ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 19 ไม่สบาย >_

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 54








    ตอนที่ 19  
     




     
    หมอดูสำนักไหนจะแม่นเท่าหมอพีมไม่มีอีกแล้ว ผมทำนายว่าตัวเองจะเป็นไข้ ก็เป็นจริงๆ วันนี้เลยนอนซมหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บ้าน แถมเมื่อเช้ายังได้ฟังเทศน์สวดก่อนเป็นศพจากอาปุ้ยอีก
     


    คุณเธอบ่นที่ผมไม่ดูแลตัวเอง ไม่รู้จักกินยากันไว้ ใคร๊มันจะไปรู้ว่าสิ่งที่ไอ้ภูมิมันทำกับผมจะต้องกินยากันไว้ก่อน หึ แต่ถึงอาปุ้ยจะบ่น อาก็ยังอุตส่าห์ทำข้าวต้มไว้ให้ผมก่อนออกไปทำงาน
     


    ผมมีหน้าที่ลุกไปกิน มื้อเที่ยงก็อุ่นเอง จัดการหาผ้าชุบน้ำมาวางแปะหน้าผาก ผมก็แค่เป็นไข้ไม่ได้ผ่านการผ่าตัดไส้เลื่อน ยังดูแลตัวเองได้ครับ แหม๊ คนอะไรหล่อแล้วยังมีความสามารถอีก หึ เทพจริงๆ แต่ตอนนี้เทพขอไปนอนก่อนนะ ยาแก้หวัดชวนง่วงมาก
     


    “อือ” ผมนอนไม่สบายตัวเลย หลับๆตื่นๆ เจ็บคอว่ะ ปวดหัวด้วย แต่อะไรอุ่นๆแตะหน้าผากผมอ่ะ หรือผีอำกูวะ
    o_o เวลาป่วยร่างกายมักไม่มีพลังงาน แล้วผมจะเอาพลังที่ไหนไปต่อสู้กับผีร้ายที่อำผมละเนี่ย
     


    ทำไงดีๆ ผมพยายามหรี่ตาขึ้นมอง ในใจก็กลัวว่าถ้าลืมตาไม่ได้จะทำยังไง จะต้องแผ่เมตตาให้ใครบ้างเพราะรู้สึกว่าเจ้ากรรมนายเวรจะเยอะซะเหลือเกิน แต่ดีที่ผมลืมตาได้สำเร็จ แม้ว่าภาพตรงหน้าจะไม่ชัดก็เถอะ
     


    แต่สัมผัสอุ่นๆที่ผมได้รับมันชัดเจนในความรู้สึก แม้ไม่เห็นหน้าผมก็รู้ว่าคนที่ลูบหัวผมตอนนี้เป็นใคร ถุ๊ย ฟังดูดีมั้ยครับ ดูโรแมนติ๊ก โรแมนติกเนอะ แต่ที่ผมรู้สึกจริงๆคือ ไอ้หล่อนี่มันเข้ามาได้ยังไง ผมล็อกบ้านล็อกห้องแล้วนะเว้ย
     

    “ภูมิ เข้ามาได้ไงวะ” ภูมินั่งลงบนเตียง มันใช้หลังมือแตะหน้าผากผม ตอนแรกที่เห็นมันยื่นหลังมือมา ผมก็นึกว่ามันจะหลังแหวนใส่กบาลผมซะอีก
    -_- (ผมก็คิดได้เนาะ)
     

    “มึงเป็นไงบ้าง ตัวอุ่นๆนะ ปวดหัวมั้ย กินยารึยัง ไปโรงพยาบาลเถอะ” แรพใส่กูอีกแล้ว กูจะปวดหัวก็เพราะคำถามของมึงนี่แหละ
     

    “กูไม่เป็นไร แค่ปวดหัวนิดๆ” แต่เสียงขึ้นจมูกเลย แหบอีกต่างหาก “แล้วมึงมาได้ไง ไม่เรียนหรอวะ”


    “มี แต่โดด กูเป็นห่วงมึง กูจะมาหามึงตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ฟ่างห้ามไว้บอกว่าให้ไปเรียนก่อน มึงคงไม่ตายง่ายๆหรอก” จะว่าไอ้ฟ่างมีเหตุผลมันก็ใช่ จะว่าเห็นเรื่องของการศึกษาสำคัญมันก็ถูก แต่แช่งกูทำไมวะครับ
     
    ไอ้ภูมิยังลูบหัวลูบหางผมเหมือนผมเป็นหมา หน้าตามันดูกังวน มันคงเป็นห่วงผม รึใครจะเถียง คึคึ
     

    “อืออออ ภูมิมม~~~” เอาละสิไอ้พีม ป่วยหน่อยแม่งทำอ้อน หือ
    ? อ้อน? เมื่อกี้ผมอ้อนมันอ่ะ กูอ้อนไอ้ภูมิ แม่เจ้า!!! แล้วจะทำไมล่ะ ก็คนมันป่วย ร่างกายมันก็ต้องรวนบ้างอะไรบ้าง จะให้ผมทึนทึกอย่างเดียว อ่อนแอไม่ได้รึไง อิจฉาเค้าอ๊ะดิ๊ อิจฉาผมที่มีแฟนหล่อๆให้อ้อนละสิ กิ๊วๆๆๆ (สงสัยต้องพาตัวเองไปส่งหลังคาแดงแล้วกู)
     

    “หื้ม ว่าไงครับ” ไอ้นี่ก็ตามน้ำ แม่งยิ้มหล่อถามอยู่ได้ ห่า พอเหอะ กูสยอง
     

    “กูทุเรศตัวเองวะ” ผมไอโขลกๆพูดเสียงขึ้นจมูก ภูมิมันก็หัวเราะไปตามประสา ผมยังเจ็บคอ ยังปวดหัว แต่ก็ไม่รู้สึกแย่เหมือนตอนที่นอนคนเดียว แม้จะเจ็บกายแต่ถ้ามีภูมิอยู่ด้วยผมก็อุ่นใจ
     

    เห็นมันโดดเรียนมานั่งยิ้มอยู่ข้างๆอาการผมก็เกือบจะหาย แต่จะว่าไปมันก็มีส่วนทำให้ผมป่วยนี่หว่า เฮอะ หวังเฉา หม่าฮั่น เครื่องประหารหัวสุนัข โทษครั้งนี้คือตายสถานเดียว
     

    “หึหึ ทุเรศตรงไหน ออกจะน่ารัก” ผมปาน้องตุ๊กตาควายใส่หน้าไอ้ภูมิ ข้อหาปากเปราะ แต่เชี่ยนั่นเสือกหลบได้และรับไอ้ตุ๊กตาควายไว้ทัน “ไอ้คิวไอ้มิคก็มานะ มันกินข้าวต้มมึงอยู่ในครัว เดี๋ยวคงขึ้นมา” ไอ้พวกเพื่อนเวร ของเยี่ยมไข้ไม่เคยมีติดมือ แถมมาแดกข้าวที่บ้านกูอีก  เจริญแท้แท๊
     

    ผมพยักหน้ารับและพยายามแย่งไอ้ควายจากมือไอ้ภูมิ แต่แรงคนป่วยหรือจะสู้แรงตะกวดได้ มันเอาตุ๊กตามาบี้ๆลงกับแก้มผม กูป่วยนะเว้ย แกล้งคนป่วย บาปแน่มึงไอ้ภูมิ
     

    “จุ๊กกรู๊ววว ยู้ฮู้ วิ๊ดวิ๊ว ปิ๊ดปิ๊ว สยิวกิ๊ว อิ๊วๆๆๆๆ” ไอ้คิวเปิดประตูเข้ามาพร้อมไอ้มิค มันเดินสโลโมชั่นเหมือนกำลังถ่ายทำหนัง มันยิ้มเลวๆมุมปากให้ผมกับภูมิ มันยกคิ้ว เด้งหงึกๆเป็นท่าประกอบ แม่ง เสื่อมโคตร ใครก็ได้เอาไอ้คิวออกไปจากห้องกูที
    Y_Y
     
    แต่จะให้ผมเขินหรอ เฮอะ เมินซะเถอะ กูด้านแล้ว ไหนๆไอ้ภูมิมันก็ได้ไปหมดแล้วนี่ ก็ถือซะว่าผมขายขาด ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว จะแซวจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ อ๊ากกก ใช่ซะที่ไหน ผมรีบมุดผ้าห่มหนีแต่เชี่ยคิวก็ถลาเข้ามาคว้าไว้ทัน
     

    ไอ้คิวผลักภูมิออกจากเตียง มันหย่อนก้นนั่งลงแทนที่ มันลูบหัวผมเบาๆ ผมก็ได้แต่มองมันตาปริบๆ กำลังคิดหาทางหนีทีไล่


    ส่วนไอ้มิคมันกระโดดขึ้นมานอนบนเตียงกับผมอีกฝั่ง มันดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ซักพักตัวมันก็สั่น ครางหงิงๆเหมือนหมาถูกน้ำร้อน เชี่ย หลายกิจจริงๆนะพวกมึง แล้วไอ้ภูมิมันจะเดินหนีไปไหน กลับมาช่วยกูก่อน
     
    “เป็นไงบ้าง หื้ม โดนจัดหนักหรอเรา หรือน้ำที่หัวหินเย็น กลับมาถึงไข้แดกเนี่ย”

    “เออ น้ำเย็นมาก น่าเอามากรอกปากมึง”

    “แหมๆ สงสัยน้ำจะดีว่ะ ขนาดป่วย หมาในปากยังเห่าได้ มึงว่ามั้ยมิค”

    “ช่ายยยย ดูสิ สงสัยจะแพ้น้ำด้วย เป็นจุดแดงเต็มตัวเลย ฮ่าๆๆๆ”
     


    “ภูมิ
    !! กลับมาเตะปากไอ้เชี่ยสองตัวให้กูที” ไอ้มิคกับไอ้คิวร่วมด้วยช่วยกันหัวเราะผมอย่างเมามันส์ ผมเอาหมอนฟาดมันสองตัวให้ลุกออกจากเตียง แต่เหมือนหนีเสือปะวรนุช พอไล่ไอ้คิวออกไปได้ ก็มีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งที่ผมยังไม่พร้อมให้มันมาใกล้ในเวลานี้ มันส่งเสียงลั่นเมาก่อนตัว
     

    “เฮียยย พีมมมม โอ๊ย” ไอ้เต้ยยืนลูบหัวตัวเองป้อยๆ เพราะมันวิ่งชนหลังพี่รหัสมัน พอรู้ว่าใครเป็นเจ้าของแผ่นหลังที่มันเอาหน้ามาทิ่ม ไอ้เต้ยก็หน้าหงิกเป็นตูดทันที “พี่คิว มายื่นบื้อทื่อขวางทางเต้ยทำไม หลบดิ”


    “อ้าว ไอ้เด็กเวร กูยืนของกูดีๆ มึงต่างหากที่วิ่งมาชนกูเอง”
     


    “หึ ตัวเท่าควาย ไม่ตายง่ายๆหรอก เฮียพีมใกล้จะตายยังไม่บ่นเลย” เชี่ยเอ๊ย แม่งสันดานเลวพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง “เฮียพีม เต้ยซื้อของดองมาฝาก” ไอ้เต้ยเลิกสนใจไอ้คิวที่จะแดกหัวมัน  ไอ้เด็กแสบมันชูถุงผลไม้ดองของเปรี้ยวนับสิบถุงให้ผมดู มันอวดรอยยิ้มหล่อจนเกือบเห็นฟันครบ
    32 ซี่
     

    “เอาของดองมาฝากกูทำไม กูเป็นไข้นะมึง”
     


    “อ้าว ก็เฮียปันโทรหาเต้ย บอกว่าเฮียพีมอ่ะแพ้ท้อง ให้เต้ยซื้อของเปรี้ยวๆมาให้” ระยำเอ๊ย ผมอยากจะบ้า กูต้องฆ่าใครก่อนระหว่างไอ้ปันที่ปากหมากับไอ้เต้ยที่แกล้งโง่ มันสามตัวหัวเราะคิกคักที่เห็นผมอาย โกรธ นี่พวกมึงมาเยี่ยมไข้หรือมาทำให้ไข้กูขึ้นกันแน่วะ
     
    “เต้ย มึงมาฟังน้องดิ้นสิ” ไอ้มิคไอ้เวร
     
    “จริงหรอ ไหน ขอเต้ยฟังน้องดิ้นหน่อย” ผมไอจนแสบคอ แถมต้องคอยกระเถิบหนีไอ้เต้ย แต่สุดท้ายผมก็หมดแรงจะขัดขืน ปล่อยแม่งทำไปเถอะ เชี่ยเต้ยเอาหูลงมาแนบที่ท้องผม  กูขอลาตายและไว้อาลัยให้ชีวิตอันอาภัพและรันทด
     

    “ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย หรือน้องหลับ” น้องไม่ได้หลับ แต่กูไม่มีมดลูก กูไม่ได้ท้อง กูไม่มีน้อง มึงจะได้ยินอะไรละสัด


               


    “น้องยังตัวเล็กอยู่ ยังไม่ดิ้นหรอกเต้ย” เอาเข้าไป รุมกูกันเข้าไป พอเป็นเรื่องเลวๆทีไรไอ้พี่น้องรหัสมหาประลัยแม่งเข้ากันได้ดีจริงๆ
     

    “เฮ้ย พวกมึงทำอะไรกันวะ น้องสะใภ้กูเพิ่งคลอด อย่าให้มันกระทบกระเทือนสิ” อาร์ตตัวพ่อมาแล้วครับ มันมาแล้ว  กูอยากตาย ไอ้ฟ่างเดินเหยียดยิ้มล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามา มีไอ้แทนเดินอมยิ้มกวนส้นตีนตามมาติดๆ
     


    ตอนนี้ไอ้มิคมันกลับมานอนเท้าแขนตะแคงอยู่ข้างๆผมเหมือนเดิมแล้ว แถมมันยังลูบท้องผมผ่านผ้าห่มอีก พวกมึงนัดกันมาฆ่ากูใช่มั้ย แล้วพ่อเด็กไปไหน เฮ้ย ไม่ใช่ แล้วไอ้ภูมิไปไหน มาช่วยกูที


    T_T



    “น้องเต้ยหลบ ขอเฮียดูอาการน้องสะใภ้เฮียหน่อยสิ” ไอ้เต้ยลุกออกไปยืนหัวเราะข้างๆไอ้แทนที่ยืนยิ้มมีความสุขมองผมอยู่ ส่วนเชี่ยฟ่างก็มานั่งแทนที่ มันจ้องหน้าผมแล้วก็ขำอยู่ในลำคอ แต่ละตัวนี่มาแบแจ่มๆกันทั้งนั้น
     

    “เอาแขนมานี่ซิ” ผมงงกับคำสั่งไอ้ฟ่าง มันจะมาไม้ไหนอีกวะ ตอนนี้ผมไม่ไว้ใจใครในห้องนี้ทั้งนั้นแหละ ก็ตั้งแต่เข้ามาไม่มีไอ้ตัวไหน คิดที่จะห่วงใยถามอาการกูซักคน ไม่ทักว่าท้อง ก็ทักว่าคลอดลูก สัดหมา ทำไมรอบตัวกูมีแต่คนจัญไรวะ
     


    “มึงจะทำอะไร”
     

    “เออน่า บอกให้เอามาก็เอามาสิวะ” ไอ้ภูมิว่าดุ แต่ไอ้ฟ่างยิ่งกว่าอีก ผมก็เลยจำใจเอามืออกจากผ้าห่มยื่นให้มัน ไอ้ฟ่างดึงมือผมไปจับ ผมก็งงว่ามันจะทำอะไร
     

    ซักพักผมรู้สึกเย็นๆที่ข้อมือ “กูให้ รับขวัญน้องสะใภ้” พอไอ้ฟ่างปล่อยมือผมเป็นอิสระ ผมเอามือตัวเองมาดูใกล้ๆ
     

    พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!!!


    OoO


    >o<


    ทองคำครับพี่น้องครับ
    !!!!
     

    สร้อยข้อมือทองคำอยู่บนข้อมือผม แม่งทองอ่ะทอง
     

    ผมมองหน้าไอ้ฟ่างด้วยความอึ้งปนงง ส่วนมันกำลังยิ้มหล่ออารมณ์ดี คนอื่นนี่จะลงไปขำที่พื้นแล้ว
     

    “มองหน้าทำไมวะ ไหนล่ะหลานกู เอามาอุ้มหน่อยซิ”


    “ทองแท้หรอมึง”

    “ก็เออสิวะ คิดว่าหน้าอย่างกูจะเอาทองเก๊ให้หรอ”


    “ทองแท้เฮีย จากร้านป๊าเต้ยเอง เต้ยช่วยเฮียฟ่างเลือกด้วย” บ้านไอ้เต้ยเป็นร้านทอง อยู่ย่านเยาวราช
     


    “แล้วมึงเอามาให้กูทำไม กูไม่เอา” ประสาทสิ อยู่ๆเอาทองมาให้ทำไม ผมจะแกะออก แต่ไอ้ฟ่างดึงมือไว้


    “กล้าคืนของที่กูให้หรอ มึงคงไม่เคยตายสินะ หึ” นี่กล้าขู่กูเหรอ กูเป็นแฟนน้องชายมึงนะเฟ้ย ห่าเอ๊ยเอาแต่ใจทั้งพี่ทั้งน้อง
     


    “เอาน่าพีม ถือซะว่าเป็นแต๊ะเอียจากกูกับเมีย ไว้ลูกมึงโตก็บอกว่าลุงแทนกับลุงฟ่างซื้อให้” สาดดดดด คือหนึ่งกูไม่ได้ท้อง สองกูไม่มีลูก และสาม กู อายยยยยยยยยยย ผมเหลียวมองคนนั้นทีคนนี้ที พวกมันก็เอาแต่หัวเราะ ไอ้มิคจับมือผมไปพลิกดูทอง มันทำปากจู๋ๆหน้างงๆและมันพยายามที่จะเอาฟันกัดทองบนข้อมือผมเพื่อพิสูจน์ว่าทองคำแท้หรือเปล่า
     


    “แล้วนี่ไอ้ภูมิมันหายหัวไปไหน ไม่มาดูแลเมียวะ” เหมือนเชี่ยภูมิแม่งกะเวลามาล่วงหน้า มีคนถามหามันก็โผล่มาทันที แถมยังถือถาดข้าว น้ำ ยา เข้ามาด้วย ทุกคนหันไปมองมัน ไอ้นั่นก็ขมวดคิ้ว ทำหน้างง คงสงสัยว่าจะมองมันทำไม

     
     “ฮิ้วววววววววววววววว”
     

    “คุณผัวเอาข้าวมาให้คุณเมียแล้ว ก็อย่าลืมซักผ้าอ้อมให้คุณลูกด้วยนะมึง”
     

    สิ้นเสียงไอ้คิวผมก็มุดลงไปอยู่ใต้ผ้าห่ม มุดแล้วมุดอีกมุดจนไม่รู้จะมุดยังไง
     

    พอถูกรุมมากๆหมาในปากผมมันสับสนจนเห่าไม่ทัน
     


    แสรดดดดดดดดดดด พวกมึงออกไปเลยนะ ออกไปให้หมด กูจะให้นมลูก กร๊ากกกกกกกกกกกก
     
     



     
    ………………………………………………….
     


     
    อาจเป็นเพราะผมมีบุรุษพยาบาลดี อาการผมก็เลยดีขึ้นอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็เลยมาเรียนได้ตามปกติ แต่ที่กำลังจะไม่ปกติก็เพราะ
     

    “พีมขา อร๊ายย พีมมี่ของจีจี้ มามะ มาให้จี้สำเร็จความใคร่ที” ผมกำลังถูกล่วงละเมิดทางเพศจากไอ้เจมส์กระเทยอ้วนที่ผันตัวมาเป็นจีจี้ แต่ก็ใช่ว่าผมจะโดนชะตากรรมนี้คนเดียว ไอ้หนึ่งที่นั่งอยู่ม้ายาวอีกฝั่งก็กำลังซวย
     

    “หนึ่งขา เคที่คิดถึ้งคิดถึงหนึ่งขาม๊ากมากคะ” อีเคที่หรือไอ้เค กระเทยไทยแท้ ที่คลั่งไอ้หนึ่งมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ยิ่งรู้ว่าไอ้หนึ่งเป็นไบมันยิ่งเพ้อหนัก
     


    ไอ้จี้กับไอ้เคที่มันอยู่คณะเดียวกับผมแต่คนละภาควิชา มันอยู่ภาคนาฎศิลป์ พวกผมทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยเลยรู้จักและสนิทกัน คณะผมคนไม่เยอะด้วยมั้ง เป็นคณะไม่ใหญ่เลยค่อนข้างจะรู้จักกันทั่วถึง
     

    เวลาไม่มีเรียนหรือช่วงพัก แก็งอีจีจี้ชอบแว่บมาเล่นกับพวกผม แต่วันนี้มาแค่สอง ปกติแก๊งมันมีห้าคน มีแต่ตัวจี๊ดๆทั้งนั้น
     


    พวกมันก็ไม่อันตรายอะไร นิสัยดี เรียนเก่ง เป็นพี่สันทนาการที่น่ารักของน้องๆ และเป็นเพื่อนที่ดีของพวกผมด้วย เสียแต่มันมือไวไปหน่อยและคนที่ซวยบ่อยๆก็ไม่พ้นผม ไอ้หนึ่ง แล้วก็เพื่อนๆในกลุ่มผม
     


    ส่วนไอ้คิวตอนแรกมันเป็นขวัญใจกระเทยทั้งคณะ แต่เพราะปากมันมีหมาหลายตัวมันเลยกลายเป็นคู่กัดกับพวกไอ้จี้ มันกับไอ้หนึ่งชอบจับก้น บิดนมไอ้จี้กับเคที่เพราะมันตัวขาวๆอวบๆ น่าแกล้ง จับแต่ละทีมันกรี๊ดลั่นมหาลัย แต่เหมือนมันก็ชอบนะ


    จริงๆแล้วพวกผมกับพวกไอ้จี้ก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเพื่อนทั่วๆไป พวกมันก็บ้าผู้ชายไปตามประสา ไม่ได้คิดอะไร อีกอย่างเวลามีพวกไอ้จี้ก็รู้สึกว่าจะมีแต่เสียงหัวเราะเสมอ
     
    “ลมอะไรสูบพวกมึงมาถึงภาคกูวะ” ไอ้หนึ่งถามเคที่ ที่กำลังเกาะแขนมันแน่น เหมือนตุ๊กแกหวงผัว
     
    “จี้กับที่มีข่าวดีมาบอกคะ จี้ได้เป็นนายกสมาคมกระเทยสากลคร๊า กรี๊ดดๆๆๆๆ” แล้วมันสองคนก็กรีดร้องเอาหน้าถูไหล่ผมกับไอ้หนึ่ง ส่วนพวกผมก็ได้แต่งงสิครับ
     
    “สมาคมอะไรนะ”ผมเป็นคนถามบ้าง


    “สมาคมกระเทยสากลไงค๊า นี่พวกผัวๆไม่รู้จักหรอคะ” ไม่รู้จักน่ะไม่แปลกหรอก แต่ถ้าพวกกูรู้จักนิสี่ น่าคิด เหอๆ
     

    “เพื่อให้ผู้ชายเก๊ท เดี๋ยวกระเทยจะอธิบายนะคะ สมาคมกระเทยสากลเนี่ย ก็คือสมาคมที่รวบรวมกระเทยพันธุ์ดี เกรดเริ่ดมาตรฐานสากล ผ่านการรับรองจาก ISO 9002 ไงคะพีมมี่ รู้แบบนี้แล้วผัวขาภูมิใจมั้ยคะที่เมียขาเป็นนายกสมาคมกระเทยสากล”
     


    “หนังหน้าอย่างมึงได้แค่นายกชมรมกระเทยเหนียงยานก็หรูแล้วอีพงษ์เทพ” กร๊ากกก ชื่อจริงไอ้จีจี้ครับ เป็นอะไรที่แตะไม่ได้ ถือเป็นคำต้องห้าม มีแต่ไอ้คิวนี่แหละที่กล้า
     


    “อีเหี้ยคิว ถ้ามึงไม่หล่อนะ กูจะเอามึงนี่แหละเป็นรองประธานสมาคม” อีจี้แว๊ดใส่ไอ้คิว และเตรียมเข้าไปจิก แต่ไอ้คิวมันถอยหนีไปสุดม้านั่ง พวกผมก็ขำมัน
     
     


    “มึงอย่าเข้ามาใกล้กูนะอีพงษ์เทพ เดี๋ยวน้ำหนอง น้ำเหลืองกระเด็นใส่กู แหยะๆ”
     


    “โอ๊ยยยย ใครอยากใกล้มึงอีคิว กูมาหาพีมขาย๊ะ ต๊ายตาย กรี๊ดด พีมขาไปให้อีชะนีตัวไหนมันกัดมาคะ คอแดงมาเชียว” ชิบหายละกู ไอ้จี้มันพยายามจะแหวกเสื้อนักศึกษาของผมแต่ผมเบี่ยงตัวหลบทัน คนอื่นก็มองด้วยความสงสัย มีไอ้คิวที่ขำคิกๆคนเดียว
     
    “กูกัดเองแหละ จริงมั้ยคะพีมขา”
     
    “แรงนะมึงอีเคที่ อีสะดือทะเล พีมมี่(กูชื่อพีมเฉยๆโว้ย)ของกู ผัวมึงไอ้คิวนู่น” เคที่มันเบะปากเหยียดๆใส่ไอ้คิว
     
    “ถ้าให้ดูแค่หน้ากูก็อยากได้มันทำผัวหรอกนะ แต่กูกลัวเอากันอยู่ดีๆ หมาในปากมันจะกัดคอกูนะสิ เชอะ”
     


    “ใครจะเอากับมึ้ง อีเค ถ้าให้กูเอากับมึง กูยอมปี้อึ่งภูเขายังจะทำใจได้ซะกว่า”
     


    “อึ่งภูเขามันไม่เอาหนอนหัดคลานอย่างมึงหรอก” ไอ้จี้ก้มมองเป้ากางเกงไอ้คิว มันหลิ่วตากัดปากทำท่าเซ็กเสื่อม จนทั้งโต๊ะพากันขำ
     

    “พอดีว่า หนอนกูเป็นหนอนจีเอ็มโอ ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรมมาแล้วเรียบร้อย ถ้ามึงนึกภาพไม่ออก มึงเคยเห็นงวงช้างมั้ยวะ หึหึ นั่นแหละ”
     

    “ถุ๊ย!!!” ไม่ใช่แค่เสียงของไอ้จี้กับไอ้เค แต่เป็นเสียงของคนทั้งโต๊ะ ห่าคิว งวงช้างน้อยละสิมึง
     

    “แล้วสรุปพวกมึงมาร่อนอะไรแถวนี้” ไอ้ชายถามบ้างเป็นการห้ามมวยระหว่างกระเทยนางรำกับผู้ชายปากหมา
     

    “มาหาผู้ชายทำผัว”เคที่ลอยหน้าลอยตาตอบ มือมันยังคงเกาะแขนไอ้หนึ่งไว้อย่างเหนียวแน่น เช่นเดียวกับไอ้จี้ที่ควงแขนผมไว้อย่างแน่นเหนียวเหมือนกัน
     


    “ภาคมึงไม่มีผู้ชายหรอจี้” เป็นคำถามที่รู้คำตอบกันอยู่แล้ว ฮ่าๆ
     

    “แหม ถ้าภาคกูมีผู้ชายแมนทั้งเลา กูก็คงไม่มาหาแดกไกลขนาดนี้หรอกอีโจ”
     

    “มึงอย่าเสียเวลาหาให้เหนื่อยเลยวะจี้ เพราะต่อให้มึงตายแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่อีกสิบชาติมึงก็หาไม่ได้หรอกผัวน่ะ เสียเวลาเปล่าๆว่ะ เอาเวลาไปบูรณปฏิสังขรป์หนังหน้ามึงให้เหมือนคนก่อนดีกว่านะกูว่า”
     


    “อ๊ายยยยยยยยยยยย พีมมี่ขาอีคิวมันด่าจี้คะ พีมมี่จัดการให้จีจี้หน่อยสิคะ”แม้แต่กระเทยปากกรรไกรยังทำอะไรฝูงหมาในปากไอ้คิวไม่ได้
     

    “เชี่ยคิว มึงอย่าพูดความจริงสิวะ จี้มันรับไม่ได้ ฮ่าๆ”
     

    “กวนตีนนะคะมึง ไอ้คุณผัว  ที่กูมาจะมาบอกว่า พรุ่งนี้บ่ายโมงตรงกรุณาเข้าประชุมสโมฯด้วยนะคะ ไม่งั้นกูจะยัดเยียดความเป็นเมียให้พวกมึงทั้งกลุ่ม โดยเฉพาะมึงอีชาย เป็นว่าที่นายก ก็หัดเสนอหน้าเข้าประชุมซะบ้าง ส่วนวันนี้อีเคที่ถอยทัพ แล้วจะแวะมาใหม่นะคะ ผู้ชาย แอร๊ยย” มันกัดปากหลิ่วตามองผม แล้วสะบัดตูดเดินบิดๆกลับไป
     
     

    พวกผมน่าจะรู้ว่าอีจีจี้ไม่เคยมาพร้อมเรื่องดีๆ
     
     
     
     
     
                                         ………………………………………….





     หลังจากสู้รบปรบมือกับจีจี้ เที่ยงนี้ผมก็มากินข้าวเติมพลังกับพวกไอ้ภูมิที่โรงอาหารวิศวะ มันไปซื้อน้ำ แล้วให้ผมยืนรอผัดกระเพราหมูไข่เจียวสองจาน กินข้าวก็ต้องกินเหมือนกัน แล้วแบบนี้จะแย่งกับข้าวใครละเนี่ย
     

    ป้าบ

     
    “โอ๊ย!!!” ผมกำลังยื่นมือไปรับจานเข้าจากป้า แต่อยู่ๆก็มีมือดีตบกบาลผมจนจานข้าวเกือบหลุดมือ คุณป้าร้านข้าวยังตกใจอ่ะ คิดดูสิครับว่ามือมันจะหนักแค่ไหน
     

    “เชี่ยกี้ แม่งไม่รอกู” ผมวางจานข้าว เอามือข้างนึงกุมหัว รีบหันไปดูว่าไอ้ระยำตัวไหนแม่งตบหัวกูจนหน้าทิ่มวะ ไม่ไอ้เชนก็ไอ้แทนแน่ๆ แต่
     
    “เฮ้ย!!!”
     

    ผู้ชายตัวสูงหน้าคมคนนี้มันเป็นใครวะ ไอ้นั่นมันตกใจหน้าเหวอ ผมก็งงเหมือนกัน ไม่เคยมีเพื่อนหน้าตาแบบนี้แล้วมาโบกกบาลกูทำไม
     


    “เอ่อ โทษที เรานึกว่าเพื่อน เห็นข้างหลังเหมือนกัน ขอโทษนะ”  ไอ้หมอนั่นยิ้มแหะๆก้มหัวขอโทษขอโพยผมยกใหญ่ ห่าเอ๊ยที่แท้ก็จำคนผิด ผมเลยต้องเจ็บตัวฟรี ถ้าเป็นไอ้เชนนะผมโบกคืนคว่ำแน่ แต่ทำไงได้ละ ถือซะว่าเป็นอุบัติเหตุก็แล้วกัน มันก็คงไม่ได้ตั้งใจ
     


    “เออ ไม่เป็นไร แต่จ่ายค่าข้าวให้กูด้วย เพราะมึงทำให้กูเจ็บ” ตบหัวมันคืนไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ แต่มันอึ้งกว่าเดิมอีก


    งงอะไรวะ ก็จ่ายเป็นค่าเสียหายให้ผมไงที่มันทำผมเจ็บตัว หรือว่ามันไม่มีเงินจ่ายวะ สองจานหกสิบบาทเองนะเว้ย

    “มึงมีเงินจ่ายให้กูมั้ยเนี่ย”
     
    “เอ่อ มีๆ  เดี๋ยวจ่ายให้”
     



    “เออดี ป้าครับ คิดเงินกับไอ้นี่นะครับ” ผมมองหน้าไอ้นั่นพร้อมส่ายหน้าเอือมๆ ผมถือจานข้าวออกมา ไอ้แทนก็ถือจานข้าวของมันกับฟ่างออกมาจากร้านข้าวขาหมูพอดี


    “ไอ้ภูมิละ”
     

    “มันไปรอที่โต๊ะแล้ว เมื่อกี้มีไรวะพีม”


    “เปล่า แค่ไอ้นั่นมันทักคนผิด แม่งตบหัวกู”
     


    “ฮ่าๆๆ มีใครเตี้ยเท่ามึงให้คนเค้าจำผิดอีกหรอวะ น่าสงสารเนอะ” ผมอยากเอาคอนเวิร์สเน่าๆอุดปากไอ้แทนจริงๆ ผมเดินออกมาไกลจากร้านข้าวแล้ว แต่ก็ยังได้ยินเสียงของใครบางคนดังไล่หลังมา
     
     
    “มึงมายืนหล่ออะไรตรงนี้ พวกกูรอแดกข้าวตั้งนาน
     
    ……………………….”


     
     “เฮ้ย ได้ยินกูพูดป่ะเนี่ย แม่งมองอะไรวะ ไอ้คลื่น
     
     
     
     
    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
           
     
     


    …………………………………………….
     
     





    มาแบบเบลอๆคะ ช่วงนี้ชีวิตไม่ฮาพาตัวเองเครียด (นี่เครียดแล้วใช่มั้ย กร๊ากกกก)
    เห็นมีคนเชียร์ หนุ่มโสดที่เหลือให้แซ่บกันเอง หึหึ พวกนั้นตะโกนดังๆฝากมาบอกว่า “ไม่มีทาง!!!” อย่างพร้อมเพรียง เชียร์ไปก็เสียแรงเปล่าคะ สามคู่นี่แหละกำลังดี เก็บไว้ให้ชะนีบ้างเนอะ
     
    และนี่คืออิมเมจ พีมกะภูมิ ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าซีเรียสนะคะ อิอิ ดูเล่นๆ หน้าภูมิโหดมั้ยคะ ชอบผู้ชายโหดๆ แอร๊ยยย











      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×