ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 30 He Is Mine

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 61.8K
      250
      2 เม.ย. 54







    ตอนที่
    30 He Is Mine
     
     



    “มึงปล่อยเมียกูได้รึยัง”



    ผมกับคลื่นหันไปหาต้นเสียง ไอ้ภูมิตัวเป็นๆยืนหน้าโหดเหมือนไปแดกพญาแตนมาซักแปดรัง พอตั้งสติได้ผมก็ถอยออกมาจากมือของคลื่นแบบอัตโนมัติ ไอ้คลื่นมันขมวดคิ้วเลิกจ้องหน้าภูมิและหันมามองหน้าผมแทน



    แววตาคู่นั้นที่เคยสดใส ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม ตาคมๆของมันมีแต่ความเศร้าความสงสัยปนเปกันไปหมด
    จนทำให้ผมรู้สึกผิดทั้งที่ไม่รู้เลยว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น แต่ด้วยความฉลาดอันเลิศล้ำของผม ผมต้องแนะนำพวกมันให้รู้จักกัน เพื่อลดความตึงเครียด ใช่ๆ
     


    “เอ่อ ภูมิ นี่คลื่นเพื่อนกู คลื่นนี่ภูมิเป็น
    …..



    “แฟน”
    เสียงไอ้ภูมิโคตรเย็น



    “กูไม่ได้ถาม”
    เสียงไอ้คลื่นยะเยือกกว่า


    “แต่กูมีสิทธิ์ตอบ” ภูมิตอบพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ มันยืนห่างจากคลื่นแค่ก้าวเดียว ไอ้คลื่นก็ไม่ถอยหลบ แต่คนที่ถอยหลังน่ะคือผม กูล่ะงงตัวเอง ทำไมมันสองคนต้องสร้างบรรยากาศเครียดๆแบบนี้ด้วยวะ
     

    “ภูมิ
     คือ


    “มึงหุบปากพีม” ผมเงียบทันที แม่ง ตะคอกทำไมว้า


    “เฮ้ย ทำไมต้องตะโกนด้วยวะ พูดกันดีๆก็ได้”


    “อย่าเสือก ผัวเมียเค้าจะคุยกัน” ภูมิผลักอกคลื่นจนเซมาชนผมเต็มๆ ไอ้ผมที่ยืนอยู่ข้างหลังเลยล้มไม่เป็นท่า สาดด ก้นกูจูบกระเบื้อง เจ็บโคตร


    “พีม
    !!!” แป่ว จับมือไหนดีวะ ผมมองมือของภูมิกับมือไอ้คลื่นที่อยู่ตรงหน้า มันสองตัวหันไปจ้องหน้ากันอีกครั้ง ทำไมบรรยากาศมันวังเวงน่ากลัวชวนขนหัวลุกจัง  งั้นกูขอยืนด้วยลำแข้งตัวเองแล้วกันนะ


    แต่ด้วยความเร็วของไอ้คลื่นมันเลยช่วยดึงแขนผมก่อน แต่ก็แค่นั้นเพราะในวินาทีถัดมาภูมิก็ดึง ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่ากระชากแขนผมออกจากมือของคลื่น
    สรุปผมเจ็บทั้งขึ้นทั้งล่อง อะไรของพวกมึงวะเนี่ย
     



    “เอ่อ กูว่าเราออกไปข้างนอกกันมั้ย มายืนดมเยี่ยวอยู่ได้ เหม็นเนอะ ชะอุ่ย แหะๆ
    …..” ผมรีบเอามือปิดปากตัวเองทันทีที่ตาดุๆสองคู่ตวัดมามองผมพร้อมกัน ขนหัวลุกเลยกู เงียบก็ได้ว๊า



    “กูหวังว่ามันจะไม่มีครั้งที่สาม ที่มึงอยู่ใกล้แฟนกูเกินจำเป็นอีก” หืม
    ? สามครั้งเหรอ แสดงว่าภูมิเคยเห็นผมกับคลื่นอยู่ด้วยกันเหรอ ตอนไหนวะ มิน่าถึงได้ทำท่าเหมือนโกรธนักหนา


    ผมมองคลื่นด้วยสายตาแบบไหนผมก็ไม่แน่ใจ แต่มันกำลังมองผมเหมือนกำลังเจ็บ ภูมิไม่ปล่อยให้ผมตีความหมายของสายเหงาๆคู่นั้นของคลื่นนานนัก มันก็ดึงมือผมออกจากห้องน้ำ แต่มืออีกข้างของผม



    “พีม”
    ถูกไอ้คลื่นคว้าไว้


    “ปล่อย” ภูมิพูดรอดไรฟัน
    กรามกับขมับไอ้ภูมิเต้นตุบๆ ทั้งที่หันหลังให้คลื่น ส่วนผม อ๊ากกกก เชี่ยภูมิบีบข้อมือผม แม่งเจ็บสาดดด


    “พีม”


    “ปล่อย-มือ-แฟนกู” คราวนี้ไอ้ภูมิหันกลับไปเผชิญหน้ากับคลื่นอีกครั้ง คลื่นค่อยๆปล่อยมือจากผม แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันก็ฟาดหน้าผมเต็มๆ
     
     
    “พีม…..กูชอบมึง”
     
     
    ยังไม่ทันที่ผมจะกระพริบตาหรือพูดอะไร หมัดไอ้ภูมิก็ลอยไปกระแทกหน้าไอ้คลื่นคลื่นก็สวนกลับ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วมากจนผมเผลอกลั้นหายใจตอนไหนก็ไม่รู้



    ผมไม่ใช่พระเอกละครหลังข่าวที่จะโง่จนดูไม่ออกว่าใครรู้สึกอะไรยังไงกับผม ผมพอจะรู้ว่าคลื่นมันคิดกับผมเกินคำว่าเพื่อน แต่พอมาได้ยินเองเต็มๆสองรูหู หึ



    เข้าใจคำว่า ซึ่งๆหน้ามั้ยครับ นั่นแหละ กูช็อค ถึงผมรู้แต่จะให้ทำยังไง จะเดินไปบอกมันว่า เฮ้ยคลื่น มึงชอบกูเหรอวะ กูมีแฟนแล้ว มึงเลิกยุ่งกับกูเถอะ มันก็ใช่เรื่อง
     



    ผมไม่อยากให้คลื่นออกไปจากชีวิตผมเพียงเพราะมันชอบผมแต่ผมมีแฟนแล้ว คลื่นเป็นคนดีเป็นเพื่อนที่ดี ผมอยากให้เรารักษามิตรภาพดีๆนี้ไว้ ผมถึงได้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ความหวังดีเกินหน้าที่เพื่อน ที่คลื่นมันมอบให้
     



    “เฮ้ย
    !!! ภูมิ คลื่น หยุด พวกมึงเป็นเชี่ยไรว๊ะ!!!” กว่าผมจะแยกพวกมันออกจากกันได้ก็ปากแตกทั้งคู่ นี่กูยังไม่เข้าใจเลยนะว่าพวกมึงจะชกกันทำไม แม่ง ไอ้คลื่นเช็ดเลือดที่มุมปาก ส่วนภูมิก็เอาแต่ยืนจ้องหน้าคลื่นเหมือนแค้นกันมาซักร้อยชาติ ผมเลยต้องเช็ดให้ ทำไมบรรยากาศเหมือนเวลาผัวตามจับได้ว่าเมียเล่นชู้เลยแม่ง


     
     
     “มึงได้ยินแล้วใช่มั้ย” ไอ้ภูมิถามผม  อ้าวเวร ได้ยินอะไรวะ


    “หะ หา อ๋อ เออๆได้ยินๆ” แม้จะไม่เข้าใจคำถามว่ามันพูดถึงเรื่องเหี้ยอะไร ผมก็ต้องเออ ออไปก่อน กลัวตายครับ หน้าแม่งโคตรน่ากลัว พวกมึงอย่าแดกหัวกูนะเฟ้ย



    “มึงชอบไอ้พีมใช่มั้ย”




    “ใช่กูชอบพีม” แค่นั้นแหละไอ้ภูมิก็กระโจนเข้ากระชากคอเสื้อไอ้คลื่นอีกครั้ง ไอ้นี่ก็ไวเหลือเกิน  
    ดีที่ผมมือไวกว่าคว้าไว้ทัน โอย กูเหนื่อย




    “หึ กล้าพูดตรงๆก็ดี แต่ไว้มึงเกิดเป็นลูกตากูก่อนเถอะค่อยคิดจะมองไอ้พีม”
    ผมไม่เห็นไอ้ภูมิน่ากลัวแบบนี้มานานแล้ว ไอ้อาการเหมือนจะฆ่าคนได้



    “คลื่น คือ กูขอบใจนะ แต่
    …..” ผมที่ยืนเอ๋ออยู่นาน ก็มีบทให้ขยับปากซักทีแต่ก็พูดไม่ออกเพราะ ไอ้ภูมิหันมาจ้องหน้าผม ผมก็มองกลับ พอรู้สึกว่าไอ้คลื่นมันมอง ผมก็มองกลับ แล้วมันสองตัวก็จ้องผมพร้อมกัน ผมเลยต้องมองพวกมันสลับไปสลับมา เวียนหัวดีชิบหาย


    “เอ่อ กู
    …..”
     


    “พีม มึงออกไปรอข้างนอกไป แมนๆเขาจะคุยกัน” อื้อหือ ผมกระพริบตาปริบๆกำลังงงกับคำสั่ง หนอยยย แมนมากพวกมึงสองตัวกำลังจะตีกันเพราะกู พวกมึงแมนมาก แมนจริงๆ สาดดกูก็แมนมั่งเหอะ



    “พวกมึงจะคุยไรกันว๊า กูหิวข้าว อยากกลับบ้าน กลับบ้านไปกินข้าวกันนะภูมิ คลื่น” แต่เสียงแมงวี่แมงวันของผมคงไม่สามารถเรียกร้องความสนใจของพวกมันได้ จ้องกันเข้าไป ท้องเมื่อไรกูจะเอาเด็กไปเลี้ยง
     
                                                   


                                                 
    ………………………………….



     
    กว่าจะลากภูมิออกจากไอ้คลื่นได้ ก็ตอนที่ไอ้ฟ่างไปตาม ดีที่ไม่มีใครถามอะไรเพราะผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง พวกผมแยกย้ายกันกลับ ซึ่งผมก็นั่งเป็นจำเลยรักหน้ารถคันงามของไอ้ภูมิ


    ตั้งแต่ออกจากดรีมเวิร์ลจนจะถึงคอนโดมันยังไม่พูดอะไรซักคำ อยู่ในลิฟท์ก็หน้าโหดๆ
     


    มาถึงห้องก็เดินเข้าห้องนอนไม่สนใจผมเลย นอกจากความเอาแต่ใจ ไอ้ภูมิยังดื้อเงียบ ถ้ามันโกรธแล้วโวยวายเหมือนทุกครั้งผมยังจะพอรับมือได้ แต่แบบนี้ ผมไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง และก็ยังไม่แน่ใจว่าผมทำอะไรผิด


    นานเกือบยี่สิบนาทีภูมิออกมาจากห้องน้ำ ผมเลยเข้าไปอาบบ้าง ออกมาก็เจอมันนั่งกอดออกพิงหัวเตียงอยู่
     

    “ภูมิ กูไม่
    ….”


    “ไปใส่เสื้อผ้า แล้วค่อยมาคุย” เออว่ะ ทั้งตัวผมมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว คุยกันในสภาพนี้คงไม่ดีเท่าไรผมรีบใส่เสื้อผ้า ตากผ้าเช็ดตัว กระโดดขึ้นเตียงไปนั่งเจี๋ยมเจี้ยมใกล้ๆไอ้ภูมิ


    “นานรึยัง” คำถามแรก ทำเอาผมแทบหงายเงิบลงเตียง มึงช่วยใส่ภาคประธานกับกรรมให้ประโยคหน่อยได้มั้ย กูงง


    “อะไรนานวะ”

    “แอบคบกับมันนานรึยัง” จี๊ด คำนี้แม่งจี๊ด

    “กูไม่ได้แอบ กูคบกับคลื่นในฐานะเพื่อน ทำไมต้องแอบ”

    “งั้นเหรอ แต่กูเจอมันที่บ้านมึง” ว่าไงนะ ผมอ้าปากค้าง ภูมิเจอคลื่นเจอตอนไหน เมื่อไร อะไร ยังไง “หึ อึ้งเลยหรอ กูเห็นมึงกับมันนั่งกินเค้กด้วยกัน เห็นมันมองมึง ยิ้มให้มึง กูอยากจะเดินไปซัดหน้าแม่ง แต่กูไม่อยากให้พวกพี่ๆที่ร้านหรืออาปุ้ยไม่สบายใจ

    กูโทรหามึง โกหกมึงว่ากูกำลังขับรถทั้งที่กูยืนดูมึงกับมันอยู่ด้วยกัน กูต้องขับรถออกไปอีกรอบ แล้วเข้ามาใหม่ตอนเห็นรถมันออกไปแล้ว กูพยายามไม่คิดอะไร แล้วนี่มันยังตามมึงมาถึงดรีมเวิร์ล มากไปรึเปล่าพีม”


    “ภูมิมึงเข้าใจผิดนะ ไอ้คลื่นไม่ได้ตามกูไป มันพาน้องมาเที่ยวแล้วบังเอิญเจอกันไง กูไม่ได้คิดอะไรกับคลื่นนะ จริงๆนะเว้ย”


    “แต่มึงรู้ใช่มั้ยว่ามันคิดยังไงกับมึง”


    “ก็ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้รู้แล้ว แต่มันก็แค่ชอบ ยังไงก็เพื่อนกันทั้งนั้น ไม่มีอะไรจริงๆเชื่อใจกูนะ”




    “เชื่อใจกับหวงมันคนละเรื่อง กูอยากกลับไปฆ่ามันแม่ง” แล้วภูมิก็ซักประวัติไอ้คลื่น ยังกับจะเอาไปเขียนอัตชีวประวัติ ผมก็ตอบไปเท่าที่รู้ ยิ่งพอรู้ว่าคลื่นก็ไปค่าย ไอ้ภูมิก็งอแงอีกรอบ จะไม่ยอมให้ผมไป จะทำไงได้ล่ะครับ ก็ต้องง้อด้วยวิธีเดิมๆ ก่อนนอนภูมิบอกว่า
     
     

    “มึงจำใส่หัวไว้ด้วยนะพีม ว่ามึงเป็นของกู”
     




    ………………………………….
     






    ภูมิมาส่งผมที่หน้าคณะเกือบหกโมง บรรยากาศวุ่นวายได้ที่ น้องก็ทยอยมาเยอะแล้วเหมือนกัน พวกสันทนาการกำลังทำกิจกรรมละลายพฤติกรรม



    “ไงมึง เขียนขอบตามาเหรอวะ” ไอ้คิวกวนตีนผมแต่เช้า ในมือมันมีไมโลสองกล่อง ผมเลยยิ้มเหยียดๆให้มัน



    “เขียนเป็นเพื่อนมึงแหละไอ้ห่า” สภาพมันก็เหมือนคนอดหลับอดนอน ไอ้คิวยักไหล่ หันไปทักภูมิที่เพิ่งเดินตามผมลงมา พวกคณะผมก็จ้องไอ้ภูมิแทบพรุน หล่อตลอด เด่นตลอด บอกว่าไม่ต้องมาส่งๆ



    “น้องกูล่ะ” ไอ้ภูมิถามไอ้คิว ทั้งที่เห็นๆอยู่ว่าเชี่ยเต้ยมันกำลังเต้นเมียงูให้น้องที่มาสายดูเป็นตัวอย่าง เพื่อทำโทษ



    “ไม่รู้ ไม่ได้ผูกจู๋ติดกัน”


    “หึ ไม่ใช่ติดตั้งแต่อยู่ในบ้านผีสิงแล้วเหรอวะ” ไอ้คิวหันมาทำตาเหวี่ยงๆใส่ภูมิ


    “สงสัยโรคปากหมามันติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ ฝากให้น้องมึงด้วย บอกว่าของเหลือแดก” ไอ้คิวโยนไมโลให้ผมกล่องนึง และมันก็เดินไปช่วยพวกพี่เจตยกกลองขึ้นรถ


    ผมก็ดันตาดี หันไปเจอคลื่น มันส่งยิ้มให้ ผมก็ยิ้มกลับไปเหมือนทุกครั้ง ด้วยความลืมตัวว่ามียมทูตยืนอยู่ข้างๆ ภูมิยื่นมือมาปิดปากผมไม่ให้ยิ้ม ก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่คลื่น มึงอย่ามาเปิดศึกเจ้ามวยไทยกันแถวนี้นะเว้ย



    “เฮียยยยย” ไอ้เต้ยวิ่งหน้าตรงคอตั้งเข้ามาเกาะแขนภูมิ วันนี้ไอ้เต้ยหล่อเป็นพิเศษ “เฮียมาด้วยเหรอ เต้ยว่าแล้วว่าเฮียภูมิต้องมากับเฮียพีม ไปเที่ยวด้วยกันป่าว ไปมั้ยๆ” มึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเต้ย เราไปค่ายไม่ได้ไปเที่ยว


    “คนนอกไปได้เหรอ”


    “เออว่ะ เต้ยก็ลืม เฮียภูมิเรียนวิดวะนี่ งั้นขอตังค์ค่ารถหน่อย”


    “ได้ข่าวว่างบมหาลัยเหอะ” ผมเขกหัวไอ้เต้ยไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้ ไม่ได้หมั่นไส้ไอ้เต้ยนะ หมั่นไส้พี่รหัสมันที่แอบมองมาบ่อยๆ


    “ก็เผื่อเต้ยหิว จะได้ซื้อหนมกลางทางไงเฮีย”

    “เดี๋ยวก็มีคนเลี้ยง”

    “ใครอ่ะ”

    “พี่รหัสสุดที่รักมึงไง ตกลงมันทำอะไรมึงในบ้านผีสิงวะเต้ย”

    “แวมไพร์”

    “แวมไพร์
    ?” ผมกับภูมิมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ


    “ใช่ พี่คิวเป็นแวมไพร์ กัดเต้ยด้วย” เย้ดเข้ เชี่ยคิว ไอ้ห่าเอ๊ย ไอ้แด๊กคิวล่า(ล่าไอ้เต้ย)ฮ่าๆ


    “มันกัดมึงตรงไหน กัดปากหรือกัดคอ”


    “เฮียพีมทะลึ่งว่ะ ไม่รู้ เต้ยจำไม่ได้ เฮียภูมิเอาตังค์มา” มันเปลี่ยนเรื่อง มาแถเงินไอ้ภูมิแก้อาย ผมกับภูมิพร้อมใจกันส่ายหน้า ไอ้เด็กแสบหน้าหล่อที่หน้าแดงไปถึงหู หึหึ เพื่อนกูกลายร่างเป็นผีดูดปากไปแล้วเหรอนี่



    “นี่ค่าขนม แล้วก็ค่าจ้าง ดูแลแฟนเฮียด้วย” ไอ้ภูมิควักตังค์ให้ไอ้เต้ย บระเจ้าโจ๊ก
    !!!!0o0 ห้าพัน กูขอมั่ง ไอ้เต้ยทั้งไหว้ทั้งโค้งคำนับจนแทบลงไปกราบ มันรับเงินจากภูมิ แถมสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลผมชนิดมดไม่ให้ไต่ตะไคร่ไม่ให้ขึ้น ก่อนจะวิ่งโห่ร้องดีใจไปหาเพื่อนมัน



    “โหยย กูไม่เห็นได้แบบไอ้เต้ยเลยว๊า มากู้ซักสองหมื่นดิ”

    “มึงน่ะ กูเลี้ยงทั้งชีวิต”

    “หึ ลิเกมากครับมึง” ไอ้ภูมิผลักหัวผม ล่ำลากันเสร็จผมก็ไล่มันกลับ ก่อนกลับยังหันไปมองไอ้คลื่นอีก ผมต้องรีบลากมันมาส่งที่รถ


    “ขับรถดีๆนะ ถึงที่พักแล้วจะโทรหา”


    “อืม อย่าปล่อยฟีโรโมนมากนะ เพราะกูไม่อยากฆ่าคน”


    “คร้าบผม ครับๆ” ผมปิดประตูรถให้ภูมิ ยืนดูจนรถมันหายไปจากสายตา ถึงเดินกลับเข้ามา รถปรับอากาศสองชั้นสองคันมาพร้อมแล้ว ไอ้ฝ้ายยื่นป้ายชื่อที่เขียนว่า
    P^ พีม มาให้ผมห้อยคอไว้ วันนี้รุ่นพี่คณะศิลปกรรมใส่เสื้อสีฟ้า คณะสถาปัตย์ใส่สีดำ ส่วนน้องๆใส่สีชมพู มีป้ายชื่อทุกคน


    “พีม พี่เจตเรียก” พี่ใบเตยเลขาสโมฯเดินมาบอก ผมพยักหน้า ไม่ลืมที่จะฝากไมโลของไอ้คิวไปให้ไอ้เต้ย หึหึ
     

    “พี่เจตมีไรครับ”


    “พีม คือพี่จะให้แกขับรถพี่ตามไปได้มั้ย ตอนแรกพี่ว่าจะให้ไอ้คิวมันขับ แต่ไม่มีใครตีกลอง”


    “อ่อ ได้พี่ แต่หาเพื่อนให้หน่อยสิ ไอ้ฝ้ายก็ได้”

    “กูจะไปดูน้องโว้ย” แหม เห็นเด็กไม่ได้เลยนะมึง ไอ้ฝ้ายรีบปฏิเสธเดินหนีไปหน้าตาเฉย กูซึ้งน้ำใจมึงจริงๆเพื่อน


    “อืม เอาไงดี เตยไปเรียก
    ……”


    “พี่เจตครับ ผมไปกับพีมก็ได้ครับ” ผมกับพี่เจตหันไปมองคนมาใหม่


    “เออ ดีๆ งั้นคลื่นไปกับพีมนะ เผื่อเหนื่อยจะได้เปลี่ยนกันขับ” พี่เจตสั่งผมกับคลื่นเสร็จ ก็เรียกรวมบูมหาลัย ทุกคนก็พร้อมใจกันเตรียมบูมเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกเดินทาง เหลือแต่ผมกับคลื่น

    “ไง”

    “เอ่อ อืม”

    “หึหึ เป็นอะไร อึดอัดเหรอ” ผมไม่ได้อึดอัด แค่รู้สึกไม่ค่อยดีที่ทำให้คนดีๆอย่างคลื่นเสียใจ


    “เปล่า คือกูขอโทษนะเว้ยเรื่องเมื่อวาน มึงเป็นไงบ้างวะ” ผมมองรอยช้ำที่มุมปากของคลื่น มันแค่ไหวไหล่ และส่งรอยยิ้มสดใสให้ผมเหมือนเดิม


    ก็
    …เจ็บ กูไม่น่ามาช้าเลยเนอะ


    “คลื่น”


    แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย แฟนมึงนี่หมัดหนักเหมือนกันนะ”


    “กูขอโทษแทนมันด้วยนะ ภูมิมันใจร้อน”

    “ภูมิ
    ? เดือนวิศวะรึเปล่า เหมือนเคยเจอตอนประกวด”

    “อืม เป็นเดือนเหมือนมึงไง ไอ้เดือนอินเตอร์”


    “โห เดือนล้อมดาวเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ”


    “ไอ้ฟายคลื่น กวนตีนนะมึง”
     



    ผมยิ้มให้คลื่นได้เหมือนเดิม ตอนนี้คลื่นอาจจะเจ็บ แต่อีกไม่นานหรอก มันก็จะหายดี




    ไม่ว่าคลื่นจะมาเร็วหรือมาช้าผมก็มั่นใจว่าผมคงให้มันได้แค่ความเป็นเพื่อน
     



     เพราะผมคงรักผู้ชายคนไหนไม่ได้อีกแล้วนอกจาก
     
     
     


    “ภูมิ”
     
     







    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>
     
     




    …………………………………….
     


    อยากจะขอ ขอโทษ ให้เธอหาย หายโกรธ ล๊า ลา ลา (ก้มหน้า กัดปาก น้ำตาคลอ) ตาลขอโทษที่หายไป แต่แหม นิยายมันก็มีหลายเรื่อง เรื่องนี้ไม่อัพก็อ่านเรื่องอื่นรอไงจ๊ะ เป็นการกระจายทรัพยากรด้วย(มันกำลังแถคะ) กร๊ากกก


    เอาจริงๆคือ ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ให้รอ คือมันเขียนไม่ออก ดราม่าไม่เป็น แง๊ ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยโดนใจเท่าไร เอาไว้แก้มือตอนหน้าแล้วกันนะคะ



    ปล ทำไมมีคนอยากให้ทำหนังสือเยอะจัง ถ้ามันยาวเป็นไตรภาคเหมือนสามก๊กยังจะอยากได้อยู่มั้ยคะ กร๊ากก

    ปลอีก คลื่น หัวใจนายหล่อ มากกกกกกก แอร๊ยย ตาลเลิกปลื้มเบียร์แล้วมาหาคลื่นดีกว่า

    ปลล บทสัมภาษณ์ยังไม่เสร็จนะค๊า รอหน่อยๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×