ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #37 : special แทนฟ่าง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 52.94K
      214
      22 พ.ค. 54






    Special
    แทนฟ่าง



     
    ขณะนี้เวลาห้าทุ่มครึ่งโดยประมานเวลาที่ชาวบ้านตาดำๆคนธรรมดาทั่วไปกำลังนอนหลับสบาย แต่กระผมไอ้แทนคนนี้กำลังจะบินครับ เพราะขับรถแบบเหยียบจมเข็มไมล์ ยิ่งถนนโล่งๆผมแทบจะดริฟโชว์แต่กลัวจะตายก่อนไปง้อเมีย นี่แหละครับสาเหตุที่ผมยังไม่นอน
     



    ไอ้พีมมันโทรมาบอกผมว่าฟ่างกำลังอาละวาด((เดี๊ยะๆไอ้เตี้ย มาว่าที่รักกู เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย) พอผมโทรกลับหาฟ่างมันก็พูดกับผมแค่คำเดียว
     

    “ไอ้เหี้ย” สรรพคุณสุดแสนจะพรรณนาหาความหมาย แล้วพ่อท่านก็ตัดสายไปเลย ผมงงมาก ตลอดเวลาที่ขับรถจากบ้านตัวเองจนมาถึงหน้าคฤหาสน์หลังนี้ ผมก็ยังคิดไม่ออกว่าผมทำอะไรให้ฟ่างไม่พอใจ
     

    “อ้าวคุณแทน มาดึกจังครับ”พี่จักร รปภ.ของบ้านไอ้ฟ่างก้มทักผมด้วยรอยยิ้มทันทีที่ผมกดเลื่อนกระจกลง
     

    “พอดีมีธุระกับข้าวฟ่างนิดหน่อยน่ะครับ” พี่จักรยิ้มพยักหน้า ไม่นานประตูอัลลอยสูงตระหง่านก็เลื่อนเปิดอัตโนมัติผมบอกขอบคุณและยิ้มให้พี่เขาก่อนจะขับรถเข้าสู่วัง เหอๆ ก็มันไม่เหมาะที่จะเรียกว่าบ้านนิครับ
     

    ประตูหน้าบ้านกับตัวบ้านห่างกันเกือบสามกิโลได้มั้ง เคยมีละครมาขอถ่ายทำตรงห้องรับแขกด้วย ก็ธรรมดาแหละครับบ้านประธานธนาคารนิ ไม่อลังการก็ให้มันรู้ไป ไหนจะส่งออกเครื่องหนัง อัญมณีอีก ไม่นับธุรกิจยิบย่อยอีกร้อยแปด พรรณนาทั้งวันก็ไม่หมด
     

    “พี่นิ่ม สวัสดีครับ”

    “สวัสดีคะคุณแทน มาซะดึกเลย มาหาน้องฟ่างเหรอคะ”

    “ครับ พี่นิ่ม แล้วฟ่างนอนแล้วเหรอครับ” จริงๆอายุพี่นิ่มก็น่าจะเรียกว่าน้าถึงจะถูก แต่เพราะเป็นพี่เลี้ยงมาตั้งแต่พี่โอ๊ต เลยเรียกว่าพี่ ผมเองก็มาบ้านนี้บ่อยจนสนิทกับพี่ๆรปภ แม่บ้าน คนสวนแล้วล่ะครับ


    “เมื่อกี้พี่นิ่มได้ยินเสียงเอะอะมาจากข้างบน น้องภูมิร้องลั่นบ้านเลย”
    เหอๆไอ้ฟ่างคงแผลงฤทธิ์ใส่คุณหนูภูมิแน่ๆ

    “มันคงเล่นกันมั้งพี่นิ่ม งั้นผมขอตัวไปหาฟ่างก่อนนะครับ”


    “คะ เชิญคะ” ผมรีบขึ้นมาชั้นสอง และเลือกที่จะไปห้องไอ้ภูมิก่อน เคาะประตูสองสามครั้งไอ้ภูมิก็เปิดประตูในสภาพหน้างอหูมันมีโทรศัพท์แนบ คงคุยกับเชี่ยพีมนั่นแหละ



    “ภูมิ พี่มึงล่ะ”

    “กลับห้องมันแล้ว กุญแจสำรองอยู่ข้างคอม แม่ง มีเรื่องกันทีไรกูเดือดร้อนทุกที”

    “เออน่า  เป็นนน้องเมียอย่าริมาว่าพี่เขย” จะว่าไปผมกับไอ้ภูมิก็คบกันหลายสถานะนะครับ มันเป็นทั้งเพื่อน แฟนเพื่อน น้องแฟน บ๊ะ เยอะแฮะ


    ผมเบียดไอ้ภูมิเข้าไปหยิบกุญแจ มันก็กลับไปคุยโทรศัพท์ต่อ  ทำไมต้องมีกุญแจสำรองน่ะเหรอครับ ก็เพราะเวลาทะเลาะกับไอ้ฟ่างมันชอบล็อคห้องไงครับ มันรู้ว่าผมจะมาและต่อให้เป็นเป็นเทพเจ้ามาจากไหนมันก็ไม่เปิดให้หรอก


    ผมค่อยๆไขประตู ค่อยๆเปิด ปิดและล็อคให้เบาที่สุด แอบย่องเข้าห้องลูกชายเค้าผมจะโดนจับมั้ยเนี่ย


    ในห้องค่อนข้างมืดเพราะมีแค่แสงจากโคมไฟหัวเตียง เมื่อสายตาผมเริ่มชินกับแสงสลัว ผมก็เจอไอ้ตัวดีนอนหลับพริ้ม หายใจฟี้ๆ


    ผมค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงของฟ่าง และเอื้อมมือไปลูบแก้มมันเบาๆ คิดอะไรอยู่ครับคนดี มึงโกรธกูเรื่องอะไร ทำไมถึงได้หลับทั้งที่คิ้วยังขมวดมุ่นอยู่เลย ยิ่งมองยิ่งหล่อนะหมาฟ่าง แม้แต่ตอนนอนก็ยังหล่อ
    แต่ดูไปดูมาผมว่าแฟนผมมันน่ารักมากกว่าหล่อนะ คึ


    ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ผมเริ่มมองว่าฟ่างมันน่ารัก ถึงใครต่อใครจะชมว่ามันหล่อแต่ในสายตาผมข้าวฟ่างมันน่ารัก


    ผมปัดเส้นผมออกจากหน้าใสๆนั่นอย่างเบามือ ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากและคิ้วมันให้คลายออก ทำไมมึงหลับลึกจังฟ่าง ถ้ามีโจรขึ้นบ้านจะเหลืออะไรมั้ย หื้ม


    ฟ่างขยับตัวนิดๆที่ถูกรบกวนเวลานอน แต่มันก็ไม่ตื่นยิ่งมันไม่ตื่นผมยิ่งได้ใจ ลักหลับแม่งเลย ฮ่าๆ อยากนอนยั่วดีนัก
    ผมระดมจูบมันตั้งแต่หน้าผาก ปลายจมูก แก้ม คาง และ ริมฝีปากสีส้มๆ ยิ่งจูบยิ่งหวาน จนไม่อยากห่าง



    “อื้อออ”
    คนหลับลึกเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ผมยอมถอนจูบแต่ยังไม่ผละออกจากปากฟ่าง “แทน” มันลืมตามามองผมตาแป๋วเลย
     
    มันมองผม ทำหน้างงๆ ฟ่างมันเป็นโรคประหลาดอยู่อย่างนึงคือ สมองไม่ทำงานหลังตื่นนอน ต้องผ่านไปซักสองสามนาที ร่างกายมันถึงเริ่มปกติ รับรู้ข้อมูล ตอนนี้มันไม่ค่อยรู้ตัวหรอก อาจจะคิดว่าตัวเองฝันอยู่ล่ะมั้ง


    ช่วงนี้ถือเป็นนาทีทอง ผมสั่งผมแกล้งมันยังไงก็ได้ มีครั้งนึงมันตื่นมา งงๆ ผมก็สั่งให้เต้นเพลงช้าง มันก็ลงจากเตียงไปร้อง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า แม่งฮาจนผมเหนื่อย


    แต่ที่ผมชอบแกล้งบ่อยสุดคือหากำไรให้ชีวิต จะจูบ จะกออด จะหอมทำได้หมด
    ผมชอบกลิ่นของฟ่าง มันหอมเหมือนกลิ่นแอปเปิ้ล ยิ่งได้อยู่ใกล้ยิ่งสดชื่น มันเป็นกลิ่นธรรมชาติแบบผู้ชายที่ไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่ใช่หอมจนน่าเวียนหัวแบบน้ำหอมของผู้หญิง


    ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันตั้งแต่ผมเป็นแฟนกับฟ่าง ผมรู้สึกไม่ค่อยถูกกับกลิ่นเครื่องสำอางเท่าไร มันยังไงไม่รู้ เหม็นๆน่ะ


    “แทน”

    “หืม”

    “ฟ่างง่วง”

    “อืม นอนสิ เดี๋ยวกูนั่งเฝ้าเอง”

    “แทน”

    “ครับ ว่าไง”

    “ง่วง”

    “อืม นอนซะนะ แทนอยู่กับฟ่างแล้ว”



    “อื้ม” แล้วมันก็หลับไปอีก เคสตื่นมาเพื่อหลับไม่ค่อยเป็นเท่าไร แต่เป็นแบบนี้มันโคตรน่ารักเลยว่ามั้ยครับ ทั้งที่ฟ่างก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย คงเพราะความเป็นธรรมชาติของฟ่างคือสิ่งที่ทำให้ผมหลงรัก ไม่ต้องพยายามทำตัวให้น่ารัก เป็นฟ่างแบบนี้แหละดีแล้ว เพราะสำหรับผมไม่ว่าฟ่างจะเป็นยังไง ผมก็รักมันอยู่ดี



    เพราะฉะนั้นคืนนี้ขอนอนกอดแล้วกันนะ พรุ่งนี้ค่อยเคลียร์ หึหึ
     




    ………………………………


    ตุ้บ


    “โอ๊ย เชี่ยแม่ง”


    “ใครให้มึงเข้ามา แล้วใครใช้ให้มานอนกอดกู” ผมพยุงตัวลุกขึ้นคลำก้นตัวเอง กระดูกสะโพกกูหักมั้ยวะ โฮยยย ผมจำได้ว่าเมื่อคืนผมนอนกอดไอ้ฟ่าง จนหลับไปด้วยกันทั้งคู่ ตื่นเช้ามาทำไมกูตกจากเตียงแบบไม่รู้ตัวได้วะ


    “มึงถีบกูเหรอฟ่าง”


    “เออ” มันลอยหน้าลอยตาตอบ แต่ผมเห็นนะว่ามันแอบกระถดตัวถอยหนี


    “มึงเป็นอะไร โกรธกูเรื่องอะไร” ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ค่อยๆนั่ง ค่อยๆเอื้อมมือไปหาเหมือนพวกเกลี้ยกล่อมคนเมายาจะฆ่าตัวตาย

    ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมช่วงหลังๆไอ้ฟ่างมันถึงงอแงนัก อะไรไม่ได้ดั่งใจ พ่ออาละวาดหมด


    “อย่ามาใกล้นะ ไปให้พ้น ไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้า” พลั่ก หมอนเต็มๆหน้าผมเลยครับ ผมอาศัยจังหวะที่มันเผลอ และใช้ความไวส่วนตัวกระโดดทับไอ้ฟ่างไว้ได้ทั้งตัว คิดว่ามันจะทำไงล่ะครับ มันก็ดิ้นสิ เห็นตัวบางๆอย่างนั้นมันแรงเยอะนะครับ กว่าจะเอาอยู่หอบแดกเลยว่ะ


    “สัด ปล่อยกู” ไอ้ฟ่างยังดิ้นขลุกๆแม้ว่าจะถูกผมทับ ข้อมือมันก็ถูกผมกดไว้กับที่นอน เหงื่อเม็ดเล็กๆเกาะตามไรผม หน้าใสๆของมันก็เป็นสีชมพูเข้ม คงทั้งเหนื่อยทั้งโกรธ แต่สรุปยังไงก็น่ารักล่ะว๊า “ปล่อยนะ ปล่อยๆๆ”


    “ไม่ จะไม่ปล่อยจนกว่ามึงจะบอกกูก่อนว่าโกรธกูเรื่องอะไร” ไอ้ฟ่างเลิกดิ้นทันทีที่น้ำเสียงผมเปลี่ยนไป ไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่อยากใช้เสียงเย็นๆนิ่งๆแบบนี้มาขู่มันหรอกนะ เดี๋ยวก็ได้ร้องกันพอดี น่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ มันเริ่มเบะปากแล้ว ไม่เกินสิบวิ มันร้องแน่ๆ
     

    “เป็นอะไร ไหนบอกแทนซิ หื้ม”


    ………………..” ไอ้ฟ่างกัดปาก มันเอียงหน้าหลบสายผม


    “ฟ่างครับ ฟ่างโกรธแทนเรื่องอะไร บอกแทนได้มั้ยคนดี แทนไม่รู้จริงๆว่าทำอะไรให้ฟ่างไม่พอใจ” มันตวัดตาโตๆมามองผม แล้วก็หลบตาในเวลาอันรวดเร็ว


    “มึงอ่ะสันดาน ฮึก มึงมีคนใหม่”


    “เฮ้ย มีตอนไหน กูอยู่กับมึงยี่สิบสี่ชั่วโมง”
    เวรแล้วไง กูมีตอนไหน อย่าว่าแต่ทำเลย แค่คิดก็ไม่เคย


    “มึงไปเอามาจากไหน ว่ากูมีคนใหม่” ผมจับคางไอ้ฟ่างให้มันหันมาสบตา มันยอมหันมาแต่หลุบตามองอกมองท้องไปเรื่อย

    “ฟ่าง บอกมา มึงเห็นกับตาหรือว่าไอ้เวรหน้าไหนมันพูด” ผมก็เริ่มมีอารมณ์ อารมณ์โกรธนะครับอย่าคิดเป็นอื่น ก็แน่ล่ะผมไม่ได้ทำอะไรผิดนิ แล้วอยู่ๆก็มาถูกโกรธแบบนี้

    “ข้าวฟ่าง”


    ….ในเฟช”


    “ห๊ะ ในเฟชเนี่ยนะ” โบรานว่าคนเราถึงคราวซวย อยู่เฉยๆมันก็ซวย


    “ใช่
    !! มีคนมา ฮึก ทักมึงตั้งเยอะ มีแต่ ฮึก คนชอบมึง” มันตวัดตาโตๆมามองผม น้ำตาใสๆหยดเบ้อเร่อจะร่วงแหล่ไม่ร่วงแหล่ ผมเลยชิงจูบซับขนตาให้ก่อน โกรธเพราะเรื่องนี้เนี้ยนะ กูขอไปลาตายสามนาทีนะครับที่รัก


    “โถ่ นึกว่าเรื่องอะไร พวกนั้นก็แค่เข้ามาทักทายเฉยๆ”

    “มึงเม้นตอบด้วย
    !!

    “ก็มันเป็นมารยาทไง เดี๋ยวเค้าจะหาว่ากูหยิ่ง เลยตอบๆไป แล้วก็ไม่กี่คำด้วย มีแค่ ขอบคุณครับ หวัดดีครับ เช่นกันครับ แค่นี้เอง”
    ไอ้ฟ่างเริ่มมีท่าทีออ่อนลง มันมองผมแบบจับผิด

    “จริงนะ”


    “อือ จริงสิ กูเคยโกหกมึงเหรอ”

    “บ่อยไป”

    “ฟ่างงงง”


    ตั้งแต่ผมกับฟ่างคบกันจนถึงวันนี้ ฟ่างมันเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่ามันแสดงอาการกระตุ้งกระติ้ง กรี๊ดวี๊ดดว๊ายอะไรนะครับ ถ้ามันทำสิคงแปลกพิลึก หึหึ


    ในด้านกายภาพมันก็ยังเป็นไอ้ฟ่างของผมแบบปกตินี่แหละ เป็นผู้ชายธรรมดาทั่วๆไป แต่ด้านนิสัย มันขี้วีนนี่ที่สองขี้งอนเป็นที่หนึ่ง อ่อ ขี้แยกับขี้อ้อนขึ้นด้วย



    “ยังไงตรง
    Relationship Status กูก็Married toDevilArt Fangคนเดียวนะ”



    “ลองไปกับคนอื่นสิ กูจะยำให้”


    “คร้าบบบบ เอาเป็นว่าเคลียร์แล้วนะ คราวหลังจะงอนจะเหวี่ยงก็ถามกูก่อน เข้าใจ๊” ไม่รู้ว่ามันเข้าใจหรือเปล่า แต่ฟ่างผวาคว้าตัวผมไปกอดเพื่อซ่อนใบหน้าตัวเอง คงเขินมั้ง ฮ่าๆ แต่ว่ามันยังไม่หยุดร้องไห้ สะอื้นฮักๆ
    ผมทั้งปลอบทั้งจูบ กอดก็แล้ว หอมก็แล้ว ไอ้ฟ่างยังไม่เลิกร้องเลย  


    ไอ้ภูมิ เดินงัวเงียมายืนกอดอกพิงประตู มองพวกผมก่อนจะส่ายหน้า แล้วทำปากพะงาบๆใส่พี่ชายมัน ถ้าผมเดาไม่ผิดน่าจะเป็น



    “สำออย”


    “ฮึก สัดภูมิ ไปให้พ้น”

    “หึหึ”

    “มึงทนมันได้ไงวะแทน กูล่ะเชื่อเลย ทิ้งๆแม่งเหอะ คนงี่เง่า”

    “ปากหมา ตัวเองดีนักนิ”

    “ดีกว่าตัวแล้วกัน”

    “หยุดๆ พอเลยทั้งคู่ หยุดทำศึกสายเลือดกันได้แล้ว มึงไปนอนต่อไปภูมิ เออภูมิ เมื่อคืนไอ้พีมฝากบอกว่ามันนอนกับชู้ว่ะ ฮ่าๆ”


    มันหน้างอชูนิ้วกลางใส่ผมก่อนจะเดินปังๆกลับห้องไปเลย พอ กขค อย่างคุณหนูภูมิไปแล้ว ผมก็กลับมาฟัดไอ้ฟ่างต่อ ผมพลิกตัวให้ฟ่างมานอนเกยบนอก มันตาแดง จมูกแดงไปหมด ผมรวบกอดเอวมันไว้หลวมๆ


    “มึงจะหึงกูไม่ว่า แต่ทีหลังต้องถาม ต้องคุยกันก่อน เข้าใจมั้ย” มันพยักหน้างึกๆ ทำหน้าหงอยๆ เฮ้อ ทำไงได้ครับดันรักคนเอาแต่ใจ ใครๆอาจจะคิดว่าผมกลัวเมีย ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ
     


    ความจริงผมก็ไม่ได้กลัวหรอกครับ แต่เพราะรักมากเลยไม่อยากขัดใจ อะไรที่พอทำได้ ทำแล้วฟ่างมันมีความสุข ทำได้ผมก็ทำ ยอมได้ก็ยอม(ดูดีว่ะแทน) เหมือนสุภาษิตที่ว่า ความต้องการของเมียย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่นในปัฐพี ไงครับ แฮ่ๆ


    “ทำไมมึงผอมจังฟ่าง ผอมลงใช่มั้ย หื้ม”


    “ไม่รู้”
    ไม่รู้ของมันคือใช่นั่นแหละครับ กลัวจะโดนผมดุ


    “ต้องกินข้าวเยอะกว่านี้ กูชอบกอดคน ไม่ใช่กระดูกเข้าใจมั้ย”

    “ฮึก มึง
    ไม่อยากกอดกู”


    “โอ๋ๆไม่เอา ไม่ร้องนะครับ แทนขอโทษนะ นะครับคนดี ไม่ร้องนะ” มันหยุดร้องแล้วก็มุดเข้ามาซุกอกผม เฮ้อ อดไม่ไหวเลยก้มลงหอมแก้ม แล้วจูบมันแรงๆ

    “อื้อออ เจ็บ”


    “หึหึ อะไร แค่นี้ทำเจ็บ มึงจะเจ็บกว่านี้อีกฟ่าง โทษฐานงอนไร้สาเหตุ”


     “ไอ่ ไอ้บ้า ไอ้หน้าด้าน”

    “ด้านไหนก็หล่อใช่มั้ยครับ”
    หึหึ ถ้าหน้าไม่หนาจริง อย่าเอาไปเล่นนะครับ


    “เชี่ยแทน ปล่อยกู อื้อออ
    ….




    นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของไอ้ฟ่างก่อนที่จะถูกผมสำเร็จโทษ หึหึ
     



    ……………………………………





     
    พวกผมมาเลี้ยงฉลองปิดเทอม แล้วต่างคนก็ต่างจะแยกย้าย ไอ้ภูมิกับฟ่างก็จะไปเยี่ยมญาติๆมันที่อิตาลีซึ่งผมก็จะไปส่งแล้วก็กะไว้ว่าจะพาฟ่างเที่ยวรอบยุโรปซักอาทิตย์แล้วค่อยกลับเมืองไทย




    วันนี้เลยมาผับเดิม ตอนนี้กำลังมันส์สะเด็ด เพราะเข้าวันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าๆแล้ว กะว่าเอายันเช้า ผับนี้ปิดเที่ยงวันน่ะครับ
     


    สภาพแต่ล่ะคน ไอ้ปัน ไอ้มิค ไอ้เต้ย ไอ้พีมกำลังรั่วได้ที่ วิญญาณจิ๊กโก๋เข้าร่าง นานๆไอ้แคระมันถึงจะเมาเพราะคอแข็งขั้นเทพ มันน่ะคอนานาชาติ เหล้าไทยเหล้านอกเหล้าขาว สาโท ยาดองมันได้หมด แดกเหมือนแก้วรั่ว แถมพี่แกโชว์พาวชนแก้วกับสาวโต๊ะข้างๆด้วย ไอ้ภูมิแทบจะยื่นพระบาทาให้ใส่หน้ามัน



    และตอนนี้มีแค่ผม ไอ้ฟ่าง ไอ้ภูมิ ไอ้คิวที่นั่ง ส่วนไอ้เชนกับไอ้เบียร์ หึ มันไปม้อสาวอยู่อีกฝั่งครับ



     
    นอกนั้นลุกไปโชว์ลีลาขาแดนซ์  ไอ้ปันแม่งอย่างฮา คือมันถือแก้วเหล้า แล้วก็เต้นเฉพาะส่วนล่าง เต้นแรงมากแบบว่าโคตรมันส์ แต่มันทำหน้านิ่งๆ ประมานว่าตั้งแต่ช่วงเอวลงไปขยับแต่ไม่สะเทือนถึงแก้วเหล้า กร๊ากกก



    ส่วนไอ้พีม ลองคิดภาพตามนะครับ เพลงตับ มันย่อตัวเตี้ยๆของมันลงนิดๆ เอียงๆแอ่นหลังหน่อยๆ ชูแขนขึ้นทั้งสองข้าง แล้วก็โยกเอวตามจังหวะ ตับ ตับตับ ตับ ตับ แม่งฮา แต่ล่ะท่ามึงคิดได้ไงวะพีม  
     


    แฟนมันก็ถึงกับส่ายหน้า คุณหนูภูมิรับไม่ค่อยได้ ฮ่าๆ ล้อเล่น มันก็มองยิ้มๆขำๆแฟนมันไป เข้าใจนะว่าเด็กศิลปกรรมมันไม่ค่อยปกติเท่าไร อาศัยความเป็นเพื่อนกัน ผมเลยพอเข้าใจพวกมันบ้าง กรั่กๆ
     


    ส่วนไอ้คู่รักหมาดๆ พี่คิวน้องเต้ย กว่าจะได้คบกันว่าเหนื่อยแล้ว แต่พอมันได้เป็นแฟนกันเหนื่อยยิ่งกว่าครับ ตะวันยังไม่ทันตกดินมันจะเลิกกันวันล่ะสามครั้ง
    ไอ้เต้ยมันไม่เคยสะกดคำว่าอยู่นิ่งๆมันเป็นเด็กโคตรไฮเปอร์ ไอ้คิวก็ขี้รำคาญ มันติสไงแบบว่าโลกส่วนตัวสูง แถมปากหมากวนตีนทั้งคู่ แค่มดตายมันยังเอามาทะเลาะกันได้ คิดดู



     
    “พี่คิวๆ พี่คิวววว”

    “เอ้ออออ อะไรของมึงวะเต้ย เรียกแม่งทั้งวัน กลัวลืมชื่อผัวรึไง”

    “พี่คิว”

    “พูดมา กูฟังอยู่”

    “พี่คิว”

    “โอยย ใครก็ได้ พาไอ้เต้ยไปไกลๆกูที ปวดกบาลโว้ยยย”

    “พี่คิววววว”


    เฮ้อออ กูล่ะปวดหัวแทนมึงจริงๆคิว




    “แทน ไปข้างนอกกัน”

    “อืม เฮ้ยคิว กูไปข้างนอกแปบนะมึง”


    ผมพาฟ่างเบียดผู้คนออกมาข้างนอก เพราะมันอยู่ในที่อากาศน้อยๆ แออัดนานๆไม่ได้ ต้องออกมาสูดอากาศข้างนอก เราเลยเดินฆ่าเวลามาเซเว่นหาอะไรแก้แฮงค์


    ผมปล่อยให้ฟ่างเข้าไปซื้อของเอง ผมก็ยืนดูดบุหรี่รอข้างนอก เห็นมันได้เครื่องดื่มแก้แฮงค์แทนที่จะไปจ่ายเงิน มันก็มายืนอ่านหนังสือบ้านและสวน


    ผมเลยแอบมองแฟนตัวเองผ่านกระจก วันนี้ฟ่างเขียนตาด้วย ตามันยิ่งโตๆอยู่ พั้งค์ได้อีกที่รัก แอบมองอยู่นาน ผมเลยเคาะกระจกเรียก อยู่ๆก็รู้สึกอยาก

     


    ไอ้ฟ่างมันเงยหน้ามาส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ผมกวักมือเรียก ฟ่างก็เดินมาหาผมก่อนจะก้มลงเพราะพื้นในเซเว่นสูงกว่าข้างนอก ผมเอามือเช็ดๆกระจกก่อนจะจูบลงไปแล้วยักคิ้วให้ฟ่าง ผมพูดโดยไร้เสียง



    “จูบกัน”
     ฟ่างยิ้มมุมปาก มองซ้ายมองขวา แฟนผมมันแรงก็จริงแต่ใช่ว่ามันจะอายไม่เป็นนะครับ


    ฟ่างก้มลงแนบริมฝีปากลงกับกระจก ผมก็ยื่นหน้าไปจูบตำแหน่งเดียวกัน เราสบตากันในระยะประชิด มีเพียงกระจกใสกั้นเท่นั้น ก่อนที่ฟ่างจะหลุดหัวเราะ



     จูบผ่านกระจกเซเว่น หึ รู้สึกดีไปอีกแบบว่ะ



    “บ้า”
    ว่าผมเสร็จมันก็เดินไปจ่ายเงินออกมามันก็ยิ้มเขินๆให้ผม



    “มองไร”

    “มองแฟนตัวเอง ไม มองไม่ได้แหงะ”

    …………กวนตีนนักนะมึง หมาแทน อ้าวฝนตกซะงั้น” พอฟ่างเดินมาใกล้ มือผมก็โอบเอวมันแบบอัตโนมัติ


     “เออว่ะ มัวแต่มองมึง ฝนตกตั้งแต่เมื่อไรวะ” ไอ้ฝนนี่ก็บ้า พอทักเสร็จจากที่ตกแค่ปรอยๆคราวนี้เทลงยังกับฟ้ารั่ว


    “เอาไงฟ่าง ยืนรอมั้ย หรือจะวิ่งฝ่าไปเลย”



    “ไม่อยากเปียก แต่ก็ไม่อยากรอ”
    มันเอาตาโตๆมาเป็นตัวประกันในการอ้อนผม เฮ้อ แพ้ตลอด
     




    ผมถอดเสื้อแจ็คเก็ตเพื่อคลุมเราสองคน “ป่ะ ไม่ต้องรอแล้วก็ไม่เปียก” ฟ่างยิ้มกว้าง มันใจดียื่นหน้ามาจูบผมเบาๆ
     




    “รักมึงนะ”
    เราสองคนออกวิ่งฝ่าสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว จะฝนตก หรือพายุ ผมก็ไม่กลัว เพราะผมมีฟ่างอยู่ข้างๆ และไม่ว่าในวันข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไร ผมก็พร้อมจะดูแลมันไปแบบนี้
     
     




     ตลอดชีวิต
     
     








    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>
     




    ……………………………………..
     



    เบื่อรึยังเอ่ย แบบว่าช่วงนี้อีตาลติสแตกมากคะพี่น้อง ฮ่าๆ ชีอาร์ตมาก ดราม่ากับชีวิตสุดๆ แต่งไม่ออก พยายามอย่างที่สุด เลยมีปัญญาทำได้แค่ตอนพิเศษ แม่ยกแทนฟ่างคงพอแก้ขัดได้นะคะ หุหุ



    รูปคุณฟ่าง เห็นเด็กถาปัตย์เค้าชอบถ่ายรูปอาร์ตๆ เท่ห์ดีเนอะ


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×