ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #64 : ตอนที่ 57 นักวางแผน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 43.5K
      144
      10 พ.ย. 54













    ตอนที่
    57 นักวางแผน









     
    ตั้งแต่กลับจากกระบี่พวกผมก็แยกย้ายกันไปสู่ที่ชอบๆ ส่วนใครที่อยากรู้เรื่องแต่งงาน>///< ก็ไปถามไอ้ภูมิเอาเองนะครับ ผมไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวไม่อะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นห้ามถามผมเข้าใจมั้ย>////<
     





    ช่วงเปิดเทอมสั้นๆไอ้น้องแมทธิวมันก็เจียดเวลาไปหาแดดดี้ของมันที่อิตาลี ไอ้เต้ยก็ไปทำหน้าที่ลูกที่ดีเป็นอาตี๋ขายทอง ตอนเย็นๆมันก็ไสสเก็ตบอร์ดมาเล่นมาป่วนกับผมที่บ้าน อ๊อ ลืมบอกไปว่าช่วงปิดเทอมนี้ผมกลับมาเฝ้าร้านให้อาปุ้ยครับ
     




    ส่วนไอ้เชนมันก็ไม่ได้พักอย่างคนอื่นเขาหรอกครับ เพราะมันต้องไปติวไปเรียนเหมือนไม่ได้ปิดเทอม เวลาที่ไอ้เชนมันอยู่กับหนังสือ กับตำราวิชาการมันจะเป็นคนละคนกับคนที่เคยเจ้าชู้ เพลย์บอยเลยล่ะครับ แทบจะไม่มีใครได้เห็นหน้ามันเป็นเดือนๆ จนบางครั้งผมยังเหนื่อยแทนมัน คนเรียนหมอเขาก็ต้องเหนื่อยแบบนี้แหละเนอะ
     


    แต่กิจกรรมทุกอย่างของพวกผมก็ต้องสิ้นสุดหยุดชะงักลงเมื่อน้องน้ำได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนกรุงเทพ ฮา แม้แต่มหาลัยยังเลื่อนเปิดเทอมเลยครับ ไอ้น้องแมทมันถึงกับหัวเสียเพราะมันไปอยู่กับแด๊ดของมันแค่อาทิตย์เดียวแล้วรีบกลับมาเรียน แต่มหาลัยดันเลื่อนซะงั้น
     





    ทั้งหมดนี้เพราะน้องน้ำ น้องน้ำคนเดียว อาปุ้ยเองก็สั่งกระสอบทรายมาตุนไว้ประมานสิบแปดคันรถแถมยังพาย่าขึ้นเชียงใหม่ไปอยู่กับพ่อผมเพื่อความปลอดภัย ทั้งที่ตอนนั้นน้องน้ำยังอยู่แค่อยุธยา อาก็มาบ่นให้ผมฟังเพราะโดนพ่อด่า
     



    มึงวิตกจริตเกินไปแล้วอีปุ้ย แม่กูนั่งเครื่องไม่ได้แกแก่แล้วแกเหนื่อยมึงรู้มั้ย มึงควรเฝ้าระวังเตือนภัยให้ตัวเองบ้างนะฮ่าๆ แม้แต่น้องชายแท้ๆ??หนวดก็ไม่เว้นโดนด่าหมดแหละ พอน้องน้ำเดินทางเข้ากรุงเทพเท่านั้นแหละ อายิ่งสติแตก อาปุ้ยไม่ได้ห่วงบ้านห่วงร้านเท่าไรหรอกครับ แต่ห่วงต้นไม้ ดอกไม้มากกว่า อาบอกว่า
     



    พีมคอยดูนะลูก ถ้าอีนังน้ำมันเข้าบ้านเรา แล้วทำให้ต้นไม้ของอาตายแม้แต่ต้นเดียว อาจะไปถล่ม ศปภกร้ากกกกกกกก
     





    แต่ผมว่าเราจะไปโทษรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือผู้รับผิดชอบเขาฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูก ในเมื่อน้ำเป็นสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ มันจะไหลไปทิศทางไหนก็คงไม่มีใครสามารถกำหนดควบคุมได้ และคงไม่มีใครอยากให้เกิดภัยแบบนี้หรอกครับ ทางที่ดีสิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก็คือช่วยเหลือกัน ร่วมมือกันเพื่อให้พวกเราผ่านพ้นความยากลำบากครั้งนี้ไปให้ได้ คนไทยไม่ทิ้งกันอยู่แล้วใช่มั้ยครับ^^




     
    อย่างไอ้ปันมันก็ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกับพ่อมันทุกวัน คุณพ่อของปันท่านปลดตัวเองออกจากวงการการเมืองแล้วครับ ท่านหันมาเป็นที่ปรึกษา นักวิชาการทางด้านกฎหมาย แล้วก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับพวกกฎหมาย การเมืองการปกครองแทน ทำเอาคนฮือฮาไปทั้งประเทศเพราะท่านก็เป็นอีกคนที่ทำงานเก่งมาก



     
    ก็บอกแล้วครับว่าคนดีเขาไม่ค่อยเล่นการเมืองกัน ถึงเล่นก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะอยู่ไปนานๆความดีอาจจะหายไปกับงบประมานแผ่นดินได้(หลบกระสุน) ฮ่าๆ



     
    ส่วนผมกับอาปุ้ยก็บริจาคทั้งสิ่งของทั้งเงิน เราช่วยเท่าที่จะช่วยได้ ท่านหนวดกับคุณนายแม่ก็โอนเงินมาให้ผมบริจาคด้วย ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหนวดไม่โอนเข้าบัญชีที่เขาเปิดรับบริจาคเลย ทำไมต้องผ่านบัญชีผมก่อนก็ไม่รู้ หนวดนี่ขอให้ได้ใช้ลูกก็มีความสุข พ่อโคตรโรคจิตเลยว่ะ



     
    แต่พอสถานการณ์มันหนักๆเข้าพวกเราเลยต้องลงพื้นที่ไปช่วยครับ ไปเป็นอาสาสมัครแพ็คของบ้าง ไปช่วยอพยพผู้ประสบภัยที่ศูนย์พักพิงบ้าง พวกผมก็กระจายๆกันไป
     


    วันก่อนพวกผมไปช่วยอพยพผู้ประสบภัยจากมหาลัยแถวๆรังสิตมาที่สนามกีฬาราชมังคลา การเป็นอาสาสมัครครั้งนี้นอกจากจะได้ช่วยพี่น้องคนไทยด้วยกัน ได้ทำหน้าที่ของนิสิต พวกผมยังได้เพื่อนใหม่ๆต่างสถาบันด้วย ตอนมหาลัยเขาท่วมเรามาช่วย หวังว่าตอนเราท่วมเขาจะไปช่วยนะ ฮ่าฮ่า ล้อเล่นๆ ขออย่าให้ท่วมเลยครับ
     



    ไอ้ฟ่าง ไอ้แทน ไอ้เบียร์ ไอ้คิว ไอ้เชน พวกมันชอบออกพื้นที่ที่มันฮาร์ดคอร์ ที่ๆไม่ค่อยมีหน่วยงานไหนเข้าถึง เอาของไปแจกบ้าง แล้วก็ไปช่วยพี่ๆเจ้าหน้าที่ พี่ๆทหารทำคันกั้นน้ำที่คลองสามวา เพราะพี่โอ๊ตโทรมาบอกว่าคนไม่พอให้ไปช่วย
     




    ไอ้ฟ่างบอกว่าเวลาปกติพี่โอ๊ตไม่ค่อยกลับบ้านหรอก ต้องเป็นเวลาที่มีภัยหรือเวลาที่ประเทศต้องการอาสาสมัครแบบนี้แหละถึงจะได้เห็นหน้าพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตมาเป็นอาสาสมัครช่วยตั้งแต่ตอนน้องน้ำเข้าอยุธยาทั้งช่วยทำคันกั้นน้ำแล้วก็หน้าที่หลักคือช่วยพวกสัตว์เลี้ยงที่มันหนีไปไหนไม่ได้ช้าง ม้า วัว ควาย หมู หมา กวาง บลาๆๆๆ
     






    แต่ไม่รู้ว่าพี่โอ๊ตตามจับไอ้เข้ม(จระเข้)ด้วยรึเปล่า หรือจับไอ้กรีนแมมบ้าได้รึยัง ผมว่าตั้งแต่งูกรีนแมมบ้าหลุดนอกจากคนจะเดือดร้อนเพราะต้องคอยระวัง ไอ้พวกที่ซวยจริงๆคงเป็นงูเขียวที่อยู่เฉยๆไม่รู้เรื่องรู้ราว กำลังหนีน้ำอยู่ดีๆก็โดนจับเป็นผู้ต้องสงสัย เปอร์เซ็นต์ที่มันจะถูกปล่อยตัวคงมีน้อย เฮ้อ
     




    หลายคนอาจจะสงสัยว่าพี่โอ๊ตทำงานอะไร ทำไมถึงได้มาทำคันกั้นน้ำ มาช่วยเหลือคนในช่วงน้ำท่วมแบบนี้ พี่โอ๊ตไม่ได้เป็นทหารนะครับแต่การทำงานก็คงคล้ายๆกัน พี่โอ๊ตเป็นเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนของกรมป่าไม้ และเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าน่ะครับ




    ภูมิเคยเล่าให้ผมฟังว่าพี่โอ๊ตเป็นพวกกินอุดมการณ์ อุทิศตัวเพื่อรักษาป่าและศรัทธาในคุณสืบ นาคะเสถียรพี่โอ๊ตเริ่มเข้าป่ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้ว นานๆทีถึงจะกลับบ้าน พี่โอ๊ตจบตรีวนศาสตร์ แต่จบโทอะไรผมก็จำไม่ได้ แฮะๆ

     
    พี่โอ๊ตทำงานอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แต่ก็มีไปๆมาๆเขาใหญ่บ้างทุ่งใหญ่นเรศวรบ้าง หน้าที่หลักๆคือตระเวนสำรวจและปกป้องผืนป่าในเขตอุทยาน เพื่อป้องกันพวกนายพรานล่าสัตว์ พวกนักการเมือง พวกนายทุนที่บุกรุกตัดต้นไม้


    ผมว่างานแบบนี้เสี่ยงอันตรายมากนะครับเพราะไม่รู้ว่ากำลังไปขัดผลประโยชน์ใคร ไปทับทางพวกคนใหญ่คนโตคนไหนบ้างถ้าไม่มีเพราะหัวใจที่เสียสละและความรักที่อยากทำเพื่อส่วนรวมก็คงไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้
     



    ตอนที่ภูมิเล่าให้ฟังทำเอาผมอึ้งไปเลย ใครจะไปคิดว่าทายาทนักธุรกิจหนุ่ม(โคตร)หล่ออายุแค่ยี่สิบกว่าๆอย่างพี่โอ๊ตจะเลือกไปใช้ชีวิตลำบาก กินนอนอยู่กลางป่า และมีอุดมการณ์ที่แรงกล้าแบบนั้น ภูมิเองก็คงภูมิใจในตัวพี่ชายมากเหมือนกันเพราะทุกครั้งที่พูดถึงพี่โอ๊ต ภูมิจะพูดด้วยความชื่นชมเสมอ
     



    ก็คงอารมณ์เดียวกับไอ้เบียร์ ไอ้ปันละมั้ง เพราะมันสองตัวน่ะชอบทำค่าย ออกค่าย ค่ายอาสา ค่ายพัฒนา ค่ายช่วยเหลือ เรียกว่าไปทุกค่ายนับแทบไม่หวาดไม่ไหว
     


    เห็นไอ้ปันมันตลกๆฮาๆแบบนั้นมันเลือดแรง อุดมการณ์มาที่หนึ่งเลยนะครับ ชมรมรัฐศาสตร์และการเมืองของมันเหมือนหลุดมาจากสมัย 2475 มันเคยบอกพวกผมว่า มันน่ะไม่ได้อยากจะเป็นนักการเมืองหรอก เพราะมันเกลียดนักการเมือง แต่ที่มันเรียนรัฐศาสตร์เพราะอยากจะเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อสันติภาพโลกเหมือนมหาตะมะคานธี ผมเคยล้อมันบ่อยๆว่า แม่เจ้า ยุคนี้มึงจะไปต่อสู้กับอะไร
     
     


    แต่พวกผมรู้ว่าจริงๆแล้วไอ้ปันมันมีความตั้งใจอย่างที่พูด เพราะมันออกค่ายอาสาบ่อยมาก ทำงานอาสาก็บ่อย จนหลายคนบอกว่าที่ไอ้ปันมันเอาเวลามาสนใจ มาทำค่ายแบบนี้เพราะมันรวยแล้ว มันไม่ต้องสนใจอนาคต ไม่ต้องแคร์แม้จะไม่ทำงานเพราะยังไงมันก็มีเงินใช้ไปทั้งชาติ
     



    ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะคิดแบบนั้น แต่ในฐานะที่ผมเป็นเพื่อนไอ้ปัน ผมก็อยากจะถามคนที่พูดแบบนั้นเหมือนกันว่า ทำไมคนที่ร่ำรวยคนอื่นไม่ทำแบบมันบ้าง ทำไมไม่มีใครสนใจห่วงใยชีวิตคนอื่นในสังคมที่เขาด้อยกว่าเราบ้าง เงินทองมันสำคัญก็จริงครับ แต่มันจะไร้ค่าไร้ความหมายทันทีเมื่อเอามาวางข้างๆคำว่าอุดมการณ์
     




    และแม้ว่าสิ่งที่ไอ้ปัน ไอ้เบียร์ และพี่โอ๊ตได้ทำ มันจะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆของนิสิตนักศึกษาที่รักอุดมการณ์คนหนึ่ง แต่ผมเชื่อว่าในวันหนึ่งข้างหน้า ต้นกล้าเล็กๆเหล่านี้จะสามารถหยั่งรากลึกเติบโตแผ่กิ่งก้านให้สังคมพึ่งพิงได้
     










    ผมเชื่ออย่างนั้น^^
     
     
     
     









    ……………………………..










     
     
    วันนี้เป็นวันที่สามแล้วครับที่พวกผมมาช่วยตักทรายที่วิทยาลัยการปกครองคลองหก โดยมีโต้โผใหญ่อย่างไอ้ปันเป็นแกนนำ และผู้ตามที่ดีอย่างพวกผม แถมน้องรหัสจอมกวนตีนของผมไอ้ดินอีกหนึ่งคน ร่วมด้วยเพื่อนรักอันดับหนึ่งของไอ้ภูมิ กร้ากก ไอ้คลื่นก็มาครับ
     







    ส่วนภูมิไม่ได้มาด้วย ที่ภูมิไม่มาไม่ใช่ว่ามันใจดำหรือขี้เกียจนะครับ แต่เพราะในช่วงน้ำท่วมแบบนี้ก็ต้องมีแบคทีเรีย มีเชื้อโรคมากับน้ำบ้างใช่มั้ยครับ ถ้าเกิดมาโดนผิวโดนตัวภูมิก็อาจจะทำให้มันแพ้แล้วไม่สบายได้
     






    ไอ้ฟ่างเลยสั่งห้ามน้องชายสุดที่รักของมันว่าห้ามออกจากห้องโดยเด็ดขาด ถ้าอยากช่วยก็ช่วยดูแลตัวเองดีๆอย่าให้พี่ๆต้องเป็นห่วง ตอนแรกภูมิมันก็ไม่ฟังหรอกครับ มันโวยวาย อาละวาดจะมาด้วยให้ได้หรือไม่ก็ไม่ให้ผมมา แต่พอไอ้ฟ่างแสดงอภินิหารเท่านั้นแหละภูมิก็ยอมฟัง
     





    ถึงกระนั้นมันก็ยังอุตส่าห์โทรเช็คผมตลอดแทบจะทุกๆยี่สิบนาที บางทีผมต้องช่วยพี่ๆเขายกกระสอบทรายมือไม่ว่างรับ มันก็โทรเข้าเบอร์ไอ้เบียร์ ก็ไม่รู้ว่าระหว่างแบกกระสอบทรายกับคอยรับโทรศัพท์ภูมิ อันไหนจะเหนื่อยกว่ากัน เวลามันโทรมาก็ใช่ว่าจะมีเรื่องอะไรให้คุยมากมาย ก็ถามคำถามเดิมๆซ้ำๆ ทำอะไรอยู่ อยู่กับใคร ใส่ถุงมือมั้ย เหนื่อยรึเปล่า ห้ามตากแดด แดดพ่องได้ข่าวว่ากูมาตอนห้าโมงเย็น ตอนนี้ทุ่มแล้วครับคุณภูมินทร์
     






    ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา
    รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
     






    น่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำมันก็โทรมาพอดี


    อือ ว่าไง



    (ทำอะไรอยู่เตี้ย ทำไมรับช้า)กูกำลังทำคุณงามความดีให้เป็นเดชเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล ถ้าผมตอบแบบนี้มีสิทธิ์ถูกภูมิบอกเลิกได้เลยนะครับ ฮ่าๆ


     
    กำลังมัดปากกระสอบทรายแล้วโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ากางเกงน่ะ แล้วมึงทำอะไรอยู่ กินข้าวรึยังผมใช้คอกับไหล่หนีบโทรศัพท์ให้ติดหูเพื่อที่มือจะยังสามารถทำงานต่อได้ ไอ้เบียร์ที่ตักทรายคู่กับผมถึงกับส่ายหน้าเอือมๆ ผมก็ได้แต่ก้มหัวปลกๆขออนุญาตมันพักก่อน เพื่อนมึงแหละผิดเพราะมันเป็นคนโทรมา คึคึ
     



    (ยังไม่กิน รอกินพร้อมมึง แล้วจะกลับตอนไหน มันจะสองทุ่มแล้วนะ)



    ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นพวกไอ้เชนบอกว่าน่าจะดึกๆ


    (ห้ามเกินสามทุ่ม ไม่งั้นจะไปรับ เข้าใจมั้ยพีม)


    ครับท่านครับ เดี๋ยวกระผมจะรีบกลับ งั้นแค่นี้ก่อนนะภูมิ ไอ้เบียร์จะแดกหัวกูแล้ว คนที่ถูกผมพาดพิงถึงมันก็ถึงกับอึ้ง ฮ่าๆ ผมเลยยิ้มกวนไอ้คุณชายอีกหนึ่งดอก



    (เดี๋ยวพีม มัน….อยู่กับมึงมั้ย) เสียงของภูมิเริ่มเข้มขึ้นมานิดๆ อะไรของมันวะอยู่ๆมาถามว่าอยู่กับมึงมั้ย ถามถึงหนี้เหรอ กูไม่มีนะที่ยืมไอ้แทนสองร้อยเมื่อปีที่แล้ว มันก็คงลืมไปแล้ว ฮ่าๆ



    มันไหน มึงหมายถึงใคร



    (ไอ้คลื่น) อ๊ออออออออ ที่แท้ก็….

    หึหึ อ๋อ อยู่ดิ มึงถามถึงมันทำไม หรือว่าคิดถึง มึงจะคุยมั้ยล่ะมันตักทรายอยู่


    (ติงต๊องแล้วมึงไอ้เตี้ย อย่าให้รู้นะว่าแอบไปทำอะไรลับหลังกู ไม่งั้นทั้งมันทั้งมึง….



    เออๆ รู้แล้วๆ…..ครับค้าบบบบ พอผมวางสายจากภูมิก็กลับไปนั่งจับกระสอบทรายให้ไอ้เบียร์เหมือนเดิม มันก็แซวนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้เข้าขั้นจิกกัดให้กระอักเลือดแบบที่ไอ้คิวชอบทำ
     



    แต่ตอนนี้เรื่องที่ทำเอาผมเหนื่อยจริงๆคือเหนื่อยกับไอ้ปันครับ เพราะมันถือแผนที่โลก เข็มทิศ มาพยากรณ์อากาศ มวลน้ำ และทิศทางลมด้วยครับ
     


    พยากรณ์อากาศกับปัญญพัฒน์วันนี้ จะไม่มีแดดในตอนกลางคืน ช่วงเช้าน้ำจะท่วมสูงเหนือตลิ่ง รถเล็กไม่ควรออกจากฝั่งอยู่ดีๆไอ้ปันมันก็พูดเสียงดัง ทำเอาคนที่ตักทราย หรือแบกกระสอบทรายถึงกับหันมามองมันงงๆคงนึกว่าคนบ้า ยิ่งมืดๆอยู่
     



    คือเราแค่มาตักทราย ทำกระสอบทรายนะครับปัน มึงจะอินดี้ไปมั้ยเพื่อน มันคอยควบคุม คอยสั่งเพื่อนว่าถ้าลมมาทางนี้ต้องขนทรายไปทางไหน แม่งช่วยได้เยอะ เฮอะ พี่ๆทหารแล้วก็พวกอาสาสมัครคนอื่นๆพากันขำไอ้ปันไม่หยุด ก็ถือว่ามันช่วยคลายเครียดได้ครับ
     



    บรรยากาศที่นี่ก็เฮฮาเป็นมิตรดีมากๆ ทุกคนมาด้วยความตั้งใจที่อยากจะช่วยเหลือกัน ถึงแม้จะเหนื่อยแต่พวกเราทุกคนก็เต็มที่ครับ
     



    มีหลายๆคนที่เป็นผู้ประสบภัยเองก็มี พี่บางคนมาจากนครสวรรค์ จากอยุธยา พี่เขาบอกว่าทำใจได้เพราะเจอเหตุการณ์แบบนี้ทุกปี ก็เข้าใจว่ามันเป็นภัยธรรมชาติ เลยขอเป็นอีกหนึ่งแรงลงมาช่วยคนกรุงเทพ แล้วก็มีพี่คนนึงบ้านแกอยู่สายไหม ถูกน้ำท่วมเกือบมิดหลังคาเพราะเป็นบ้านชั้นเดียว
     




    พี่เขาพาแม่กับหลานไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วก็มาเป็นอาสาสมัครช่วยคนอื่น สุดยอดมากๆเลยครับ พี่เขาบอกว่า พี่ยังมีแรง มีกำลังก็อยากมาช่วย มาที่นี่นอกจากจะได้ช่วยก็ได้พูดคุยกับเพื่อนใหม่ๆคลายเครียดไปอีกแบบ^_^
     



    ผมว่าก็คงมีอีกหลายคนที่คิดและทำดีแบบพี่ๆเหล่านี้ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนยอมรับและเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ ไม่ต้องโทษว่าเป็นความผิดของใคร เพราะไม่ใช่แค่คุณที่ลำบาก ไม่ได้มีแต่คุณที่เดือดร้อน ไม่ใช่แค่บ้านคุณที่เสียหาย และไม่ได้มีแค่คุณที่สูญเสีย
     



    ยังมีคนที่เขาประสบภัยเหมือนๆกัน และที่สำคัญคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือเสมอ แค่ตอนนี้ยิ้มเข้าไว้นะครับ แล้วมันจะผ่านไป ผมเชื่อว่าทุกครั้งที่ประเทศเราเกิดปัญหา เกิดภัยพิบัติ ในความทุกข์ความลำบากเราก็ได้เห็นน้ำใจของคนในชาติ ความช่วยเหลือที่มากมาย




    ไม่มีใครจะช่วยเราได้เท่าคนในชาติด้วยกัน ผมดีใจและภูมิใจเสมอที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ถ้าภัยพิบัติครั้งนี้จะทำให้บ้านเรากลับมารักมาสามัคคีกันเหมือนเดิม ผมว่าน่าจะคุ้ม ขอให้น้ำครั้งนี้พัดพาสิ่งที่ไม่ดีไปจากบ้านเรา ขอให้ต่อจากนี้ประเทศไทยมีแต่ความสุขนะครับ :D
     








    ผมเชื่อว่าอีกไม่นานพวกเราจะผ่านมันไปด้วยกัน




     
    คิวๆ มัดผมให้กูหน่อย มันทิ่มตาผมปล่อยพลั่วลงบนกองทราย แล้วเดินไปหาไอ้คิวให้มันช่วยมัดผม เพราะเห็นไอ้แทนเอาเชือกฟางมัดผมข้างหน้าให้ไอ้ฟ่างเป็นจุกน้ำพุแล้วผมมันไม่ตกลงมาเกะกะลูกกะตา แถมไอ้แทนมันยังผูกเป็นโบว์ให้ด้วย ผมพนันหมดตัวเลยว่าถ้าไอ้ฟ่างรู้ตัวเมื่อไรไอ้แทนเจ็บตัวแน่ๆ
     







    ไอ้คิว มัดผมให้กูหน่อย แป๊บเดียวไอ้คิวยกต้นแขนใช้ปาดเหงื่อ มันมองหน้าผมเหมือนรำคาญมากๆ ไอ้เต้ยที่นั่งจับกระสอบทรายให้ก็มองหน้าผมกับไอ้คิวสลับไปมา




    ตีนกูไม่ว่าง มึงไปใช้ทาสรักมึงนู่น ไป๊หนอยยยยยยยยยยยย มึงกล้าพูดกับกูแบบนี้ใช่มั้ย ไอ้ฟายยยย
     




    เออ มึงจำไว้เลยนะ คลื่นมัดผมให้กูหน่อยผมเตะทรายใส่ไอ้เชี่ยคิวเป็นการบอกลา ก่อนจะเดินมาหาไอ้คลื่นที่จ้วงตักทรายอย่างเอาเป็นเอาตาย กูใช้ไอ้คลื่นก็ได้โว้ยใช้ง่ายกว่าไอ้คิวเยอะ คลื่นหันมามองผมก่อนจะมันวางพลั่วแล้วถอดถุงมือและเช็ดมือกับกางเกงเพราะมันถอดเสื้อ
     



    พวกไอ้คิว ไอ้แทน ไอ้เชนถอดหมดแหละครับ ยกเว้นไอ้เต้ยกับไอ้ฟ่างเพราะแฟนพวกมันไม่อนุญาต มันเลยใส่เสื้อกล้ามหลวมๆที่ชุ่มเหงื่อจนเปียกไปทั้งตัว เมื่อกี้ก็เพราะเรื่องถอดเสื้อนี่แหละที่ทำให้ไอ้แทนกับไอ้ฟ่างต้องสาดพลังใส่กันจนไอ้ฟ่างแทบจะก่อพายุทรายถล่มวิทยาลัยการปกครอง

    ส่วนผมไอ้คลื่นก็บอกว่าไม่ให้ถอด ไอ้ภูมิไม่มาก็ใช่ว่าผมจะเป็นอิสระนะครับ เหงื่อก็ออก ร้อนก็ร้อนแต่ไม่มีคนอนุมัติกูเลยต้องจำยอมใส่เสื้อยืดเปียกๆต่อไป ให้ตายเถอะซาร่า
     






    มัดแบบไหนคลื่นถามผมด้วยรอยยิ้ม สาวๆที่มัดปากกระสอบทรายอยู่ถึงกับมองมันไม่วางตา



    มัดข้างหน้าให้มันเป็นจุกน้ำพุ แบบไอ้ฟ่างน่ะ มันทิ่มตากูรำคาญว่ะ เปิดเทอมกูจะตัดสกิดเฮดแม่งบอกเสร็จผมก็ก้มลงพร้อมกับยื่นเชือกฟางให้ไอ้คลื่น

     
    ตัดแล้วคงเหมือนเณร โอ๊ย หึหึ พีมมึงไม่ต้องก้ม กูขี้เกียจลงไปนั่งมัด นี่มึงยืนรึยังเนี่ย หึหึ



    สัสอ๊ากกกกกกกกกกกกก ว่ากูทำไม พวกมึงสูงแล้วไง แม่งเอ๊ย ผมเตะเจาะยางไอ้คลื่นสองครั้งติด แต่แม่งจับทางถูกหลบทันซะงั้น


    ฮ่าๆเอ้า นิ่งๆสิ มันมัดยากนะ ทำไมไม่หาหนังยางมามัดดีๆ


    ถ้ากูมีหนังยางกูคงไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากมึงหรอก โอ๊ย เบาๆคลื่น กูเจ็บหัวคนนะไม่ใช่ใยสังเคราะห์



    เจ็บหรอ ขอโทษๆ มึงก็อยู่นิ่งๆสิ อย่าดิ้นกูทำไม่ถนัดคลื่นเดินเข้ามาใกล้ผม จนหัวผมแทบจะชิดอกมันอยู่แล้ว แหยะๆ เหงื่อ


    ก็กูเจ็บ มึงอย่าทำแรงดิวะ

    ครับๆเบาแล้ว เดี๋ยวก็เสร็จ


    เออ เร็วๆ




    ประโยคล่อแหลมนะน้อง ฮ่าๆพี่ทหารคนนึงแซวผมคงทำหน้าโง่ใส่พี่เขานานเกินไป กว่าจะนึกได้ว่าผมกับคลื่นสร้างบทสนทนาแบบใด คนแถวนั้นเขาก็ขำกันเสร็จแล้ว


    กร้ากกกกกกกกกก กูว่าจะไม่พูด แต่พี่เค้าพูดก่อน เดี๋ยวกูจะอัดเสียงไปให้ไอ้ภูมิฟังไอ้มิค ไอ้ขี้ฟ้องผมเลยแจกนิ้วกลางให้มันเป็นอาหารเย็น


    หึหึ อ่ะเสร็จแล้ว โห เหมือนพุดเดิ้ลเลยไอ้คลื่นหัวเราะไอ้มิค ก่อนจะถอยออกไปชื่นชมผลงานของมันที่อยู่บนหัวผม



    พุดเดิ้ลพ่อมึงสิ ตะกวดมันมัดให้ก็ได้แค่นี้ล่ะว๊าฮ่าๆ มึงกลับไปกรอกทรายต่อได้แล้วไอ้คลื่น อู้บ่อยนะมึงเนี่ย ผมยักคิ้วให้ไอ้คลื่นมันหัวเราะส่ายหน้า และบอกว่าทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ฮ่าๆๆ ช่วยไม่ได้มึงอยากว่ากูเป็นหมาพุดเดิ้ลทำไมล่ะ
     



    ทุกคนครับ สู้ๆนะครับ ซุปฯตาร์อย่างปันปันเอาใจช่วย รักทุกคนครับ จุ๊บุๆ ม๊วฟๆเสียงๆหนึ่งมาพร้อมมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู มันถูกส่งตรงมาที่พวกผม
     



    ………………??????” ชักจะหลอนแล้วกู ไอ้ปันมันปีนขึ้นไปก่อเจดีย์ทรายบนยอดกองทราย เสมอหนึ่งว่ามันเป็นเจ้าครองนครแห่งนี้ที่ต้องอยู่สูงกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า ดีนะที่มันดึกแล้ว คนเลยไม่เยอะไม่งั้นล่ะมึงเอ๊ย อายกันยันชาติหน้า



    มึงขึ้นไปเก็บซากอะไรบนนั้นแดกไม่ทราบ ห๊า ลงมาไอ้ฟ่างตะโกนเรียกขำๆ



    นางยักษ์พันธุรัตน์มาตามพระสังข์ทองแล้ว มึงเขียนคาถาหาปลาไว้สิฟ่าง แล้วกูถึงจะยอมลงไปป้าดดดดด นี่สถาปนาตัวเองเป็นพระสังข์เชียวรึ แล้วให้ไอ้ฟ่างเป็นนางพันธุรัตน์?ฮ่าๆโคตรโดนว่ะปัน





    ถุย สังข์ทอง? อย่างมึงคงสังคังมากกว่าไอ้ปันกร้ากกกกก เอาไปสิบล้านไลค์เลยคิว ทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะเยาะไอ้ปัน ผมเห็นพี่ทหารคนนึงแกจะคอยฟังไอ้ปันแล้วแกก็ขำตามมันทุกครั้ง โคตรจะเส้นตื้น ฮ่าๆ



    มึงอย่าสาระแนไอ้ท้าวแสนปม กูดูแลสุขภาพจุ๊กกอแร้อย่างดีไม่เป็นสังคังแน่นอนหืมมม สังคังมันเป็นที่รักแร้เหรอ กูเพิ่งรู้ กร้ากกกก และทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ถ้ากระสอบทรายที่เราช่วยกันทำวันนี้ยังไม่พอ เดี๋ยวเราไปขอกระสอบทรายที่ค่ายมวยมาเพิ่มก็ได้นะครับพี่น้อง ศปป พร้อมช่วยเหลือทุกคน



    สัส มันกระสอบทรายคนล่ะแบบ แล้ว ศปปห่าไรวะ เค้ามีแต่ศปภไอ้เชนแค่หัวเราะและตะโกนด่า แต่ไอ้ฟ่างกำทรายปาใส่ไอ้ปันเลยครับ ที่พวกมันกล้าส่งเสียงดังกันขนาดนี้ เพราะตอนนี้จะเที่ยงคืนแล้ว คนทยอยกลับไปเกือบหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีไม่กี่คน มีกลุ่มพวกผมกับพี่ๆทหาร




    ศพป ย่อมาจาก ศูนย์พิทักษ์และปกปิดความเป็นจริงในชีวิตปัน ครอบครัวกูและพวกมึงเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ


    งั้นกูขอตั้ง ศบย ศูนย์บำบัดและเยียวยาสติปัญญามึงนะปันฮ่าๆ ไอ้แทนเอาไปอีกสามล้านดาว


    เยียวยาเมียมึงเถอะแทน
     








    ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือจะเกิดเหตุการณ์อะไรแต่ เพื่อน ก็สร้างรอยยิ้มให้ผมได้เสมอ
     








     
    วันต่อมาหลังจากที่พวกผมกลับจากไปช่วยทำกระสอบทรายที่รังสิต บ้านไอ้แทน บ้านไอ้เชน บ้านไอ้มิคก็ไม่รอดครับ น้องน้ำมาหาอย่างทั่วถึง สาวๆก็อย่าลืมไปให้กำลังใจพวกมันนะครับ บ้านไอ้เชนกับบ้านไอ้มิคน่ะเตรียมตัวขนของหนีทัน แต่บ้านไอ้แทนก็แย่หน่อยเพราะพ่อกับแม่ไปต่างประเทศพอดี เลยมีแค่พี่เทนกับไอ้แทนที่ช่วยกันคุมคนงานขนของ
     



    แต่ก็ยังดีที่ได้สะใภ้เล็กอย่างไอ้ฟ่างคอยช่วยและให้กำลังใจไม่ห่าง ได้ข่าวว่าพี่เทนเครียดจัดเลยระบายด้วยการชวนน้องชายกับน้องสะใภ้แข่งเจ็ทสกีที่ถนนหน้าบ้าน ซึ่งบัดนี้ได้อัพเกรดตัวเองเป็นคลองไปแล้ว ผมก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ไอ้แทนรวมถึงขอให้พี่น้องที่ประสบภัยทุกคนเข้มแข็งนะครับ สู้สู้^^
     












     
     
    ……………………………
     








     
    ใกล้เปิดเทอมผมก็กลับมาอยู่ที่หอคอยหรือกรงทองที่พวกไอ้คิวมันให้เกียรติขนานนาม วันๆก็ไม่ทำอะไรหรอกครับ กินๆนอนๆ เล่นเกมส์กับภูมิ นานๆทีก็อ่านหนังสือ ย้ำว่านานๆที
     





    แต่ผมก็ไม่ค่อยจะมีสมาธิทำอะไรเท่าไรหรอกครับ เพราะผมมีเรื่องให้คิด และกำลังคิดไม่ตก คุณรู้ไหมครับว่ากลางเดือนนี้มีวันสำคัญอะไร อะอะ อย่าตอบว่าวันลอยกระทงหรือวันหวยออกนะ ถ้าอยากรู้ก็เอาหูมาใกล้ๆสิ วันที่13 พฤศจิกาที่จะถึงนี้เป็นวัน……
     






    วัน……..
     






    วัน…………… วัน
     











     
    วันเกิดภูมิครับ




     
     
    เห็นมั้ยว่าสำคัญแค่ไหน Phum Day เชียวนะ เป็นโอกาสของผมที่จะได้เซอร์ไพรส์มันบ้าง โคตรตื่นเต้นเลยครับ ของขวัญที่จะให้ภูมิน่ะผมเตรียมไว้แล้ว แต่ที่ผมยังไม่พร้อมคือเค้ก ผมตั้งใจไว้ว่าจะทำเค้กวันเกิดให้ภูมิน่ะครับ
     




    แต่ยังหาเวลาแว่บกลับไปที่ร้านให้พี่หนิงสอนไม่ได้เลยเพราะภูมิมันไม่ปล่อยผมไปไหน ขนาดที่ว่าผมให้ไอ้คิวช่วยโกหกภูมิว่าผมจะออกไปซื้อหนังสือเตรียมอ่านของเทอมหน้า ภูมิยังไม่ให้ผมไปเลย มันบอกว่าไม่เชื่อหรอก ว่าคนอย่างผมจะใฝ่รู้ใฝ่เรียนขนาดนั้น เชี่ยแม่งไม่ให้กูไปยังเสือกด่ากูอีกต่างหาก เลวจริงอะไรจริง
     






    ทำไงดีๆ ช่วยไอ้พีมคนนี้คิดหน่อยสิครับ ว่าจะทำยังไงผมถึงจะหนีออกจากวังต้องห้าม คุกหลวงนี้ไปซุ่มทำเค้กมาเซอร์ไพรส์ภูมิได้ หรือผมจะวางยาสลบไอ้ภูมิดี อืม แลดูอำมหิตเกินไปเนอะ เผลอๆแทนที่ผมจะได้ทำเค้กจัดงานวันเกิด อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นทำกระเพาะปลางานสวดอภิธรรมศพ เหอๆ หรือจะบอกภูมิว่าอาปุ้ยไม่สบายผมต้องกลับไปดูแล แต่อาปุ้ยของแรง ถ้าไปแช่งเดี๋ยวของอาจจะเข้าตัว ไม่เอาๆ
     






    อ๊ะ คิดออกแล้วครับ ผมต้องแกล้งชวนภูมิทะเลาะ ใช่ๆ อันนี้แหละเด็ดสุด บ๊ะ บ๊ะ ผมนี่ฉลาดจริงๆวิธีเบสิกๆสร้างสถานการณ์ ไอ้ภูมิมันฉลาดก็จริงแต่มันเซ้นส์ต่ำ มันไม่รู้หรอก หึหึหึ คนหล่อเพลียในความอัจริยะของตัวเองอ่ะครับสาวๆ หึหึ เอาล่ะๆผมได้วิธีที่จะออกจากห้องแล้ว เหลือแค่ว่าผมจะชวนภูมิทะเลาะด้วยเรื่องอะไร ฮา นี่แหละคือประเด็นที่แท้จริง
     






    อืมมมม ชวนทะเลาะเรื่องที่มันเอาแต่ใจดีมั้ยครับ แต่แม่งไม่สมเหตุสมผลว่ะ หรือเรื่องที่มันชอบว่าไอ้คลื่น ไม่ได้ๆเดี๋ยวแม่งหาว่าผมเข้าข้างคลื่นแล้วมันอาจจะฆ่าปาดคอผมได้ คราวนี้คงได้ตายก่อนได้เซอร์ไพรส์ เรื่อง…… เรื่อง….. เรื่องไรดีวะ เรื่อง มือที่สาม อ๊า กูคิดได้ไงวะ เทพอีกแล้วผม คึคึ เอาเรื่องมือที่สามนี่แหละครับเข้าสู้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เข้าเทรนด์ทุกยุคทุกสมัย เป็นประเด็นฮิตสุดคลาสสิคในการชวนทะเลาะเบาะแว้งของคู่รัก
     







    แต่เราต้องค่อยๆทำนะครับ เพราะถ้ากระโตกกระตากโวยวายไป เดี๋ยวจะถูกภูมิสงสัยและอาจจะโดนมันด่าว่าผมเป็นส้นตีนไร เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ผมจะต้องทำคือ ทำตัวเป็นสากกระเบือ ธรรมชาติของสากกระเบือคืออะไรครับ อย่าตอบว่ายันเรือรบนะครับ เพราะสากกระเบือไม่มีขา กรั่กๆ
     






    ผมก็ต้องแบบว่านิ่งๆ เงียบๆ ไม่ว่าภูมิจะพูดหรือจะทำอะไรผมก็ต้องไม่สนใจ ไม่สะทกสะท้าน ไม่แยแส ไม่แคร์ ไม่…..เฮ้ย พอ มึงจะไม่ไปไหน เอาแค่สุกก็พอถ้า(ไม่)ไหม้มากๆเดี๋ยวเป็นมะเร็ง ฮ่าๆ ผมอารมณ์ดีอ่ะครับ ไม่ว่ากันนะ ขำๆเนอะ พีม ชวนชื่น คลายเครียดน้ำท่วม (แต่กูเริ่มเครียดล่ะ)
     




    ตอนนี้ผมก็เสร็จสมอารมณ์หมายในการวางแผนลับกับตัวเองอย่างหฤหรรษ์ เหอๆ กว่าจะคิดออกแต่ละอย่างทำเอาเซลล์สมองผมแทบทะลุ ณ เพลานี้ก็ได้เวลาที่ผมจะต้องเข้าห้องไปบิ้วอารมณ์ แต่แม่งพอเห็นหน้าตัวเองในกระจกแล้วโคตรขำเลยว่ะ ที่ต้องมาเล่นละครตบตาไอ้ภูมิเหมือนตอนที่ไอ้เชนกับไอ้เต้ยหลอกไอ้คิว
     
     


    ถึงแม้ว่าวิธีของผมจะดูปัญญาอ่อนไปนิดแต่มันก็สร้างสรรค์นะคร้าบบบบ ถ้าไม่ครีเอทจริงๆคิดไม่ได้นะเว้ยเอาวะเพื่อเค้กวันเกิดของภูมิ ไอ้พีมสู้โว้ยยยยยยย



    ผมสูดลมหายใจลึกๆเข้าปอดจนท้องป่อง ตั้งนะโมพร้อมสวดคาถาชินบัญชร เรียกเสือสั่งฟ้าเข้าประทับ ยกมือไหว้เอาฤกษ์เอาชัย ลูบหัวตัวเองเป็นอย่างสุดท้าย เป็นอันเสร็จพิธี ป่ะได้เวลาไปเล่นของแล้ว บู่ววววว



    ผมตีหน้านิ่งเดินออกมาหาภูมิที่นอนอ่านหนังสืออยู่โซฟาหน้าทีวี ผมก็อันเชิญตัวเองไปนั่งที่โซฟาอีกตัวก่อนจะเปิดทีวี แต่จนแล้วจนรอดกดรีโมทจนมือจะสึก ทีวีก็ไม่ติด จะถามไอ้ภูมิก็ไม่ได้เดี๋ยวเสียแผน กูจับรีโมททุบโต๊ะแม่ง
     



    “มันไม่ติดหรอกเพราะทีวียังไม่ได้เปิด หึหึ” อ้าวเวร แสรดดดดดดดด กูอายจนขนจมูกสะเทือน ผมแทบจะตีลังกาลงไปหลบใต้โซฟา แต่เดอะโชว์มัสโกออน ผมก็ทำซุยเดินหล่อๆไปเปิดทีวี ตอนเดินกลับเลยแอบเหลือบมองภูมิ แม่งอมยิ้มหัวเราะกูเฉยเลย เดี๋ยะๆ เดี๋ยวกูโกรธจริง



    หึหึ มานั่งตรงนี้มาภูมิถอดแว่นสายตาและวางหนังสือลง ก่อนจะตบโซฟาให้ผมไปนั่งกับมัน กูไม่ใช่อิหนูนะ มาทำเป็นตบเบาะเรียก



    ……………..” ลูกน้องในปากผมเกือบจะกระโจนใส่คอไอ้ภูมิแล้วเชียว แต่ดี๊ที่คิดทันว่าเราต้องเป็น….



    สากกระเบือ ฮ่าๆ



    พีม ได้ยินมั้ยบอกว่าให้มานั่งนี่ผมก็ไม่สนใจน้ำเสียงเจืออารมณ์ไม่พอใจของภูมิ กูจะดูช่วงช่วงกับหลินปิง หมีอะไร๊ตาด้ำดำ สงสัยผู้หญิงที่ชอบกรีดตาดำๆเขาได้แนวคิดมาจากหมีแพนด้า ว่ามั้ยครับเขาอาจจะคิดว่าถ้าทาตาดำแบบๆคงน่ารักแบบหมีแพนด้า อืม ไอเดียดีนะเนี่ย


    ขี้เกียจ


    พีม บอกว่า……”



    โว๊ะ รำคาญว่ะ แม่งเรียกอยู่ได้ผมทำตาขุ่นใส่ภูมิ ก่อนจะรีบลุกเดินเข้าห้องนอน เพราะต้องรีบมาแอบหัวเราะ โอยยยย ไม่ไหวจะฮาหน้าไอ้ภูมิครับ งงเลยสิมึ้งงงงงง


    เข้าห้องมาผมก็หัวเราะจนพอใจและนอนคุยบีบีกับเพื่อนด้วยใบหน้าไม่รับแขกเพราะผมรู้ดีว่าภูมิมันจะต้องตามเข้ามาและยังไม่ทันจะพ้นนาทีบุคคลผู้โชคร้ายที่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของผมก็ตามเข้ามาอย่างที่คาดการณ์ไว้ ผมก็แอ๊บทำเป็นไม่สนใจ




    เมื่อกี้เป็นอะไร โกรธเหรอจากน้ำเสียงราบเรียบของภูมิ ถ้ามันทำเสียงแบบนี้แสดงว่าผมตีบทแตก มันคิดว่าผมโกรธมัน โธ่ๆๆๆๆๆ “หรือโรคบ้ากำเริบ อยู่ดีๆก็ด่า” ไอ้ภูมิ ไอ้สารเลว กูไม่ได้เป็นบ้า สาดดดดด



    เปล่า กูง่วง ปิดไฟให้ด้วยนะผมปิดโทรศัพท์ แล้วคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมโปงเพื่อแอบหัวเราะ ฮ่าๆ พวกที่คุยเอ็มคุยเฟสกับผมคงงงที่อยู่ๆก็ออฟไลน์ออกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย




    พีม เป็นอะไร มาคุยกันก่อนภูมิพยายามจะกระชากผ้าห่มออก แต่ผมยื้อไว้และรีบกลั้นยิ้มก่อนจะรีบใส่หน้ากากเปลี่ยนสีหน้าเป็นฉุนๆ กูนี่ยิ่งกว่าตลาดอารมณ์เลยว่ะ



    อะไรของมึง ห๊ะ!! กูจะนอน


    มึงเป็นอะไร ทำไมอยู่ๆถึงอารมณ์เสียใส่กูมันจับปลายผมของผมพร้อมกับทำหน้าตาจริงจัง บอกแล้วภูมิน่ะเซ้นส์ต่ำ ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวผมภูมิมันจะอ่อนไหวง่ายแบบนี้เสมอ พอเห็นตาคมๆของมันจ๋อยผมก็แทบจะใจอ่อน


    กูไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว จะนอน

    พีม ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไม……”


    “ทำไมมึงชอบเซ้าซี้ห๊ะภูมิ”


    “อะไรนะ มึงว่ากูเซ้าซี้เหรอ”ภูมิพูดเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะว่ามันแบบนั้น ถ้าเวลาปกติผมกับภูมิพูดกัน เล่นกันคำพูดแรงกว่านี้อีก แต่เราก็รู้ไงว่าแค่หยอกกันเล่น ต่างจากตอนนี้ที่ผมพยายามชวนทะเลาะ ย้าฮู้



    “เออ”


    …………………” ขมับไอ้ภูมิเริ่มตึง กรามมันก็เริ่มเป็นสัน ตามันก็เริ่มน่ากลัว อีกไม่นานภูมิต้องกลายร่างแน่ๆ เอาแล้วกู อยู่ดีไม่ว่าดี รนหาที่เจ็บตัว แถมยังต้องเสแสร้งแกล้งทำว่าไม่สนนี่สิ ผมกับมันจ้องตาปล่อยกระแสไฟฟ้าสองแสนโวล์ใส่กัน กูจะท้องมั้ยเนี่ย มึงอย่าเพิ่งอารมณ์ขึ้นนะ อย่าเพิ่งฆ่ากูนะภูมิ



    “กูจะถามอีกครั้ง ว่ามึงเป็นอะไร ไม่พอใจเรื่องอะไร ก่อนที่กูจะใช้วิธีของกูหาคำตอบเอง” เย้สเข้ ขนหัวลุกเลย ถ้าไอ้ภูมิมันใช้วิธีของมันแผนผมแตกแน่ๆ
     



    เออ มึงอยากรู้มากใช่มั้ย ว่าที่กูเป็นแบบนี้เพราะอะไร เพราะกูเซ็งมึงไง พอใจรึยังผมอาศัยจังหวะที่ความคิดและสมองของภูมิกำลังอยู่ในช่วงชุลมุน สลัดผ้าห่มออกจากตัว แล้วลุกพรวดพราดลงจากเตียงแต่ภูมิดันเร็วกว่ามันตามมาตะครุบตัวผมไว้ก่อน



    ปล่อยกูผมดิ้น และขึ้นเสียงใส่ เสียงแข็งๆไว้พีม มึงต้องใส่อารมณ์ ฮ่าๆ



    “มึงเป็นคนบังคับให้กูทำแบบนี้เองนะพีม” เหวออออ อ๊ากกกกไอ้ภูมิมันจะปล้ำผม สาดดดด กัดคอกู ทำไงดีๆ ช่วงนาทีชีวิตแบบนี้เราต้องครองสติให้มั่น ใช้ความสงบสยบความหื่นแบบเถื่อนๆ
     



    เมื่อวาน มึงคุยโทรศัพท์กับใคร ทำไมต้องออกไปคุยข้างนอกน้ำเสียงผมทั้งนิ่งและเรียบ ฟังเองยังขนลุกเองเลยคุ๊ณณณณ ฮ่าๆ แล้วมันก็ได้ผล ไอ้ภูมิยอมหยุดเว้ย แต่ที่ผมพูดเมื่อกี้เหมือนกำลังจับผิดว่าผัวมีเมียน้อยเลย กรั่กๆ อยากหัวเราะว่ะ กลั้นไว้ๆ ห้ามหลุด ภูมิขมวดคิ้วจนหัวคิ้วชนกัน
     


    กูคุยกับโอ๊ต แล้วที่ออกไปคุยข้างนอกเพราะเห็นมึงกำลังจะนอนเลยไม่อยากกวน มึงไม่พอใจกูเรื่องนี้เหรอ
     



    ใช่ เรื่องนี้ แล้วกูก็รู้ด้วยว่ามึงโกหก กูรู้ว่ามึงคุยกับคนอื่น….ใช่มั้ยหน้าไอ้ภูมิช็อคมาก มันดูอึ้งๆ อ้าวๆๆๆ อย่าบอกว่ากูมั่วถูกจุดน่ะ ไม่ใช่ว่าเสือกมีกิ๊กซุกไว้นะ เดี๋ยวกูพ่นไฟใส่แม่งเลย



    พีม มึงเป็นอะไร กูไม่ได้โกหก มึงจะดูโทรศัพท์กูก็ได้อ๋ออออ โล่งอกแต่หน้าไอ้ภูมิแม่งอย่างฮา แล้วก็น่าสงสารด้วยครับ มันคงงงว่าปอบตัวไหนสิงผม ทำไมอยู่ดีๆถึงได้ลุกมาแดกหัวมันแบบนี้
     


    กูจะเป็นอะไรก็เรื่องของกู มึงไม่ต้องยุ่ง ทีมึงคุยโทรศัพท์กูยังไม่ยุ่งเลยกดดันมันเข้าไป ฮ่าฮ่า ผมจ้องตาภูมิด้วยความเคียดแค้นชิงชัง พี่ป๋อ พี่เคนมีอายนะครับเนี่ย แบบว่าอินเนอร์ต้องสื่อผ่านดวงตา น้องภูมิพี่ขอโทษนะ แต่พี่จำเป็นต้องทำ
     



    พีมมึงไม่สบายรึเปล่า กูพาไปหาหมอมั้ยนี่จะหาว่ากูผิดปกติทางจิตใช่มั้ย คิดได้อย่างนั้นผมก็ดิ้นขัดขืนไม่ให้ภูมิกอด อันนี้ความรู้สึกจริง ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้นักแสดงแทน สาดด กูแค่จะเซอร์ไพรส์มึง แต่มึงจะพากูไปหาหมอ




    กูสบายดี มึงไม่จำเป็นต้องพากูไปหาหมอหรอก กูดูแลตัวเองได้ ถ้ามึงไม่ยอมรับว่าคุยกับใครกูว่าเราห่างกันซักพักดีมั้ย ห่างกันซักพักๆมันคงจะดีนะเธอ ห่างกันทำม๊ายยย ทำไมไม่เลิกกัน ฮ่าๆ โอยกูอายตัวเองแรงกอดของภูมิเริ่มคลายลง ภูมิมองผมเหมือนผมเป็นเศษเหล็กที่ไม่มีค่าและไม่คุ้นตา



    มึง…..พีม นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมอยู่ดีๆมึง….กูจะโทรหาโอ๊ตให้มึงคุยกับโอ๊ตนะ มันรีบตามมาจับแขนผมไว้ กรั่กๆๆๆๆ เข้าทางกูแล้วโว้ยยยยยยยยยยย



    ปล่อย กูจะกลับบ้านเน้ ใจความสำคัญ เมนไอเดียมันอยู่ตรงนี้ครับ มาแล้วครับสิ่งที่รอคอย กว่าจะหาไดอะล็อกนี้ได้ เลือดตาแทบกระเด็นT^T




    พีม มันชักกจะไปกันใหญ่แล้วนะกูไม่เคยโกหกมึงมึงก็รู้แล้วกูไม่ได้คุยกับคนอื่นจริงๆ ไม่เคยเลย



    เรื่องของมึง กูบอกให้ปล่อยต้องทำตัวงี่เง่าๆ อย่าเชื่อมันง่ายๆ เหตุผงเหตุผลไม่ต้องฟัง เอาอารมณ์เข้าสู้ ใครสนใจจะจำไปใช้ก็ได้นะครับแล้วคุณ….จะโดนทิ้ง กร้ากกกคิดว่ากูโง่ใช่มั้ย มึงมันก็ดีแต่พูดแหละภูมิพอองค์เริ่มลงคำพูดมันก็มาเองครับ ออสก้าจ๋ารอพี่พีมก่อนนะน้อง



    ไม่


    ถ้ามึงไม่ปล่อย เราก็ไม่ต้องคุยกันอีกป้าดดดดดดดด บทบาทนี้เชือดเฉือด พีระณัฐทำได้ครับทุกคน ไอ้ภูมิหน้าซีดเลย งงเลยสิมึ้งงงงงแม่งมันเงียบเลยเว้ย ผมหลุดออกจากกอดของภูมิและมองมันอย่างเลือดแข็ง ฮ่าๆ ตอนนี้ต้องเลือดต้องแข็งครับเพราะเลือดเย็นมันฟังดูซอร์ฟเกินไป
     





    กูพูดความจริงทุกอย่าง ทุกอย่างแล้วจริงๆพีม แต่ถ้ามึงยังอยากจะกลับบ้านกูก็จะไม่ห้าม จะกลับมาตอนไหนก็บอกนะ กูจะไปรับ ….กูจะรอนะพีม












    TBC >>>>>>>>>>>>>>







    ………………………….





     
    -          ก่อนจะถึงวันเกิดภูมิ ตาลก็ขอแฮปปี้เบิร์ดเดย์น้อง *CassEM~! ย้อนหลังนะคะ อาจจะย้อนไกลไปซักหน่อย แต่ก็คงไม่เป็นไรใช่มั้ยจ๊ะ อิอิ พี่ตาลกลัวจะอวยพรไม่ถูกเพราะไม่แน่ใจว่าหนูเป็นผู้หญิงรึผู้ชายเพราะบางทีเห็นเม้นครับ แต่บางทีก็ค่ะ กร้ากกกกกกกกก ก็ขออวยพรให้สุขภาพกายและใจแข็งแรงนะคะ เกรดเริ่ดทุกวิชา และมีแฟนหล่อๆ(ในกรณีที่หนูเป็นผู้หญิง แต่ถึงหนูจะเป็นผู้ชาย แต่อ่านwe are ก็สามารถมีแฟนหล่อได้เช่นกัน กร้ากกก เพราะพี่ๆผู้ชายหลายคนในเล้าแฟนเขาหล่อกว่าหนุ่มๆ we are เยอะแยะ จริงมั้ยคะพี่badcow)


     
     
     
    -          มาพูดถึงตอนล่าสุดดีกว่า อร้ายยยยยยยยย สงสารน้องภูมิ ไอ้พีมเลือดเย็นมาก ฮ่าๆๆ เป็นไงล่ะภูมิอยากรักมาก พอโดนแกล้งหน่อยไปไม่เป็นเลย



    -          จากสเปฯคิวเต้ย มีหลายคนสงสัยว่า รตป รม มันคืออะไร รมคือรักมากนะคะ ไม่ใช่รักแมท รักมิค รักมั้งกร้ากกกกกกก คิดได้ไงเนี้ยยย ต้องรักมากสิจ๊ะ



    -          แล้วก็ต้องขอโทษคนที่เคยฝากแบนเนอร์อีกครั้งนะคะ คือใครที่แปะไว้ มันจะหายไปตกหน้าอื่นเวลามีเม้นใหม่มาน่ะค่ะ ตาลเลยเปิดอีกเพจสำหรับคนที่จะฝาก คราวนี้ก็แปะกันแบบสนุกสนานเลยทีเดียวเชียว รับรองว่าเห็นแน่นอน ส่วนใครที่จะเอาแบนเนอร์ we are ก็ต้องทำใจหน่อยนะคะ เพราะว่าตาลทำไม่เป็น มันเลยไม่สวยและยาวกว่าชาวบ้าน กร้ากกกก





    -          ช่วงนี้ไม่ค่อยได้จับคอม พอเปิดดูเม้น โอ้วววววววววว9000แทบช็อค รู้สึกว่าตอนที่น้ำยังไม่มาเพิ่งจะ หกหรือเจ็ดพันเองนะ ส่วนพี่ๆน้องๆที่อ่านรวดเดียวแล้วเม้นหรือไม่ว่างไม่สะดวกที่จะเม้นคุยกันก็ไม่ต้องขอโทษหรอกคร๊าฮ่าๆๆ ตาลบอกแล้วว่าไม่ซี อ่านเบาๆชิลๆได้ตามสบายเลย อ๊อ ส่วนใครที่สงสัยอะไร แบบว่าบางทีถามในเม้นตาลก็ไม่ได้ตอบ ไปถามในเฟสในทวิตได้นะคะ





    -          สุดท้ายต้องขอโทษที่ตาลพาหนุ่มๆมาส่งช้า ไม่ได้อยากดอง หรือมีเจตนาเรียกเรตติ้งใดๆทั้งสิ้นนะคะ แต่ตาล……………ไปผ่าฟันคุดมา คุณเอ๊ยปวดตั้งแต่ปากยันไส้ติ่ง กัดสำลีอุดเลือดอยู่สามวันต้องกินโจ๊กด้วยช้อนเล็กๆแบบเบบี๋เพราะอ้าปากไม่ได้ จนแม่ด่าว่า อีเฒ่าทารก ชริส์ มันปวดมากจริงๆค่ะเพิ่งไปตัดไหมมาเมื่อวาน หมอฟันก็ไม่ใช่ชื่นใจไม่แซ่บแบบเชนเล๊ยยย ตาลขอแนะนำคนที่คิดจะผ่าฟันคุดเปลี่ยนใจยังทันนะคะ ปล่อยให้มันขึ้นไปเถอะ เลือกเอาว่าเจ็บบ่อยๆค่อยๆชิน หรือ เจ็บแต่จบ ฮา รักทุกคนเสมอ จ๊วฟฟฟฟฟฟฟ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×