ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 16 Happy New Year :)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 54


     




    ตอนที่
    16





     
    วันนี้วันที่31ธันวาคม เป็นวันสุดท้ายของปี 2553 ปกติผมจะฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวกับญาติๆ แต่หลังจากที่พ่อกับแม่ไปอยู่เชียงใหม่ ปีแรกคุณปะป๊าม่าม๊าก็กลับมาฉลองกับผมที่กรุงเทพ ปีที่สองผมก็หอบเพื่อนๆขึ้นเหนือไปฉลองที่เชียงใหม่
     
    ปีที่สามเริ่มดีแตก แยกทางเพราะห่างเหิน พ่อไปทางแม่ไปทางลูกก็ไปเมาอีกทาง ปีที่แล้วผมเลยเคาท์ดาวน์กับพวกเพื่อนสี่ตัวที่บ้านไอ้แทน แต่ปีนี้ผมไม่ได้อยู่กับครอบครัว ไม่ได้เมาหัวทิ่มกับเพื่อนๆ ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ผมอยู่บ้าน อยู่ฉลองคืนที่พิเศษกับคนที่พิเศษ

    ผมรอส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับภูมิแค่สองคน

    ใครๆก็ให้ความสำคัญกับวันปีใหม่ จัดกิจกรรม งานฉลองมากมาย แต่พอผมได้อยู่กับภูมิ ทำให้ผมรู้ว่าวันนี้ก็ไม่ได้ต่างจากวันอื่นๆเลย เพราะทุกวันที่มีภูมิ มันก็เป็นวันที่แสนพิเศษของผมแล้ว

    “กูหิวข้าวว่ะภูมิ”
     
    “โทรสั่งสิ” เชี่ยภูมิตอบ แต่ใจมันคงหลุดไปช่วยน้องหนูโคนันไขคดีแล้วมั้ง มันสนใจโคนันมากกว่าผมอ่ะ จ้องทีวีตาไม่กระพริบเลยนะมึง ขอให้ไอ้หนูโคนันยิงเข็มยาสลบทิ่มตามึงบอด
     
    “กูขี้เกียจรอ อยากทำกินเอง มึงไปช่วยกูหน่อยดิว๊า เดี๋ยวกูทำอาหารภัตตาาคารตำรับฮ่องเต้ให้กิน มาด้วยกัน เร็ววววว” สุดท้ายผมก็สามารถลากมันมาในครัวได้สำเร็จ

    ไม่อยากจะคุยว่าผมไปเรียนทำอาหารมาด้วยนะ สอนโดยอาจารย์หมึกพอล (ญาติห่างๆของคุณหมึกแดงครับ) ฮ่าๆ ความจริงอาปุ้ยสอนให้ เมนูที่ผมทำแล้วรุ่ง ทำแล้วเกิด นั่นก็คือ อือ อือ อือ ต้มมาม่าใส่ไข่และผักบุ้งนั่นเองคร้าบบบบ หร่อยจั่งฮู้แต๊ๆเด้อ
     
    “ไหนมึงบอกจะทำอาหารตำรับฮ่องเต้ไง นี่แค่ต้มมาม่าเนี่ยนะ” ไอ้ภูมิยืนเขกหัวผมตั้งแต่ผมเริ่มแกะซองมาม่ายจนเส้นสุก ป่านนี้สมองผมคงบวมแล้วมั้ง
     
    “แค่มาม่ามึงก็ทำให้ได้เหอะภูมิ เสร็จแล้วๆ ถือน้ำตามมา” ผมวางหม้อลงบนโต๊ะเตี้ยๆในห้องนั่งเล่น ภูมิถือตะเกียบ ช้อน ขวดน้ำตามมานั่งลงข้างๆ ผมขอกินในหม้อเลยแล้วกันขี้เกียจล้าง

    ไอ้ภูมิแม่งนิสัย แย่งหมูกับไข่ไปกินคนเดียว ผมเลยต้องงัดวิชามารเอาหัวยื่นไปในหม้อเพื่อไม่ให้มันแย่งผมได้ แต่มันก็ไม่ยอมเพราะยื่นหัวมาเหมือนกัน เลยกินมันท่านี้แหละ หัวชนกันนี่แหละ แย่งกันตั้งแต่คำแรกจนเส้นสุดท้าย แต่ก็อิ่ม



    กินเสร็จผมกับมันก็กลับไปนอนเล่นเกมส์ ดูการ์ตูนบนห้องรอเคาท์ดาวน์
     
    “กี่ทุ่มแล้วพีม” ไอ้ภูมินั่งเล่นเกมส์อยู่ปลายเตียง ส่วนผมนั่งพิงหัวเตียงเล่นไอโฟน 4 ของมัน  ผมได้ยินมันเรียก แต่ไม่อยากตอบเพราะกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง


    “พีม หมาพีม กูถามว่ากี่ทุ่มแล้ว” เชี่ยภูมิแม่ง หัวกูไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์นะจับอะไรได้ก็ขว้างมาหมด ผมเอาสติออกจากไอโฟนมาดูเวลาให้มัน

    “สี่ทุ่ม ภูมิ เครื่องมึงไม่มีเบอร์กูอ่ะ”

    “ก็มึงไม่สำคัญไง หึหึ” ไม่สำคัญ
    ? ป๊าด ป๊าด ป๊าดดด มันหันมายิ้มกวนตีนให้ผมโดยที่ไม่กดหยุดเกมส์
    ผมเขวี้ยงหมอนใส่หัวไอ้ภูมิด้วยความหมั่นไส้ แม่ง มันหัวเราะไม่สนใจแล้วหันกลับไปฟาดฟันกับไอ้พวกแมลงต่างดาวอย่างมีความสุข

    “พีม ไปเล่นไฟเย็นกัน”

    “มึงรีบหรอ หรือลูกกับเมียรอกินข้าว” ใครน้อยใจ ใครเหวี่ยง ไม่มี๊ จริงจริ๊ง เสียงสูงได้อีกกู

    “กวนตีนว่ะพีม”

    “เฮ้ย
    !!!” ภูมิกระชากข้อเท้าผมจนไถลลงไปนอนแอ้งแม้งบนเตียง อูยย เจ็บๆๆ หัวโขกหัวเตียงเลยกู เชี่ยภูมิรุนแรงกับกูขึ้นทุกวันนะมึง ผมถีบหลังมันกลับด้วยความแค้น มันขำและดึงแขนผมให้นั่งข้างมัน
     

    “กูไม่มีเบอร์มึงเพราะกูจำเอาไงไอ้เตี้ย แล้วก็สำนึกไว้เลย ว่าบนโลกนี้กูจำเบอร์มึงได้แค่เบอร์เดียว” ภูมิมันปิดเกมส์ ปิดไฟ ดึงไอโฟนไปจากมือผม และดึงมือผมออกไปนั่งที่ระเบียง เตรียมจุดไฟเย็น

    นี่เพิ่งสี่ทุ่มมึงจะรีบไปไหน แต่ไม่เป็นไรตามใจมันหน่อยก็ได้ อุตส่าห์จำเบอร์โทรศัพท์ผมได้เลยนี่ ทั้งที่ผมจำเบอร์มันไม่ได้ ฮ่าๆๆ(อย่าไปบอกมันล่ะ เดี๋ยวผมจะโดนกระทืบเอา)


    “กูเลิกเล่นเล่นไฟเย็นตั้งแต่ป
    .6แล้วนะภูมิ”

    “ก็กูจะเล่น เมื่อไรจะเที่ยงคืนพีม”

    “เอ๊า หึหึ เออน่าเดี๋ยวก็ถึง” ภูมิกับผมนั่งเงียบๆมองดาวเล่น รอเวลาเที่ยงคืนจะได้เล่นไฟเย็น ผมมองไฟสีฟ้าที่ประดับเต็มต้นไม้หน้าบ้านที่พวกพี่หนิงจัดตกแต่งไว้ให้
     
    ได้ยินเสียงบ้านข้างๆร้องเพลงแทบจะไม่เป็นคำ คิดถึงพวกไอ้คิวแฮะ ป่านนี้พวกมันคงไปถึงดาวนาเม็กแล้วมั้ง เพราะแม่งพร้อมใจกันออกต่างจังหวัดหมด ไปดีเถอะนะเพื่อน


    “หนาวหรอภูมิ”

    “นิดหน่อย”

    “เอาเสื้อแขนยาวมั้ย” ภูมิส่ายหัว มันยกไวตามิ้ลค์ขึ้นดื่ม ฟังไม่ผิดหรอกครับ  ผมกับภูมิดื่มไว
    -ตา-มิ้ลค์ ปีใหม่ก็ไม่อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเหล้า ผมเลยลงไปหยิบนมไวตามิ้ลค์ในตู้เย็นมานั่งดริ้งกับภูมิคนละขวด


    นั่งหย่อนขารอเคาท์ดาวน์ที่ระเบียงให้ยุงดูดเลือดเล่นๆ ยุงนี่ก็เข้าใจกัด มันไม่กัดเจ้าของบ้าน สงสัยจะเป็นยุงตัวเมียมีเชื้อแรดแรงเลือกกัดคนหล่อๆ ผมเลยต้องทาซอฟเฟลให้ภูมิสามรอบแล้ว
     
    ยุงว่าเข้าใจยาก แต่ไอ้ภูมิเข้าใจยากยิ่งกว่า ปกติมันเป็นคนตรงๆ อยากทำอะไรก็ทำ มันเอาแต่ใจตัวเองเป็นหลัก แต่วันนี้ ตอนนี้มันมีท่าทางแปลกๆ ผมเห็นมันก้มมองมือผมนานแล้ว ทำยึกๆยักๆเหมือนจะจับก็ไม่จับ บอกตรงๆรำคาญว่ะ
     

    “มือกูว่างจะจับก็ได้นะ” เหมือนชี้เล้าไก่ให้เหี้ย ไอ้ภูมิยิ้ม มันรีบเลื่อนมือมาจับมือผมทันที “นาทีแรกสามบาท นาทีต่อไปนาทีละยี่สิบห้าสตางค์ทั้งมือซ้ายและมือขวา”

    “หึ โปรดีวะ เสียค่าสมัครเท่าไร”เออ มึงก็เล่นกับกูเนอะ

    “เห็นว่าหล่อ กูลดให้ แต่ต้องเอาใจมาแลก” สมาคมเสี่ยวแดกแห่งประเทศไทยขอรายงานตัวครับ พูดเองก็อยากจะอ้วกเอง

    “ให้แล้วห้ามคืนนะ”

    “อือ รับประกันตลอดการใช้งาน” ผมกับมันหัวเราะพร้อมกัน สงสัยจะเมานมถั่วเหลือง เรายิ้มให้กัน  มันพูดอะไรไม่รู้ตอนที่ริมฝีปากของเราแนบชิดคลอเคลียกันไม่ห่าง ไม่รู้ว่านานเท่าไร แต่ที่รู้คือผมหายใจไม่ทัน ก็จูบรสนม มันหอมหวานนุ่มลิ้นดีนี่


    “วู้ววววว วี้ดวิ้วววว” เสียงโห่แซว เป่าปากดังมาจากสนามหน้าบ้าน ผมกับภูมิรีบผละออกจากกัน แม่เจ้า
    !!!ตัวอะไรไม่รู้อยู่ข้างล่าง มันมาเป็นขโยงอย่างกับค่ายอพยพสู่ประเทศที่สาม
     

    ผมเพ่งมองจนเห็นเต็มตาว่ามีมนุษย์ผู้ชายนับสิบกำลังส่งยิ้มและเสียงแซวมาที่ผมกับภูมิ ในมือพวกมันมีลังเบียร์ กล่องเหล้า น้ำแข็ง ของกินอีกเป็นสิบๆถุง ไหนบอกออกต่างจังหวัดไงวะ สาดดดดดดดด ตลบหลังกู
     

    “น้ำตาลแดงริมระเบียงเลยนะพวกมึง”
     
    “กูถ่ายคลิปไว้ ถ้าไม่อยากดังในยูทูปก็จ่ายมาสองร้อย” พวกมันยังตะโกนแซวไม่เลิก จากที่คิดไว้ว่าวันนี้จะโนว์แอลกอฮอล์ ผมคงต้องผิดคำพูดแล้วละ
     



                              ……………………………………………………….
     
     

    สรุปคือพวกมันเซอร์ไพร์ผมกับภูมิ แกล้งอำว่าจะไปเที่ยวเขาใหญ่แต่ที่ไหนได้หลบไปกบดานอยู่คอนโดไอ้เบียร์  สภาพมันแต่ละคนคงดื่มมาก่อนหน้านี้แน่ๆ เดินสายเลยนะพวกมึง
     
    พวกผมจัดสถานที่ในการฉลองที่สนามหญ้าตามเดิม(ที่ประจำ ย้ายไปมุมอื่นแล้วไม่ค่อยชิน) พวกผมหามโต๊ะยาวมาวางของกิน ตั้งคอมกับชุดเครื่องเสียง ส่วนคนปูเสื่อนั่งล้อมวงที่พื้นเหมือนเดิม


    ผมเพิ่งเห็นไอ้น้องแมทธิวคู่หูไอ้เต้ย สงสัยเพิ่งกลับจากออกค่ายของคณะ แมทมันสนิทและเป็นน้องรักของพวกผมเหมือนไอ้เต้ย แต่มันมีสาระกว่าไอ้เต้ยเยอะ ไม่น่าเชื่อว่ามันสองตัวจะเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมานานตั้งแต่เด็กๆ

    ตอนนี้ไอ้แมทเลยถูกพวกไอ้ฟ่างไอ้มิคลากไปรุมประชาทัณฑ์ โทษฐานหายหัวไปแบบเดียวกับไอ้เต้ย เชี่ยเต้ยก็ไม่คิดจะช่วยเพื่อนแถมยังนั่งหัวเราะสมน้ำหน้าอีกต่างหาก
     
    ไอ้แทนบอกว่ามันจะโชว์ความเป็นเด็กวิศวะคอม เชี่ย แค่เซ็ตคอมร้องคาราโอเกะ ต่อลำโพงมึงเทพตรงไหนวะ พวกผมยังเตรียมอะไรไม่ทันจะเสร็จดี ไอ้คิวมือชงเหล้าอันดับหนึ่งแห่งที่ราบราชเทวีก็ได้เวลาแสดงอิทธิฤทธิ์ มันชงเหล้าพร้อมเดินแจกทุกคน ขนาดผมที่กำลังจุดเตาบาร์บีคิวไม่มีมือรับแก้ว มันยังใจดีป้อน(กรอก)ใส่ปาก
     

    “เต้ย มึงอยู่นิ่งๆซักสองนาทีได้มั้ย กูเวียนหัว” ไอ้เต้ยมันเดินพันแข้งพันขาไอ้แทนที่กำลังวุ่นวายกับคอมพิวเตอร์ทั้งที่คนอื่นนั่งกันหมดแล้ว

    “เต้ยจะช่วยไงเฮีย”

    “มึงมาช่วยกูย่างปลาหมึกดีกว่ามา” ไอ้เบียร์กุ๊กจำเป็นของวันนี้ ตอนแรกไอ้ภูมิอาสาไปช่วยย่าง แต่ดันสำลักควันไฟไอเกือบตาย ไอ้เบียร์เลยเนรเทศเพื่อนรักมันมาช่วยผมขนแก้ว ขนจาน

    “เออ ไปช่วยไอ้เบี่ยร์นู่น แม่งสายไฟจะพันขามึงล้มหัวแตก”
     

    ผมกับภูมิช่วยกันถือกระติกน้ำแข็งออกมาเป็นอย่างสุดท้าย พอพ้นชายคาบ้านพวกมันก็นั่งกันหมดแล้ว แถมยังแกล้งก้มกระซิบกันประหนึ่งว่ากำลังนินทาผมกับภูมิ กะว่าจะทำให้ผมประหม่าว่างั้น มุกนี้เล่นกันบ่อย ไม่ได้แอ้มกูหรอกมึง ผมไม่ประหม่าเลยซักนิด เพราะเริ่มจะด้านแล้ว จริงๆก็ด้านมานานแล้วล่ะ


    “มองไรกันวะไม่เคยเห็นคนหล่อเดินคู่กันหรอ เนอะภูมิ” ผมวางของลงบนโต๊ะ เดินมานั่งลงข้างๆไอ้เชนที่เว้นที่ไว้ให้ ภูมิก็ตามมานั่งข้างๆ

    “คบกับไอ้ภูมิไม่ถึงเดือนมึงเริ่มซึบซั่ม(ซึมซับดีกว่านะมิค)นิสัยพี่ชายมันแล้วหรอพีม”

    “นิสัยอะไร”ผมกับไอ้ฟ่างตะโกนใส่หูไอ้มิคพร้อมกัน

    “ก็ไอ้ที่ชอบหลงตัวเอง โวยวาย ด่ากราดไปทั่วไง ฮ่าๆ”

    “กูก็เห็นไอ้พีมมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดนะ” ถ้ามึงจะช่วยกูแบบนี้มึงก็อยู่เฉยๆเถอะเชน



    “พวกเฮียจองที่พักรึยัง” อยู่ดีๆไอ้เต้ยก็โผล่หน้ามาแทรกระหว่างผมกับภูมิ

    “ที่พัก
    ?? จองทำไมวะ ใครจะไปไหน”


    “อ้าว ก็เห็นสวีทๆ เต้ยนึกว่าเฮียจะไปฮันนีมูนแถวลุ่มแม่น้ำอะเมซอน” พวกมันฮาครืน แต่ไอ้เต้ยถูกเฮียภูมิของมันตบกบาลไปเน้นๆ มันรีบวิ่งไปเกาะไอ้เบียร์ช่วยถือจานกุ้งย่าง ปลาหมึกย่างมาวางในวงอย่างรวดเร็ว เออไอ้นี่ชอบความรุนแรงว่ะ ใช้ดีๆไม่ไปต้องให้ลงไม้ลงมือ


    “นี่กะจะไปถึงแม่น้ำอะเมซอนเลยหรอ อือ ก็ดีนะ” ยังอีกๆ ไอ้เชน

    “พ่องดิ ไปให้อะนาคอนด้าแดกคอกูเหรอ อีกอย่าง จะไม่มีฮันนีมูนใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้น เพราะกูยังไม่ได้ค่าสินสอด” ผมแบมือไปตรงหน้าไอ้ภูมิ “เอามาดิ ค่าสินสอดกูอ่ะ” พวกเพื่อนๆก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่ “จ่ายสดงดเชื่อนะครับมึง”

    “เอาเท่าไร” ไอ้ภูมิยิ้ม มันเล่นด้วยเว้ย


    “เท่าไรดีวะ” ผมขอความคิดเห็นจากมิตรรักแฟนเพลง พวกมันก็ช่วยกันคิดใหญ่เลย ไอ้ฟ่างล้วงโทรศัพท์มากดคิดเลขด้วย มึงกลัวน้องมึงขาดทุนหรอฟ่าง


    “อย่างพี่พีม เงินสามพัน กับมันสำปะหลังสองกระสอบก็หรูแล้วพี่” หืออ นั่น คือ สิดสอดหรอวะแมทไอ้น้องชั่ว


    “พีม มานี่ๆ” อยู่ๆไอ้คิวก็เดินมาดึงแขนผมให้ลุกขึ้นยืน ผมกำลังงงว่ามันจะทำอะไร มันเอาที่คีบถ่านมาเคาะโต๊ะสามครั้ง


    “โหลเทส โหลเทส พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย วันนี้เรามีสินค้าพรีเมี่ยมมานำเสนอครับ มีชิ้นเดียวในโลก ออฟชั่น ฟังก์ชั่นเพียบ อะไรที่ไอโฟน
    4 ทำได้ สินค้าเราทำได้เจ๋งกว่านั้นอีกครับ กำจัดวัชพืชเอย เลี้ยงนกเอี้ยงเอย ทำได้หมด ขอแค่ท่านเอ่ยปาก และผมขอเริ่มประมูลสินค้าตัวนี้ที่ราคา 99 บาทครับ” ผมเข่าอ่อนแทบทรุด

    เชี่ยยยยยยยยยยยย
     


    “สองร้อยๆ” ไอ้มิครีบยกมือก่อนใครเพื่อน หน้าผมคงเต็มที่มาก พวกมันแม่งหงายหลังลงไปขำกลิ้งที่พื้นแล้ว สัดคิวทำกูได้นะมึง แถบล็อคคอผมซะแน่นจะหนีกลับไปนั่งก็ไปไม่ได้


    “สองร้อยครั้งที่หนึ่ง มีใครให้มากกว่านี้มั้ย” พวกมันหัวเราะตัวงอ คลานไปกับพื้น ส่วนไอ้ภูมิก็นั่งกอดเข่าดูการประมูลขำไปกับเขาด้วย กูไม่ใช่โก๊ะตี๋ นะโว้ยยยยยย


    “พี่คิว ห้าร้อยพี่” เชี่ยเต้ยทีแบบนี้ละเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะมึง

    “แปดร้อย แล้วปกติกินหญ้าหรือรำวะ” ไอ้เชน กูจะเลาะฟันมึง


    “แปดร้อยแล้วครับ แปดร้อยครั้งที่หนึ่งครับ อย่าลืมนะครับนี่สินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่น ชิ้นเดียวหมดแล้วหมดเลย”เชี่ยคิวนี่ก็เล่นสมบทบาทดีเหลือเกิน อย่าให้กูหลุดไปได้นะ แม่งเอ๊ยดิ้นยังไงก็ไม่หลุด มันเล่นกำคอเสื้อข้างหลัง หิ้วจนขาผมจะแตะไม่ถึงพื้นแล้ว สาดดดดดดดดดดด ปล่อยกูๆๆ


    “พันสอง ทำปุ๋ยใส่ต้นไม้ได้มั้ยมึง” ไอ้เบียร์ กูไม่ใช่มูลสัตว์

    “กูให้ห้าพัน” เอออันนี้ค่อยเริ่มสมราคาหน่อยนะเพื่อนแทน ผมไม่เรื่องมากครับ ห้าพันหกพันก็ไปแล้ว ฮ่าๆๆ

    “ยี่สิบ” เย็ดเป็ด เชี่ยปัน เริ่มที่
    99 นี่ก็ราคาตลาดนัดแล้วนะมึง นี่ยังตีค่ากูอยู่แค่ระดับคลองถมอีกหรอ

    “หุบปากครับไอ้ปัน ประมูลเค้าให้ขึ้นข้างบน มึงอย่าวนลงไอ่สัด ห้าพันจากคุณแทน มีใครให้เยอะกว่านี้มั้ยครับ ห้าพันครั้งที่หนึ่ง ห้าพันครั้งที่สอง ถ้าไม่มีงั้นก็
    ….”



    “ห้าสิบล้าน” ไอ๊ย๊ะ เสียงหล่อๆเท่ห์ๆจากไอ้ภูมิที่นั่งยิ้มอยู่นาน


    “ฮิ้ววววววววววววววว” และเสียงของกองกำลังฝ่ายแซวพีมภูมิอย่างเป็นทางการก็กระหึ่มขึ้นอีกครั้ง ภูมิจะพูดจะทำอะไร แม่งถูกแซวหมด พวกมึงมีหน้าที่แซวก็แซวไป กูมีหหน้าที่เขินกูก็จะเขินต่อไป มึงกล้าที่จะแซวกูก็กล้าที่จะอาย เออ เอาสิ


    แต่ห้าสิบล้านงั้นหรอ โอเค ไปครับ ผมสะบัดตัวออกจากมือไอ้คิว แถลงไปนั่งขัดสมาสเข้าสิงร่างไอ้ภูมิทันที พ่อครับแม่ครับเราสบายแล้วครับ เรารวยแล้ว นอนแดกไปทั้งชาติ


    “จ่ายมาดิ”ไอ้คิวทำหน้ากวนตีน แบมือขอเงินจากไอ้ภูมิ

    “ตอนนี้มีไม่พอ พรุ่งนี้จะเซ็นเช็คให้ วันนี้ขอเอาใจค้ำประกันก่อน” สาดดดดดดดดดดดดด ใครแดกไอ้ภูมิกู เอาคนเดิมคืนมา ไอ้ฟ่างลุกไปล้มโต๊ะเลยครับ ถูกใจมาก

    “แล้วกูอ่ะฟ่าง สิดสอดกูล่ะ กูไม่ยอมนะ กูจะเอามากกว่าไอ้พีม” โหมดวอนโดนส้นตีน กระแดะแดกแล้วเพื่อนผม

     “มึงนั่นแหละ เอากิจการบ้านมึงมาเป็นชื่อกูให้หมดไอ้แทน”

    “มึงแหละจ่ายค่าสินสอดกูมา” พวกผมนั่งขำไอ้สองตัวที่กวนกันไม่เลิก

    “เอาตีนกูไปสอดก่อนมั้ย สัด ได้กูแล้วยังจะให้กูจ่าย”

    “มึงก็อย่ายอมมันฝ่ายเดียวดิฟ่าง รู้จักเอาคืนบ้าง” ตอนนี้คนอื่นเริ่มพุ่งประเด็นไปที่ไอ้ฟ่าง เออดี เปลี่ยนคนถูกคุกคามซะบ้าง กูเจ็บมาเยอะแล้ว ขอพักหน่อย
     

    “มึงอย่าไปเสี้ยมมันไอ้เชน เมื่อวานกูนอนอยู่ดีๆกำลังจะหลับ ไม่รู้มันเกิดบ้าอะไร แม่งลุกพรวดพราดมาคร่อมกูเว้ย ดีนะที่กูไหวตัวทัน” ฮ่าๆๆพวกผมพร้อมใจกันขำไอ้ฟ่าง
     

    “แล้วมึงทำไงวะแทน”ผมเสนอหน้าเข้าไปถามไอ้แทนด้วยความอยากรู้อยากเห็น เลยถูกไอ้ภูมิตบหัวแล้วดึงกลับมานั่งดีๆ
     
    “หึ กูก็ทำให้ข้าวฟ่างเนี่ย” มันโอบไหล่ฟ่างพร้อมลูบหัวเหมือนฟ่างเป็นอีหนูนั่งดริ้ง แต่จะว่าไปก็เหมือนนะเพราะเชี่ยฟ่างแม่งนั่งก้มหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่าโกรธหรืออาย แต่มันคงเสียเซลฟ์น่าดู(รู้สึกจะเสียตัวด้วยมั้ง)
     

    “กูก็ทำให้ฟ่างได้สำนึกสถานะตัวเอง จัดไปเบาๆ
    11 ทีต้อนรับปี 2011” แม่เจ้า!!! ดีนะที่ไอ้แทนมันนับตามปีคริสตศักราช ถ้ามันนับเป็น พ.ศ.ละมึงเอ๊ย ฟ้าเหลืองแน่มึงไอ้ฟ่าง ฟ่างมันก็ก้มหน้าก้มตาต่อไป ได้ยินมันบ่นพึมพัมๆว่า “มึงอย่าเผลอก็แล้วกันไอ้แทน” ฮ่าๆๆ โหดๆแน่ๆอย่างไอ้ฟ่างต้องมาหงอเพราะไอ้แทน เห็นแล้วก็แปลกตาดี


    “อ้าว มึงได้ไอ้ฟ่างแล้วหรอแทน” พวกผมสะบัดหน้าไปมองไอ้ปันสองที(เหมือนที่ตลกชอบทำ) เอ่อ คือมึงโง่หรือมึงดีเลปัน
     
                                  ……………………………………………….
     
    ตอนนี้เวลาห้าทุ่มโดยประมาน พวกผมกำลังเมาได้ที่ แหกปากร้องเพลงบ้าบอสนุกแบบลืมเหนื่อย วันนี้มีไมค์สี่ตัวแต่มีคนได้ร้องเพลงแค่สามคน
     
    เพราะเชี่ยปันเอาไปครองคนเดียวสองอัน ไอ้นี่เห็นไมค์ไม่ได้ ถึงจะไม่ได้ร้องไม่ได้พูด ขอแค่ได้จับได้ไอใส่ก็ยังดี แต่ตอนนี้มันเริ่มจะยืนไม่อยู่ เริ่มร้องไม่รู้เรื่อง เมาทั้งเหล้าเมาทั้งลม เพราะพูดมาก ลมเข้าท้องเยอะ
     

    ส่วนไมค์อีกสองตัวไอ้คิวกับไอ้แมทก็แบ่งกัน ไอ้น้องแมทมันเป็นลุกครึ่ง อิตาลีขอนแก่น หน้าลูกครึ่งหล่อเหมือนมาริโอ้ แต่เลือดขอนแก่นมันเข้มข้นมาก
     
    ถ้าไม่จำเป็นมันจะไม่พูดกลางเลย เวลาคุยกับแม่เห็นมันพูดอีสาน น่ารักดี บางครั้งมันประชุมสายคุยกับพ่อแม่พร้อมกัน อิตาลีอีสานมิกซ์แดนซ์แถมมีอังกฤษแทรกแซงบ้างประปราย แม่งงงปนฮาอย่าบอกใครเชียว


    “พีม ไปเอาบันไดมาให้ไอ้ปันดิ๊”

    “บันได เอามาทำไมวะ”

    “เอามาให้มันปีนคีย์”

    “ฮ่าๆกูว่าไม่ทันแล้วแทน มันตกคีย์ไปนานแล้ว” พวกผมขำไอ้ปันที่ยืนแทะไมค์ไล่อ่านตัวหนังสือเพลงเบาเบา ของพี่ๆ
    singular แต่เหมือนมันจะวิ่งนำหน้ากลองนะ ไม่มีทำนอง ไม่มีจังหวะ และไม่เพราะ ไอ้ปันเป็นผู้ชายหล่อแต่เสียงเหี้ย เรื่องนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ให้พวกผมได้รู้ว่า คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างหรอก ฮ่าๆ
     

    ปันมันเป็นคนชิลล์ๆ มันไม่แคร์จังหวะเลยมักจะปล่อยจังหวะไปก่อน ทำนงทำนองมันก็ไม่สน มันอะแด็ปเอง คิดเองร้องเอง เสียงควายออกลูกยังฟังรื่นหูกว่าเสียงมัน แถมมันยังเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเสียงดีร้องเพลงเพราะด้วยนะ

    “คิดถึงฉันสากครั้ง เมื่อไม่ได้คิดถึ้งคร๊ายย

    ทำตัวตามสบ๊าย แล้วเจอกันในความฝั่น
    มีเวลาดี๊ดี ก็บอกให้ฉันได้ฟัง
    ไม่มากเกินไป ดังนั้นค่อยๆ รักกันเบ่าเบ้า”
     
    โอยยย จบซักที ขี้หูกูป่วยแล้วปัน


    “ขอเสียงปรบมือด้วยคร้าบบบ เพราะมั้ย กูว่าปีหน้ากูจะไปประกวดเดอะสตาร์ว่ะ”ร้องจบมันก็อวยตัวเองทรุดลงนั่งจิบเหล้า แต่ไม่ยอมวางไมค์เพราะหวงมากกลัวถูกไอ้แทนแย่งไป กูเชื่อมติดมือให้มั้ยปัน


    “เผื่อมึงจะลืมไปนะปัน เดอะสตาร์เค้าค้นฟ้าหานักร้อง ไม่ใช่พวกพิการทางหลอดลมและกล่องเสียง”

    “หมาพีม มึงโกหก อิจฉากูละสิ หึหึ ไอ้แมท โซโล่” มันกลับไปเห่าไปหอนต่อแบบดูโอ้กับไอ้แมท คราวนี้มาในแนวเพื่อชีวิต ฟังไปฟังมามันน่าจะเป็นวงเวียนชีวิตมากกว่านะ
     

    พวกผมนั่งขำกับการฟีชเจอเพลงเพื่อชีวิตของไอ้ปันกับไอ้แมท ระหว่างนี้ไอ้เต้ยก็ป่วนไปทั่ว มันเมาแล้วไฮเปอร์ วิ่งไปกวนไอ้เบียร์กับไอ้ฟ่างที่ย่างของกินบ้าง ไปเด็ดดอกไม้(อาปุ้ยกินตับมึงแน่ไอ้เต้ย)มาให้ไอ้ปันกับไอ้แมทบ้าง


    เดี๋ยวก็ไปนั่งแทรกไอ้เชนกับไอ้แทนที่ดวลออนเดอะร็อคกันอยู่ หรือบางทีมันก็มานั่งจ้องหน้าภูมิกับผมแล้วยิ้ม แต่ไม่เห็นมันจะแกล้งพี่รหัสมันเท่าไรสงสัยจะกลัวโดนแกล้งกลับ
     

    “ต่อไป ขอเชิญผู้ชายที่เคยสละตำแหน่งเดือนมหาลัยด้วยเหตุผล กรรมการหน้ากวนตีน ฮ่าๆๆ คุณภูมินทร์ครับ เชิญมาร้องเพลงให้เป็นเกียรติเป็นศรีต้อนรับปีใหม่หน่อยเร้ววว มาๆ” เฮ้ย จริงดิ ไอ้ภูมิเคย(เกือบ)เป็นเดือนมหาลัยหรอ แต่เหตุผลที่มันไม่ได้เป็น ก็สมแล้วละที่เป็นมัน ฮ่าๆ

    ภูมิมันไม่รับไมค์จากไอ้ปัน เหมือนลังเลว่าจะร้องหรือไม่ร้องดีจนเพื่อนๆต้องกดดันให้มันร้อง พี่ชายมันแหละตัวดี
     

    “นั่งร้องอยู่ตรงนี้ได้มั้ย”


    “ตามสะดวกครับมึง เอาเพลงไร”ภูมิหันหน้ามามองผมเหมือนคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะบอกชื่อเพลง


    “มากกว่ารัก
    ” เชี่ยเอ๊ย ผมแทบจะมุดลงไปขดตัวในแก้วเหล้า มันดึงมือผมไปจับและสบตากันทำราวกับที่ตรงนี้มีผมกับมันแค่สองคน ผมก็คงจะเชื่อแบบนั้นอยู่หรอกถ้าไม่มีเสียงเชียร์ เสียงแซว เสียงตะโกนของพวกผีขอส่วนบุญดังสนั่นขนาดนี้

    เชี่ยภูมิแม่งสวีทไม่ดูผู้ดูคน กูเขินมั่งเหอะ แต่ก็มิได้นำพามันยังร้องและสบตาผมต่อไป
     




    คนเคยเหงา เคยรู้สึกเหว่ว้า

    เคยมองหาความรักนั้นมันอยู่ที่ใด
    โลกใบใหญ่เหลือเกิน มีผู้คนอยู่มากมาย
    แต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกที

    แต่เมื่อฉันได้พบกับเธอ
    สิ่งที่เธอให้ฉันไม่รู้มันคืออะไร
    โลกใบใหญ่ใบเดิม กลับไม่เคยต้องเหงาใจ
    แค่ฉันนั้นยังมีเธออยู่ตรงนี้


    เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
    ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา และรอคอยเธอมาแสนนาน
    และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ
    จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ


    หากว่าเธอนั้นคือความรัก ก็เป็นรักที่ดีจนไม่มีคำบรรยาย
    ฉันโชคดีเหลือเกินที่มีเธอเดินข้างกาย
    ชีวิตนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย


    เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
    ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา และรอคอยเธอมาแสนนาน
    และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ

    จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ



    เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
    ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหา
    และรอคอยเธอมาแสนนาน
    และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ
    จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ



    จากนี้ทุกลมหายใจ...ฉันคือเธอ...
     

    เพลงจบลงพร้อมกับเสียงเป่าปาก โห่ร้อง และหัวใจของผมที่พองจนจะแทบจะพาตัวลอย


    “แม่งแจ่มเว้ย เตียงมั้ยครับเพื่อนครับ”ไอ้คิว


    “น้องกูจะแดกไอ้พีมลงท้องแล้วมึ้ง”คนที่คุณก็รู้ว่าใคร


    “ภูมิร้องให้มึง มึงก็ร้องให้มันบ้างสิ” ไอ้เบียร์ มึงได้ซองใต้โต๊ะจากไอ้ภูมิเท่าไรวะ



    “ไม่เอา กูเสียงไม่ดี”ผมปฏิเสธไมค์ที่ไอ้ปันพยายามยัดเยียดให้ จะร้องเพลงอะไรวะ ไม่ร้องๆๆ แค่นี้ก็อายจะแย่

    “เออน่า ร้องหน่อย นะ นิดเดียวนะมึง” ทำไมต้องเซ้าซี้กูด้วยเนี่ย สายตาคาดหวัง เหมือนเด็กผู้หิวโหยนับสิบคู่กำลังกดดันผมอย่างหนัก
    “เออๆ”

    “เพลงไรพี่ เดี๋ยวผมกดให้” กระตือรือร้นจังนะมึงไอ้แมท ผมมองหน้าทุกคนและมาหยุดสายตาไว้ที่หน้าผู้ชายคนข้างๆ มันหลุดยิ้ม กูขอเอาคืนบ้างเถอะทำกูเขินดีนัก ผมเอาไมค์มาจ่อที่ปาก และร้องเพลงเดียวที่คิดได้ในตอนนี้
     

    “ไปๆ ไปลงนรกซะเถอะที่รักฉันจะลงโทษเธอ” กร๊ากกกกก ไอ้ภูมิหุบยิ้มฉับ มันแทบจะลุกมากระทืบดั้งผม ไอ้พวกนั้นหงายหลังฮากันไป ผมรีบลูบหัวปลอบใจไอ้ภูมิ ก่อนจะเรียกไอ้น้องแมทมากระซิบบอกชื่อเพลง และไม่นานอินโทรเพลงก็ขึ้น พร้อมกับเสียงกองกำลังแซว และรอยยิ้มหล่อบาดใจของไอ้ภูมิ
     






     เหม่อมองบนฟ้าไกล จ้องมองด้วยความสงสัย

    ว่าใครกันนะใคร ที่พาให้เธอเดินหลงทางมาเจอกับฉัน

    มีคนเป็นล้านคน ช่างไร้เหตุจริงๆ ที่เราเจอกัน
    จากเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ

    ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
    ตกลงให้เรารักกันใช่มั้ย อย่างนั้นขอได้ หรือไม่
    โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
    ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย
    ฉันขอได้ไหม

    เมื่อก่อนลมหายใจ ก็คิดว่าเป็นของฉัน
    แต่พอได้พบเธอ เพิ่งรู้จริงๆ ลมหายใจคือเธอเท่านั้น

    มีคนเป็นล้านคน ช่างไร้เหตุผลจริงๆ ที่เราเจอกัน
    จากเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองอีกครั้ง

    ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
    ตกลงให้เรารักกันใช่มั้ย อย่างนั้นขอได้ หรือไม่
    โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
    ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย
    ฉันขอได้ไหม

    คนมีอีกเป็นล้านคน ไม่มีเหตุผล ที่เธอต้องเลือกฉัน
    จากเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองอีกครั้ง

    ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น
    ตกลงให้เรารักกันใช่มั้ย อย่างนั้นขอได้ หรือไม่
    โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก
    ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย
    ฉันขอได้ไหม

     

     “กูว่า หาโฟมมาเขียนชื่อไอ้พีมกับไอ้ภูมิติดข้างหลังนี่งานแต่งเลยนะ” ไอ้เชนเสนอไอเดียและเรียกชนแก้วจากทุกคน ผมยกคิ้วให้ภูมิและคืนไมค์ให้ปัน
     

    “ครับ คู่บ่าวสาวก็ได้ร้องเพลงแทนใจให้กันแล้ว ต่อไปก็ตัดเค้กเลยครับ อะไรนะ ไม่มีเค้กมีแต่ขนมหม้อแกง แหมเราคนไทยก็ต้องใช้ของไทยกินของไทย งั้นเชิญครับหม้อแกงก็หม้อแกง” แม่งไอ้ปันพูดคนเดียวอ่ะ มันพูดรู้เรื่องด้วย เฮ้ยกูกลัวมึงนะเนี่ยปัน และเหมือนมันจะทำงานกันเป็นทีม พอไอ้ปันชงไอ้มิคก็เดินมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลังระหว่างผมกับภูมิ
     

    “คู่บ่าวสาวคำนับฟ้า” สาดดด กูยังไม่แต่ง ถึงแต่งกูก็ไม่แต่งแบบจีน ไอ้มิคกดหัวผมกับไอ้ภูมิคะมำลงดินแต่พอจะเงยขึ้น “อย่าเพิ่งเอาขึ้นมาสัด”มันก็กดลงอีกครั้ง “คำนับดิน”
     

    “ซินเจียยู่อี่ซินนี่ฮ่วดไช่นะอาตี๋อาหมวย” ตรุษจีนแล้วหรอเบียร์ ยังไม่ปีใหม่เลยนะ

    “เลื่อนตำแหน่งแล้วก็รวยๆนะ ขอให้ได้มงกุฎเพชรไวๆ” เชี่ยคิวกูไม่ได้เครื่องกรองน้ำ

    “เฮ้ยๆ เอาไมค์มา กูจะร้องเพลงให้ฟ่าง ปล่อยไอ้ภูมิกับไอ้พีมเกิดมานานแล้ว เอามาๆ” ไอ้แทนเดินเอียงๆไปแย่งไมค์จากไอ้ปัน มันหันมายิ้มให้ไอ้ฟ่างที่นั่งส่ายหน้าเอือมๆ


    “ข้าวฟ่างคร้าบบบบบบบ” ไอ้แทนเรียกแฟนมันเสียงอ่อนเสียงหวาน(เสียงคนเมา)ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกมันถึงชอบโห่ ชอบแซวผมกับภูมิ เพราะตอนนี้ผมกำลังส่งเสียงแซวไอ้แทนกับไอ้ฟ่างดังกว่าใครเพื่อน ยิ่งเห็นไอ้ฟ่างอมยิ้มทำหน้าไม่ถูก กูยิ่งชอบ


    “อย่ามาทำเลี่ยนแถวนี้แทน” ฟ่างมันหัวเราะ ยิ้มเขินๆ ไอ้ภูมิคงหมั่นไส้พี่ชายเลยปาฝาโซดาใส่หัวไอ้ฟ่าง


    “ฟ่าง ฟ่างคร้าบบบบ” ไอ้แทนยังพร่ำเพ้อเรียกชื่อแฟนไม่หยุด ไอ้ฟ่างมันก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากนั่งดูไอ้แทนที่สติเหลือ
    70ต่อ30 70 นี่คือใช้การไม่ได้ ส่วนอีก30ที่เหลือก็จะล้มแหล่มิล้มแหล่ คงเป็นผลมาจากการดวลออนเดอะร็อคกับไอ้เชน เพราะรายนั้นก็นั่งยิ้มหวานหัวจะทิ่มแล้ว


    “ฟ่างจ๋า แทนอาจจะร้องเพลงไม่ค่อยเก่ง แต่แทนก็จะตั้งใจร้องเพื่อฟ่าง ฟ่างคร้าบบบ แทนรักฟ่างนะครับ”
    “ฮิ้ววววววว”


    “เหี้ยแทน กูอายมั่งเหอะ ควาย พอได้แล้ว” ไอ้ฟ่างหลุดหัวเราะความติงต๊องของไอ้แทน ไอ้นั่นมันก็ไม่สนใจอะไร หันไปบอกไอ้แมทกดเพลงให้ เห็นแมทมันอมยิ้ม พวกผมก็ลุ้นกันใหญ่เลยว่าแทนมันจะร้องเพลงอะไร
    แต่พออินโทรเพลงขึ้นเท่านั้นแหละครับ พวกผมแตกฮือ หามุมปล่อยก๊าก ระเบิดเสียงหัวเราะกันคนละทาง
     
    “งึกๆงักๆมันเป็นงึกๆงักๆ งึกๆงักๆมันเป็นงึกๆงักๆ
    มันเป็นกะอึ่กกะอั่ก มันเป็นจึ๊กๆจั๊กๆ
    มันเป็นอยากได้จั๊กกั๊ก มันเป็นบ่คึกบ่คัก ตึ่ง....ต๊อก.....
    จั่งซี่มันต้องถอน... จั่งซี่มันต้องถอน... จั่งซี่มันต้องถ๊อนนนนนนน”
    บระเจ้า ปอยฝ้ายมาเอง ไอ้ฟ่างแทบจะลุกเอาขวดแบล็คไปฟาดหัวไอ้แทน กว่าไอ้แทนจะร้องจบพวกผมมก็ขำจนกรามเกือบค้าง
     
     
    ………………………………………………….
     


    “พี่พีม ขอเข้าห้องน้ำหน่อยดิพี่ ผมปวดฉี่”

    “ก็ไปดิ ทำเหมือนไม่เคยมานะมึง”

    “ผมกลัวอ่ะพี่ ไอ้เต้ยก็ไม่ไปเป็นเพื่อน พาไปหน่อย”

    “เรื่องมากวะ ไปๆลุก” ผมลุกพาไอ้แมทไปเข้าห้องน้ำ เชี่ยวิ่งกุมเป้าไปก่อนผมอีก แล้วบอกกลัวนะมึง ผมก็เปิดหาของกินในตู้เย็นไปให้พวกข้างนอก รอไอ้แมทไปพลางๆ แต่รอไม่นานก็ได้ยินเสียงมันวิ่งออกมา

    “เสร็จแล้วๆพี่”

    “ไมเร็วจังวะ”

    “แฮะๆ ผมกลัว พลูด่างในห้องน้ำยาวเฟื้อยพี่พีม”

    “โตจนหมาเลียไข่ไม่ถึงยังจะกลัวผีอีกนะมึง” ไอ้แมทหัวเราะ แหะๆของมันไป ผมโยนแอปเปิ้ลเขียวให้มัน อ้าวไม่ใช่ แม่งพุทรานี่หว่า ทำไมลูกใหญ่จังวะ ผมชักจะตาลายแล้วสิหรือกูเมา ผมให้ไอ้แมทช่วยปอกมะม่วงที่คุ้ยได้ในตู้เย็นสี่ห้าลูก กินของเปรี้ยวๆน่าจะช่วยให้หายแฮงค์ได้

    “อ้าวเฮ้ย เชี่ยภูมิกูตกใจ มาเงียบๆนะมึง” ไอ้ภูมิมายืนอยู่ข้างหลังผมกับไอ้แมทตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ผมตกใจเกือบทำจานมะม่วงหลุดมือ “เป็นไรวะ หน้าบึ้งเชียว”มาถึงก็ไม่พูดไม่จา ยืนทำหน้าโหดมองผมกับไอ้แมทสลับไปสลับมา

    “ทำไมเข้ามานาน”

    “เอ๊า ก็น้องมันเข้าห้องน้ำอยู่”

    “แล้วก็ปอกมะม่วงด้วยพี่ พี่ภูมิกินป่าว”

    “ไม่ ของในบ้านแฟนกู ถ้าอยากกินกูจะกินเอง”ไอ้แมทเหวอไปเลย ผมนี่งงแดก

    “มึงเป็นไรภูมิ น้องมันพูดดีๆนะเฮ้ย”

    “ก็ทำไมต้องมาด้วยกันสองคน ไม่ชอบ” ผมกับไอ้แมทหันมองหน้ากัน ก่อนที่ไอ้เด็กหน้าลูกครึ่งมันจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น

    “ฮ่าๆพี่หึงผมกับพี่พีมหรอ โอยยย ให้ฟรียังต้องคิด” ผมสำลักพุทราและเสียงหัวเราะตัวเอง ก่อนจะเตะตูดไอ้แมทออกจากครัว มันก็วิ่งแหกปากลั่นไปตามทาง “พี่ภูมิขี้หึง พี่ภูมิขี้หึง” พวกข้างนอกคงรู้หมดแล้ว ดีไม่ดีคงได้ยินไปถึงหัวลำโพง

    ผมมองหน้าดุๆของไอ้ภูมิด้วยรอยยิ้มขำ ผมเอื้อมมือไปจับมือภูมิและบีบมือมันเบาๆ ผมยังจำได้ที่มันเคยบอกว่าหวงของ ยิ่งของรักของสำคัญยิ่งหวง ผมดีใจที่ได้เป็นสิ่งสำคัญของมันเพราะฉะนั้นผมก็อยากให้มันได้รู้อะไรบางอย่างว่า “ชีวิตนี้ถ้าไม่ใช่มึง กูไม่มีวันพิศวาสผู้ชายคนไหนอีกเด็ดขาด จำไว้ด้วยนะ ไอ้ขี้หึง”
     
                               


                                     …………………………………………..
     



    “เล่นไพ่พระราชา” เกมส์เดิมๆที่ไอ้ปันเอาไว้แกล้งมนุษย์ที่เรียกว่าเพื่อน “มีสิบเอ็ดคนต้องเล่นทุกคน มาๆ รู้กติกากันดีใช่มั้ย ใครได้คิงคือเจ้าโลก สั่งได้ทุกอย่างถามได้ทุกเรื่อง โอเค๊”

    “กูจำได้ว่าเล่นครั้งสุดท้าย ไอ้คิวเต้นรูดเสา ก๊ากกก มึงจำได้มั้ยพีม ฮ่าๆๆๆ”ไอ้คิวปาถั่วใส่หัวไอ้แทนที่ยังไม่หยุดขำ ไพ่หนึ่งใบต่อหนึงคน


    ทุกคนหยิบไพ่ขึ้นไปเปิด แม่งโคตรลุ้น คนเล่นเยอะอัตราเสี่ยงน้อยก็จริง แต่ถ้าซวยขึ้นมาเราไม่สามารถอุทธรณ์ร้องขอความเมตตาได้ เพราะพวกมันจะรุม แต่ผมไม่ค่อยโดนเท่าไร จากที่เล่นๆมาไอ้ปันนั่นแหละเจอบ่อย พวกผมมองหน้ากันเลิกลั่ก รอดูว่าเชี่ยตัวไหนได้คิง ระแวงกันชิบหาย แม้แต่ไอ้ภูมิมันยังไม่ให้ผมดูไพ่มันเลย ผมได้เลข
    3 ตื่นเต้นวะ


    “กูได้คิง” เชี่ยมิค มันยิ้มกว้าง แต่พวกผมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง “กูขอสั่งเลข
    ….7 เต้นเพลงโนบอดี้ วางไพ่!!!” คนที่โดนคือ ไอ้แทน กร๊ากกกก อาศัยว่าเมาไอ้แทนเลยหลับหูหลับตาเต้น เต้นเสร็จวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ คงอาย

    ตาต่อมา “กูคิง” เหี้ยเอ๊ย ไอ้คิวได้คิง กูจะรอดมั้ยเนี่ย มันเหลียวมองทุกคนรอบวงด้วยรอยยิ้มเลวๆ “เลข
    10 จูบหน้าผากเลข 1 วางไพ่” เย้ดเข้ ไอ้เบียร์กับไอ้ปัน


    “สาดดดดดดดดดดดดดดดดด” ไอ้เบียร์แทบก้มลงกราบเท้าไอ้คิวให้เปลี่ยนคำสั่ง ส่วนพวกผมรีบควักมือถือเตรียมพร้อม


    “ให้ใครจูบใคร” ไอ้ปันถามด้วยใบหน้าระรื่น มันไม่สะทกสะท้านอะไรหรอก มันชอบเกมส์แบบนี้จะตาย คล้ายจะซาดิส แต่หน้าไอ้เบียร์โคตรน่าสงสาร จุ๊บกันเสร็จไอ้เบียร์มันวิ่งไปเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าผาก ส่วนไอ้ปันมันก็นอนหัวเราะชอบใจ


    เกมส์ต่อมาไอ้เชนเป็นคนแจกไพ่
    “มึงได้อะไร”ผมกระซิบถามไอ้ภูมิ

    “ถ้าบอกแล้วมันจะเป็นเกมส์หรอ”ผมส่งสายตาชิงชังให้ไอ้ภูมิ ฮึ๋ย บอกแค่นี้ก็ไม่ได้

    “อ๊ากกก พี่ๆ ผมเป็นคิง”ไอ้แมทมันแหกปากร้องดีใจเหมือนสอบได้ตำแหน่งปลัด(ได้ข่าวว่าไอ้แมทมันเรียนเศรษฐศาสตร์) แต่ไอ้เต้ยบ่นว่าทำไมมันไม่ได้บ้าง เชี่ยแมทมันทำหน้าครุ่นคิดว่าจะสั่งอะไรดี แต่พวกผมนี่ก้มหน้ากันหมด

    “ผมขอถามเลข
    9” ชิบหายแล้วกู หัวใจผมเต้นตึกตักๆเพราะผมกำลังกำเลข 9 ข้าวหลามไว้ในมือ มึงอย่าเล่นอะไรแผลงๆนะแมทพี่ขอร้อง
     
    “จูบครั้งแรกที่ไหน วางไพ่!!!” เหมือนฝ่าผ่าลงกลางหน้าผาก ตายแน่กู พอผมวางไพ่เสียงโห่ก็ดังขึ้น พวกมันรีบขู่ทันที “โกหกลิ้นกุด” “ลูกผู้ชายหน่อยนะมึง” “เจ๋งวะแมท กูเป็นเพื่อนไอ้พีมมาเกือบทศวรรษยังไม่เคยถามมันเลย”

    “ตอบดิวะ เร็ว” นอกจากผมจะถูกกดดันจากเพื่อน ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนที่หล่อๆ ที่นั่งเงียบข้างกัน ก็กดดันเหมือนกัน ผมกัดปากอย่างใช้ความคิดและมองหน้าเจ้าเล่ห์ของพวกเพื่อนๆ


    ใครก็ได้เอาถุงดำคลุมหัวไอ้คิวไว้หน่อย แม่ง ลอร์ดโวลเดอมอร์ ยังไม่มีออร่าตัวร้ายเท่ามึงเลยคิว มันเหยียดยิ้มมุมปากพลางจิบเหล้ามองผมผ่านแก้ว “จูบแบบไหนวะ” ผมพยายามถามหาทางรอดแบบมุดดินมาก

    “จูบปากนะสัด อย่าแอ๊บแบ๊ว” อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะเชี่ยคิว ผมสูดลมหายใจลึก ก่อนจะตอบเสียงดังฟังให้ชัดๆนะ

    “ห้องนั่งเล่น” วันที่ภูมิมาติวหนังสือที่บ้าน นั่นคือจูบครั้งแรก ผมได้ยินเสียงขำ หึ ของไอ้ภูมิแต่ผมไม่กล้าหันไปมองหน้ามัน มึงจะหลุดขำทำม๊ายยย กลัวพวกมันไม่รู้หรอว่ามึงเป็นคนได้ไป

    >//////<

    “ห่า มึงเอาในห้องนั่งเล่นเลยหรอภูมิ เพื่อนกูลูกมีพ่อมีแม่นะมึง”

    “เชี่ยคิว กูแค่จูบ ไม่ได้ทำแบบนั้นเว้ย”

    ………………….” เงียบ เงียบทำไมวะ

    “ฮิ้วววววววววววววววว เสียหมาแล้วมึง ฮ่าๆๆๆ” ไอ้คิว ไอ้มิคเป่าปากวัดความดังได้ประมาน
    8.7ริกเตอร์ กว่าผมจะนึกได้ว่าตัวเองโง่กว่าควายก็ตอนที่สายไปเสียแล้ว


    สาดดดดดดดดด กูปล่อยไก่ฟ้าพระยาลอ ไอ้คิวมึง มึง มึง ทำกู ม่ายยยยยย พวกมันทั้งโห่ ทั้งฮาจนผมไม่สามารถทนรับความอายได้ จึงได้แต่ซุกหน้าเข้าไปหลบหลังภูมิ
     

    “หึหึ” ไอ้ภูมิก็ไม่ทำอะไรเลย นั่งอมยิ้มอย่างเดียว ผมแอบอยู่หลังภูมิ ได้กลิ่นน้ำหอมเคล้ากลิ่นเหล้าจากตัวมัน กับเสียงหัวเราะ เหมือนพอใจอะไรนักหนา ทำเอาผมอยากจะก้มลงไปเล่มหญ้าให้รู้แล้วรู้รอด“นั่งดีๆสิพีม”

    “นี่ ไอ้น้องสะใภ้ เอาหน้าออกจากหลังน้องกูได้แล้ว เดี๋ยวมันสึก”

    กว่าผมจะทำใจเอาหน้าออกมาเผชิญโลกกว้างพวกมันก็แจกไพ่เสร็จพอดี ภูมิเอานิ้วคีบแก้มผมเล่น คนอื่นกำลังลุ้นไพ่ภูมิถึงได้ก้มกระซิบที่หูผม


    “ขอบคุณนะครับ สำหรับจูบแรก
    ” อาศัยความมืด และอะไรอีกร้อยแปดก็ไม่อาจรู้ได้ ทำให้เราสองคนจูบกันแผ่วเบา โทษความเมาก็แล้วกันที่ทำให้ผมกล้า


    “อะแฮ่ม ที่นี่หน้าบ้าน ไม่ใช่ห้องนั่งเล่น ถ้าจะไม่เปิดไพ่ ก็ไปเปิดห้องไป” ไอ้แทนรีบขัดจังหวะ นี่ไงคนที่กล้าแสดงความรักทุกเวลาทุกสถานการณ์

    ตานี้ไอ้เบียร์เป็นคิง คนที่โดนคือไอ้ฟ่างต้องบอกรักและจูบฝ่าตีนตัวเอง จูบเสร็จทำท่าจะจูบไอ้แทนต่อ ไอ้ตัวดีมันก็วิ่งหนี ไหนบอกว่ารักนักรักหนาไงวะ โด่


    “เย้สสสสสสสสสส กูเป็นคิง กูอยากเห็นคนจูบกัน”ไอ้ปันกัดปาก ดิ้นพั่บๆตาเป็นประกาย ความคิดมึงแต่ละอย่างนะปันเอ๊ย

    “สัด ในนี้มีแต่ผู้ชาย และอีกอย่างเผื่อมึงจะลืมนะปัน นั่งอยู่นี่เพื่อนกันครับมึง”ไอ้เบียร์โวยวาย สงสัยจะกลัวเรื่องนั้นไม่หาย น่าสงสารมันเนอะ ฮ่าๆๆๆ

    “ทำไมละ ทีไอ้ภูมิกับไอ้พีมมันยังจูบกันเลย”เอ๊า มายุ่งอะไรกับพวกกู

    “ก็มันเป็นแฟนกัน มึงอย่าบ้าปัน”

    “ไม่รู้เว้ย กูขอสั่งหมายเลข
    2 หอมแก้มเลข 6 วางไพ่!!!” พอเห็นว่าไพ่ที่ว่าเป็นของใคร พวกผมก็เงียบยิ่งกว่าป่าช้า เพราะเลขที่ออกคือ ไอ้คิวกับไอ้เต้ย ป๊าดโธ่ ข่าวใหญ่แห่งปี มันสองตัวยังนิ่งไม่ไหวติง ได้เวลาเอาคืนแล้วกู มึงตายแน่ไอ้คิว

    “ฮ่าๆๆๆๆ กูขออัดวิดีโอเลยนะ” ดีมากฟ่าง


    “เร็วดิ ลูกผู้ชายหน่อย” ผมใช้คำพูดมันทำร้ายมัน สะใจโว้ย ไอ้เต้ยตัวซีดหน้าเหวอมาก ถ้าเป็นคนอื่นเต้ยมันคงถลาเข้าไปหอมจนต้องถีบออก แต่ไอ้คิวคนที่ทะเลาะกันแทบทุกวินาทีอย่าว่าแต่หอม แค่พูดดีๆด้วยยังยาก

    “เร็วดิวะ”เป็นครั้งแรกที่ภูมิช่วยผมทำมาหากิน มันดันหลังไอ้เต้ยให้ลุกไปปฏิบัติภารกิจสะท้านโลก

    “เฮียปัน อย่างอื่นเหอะนะ นะ”โอ๊ะ มีอ้อนวอน มีขอร้อง แต่ขอผิดคนแล้วเต้ย ไอ้ปันมันกระหายการแกล้งมนุษย์มึงไม่รุ้เหรอ

    “มึงจะหอมหรือจูบเลือกเอา โทษฐานที่กล้าต่อรองกูขอสั่งให้ผลัดกันหอมสามครั้ง” หึหึ อยากให้เห็นหน้าไอ้คิวครับ จากซีดเป็นแดงตอนนี้เขียวเข้มแล้ว ไอ้เต้ยจำใจเดินกระแทกเท้าไปนั่งยองๆเบียดไอ้เบียร์กับไอ้คิวโดยมีเสียงเชียร์จากพวกผม และเสียงเพลงปลุกใจจากไอ้แมทเพื่อนรักของมัน



    “พี่คิวหันหน้ามาดิ” ไอ้เต้ยสั่งไอ้คิว

    “มึงเอาจริงหรอปัน” ไอ้คิวหันไปขอความเมตตาจากไอ้ปัน

    “มึงกล้าต่อรองหรอคิว” เด็ดขาดเข้าไว้ปัน

    “เร็ว แม่งลีลาวะคิว” เล่นมันเลยเชน

    “เออวะ แม่งป๊อด” ผมก็ช่วยไอ้เชนเต็มที บอกแล้วว่าอย่าให้ถึงทีกู ไอ้คิวมันไม่ใช่คนยุขึ้นผมรู้ มันเป็นพวกทำอะไรที่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ แต่ไอ้เต้ยนี่สิ หึหึ ท้าไม่ได้ ไอ้น้องเต้ยมันก้มลงหอมแก้มไอ้คิวแทบจะเซี้ยววินาที คราวนี้พวกผมเป่าปากแซวลั่น


    ไอ้คิวก็หอมไอ้เต้ยกลับ สลับกันจนครบ มันสองตัวเมาหรือโกรธหรืออายก็ไม่รู้หน้าแดงไปหมด แต่ไม่เห็นโวยวายเหมือนตอนไอ้เบียร์ถูกไอ้ปันกระทำชำเราเลยวะ
     
     
    ยิ่งดึกยิ่งหนาว หมอกก็ลง ผมเลยเอาผ้าห่มมาแจกพวกมันคนละผืนเหมือนช่วยภัยหนาวเลยวะ ยกเว้นไอ้ฟ่างกับไอ้แทนห่มด้วยกัน ผมกับภูมิก็ห่มผืนเดียวกัน มือนึงถือแก้วเหล้า อีกมือกุมมือกันไว้ใต้ผ้านวมผืนอุ่น

    ไอ้แทนนอนหนุนตักฟ่าง ไอ้ฟ่างก็ก้มมาคุยอะไรกันกระหนุงกระหนิงเหมือนพวกจีบกันใหม่ๆ นานๆมันสองตัวถึงจะหันมาสนใจพวกผมบ้าง

    ไอ้แมทไอ้ปันยังแทะไมค์ไม่เลิก ส่วนไอ้คิวกับไอ้เต้ยก็ไปทะเลาะกันที่เตาบาบีคิวแย่งไก่กันแดก คงลืมเรื่องหอมไปแล้วมั้ง

    “เชน มึงจีบเด็กไอ้เบียร์หรอ” ภูมิถามไอ้เชนที่นั่งพิมพ์ข้อความเตรียมส่งให้สาวๆในปกครองของมัน

    “เออ แม่งโคตรเซ็ง กูให้เพื่อนไปขอเบอร์ก็ให้ พอโทรไปบอกกูว่าโบว์มีแฟนแล้วคะ กูก็ถามต่อ บอกแฟนชื่อเบียร์ ถามไปถามมาเบียร์เดือนนิติ เชี่ยเพื่อนกูนี่เอง กูเกือบแย่งแฟนมึงแล้วมั้ยละไอ้เบียร์”ไอ้เชนทำหน้าเซ็งๆ เบียร์มันก็หัวเราะ เมาแบบคุณชาย

    “โบว์บัญชีน่ะนะ กูไม่ได้คบเว้ย เขาดูแรงไปวะ”

    “ไอ้พวกแรงๆกูอยากให้เจอไอ้ภูมิ รับรองนิ่งทุกราย แต่ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้มันจะสเป็คต่ำลงไปเยอะ มึงว่ามั้ยเบียร์ หึหึ” แล้วมันก็ขำชนแก้วกันสองคน  ไอ้แทนที่นอนสบายหนุนตักไอ้ฟ่างก็ยังอุตส่าห์มาออกความคิดกับเขา บอกว่าไอ้ภูมิรู้จักคบคนที่ส่วนสูงไม่ใช่หน้าตา ผมเจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ปล่อยพวกมันไปก่อน
     

    “ไปเที่ยวกันมั้ยพีม” ภูมิปล่อยมือที่เคยจับมือผม แล้วเลื่อนลงไปกอดเอวผมแทน ดีว่ามีผ้านวมคลุมเลยไม่มีใครเห็น แต่ถึงเห็นก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

    “เที่ยวที่ไหนวะ”

    “ทะเล”

    “หน้าหนาวอ่ะนะ”

    “อืม หรืออยากไปที่อื่น แล้วแต่มึง”ผมกระแทกไหล่มันเบาๆ ถ้ากินเหล้าแล้วตามใจ วันหลังมอมไอ้ภูมิดีกว่า

    “กูยังไงก็ได้ ทะเลก็ได้”

    “เฮ้ย ห้าทุ่มห้าสิบแล้ว พลุอยู่ไหน เอามาๆ” พอไอ้คิวเรียกพวกผมก็ลุกเตรียมไปจุดพลุที่หน้าบ้าน จุดตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวเศษดินปืนหล่นใส่เสบียง ไอ้ปันไอ้มิคเดินนำหน้า ไอ้คิวกับไอ้เต้ยแย่งถุงพลุกันตามไปติดๆ ผมกับภูมิเดินรั้งท้าย ส่วนไอ้แทนกับไอ้ฟ่างนั่งพลอดรักกันไม่มาด้วย ไอ้เชนกับไอ้เบียร์ก็เตรียมโทรหาเมีย ไอ้แมทสลบไปแล้ว


    “มึงทำอะไรมิค” ภูมิตะโกนถามไอ้มิคที่เดินถอยหลังหันหน้ายิ้มให้พวกผม

    “กูถอยหลัง สู่ปีใหม่ ฮี่ๆ”

    “อ้าวหรอ กูนึกว่ามึงถอยหลังลงคลอง” พอถูกหมาในปากไอ้คิวกัด ไอ้มิครีบหันไปเดินปกติทันที

    “หูยยย เต้ยตื่นเต้นอ่ะเฮีย จะปีใหม่แล้ว”

    “ก็เต้นสิ” ไอ้คิวกวนน้องมัน

    “ประสาท”

    “ก็ไม่เท่ามึงหรอก”

    “เต้ยปกติ พี่คิวแหละบ้า”

    “หรอครับ น้องกูปกติมาก ยืนคุยกับกระติกน้ำแข็งได้เป็นวรรคเป็นเวรมึงปกติมากไอ้เต้ย” พวกผมมองหน้าไอ้เต้ยแล้วขำ เรื่องจริงครับ เต้ยมันชอบพูดกับสรรพสิ่งที่ไม่มีชีวิต จะว่าไปมันก็บ้าด้วยกันทั้งคู่
     

    “เฮ้ยๆจะเที่ยงคืนแล้ว กูจะนับพวกมึงจุดนะ
    9  8  7  6  5 4  3  2 1…ปีใหม่แล้วโว้ยยยยย” เสียงพลุดังสนั่นไปทั่วทุกสารทิศของกรุงเทพ ดอกไม้ไฟหลากสีบานเต็มท้องฟ้า เสียงโห่ร้องยินดีต้อนรับปี2554 ดังกึกก้อง พวกผมก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ร่วมสร้างสีสวยๆให้ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้  ปีใหม่แล้วสินะ


    “สุขสันวันปีใหม่นะพวกมึง”ไอ้คิวบอกก่อนจะลากไอ้มิคกลับไปกินเหล้ากันต่อ
     
    Happy New Year วะเพื่อน”ไอ้ปันบอกผมกับภูมิ

    “อือ หวัดดีปีใหม่มึง”

     “หวัดดีปีใหม่เฮีย” พวกผมยิ้มรับและรุมขยี้หัวไอ้เต้ย ก่อนที่มันจะลากเฮียปันไปแทะไมค์ ผมหันกลับไปมองตามไอ้เต้ย เห็นไอ้แทนกับฟ่างกำลังจูบกันรับปีใหม่ ผมหันกลับมาสนใจคนที่ยืนอยู่ข้างๆ


    Happy New Year ว่ะภูมิ ขอให้มึงมีความสุขมากๆเจอแต่สิ่งที่ดีๆนะ”

    “อืม กูก็ขอให้มึงเป็นสิ่งดีๆในชีวิตกูแบบนี้ไปทุกปีๆนะ” พวกผมยิ้มให้กัน เราแหงนหน้ามองพลุสีสวยบนท้องฟ้า บ้างก็เห็นอยู่ไกลลิบๆ บ้างก็อยู่ใกล้ๆในละแวกนี้ แต่ไม่ว่าจะที่ไหนสีสันเหล่านั้นก็สวยงามไม่แพ้กัน


    ภูมิจับมือผมไว้ ถึงหมอกจะลง แม้อากาศจะหนาว แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นเมื่อได้จับมือนี้ ผมกับภูมิยืนจูบกันใต้แสงดอกไม้ไฟสว่างไสว มีเสียงเพลง
    I’m Yours สำเนียงขอนแก่นของไอ้แมท เสียงโวยวายของไอ้เต้ยที่ขอยืมโทรศัพท์พี่รหัสมัน เสียงไอ้เชนแซวไอ้แทนกับฟ่าง เสียงไอ้เบียร์ด่าไอ้มิคกับไอ้ปันให้เลิกเคาะขวดโซดา


    และเสียงหัวใจของผมกับภูมิที่เต้นคลอเป็นจังหวะเดียวกัน




    Happy New Year นะครับทุกคน ^^
     
     
     

    TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     





    …………………………………………………………..
     



    สวัสดีปีใหม่อีกรอบคะ ปีนี้กระต่ายมาแรง ชาวมะเส็งอย่างตาลจะเฮงมั้ยน้อ แต่เขาว่าปีนี้ดีนะคะ ก็ขอให้เป็นปีดีๆของบ้านเมืองเราเนอะ ใครไปเทียวไปฉลองที่ไหนกันบ้างคะ มีใครนอนยาวส่งท้ายปีเหมือนตาลมั้ย ฮ่าๆๆ ชาตแบตให้ร่างกาย เลยมีแรงแอบไปส่องหนุ่มๆเขาเคาท์ดาวน์กัน


    คู่แทนฟ่างก็ไม่ต้องเดาหรอกคะ ปล่อยมันหวานกันไป ส่วนไอ้พี่คิวกับไอ้น้องเต้ยนี่มันยังไงละหืม มีอะไรให้ลุ้นมั้ยน๊อ อิอิ ส่วนคู่พีมกับภูมิ เบาๆชิลล์ๆ แต่ตอนหน้าได้ข่าวว่าจะพากันไปเที่ยว จะหนักจะเบาก็รอลุ้นนะคะ แต่ถ้าไปเสม็ด คงรอดยากวะพีม กร๊ากกก


    ปล
    .สำหรับคุณรีดเดอร์ที่ไม่รู้ว่าจะเรียกตาลว่าพี่หรือน้อง จริงๆพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องอายุนะคะ กร๊ากกกก แต่เพื่อให้เราสื่อสารตรงกัน ลำดับญาติได้อย่างถูกต้อง ตาลจะใบ้ให้นิดนึงว่าใครที่เกิดหลังปี1989 เรียกตาลว่าพี่ก็ได้คะ แอร๊ยยยยยยย (แก่มั้ยอ่ะ)แต่ถ้าใครเผลอเรียกน้องก็เรียกต่อก็ได้เน้อ ฮ่าๆๆๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×