ตอนที่ 1 : บทที่ 1 ด้วยความคิดถึง (1)
ด้วยความคิดถึง
นิชาภัทรปิดแฟ้มเล่มสุดท้ายลงด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข เมื่องานที่ทุ่มเททำมากว่าสามสัปดาห์เสร็จสิ้นลงตรงกับฤกษ์งามยามดี หญิงสาวดูเวลาที่นาฬิกาเรือนหรู
“บ่ายสามสิบห้านาที”
หล่อนเลิกคิ้วเล็กน้อย เหลือเวลาสามชั่วโมงจัดการตัวเองให้พร้อมก่อนไปงานเลี้ยงเล็กๆ ของตระกูลปริยากรโสภณ ฉลองการสำเร็จการศึกษาจากอเมริกาของลูกชายคนโต
เหนือตะวัน...หล่อนนึกไปถึงใบหน้าคมเข้มของเขา ดวงตาเรียวรี ผิวคล้ามแดดอย่างผู้ชายที่ชอบออกกำลังกาย แขนกับแผงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างชายชาตรี และส่วนสูงราวร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร แค่คิดถึงใบหน้าหล่อนก็เรื่อแดง
สามปีมาแล้วที่หล่อนไม่ได้พบเขาเลย นับจากวันที่ขอตามไปส่งเขาที่สนามบิน แม้จะถูกใครต่อใครห้าม แต่หล่อนก็ดื้อด้านไปจนได้
‘พี่เหนือ’
นิชาภัทรตะโกนเรียกเหนือตะวันสุดเสียง พร้อมกับวิ่งฝ่าวงศาคณาญาติของเขาจนได้เข้าถึงตัว ความสูงแค่ร้อยหกสิบเซนติเมตรของหล่อนทำให้ต้องแหงนหน้าจนเมื่อยคอ กระนั้นหล่อนก็อยากมองเขาให้นานที่สุด
‘มาทำไมอีกล่ะเพลง’
น้ำเสียงไม่พอใจเล็กๆ ของเขาไม่ได้ทำให้หล่อนเสียกำลังใจแม้แต่น้อย
‘เพลงแค่อยากมาส่ง เพลงอยากรู้ว่าพี่เหนือจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ พี่เหนืออย่าลืมล่ะ ว่าเพลงจะเป็นเจ้าสาวของพี่น่ะ’ ดวงตากลมโตของคนพูดรื้นไปด้วยน้ำตา
‘อย่าพูดจาเพ้อเจ้อน่า พี่ต้องไปแล้ว’
เหนือตะวันตัดบท ก่อนจะหันมาไหว้ชาครกับพิมพ์อรผู้เป็นบิดามารดา
‘ไปนะครับ น่านดูแลพ่อกับแม่ด้วย’ เอ่ยคำลาพร้อมกับเอื้อมมือไปตบบ่าของน่านฟ้า น้องชายที่อ่อนวัยกว่าสามปี
หนุ่มร่างสูงเดินจากไปพร้อมกับหัวใจของนิชาภัทร เหนือตะวันในวัยยี่สิบหกปีเปี่ยมไปด้วยพลัง ทางเดินของเขามีจุดหมายชัดเจนเสมอ สักวันเขาจะเก่งพอจะก้าวมาเป็นตัวแทนของบิดาได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่นิชาภัทรเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบเก้าที่ไร้ความฝันใดๆ หล่อนใช้หัวใจนำทาง และทุกก้าวที่เดินหล่อนเหยียบย่ำซ้ำรอยเท้าของเขา หวังเพียงสักวันหนึ่งหล่อนอาจเดินตามเขาทัน เหนือตะวันก็เปรียบเสมือนตัวแทนของความหวังทั้งหมดทั้งมวลในชีวิตหล่อน เขาคือเจ้าชาย คือความรัก คือลมหายใจของนิชาภัทร
นิชาภัทร รัตนะบำรุง หรือ เพลง เป็นเด็กสาวตัวคนเดียว หล่อนสูญเสียพ่อแม่พร้อมกันเมื่ออายุได้สิบห้าปีด้วยอุบัติเหตุทางเรือ ระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะแห่งหนึ่งในทะเลทางใต้ โชคยังดีที่ ชาคร ปริยากรโสภณ บิดาของเหนือตะวันซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของบิดานิชาภัทรเข้ามาดูแลและรับเป็นผู้ปกครองหล่อน นอกจากชาครจะเป็นเพื่อนรักของบิดาแล้ว ยังเป็นหุ้นส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคาร ขนส่งมวลชน และธุรกิจลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค[U1] ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ชายวัยห้าสิบรับปากว่าจะดูแลหล่อนและกิจการส่วนที่ครอบครัวรัตนะบำรุงเป็นหุ้นส่วนไม่ให้ใครมาฉวยโอกาสได้ ครอบครัวของชาครปฏิบัติกับหล่อนอย่างดีเสมอมา ทั้งเรื่องส่วนตัว การศึกษา ตลอดจนเงินปันผลทุกบาททุกสตางค์ที่เป็นของรัตนะบำรุง เงินเหล่านั้นถูกโอนเข้าบัญชีหล่อนไม่เคยขาด
นิชาภัทรมองรูปเล็กๆ ที่นำมาวางบนโต๊ะทำงานอย่างถาวร หล่อนสั่งกำชับไม่ให้ใครเคลื่อนย้ายหรือหยิบจับรูปถ่ายนี้เด็ดขาด เพราะมันเป็นรูปคู่รูปเดียวของหล่อนกับเหนือตะวัน ภาพเด็กหญิงวัยสิบขวบ[U2] ถือสมุดวาดภาพไว้ในมือ ยืนยิ้มแป้นให้กล้อง ข้างกายเป็นหนุ่มวัยรุ่นอายุสิบเจ็ดปี ใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงโย่งยืนโอบไหล่เด็กหญิงไว้ นัยน์ตาคมจ้องใบหน้าผู้อ่อนวัยด้วยแววตาอ่อนโยน
“พี่เหนือคะ วันนี้เราจะได้พบกันแล้วนะคะ เพลงจะไม่มีวันปล่อยให้พี่เหนือไปไหนอีก” นิชาภัทรหยิบกรอบรูปมากอดแน่น พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เสียงเพลงจากเปียโนดังปนกับเสียงพูดคุยจอแจ ร่างระหงของนิชาภัทรก้าวเข้ามาในงาน หญิงสาวสวมชุดราตรีเกาะอกยาวสีแดงเพลิง ช่วงหน้าอกปักระยิบระยับด้วยคริสตันสวารอฟสกี้สีเดียวกัน ด้านหลังเว้าลึกเผยผิวเนื้อขาวอมชมพูนวลเนียน ผมยาวดำขลับถูกรวบอย่างเรียบง่ายไว้ที่ท้ายทอย
หล่อนเหลือบมองชายประโปรงของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะคำแนะนำของสาวประเภทสองเจ้าของห้องเสื้อแท้ๆ เชียว ไม่เช่นนั้นชุดชุดนี้จะไม่ได้เฉียดใกล้หล่อนแม้แต่นิด
‘ถ้าคุณน้องอยากให้ผู้ชายประทับใจตั้งแต่แรกเห็นก็ต้องชุดนี้เท่านั้น มีผู้ชายที่ไหนบ้างไม่ชอบมองแผ่นหลังขาวๆ ของผู้หญิงสวยแถมหุ่นดีขนาดนี้ แล้วผิวขาวจัดแบบคุณน้องเนี่ยนะ ต้องสีแดงเพลิงเท่านั้นค่ะ รับรองว่าปังมาก’
หล่อนขัดเขินอยู่ภายใน แต่สิ่งที่แสดงออกไปคือความมาดมั่นและสง่างาม สายตาทุกคู่หันมามองอย่างชื่นชม แต่ไม่ใช่คนที่หล่อนต้องการ
ดวงตากลมโตที่ประดับขนตาปลอมชนิดหนาเป็นพิเศษกวาดมองโดยทั่ว เพียงชั่วนาทีหล่อนก็พบร่างของคนที่รอคอยมาตลอดสามปี เขาสูงสง่าโดดเด่นจากคนอื่น สีผิวที่เคยคล้ำแดดขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่คิ้วหนาจัดของเขาก็ทำให้ใบหน้าหล่อเหลายังคงความคมเข้มได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มยืนสนทนากับแขกผู้ใหญ่ด้วยท่าทีแสนสุภาพ เจ้าของร่างบางสาวเท้าไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว รองเท้าส้นสูงสี่นิ้วที่สวมอยู่ไม่ได้เป็นอุปสรรคแม้แต่น้อย หล่อนอยากรู้ว่าเหนือตะวันจะดีใจมากเพียงใดที่ได้พบหล่อนในวันนี้ เขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อนิชาภัทรคนนี้ไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนเดิมอีกต่อไป หล่อนโตเป็นสาวเต็มตัวและมีทุกอย่างที่ ‘ผู้หญิง’ ทั่วไปพึงมี
“พี่เหนือ”
เสียงเรียกอ่อนหวานทำให้คนร่างสูงที่สวมสูทสีเทาเข้มต้องละสายตาจากแขกที่กำลังสนทนาด้วย ใบหน้าคล้ามคมหันมามองเจ้าของเสียงหวาน เขาเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวร่างระหงกับชุดสีแดงเพลิงที่ค่อนข้างเปิดเผยผิวเนื้อจนเกินงาม ใบหน้ารูปไข่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาจัด รูปร่างที่กลมกลึงสมส่วนอย่างสตรีเพศที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ดูแปลกตาไปมาก ทว่าเขาก็จำได้หล่อนได้ในทันที
เจ้าของดวงตาเรียวรีมองหญิงสาวตรงหน้านิ่ง ใช่ว่าพิศวาสในเรือนกายอันเย้ายวนชวนมอง แต่เป็นเพราะ ‘หล่อนคือคนที่เขาไม่อยากจะพบอีกในชาตินี้’
“นิชาภัทร...”
เพียงแค่เห็นหน้า ภาพเหตุการณ์เก่าๆ ก็ถาโถมเข้ามาประหนึ่งคลื่นยักษ์ที่ซัดชายฝั่ง ภาพหญิงสาววัยสิบเก้าปีที่สวมชุดนักศึกษากำลังถกแขนเสื้อขึ้น แล้วฟาดมือไปที่ใบหน้าของหญิงสาวอีกคนที่ถูกชายชุดดำสองคนล็อกแขนไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด หญิงสาวผู้เป็นเหยื่ออารมณ์ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
‘เพลง! ทำอะไรน่ะ’
เหนือตะวันเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี เขามองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าคนที่ใช้กำลังอยู่นั้นคือนิชาภัทร หญิงสาวที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีในฐานะน้องสาวที่เล่นหัวกันมาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนคนที่ถูกกระทำคือบัวชมพู คนรักของเขาที่คบกันมาได้เกือบสองปี
มือแข็งแรงกระชากร่างเล็กของนิชาภัทรจนเซถลาไปไกล ก่อนเข้าคว้าร่างบัวชมพูซึ่งนั่งพับเพียบอยู่ที่พื้นเข้ามากอดไว้ สายตาจับจ้องที่นิชาภัทรและคนของหล่อนอย่างแค้นเคือง ยิ่งได้เห็นรอยแดงบนแก้มเนียนของคนรักเขาก็แทบระงับอารมณ์ไม่อยู่
‘ทำบ้าอะไรฮะเพลงยาย ทำร้ายบัวทำไม’ เหนือตะวันถามออกไป
‘พี่เหนือคะ ยายนั่นมันตอแหล พี่เหนืออย่าไปใกล้นะคะ’ นิชาภัทรกล่าวไปน้ำตาก็พานจะร่วง เมื่อเห็นแววตาของคนที่หล่อนรักไม่เหมือนเดิม เขามองหล่อนเป็นศัตรู
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
