ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 รอ

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 55


                                                          





                                                                    ตอนที่
    4


     


    หลังจากที่ผมรับโทรศัพท์สายมรณะผมก็ช็อกไปสามวินาที ไอ้ภูมิมีเบอร์กูได้ไงฟระ ไอ่ห่านี่นอกจากโหดแล้วมันต้องแอบเล่นของแน่นอน เมื่อตั้งสติได้สมองผมก็ค่อยๆประมวลผลช้าๆ มันพูดว่าสิบนาที ไม่เห็นหัว โดนแน่ แค่นั้นแหละผมคว้าเป้ประจำกายแล้วทะยานออกสู่ห้วงนรกอเวจี
     

    จนอาจารย์และเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ตั้งหน้าตั้งตาใส่อารมณ์กับศิลปะยุคเรอเนซองต้องหันมองเป็นตาเดียว
    ไอ้คิวเองก็ดูจะตกใจ ผมได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลัง แต่ผมไม่มีเวลามาตอบคำถามหรือไขข้อสงสัยให้ใครทั้งนั้น  เพราะนรกขุมแรกกำลังรอประหารผมอยู่
     


    “แฮ่ก แฮ่ก มะ แมร่ง เหนื่อย” ผมมาถึงหน้าตึกวิศวะในสภาพที่ลิ้นห้อยเหมือนหมาหอบแดด มือข้างหนึ่งกุมท้องเพราะจุก ส่วนอีกข้างใช้ค้ำเข่า คุณรู้มั้ยครับว่าตึกศิลปกรรมของผมมันเป็นอะไรที่ห่างไกลชาวบ้านมากจะว่าไปก็เหมือนลูกเมียน้อยอ่ะครับ


    อยู่หลังอยู่ลึกสุดส่วนวิศวกรรมน่ะเหรอ ชิชะ พวกมันวังหน้า ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าสร้างราศรีให้มหาวิทยาลัย แล้วคิดดูว่าสถานที่ตั้งของตึกมันไกลขนาดนี้ผมต้องวิ่งมาอ่ะครับพี่น้องครับ ภายในเวลาสิบนาทีซะด้วย
    เหอๆ พรุ่งนี้กูจะไปสมัครวิ่งมาราทอนทีมชาติ


    ผมปาดเหงื่อพลางมองหาพิกัดของไอ้ภูมิมันไม่ได้บอกด้วยสิว่าอยู่ส่วนไหนของคณะ แล้วกูจะหามึงเจอมั้ย สาดดด
     

    “มึงจะยืนทำตัวเตี้ยอีกนานมั้ย”


    "ไม่ได้ทำโว้ย มันเตี้ยของมันเอง" หือ?กูพูดกับใครวะ ผมหันขวับไปตามเสียงก็เห็นไอ้ภูมิยืนเก๊กเท่ห์ทำโหดอยู่ข้างหลัง ห่าเอ๊ยกูตกใจหมด นอกจากมันจะเล่นของแล้วผมว่ามันต้องแอบฝึกกำลังภายในหายตัวได้ด้วย เมื่อกี้ยังไม่เห็นมีหมาอยู่แถวนี้ซักตัวแต่ตอนนี้มีแล้วหนึ่งตัว หมาภูมิไงครับ
    ฮ่าฮ่า


    “มึงสติไม่เต็มหรอเตี้ย ยิ้มบ้าอะไรคนเดียว” ผมถลึงตาใส่มัน นี่ผมเผลอแสดงความยินดีเวลาได้ด่าไอ้ภูมิออกทางสีหน้าเลยหรอเนี่ย สงสัยจะแค้นแรงแฮะเรา มันน่าแค้นไม่หล่ะ อยู่ๆก็มีใครไม่รู้มาควบคุมชีวิตเรา เป็นคุณคุณจะไม่แค้นหรอ ไอ้ภูมิมันชั่วร้ายอย่างที่ไอ้พวกนั้นบอกจริงๆ


    ผมไม่สนใจมันแต่กำลังชะเง้อมองหาไอ้แทน ก็ไอ้แทนกับไอ้ภูมิอยู่กลุ่มเดียวกัน เกิดมันเสร่อมาด้วยไอ้ที่ผมพยายามโกหกจนสำเร็จก็ต้องเสียเปล่า



    “นอกจากจะเตี้ย สติไม่เต็ม มึงยังเป็นโรคหวาดระแวงด้วยหรอ” อยากจะสวนนักว่าที่กูเป็นแบบนี้ก็เพราะมึงแหละ ไอ้โหด


    “ไอ้แทนหล่ะ”


    “มันก็ไปเรียนดิ”


    “แล้วมึงไม่เรียนไง” การที่เราเกลียดใครซักคนมากๆแต่ต้องมายืนคุยดีๆด้วยมันก็เป็นความทรมานอีกรูปแบบหนึ่งนะครับ ถ้าทำได้ผมล่ะอยากกระโดดตบกะโหลกมันซักร้อยครั้ง


    “มึงหล่ะ ไม่เรียนรึไง”


    “ตอนแรกก็กำลังเรียน แต่ตัวเห็บที่ไหนไม่รู้โทรเรียกกูมา” เป็นอะไรที่กล้ามากครับ ไอ้ภูมิมองผมตาขวางเลย แอบกลัวมันนิดนึง แต่ที่อาจหาญชาญชัยขนาดนี้เพราะที่นี่มหาลัยมันไม่กล้าทำอะไรผมแน่นอน อิอิ


    “เฮ้ย ลุกดิ๊” มันสั่งเด็กปีหนึ่งที่นั่งอยู่สองสามคนให้ลุกเพื่อที่มันจะได้นั่ง บอกได้คำเดียว เลวมาก แต่น้องๆพวกนั้นก็รีบก้มหัวเก็บของลนลานลุกให้มันแทบจะทันที


    ที่บอกว่ามันไม่กล้าทำอะไรเป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยครับ
    เพราะตอนนี้คุณชายภูมิก็กำลังเปรมกับเพียวริขุรสทับทิมขวดที่ห้า มันกระเดือกลงไปห้าขวดโดยผมเป็นคนไปซื้อทีละขวด กวนตีนกูดีเหลือเกิน


    ซุ้มขายน้ำก็ใช่ว่าจะใกล้ๆ ตอนแรกมันบอกว่าหิวน้ำ เลยใช้ผมไปซื้อผมปฏิเสธได้หรอครับ เบ๊ๆๆๆท่องไว้
    พีมท่องไว้ ขัดไม่ได้ก็เลยได้แต่ก้มหน้ารับกรรมรับเวรและแอบสาบแช่งมันตลอดทาง ใครมีพริกมีเกลือเอามาบริจาคให้ผมที


    รอบแรกผมซื้อน้ำเปล่าคริสตัลมาครับ เพราะมันไม่ได้บอกว่าจะแดกน้ำอะไร ผมเลยเลือกน้ำเปล่าไว้ก่อน แต่คุณชายภูมิมันบอกไม่ชอบเพราะขวดมันกลม สุดยอดครับมึง ผมแทบเอาขวดคริสตัลยัดรูจมูกมัน  อะรอบแรกผ่านไป รอบสองผมก็เดินกลับไปซื้อใหม่ มันบอกว่าเอาอะไรก็ได้ที่ขวดไม่กลม
     
    เหตุผลควายตอแหลอะไรของมึงเนี่ย ><

    รอบนี้ผมเลยได้โออิชิ โอเคขวดไม่กลมเพราะผมเลือกแบบกล่องเลยได้น้ำชารสฮันนี่เลม่อนมาถวายไอ้ภูมิ น่าจะซื้อธูปมาจุดด้วยเนอะ ฮ่าฮ่า แต่พอซื้อมาแล้วมันกลับมองหน้าผมสลับกับกล่องโออิชิ


    “ผู้หญิงคนที่อยู่ข้างกล่องหน้าตากวนตีน กูแดกไม่ลง”


    นี่คือคำพูดของมันครับทำเอาผมแทบสลบ มึงเอาสมองส่วนไหนคิดไอ่ฟาย ผมพ่นลมหายใจด้วยความโมโหพยายามควบคุมสติสัมปชัญญะที่มีอยู่น้อยนิดไม่ให้พลั้งเผลอต่อยปากคน

    ผมกระแทกกล่องโออิชิที่มีผู้หญิงผมหยิกๆแปะอยู่ข้างกล่องลงบนโต๊ะ
     แอบเห็นมันยิ้มเลว มันแกล้งผมชัวร์ (เอ่อ เพิ่งรู้ตัวหรอคะ)

    รอบที่สามผมเลยเหมาทุกอย่างที่เป็นขวดเหลี่ยมๆ อามิโน บิอิ้ง เซปเป้ เพียวริขุ กระทิงแดง ถ้าคราวนี้มันไม่แดกผมนี่แหละจะแดกเอง เฮอะ เดินตากแดดร้อนๆตอนเที่ยงทำเอาผมกระหายน้ำคอแหบคอแห้ง
     

    สุดท้ายไอ้ภูมิก็ยอมเสวยเพียวริขุ มันบอกว่าชื่อน่ารักเหมาะกับหน้าตามันครับ เออ เข้ากับหน้าตามึงมากกก
    -__-

    ตอนนี้ผมก็ไม่ได้เดินไปเดินมาให้แดดเลียผิวแล้วครับ แต่ผมกำลัง นวด!!!ให้ไอ้ภูมิ คุณฟังไม่ผิดหรอกครับผมกำลังทำตัวเหมือนไอ้ตัวเข้าไปทุกที แม่งแค้นครับแค้น ไหนจะคอยหลบสายตาสงสัยของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไหนจะต้องคอยระวังกลัวไอ้แทนมาเจออีก

    ถึงไอ้ภูมิจะบอกว่าไอ้แทนกับเพื่อนมันคนอื่นๆไปเรียนที่ภาคก็เหอะ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้หรอกครับระวังภัยไว้ก่อน ว่าแต่ผมยังไม่เข้าใจเรื่องที่ไอ้ภูมิมันไม่เข้าเรียน แล้วกระแดะเรียกผมมาคอยรองมือรองตีนมันเลย ตกลงมึงขี้เกียจเรียนหรือแค่อยากแกล้งกู
     

    “โอ๊ย เบาๆดิวะ กูให้เอามือนวดไม่ใช่เอาตีนเหยียบ” ผมแอบลงแรงอารมณ์โมโหใส่ไหล่มัน อยากเอามือไปชุบยาพิษแล้วให้พิษซึมเข้าผิวหนังมันจริงๆหรือจะทำเหมือนหนังจีนดี ที่แอบเอาปิ่นปักผมเสียยบคอให้มันตายๆไปซะ

    “ทำเบาๆมันจะไปถึงเส้นได้ไง มันต้องแรงๆจะได้สะใจ” สะใจกูนี่ไง ตาย ตาย ฮึ่ม

    “ซาดิสต์” มึงนั่นแหละซาดิสต์ มันหันมาทำตาดุๆแล้วก็สะบัดๆไหล่ออกจากมือผม ทำเหมือนว่ารังเกียจอ่ะ
     

    “พอแล้ว กูหิวข้าว ไปซื้อข้าวมา” มันควักตังแบงค์พันยื่นให้ผม โอยย ไอ้รวยเมื่อตอนซื้อน้ำก็แบงค์พัน ไปห้ารอบก็ห้าแบงค์ ผมรับมาแล้วตั้งหน้าตั้งตาจะเดินไปโรงอาหาร

    ไปๆมาๆผมนี่แหละจะตายก่อนมัน เหนื่อยตายน่ะครับเคยได้ยินมั้ย


    “เดี๋ยว!! กูเปลี่ยนใจแล้ว จะไปกินข้างนอก” ดี ไปเลยๆกูจะได้กลับบ้านซะที
     

    “งั้นกูกลับบ้านล่ะ บ๊าบบาย โชคดี” ผมอยากกลับไปนอนเว้ย

    “อะ - ไร - นะ” มันทำหน้าเหมือนผมบอกว่าผมจะข่มขืนป้ามัน

    “กูจะกลับบ้านไง”

    “กูบอกตอนไหนว่าจะให้มึงกลับ มึงต้องไปกับกู”
    เวร ผมไม่ไปได้มั้ย อยู่กับมันยังไม่ถึงชั่วโมงประสาทก็จะแดกแล้วอย่าให้ไปร่วมโต๊ะกินข้าวเลย

    “กูไม่ไป จะกลับ”
     
    “อยากตายรึไง กล้าขัดคำสั่งกูหรอ มองห่าอะไรกันวะ” มันแหกปากใส่ผม ก่อนจะหันไปด่ากราดคนที่มองมัน ส่วนใหญ่คนมักจะมองไอ้ภูมิด้วยสายตาชื่นชม ซึ่งผมแอนตี้มาก(อิจฉา) ถ้าเป็นผู้ชาย(แท้)มองก็ออกแนวชื่นชมผสมเกรงๆ

    แต่ถ้าผู้ชาย(ไม่แท้)และผู้หญิงมองก็มองแบบเพ้อฝันเหมือนอยากจะกลืนกินมัน เฮอะ ผมก็อยากถูกมองแบบนี้บ้างนะ
    แต่ตอนนี้ผมอยากไปให้พ้นๆมันมากกว่า




    .................………………………………
     
     



    สถานที่กินข้าวที่มันพาผมมาคือมาบุญครอง ให้ตายเถอะซาร่ามึงหาที่อื่นไม่ได้แล้วใช่มั้ย กูเบื่อเว้ย และตั้งแต่เดินลงรถมาผมกับมันก็กลายเป็นเป้านิ่ง เอ้ย เป้าสายตาของปุถุชน

    จะพูดให้ถูกคือไอ้ภูมิคนเดีนวซะมากกว่า ก็มันเล่นหล่อเท่ห์ซะเว่อร์ไม่เผื่อแผ่กูบ้างเลยนะ เดินกับมันผมกลายเป็นคนแคระไปเลย แต่ก็ชินแล้วหละครับเดินกับพวกไอ้คิวไอ้แทนก็ไม่ต่างกัน คนก็มองแบบนี้แหละ แต่อาจจะไม่มากเท่านี้
     

    “มึงเดินหาเต่ารึไง เร็วๆ” ทำไมต้องเสียงดังด้วยวะก็ไม่อยากเดินข้างมึงมีไรมั้ย  เดินใกล้มันแล้วรัศมีผมถูกมันบดบังเดี๋ยวสาวไม่มอง ฮ่าฮ่า แต่ดูเหมือนว่าไอ้ภูมิมันไม่สนใจเลยว่าตัวเองเด่นแค่ไหน มีคนมองมากเท่าไร พอเห็นมันทำท่าเหมือนเตรียมจะเหวี่ยงผมเลยรีบก้าวไปเดินข้างมัน

    ชอบสั่ง เอาแต่ใจ เอาใจยาก
     

    หลังจากทั้งเดินทั้งคิดว่าจะกินอะไรดีสุดท้ายมันก็ตัดสินใจได้ มันพาผมเข้าร้านอาหารอิตาเลียน ร้านนี้ผมเดินผ่านบ่อยมากแต่ไม่เคยเข้าเพราะมันหรูเกินไปกินแล้วกลัวปากพอง ฮ่าฮ่า


    “สวัสดีคะร้าน…ยินดีต้อนรับคะ เชิญด้านในเลยคะไม่ทราบว่ากี่ที่คะ” โหยยพี่ แค่ถามลูกค้าไม่ต้องทำตาหวานเชื่อมขนาดนั้นก็ได้มั้ง


    “สองครับ” ดูเหมือนไอ้นี่ก็ไม่ได้รับรู้อะไรเล้ยว่าถูกแทะโลมทางสายตา หรืออาจจะรู้แต่มันไม่สนใจ พี่พนักงานคนสวยเดินนำพวกผมไปที่โต๊ะด้านใน พร้อมกับยื่นเมนูให้โดยที่สายตายังไม่ละไปจากหน้าไอ้ภูมิ ฮึฮึ กินมันเลยพี่ ผมจะได้เป็นอิสระซะที


    “เอาสปาเก็ตตี้ซอสบร็อคโคลี่ แล้วก็… มึงกินไร” มันก้มมองดูเมนูแปบเดียวก็สั่ง มันถามผม เอ เบ๊มีสิทธิกินข้าวกับเจ้านายด้วยหรอ สงสัยผมจะอินกับบทบาทมากไปใช่มั้ยเนี่ย


    “งั้นเอาสปาเก็ตตี้มิโสะหมูหวานอีกที่ครับ”  ผมเหวอไปเลย มันสั่งให้ผมโดยไม่รอฟังคำตอบเลยอ่ะ
    แล้วพี่พนักงานก็ทวนรายการอาหารอีกรอบ

    “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ”

    “เป๊ปซี่ครับ”


    “กรุณารอสักครู่นะคะ” พี่พนักงานยิ้มหวานมากกว่าปกติส่งท้าย ก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้ไอ้ภูมิกอดอกจ้องผมหน้านิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมไม่อยากสนใจมันเลยมองออกไปข้างนอก มองเด็กน้อยร้องไห้แย่งของเล่นกันยังดีกว่าต้องมองหน้ามัน กูนอยส์ กูเซ็ง

    และไม่นานเป๊ปซี่เย็นๆสองแก้วก็มาเสิร์ฟ ผมก้มดูดน้ำในแก้ว
    อยู่ๆก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกที่ต้องมานั่ง ให้มันจ้อง
    กูไม่ใช่ภาพวาดในแกลลอรี่นะมึง จ้องทำห่านอะไรนักหนาวะ
     

    “มึงชื่ออะไร” เป๊ปซี่แทบออกรูจมูกครับ จี๊ดขึ้นสมองเลย ผมเงยหน้าขึ้นมองมันแบบรังเกียจสุดๆ สั่งอาหารโดยไม่ถามความสมัครใจก็รอบนึงแล้ว นี่มันยังไม่รู้จักชื่อผมอีกงั้นหรอ มันสมควรมั้ยเนี่ย ฮึ่มๆ
     

    “พีม”

    “ชื่อโหล”
     
    “ชื่อมึงสองโหล” มันยักไหล่

    “มึงเป็นเบ๊” ไอ่นี่หน้าตาดีซะเปล่าแต่เหมือนมันจะพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องนะผมว่า มันคิดอะไรก็พูดเลยใช่มั้ย ประโยคน่ะหัดเติมส่วนขยายให้มันบ้าง กูงง
     

    “เออ รู้แล้วไม่ต้องย้ำกูมันเบ๊มึงมันเจ้านาย” จะย้ำทำส้นตีนอะไรวะ แค่นี้ก็จะบ้าอยู่แล้ว


    “ต่อไปนี้มึงมีหน้าที่คอยทำตามที่กูสั่ง” แล้วที่กูทำอยู่มันเรียกว่าอะไรล่ะ ไอ้งั่ง
    “ไม่ต้องแอบด่ากูในใจหน้าที่ใหม่ของมึงคือต้องไปทำความสะอาดคอนโดกู ซักเสื้อผ้า ทำกับข้าว งานบ้านทุกอย่าง” ผมอ้าปากค้างเป็นรอบที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้ ถ้าผมกระโดดขึ้นโต๊ะไปตีลังกาหลังใส่หน้าไอ้ภูมิจะดังมั้ย


    “มันไม่มากไปหน่อยหรอวะ”ผมเริ่มมีน้ำโหครับ ไม่ใช่ว่ารังเกียจงานที่มันให้ทำนะก็แค่มันมากเกินไป ผมรู้ว่าเรื่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะมันแค้นที่ผมทำภูมิน้อยของมันเสียสมดุล แค่ผมต้องคอยรองรับอารมณ์มันก็น่าจะพอแล้ว อีกอย่างผมก็ผู้ชายจะให้ไปทำกับข้าว ซักผ้า หึ กูทำไม่เป็นเว้ย
     


    “งั้นกูโทรหาไอ้แทน” มันทำหน้าเหนือกว่าจนน่าหมั่นไส้มันถือไพ่ตายนิ ผมลืมบอกอะไรคุณๆไปใช่มั้ยครับ คือวันที่มันลักพาตัวผม(ลักพาตัวหรอ)ไปโกดังร้างอะ มันอัดคลิปไว้แบล็กเมล์ผมด้วย ไม่ต้องตกใจครับไม่ใช่คลิปอย่างว่าแค่มันให้ผมนั่งหลับตาแล้วพูดไม่กี่ประโยค
     

    “ผมนายพีระณัฐ เรืองสิริวงศ์ จะรับใช้และเชื่อฟังคุณภูมินทร์  เจริญเกียรติวานิชเป็นเวลาสองเดือน
    บลาๆๆๆ ห่าเหวอีกมากมายแล้วแต่มันจะนึกออกแล้วบอกให้ผมพูดร้องหมอลำยังมีเลย ฮึ๋ย คิดแล้วแค้น
     

    “เออ!!!ก็ได้ๆ” อยากลุกขึ้นร้องไห้ให้น้ำตาเป็นสายเหล้า ดีที่ว่าพี่พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟก่อน ผมก็เลยได้แต่ข่มจิตข่มใจ ไม่ดงไม่แดกแมร่งแล้วสปาเก็ตตี้เนี่ย คุณคิดว่าผมจะได้ทำตามใจอยากมั้ยครับ


    ไม่มีทางเหอะอะไรที่ผมต้องการไอ้ภูมิจะคอยตามไปสกัดดาวรุ่งทันทีอาหารมื้อนี้เลยเหมือนอาหารมื้อสุดท้ายของนักโทษที่เตรียมตัวไปแดนประหารแต่ว่าที่ผมเจอมันยิ่งกว่าอีกนะ T_T Y_Y


    กินเสร็จท่านชายภูมิก็เกิดแรดอยากจะซื้อของซะงั้น เพราะเพิ่งนึกได้ว่ามะรืนนี้เป็นวันเกิดหลานชายฝาแฝด ผมก็ต้องเดินตามมันต้อยๆ คนก็ยังให้ความสนใจไอ้ภูมิเช่นเคยครับ


    มีหนักๆเลยคือน้องผู้หญิงม.ปลายกลุ่มหนึ่งยืนกรี๊ดมันอ่ะ แล้วแบบว่าน้องแมร่งกล้าไง เข้ามาขอถ่ายรูป ไอ้ภูมิมันก็ให้ถ่ายนะแต่หน้าแบบไม่ได้ยิ้มมากมายแต่ก็ไม่ถึงขั้นบึ้งจนน่าเกลียด  ผมเลยได้รู้อะไรใหม่ๆว่า


    ไอ้เชี่ยภูมิเป็นคนขี้รำคาญ



    ถ่ายรูปเสร็จมันก็เดินลิ่วๆไม่รอผมเลย จนผมต้องรีบพาขาสั้นๆของตัวเองวิ่งตาม มันบอกว่าจะมาซื้อรถบังคับให้หลาน แต่นี่อะไร เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่อื่นๆอีกล้านแปด
     

    มึงจะเหมามาบุญครองใช่มั้ย รู้ครับว่ามึงรวย จะซื้อก็ไม่ได้ว่าแต่ช่วยเมตตากูบ้าง ก็ผมต้องถือของให้มัน
    ไอ้ภูมิเดินเข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ โดยมีผีถุงช้อปปิ้งอย่างผมคอยวิ่งตามพะรุงะรังมากครับ กูเหนื่อยนะเว้ยสัด


    “อ้าวภูมิ มาทำอะไรหรอคะ” เสียงหวานๆดังขึ้นระหว่างที่ไอ้ภูมิยืนเลือกจิวอยู่ ผมเลยหันไปมองก็เห็นสาวสวยในชุดมหาลัยฟิตเปรี๊ยะกระดุมแทบจะหลุดออกมาทิ่มลูกตาไอ้ภูมิแล้วมั้ง เธอไม่ได้ใส่เข็มมหาลัยเดียวกับผม แต่เป็นอีกสถาบันที่ค่อยข้างมีชื่อเหมือนกัน


    “มาซื้อของ หมิวละ”


    “หมิวมาทานข้าวคะ ไม่ได้เจอภูมิซะนานเลย เป็นไงบ้าง”

    “ก็ดี หมิวล่ะ”
     

    “ก็ดีคะแล้วภูมิมากับใครหรอ” หืม? ไม่นะ อุตส่าห์ทำตัวแปลกแยกแล้วแท้ๆ อย่ามายุ่งกับโผ้ม ไอ้ภูมิเงียบไปซักพัก มันจะตอบว่าอะไรวะ เพื่อน คนใช้ คนรู้จัก แล้วถ้าไม่รู้จักจะมาเดินด้วยกันได้หรอผมนี่ก็คิดอะไรเพี้ยนๆเนอะ คึคึ
     

    “หมิวล่ะ มากับใคร”หมิวล่ะ พูดคำอื่นเป็นมั้ยมึง แต่ไหวพริบมันเป็นเลิศครับ ไม่ตอบแต่ถามกลับ แต่ดูจากท่าทางแล้ว สาวสวยคนนี้ก็ไม่ได้อยากจะรู้หรอกว่ามีใครมากับไอ้ภูมิมั้ยเพียงแต่เธอคงอยากจะแน่ใจว่ามันมาคนเดียว จากการคาดคะเนและดูจากความน่าจะเป็นหมิวคนนี้น่าจะเคยเป็นอะไรกับไอ้ภูมิแน่นอนครับ คอนเฟิร์มครับ
     

    “หมิวมากับเพื่อนแต่เพิ่งแยกกัน งั้นเราไปเดินด้วยกันมั้ยคะ นานๆทีได้เจอภูมิ” โห เห็นๆอยู่ว่าเพื่อนยืนรออยู่นอกร้านอ่ะ ผมว่าไอ้ภูมิต้องปฏิเสธชัวร์


    “ก็ดี ไปสิ”  o_Oแป่ว แว่ว แว่ว คุณ คิด ผิด นะคร้าบบบ ผมก็เอ๋อแดกสิครับผมต้องไปกับมันมั้ยเนี่ย แล้วสภาพผมของเต็มมืออ่ะนะ เดินด้วยคงไม่ไหวแน่ๆ อาจจะไหวแต่ต้องโทรเรียกรถพยาบาลมารอนะ ผมเป็นหอบหื่น เอ้ย หอบหืดครับ แค่นี้ก็จะตายแล้ว


    “อ้าว นี่ใครอ่ะคะภูมิ” สาวสวยนามว่าหมิวดูจะตกใจ ที่เห็นผีถุงกระดาษอย่างผมโผล่มายืนข้างๆไอ้ภูมิ คือเมื่อกี้ยืนหลบๆอ่ะครับ แอ๊บดูจิว ดูต่างหูไปเรื่อย


    “น้อง” หือ???อะเกนพลีสสสส น้องหรอ น้องอะไร อะไรคือน้อง กูไปเป็นน้องมึงตั้งแต่เมื่อไร เอาซะกูงง


    “น้องรหัสผมน่ะ” มันคงเห็นเธอคนนั้นกับผมคนนี้ทำหน้ามึนๆเลยช่วยขยายความให้ ก็ยังดีที่มันหาสถานะที่ดูโอเคมากกว่าคำว่าเบ๊มาหลอกหมิว เอาวะน้องก็น้อง

    “พี่ชื่อหมิวยินดีที่ได้รู้จักนะน้องชื่อไรคะ” ชิบหายแล้วชีวิตไอพีม อยู่ๆก็ถูกคนรุ่นเดียวกันยัดเยียดให้เป็นน้อง ผมใช้หางตาฟาดไปที่ไอ้ภูมิมันยืนยิ้มสะใจอยู่ ไอ้เลว

    “เอ่อ ชื่อ พีมครับ” แล้วยัยคนนี้ซื่อหรือโง่กันแน่ที่ดูไม่ออกว่าผมรุ่นราวคราวเดียวกับเธอรึผมหน้าเด็กหว่า ฮ่าฮ่า ใช่ๆผมคงจะหน้าเด็ก^^

    จากนั้นหมิวก็ไม่ได้สนใจอะไรผมอีกนอกจากจะบ่นว่าอิจฉาผมที่โชคดีได้เป็นน้องรหัสไอ้ภูมิ หึหึผมว่าโชคร้ายมากกว่าถ้าผมได้เป็นน้องรหัสมันจริงๆผมคงจะกลั้นใจตายวันหลายๆรอบ


    หมิวเดินเคียงคู่กับไอ้ภูมิเป็นภาพที่สร้างความอิจฉาครหาของมวลประชาทั่วไปคนหล่อคนสวยใครๆก็มองแหละครับ สองคนนั่นเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เหมือนที่ไอ้ภูมิเพิ่งทำ ผมก็หอบของวิ่งตามพวกเขาไปเหนื่อยอ่ะ ข้อนิ้วผมแดงไปหมดแล้ว มันสองชั่วโมงแล้วนะ ถ้าจะสวีทกันก็ช่วยปล่อยกูกลับเห้อ


    “ไอ้เตี้ย มึงรออยู่นี่นะ กูจะไปส่งหมิว” ไอ้ภูมิเดินมาบอกผมที่นั่งหมดแรง หอบแฮ่กๆ

    “ทำไมต้องรอวะ กูก็จะกลับเหมือนกัน” มันทำหน้าเอือมๆ ก็ทำไมต้องให้ผมรอก็ต่างคนต่างกลับดิ


    “มึงต้องไปทำความสะอาดห้องกูไง”

    “วันเนี้ยะ” มันจะเร็วไปมั้ย ให้กูได้กลับไปพักหายเหนื่อยบ้างเหอะ มันยักไหล่เหมือนกับว่าคำพูดของผมเป็นเพียงลมตดที่ไร้ค่า


    “รอ -ตรง - นี้”ย้ำคำสั่งเสร็จมันก็เดินควงไปกับหมิวเลย ปล่อยให้ผมอ้าปากค้างอึ้งกับความอัปปรีย์ของมัน เชี้ย แล้วผมจะทำอะไรได้ละครับ นอกจากนั่งรอตามที่มันบอกแล้วก็เฝ้าของที่กองเป็นภูเขาเลากา



    หนึ่งชั่วโมงแล้วที่ผมนั่งมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา


    สองชั่วโมงผ่านไป ผมย้ายที่นั่งใหม่


    สามชั่วโมงผ่านไปผมไปซื้อน้ำกินพร้อมกับหอบของพะรุงพะรังไปด้วยเพราะกลัวว่าของขวัญของหลานไอ้ภูมิจะหาย


    สี่ชั่วโมงผ่านไปผมแอบงีบหลับด้วยความเพลีย ทั้งที่มือยังจับถุงทุกใบไว้แน่น

    ตอนนี้คนเริ่มเหลือน้อย จนเหลือแต่พนักงานของร้านต่างๆ ผมยกนาฬิกาขึ้นดู



    สี่ทุ่ม ผมรอไอ้ภูมิตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ จนตอนนี้สี่ทุ่ม ผมรอมันเกือบสี่ชั่วโมง



    ผมไม่ใช่คนบ่อน้ำตาตื้น ผมไม่ใช่ผู้ชายขี้แย ผมก็แค่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไอ้ภูมิไม่กลับมา

     
     




    TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>
     
     


    .................................................
     



     
    Talk: ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ตอนนี้เบลอๆงงๆก็ทนๆหน่อยนะคะ แล้วถ้าอยากให้ปรับปรุงแก้ไขอะไรยังไงบอกได้นะจ๊ะ^__^
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×