยอะไรเช่นนี้ ดวงตาคมมองสีหน้ากระอักกระอ่วนของหญิงสาวนุ่งทรงเอสูงเหนือเข่า คล้ายว่าเธอจะสำลักความอึดอัดออกมาเสียเดี๋ยวนี้

     

    ซัน

     

    จ๋า

     

    เค้ารู้ว่าเตงต้องรู้สึกแย่แน่ ๆ ถ้าเค้าจะพูดแบบนี้ แต่เค้าอยากบอกเตงไว้ก่อนว่าเรื่องที่จะพูดทั้งหมดอะ เค้ามีเหตุผล... ถ้าบอกว่าอยากได้เงินไปทำเล็บอีกกูจะว๊ากใส่หน้าจริง ๆ ด้วย แต่ไม่น่าจะใช่... เพราะกลิตเตอร์กากเพชรวิ้งวั๊งนั่นยังคงเกาะแน่นอยู่บนเล็บอีกฝ่ายอย่างสวยงามอยู่

     

    ว่ามาเลย

     

    สัญญาก่อนว่าจะเข้าใจ แล้วก็จะไม่โกรธเค้า พิงค์กี้ชูนิ้วก้อยขึ้นมา พร้อมช้อนตามองอย่างน่าสงสาร ทีงี้ล่ะอินนางเอกเบอร์ใหญ่เลยนะมึง ตอนเห็นกูอยู่ร้านเกมนี่แทบจะแดกหัว

     

    ป๊าบ ซันเกี่ยวน้อยก้อยเข้าไปกับนิ้วเล็ก ๆ บอกตามตรงว่ากากเพชรและการ์ตูนมุ้งมิ้งสีชมพูที่นูนเด่นอยู่บนเล็บก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาไม่เข้าใจมนุษย์เพศหญิง ลำบากไหมเวลาใช้ชีวิต จะกินข้าว จะล้างตูดยังไง เป็นห่วง

     

    พิงค์กี้หลุบสายตาลง ถอนหายใจหนัก ๆ กับความทุกข์ใจที่คาดว่าเรื่องกระเป๋าแบรนด์และการทำเล็บใหม่คงเป็นเรื่องเล็กไปเลย ซันนี่ยังคงรอคำบอกเล่า ถ้าให้รอนานกว่านี้อีกนิดจะได้โทรบอกไอ้เซฟซื้อป๊อปคอร์นมาให้

     

    เค้าว่าเราเลิกกันเหอะ

     

     

    ว้อท – เดอะ – ฟัค

     

     

    หะ? เด็กหนุ่มตัวสูงอ้าปากค้าง มองริมฝีปากสีชมพูที่เม้มเข้าหากันหลังจากลั่นประโยคที่ไม่คาดฝันว่าจะได้ยินตอนนี้ คือเดี๋ยว มันฉุกละหุกเกินไป อะไรของเตงอะพิงค์

     

    ก็เลิกกันไง!”

     

    พีคใส่กูอี๊กกกกกกกกกกกกกก

     

    อยู่ดี ๆ ก็เลิกงี้ได้ไงอะ บอกเหตุผลมาก่อนดิ ถึงจะพอรู้แก่ใจอยู่ว่าแฟนสาวคงไม่ชอบเวลาไปลากคอเขาตามร้านเกม แต่คนจะคบกันมันต้องมีเรื่องที่หักลบกันได้ไม่ใช่เหรอวะ ซันนี่ก็ไม่โอเคที่ต้องเดินห้างแบบไร้จุดหมาย โพสต์รูปคู่พร้อมแคปชั่นหวานหยดย้อยเพื่อเอาใจอีพิงค์เหมือนกัน นี่ยังไม่บ่นเลย

     

    ก็เตงท้องอะ!”

     

    เด็กหนุ่มยืนหน้านิ่ง ตาเบิกโพลงกับความจริงที่แม้แต่เขาเองก็ไม่อยากยอมรับนัก

     

    แล้วไงต่อ เตงจะบอกเลิกเค้าเพราะเรื่องกะโหลกกะลาแค่นี้เองเหร๊อ เขาดัดเสียงเป็นสำเนียงใต้ ก่อนจะหน้าหันไปด้านข้างเพราะถูกมือเล็ก ๆ ผลักเข้าเต็มแรง

     

    เค้าไม่ตลกนะซัน

     

    แล้วกูตลกมากมั้ง ทั้งท้องสามเดือน ทั้งถูกแฟนบอกเลิกแบบงง ๆ ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้แดกอีก ดราม่าสัด

     

    มันเป็นการทดลองปะพิงค์ เค้าเคยบอกเตงไปเมื่อตอนนั้นไงลืมแล้วเหรอ? เงินที่พาไปกินข้าว ดูหนัง ก็มาจากตรงนี้ด้วย แล้วจะยังไงอี๊ก

     

    เรื่องนั้นเค้าเข้าใจ แต่ซัน... หญิงสาวกัดริมฝีปากล่าง ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเคยฟังเพลงเข้าใจแต่ทำไม่ได้ไหม?

     

     

    ไปโน่นแล้วจ้า -- บอกอย่างนั้น บอกอย่างนี้ บอกวิธีที่ทำให้ไม่เสียใจ

     

     

    ตอนนั้นเค้าทำเป็นเหมือนว่าเข้าใจ เพราะเค้ารักเตงมากไงซัน เค้าคิดว่ายอมรับได้ทุกอย่าง แต่มันไม่ใช่เลยอะ คือเค้ารับไม่ได้

     

    ว้อท? เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว แบสองมือออกมาอย่างไม่เข้าใจ

     

    เค้ารักเตงมากนะ แต่...

     

    พิงค์กี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด ซันนี่มองอีกคนที่พลิกตัวหันหลัง มองไหล่แคบ ๆ นั่นที่กำลังสั่นไหวแล้วก็สบถแบบไม่มีเสียงว่าเชี่ยไรมึงอีพิงค์?!’

     

    แต่เค้าคงทำใจเดินจับมือกับเตง ทั้ง ๆ ที่เตงท้องโย้ไม่ได้อย่าว่าแต่มึงเลย กูก็ทำใจเห็นตัวเองในสภาพนั้นไม่ได้เหมือนกัน

     

    อดทนอีกหน่อยดิพิงค์ มันเป็นการทดลอง โลกต้องเข้าใจอยู่แล้ว

     

    ไม่เข้าใจหรอก เพื่อน ๆ ต้องล้อเค้าแน่อะ เตงท้องให้ผู้ชายนะซัน แล้วผู้ชายคนนั้นก็เคยขับรถมารับเตงถึงหน้าซุ้มด้วย หญิงสาวพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับแฟนหนุ่ม

     

    อันนั้นเขามาหาเพราะเป็นห่วงลูกในท้องเค้าไม่ใช่เพราะแรงพิศวาสปะวะ พิงค์ เตงต้องมีสติ ซันนี่คว้าหัวไหล่หญิงสาวไว้พร้อมเพ่งมองอย่างจริงจัง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายแกะมือออกอย่างไร้เยื่อใย

     

    เราเลิกกันเถอะ

     

    ...

     

    แล้วพอเตงคลอด... เราค่อยกลับมาคบกันต่อ

     

     

    แล้วพอเตงคลอด... เราค่อยกลับมาคบกันต่อ...

    แล้วพอเตงคลอด... เราค่อยกลับมาคบ...

    แล้วพอเตงคลอด... เราค่อย...

    แล้วพอเตงคลอด...

     

     

    อะไรคือความอายที่จะเดินด้วยกัน แต่พอถึงเวลากูได้เงินสองล้านแล้วถึงจะยอมกลับมาคบกันต่อ ประโยคเมื่อกี้นี่วิ่งวนอยู่ในหัว มันไร้เหตุผลและดูเห็นแก่ตัวจนเลือดในตัวสูบฉีดเพราะความโมโหกับเหตุผลกลวง ๆ ของอีกฝ่าย

     

    ซันนี่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันคือการคบกันแบบฉาบฉวย และเขาก็รู้ว่าพิงค์กี้เป็นคนนิสัยยังไง แต่ที่คบมาจนถึงตอนนี้ใช่ว่าจะไปไหนไม่ได้เสียเมื่อไหร่  

     

     

    อี – นี่

     

     

    ได้

     

    หญิงสาวเบิกตากว้าง ค่อย ๆ ผุดยิ้มออกมาหลังจากได้ยินคำตอบที่เป็นผลในแง่บวก แม้ว่าซันนี่จะรู้สึกแย่ไปบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะแฟนหนุ่มของเธอเลือกรนหาที่เองนี่นา

     

    แต่เลิกแล้วคือเลิกเลย ไม่มีการกลับมาคบกันอีกอะไรทั้งนั้นอะ

     

    หา?

     

    จำคำพูดตัวเองไว้นะพิงค์ แล้วเตงจะต้องเสียใจ เค้าพูดเลย ซันนี่กัดฟันกรอด เดินถอยหลังทีละก้าวพร้อมชี้หน้าคาดโทษอดีตแฟนสาวที่กำลังอ้าปากเหมือนว่าอยากพูดอะไรอีก

     

    เลิกกันแค่หกเดือนเองนะซัน พอเตงคลอด ท้องแฟ่บแล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ไง

     

    แค่ป้าเตงดิ แม่งครึ่งปีเลยนะ นานเท่าสมัครเป็นทหารเลยห่าจิก

     

    เตงไม่มีความอดทนเลยอะ

     

    มึงก็ไม่มีเหมือนกันอีพิงค์ ซันถลึงตามองอย่างเอาจริง ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงถึงได้บอกเลิกผู้ชายดี ๆ อย่างเขาไปได้ ตามใจทุกอย่างก็แล้ว จนแค่ไหนก็หาเงินพาไปกินข้าวดูหนัง แล้วจะเอาอะไรอีก!

     

    อ๋อ นี่ขึ้นกูมึงใช่ปะ? หญิงสาวแค่นหัวเราะ มองอดีตแฟนหนุ่มที่กำลังทำหน้าอวดดีใส่เธอ

     

    เออ! ขึ้นได้มากกว่านี้อีก ทีก่อนหน้านี้โมโหทีเขวี้ยงกระเป๋าใส่กู ตะโกนด่าไม่เหลือดียังไม่ขุดมาพูด เลิกก็เลิก! คิดว่าแคร์เหรอ?!”

     

    เออ เลิก! ก็ไม่ได้แคร์อะไรขนาดนั้นเหมือนกันแหละ!” อ้าว! แล้วที่ตีหน้าเศร้า ดราม่าเมื่อกี้นี้คืออะไร ตอแหลตาใสเหรออีพิงค์!!!!!!!!!!!

     

    ทั้งคู่เล่นสงครามประสาทกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนเด็กหนุ่มจะหมุนตัวหันหลังให้ทั้งที่อารมณ์ยังคงคุกรุ่นไม่จางหาย ท่ามกลางสายตาใครหลายคนที่เสือกนึกอยากเดินผ่านในเวลานี้ ซันนี่จึงระบายความรู้สึกทุกอย่างออกมาด้วยการเตะถังขยะโชว์

     

    กูว่าเพื่อนมึงไม่โอเคแล้วว่ะ เซฟสะกิดแขนเพื่อนอีกสองคน พลางมองไปยังจุดเกิดเหตุที่ไม่ใช่แค่เขาสามคนที่มองเห็น ซันนี่ยังคงเตะไม่ยั้ง ซัดเอา ๆ จนถังขยะกระเด็นไปติดรั้ว ก่อนจะหันไปกระทืบถังที่เหลืออีก

     

    ของมหาลัยนะนั่น กูว่าหลายตังค์อยู่ ตอนนี้พิงค์กี้กระฟัดกระเฟียดเดินหายไปจากตรงนั้นแล้ว และยังไม่มีใครเข้าไปห้ามซันนี่ให้หยุดระบายอารมณ์กับถังขยะ ซึ่งพวกเขาคงต้องปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไปจนกว่าเพื่อนจะพอใจ

     

    ช่างเหอะ เดี๋ยวผัวมันก็มาจ่ายค่าเสียหายให้เองแหละ

     

    พูดจบทั้งสามคนก็หันไปชนแก้วน้ำอัดลมอย่างรู้กัน ยิ้มกริ่มอย่างคนรอดูหายนะของเพื่อนสนิทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างนึกสนุก

     

     

     

    TBC


     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×