ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #56 : ตอนที่ 51 วันหยุดสุดสัปดาห์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48.25K
      163
      17 ก.ย. 54











    ตอนที่
    51 วันหยุดสุดสัปดาห์





     

    จากวันนั้น วันที่ผมรู้สาเหตุที่ทำให้ไอ้หล่อมันกลายเป็นคนมีแผลในใจ ผมในฐานะชายหนุ่มรูปงามผู้มีเมตตาต่อชาวโลก (ใครอ้วกห๊ะ ใครอ้วก มาตัวๆเลยมั้ย) เลยพยายามเอาอกเอาใจภูมิทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แบบว่าน้องภูมิไม่ต้อง เดี๋ยวป๋าพีมจัดให้

     



    จนภูมิมันสงสัย(หรือรำคาญก็ไม่รู้) หาว่าผมไปกินยากล่อมประสาทมาจนสมองกลับ แค่นั้นแหละ กูเลิกสนใจมันเลยแม่ง ไอ้ภูมิก็ขำใหญ่ มันกอดคอผมโยกเบาๆ ก่อนจะกระซิบคำนึงว่า

     

     



    “ตั้งแต่มีมึงเดินเข้ามาในชีวิตกูก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องพยายามทำอะไรเพื่อกูทั้งนั้นเข้าใจมั้ยเตี้ย เพราะแค่มีมึงอยู่ข้างๆกูแบบนี้ก็พอแล้ว”

     




     

    การที่เราได้เป็นคนสำคัญของใครซักคน มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากจริงๆนะครับ

     



     

    ชีวิตผมช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีไรมาก แม้จะใกล้เทศกาลสอบไฟนอลแล้วก็ตาม เหอๆ ผิดกับหมาภูมิลิบลับ รายนั้นชีวิตวุ่นวายมากกกกกกกก เพราะมันเริ่มแข่งบาสมาได้ซักพักแล้ว แข่งเหนื่อยซ้อมหนัก ก่อนวันแข่งโค้ชก็ให้พวกมันไปเก็บตัว(เก็บกันยังไงไม่รู้ ไอ้ภูมิถึงได้แอบโทรมาหาผมได้ทุกครั้ง ฮ่าๆ)

     




    ผมก็ไปดูมันแข่งบ้างไม่ไปบ้างเพราะสถานที่ในการจัดการแข่งขันอยู่ต่างมหาลัย มหาลัยเจ้าภาพก็อยู่ไกล๊ไกล จะให้ผมไปดูทุกครั้งที่มันแข่งก็คงไม่ไหว(แต่จริงๆแล้ว ก็อยู่แถวๆมหาลัยผมนี่แหละครับ ฮ่าๆๆแต่ที่ผมไม่ไปเพราะขี้เกียจต่างหาก กรั่กๆ)

     




    ส่วนผลการแข่งขัน ทีมไอ้ภูมิก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง พรุ่งนี้พวกมันจะแข่งรอบชิงชนะเลิศกับแชมป์เก่าแล้วครับ และมันคงไม่น่าห่วงเท่าไร ถ้าแชมป์เก่าไม่ใช่มหาลัยเจ้าภาพ คงต้องวัดทั้งฝีมือ วัดทั้งดวงล่ะครับงานนี้

     




    ไอ้ภูมิมันถูกโค้ชเรียกไปเข้าสถานกักกัน?ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ส่วนผมที่อุดอู้อยู่บ้านมาตั้งแต่วันศุกร์ วันนี้เลยได้ฤกษ์ดีออกมาเปิดหูเปิดตาซะหน่อย และสถานที่ที่ผมเลือกไปสิงสถิต ก็คือ บ้านไอ้คิวครับ^O^

     




    เป็นบ้านสองชั้นขนาดกลางๆในหมู่บ้านจัดสรรธรรมดาๆนี่แหละครับ มันย้ายออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้ว เพราะไอ้คิวมันเป็นพวกกระหายความอิสระ ไปอยู่คอนโดก็กลัวคนข้างห้องผูกคอตายเพราะรำคาญเสียงมันซ้อมดนตรี

     





    ถ้าอยู่ที่วังยศวาทินเดี๋ยวพ่อกับแม่อาจจะถูกลูกชายหลอนเวลาที่มันแสดงความเป็นศิลปินออกมา เช่น ตะโกนโวยวายเวลาวาดรูปส่งไม่ทัน ทะเลาะกับถังสี กระดาษ ดินสอประหนึ่งว่ามันมีชีวิต(ซึ่งผมก็เป็นในบางครั้ง)

     





    จึงถือเป็นการดีต่อทุกชีวิตที่ไอ้คิวมันย้ายมาอยู่คนเดียวแบบนี้  โดยเฉพาะพวกผมที่ชอบโดดเรียนมากินเหล้ากับพวกไอ้หนึ่งบ่อยๆ (เยาวชนอายุต่ำกว่า18 ห้ามลอกเลียนแบบนะครับ เพราะมันจะติดจายยยย ฮ่าๆ)

     





    และด้วยว่าโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวมัน เชี่ยคิวเลยหัวใสชวนไอ้แทนมาอยู่ด้วย เพราะบ้านนี้เป็นบ้านแฝด มีบ่อปลาคราฟและสะพานไม้เล็กๆกั้นบ้านทั้งสองหลังที่อยู่ภายในรั้วเดียวกัน

     





     มันยิ่งเข้าทางไอ้ฟ่างเลยครับ เพราะเชี่ยนั้นก็ติสไม่แพ้กัน ไอ้คิวเคยเล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่ครั้งนึงมันเห็นไอ้ฟ่างปีนหลังคาออกไปต่อเติมสิ่งประดิษฐ์ที่มันสร้างขึ้น ไอ้แทนกลับมาเจอเท่านั้นแหละครับ แข่งโต้วาทีปะทะฝีปากกันซะบ้านแทบแตก เป็นท็อปปิคที่ไอ้คิวเอาไว้แซวไอ้ฟ่างอย่างสนุกปากอยู่พักหนึ่ง

     

     



    “แม่งไปตายห่าที่ไหนว่ะ คิวววว ไอ้คิว เปิดประตูให้กูหน่อยโว้ยยยย” ผมยืนแหกปากทั้งกดกริ่งอยู่เป็นนานเชี่ยคิวก็ไม่มาเปิดประตูซักที โทรเข้ามือถือก็ไม่รับ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะเฟ้ย อย่าบอกว่ามึงยังไม่ตื่นอีกนะ แถมประตูเล็กก็เสือกเปิดไม่ได้อีก ด้วยความหงุดหงิดผมเลยเตะประตูเหล็กให้เจ็บตีนเล่นๆ แม่งกูไปหาไอ้แทนก็ได้ว๊ะ

     


     

    ผมเดินมาสองก้าวก็ถึงหน้าบ้านไอ้คู่รักในตำนาน มองเข้าไปในบ้าน อืมมม รถไอ้ฟ่างไม่อยู่ แต่หวังว่าจะมีใครซักคนอยู่บ้านนะ เพราะผมไม่อยากมาเสียเที่ยว ผมกดกริ่งไปด้วยพลางลองผลักประตูเล็ก คราวนี้เปิดได้เว้ย เย้ๆๆๆๆๆ

     

     

    “อ้าว มึงมาได้ไง” เป็นไอ้ฟ่างที่เดินออกมาหาผม ในสภาพใส่กางเกงเลตัวเดียว โชว์ผิวท่อนบนขาวๆ มันใส่ที่คาดผมสีน้ำตาล มีดินสอเหน็บอยู่ข้างหู ส่วนในมือมีเศษกิ่งไม้หรืออะไรซักอย่าง




    “กูอยู่บ้านคนเดียวมันเซ็งๆเลยออกมาหาพวกมึง แล้วนี่มึงทำไรอยู่วะ”

     

    “กำลังจะขึ้นโมเดล กูไม่ได้นอนมาสองคืนแล้วเชี่ย มึงแดกไรมายัง” ไอ้ฟ่างมันทิ้งผมไว้ในห้องรับแขกก่อนจะหายไปในครัว เอ่อ เชี่ยฟ่างสงสัยจะไม่ได้นอนจริงๆ

     

    ผมไม่ได้มาบ้านพวกมันเป็นเดือนแล้วมั้ง เคยรกยังไงก็รกอย่างนั้น โคมไฟหน้าตาแปลกๆ โครงเหล็ก โครงลวด ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ แผงไฟฟ้า กระจัดกระจายทั่วบ้านเลย จะผิดไหมถ้าผมจะบอกว่าที่ห้องผมกับภูมิก็สภาพนี้แหละ

     



    “ข้าวเช้ากินแล้ว แต่ถ้ามึงมีอะไรอร่อยๆกูก็สามารถยัดได้อีก เออฟ่าง แล้วบ้านนู้นไมเงียบจังวะ กูยืนเรียกไอ้คิวตั้งนาน โทรไปแม่งก็ไม่รับโทรศัพท์”

     

    “สงสัยไอ้เต้ยมาค้างมั้ง เมื่อคืนกูได้ยินเสียงเหมือนหม้อกับกระทะปะทะกัน แม่งฆ่ากันตายแล้วกูว่า”

     


    “หึหึ” ไอ้ฟ่างกลับออกมานั่งบนโซฟาตรงข้ามผม พร้อมด้วยน้ำเย็นๆกับแก้วใสๆรูปทรงแปลกตา “แก้วแปลกดีนะ มึงซื้อที่ไหนวะฟ่าง”

     


    “กูทำเอง มันไม่ได้แปลก เค้าเรียกว่ามีสไตส์ และมึงต้องมองว่ามันสวยเท่านั้น เพราะถ้ามึงคิดเป็นอื่นเดี๋ยวศพมึงจะไม่สวย โอเค๊ แล้วน้องกูล่ะ” แม้แต่ความคิดความอ่านกู มึงยังจะบังคับ เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง ฮึ่มมมมมม

     

     

    “ไปเก็บตัว พรุ่งนี้มันแข่งนัดชิง มึงรู้แล้วใช่มั้ย”


     

    “อืม แล้วออกมาแรดข้างนอก มึงบอกมันรึยัง หึหึ ไม่ใช่โดดซ้อมออกมาลากคอมึงกลับกรงทองนะ”

     

    “สัส แล้วนี่มึงอยู่คนเดียวเหรอ ไอ้แทนไปไหน”



    “ออกไปฟู้ดแลน เออ รู้สึกจะไปนานแล้ว มึงกินไรมั้ยพีมเดี๋ยวกูจะบอกมันซื้อเข้ามา”

     


    “อะไรก็ได้” แล้วฟ่างก็คว้ามือถือไปโทรหาไอ้แทน

     

    “เออแทน …..ไม่ต้องมาครับกับกู…… ทำไมรับช้า รอพ่อมึงโอนสายอยู่รึไง……. ซื้อข้าวเข้ามาเผื่อไอ้พีมด้วย …….ไม่รู้มันคงคิดถึงกูมั้ง……เออ ให้ไวอย่าให้กูต้องโทรตามอีก” มันนั่งชันเข่าข้างนึงบนโซฟา แขนข้างเดียวกันก็วางบนเข่า ในมือมีบุหรี่ที่ยังไม่ได้สูบ “เพื่อนมึงมันประสาท ชอบทำให้กูโมโห”



    “หึหึ ไม่ถูกใจก็หาใหม่เลยดิ”

     

    “ปากดีนักนะมึง เดี๋ยวได้พี่ชายผัวเป็นผัวอีกคนหรอก ฮ่าๆ” ไอ้ฟ่าง ไอ้เชี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

     

    ผมนั่งดูทีวีรอข้าวฟ่างขึ้นไปอาบน้ำ ซักพักเสียงรถไอ้แทนก็พร้อมกับเสียงโวยวายเรียกให้ไปช่วยถือของ

     


    “เมียจ๋า แทนกลับมาแล้วจ๊ะ เมียเอาหน้าหล่อๆมารับผัวหน่อยสิจ๊ะ” ซักพักเสียงวิ่งลงบันไดตึงๆก็ตาม มา ผมเห็นหลังไอ้ฟ่างไวๆออกไปหน้าบ้าน และ................

     

    “ไอ่ควายยยยยยยยยยยยยยยย” หึหึ ชีวิตวันหยุดของพวกมึงเป็นแบบนี้นี่เอง

     


    พวกผมนั่งกินข้าวฝีมือไอ้ฟ่าง ที่มีผมเป็นลูกมือ รสชาติก็ไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็ไม่ได้แย่มาก เอาง่ายๆว่าพอกินได้ แต่ไอ้แทนมันคงชินรสมือแฟนมันแล้วมั้ง แต่ผมว่าต่อให้ฟ่างเอาเปลือกฟักผัดใส่ผักตบชวาไอ้แทนมันคงว่าอร่อยอยู่ดี

     




    “ไอ้พีม เทพผู้พิทักษ์มึงไปไหนถึงได้ปล่อยมึงให้ห่างมันได้” เอาอีกแล้ว เมื่อกี้ไอ้ฟ่างเพิ่งถาม มึงก็ยังจะอยากรู้อีกนะเชี่ยแทน



     

    “ไปซ้อมบาส”

     

    “เออ ฟ่างบอกว่ามันจะชิงพรุ่งนี้เหรอ เก่งนี่หว่าน้องเมียกู แล้วมึงจะไปดูไอ้ภูมิมั้ยข้าวฟ่าง”


    “ไปดิ น้องกูแข่งทั้งคน”

     

    “นี่ก็ผัวทั้งคน”




    ผั๊วะ!!!!!!! เต็มๆ ฝ่ามือไอ้ฟ่างเต็มๆ กลางกบาลไอ้แทนเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้า

     

     

    “โอยยยยยยยยย ฟ่างกูเจ็บนะเว้ย พีมมึงดูมันดิ ดูมันทำร้ายเพื่อนมึง”

     

    “เอาอีกซักทีมั้ยวะ ฮ่าๆ” ผมนั่งขำมันสองตัวตีกันไป กินข้าวไป ไอ้แทนก็ขยันแกล้งแฟนซะเหลือเกิน ไอ้ฟ่างก็ไม่รู้โมโหหรืออายผมกันแน่ โดนแหย่ทีไรเป็นลงไม้ลงมือ กัดปากทำตาดุใส่ ไอ้แทนยิ่งได้ใจ





    แม้จะเอะอะเสียงดังโวยวายไปซักหน่อย แต่มันก็เป็นบรรยากาศดีๆในแบบของพวกมัน ในวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้

     

    “เออแทน ทำไมตู้เย็นพวกมึงมีสปอนเซอร์เยอะจังวะ”


     

    “อ่อ กูเอาไว้ดื่มตอนเสียเหงื่อ ทดแทนน้ำที่เสียไปหลังทำกิจกรรมยามดึกไงพีม หึหึ โอ๊ย ฟ่าง กูเจ็บ ฟ่างหยุด เจ็บๆๆ พอแล้ว ฮ่าๆ”

     




     

    เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!

     




    เสียงเหมือนแก้วแตกทำให้ไอ้ฟ่างหยุดทุบไอ้แทน พวกผมมองหน้ากัน ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูบ้านอีกหลัง ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งที่มาของเสียง เพียงแต่พวกผมยังไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ให้กำเนิดเสียง แต่ดูเหมือนไอ้แทนกับไอ้ฟ่างมันจะรู้ มันหันกลับมากินข้าวกันต่อเหมือนชินเป็นเรื่องปกติแล้ว อ้าว แล้วกูล่ะ บอกกูบ้างสิเฮ้ย พวกมึง

     

     




    “เสียงไรวะแทน เหมือนจะดังมาจากบ้านไอ้คิว”



    “หึ แบบนี้ประจำอ่ะมึง ถ้าวันไหนได้ยินเสียงแก้ว เสียงหม้อแตกนะแสดงว่าไอ้เต้ยมา ฮ่าๆๆ เนอะฟ่าง” นี่มันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอผมนึกว่าไอ้ฟ่างพูดเล่น

     


    แล้วเสียงแหกปากโวยวายก็ดังตามมาครับ



     

    “เต้ย มึงเข้าใจมั้ยว่ากูทำไม่เป็น ดูปากนะ กู ทำ ไม่ เป็น โว้ยยย”



    “ก็เต้ยอยากกิน พี่คิวทำเลย ทำเดี๋ยวนี้ เต้ยจะกินน้ำตก”


     

    “ก็บอกว่าทำไม่เป็นๆ มึงอยากแดกมากใช่มั้ย นู่นเจ็ดสาวน้อย ไปแดกให้ท้องแตกเลยไป”




    “พี่คิวบอกเต้ยไปแดกน้ำตกให้ท้องแตกตาย พี่คิวเห็นเต้ยเป็นชูชก พี่คิวไม่รักเต้ย”

     

    “โอยยยย แม่ง เออๆ ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวกูพาไปกิน”




    “เยสสสสสสสสสส รักพี่ที่ซู้ดดดดดดดด”




     

    “เฮ้ย บอกให้ไปอาบน้ำ มึงจะเดินตามกูมาทำไมเนี้ยยยยยย”






    “ก็เต้ยอยากอยู่ใกล้ๆพี่คิว”

     





    “โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”





     

    กร๊ากกกกกกกกกกกก ชีวิตวันหยุดสุดสัปดาห์ของมึงน่าสนใจที่สุดแล้วว่ะคิว

     






    …………………………………..

     






    และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึงครับ ^o^ วันที่พวกไอ้ภูมิไอ้คลื่นจะสร้างชื่อเสียงให้กับมหาลัย การแข่งขันบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยรอบชิงชนะเลิศกำลังจะเริ่มต้นขึ้นครับ บรรยากาศก็คล้ายๆกีฬาภายในมหาลัยผมแหละ แต่อาจจะคึกคัก คึกครื้น ครื้นเครงกว่า ก็นะศักดิ์ศรีสถาบันมันก็ต้องเต็มที่สิ





     

    กองเชียร์ฝั่งนู้นก็จัดเต็มเลยครับ…. แน่ล่ะเขาเป็นเจ้าภาพนิ คนก็ต้องเยอะกว่าอยู่แล้ว แต่ฝั่งผมชมรมเชียร์ก็ใช่ย่อย หอบกันมาโชว์การเชียร์รั่วระดับเทพ นำโดยท่านอุปนายกองค์การนักศึกษาปันปัน และคู่หูดูโอ้ไอ้มิคที่ไปยืนเก๊กหล่อเป็นอาหารตาให้น้องๆกองเชียร์  ปวดหัวกับมันจริงๆ




    รวมถึงประธานชมรมเชียร์อย่างอีกรีนกับสาวๆแก็งค์มันครับ ที่ยกโขยงมาเอ็นเตอร์เทนกันแบบเต็มสตรีม เชียร์กันให้ตายไปข้าง (ข่าววงในจากภูมิบอกว่าเห็นพวกมันมาดูทุกครั้งที่ภูมิแข่ง หึหึ แฟนพันธ์แท้จริงๆนะพวกมึง)

     




    และที่เป็นไฮไลค์สุดๆของงานต้องนี่เลยครับ ประธานรุ่นนิติศาสตร์อย่างราชนิกุลเบียร์ที่เสียสละไปช่วยตีกลอง ยิ้มหวานปล่อยคาริสม่าออร่าผู้ดีให้สาวแท้สาวเทียมทั้งสองมอเคลิ้มกันเป็นแถบๆ

     




    ผม ไอ้เชน ไอ้คิว ไอ้เต้ย ไอ้แมท เพิ่งจะมาถึง เพราะเพิ่งจะเรียนคาบเช้าเสร็จ ไอ้แทนโบกมือเรียกพวกผม เด่นอีกแล้วครับ โดนมองอีกแล้ว ไอ้เชนมึงรีบเดินสิ ฟายยย จะหันไปยิ้มทำไมว่ะ พอมาถึงไอ้ฟ่างก็ลุกขึ้นไปนั่งบนแสตนชั้นสามเพื่อแบ่งที่ให้พวกผม มันกางขาคร่อมไอ้แทนที่นั่งอยู่ต่ำกว่า แถมยังจับหัวไอ้แทนเล่นอย่างกับเป็นหมา ฮ่าๆๆ

     




    “เชนขาาาาาาาา จี้ปวดฟันจังค่ะ เชนช่วยถอนให้จี้ซักทีสองทีหน่อยสิค้าาา” อีจี้อดีตเมียผม ทิ้งน้องบนแสตนวิ่งถลาเข้าหาไอ้เชนทันทีที่พวกผมหย่อนก้นลงนั่ง ไอ้เบียร์ ไอ้ปัน อีกรีน ก็ตามมา ปล่อยไอ้มิคกับพวกพี่ๆปีสี่โซโล่กันไป

     




    “ใช่ค่ะเชน เวลาเคที่เห็นหน้าเชน เคที่ก็รู้สึกเหมือนหัวใจมันหวิวๆ สงสัยจะเป็นโรคหัวใจ” ไอ้แทนถึงกับขำก๊าก เลยถูกอีเคที่ทำหน้าเซ็กซี่ใส่ คราวนี้คนที่หัวเราะลั่นเลยเป็นไอ่ฟ่าง

     




    “อีเคที่ ไหนมึงบอกกูว่ามึงเป็นโรคถวิลหาผู้ชายริซึ่มไงวะ ตกลงมึงเป็นโรคอะไรกันแน่ ห๊ะ” ผมแขวะบ้าง อีเคหันมาทำตาขวางใส่ผมแทบจะทันที




    “นะค่ะเชนขา เคที่ป๊วดปวด”



    “ถ้าเคที่กับจีจี้ว่างเมื่อไร ค่อยมาตรวจแล้วกันครับ^_^


    “กรี๊ดดดดดดดดดด เชนขาน่ารักที่สุด ไม่เหมือนผัวอีกรีน”

     

    “อ้าว สลิดนะค่ะอีนี่ อีขยะเปียก หล่อนอย่าริมาว่าผัวคิวของกูนะค่ะ เพราะถึงมันจะเหี้ย ปากเสีย แต่มันมีของดีสี่นิ้วครึ่งเชียวนะมึง”


    “กร๊ากกกกกกกกกก” สี่นิ้วครึ่ง ฮาม้ามแตกเลยกู ไอ้คิวควันออกหูเลยครับ


     

    “อีห่า คูณสองให้ไว” ไอ้คิวตามไปบิดนมอีกรีน มันร้องกรี๊ดๆๆๆ ซะแสบแก้วหู มีไอ้เต้ยที่นั่งหัวเราะเชียร์แฟนมันซะยกใหญ่ ไอ่พวกนี้แม่งโรคจิต เห็นคนอื่นเจ็บแล้วมีความสุข

     


    “ต๊ายตาย คูณสองเลยเหรอค่ะผัวขา อืม….สี่สองแปด โอ้วววว มาย กั๊ด เท่าของผัวเก่ากูเลย ฟินมั่ก ฟินมั่กมาก” อีกรีนแอ็บทำตาโต เอามือปิดปาก อีกข้างทาบอก แอคติ้งมึงจะดีไปไหนครับคุณเพื่อน



    “เฮ้ย จริงดิ ผัวมึงแปดนิ้วจริงหรอว่ะกรีน อะไรมันจะไปยาวขนาดนั้น”


    “จริงค่ะ”



    “เชี่ยยยยยยยยยยย คนหรือช้างแมมมอธ” ไอ้ปันผู้มีปัญหาในด้านนี้ถึงกับต้องออกมาแสดงจุดยืนเลยครับ ฮ่าๆ อีกรีนมันก็จีบปากจีบคอพูดต่อ อีเคที่กับอีจี้จะสำเร็จความใคร่ทางลมหายใจกับไอ้เชนแล้ว ฮ่าๆ       แม่งคิดได้นะมึงจีจี้ มันบอกว่าได้เสียกันทางลมหายใจก็ยังดีครับ



     

    “จริงๆค่ะมึง หูยยย แปดอ่ะยังน้อยไปเมื่อก่อนอ่ะสิบนิ้วเลยนะค๊า”

            

    “เวร แล้วทำไมถึงเหลือแค่แปดนิ้วว่ะ มันหดลงหรือว่ายังไง” ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะ แหะๆ

    “เปล่าย๊ะ ไม่ได้หด แต่มันขี่มอเตอร์ไซค์ล้ม นิ้วขาดไป2นิ้ว หมอแม่งต่อให้ผัวกูไม่ทัน มันเลยเหลือแปดนิ้ว กร๊ากกกกกกกก”


    OoO


    “อีเขียว อีดอก อีช้างเย็ส กูนึกว่าพูดเรื่องเจี้ยว อีห่ามึงหมายถึงนิ้วเหรอว่ะ พวกมึงเอามันไปไกลๆกูเลยนะ อย่าให้มันเข้าใกล้กูเดี๋ยวคนจะคิดว่ากูรู้จักมัน” ไอ้คิวถึงกับสาปส่งแก็งค์สาวสวยเลยทีเดียว


     

    “ฮ่าๆๆๆ”

     

     

    แล้วพวกมันก็กลับไปหาน้องๆกองเชียร์ต่อ แต่ก็คอยแวะเวียนมาหาพวกผมไม่ขาดเพราะแสตนมันติดกัน มีกองเชียร์บางคนไม่มองในสนามแต่ว่าหันมามองพวกผมแทน เอ่อ……



    ตอนนี้พวกนักบาสมันกำลังวอร์มกันอยู่ วันนี้พวกมันใส่ชุดสีดำ แต่ใส่เสื้อวอร์มสีขาว ข้างหลังสกรีนชื่อมหาลัยตัวใหญ่เบ้อเร่อ ไอ้ภูมิแม่งรูดซิบจนชิดคอหอย ฮ่วย จะเท่เกินไปแล้วนะเฟ้ยยยยยย นี่แค่วอร์มอัพคนแม่งยังจะกรี๊ด แล้วเชี่ยภูมิมันมีแฟนคลับด้วยเหรอว่ะ



     

    “โอยยยยยยยยยมึง ถ้ากูอยากเป็นผู้จัดการทีมนี้ กูต้องจ่ายเท่าไร บอกกูทีกูต้องจ่ายเท่ารัยยยยยยย” ไอ่แบงค์หนึ่งในสมาชิกแก็งอีกรีนชี้กราด อยากได้ทุกคนในทีม

     

    “พี่ภูมิ”

    “สู้ๆ”

    “พี่ภูมิ”

    “สู้ๆ”

    “พี่ภูมิ”


    “ของกู” เสียงอีกรีนครับ ฮ่าๆๆๆ


    “น้องคลื่น”


    “ก็ของกู จับรวบสอง หย่อนลงท้องกินพร้อมกันทั้งคู่เลยค่ะ โฮะโฮะ”

     

    “กรี๊ดดด อิเจ๊กรีนแรง แบ่งพวกหนูบ้างสิ พี่คลื่น พี่คลื่น” เสียงเรียกชื่อไอ้คลื่นดังท่วมแสตน มันเลยหันมาโบกมือและยิ้มให้ สาวๆรวมทั้งหนุ่มๆ?แทบจะตายละลายกันไปกองกับพื้น

    ไอ้คลื่นมันหัวเราะเขินๆและหันมาเจอผม ผมเลยยักคิ้วกลับไป มันส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนมันที่มาเชียร์


     

    “เฮียยยยยยยยภูมิมมมมมมม เฮียพีมเล่นชู้!!!!!!!!!!!!!!!” เชี่ยเต้ยยยยยยย ตะโกนห่าอะไรของมึงว่ะนั่น พอไอ้ภูมิได้ยินเสียงสิบแปดหลอดไอ้เด็กแสบ มันก็เดินหน้านิ่งเข้ามาหาที่แสตน และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ผมตามเตะตูดไอ้เต้ย


     

    “เฮียภูมิ ช่วยเต้ยด้วย เฮียพีมจะฆ่าเต้ย” ไอ้เต้ยวิ่งไปหลบหลังไอ้ภูมิ แล้วแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม ไอ้เด็กเวร

     


    “ทำไมมาช้ากันจังว่ะ กูบอกให้มาตั้งแต่เที่ยง” ไอ้นี่แม่งมาถึงก็เหวี่ยงเลยนะ กูมาดูมึงนี่ก็ถือว่าบุญท่วมหัวแล้วนะเว้ยยยยยยยยยย ฮิฮิ



    “พวกกูเพิ่งเรียนเสร็จ นี่ก็มาทันแล้วไง”


    “เออ แม่งขาดไอ้พีมไปซักคน คงไม่มีผลต่อการแข่งหรอกมั้ง” ถูกเลยเชน


    “แต่มันมีผลกับกู”


    “ฮิ้วววววววววววววววววว”

    “เชี่ย กวนตีนกูแล้วครับ กลับไปหาโค้ชมึงเลยไป ไป๊ แม่ง” อย่ามาปล่อยมุขกระบือแถวนี้นะโว้ยยยย กูอายเค้า ไอ้พวกเพื่อนเวรตะไลนี่ฮิ้วก็ไม่ฮิ้วเฉยๆนะ แม่งมีชูมือยืนขึ้นเล่นเวฟด้วย T_T



    “หึหึ พีม หอมแก้มทีดิ” ยัง ยังไม่เลิกอีก


    “เอาแล้วโว้ย เต้ยๆมานี่ มาดูหนังสด” ไอ้คิวหันไปลากคอไอ้เต้ยที่กำลังแย่งไอแพดของไอ้น้องแมทมาเล่นเกมส์

    “พีม ถ้ามึงกล้าหอม กูให้ข้างล่ะสองพัน หึ” ไอ้ฟ่างที่เกยคางบนหัวไอ้แทน มันยักคิ้ว ยิ้มมุมปากส่งมาให้ผม อย่าว่าแต่สองพันเลยมึง สองหมื่นกูก็ไม่เอา คนในโรงยิมน้อยซะเมื่อไรแล้วเกินครึ่งมั้งที่นั่งจ้องไอ้ภูมิน่ะ


    แล้วระฆังช่วยชีวิตผมก็ดังพอดีที่โค้ชเรียกไอ้เลวภูมิ มันถอดเสื้อแขนยาวมาคลุมหัวผม แว้กก เมาน้ำหอม



    มันวิ่งไปรวมกับเพื่อนๆในทีม แล้วอยู่ๆแม่งก็หันกลับมาทำปากจู๋ส่งจูบมาทางผม เชี้ยยยยยยยยยยยยยยย แม่งกล้ามาก เสียงกรี๊ดทำโรงยิมสะเทือน




    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้องภูมิมมมมมมมมมมมม”



    “แก๊ ถ้าชั้นไม่เชียร์มหาลัยเราฉันจะผิดมั้ยเนี้ยยยยยยยยยยยยย หล่อโฮกกกกมาก”


     

    ผมได้แต่อึ้ง ค้างไปเลย ผิดกับพวกไอ้คิวไอ้แทนที่ฮากันไม่หยุด

     

    “ภูมินทร์คุณค่าที่พีระณัฐคู่ควร” ไอ้ฟ่าง สโลแกนอะไรของเมิงงงงงงงง

     





    ผมพยายามเรียกสติ แต่สติมันไม่แคร์ผม มันไปแล้ว มันไม่กลับมาแล้ว เชี่ยภูมิมมมมมมมมมมมมมมมเพราะมึงคนเดียว

     


     

    การแข่งควอเตอร์แรกเริ่มขึ้นอย่างสูสี ทั้งสองทีมผลัดกันทำแต้ม เสียงเชียร์ดังกระหึ่มแข่งกับเสียงร้องเท้าเอี๊ยดอ๊าดจากในสนาม พวกมันเล่นกันเร็วมาก โคตรเทพ มึงแอบเอาทีมชาติมาลงด้วยป่ะว่ะ และเหมือนว่าฝั่งพวกผมจะเป็นต่อนะเพราะแต้มตอนนี้นำอยู่ จบควอเตอร์แรกแต้มก็ปาไปหกสิบกว่าๆแล้ว



    พอควอเตอร์ที่สองรู้สึกว่ามันจะเริ่มเล่นหนักและแรงขึ้น แต่ไม่ใช่เล่นในเกมส์ หลายครั้งที่มีการปะทะกันแบบเจตนาเอาให้เจ็บ และเหมือนพวกนั้นจะพุ่งเป้าหมายมาที่ไอ้คลื่นเพราะมันเป็นตัวจ่าย แต่ที่น่าแปลกคือทำไมผู้ตัดสินมองไม่เห็น ทั้งที่บางครั้งก็เกิดอยู่ต่อหน้าแท้ๆ เออ พวกกูไม่ใช่เจ้าภาพนี่หว่า

     



    “คลื่นไหวมั้ย”


    “ไหวครับโค้ช”


    “ให้ผมกันไอ้เบอร์แปดมั้ยครับ” ไอ้เอิร์ธเพื่อนในทีมคนหนึ่งถาม ไอ้นี่มันตัวใหญ่สุดเป็นเซนเตอร์ของทีม และที่พวกผมได้ยินเขาคุยกันก็เพราะนั่งอยู่ข้างหลังพวกนักกีฬาเลยครับ

     


    “ไม่เป็นไร ฝั่งนั้นคงอยากรักษาตำแหน่งแชมป์มาก เลยกะเล่นทั้งคนทั้งบาส โค้ชให้คนอัดวิดีโอไว้แล้ว ถ้ามีปัญหาอะไร หรือถ้าหนักกว่านี้เราก็มีหลักฐานจัดการได้ แต่อย่าไปเต้นตามอารมณ์พวกมัน ใจเย็นๆ เล่นไปตามที่เราซ้อมมา แค่ทำให้เต็มที่ก็พอ”



    “ครับ!!!!



    “ดีมาก วันนี้จะแพ้จะชนะก็ไม่เป็นไร โค้ชรู้ว่าพวกเราทำดีที่สุดแล้ว อย่าลืมว่าพวกเราไม่ได้เล่นคนเดียว เล่นบา
    สต้องอยู่กันเป็นทีม ต้องสามัคคีกัน มันถึงจะรอด เข้าใจนะ เอาล่ะ โค้ชจะไปคุยกับผู้ตัดสิน เราคุยกันไปก่อน”



    “ครับ” หลังจากที่โค้ชบอก พวกมันก็ดูจะผ่อนคลาย ได้สติมากขึ้น เพราะดูไอ้น้องไปส์นี่ก็นักเลงใช่ย่อย การควบคุมอารมณ์ของมันก็อาจจะสู้พวกพี่ๆไม่ได้





    ผมเข้าใจนะว่าทุกคนก็อยากจะชนะด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าชนะแบบไม่ใสสะอาด ชนะด้วยการเอาเปรียบคนอื่น มันไม่น่าภูมิใจหรอก และผมเชื่อว่าพวกไอ้ภูมิเป็นนักกีฬา เป็นลูกผู้ชายพอที่จะเล่นในเกมส์ ไม่โต้ตอบพวกนั้นด้วยอารมณ์ อย่างที่โค้ชบอก

     



    “ไอ้ไปส์มึงไม่ต้องรอรีบาวด์นะ เดี๋ยวจะโดนเล่นอีกคน”


    “ครับพี่ภูมิ”


    “ส่วนมึงไอ้ต้น ช่วยกันไอ้เบอร์แปดออกจากไอ้คลื่น ใครประกบมึง”


    “ไอ้หัวเถิกๆอ่ะพี่ภูมิ ที่เล่นปีก”

     

    “อืม เดี๋ยวกูจัดการเอง มีใครเสนออะไรมั้ย”



    “กูว่าไอ้เอิร์ธมึงอย่าเลี้ยงลูกนาน เดี๋ยวจะเจ็บ ถ้าได้ก็รีบส่ง” ไอ้คลื่นหันไปบอก ไอ้เอิร์ทก็พยักหน้าเข้าใจ พวกมันพักเช็ดหน้า ดื่มน้ำ อยู่ตรงม้านั่ง เสียงกลองเสียงเพลงเชียร์ก็ยังดังกระหึ่มไม่มีพัก โต้กันไปมาไม่รู้จักเหนื่อย
     

     


    ไอ้คลื่นมันเดินเข้ามาหาผม และทักทายเพื่อนๆผมด้วย พวกมันก็แซววิดวิ้ว ไอ้คิวเป็นแกน ไอ้แทนตาม ปิดท้ายด้วยไอ้แมท





    “โดนหนักเลยนะมึง ไหวมั้ยวะ” ไอ้ฟ่างถาม



    “ก็พอไหว แต่ถ้าหนักกว่านี้กูก็ไม่รู้ว่ะ แล้ว….. มาดูด้วยเหรอ” มันตอบไอ้ฟ่าง และหันมามองผมต่อ



    “เชี่ยคลื่น กูมานานแล้วเหอะ มึงยังยิ้มให้กูเลยเหอะ”



    “หึหึ”




    “เฮ้ยคลื่น ไมมึงไม่เล่นแม่งกลับเลยวะ” ดูไอ้คิวมันแนะนำครับ ประเสริฐจริงๆ ไอ้คลื่นก็แค่ยิ้มรับตามประสา




    “ใช่ เดี๋ยวพวกกูช่วย” แม้แต่คุณชายเบียร์ยังอยากจัดการไอ้นั่นเลยคิดดู หืม? แล้วมึงเลิกตีกลองแล้วรึชายน้อย ผมหันไปดูว่าใครตีกลองแทนไอ้เบียร์  ฉิบหายไอ้ปัน มันไปเอาแคนมาจากไหนล่ะนั่น เย้สเข้ มึงเป่าแคนได้ตั้งแต่เมื่อไรว่ะปัน

     



    “ถ้าทนไม่ไหว กูคงต้องทำตามที่พวกมึงบอกแหละว่ะ กูไปแข่งแล้วนะ พีมฝากเสื้อหน่อยดิ”

     



    “อืมๆ” ผมไม่ได้แข่งแต่ได้ใส่เสื้อวอร์มตั้งสองตัว คึคึ  ตอนที่คลื่นโยนเสื้อให้ผม ไอ้พวกเพื่อนเชี่ยๆทั้งหลายก็ส่งเสียง ฮิ้วๆๆๆ เหมือนถูกเหยียบหาง จนภูมิหันมามอง มันขมวดคิ้วใส่ก่อนจะหันไปคุยกับน้องๆในทีม แล้วโค้ชก็เรียกไอ้คลื่นไปหา ไอ้คลื่นไปปุ๊บไอ้ภูมิก็เดินเข้ามาปั๊บ
     




     

    “แหม่ หัวกะไดไม่แห้งเลยเว้ยเพื่อนกู” ไอ้เชน ไอ้ ไอ้ ไอ้เลวววว



     

    สาวๆต่างสถาบันบนแสตนส่งเสียงเรียกเสียงกรี๊ดไอ้ภูมิกันไม่ขาด “พี่เบอร์สิบๆ”เลยโดนอีจี้ด่าซะ




    “ชริส์ รำคาญชะนี”



    “ใช่ ชะนีเด็ก ปลวกมากค่ะ”



    “แหม อีนางงาม อีสวย สวยในมิติที่สาม” ไอ้คิวลุกออกไปแกล้งพวกอีจี้ อีกรีนและคงไปช่วยตีกลองเพราะมันไม่สามารถทนดูความทุเรศของไอ้ปันได้อีกแล้ว




    “เหนื่อยมั้ยครับกัปตัน” ไอ้เชนแซว

     


    “โคตรๆแม่งวิ่งกันเร็วชิบหาย พีม ขอน้ำหน่อยดิ๊”



    “แล้วไมมึงไม่กินที่รุ่นน้องมึงเตรียมไว้ให้”

     

    “ก็กูอยากกินน้ำของมึง มีปัญหาไรมั้ย”

     

    “เฮ้ย น้ำไรว่ะ กูคิดนะเนี่ยกูคิด” เชี่ยแทนแม่งเสื่อม ไอ้หล่อนี่ก็พูดไม่เคลีย สาดดดดดดดด





     

    “ใช่เฮีย เต้ยก็คิด มึงคิดมั้ยแมท” ไอ้แมทที่ไม่แคร์โลก มันเอาแต่นั่งเล่นเกมส์ในไอแพดไม่สนใจไอ้เต้ย มันแค่เอาเท้าเขี่ยไอ้เต้ยออกจากรัศมีการเล่นของมันแทนการตอบคำถาม




     

     

    พอควอเตอร์สุดท้ายยิ่งเล่นแรง พวกผมเห็นจะๆเลยว่าไอ้คลื่นโดนศอกไอ้เบอร์แปด จนมันตัวงอต้องเปลี่ยนตัวออกมาพัก ก่อนจะลงไปใหม่ เสียงโห่จากฝั่งเราไม่ได้ทำให้ทีมเราได้ฟาวด์เลย ทั้งศอกทั้งกระแทกไหล่ ไอ้ภูมิก็คอยวิ่งประกบไอ้เบอร์แปดช่วยเบียดออกจากไอ้คลื่น แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรมาก  ก็นะคนที่คอยจ้องจะทำร้ายมันก็ต้องได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว








    “สัส มึงจะเอายังไงห๊ะ มึงจะเอายังไง” ไอ้คลื่นผลักอกไอ้ห่านั่น เมื่อถึงขีดสุดของอารมณ์ คนใจเย็นอย่างไอ้คลื่นก็ไม่ทน ทุกคนทั้งกองเชียร์ ผู้ชมต่างตกใจ ผู้เล่นทั้งสองทีมก็วิ่งกรูเข้าไปขวางหรือไปร่วมว่ะนั่น ผู้ตัดสินก็วิ่งเข้ามาแยก รวมถึงไอ้ภูมิที่ไม่รู้ว่าวิ่งเข้าไปถึงตัวไอ้คลื่นตั้งแต่ตอนไหน






     

    มันดึงไอ้คลื่นที่เหมือนจะฟิวส์ขาด มีไอ้ไปส์กับไอ้ต้นช่วยจับอีกแรง พวกผมทางนี้ก็ต้องจับไอ้แทนไว้เหมือนกัน เพราะมันจะลงไปซัดกับพวกในสนามด้วย โอยยย เลือดนักเลงเก่ามึงกำเริบรึไง

     





    ซักพักกรรมการก็เคลียร์ได้ ทุกอย่างเริ่มสงบ ทุกคนกลับไปตำแหน่งตัวเอง เหลือแค่ไอ้ภูมิยืนอยู่ข้างๆ ไอ้คลื่น พวกมันยืนจ้องหน้ากับไอ้ห่านั่น แม่งโคตรกวนตีน ถ้าจะโกงขนาดนี้มึงก็ไปปล้นเอาถ้วยรางวัลเลยเถอะ เสียงโค้ชเรียกไอ้คลื่นสองสามครั้งมันถึงยอมเดินออกมา แต่ว่าไอ้ภูมินี่สิกลับเดินเข้าไปใกล้ไอ้เบอร์แปดจนห่างกันไม่ถึงถึงก้าว

     





    มันยืนจ้องหน้าตาไม่กระพริบ คราวนี้เงียบไปทั้งสนาม แม้แต่โค้ชหรือผู้ตัดสินก็ยังไม่กล้าเข้าไป ผมเองก็ร้อนๆหนาวๆ เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าภูมิเป็นยังไง เกิดมันบ้าดีเดือดขึ้นมาตอนนี้ ไอ้นั่นคงไม่เหลือซาก





    ไอ้คลื่นมันคงเห็นท่าไม่ดี เลยเดินกลับไปจะดึงภูมิออกมา แต่ว่ามันก็ต้องชะงักทั้งที่กำลังจะถึงตัวภูมิ เสียงของภูมิไม่ดังมาก แน่มันก็หนักแน่น สะท้อนไปทั่วทั้งโรงยิม

     















     

    “ถ้ามึงทำ “เพื่อน” กูเจ็บอีกแค่ครั้งเดียว กูจะทำให้มึงคลานไปกราบตีนมัน จำไว้”

     

     



     

     




    ความรู้สึกของผมในตอนนี้เป็นยังไง ผมก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน ผมรู้แค่ว่า ผมดีใจที่ได้รักผู้ชายอย่างภูมิ

     






    และในที่สุดพวกมันก็ชนะครับ วู้ววววววววววววว สุดยอด

     






    แต่ชัยชนะที่ได้ก็คงไม่ได้มีความหมายมากไปกว่า ความภาคภูมิใจ มิตรภาพ ไม่ใช่แค่นักกีฬาในทีม แต่รวมถึงทุกๆคน ทุกกำลังใจ ทุกๆสียงเชียร์ที่ร่วมส่ง ร่วมตะโกนมันออกมาจากใจ พวกนักบาสมันกระโดดกอดคอกัน ก่อนที่ภูมิจะสั่งทุกคนบูมหาลัย พวกผมก็ลุกขึ้นกอดคอกันบูมสุดเสียง





    ผมเห็นภูมิกับคลื่นกอดไหล่กันบูม ก่อนที่พวกมันจะกอดกัน แม้จะดูแข็งๆทื่อๆไปซักหน่อย แต่ภาพนี้ก็จะอยู่ในความทรงจำดีๆของผมไปอีกแสนนาน

     



    ไอ้ภูมิเดินเข้ามาที่แสตน ผมส่งยิ้มล้อมัน






    “เท่ได้อีกนะเนี่ย” มันส่งยิ้มกลับมา



    “หึ ก็ตามบท”



    “บท? บทไรวะ”
















    “พระเอก”

     

     

     

     



     

    สาดดดดดดดดดดดดดดด








    กีฬาจบ อารมณ์ไม่จบพวกผมก็พากันมาเลี้ยงฉลองหมูกระทะเรียกว่าปิดร้านฉลองเลยครับ แต่ล่ะคนก็พาแฟน พาเพื่อนมาด้วย น้องๆเพื่อนๆในทีมบาสก็เรียกร้องให้พี่คลื่น พี่ภูมิมาร้องเพลง แล้วเชี่ยคลื่นแม่งร้องแต่ล่ะเพลง

     



    ที่หนึ่งไม่ไหว ไอ้ภูมิแย่งไมค์มาร้อง ไม่มีเบอร์หนึ่งถึงสองคน ไอ้พวกข้างล่างก็เชียร์ เอ้ว เอ้ว อย่างกับเชียร์มวยคู่เอก โดยมีแกนนำคือไอ้คิว และตัวดันอย่างไอ้แทน มันเก๋าถึงขนาดเอาเหล้าไปให้ไอ้คลื่นบนเวที

     


    ไอ้คลื่นแม่งเมารึเปล่าไม่รู้ มันขึ้นมาต่อก๊อกสองด้วยเพลง รักคนมีเจ้าของ ปิดท้ายด้วย ชู้ทางตา นี่มึงกะเหมาไอน้ำทั้งอัลบั้มเลยใช่มั้ย  ไอ้ภูมิก็ยอมซะที่ไหน มันเลยตอบโต้ด้วย สาปแช่งพวกแย่งแฟน เหอๆ มันส์พะยะคะ ผมอยากได้ยาดม ยาอม ยาหม่องซักสองโหล

     


     












    จะคุยกับเพื่อนก็พูดไปสิ เล่นบีบีก็เล่นไปสิ จะเต้นก็เต้นไปสิ ก็ไม่ได้ยุ่งสักหน่อย

    อยู่ตั้งห่างก็เห็น แถมคนอื่นก็อยู่เป็นร้อย ต้องมาคอยระแวงอะไรหนักหนา




    ก็อยากน่ารักมากมากทำไม อยากจะเด้งมากมากทำไม จะไม่ให้ชอบยังไง มันห้ามไม่ไหวนี่นา
    อยากจะทำไม่เห็น เธอก็เด่นอย่างกับนางฟ้าแสงของเธอมันพุ่งเข้ามาใส่กัน



     แฟนเธอจะมีไหม ไม่ได้สนใจไม่เกี่ยวกับฉัน
    ไม่มีปัญหา คบด้วยตาแล้วกัน ไม่ผิดกฎหมาย



    ถูกอกถูกใจก็เลยต้องมอง จ้องนานเป็นธรรมดา ขอเป็นแค่ชู้ทางตาหน่อยได้ไหม
    ไม่เจตนาจะกงจะกวน หรือว่าชวนไปทำอะไร ก็แค่รักเธอด้วยสายตา



    ที่จริงแค่เขินก็พูดมาเหอะ อายเล็กน้อยก็พูดมาเหอะ แอบปลื้มก็พูดมาเหอะ มันช่วยไม่ได้นี่นา
    ปลอมตัวมายังรู้ ซ่อนไม่อยู่หรอกแววนางฟ้า แสงของเธอมันพุ่งเข้ามาใส่กัน





    แฟนเธอไปอยู่ไหน ไม่ได้สนใจไม่เกี่ยวกับฉัน
    ไม่มีปัญหา กิ๊กด้วยตาเท่านั้น ไม่ผิดกฎหมาย




    ถูกอกถูกใจก็เลยต้องมอง จ้องนานเป็นธรรมดา ขอเป็นแค่ชู้ทางตาหน่อยได้ไหม
    ไม่เจตนาจะกงจะกวน หรือว่าชวนไปทำอะไร แค่มากิ๊กกันด้วยสายตา

     

     






    เอาจริงๆเลยนะคือผมก็เขินๆอยู่เหมือนกัน พวกมันเล่นร้องไปมองผมไป ไอ้พวกที่ไม่รู้คงได้รู้วันนี้แหละกูว่า พรุ่งนี้กูคงดังไปทั่วมอ ในหัวข้อ อดีตเดือนวิศวะและเดือนสถาปัดดวลเพลงจีบหนุ่มศิลปกรรม

     





    กูควรจะดีใจมั้ยเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

     








    เพลียกับพวกมันจริงๆ

     







    T_T

     

     
















    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>





    …………………………………

     

    -          ขอยินดีกับแชมป์บาสนะคะคุณภูมิและคุณคลื่นและทุกๆคนในทีม คงคุ้มค่ากับที่ขยัน อดทนพยายามซ้อมกันมาเนอะ


    -          ช่วงนี้หมอเชนขายดีเป็นพิเศษ(เพราะคนทำแฟนเพจชอบพี่เชนรึเปล่าหว่า ฮ่าๆ) ยังไงก็อย่าลืมน้องภูมินะคะ เดี๋ยวพระเอกเราจะน้อยจายยยยยยยยยยย


    -          ใครที่รีเควสคิวเต้ย อดใจรอซักนิดนะคะ ไว้ปิดเทอมก่อน มาแน่นอน

    -          และสุดท้าย ท้ายสุดมีแฟนอาร์ตเริ่ดๆมาให้ดูคะ จากน้องๆผู้น่ารักทั้งหลาย ถ้าใครอยากดูเต็มๆเยอะๆก็เข้าไปดูในเพจนะคะ หุหุ

    -          แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าจ้า




    อันนี้แทนฟ่าง แทนหล่อมาก แต่แลดูเกรงๆ ฮ่าๆๆ



     

     





     
    ส่วนอันนี้ภูมิพีมและเสือน้อยค่า น้องภูมิซุกอกพีมดูดนมหมี>o<



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×