เสน่ห์ร้าย [สนพ.แจ่มใส วางขาย มี.ค.62]
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ ซึ้งกินใจ ผู้แต่ง : อุ ณ ห ภู มิ ป ก ติ
My.iD :
https://my.dek-d.com/mali07/writer/
ตอนที่ 40 : บทที่ 18 ตัดใจแล้วไม่พูดเยอะ...เจ็บคอ (1)
คราวนี้กลายเป็นพิชญ์ที่อึ้งไป เขามองท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันด้วยความงุนงง “ไม่ แค่นี้ก็พอแล้ว”
“ค่ะ ฉันไปนะคะ” พัฒน์นรีเดินออกจากห้องไปในสภาพเท้าเปลือยเปล่า ข้อเท้าเริ่มแดงเพราะยังไม่หายดีแต่กลับเดินบนรองเท้าส้นสูง
พิชญ์พ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ไม่คิดว่าบทจะง่ายก็ง่ายจนเหลือเชื่อ แล้วทำไมนะ ทำไมเขาถึงไม่สบายใจขึ้นมาสักนิดเลย
“แก้ม ท่านรองฯ เขาโอเคจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ไล่แกออกจริงนะ” เหมยลี่เกาะพัฒน์นรีแจ แม้ว่าแก๊งป้าข้างบ้านจะรวมตัวกันมาขอโทษไปแล้วชุดใหญ่จนแทบจะขอขมาด้วยธูปเทียนแพ แต่สาวหน้าหมวยก็ยังรู้สึกผิดมากอยู่ดีจนต้องตามมาส่งถึงคอนโดฯ
“เขาไม่ไล่ฉันออก เขาคงขี้เกียจหาคนใหม่มั้ง” พัฒน์นรีบอกโดยไม่มองหน้า ยอมรับว่าเธอโกรธมากจริงๆ แต่เพราะรู้ว่าทุกคนไม่ได้หวังร้ายกับเธอและต่างทำพลาดไปด้วยความไม่ตั้งใจเธอจึงยอมยกโทษให้ง่ายๆ
แต่มันก็ยังเคืองอยู่ดี...
“โอ๊ย! ถึงจะอย่างนั้นฉันก็คิดว่ามันน่าลำบากใจอยู่ดีอะแก” แค่จินตนาการถึงสถานการณ์ระหว่างเพื่อนกับเจ้านายนับจากนี้ที่ต้องทำงานกันในฐานะเลขาฯ เหมยลี่ก็ถึงกับต้องร้องออกมา “ฉันนับถือแกมากเลยนะแก้ม ที่แกยังมีสปิริตมากพอที่สามารถทำงานกับเขาต่อไปได้ เป็นฉันคงยื่นใบลาออกแล้วหนีเข้าป่าไปแล้วอะ”
ยื่นแล้วโว้ย! แต่ออกไม่ได้
พัฒน์นรีอยากจะตะโกนใส่หน้าเพื่อนแต่ทำได้แค่เงียบเอาไว้ เพราะสัญญาทาสฉบับนั้นทำให้เธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าก้มหน้าก้มตาทำงานให้เขาต่อไป คิดไปแล้วเธอไม่น่าเห็นแก่เงินจนยอมรับข้อเสนอของเขาตั้งแต่แรก เธอน่าจะรู้ว่าเสน่ห์ของรองประธานผู้นี้มากล้นเกินกว่าจะต้านทานไหว เธอน่าจะรู้ตัวเองว่าอาจต้องถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น
แต่มาคิดตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ที่น่าเสียดายคือความไว้วางใจที่เขาเคยมีให้เธอ อาจจะไม่หลงเหลือต่อไปแล้ว
“ลี่ แกไม่ต้องคิดมากไปหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอกจริงมั้ย ทุกคนคงไม่ตั้งใจปล่อยข่าวออกมาให้ฉันหรือท่านรองฯ เสียหาย ฉันโอเคมาก ถึงแม้ว่าท่านรองฯ อาจจะไม่พอใจฉันจนพาลเย็นชาหรือห่างเหินไปฉันก็โอเค ดีเสียอีก...ฉันจะได้ไม่ต้องไปเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ”
เหมยลี่อยากจะเข้าใจเพื่อนเหมือนที่เพื่อนอยากให้เข้าใจ แต่เพราะว่าพัฒน์นรีไม่เคยปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้ เธอจึงรู้ว่าภายใต้ท่าทีเข้มแข็งเหมือนไม่เป็นอะไรนั้น ความจริงแล้วเป็นมากๆ ตอนนี้เพื่อนอาจกำลังร้องไห้อยู่ข้างใน
“แกก็รักท่านรองฯ ไปแล้วไม่ใช่เหรอแก้ม ถ้าเขาโกรธแกเพราะเรื่องนี้จนไม่เหมือนเดิมกับแกอีก แกจะทนได้เหรอ”
“ได้สิ ฉันทนได้” พัฒน์นรียิ้มออกเมื่อเห็นว่าเหมยลี่กังวลหนักเกินเหตุ ระหว่างรอลิฟต์เคลื่อนลงมาเธอจึงหันไปกอดคอเพื่อน “ถ้าแกรู้สึกผิดจริงๆ ฉันขอคอลเล็กชั่นหนุ่มหล่อในบริษัททั้งหมดเลยได้มั้ย ใครหล่อบ้างแกนำเสนอมาเลย ฉันจะได้เปลี่ยนเป้าหมายไง เพิ่มโอกาสในการตัดใจ”
“ต่อให้ขุดมาทุกสาขาในภาคกลางก็ไม่มีใครแซ่บเท่าท่านรองฯ ของแกอีกแล้วแหละ”
“งั้นเหนือ อีสาน ใต้ก็ได้ ช้างเผือกในป่าใหญ่ยังมีฉันใด...หนุ่มหล่อในแดนไกลก็ต้องมีฉันนั้น” พัฒน์นรีบอกอย่างมุ่งมาด
พอเห็นว่าพัฒน์นรียิ้มได้ คนที่กังวลมาตลอดทั้งวันค่อนคลายความเครียดลงได้เล็กน้อย
“เอาเป็นว่าฉันจะชดเชยความผิดครั้งนี้ด้วยการหาผู้ชายดีๆ มาให้แกให้ได้” เหมยลี่ตั้งปณิธาน
“ใช่! แล้วฉันต่อไปนี้ อีตาท่านรองฯ รูปหล่อจะเป็นแค่ท่อนไม้ท่อนหนึ่งในสายตาฉัน ไม่มีผลกับความรู้สึกอีกต่อไปแล้ว”
ในเมื่อเขาด้านมา เธอก็กล้าพอที่จะด้านกลับ
ในเมื่อพิชญ์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอก็คิดว่าตัวเองเฉยได้ไม่น้อยหน้าเขาอย่างแน่นอน
นับจากวันนั้นพัฒน์นรียังคงทำงานเป็นเลขานุการของพิชญ์ บริพัตรเมธานนท์ ทายาทธุรกิจหมื่นล้านผู้หล่อเหลาและมากไปด้วยแรงดึงดูด
ก่อนหน้านี้ต้องคอยห้ามใจไม่ให้หวั่นไหว ต้องดึงสติตัวเองไม่ให้เผลอไผลไปลุ่มหลงในรูปกายภายนอกหรือแม้แต่การกระทำอันคลุมเคลือที่ชวนให้คิดไปไกลของเขา ซึ่งมันยากแสนยาก...
ผิดกับตอนนี้...เธอไม่ต้องใช้ความพยายามสักนิดก็สามารถมองร่างเปลือยท่อนบนที่เคลื่อนไหวบนสังเวียนชกมวยได้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร
เขาเก่งมากที่ทำให้เธอด้านชากับเรื่องที่เคยรู้สึกมากๆ ได้
“แก้ม” พิชญ์เรียกหาเลขาฯ จากบนสังเวียนชกมวย “ขอผ้าขนหนูหน่อย”
พัฒน์นรีละสายตาจากโทรศัพท์ หันไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเอาไปส่งให้เขา พิชญ์ไม่ยอมให้รับผ้าแต่โน้มศีรษะลงมา “เช็ดหน้าให้หน่อย”
“ฉันไม่ถนัดค่ะ กำลังตอบไลน์ลูกค้าอยู่” เธอตอบกลับไปอย่างไม่มีเยื่อใย
“ตอบช้าไปสักนาทีคงไม่เป็นไรมั้ง เร็วสิ มือผมใช้ไม่ได้” เขาบอกพลางยื่นมือทั้งสองข้างที่สวมนวมชกมวยให้ดู
พัฒน์นรีเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากระโปรงแล้วคว้ามือเขามาถอดนวมออกข้างหนึ่งก่อนยัดผ้าขนหนูสีขาวสะอาดใส่มือหนา “ใช้ได้แล้วนะคะ”
คนตัวโตถึงกับพูดไม่ออก มองหญิงสาวด้วยความแววตาเหลือเชื่อแต่เธอก็ยังนิ่งเฉย สุดท้ายเป็นเขาที่จำต้องเช็ดผมอันชุ่มไปด้วยเหงื่อเองขณะที่พัฒน์นรีเดินกลับไปนั่งที่เดิมแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความอย่างตั้งใจ ไม่แยแสเขาอีกเลย
รองประธานหนุ่มเช็ดผมตัวเองไปมองเลขาฯ ไปจนคู่ชกมวยถึงกับข้องใจ
“เป็นอะไรของแกวะ มองคุณแก้มอยู่ได้”
พิชญ์โยนผ้าเช็ดผมพาดกับเชือกกั้นเวทีแล้วคว้านวมข้างที่เพิ่งถูกถอดมาสวมกลับเหมือนเดิม “ไม่มีอะไร”
“นี่ถามจริงเถอะ แกกับเลขาฯ มีอะไรกันหรือเปล่าวะ” ชอบธรรมพูดไม่ทันจบก็ชะงักเมื่อถูกสายตาคมกริบตวัดมองอย่างขุ่นเคือง “ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ ไม่ใช่มีอะไรแบบนั้น แต่หมายถึงมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”
“ก็มีนิดหน่อย แต่จัดการเรียบร้อยแล้ว”
“จัดการเรียบร้อยแต่เหมือนแกยังมีปัญหา”
“ฉันไม่ได้มีปัญหา เลขาฯ ฉันต่างหากที่มีปัญหา แกไม่เห็นหรือไงว่าเขาเย็นชากับฉันมากแค่ไหน”
“เย็นชาอะไรวะ” ชอบธรรมมองคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านข้อความในโทรศัพท์อย่างสงสัย แต่ที่เห็นก็ปกติไม่ได้ดูเย็นชาอย่างที่เพื่อนกล่าวหาเลยสักนิด
“ก็ไม่ยอมเช็ดผมให้ฉันไง นั่นล่ะเย็นชา” ไม่นับรวมพฤติกรรมหลายวันที่ผ่านมาของเธอด้วย ตั้งแต่เกิดเรื่องพัฒน์นรีดูระมัดระวังตัวกับเขามากขึ้น ถึงจะไม่ได้ห่างเหินแต่ก็ไม่ใกล้ชิด โดยปกติเธอมักจะมีรอยยิ้มและอารมณ์ขัน กล้าเป็นตัวของตัวเอง แต่เวลานี้เธอนิ่งเป็นส่วนมากและไม่คุยกับเขาเลยหากไม่ใช่เรื่องงาน
ระหว่างเขากับเธอคล้ายมีระยะห่างระหว่างกันที่ชัดเจนมาก
“เขาเป็นแค่เลขาฯ แกใช้เลขาฯ เช็ดผมให้แบบนี้มันเรียกว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ เกินหน้าที่ เขาไม่ทำให้ก็ถูกแล้ว”
ไม่กี่ครั้งที่ชอบธรรมจะกลายเป็นฝ่าย ‘สอน’ เขา เพราะโดยปกติแล้วเขาต่างหากที่คอยเตือนสติเพื่อนจอมเสเพลไม่เอาไหน จากที่หงุดหงิดอยู่แล้วเป็นทุนเดิมยิ่งกลายเป็นหงุดหงิดมากขึ้นไปใหญ่
“ก็เพราะเป็นเลขาฯ ไง ให้ทำอะไรก็ต้องทำสิวะ แกไม่เคยจ่ายเงินจ้างเลขาฯ ส่วนตัวจะไปรู้อะไร”
“เอ้า! ทีตอนวริษฐ์อยู่แกก็ไม่เห็นจะให้เขาทำอะไรแบบนี้ให้เลย อีกอย่างเลขาฯ ส่วนตัวไม่ใช่พยาบาลคนพิการ แบบนี้แกไม่ให้เขาอาบน้ำให้เลยล่ะวะ”
พอชอบธรรมเปรียบเทียบกับวริษฐ์ คนใช้อำนาจโดยมิชอบและยังจะพ่วงตำแหน่งคนพิการถึงกับเถียงไม่ออก แค่คิดภาพวริษฐ์กำลังเช็ดผมให้เขา ขนในกายก็ลุกชูชัน ต่างกับพัฒน์นรี...เขาไม่เคยรังเกียจสัมผัสของเธอเลย
“หรือแกคิดอะไรกับคุณเลขาฯ”
คนถูกถามใจกระตุกวูบ ดวงตาคมวูบไหวอย่างมีพิรุธแต่ทว่าก็จางหายอย่างรวดเร็ว
“ไร้สาระ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้แกก็รู้” พิชญ์เดินเลี่ยงไปหยิบเป้าล่อมาโยนให้เพื่อนแล้วออกหมัดชกทันทีจนชอบธรรมเกือบยกเป้าขึ้นรับหมัดไม่ทัน ไม่เช่นนั้นอาจจะได้คางแตกเป็นแน่
“เออ รู้อยู่แล้วว่าไม่คิด ก็ช่วงนี้แกควงสาวเจ้าของร้านเพชรอยู่นี่หว่า สวยขนาดนั้นจะชายตามองใครได้อีกล่ะ”
“มันไม่ได้เกี่ยวกับความสวย”
“จะเกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่เขาสวยมาก แล้วยังไงวะ สรุปแกกับคุณพริ้ม...ไปถึงไหนกันแล้ว”
“ไม่รู้สักเรื่องได้มั้ย”
“เอ้า!”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ไม่พูดเยอะนะคะ เจ็บคอ
5555+
ไงล่ะ ท่านรองฯ เหวอเลย
หหนังสือวางขายเมื่อไรคะ อยากอ่านแล้ว
เอารูปหนุ่มคนใหม่มาเย้ยท่านรองเลยแก้มม
วันนี้อย่าลืมมาอัพต่อนะคะ สงสัยชื่อตอน จะเป็นคำพูดที่แก้มจะบอกท่านรองหรือเปล่าคะ
เเปนไงหละแก้มนิ่งแล้วนะ ท่านรอง
ดีมากเลยหนูแก้ม รักนางมากมาย อย่าได้แคลร์ ท่อนไม้ท่อนหนึ่ง ชอบนางมากเลย 55
แก้มเก่งมาก / ปรบมือ
สมควรแล้วท่านประธาน แก้มเธอทำดีมากกกกก หาผู้ใหม่ไปเลยอย่าได้แคร์