น่านฟ้ามองภาพของคนทั้งคู่อย่างข้องใจ เขามั่นใจมากว่าพี่ชายไม่ได้รักเมียตัวเอง แต่วันนี้ความมั่นใจเริ่มสั่นคลอน หรือสิ่งที่บิดาของเขาพูดเอาไว้จะเป็นจริง ‘คนรักของเหนือตะวันไม่มีทางเป็นคนอื่นนอกจากนิชาภัทร’
สองชั่วโมงพอดิบพอดีที่นิชาภัทรจัดการบัญชีของโครงการที่น่านฟ้ารับผิดชอบเสร็จสิ้น หญิงสาวมองร่างของสามีเป็นระยะ เขาหลับสนิทไปตั้งแต่สิบนาทีแรกจนถึงเวลานี้ยังไม่มีวี่แววว่าคนตัวโตจะตื่นจากนิทรา
ปริยากรโสภณคนน้องรับเอกสารจากพี่สะใภ้ ก่อนเดินออกจากห้องน่านฟ้าหยุดมองพี่ชาย ในหัวสับสน ผู้ชายเหมือนกันย่อมรู้ดีว่าเหนือตะวันรู้สึกอย่างไร ยิ่งเป็นพี่น้องคลานตามกันมาด้วยแล้ว เขายิ่งมั่นใจว่าตอนนี้หัวใจพี่ชายของเขาไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว เหลือแต่รอว่าเมื่อไรคนปากแข็งจะยอมรับความจริง
“พี่ไปก่อนนะเพลง ฝากดูแลเฮียด้วย ไม่รู้ว่าหลับหรือตาย”
“พี่น่าน! พูดอะไรแบบนี้คะ” นิชาภัทรรีบร้อนรนเดินมาดูสามี เมื่อพบว่ายังหายใจปกติหล่อนถึงกับพ่นลมหายใจออกมา
น่านฟ้ามองอาการตื่นตระหนกของหญิงสาวอย่างอ่อนใจ
“พี่ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าเพลงจะมีไอคิวสูงจริงๆ เรื่องล้อเล่นแค่นี้คิดจริงจังไปได้”
“โธ่! ก็ใครจะไม่คิดล่ะคะ พี่เหนือเล่นหลับสนิท เหมือน...เหมือนกับคนตายจริงๆ นี่คะ”
“จะแช่งกันอีกนานไหม”
คนถูกนินทาขยับตัวยากเย็นเนื่องจากหลับสนิทอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ร่างกายจึงปวดเมื่อยไปหมด
“เฮียครับ ถ้าเหนื่อยขนาดนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทก็ได้ กลัวพ่อไม่แบ่งมรดกให้หรือไง หรือว่า...” น่านฟ้าหันมามองหญิงสาวคนเดียวในห้อง “กลัวเมียหาย”
“แกจะกลับรึยัง ถ้าจะกลับแล้วปิดประตูด้วย” เหนือตะวันออกปากไล่เพราะหงุดหงิดกับคำพูดและสายตาของน้องชายร่วมสายเลือดที่มองเหมือนข้องใจอะไรนักหนา
ส่วนคนถูกพาดพิงกลับจ้องใบหน้าของสามีนิ่งเหมือนต้องการรู้คำตอบ เป็นเหมือนที่น่านฟ้าพูดหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะดีมากๆ
เหนือตะวันรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังมองอยู่แต่เลี่ยงไม่ยอมสบตา เขาไม่ได้คิดเหมือนกันว่าหลังจากเสร็จงานแล้วจะกลับคอนโดมิเนียมเลยหรือจะไปไหน รู้ตัวอีกทีก็เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของนิชาภัทรแล้ว
“หึๆ” น่านฟ้าหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นพี่ชายพยายามทำเป็นเย็นชา แต่มันกลับไม่เป็นธรรมชาติเลยสักนิด “ไปก็ได้เฮีย แล้วโทร. หาแม่บ้างล่ะ”
น่านฟ้าเดินออกไปแล้ว บรรยากาศภายในห้องจึงเงียบไปถนัดตา เหนือตะวันเห็นคนข้างกายเอาแต่จ้องเขานิ่งตาไม่กะพริบจึงเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน
“กลับได้รึยัง”
“คะ? เอ่อ...งั้นเดี๋ยวเพลงเก็บของก่อน พี่เหนือจะไปล้างหน้าก่อนก็ได้นะคะ จะได้สดชื่น”
‘บ้าจริงยายเพลง เมื่อไหร่จะห้ามใจตัวเองได้สักทีนะ เอาแต่จ้องเขาอยู่นั่นแหละ ไร้สติหรือไงกัน’ นิชาภัทรหงุดหงิดกับ พฤติกรรม ‘คลั่ง’ จนหลุดโลกของตัวเอง หล่อนรีบเก็บของใส่กระเป๋า พอดีกับที่ตัวต้นเหตุของอาการสติหลุดเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“เปียกหมดแล้วค่ะ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมออกมาซับหยดน้ำที่เกาะอยู่ที่ใบหน้าคมเข้ม
เหนือตะวันมองคนที่ได้ชื่อว่าภรรยานิ่ง ความรู้สึกของเขาที่มีตอนนี้เป็นอย่างไรไม่อาจแน่ใจได้ เขาไม่ควรจะใกล้ชิดกับหล่อนเลยด้วยซ้ำ แม้จะมีเหตุผลเรื่อง ‘ทำดีสามวัน’ แต่ชายหนุ่มก็ยอมรับกับตัวเองว่ามันไม่ใช่เหตุผลนั้นทั้งหมด ถึงเขาจะรู้สึกผิดและเป็นทุกข์มากที่เผลอตบหน้าหญิงสาวในวันนั้น ทว่าเขาก็ยังไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเองเกิดจากอะไรแน่ ทำไมถึงได้กลับตาลปัตรไปหมด
‘ผิดที่เธอนั่นแหละนิชาภัทร’
เขาโยนความผิดให้หล่อนอย่างหัวเสีย เป็นเพราะหล่อนคนเดียวที่มักจะหาโอกาสยั่วยวนเขาเสมอ ผู้ชายที่ไหนจะหักห้ามใจได้ แค่หล่อนขยับริมฝีปากอิ่มเขาก็รู้สึกอยากจูบขึ้นมาทันที
“เธอทำให้ฉันกลายเป็นไอ้ผู้ชายโรคจิต”
“คะ?”
นิชาภัทรงุนงง หล่อนคิดว่าได้ยินที่เขาพูดชัดเจน แต่ไม่เข้าใจความหมาย
เหนือตะวันไม่สนใจสีหน้างุนงงของนิชาภัทร มือแกร่งรวบเอวบางเข้ามาหาตัวจนผู้หญิงร่างเล็กถลาเข้ามาปะทะแผงอกกำยำ วินาทีต่อมาริมฝีปากหยักก็โฉบลงมาขโมยความหวานจากปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจ คนถูกคุมคามงงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่สมองก็ไม่อาจคิดประมวลผลอะไรได้เลย เมื่อจุมพิตเร่าร้อนหนักหน่วงขึ้นทุกขณะจนหล่อนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ทัน พอลมหายขาดห้วงมือเล็กจึงผลักเขาออกเบาๆ เหนือตะวันละริมฝีปากออกจากความหวานละมุนอย่างเสียดาย
ดวงตากลมโตมองผู้ชายที่หล่อนรักด้วยแววตาไร้เดียงสา เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ ทุกครั้งชายหนุ่มสัมผัสหล่อนไม่ว่าจะทางใดก็ตาม เขามักจะมีอาการหงุดหงิดแบบนี้เสมอ
“ทำไมพี่เหนือดูหงุดหงิดทุกครั้งเลยล่ะคะ เวลาที่เรา...เอ่อ...ทำอะไรแบบ...ที่คู่รักเขาทำกัน”
เหนือตะวันยังไม่ปล่อยร่างเล็กออกจากวงแขน เขาไม่มีคำตอบให้หล่อน จะให้ตอบได้อย่างไรว่าเขาหงุดหงิดจริงๆ แต่เป็นเพราะว่าเขาโกรธตัวเองที่ลืมความตั้งใจได้อย่างง่ายดาย ลืมทั้งที่เขาบอกกับตัวเองเสมอตลอดระยะเวลาหลายปีว่าเขาจะไม่มีวันรักผู้หญิงคนนี้ เขาย้ำตัวเองเสมอว่าถ้าเจอเมื่อไรเขาจะต้องหนีไปให้ไกล
“เธอรักฉันมากใช่ไหม”
คำถามของเหนือตะวันทำเอานิชาภัทรไปไม่เป็น หัวใจของหล่อนเต้นแรงราวกับจะกระดอนออกมาจากอก หญิงสาวสูดลมหายใจลึกก่อนพูดความรู้สึกออกไป ซึ่งมันยังคงเป็นคำตอบเดิมที่เขารู้อยู่แก่ใจ
“ค่ะ เพลงรักพี่เหนือมาก รักมากจริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นสัญญากับฉันได้ไหม ว่าเธอจะไม่ทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผลอีก ไม่ทะเลาะ ไม่ใช้กำลัง ไม่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้หญิงคนไหนที่เกี่ยวข้องกับฉัน ถ้าเธอไม่พอใจอะไรต้องคุยด้วยเหตุผล”
“ทำไมพี่เหนือถึงมาพูดเรื่องนี้ล่ะคะ” นิชาภัทรไม่เข้าใจ จะให้หล่อนสัญญาเพื่ออะไรกันล่ะ ไม่เห็นเหตุผลสักนิด
“ฉันขอ เธอทำได้ไหม”
เป็นครั้งแรกที่เหนือตะวันขอร้องอย่างจริงใจ แววตาไม่มีความโกรธเกลียดเหมือนเช่นที่ผ่านมา แต่แน่วแน่จริงจังกว่าครั้งไหนๆ
นิชาภัทรไม่เข้าใจหรอกว่าสิ่งที่เขาขอคือสิ่งที่ติดค้างในใจเขามาตลอด อารมณ์ร้อนของหล่อนมักนำปัญหามาให้เขาและคนที่เกี่ยวข้องเสมอ ซึ่งมันทำให้ความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานต้องสั่นคลอน จนหนักเข้าก็กลายเป็นความไม่พอใจสะสมพอกพูนเกินกว่าที่จะหาทางกำจัดออก
“ค่ะ เพลงทำได้” ตกปากรับคำทั้งที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเมื่อเจอกับสถานการณ์นั้นจริงๆ หล่อนจะห้ามตัวเองได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยหล่อนก็จะพยายาม
“ฉันจะรอดู” เหนือตะวันยิ้มออกมาได้
นิชาภัทรมองรอยยิ้มนั้นด้วยความรักที่เอ่อล้น หัวใจที่เหี่ยวเฉาพองโตได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“พี่เหนือยิ้มแล้วน่ารักขึ้นเยอะเลย”
‘เธอก็เหมือนกัน ยายเด็กบ้า’ เขาคิดแต่ไม่พูดออกไป กระนั้นดวงตาคมเข้มก็ทำหน้าที่ผู้สื่อสารได้เป็นอย่างดี เขามองหล่อนด้วยแววตาหวานฉ่ำชนิดที่ทำให้คนถูกมองหน้าร้อนไปหมด
นิชาภัทรก้มหน้าไม่ยอมสบตา ก่อนจะเอ่ยคำถามออกมาเบาๆ เพื่อหยุดสายตาชวนวาบหวามนั้น
“เราจะไปไหนกันดีคะ”
“ฉันอยากกลับคอนโด”
คนฟังหน้าหงอยทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ
“คิดว่าจะได้ไปดูหนังเสียอีก”
“ใครใช้ให้คิดล่ะ”
นิชาภัทรแสดงความไม่พอใจด้วยการแกะแขนที่โอบเอวบางของหล่อนออก หญิงสาวไม่อยากน้อยใจ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ก็ดีมากแล้ว แต่เอาเข้าจริงกลับห้ามตัวเองไม่ให้คิดไม่ได้
‘คนใจร้าย ฮันนีมูนก็เป็นหมัน แต่งงานกันมาเกือบสามเดือนก็ไม่เคยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน’
“กลับคอนโดแหละดีแล้ว มีอะไรน่าทำกว่าการดูหนังตั้งมาก”
คำพูดมีนัยของคนตัวโตทำเอาคนฟังร้อนที่ใบหน้าจนถึงหู นิชาภัทรไม่พูดอะไรต่อ หล่อนรีบเดินนำหน้าเขาออกจากห้องไป ชายหนุ่มก้าวขาตามไปติดๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวคนขี้อาย
“ฉันรู้ว่าเธออยาก แต่ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”
“พี่เหนือ” หญิงสาวแหวเข้าให้ ก่อนทุบบ่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
เหนือตะวันรีบคว้าข้อมือนั้นไว้ก่อนจะถูกประทุษร้ายไปมากกว่านี้
ภาพสองสามีภรรยาเดินจับมือกันไปตามทาง เรียกความสนใจของเหล่าผู้พบเห็น โดยเฉพาะพนักงานขาเมาท์ทั้งหลายที่ต่างรู้ตรงกันว่าทั้งคู่อยู่ในสถานะสามีภรรยาที่รอวันหย่า แต่ภาพที่เห็นวันนี้ดูเหมือนจะไม่ตรงกับความเข้าใจที่ผ่านมา หรือว่ามีใครเข้าใจอะไรผิดไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
E-book วางขายแล้วนะคะที่ Meb
ฝากเข้าไปติดตามด้วยน้าาาาาา
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
เสนอความเห็นนะ