ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YAOI] Dear Mom, I'm Pregnant :: ท้องก็บ้าแล้ว!

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 59


    ? themy butter

     

     

     

    (Prologue)

    โลกของแต่ละคนมีสีที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งมันขึ้นอยู่กับมุมมอง

    บางครั้งขึ้นอยู่กับอารมณ์

    และตอนนี้โลกของผม มันกำลังเป็นสีแดง

     


     

     

    เอ่อ อาจารย์ครับ

     

    หญิงวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมองนักศึกษาหนุ่มแต่งกายผิดระเบียบ มันน่าประหลาดใจเสียจริงที่เธอได้เห็นเด็กคนนี้ที่นี่ เพราะแทบจะนับครั้งได้กับการได้เจอกัน หนึ่งคือตอนเดินผ่านซุ้มคณะ สองคือตอนเข้าเช็กชื่อในคาบเรียนซึ่งบางครั้งก็มาในรูปแบบการฝากเพื่อนดัดเสียงขานตอบ

     

    ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเหตุผลอะไรที่พาขาของเด็กตัวสูงมาถึงที่นี่ เธอยังคงจับจ้องอยู่กับใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้ส่วนสูงร้อยแปดสิบต้น ๆ ดูโดดเด่นกว่าเด็กคนอื่น ถ้า สุริยันต์ พสุธากัมปนาท ตั้งใจเรียนกว่านี้อีกหน่อยก็คงคว้าตำแหน่งเดือนคณะตอนปีหนึ่งได้ไม่ยาก

     

    แต่เสียดายไปก็เท่านั้น ในเมื่อเจ้าเด็กนี่เป็นแค่พวกเรียนไม่มากีฬาไม่ขาด

     

    ว่าไงล่ะสุริยันต์ หญิงวัยกลางคนประสานมือไว้บนโต๊ะ พลางชี้นิ้วไปยังชายเสื้อเชิ้ตขาวเพื่อให้เด็กหนุ่มเก็บมันเข้าไปในกางเกง ซึ่งเขาก็ทำตามแม้จะไม่เต็มใจนักเข็มขัดหายไปไหน?

     

    หอเพื่อนครับ

     

    มันควรอยู่ที่เอวเธอ รู้ใช่ไหม?

     

    รู้ครับ แต่ผมมาหาอาจารย์เพราะมีเรื่องสำคัญมากกว่านั้น เด็กตัวสูงลากเก้าอี้ออกเสียงครืดคราดกับพื้นแล้วรีบนั่งลงไป จองตาอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างจริงจังชนิดว่าเกิดมายังไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

     

    จะมาขอคะแนนพิเศษหรือไง ขอบอกเลยนะว่าครูไม่มีคะแนนพิเศษให้เด็กที่ไม่มีความตั้งใจ เธอแค่นหัวเราะ กอดอกพร้อมเอนหลังพิงกับเก้าอี้

     

    ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ เด็กหนุ่มส่ายหน้าพรืด

     

    แล้วเรื่องอะไร?

     

    หญิงวัยกลางคนมองใบหน้าคมคายของอีกฝ่าย เธอเห็นว่าเขากลืนน้ำหลายลงคออย่างลำบาก พลางขมวดคิ้วเมื่อนึกไปถึงปัญหาโลกแตกที่ปั่นป่วนความคิดมาจนถึงตอนนี้ สุริยันต์นิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมแววตาน่าสงสารที่ต้องการความช่วยเหลือ

     

    อาจารย์เคยท้องไหม?

     

     

    *

     

     

    ก๊ากกก!!!”

     

    พี่เขามาโน่นแล้ว

     

    ไอ้ซัน! เอาของดองไหมเดี๋ยวกูแวะโรงอาหารให้!”

     

    ขอมะม่วงกะปิค๊าพี่บอส!”

     

    ก๊ากกก!!!”

     

    ขายังไม่ทันก้าวเข้าไปในซุ้มเลยด้วยซ้ำ... เสียงของเหล่าเพื่อนนรกก็โห่แซวประหนึ่งว่าเขาเป็นสาวแซ่บใส่ทรงเอที่คิดจะปากหมาใส่ยังไงก็ได้ ซันนี่ หรือ สุริยันต์ ยืนทำหน้าสิ้นคิดอยู่ตรงนั้นอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะเซไปด้านหน้าเล็กน้อยเมื่อเพื่อนเดินเข้ามาล็อกคอให้เข้าไปในซุ้มด้วยกัน

     

    เล่นใหญ่นะห่า เดี๋ยวกูเตะปากเรียงคน คนถูกแซวพูดเสียงลอดไรฟัน มองเพื่อนในกลุ่มที่นั่งอยู่บนม้านั่งหินอ่อนพร้อมซากแก้วน้ำดื่มที่เหลือเพียงน้ำแข็ง

     

    เหยด พี่เขาโหด

     

    คนท้องก็งี้แหละ เกรี้ยวกราด

     

    ก๊ากกก!!!”

     

    ซันนี่ถอนหายใจ กับเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นความจริงอย่างที่เพื่อน ๆ แซว แน่นอนว่าชีวิตของเด็กหนุ่มไม่ใช่หนังแฟนตาซีที่สร้างปาฏิหาริย์ให้ผู้ชายท้องได้ แต่การที่ในท้องของเขามีตัวอ่อนดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่มันยิ่งกว่านั้น

     

    ใช่... ซันนี่ท้องได้สามเดือนแล้ว แต่เป็นการท้องแบบมีผัวแค่ในนาม และทางกายภาพยังคงปลอดภัย ถึงให้มีจริง ๆ เด็กผู้ชายอย่างเขาก็ไม่สามารถมีเด็กได้ เพราะไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปปฏิสนธิ

     

    เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะความบาปหนาของซันนี่ที่เสือกอยากลองของ โดยการอาสาเข้าร่วมโปรเจค ให้พ่อเจ็บแทนแม่ ที่ทางสถาบันวิทยาศาสตร์ชาติเจริญเหินฟ้าเป็นตัวต้นคิด เพื่อให้ผู้ชายอุ้มท้องแทนภรรยาได้

     

    ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเพราะไม่อยากทนเห็นเมียเจ็บ หรือสาว ๆ กลัวลงพุงหลังคลอดก็ตามแต่ คนเหล่านั้นต่างทุ่มเงินสุดตัวเพื่อสานโปรเจคนี้ให้ไปถึงฝั่งฝัน ซึ่งคนจน ๆ ไม่มีตังค์คงต้องทนเจ็บท้องไป

     

    กระทั่งโปรเจคนี้ดำเนินมาถึงจุดที่ประกาศหาหน่วยกล้าตายผ่านทางรายการเรื่องเด็ดเย็นนี้ โดยผู้สมัครต้องเป็นเพศชาย และมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อความสะดวกในการทดลอง ซึ่งซันนี่มีครบ หนำซ้ำยังแถมความหล่อให้ด้วย

     

    แน่นอนว่าพอมีเรื่องแบบนี้คงมีคนหิวเงินแห่ไปสมัครกันอย่างล้นหลาม ดังนั้นทางฝ่ายต้นทุนโปรเจคจึงออกกติกามาว่า หากร่างกายประคองตัวอ่อนรอดเกินสามเดือน ทางโปรเจคถึงจะจ่ายเงินก้อนแรกให้ แต่ถ้าไม่รอดก็กลับบ้านมือเปล่า แต่ถ้าคลอดออกมาแล้วเด็กรอดทางโปรเจคจ่ายให้สองล้านบาท ยังไม่รวมทางฝ่ายคุณพ่อที่จะตบความพอใจให้เป็นพิเศษ

     

    ระหว่างนั้นก็ได้รับค่าเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากเจ้าของน้ำเชื้อ... นี่ใช้คำรุนแรงไปเปล่าวะ แต่จะให้เรียกว่ายังไงล่ะ พ่อเด็กงี้เหรอ ขนลุกเหลือเกิน

     

    แต่ก็นั่นแหละ... ด้วยความผีของชายชาตรีอย่างสุริยันต์ พสุธากัมปนาท เขาจึงประกาศกร้าวต่อหน้าเพื่อน ๆ ว่า กูจะเข้าร่วมด้วย อยากรู้เหมือนกันแหละว่าผู้ชายแม่งจะท้องได้ไง

     

    ซันนี่ไม่ได้เข้าร่วมชุดแรก รู้สึกว่าเขาจะเป็นลำดับที่หกร้อยกว่า ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีพวกหิวเงินแต่ร่างกายไม่อำนวยได้เริ่มทดลองก่อน มีหลายคนที่ร่างกายไม่ผ่าน และได้กลับบ้านก่อนเพราะตัวอ่อนตายตั้งแต่ยังไม่เดินออกจากห้องทดลอง หลายคนถอดใจหนีกลับบ้านกลางคันเพราะกลัวตาย คิวที่ว่ายาวเหยียดไปถึงลาดพร้าวร้อยหนึ่งจึงลดลงไปเยอะพอสมควร

     

    ซันนี่ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง จะเรียกว่าโชคดีได้ไหมที่เดินออกมาข้างนอกได้อย่างปกติแทนที่จะถูกหิ้วปีกออกมาพร้อมสีหน้าซีดเซียว เขาเห็นรอยยิ้มของชาวต่างชาติรุ่นพ่อในชุดกาวน์ แกเข้ามากุมมือพร้อมพูดเป็นภาษาไทยแบบเหน่อ ๆ ว่ายินดีด้วย ๆ นัดครั้งต่อไปสิบโมงวันเสาร์หน้านะ อย่าสาย ๆ

     

    ตอนนั้นถึงรู้ว่าเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ร่างกายดันฟลุ๊คเข้ากับตัวอ่อนได้ แต่ถึงอย่างนั้นซันนี่ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นจนต้องก้มลงลูบท้องอย่างเอ็นดู พร้อมทักทายลูกจ๋าที่ไม่มีส่วนไหนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดสักนิด แล้วคิดไปว่าที่กำลังร้องโครกครากอยู่มันคือการโต้ตอบของตัวอ่อนหรือท้องร้องเพราะความหิว

     

    เด็กหนุ่มคิดว่าแผนการคงล้มเหลวไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตเลยกระทั่งไปศูนย์วิจัยอีกครั้งเมื่อครบถึงวันนัดพบ

     

    วันนั้นซันนี่ได้เจอกับเจ้าของน้ำเชื้อ เขาจำได้ว่าเคยเห็นผู้ชายตัวเล็กผิวขาวคนนั้นออกทีวีอยู่หลายครั้ง ทั้งโฆษณา และตามเชลท์หนังสือแรงบันดาลใจชีวิต ซึ่งนั่นก็คือ คุณภีรณัฐ เป็นแพทย์ผิวหนัง

     

    หมอภีร์อายุสามสิบหก ถ้าหักลบกันแล้วก็อายุมากกว่าเขาอยู่ประมาณสิบห้าปี แต่ด้วยความเป็นแพทย์ผิวหนังจึงทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนเพิ่งอายุยี่สิบปลาย ๆ

     

    เจ้าของน้ำเชื้อแอบเรื่องมากอยู่นิดหน่อย เออ... จริง ๆ ก็ไม่นิด แต่เพราะคิดว่าหมอภีร์เป็นเจ้าของตัวอ่อนจึงใส่ใจกับเด็กในท้องเขาจนน่ารำคาญ

     

    ทีแรกซันนี่คิดว่าตัวอ่อนในท้องคงตายไปตามพยาธิไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะไม่หือไม่อืออะไรเลย ไม่รู้สึกได้ถึงการมีอยู่ คือไม่อะไรอะ แต่พอได้ยินนักวิทยาศาสตร์บอกว่ายังเป็นตัวอ่อนอยู่ ไว้ผ่านไปอีกสักสิบหกสัปดาห์คงกระโดดถีบยอดหน้าเขาได้แล้ว (อันนี้เวอร์เอง)

     

    หมอภีร์ยื่นใบแดงมาว่าห้ามดื่มเหล้า ห้ามไปเที่ยวกลางคืน ห้ามกินของโง่ ๆ ห้ามเล่นเกมจนดึก ห้ามแม่งทุกอย่างที่เขาทำมาตลอดชีวิต

     

    ผู้ชายคนนั้นซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมแผ่นเพลงคลาสสิกโมสารทสำหรับคนท้องมาให้เสร็จสรรพ ก็รู้ว่าทำไปทุกอย่างก็เพื่อลูก แต่เขาไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้จริง ๆ ว่ะ

     

    ซันนี่รู้สึกเหมือนถูกล่ามโซ่แล้วขังไว้ในคุกมืด จะอ้าปากเถียงก็ไม่ได้เพราะตามสัญญาตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วว่าเจ้าของน้ำเชื้อมีสิทธิ์ใส่ใจพ่ออุ้มเด็ก เพื่อให้ช่วยดูแลสุขภาพ ไม่ให้เสี่ยงอันตรายต่อตัวอ่อน ดังนั้นหมอภีรณัฐจึงเข้ามาอยู่ในโลกโง่ ๆ ของสุริยันต์ พสุธากัมปนาทตั้งแต่วันนั้น

     

    ศิริพรว่าไงบ้าง? เจ้าของคำถามคือไอ้เป้ ผู้ชายผมยาวถึงปลายคางมีหนวดเคราอยู่หน่อย ๆ มันคือเจ้าของไอเดียที่บอกให้เขาไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา สำหรับเรื่องการตั้งครรภ์ ซึ่งศิริพรก็...

     

    นางไม่เคยมีผัว ไอ้ฉิบหาย

     

    อ้าวเหรอ

     

    เรื่องเศร้า บอสอุทานหน้านิ่ง พร้อมวางมือลงบนไหล่ซันนี่อย่างเห็นใจ

     

    งั้นถามอุไรไหม ถึงหน้าตาจะเหมือนเจ้าแม่บนคานเลี่ยมทอง แต่แกก็แต่งงานตั้งสองรอบแล้วนะ

     

    ไม่เอาอะ ขนาดตอนเรียนด้วยกันแกยังไม่อยากเช็กชื่อให้กูเลย ลาบเป็ด ถึงกับเครียด ซันนี่กุมขมับอย่างคิดไม่ตกกับปัญหาโลกแตกที่เริ่มจะบานปลายเข้าไปทุกที

     

    ตอนนี้มึงท้องกี่เดือนแล้วนะ

     

    สาม

     

    อ้าว งี้ก็ใกล้ได้เงินอีกก้อนแล้วดิ? เซฟเลิกคิ้ว และพอเป็นเรื่องเงิน กลุ่มเด็กผู้ชายที่ทุ่มเทไปกับการซื้อของในเกมก็หูผึ่งไปตาม ๆ กัน

     

    ใช่ คราวนี้หมอภีร์บอกจะให้กูห้าหมื่น

     

    เจ็ทเข้

     

    กูซิ่วไปเรียนแพทย์ผิวหนังดีไหมวะ แลดูจะรวยเรี่ยราด เป้ขมวดคิ้ว สำหรับเด็กต้นทุนน้อยที่พ่อแม่ส่งเข้าโรงเรียนวัดตั้งแต่เด็ก เขาก็อยากมีชีวิตดี ๆ แบบนั้นบ้าง

     

    ไหน ขอดูสภาพมึงหน่อย บอสถลกเชิ้ตขาวตัวใหญ่ของเพื่อนขึ้น ก่อนจะเห็นว่าหน้าท้องแบน ๆ ของเพื่อนได้พองนูนออกมาบ้างแล้วฉิบหายละ นี่มึงอ้วนขึ้นหรือเด็กกำลังก่อตัวเป็นดักแด้วะซัน

     

    พูดยากเลย ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาหมอภีร์ให้กูยัดห่าอะไรบ้างไม่รู้ แต่กูคิดว่าน่าจะอ้วน สีหน้าของซันนี่ดูเป็นกังวล เขาไม่ใช่พวกห่วงสุขภาพหรือหุ่นที่ดูดี แต่เกิดมายี่สิบเอ็ดปีก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

     

    มึงก็รู้ว่าไอ้ซันแดกอย่างกับห่าลงยังไงก็ไม่อ้วน เพราะงั้นกูขอฟันธงว่าที่ป่อง ๆ ออกมานี่คือหลานเราเอง เซฟยิ้มอ่อน

     

    ท้องสาวสินะ <- เป้

     

    เดี๋ยวกูถีบปากแตก สาวที่หน้ามึงดิ ไม่พูดเปล่า ซันนี่ยกขาขึ้นข้างหนึ่งขึ้น เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนอีกสามคนได้เป็นอย่างดี

     

    ระวังหน่อย กำลังท้องกำลังไส้ จะทำอะไรก็นึกถึงหลานกูบ้าง เขารู้ว่าไอ้เซฟกำลังแกล้งยั่วให้โมโหเล่น และไอ้เพื่อนชั่วอีกสองคนก็เช่นกัน

     

    อีกเดือนสองเดือนก็คงเริ่มชัดแล้ว มึงพอจินตนาการตอนตัวเองเดินท้องโย้ในมหาลัยออกไหมวะ คำถามของเป้ทำเอาเขาผวาตั้งแต่เดือนสาม คนตัวสูงขมวดคิ้วเคร่งเครียด เมื่อนึกไปถึงนรกที่ใกล้จะมาเยือน

     

     

    ใช่ พอถึงตอนนั้นเขาจะถูกมองยังไง ได้กลายเป็นตัวตลกให้คนนินทากันจนสนุกปากแน่

     

     

    ไหนจะอีพิงค์กี้อีก มึงจะเล่าเรื่องนี้ให้มันฟังเมื่อไหร่ ว่าด้วยแฟนสาวที่คบกันมาได้หกเดือนกว่า ๆ ซึ่งซันนี่คิดว่าผีหน้าขาวตนนั้นคงไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาสักเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็ทะเลาะกันกลางร้านเกม โวยวายอย่างเอาแต่ใจเรื่องไม่ยอมพาไปเดินฟิวเจอร์

     

    จะหาว่าเชี่ยก็ได้ แต่มันจะมีสักกี่คนที่เป็นเหมือนเดิมไปได้ตลอด ตอนคบกันแรก ๆ ก็เห็นทนนั่งเฝ้าได้เป็นวัน แต่พอผ่านไปสามสี่เดือนก็หาข้ออ้างสารพัดมาทะเลาะ ว่าไม่พาไปกินข้าวบ้างล่ะ ไม่ซื้อดอกไม้หรือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ให้ในวันวาเลนไทน์ ไม่เซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยลูกโป่ง บลา บลา บลา... คือก็งงว่าทำไมต้องขนาดนั้น

     

    ถ้าบอกนะ... กูโดนดราม่าอีกชุดแน่ พูดเลย

     

    ไม่น่ามั้ง มึงลองเอาเงินจากหมอภีร์ไปซื้อปราด้าให้นางสักใบดิ เผลอ ๆ ทำให้หายงี่เง่าไปได้อีกสามเดือน บอสหัวเราะ เมื่อนึกถึงหน้าแฟนสาวของเพื่อนสนิท

     

    กูต้องเปย์เพื่อให้นางหายเอาแต่ใจเหรอ ชีวิตลูกผู้ชายของกูต้องอดสูขนาดนั้นไหม ขนาดแม่กูยังง้อได้ด้วยตำซั่วป้าอ๋อยเลย แล้วอีพิงค์เป็นใคร

     

    เมียมึงไง ทั้งสามคนพร้อมใจประสานเสียง ก่อนบรรยากาศโดยรอบจะเงียบกริบในวินาทีถัดมา

     

    มึงเริ่มเครียดจัดแล้วไอ้ซัน มันจะส่งผลต่อลูกนะ ท่องไว้ เซฟวางมือลงบนบ่าเพื่อน พร้อมบีบเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ

     

    อย่างที่วางแผนกันไว้แต่แรกอะ ถ้ามึงอายก็ดร็อปเรียนไปเลยเทอมนึง เลือกเอาว่าจะจบช้าหรือขายขี้หน้าในมหาลัยยันคลอดคำพูดคำจาไอ้เป้เหมือนนรกสั่งมาเกิด

     

    ซันนี่รู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก เพราะความปากดีของตนเองในวันนั้นแท้ ๆ ที่ทำให้เวรกรรมติดไนตรัสเร็วถึงขนาดนี้ เหมือนว่าพระเจ้าอยากสั่งสอนให้เด็กกะโหลกอย่างเขารู้ว่าไม่ควรท้าทายอำนาจใด ๆ ในโลกนี้ ทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผี วิญญาณ มนุษย์แม่ และการทดลองของนักวิทยาศาสตร์

     

    ถ้าสมมติเด็กในท้องไม่รอดล่ะ? บอสเม้มปาก ชี้นิ้วย้ำ ๆ ไปยังท้องของเพื่อนตัวสูง

     

    ก็ไม่ไง โปรเจคลำดับหกร้อยยี่สิบเจ็ดก็ถูกพับเก็บไปเป็นตัวอย่างในการพัฒนาต่อไป ซันนี่ไหวไหล่ มันก็เหมือนกับของพวกลำดับต้น ๆ ที่พังเละเทะไม่เป็นท่า แต่คนที่ตัวอ่อนได้ผลจริง ๆ กลับมีเพียงเจ็ดคนเท่านั้น

     

    งั้นแสดงว่ามึงก็แกล้งทำเป็นแท้งลูกได้ดิ? บอสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนสายตาของทุกคนจะหันมามองเป็นตาเดียวกัน

     

    อย่าบอกนะ...

     

    บอสยิ้มกริ่ม ก่อนจะหน้าคว่ำแทบปากจูบโต๊ะม้าหินอ่อนเพราะถูกตบอย่างแรง มึงจะให้กูแท้งลูกเหรอ?!!!”

     

    เอ้า! ก็ถ้ามึงไม่อยากดร็อปจนเรียนจบช้า ไม่อยากอายคนในมหาลัย ก็มีทางนี้แหละที่เวิร์ค ถึงมันจะเหี้ย แต่คนแบบมึงยังมีดีอะไรหลงเหลืออยู่เหรอวะเพื่อน บอสเชิดหน้าถลึงตาถาม ซึ่งคนถูกด่าเพียงนั่งเย็นหน้าโดยไร้หนทางสู้

     

    เมื่อกี้พี่เขาเรียกว่าลูกด้วยนะจ๊ะ <- เป้

     

    ปกป้องลูกค่ะ พลังแห่งแม่” <- เซฟ

     

    โธ่ไอ้ซัน ได้เงินจากโปรเจคมาตั้งเท่าไหร่แล้ว แถมหมอภีร์ยังจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นรายเดือนอีก เอาไปพัฒนากิจการร้านน้ำเต้าหู้ของแม่มึงจนชีวิตดีขึ้นโข มันเพียงพอแล้ว ขอแค่มึงกล้าเทเด็กในท้อง

     

    ...

     

    กูมั่นใจในความชั่วของมึง ซันนี่เพื่อนรัก บอสขมวดคิ้ว ตบบ่ากว้างอย่างจริงจัง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนอีกสองคน

     

    กู--

     

    RRRrrrr!!

     

    ยังอ้าปากด่าเพื่อนไม่จบประโยคก็ต้องหันไปสนใจกับโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ เด็กหนุ่มทั้งสี่คนชะโงกหน้ามองจอ และพอเห็นชื่อเจ้าของเบอร์ อีกสามคนก็ยิ้มกริ่มพร้อมแซวคนท้องด้วยสายตา

     

     

    [ หมอภีร์ ]

     

     

    ผัวโทรมาแล้ว รับเร็ว

     

    อั่ยหยา

     

    เงียบปากไป ซันนี่คว้ามือถือแล้วลุกขึ้นจากม้านั่งหินอ่อน ท่ามกลางเสียงแซวของเพื่อนชั่วยังคงตามไล่หลังมาติด ๆ

     

    แม้ว่าจะเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วพวกนรกส่งมาเกิดนั่นก็ยังสร้างความอับอายให้เขาต่อหน้ารุ่นพี่รุ่นน้อง ซันนี่ยิ้มพร้อมยกไหว้ด้วยมือข้างเดียวเมื่อน้องปีหนึ่งทำความเคารพ เขามองชื่อบนหน้าจอมือถืออีกครั้งก่อนจะกดรับสาย

     

    ฮัลโหล

     

    ( เรียนเสร็จแล้วใช่ไหม? )

     

    อ่าฮะ หมอรู้ได้ไง?

     

    ( ผมจอดรถอยู่หน้าซุ้ม มันจะดีนะถ้าคุณเดินออกมาหาผมตรงนี้ก่อนที่ยามจะเดินมาล็อกล้อ )

     

    ซันนี่ค่อย ๆ หันไปทางด้านซ้ายมือ ก่อนจะเห็นแอสตันมาร์ตินสีดำจอดเจิดจรัสอยู่หน้าซุ้มคณะบริหารธุรกิจ กระจกฝั่งขวาเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าขาวโดยธรรมชาติพร้อมแว่นดำที่ไม่รู้ว่าใส่มาเพื่อลดแสงหรือแค่ใส่โก้ ๆ

     

    สาว ๆ ที่เดินผ่านเป็นต้องหันไปซุบซิบกรี๊ดกร๊าดกับความรวยและดูดีของผู้ชายวัยสามสิบหก เขากับหมอภีร์ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เป็นเพราะอีกฝ่ายงานยุ่งและเขาก็เป็นเด็กมหาลัยที่ใช้เวลาไปกับการอยู่กับเพื่อนและร้านเกมเสียส่วนใหญ่

     

    ซันนี่ยอมรับว่าเป็นพวกชอบเช็กเรทเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนผู้ชายอายุมากกว่าขับรถสวย ๆ มารับแบบนี้ว่ะ

     

    เขาไม่ได้เป็นเกย์ โอเคไหม? คือถ้าเดินไปขึ้นรถคงไม่วายถูกเข้าใจผิด ซันนี่ไม่สามารถตะโกนบอกคนอื่นได้ว่าตอนนี้เขามีตัวอ่อนอยู่ในท้อง ไม่มีใครอยากเข้าใจ และคงไม่มีใครอยากเชื่อ ซึ่งเจ้าของน้ำเชื้อก็เอาแต่ยิ้มทักทายพร้อมโบกมืออย่างอารมณ์ดีอยู่นั่น

     

     

    จะลมจับ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกเหมือนเป็นเด็กเสี่ยที่กำลังจะถูกอ็อบไปนอนด้วย

     

     

    โธ่หมอ นัดเจอกันก็ได้เปล่า?

     

    ( ผมขับผ่านมาทางนี้พอดี ทำไมล่ะ คุณอายเหรอ )

     

    อายดิ รถหมอไม่ใช่ซีวิคเงินผ่อนที่จะขับไปไหนมาไหนโดยไม่มีคนสนใจนะ

     

    ( อ๋อ กลัวถูกเข้าใจผิดสินะ )

     

    เออ

     

    ( คือผมต้องขับรถราคาถูกเพื่อมารับคุณไปกินข้าวหรือไงสุริยันต์ )

     

    อย่าเรียกผมด้วยชื่อจริง

     

    ( สุริยันต์ )

     

    หมอจะกวนตีนผมว่างั้น? เด็กหนุ่มเลิกคิ้วมองคนตัวเล็กอย่างหาเรื่อง จนถึงตอนนี้หมอภีร์ยังเอาแต่ยิ้มขณะมองเขาจากตรงนั้น

     

    ( อย่าหงุดหงิด ผมไม่อยากให้ลูกของเราซึมซับนิสัยส่วนนั้นของคุณไป )

     

    อย่า นี่ลูกหมอคนเดียวว่ะ ซันนี่แค่นหัวเราะ พร้อมเดินไปหยุดอยู่ข้างรถคันสวยทั้งที่ยังไม่วางสาย สบตากับคนอายุมากกว่าซึ่งดูเหมือนว่าวันนี้จะอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมเพราะได้กวนตีนเขา

     

    ( ลูกผมคนเดียวก็ได้ แต่ขึ้นรถก่อนดีไหม ถ้ายามเดินมาล็อกล้อจริง ๆ ผมไม่มีแบงค์ย่อยจ่ายค่าปรับ )

     

    ซันนี่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม สบตากับอีกฝ่ายเพียงครู่เดียวก่อนจะหันไปเจ้าของเสียงแซวซึ่งมาจากเพื่อนสนิททั้งสามที่นั่งอยู่ตรงจุดเดิม เขาได้ยินเสียงปลดล็อกประตูซึ่งเป็นสัญญาณบอกให้รีบขึ้นไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ เด็กหนุ่มยืนนิ่งเพื่อสงบสติอารมณ์  และสุดท้ายเขาก็ขึ้นไปนั่งบนรถเจ้าของน้ำเชื้อ

     

    อะไร? ซันนี่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทันทีที่เห็นหมอภีร์วางกล่องบางอย่างลงบนหน้าขาของเขา

     

    ของขวัญจากซานต้า คนตัวเล็กยิ้มโดยไม่หันมามองเลยด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระแล้วฉีกกระดาษออกอย่างไม่มีความประณีต 

     

    และทันทีที่เห็นสิ่งของที่อยู่ด้านใน ซันนี่ก็ได้รู้อีกอย่างหนึ่งว่าหมอภีร์แม่งก็รู้จักวิธีเอาอกเอาใจคนอื่นอยู่เหมือนกัน ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าควรประหลาดใจกับเรื่องนี้หรือไม่ แม้ว่าจะรู้สึกไปแล้ว

     

    แผ่นเกมใหม่เอี่ยมที่เพิ่งวางขายเมื่อวานถูกแปะด้วยโพสต์-อิทสีเหลืองเป็นรูปยิ้ม ซึ่งเด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าเขากำลังยิ้มตามมันหรือเพราะดีใจที่ได้เกมแผ่นนี้กันแน่ ซันนี่จำที่นักวิทยาศาสตร์บอกได้ว่าคนอุ้มท้องต้องดูแลสุขภาพกายและใจให้ดี เพราะทุกอารมณ์ที่เขารู้สึกนั้นสามารถส่งไปถึงลูกในท้องได้

     

    ซึ่งนั่นคงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหมอภีร์ถึงเลือกซื้อแผ่นเกมให้เด็กอย่างเขา

     

    ประเทศไทยแม่งมีซานต้าที่ไหน เลอะเทอะว่ะหมอ

     

     

     

    TBC

     


     

    เรียกว่าวายไทยเรื่องแรกได้ไหม แอบตื่นเต้น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า ปกติเขียนแต่แฟนฟิคค่ะ ติ๋มบอกอยากลองอ่านวายไทยจากเราดู เราเลยลองค่ะ ฮือ ยากเหมือนกัน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ใจคืออยากลองทำอะไรที่มันท้าทายดูบ้าง ถ้าชอบหรือมีส่วนไหนไม่โอเค ก็เมนท์ติติงกันได้เลยนะคะ ขอบคุณมากค้า

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×