เมื่อเช้าที่เหนือตะวันกลับมา เขาแสดงท่าทีโกรธเกลียดหล่อน มันเจ็บมากกว่าครั้งไหนๆ แต่เวลานี้เมื่อหล่อนได้รู้สาเหตุของความเกลียดชังนั้น หล่อนกลับเจ็บยิ่งกว่า พลังที่เคยมีมหาศาลเพื่อใช้รักเขาก็ลดน้อยถอยลงจนแทบไม่เหลือ รู้ซึ้งถึงการเป็นผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก ถึงเวลาที่หล่อนจะต้องยอมรับความจริง ผู้หญิงหญิงที่ชื่อบัวชมพูคือคนครอบครองหัวใจเหนือตะวันแต่เพียงผู้เดียว แม้จะผ่านมานานกี่ปีก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
เจ้าของร่างเล็กใช้ตะหลิวผัดอาหารด้วยอาการเหม่อลอย ทั้งสัปดาห์นี้หล่อนยังไม่เห็นหน้าสามีเลยสักวัน เขาหายหน้าไปไม่กลับมานอนที่คอนโดมิเนียมเลย หญิงสาวสอบถามน่านฟ้าจึงรู้ว่าเขาไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านเช่นกัน...เขาคงไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารัก รอคอยกันมาตั้งหลายปี ได้เจอแบบนี้คงไม่ปล่อยให้คลาดสายตาไปอีก ไม่อยากคิดให้เจ็บปวดแต่ก็ต้องคิด เพราะนั่นคือความจริง
จุดประสงค์ที่จะอยู่ให้ครบปีของหล่อนเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น เพราะตามข้อตกลงหล่อนมีสิทธิ์หย่าได้ทุกเมื่อ แต่หล่อนอ่อนแอและขี้ขลาด หวาดกลัวที่จะต้องอยู่โดยไม่มีเหนือตะวัน ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรเมื่อไม่เหลือใครสักคน
แต่ก่อนถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้ชิด หล่อนก็แน่ใจว่าเขายังเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เพราะเกี่ยวข้องกันในฐานะหุ้นส่วนบริษัท และหล่อนก็ยังเป็นเด็กในปกครองของบิดาเขา เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน แต่การแต่งงานได้เปลี่ยนสถานะพี่น้องเป็นสามีภรรยา หล่อนกลายเป็นลูกสะใภ้ของชาครกับพิมพ์อร ดังนั้นเมื่อวันที่ต้องหย่าเดินทางมาถึง เท่ากับว่าความสัมพันธ์ขาดลง แม้แต่ความเป็นพี่เป็นน้องก็ไม่อาจหวนกลับมาได้อีก ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็แค่ยื้อเวลาเท่านั้น
ชาครทราบเรื่องทั้งหมดหลังจากเหนือตะวันรับบัวชมพูเข้าทำงาน เขาเชื่อว่าพิมพ์อรกับน่านฟ้าก็คงจะทราบด้วยเช่นกัน เพราะข่าวแพร่สะพัดไปเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง คนรู้กันทั่วบริษัทภายในเวลาไม่กี่วัน แต่นิชาภัทรไม่สนใจสายตาคนอื่น เพราะลำพังแค่ความเสียใจของตัวเองก็แทบจะดูแลไม่ไหว
‘หนูเพลง ลุงขอโทษนะลูก’
ชาครบอกกับหล่อนในบ่ายวันเดียวกับที่ทราบเรื่อง หล่อนเห็นความผิดหวังเสียใจฉายชัดในดวงตาฝ้าฟาง เพียงแค่เหนือตะวันรับบัวชมพูเข้าทำงาน ทุกคนต่างก็คิดตรงกันว่าถ่านไฟเก่าคงจะลุกโชนขึ้นอีกครั้ง และสุดท้ายหล่อนก็ต้องเป็นฝ่ายไป คิดแล้วก็น่าสมเพชตัวเองสิ้นดี ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเหนือตะวันไม่มีทางรักหล่อนได้ มีแต่หล่อนคนเดียวที่เพ้อพกงมงาย เสียงประตูเปิดจากภายนอกทำให้หญิงสาวชะงักมือจากการปรุงอาหาร ปิดเตาก่อนจะชะโงกหน้าไปดูต้นเสียง พบว่าเหนือตะวันเดินหายเข้าห้องไป
หญิงสาวยืนมอง ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี เจ็ดวันที่เขาหายหน้าไปไม่ได้ทำร้ายหัวใจหล่อนมากอย่างที่คิด เพราะคิดแล้วหล่อนยอมไม่พบหน้าเขาดีกว่าที่จะต้องมาทนเห็นสายตาที่แสดงความเกลียดชังนั่น
เหนือตะวันหยิบของใส่กระเป๋าเป้ใบย่อม หลายวันมานี้เขาอาศัยอยู่กับบดินทร์บ้าง ดนวัตบ้าง แล้วแต่ความสะดวก ยอมรับว่ายังไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งบัวชมพู เขาก็เพียงจ้างคนให้ติดตามดูแล คอยรายงานเรื่องความปลอดภัย ไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของหล่อนแม้แต่นิด
ใจของเขาไม่ปกตินับจากวันที่เขารู้ความจริง เขาควรจะดีใจที่พบบัวชมพูแต่ก็ไม่ เสียใจผิดหวังหรือเปล่าเขาก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เขาโกรธนิชาภัทรอย่างที่ไม่เคยโกรธใครมาก่อน โกรธมากจนอยากจะฆ่าหล่อนให้ตายคามือ ความโกรธของเขามันบดบังความรักที่เคยมีให้บัวชมพูจนหมดสิ้น เขาต้องละความคิดจากนิชาภัทรเพื่อทบทวนหัวใจตัวเองว่าเขายังรักบัวชมพูอยู่หรือไม่ แต่พอเอาเข้าจริงกลับหยุดคิดเรื่องนิชาภัทรไม่ได้เลย ในเมื่อหาคำตอบให้หัวใจตัวเองไม่ได้ก็ขออยู่ตามลำพังสักพัก
มือหนายัดของลงกระเป๋าแรงๆ ด้วยความโมโหตัวเองเมื่อรู้สึกว่าตนกำลังเสียศูนย์ ไม่รู้ว่าจะยืนอยู่ตรงไหน ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ‘รัก’ ใคร ‘เกลียด’ ใคร
เหนือตะวันเลิกคิดเมื่อทำอย่างไรก็คิดไม่ตก ชายหนุ่มก้าวเท้าออกจากห้องก็พบคนที่อยู่ในหัวตลอดหลายวันที่ผ่านมายืนอยู่ตรงหน้า
“ทานอะไรมาหรือยังคะ”
นิชาภัทรปรับอารมณ์ขุ่นมัวให้เป็นปกติ เพราะเพียงแค่เห็นหน้าเขาหัวใจของหล่อนก็อ่อนยวบ ความโกรธ ความน้อยใจก่อนหน้านี้หายไปอย่างง่ายดาย หลงเหลือก็แต่ความเสียใจที่เกิดจากความผิดหวังในความรัก เสียใจที่ตนไม่ได้เข้าไปยืนอยู่กลางหัวใจของคนใจร้ายอย่างเขา
ใบหน้าคมเข้มยังคงนิ่ง เขาปรายตามองคนตรงหน้าแค่เพียงแวบเดียว กระนั้นก็ยังเห็นถึงร่องรอยของความเจ็บปวดทรมานในดวงตากลมใส หัวใจแข็งแกร่งสั่นคลอนโดยไม่รู้สาเหตุ แต่ไม่มีทางที่เขาจะใจอ่อน
“ฉันจัดการตัวเองได้”
ความสูงร้อยแปดสิบกว่าเป็นข้อดีที่ทำให้ระดับสายตาของเขาเลยจากศีรษะของคนตัวเล็ก เหนือตะวันหันหลังให้คู่สนทนาตั้งท่าจะไป แต่นิชาภัทรเรียกไว้ก่อน
“พี่เหนือคะ ถ้าพี่เหนือไม่อยากเห็นหน้าเพลง เพลงจะย้ายออกจากที่นี่ พี่เหนือจะได้ไม่ต้องลำบากไปนอนที่อื่น”
“เธอจะอยู่หรือไม่ก็เรื่องของเธอ เพราะฉันคงไม่กลับมานอนที่นี่อีกนาน”
คำพูดของเหนือตะวันช่วยยืนยันความเข้าใจของหล่อนได้เป็นอย่างดี เขาคงไปอยู่กับบัวชมพูจริงๆ หญิงสาวมองแผ่นหลังของเขาด้วยความสะท้อนใจ หล่อนรักเขามาเกือบครึ่งชีวิต ทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหันมามอง อยากกอด อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแม้เพียงเศษเสี้ยวของเวลาที่เขาเคยให้คนอื่น ใช่! หล่อนได้อย่างที่หวัง แต่มันกลับยิ่งสร้างเจ็บปวดทรมานมากกว่าการที่ไม่เคยมีเขาเคียงข้างเสียอีก
“พี่เหนือไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะ พี่เหนือกอดคนที่พี่เหนือเกลียด กินอาหารที่เขาทำ จับมือเขา จูบเขา พูดจาดีๆ กับเขาโดยที่พี่เหนือฝืนใจได้จริงๆ เหรอคะ”
เหมือนมีค้อนมาทุบที่หัว เหนือตะวันมึนงง เขายอมรับว่าพยายามคิดตามสิ่งที่หล่อนพูด แต่เขาคงโง่ไปชั่วขณะ สมองที่เคยชาญฉลาดไม่สั่งการอะไรเลย เจ้าของร่างสูงหันกลับมามองคนตัวเล็กที่บัดนี้ดวงตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้
“ฉันทำได้แน่ เพราะฉันไม่ใช่เธอ ฉันเป็นมนุษย์ ฉันถึงได้ทำหรือแสดงอาการอะไรที่ตรงข้ามกับความรู้สึกได้ ผิดจากเธอ ที่ทำทุกอย่างตามสิ่งที่เธอยากทำจนไม่เคยรู้เลยว่า ‘การหักห้ามใจ’ เขาทำกันยังไง”
นิชาภัทรกลืนก้อนสะอื้นลงในอก ‘การทำตามคำเรียกร้องของหัวใจมันผิดมากนักหรือไง’
“ถ้าพี่เหนือหักห้ามใจได้จริง ก็กรุณารอให้ครบหนึ่งปีตามสัญญาก่อนสิคะ หลังจากนั้นพี่เหนือจะไปรักใคร เพลงก็คงห้ามไม่ได้”
“ไม่จำเป็น”
สีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าทุกข์ใจแสนสาหัสของเขาทำให้นิชาภัทรเจ็บมากกว่า หล่อนบีบมือตัวเองแน่นเหมือนต้องการรวบรวมพลังที่ถดถอยลงทุกวินาที
“ความรักของเพลงทำให้พี่เหนือเป็นทุกข์มากเลยเหรอคะ ไม่มีสักวินาทีที่พี่เหนือจะมีความสุขกับมันเลยเหรอคะ”
“ไม่มี ถ้าเธอรักฉันก็หายไปจากชีวิตของฉันซะ เพราะว่าความสุขของฉันคือการที่ฉันไม่ต้องทนเห็นหน้าเธออีกต่อไป”
นิชาภัทรตะลึงงันกับคำตอบของเขา น้ำตาที่ถูกกักเก็บไว้ร่วงหล่นลงจนได้ เจ็บแล้วเจ็บเล่ากับวาจาของคนไม่มีหัวใจ คำตอบของเขาทำให้หล่อนหมดสิ้นทุกคำถาม
เสียงเคาะประตูหยุดประโยคสนทนาที่บีบคั้นหัวใจคนทั้งคู่ลงได้ เหนือตะวันเป็นฝ่ายเดินมาเปิดประตู ภาพหลังบานประตูนั้นทำให้นิชาภัทรอยากจะกรีดร้องออกมา
“เหนือคะ ช่วยบัวด้วยนะคะ”
บัวชมพูโผเข้ากอดร่างสูงของเหนือตะวันทันที ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยเมื่อร่างของผู้มาใหม่สั่นเทาราวกับว่าเพิ่งพบเจอเรื่องเลวร้ายอะไรมา
“เธอควรจะมีสามัญสำนึกบ้างนะบัวชมพู ถ้าอยากได้ผู้ชายมากก็ควรรอให้เขาหย่าขาดจากภรรยาเสียก่อน ไม่ใช่คิดถึงเขาก็เร่มาหาถึงห้อง” นิชาภัทรเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด
เหนือตะวันหันมามองคนพูดด้วยสายตาไม่พอใจ
“บัวเดือดร้อนมา เธอควรจะมีความเห็นใจคนอื่นมากกว่านี้นะนิชาภัทร”
“คนอย่างเธอจะเดือดร้อนอะไรคะ เธอเอาตัวรอดเก่งจะตายไป” นิชาภัทรยิ่งเดือดดาลเมื่อใบหน้าสวยเฉียบของฝ่ายตรงข้ามแสยะยิ้มอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
“ฮึกๆ”
นาทีนั้นบัวชมพูร้องไห้ออกมาเหมือนสั่งได้ หล่อนร้องราวกับว่าโลกกำลังจะดับลงวันนี้ ทำเอาเหนือตะวันตกใจมากขึ้นไปอีก ส่วนนิชาภัทรถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นการแสดงขั้นรางวัลตุ๊กตาทองคำ
“ใจเย็นๆ บัว มีอะไรบอกผมมา แล้วคนที่ผมให้ดูแลคุณล่ะ ไปไหนแล้ว”
“บัวไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน บัวมีแค่คุณคนเดียวที่ช่วยบัวได้ คุณเพลงเธอพูดถูก บัวไม่ควรมายุ่งกับคุณเพราะคุณแต่งงานไปแล้ว แต่บัวก็จนปัญญา”
บัวชมพูยังร้องไห้ต่อไป เป็นเพราะนับตั้งแต่วันที่เข้าทำงานที่รุ่งเรืองการช่าง หล่อนก็ไม่ได้พบเหนือตะวันอีกเลยร่วมสัปดาห์จนวันนี้ หญิงสาวรู้สึกได้ว่าหนทางที่หล่อนจะครอบครองหัวใจของเขาอีกครั้งอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด ท่าทีของเขาไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่เหนือตะวันที่รักหล่อนมากเช่นในอดีต ถึงแม้ว่าเขาจะดีใจเมื่อพบหล่อนในวันแรก แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ยังคงราบเรียบไม่มีอะไรคืบหน้า
ด้วยเหตุนี้หล่อนจึงจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์เพื่อให้พบกับเขาอีกครั้ง แต่ถ้ายิงนกทั้งทีก็ควรจะยิงให้ได้หลายๆ ตัว สถานการณ์นั้นจึงควรเป็นสถานการณ์ที่มีทั้งเหนือตะวันและนิชาภัทร ยิ่งอยู่ในสถานที่ล่อแหลมด้วยยิ่งดี นอกจากเรียกร้องความสงสารเห็นใจจากเหนือตะวันได้ ยังเป็นการฆ่าให้นิชาภัทรตายทั้งเป็นอีกด้วย
“พูดความจริง เลิกตอแหลสักที!”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หนังสือวางขายฉบับ E-book แล้วนะคะ ไปตามหาได้ที่ MEB เลยจ้า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
คนที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเองให้อารมณ์นำ มักจะแพ้เสมอนะจ๊ะ...
ในเวลาที่ควรเข้มแข็งนางก็อ่อนแอถึงขึ้นอ่อนปวกเปียกแบบไร้เหตุผล ในเวลาที่ควรอ่อนแอ นางก็กล้าและเก่งขึ้นมาทันที อย่างเช่นตอนนี้เป็นต้น รู้ว่าบัวร้าย จงใจเสี้ยม แต่เพลงก็กระโดดไปเล่นด้วย เหนือยิ่งเกลียดหนักไปอีก สุดท้ายคนที่พ่ายแพ้คือเพลง