ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #89 : ตอนที่ 77 "We are...เราคือ....."

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 45.45K
      260
      27 พ.ค. 55




















    ตอนที่
      77 “We are…เราคือ…”






     

    สามเดือนเหมือนสามวันเวลามันช่างผ่านไปไวจริงๆเลยว่าไหมครับเพราะอีกแค่สามวันก็จะเปิดเทอมแล้วแต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองพึ่งจะออกค่ายอาสาเมื่อไม่กี่วันนี่เอง หลังจากจบค่ายพวกเราก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตในช่วงปิดเทอมซึ่งภารกิจหลักของผมก็คือฝึกงานสานรัก ฮ่าๆ(อันหลังไม่ใช่ล่ะเพราะถ้าผมทำจริงอาจสิ้นอายุขัยได้ในพริบตาคู่ครัวรสดี บู่ววววว:P)

     





    ผมเลือกฝึกงานที่เชียงใหม่เพราะจะได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมอยู่กับครับครัวหรรษาด้วย ที่ที่ผมฝึกเป็นบริษัทโฆษณาน่ะครับ ตอนแรกก็กังวลคิดไปสารพัดว่าจะทำได้ไหมงานจะเป็นยังไงแต่พอได้ลองทำจริงๆถึงได้รู้ว่ามันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดแถมยังสนุกด้วยเพราะเป็นงานที่ค่อนข้างอิสระ




     

    และที่สำคัญพี่ๆที่ทำงานก็น่ารักผมได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเยอะเลยแล้วก็ได้ประสบการณ์ชีวิตของคนทำงานว่ามันต่างกับตอนเรียนมากจริงๆ แถมวันสุดท้ายของการฝึกพวกพี่ๆเขายังจัดงานเลี้ยงส่งให้แล้วยังบอกด้วยว่าถ้าผมเรียนจบก็ให้มาทำงานที่นี่เขายินดีต้อนรับเสมอ^^ งานครีเอทีฟมันก็สนุกดีแต่ผมอยากเปิดแกลอรี่มากกว่า คึคึ

     




    ส่วนไอ้คิวสหายรักของผมตอนแรกพี่ท่านเกิดเฮี้นยอะไรไม่รู้แม่งจะไปเป็นครูสอนศิลปะที่ยะลาเว้ย ทำเอาผมมึนไปสามวันผมบอกมันแล้วว่ามึงบ้ารึเปล่าอาจารย์ไม่ให้ไปแน่ๆแต่มันก็ไม่ฟัง พอมันยื่นเรื่องไปเท่านั้นแหละครับโดนอาจารย์ที่ดูแลเรื่องฝึกงานสวดยับเลย ฮ่าๆ 





     

    มันก็บ่นๆอยู่หลายวันแต่สุดท้ายไอ้คิวก็เลือกไปอยู่ในค่ายหนังยักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่งในตำแหน่งฮิปๆอย่างผู้ช่วยอาร์ตไดเร็กเตอร์ หึ ตอนเริ่มกับตอนจบอย่างกับหนังคนละม้วน

     





    ส่วนท่านชายเบียร์รายนั้นลอยลำมันฝึกไปตั้งแต่ตอนปีสองแล้วเพราะเกรดสะสมมันถึงที่จริงไอ้เบียร์มันต้องจบสามปีครึ่งพร้อมด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งพ่วงเหรียญทองเก๋ๆ(ซึ่งไอ้ปันเคยบอกว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะเรียนเอาเหรียญทอง เรียนหนังสือมันต้องได้หนังสือถ้าอยากได้เหรียญทองก็ไปแข่งโอลิมปิค เหอๆ) 





     

    แต่ที่คุณชายเบียร์มันไม่ยอมไปผุดไปเกิด เอ้ย ไม่ยอมจบผมก็ไม่รู้ว่ามันรอจบพร้อมพวกผมหรือรอส่งข้าวส่งน้ำเด็กโรงเรียนมัธยมแถวนี้กันแน่ ฮิ้ววววววววววว

     





    ส่วนหมอฟัน(ดะ)ให้ตายเถอะกาก้ากูชอบฉายามึงจริงๆเชน ฮ่าๆ ไอ้เชนมันหายสาบสูญอีกแล้วครับต่อไปนี้ก็ไม่รู้จะได้เห็นหน้าไอ้เชนไหมเพราะมันขึ้นชั้นคลินิกไปอยู่โรงพยาบาลแล้วคร้าบบบบ เรียนหนักไหมคงไม่ต้องบอกรู้แค่ว่าเวลาหายใจมันก็แทบจะไม่มีแต่การที่ไอ้หมอเชนมันเรียนหนักขึ้น(มาก)ก็ไม่ได้มีแค่มันที่เหนื่อยนะครับแต่ยังมีอีกสองคนที่ลำบากไม่แพ้กันนั่นคือไอ้มิคกับไอ้แทน

     






    สาเหตุก็คือว่าไอ้เชนมันหาคนไข้ไปทำแลปทำฟันอะไรของมันไม่รู้และพอดี๊พอดีว่าช่วงนี้ฟันคุดไอ้แทนขึ้น ไอ้เชนเลยตามล่าหาเหยื่อเอาตัวไอ้แทนไปเป็นคนไข้จำเป็น กร้ากกกกก ได้ข่าวว่าไอ้แทนกลายเป็นโรคหวาดผวาไอ้เชนไปเลย ส่วนคนที่มีความสุขเห็นจะเป็นหนุ่มถาปัดเพราะความทรมานของไอ้แทนถือเป็นความสุขขั้นสุดของไอ้ฟ่างครับ

     





    ส่วนไอ้มิคมันเคยจัดฟันไงครับผมก็ไม่เห็นตอนมันใส่เหล็กหรอก เห็นแค่เวลามันใส่รีเทนเนอร์เพราะมันเอาออกตั้งแต่ตอนขึ้นปีสอง ด้วยเหตุนี้เชี่ยมิคเลยพลอยโดนหางเลขไปด้วยมันขึ้นสเตตัสด่าไอ้เชนทุกวันว่าฟันมันจะล่มก็เพราะมีเพื่อนเป็นหมอฟันนี่แหละ กร้ากก






     

    ส่วนหนุ่มๆวิศวะขวัญใจใครหลายๆคนแต่ไม่ใช่ผม คึ :P ภูมิฝึกกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ค่อนข้างใหญ่อีกบริษัทของบ้านเราเลยละครับ มันเล่าให้ผมฟังว่างานหนักเหมือนกันต้องตากแดดแทบทุกวันแต่ภูมิก็ไม่เคยบ่นเลยนะแค่มีเรื่องที่ทำเอาผมฮาและสาแก่ใจเบาๆ

     






    เพราะว่าไอ้บริษัทที่ภูมิไปฝึกน่ะเป็นธุรกิจของบ้านไอ้คลื่น กร้ากกกกกกกก ภูมิมันพึ่งจะมารู้หลังจากผ่านไปได้เดือนกว่าๆ ภูมิไม่เคยบ่นเรื่องงานแต่เรื่องนี้มันพูดอยู่สามวันสามคืนเต็มและหลังจากนั้นมันก็คงทำใจได้มั้งครับเพราะเห็นเงียบๆไป ฮ่าๆๆ

     





    ช่วงปิดเทอมที่ผมอยู่เชียงใหม่รู้ไหมว่าภูมิมันบินจากกรุงเทพมาหาผมทุกครั้งที่มีวันหยุด ช่วงเดือนแรกแม่งมาทุกเสาร์อาทิตย์เลยเว้ยจนหนวดบอกว่าไอ้แมวแฟนมึงมันสติดีรึเปล่าวะ พ่อก็ออกจะทึ่งกับความมานะพยายามของไอ้ภูมิส่วนแม่ผมน่ะเหรอ




     


    นี่ๆคนนี้ชื่อน้องภูมิเป็นลูกชายคนใหม่ของฉันเอง…… หล่อใช่ไหมล่ะ…….เธออิจฉาฉันล่ะสิ…. ต๊ายว่าไม่ได้นะพระเอกละครบางคนยังหล่อสู้ลูกภูมิไม่ได้…..รวยด้วยจะบอก….ฯลฯ

     






    คุณนายเธอแฮปปี้มากครับในจุดนี้ ชีวิตเป็นช่วงขาขึ้นสุดๆแม่ชอบเอาไอ้หล่อไปอวดชาวบ้านชาวช่องจนมันกลายเป็นขวัญใจสมาคมแม่บ้านตำรวจไปแล้วเรียบร้อย ไอ้หล่อมันก็ยิ่งได้ใจกลายเป็นเด็กขี้อ้อนไปซะงั้น แม่ครับน้องภูมิอย่างนั้นแม่ครับน้องภูมิอย่างนี้  ถุ๊ยๆๆๆๆ

     





    แต่ว่าผมก็ดีใจนะที่ครอบครัวผมกับภูมิเข้ากันได้ดีจนบางครั้งผมก็อดคิดไม่ได้ว่าแม่งอาจจะดีเกินไปป่ะวะ เพราะอย่างหนวดเห็นแบบนั้นก็เถอะแต่ถ้าภูมิมาทีไรพ่อก็แอ๊บกลับบ้านเร็วตลอดทั้งที่ปกติต้องไปสมาคมนั่นไปสโมสรนี่ หึ แถมพาไปกินข้าวที่โรงแรมอีกต่างหาก

     




    แต่ถ้าเป็นผมเหรอ มึงแดกไรยังแมว ความยุติธรรมอยู่ไหนนนนน จากตอนแรกภูมิยังเกรงๆหนวดอยู่บ้างแต่ตอนนี้มีขับรถไปส่งพ่อที่ทำงานเว้ยแถมบางทีก็ไปออกรอบไดฟ์กอล์ฟกับพวกเพื่อนพ่อด้วย แม่งพ่อครับแม่ครับเห็นหัวพีมบ้างไรบ้าง ได้กลิ่นอะไรเหม็นๆไหมครับ หึ หัวกูเองมันเน่า!!!!!!!!!!!! T^T

     












     

     

    ……………………………

     













     

    เก็กฮวยถ้วยใหญ่ๆ แช่เอาไว้อยู่ในตู้เย็น

    น้องปีหนึ่งก็ผ่านมาเห็น น้องปีหนึ่งก็ผ่านมาเห็น

    แอบเปิดตู้เย็นกินน้ำเก็กฮวย ชัก แง็กๆๆๆๆๆๆๆ

     



     

    มะหมี่ มะหมี่ มะหมี่ขูดมะพร้าว

    ทำกับข้าวอยู่ในครัว มะหมี่ไม่รู้ตัวถูกคนชั่วลากเอาไป

    เอาไม้แหย่รู ถูๆไถๆ แสบๆ คันๆ

    มันๆปนกันไป เอาออกก็ไม่ได้ใครมาช่วยเอาออกที





     

    พวกผมนั่งดูบรรยากาศการรับน้องที่เวียนมาอีกปี น้องๆปีที่แล้วที่ถูกพวกผมแกล้งตอนนี้น้องกลายเป็นรุ่นพี่ที่รับหน้าที่ต่อจากพวกผมแล้ว พวกเราปีสี่แค่ดูอยู่ห่างๆมองรอยยิ้มมองเสียงหัวเราะของเฟรชชี่ที่สดใสก็เหมือนเห็นภาพเห็นอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง

     




    วันเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ




     

    ตอนนี้ผมเป็นพี่ใหญ่แห่งศิลปกรรมแล้วสินะพอมองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาผมได้พบเจอเรื่องราวต่างๆมากมาย ทั้งสุขและทุกข์ ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะและร้องไห้ สามปีในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ผมได้รับความรู้ทางวิชาการเท่าที่ความพยายามของผมจะมี แต่ที่ผมคิดว่าผมเก็บเกี่ยวมันไว้ได้อย่างเต็มที่ ผมใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าเพราะได้ร่วมสร้างความทรงจำมากมายกับเพื่อนๆและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมได้รู้จักความรัก



     

     ณ ที่แห่งนี้ 






     

    ผมได้พบกับคนที่จะอยู่เคียงข้างผมตลอดไป









     

    นี่พวกเราอยู่ปีสี่กันแล้วหรอวะนี่กูแก่ขนาดนี้แล้วหรอวะ ไอ้โจเท้าคางพูดเหมือนรับไม่ได้ ผมยาวๆฟูๆของมันหยิกหยองพันกันเหมือนไม่ได้สระมาแรมปียิ่งชั้นปีสูงเท่าไรความซกมกและจัญไรก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

     




    มึงยังจะถามอีกเหรอ การส่องกระจกไม่ได้ทำให้มึงรู้เหรอว่าหนังหน้ามึงไปไกลกว่าอายุจริงกี่ปีแสงแล้วไอ้เวร ฮ่าๆๆๆ ไอ้คิวได้รับเสียงหัวเราะจากพวกผมอย่างท่วมท้น

     




    แม้แต่น้ำไอ้โจมันยังไม่อาบแล้วมันจะเอาสมองส่วนไหนไปคิดส่องกระจกวะคิว ผมก็ช่วยไอ้คิวเล่นงานไอ้โจเต็มที่ มันเลยสยายผมสลัดเห็บและเหาออกมาสู่โลกกว้างก่อให้เกิดสงครามย่อมๆของพวกเรา

     




    เชี่ย น้องคนนั้นแม่งน่ารักว่ะ คำพูดไอ้หนึ่งหยุดยั้งทุกการกระทำพวกผมหันไปมองตามทางที่ไอ้หนึ่งชี้ เออว่ะน่ารักแต่……

     




    กูจะบอกโตเกียวให้ไปบอกน้องป่านว่ามึงเหล่หญิง



     

    ห่าพีมมึงอย่าพูดดังเดี๋ยวของเข้าตัวพวกกูพึ่งจะคืนดีกันนะมึง ก็เพราะมึงสันดานอย่างนี้ไง

     




    ทะเลาะกันแม่งทั้งปี ไอ้ชายส่ายหัวเอือมระอา






     

    หึ หน้าม่อมากๆระวังจะโดนน้องทิ้งนะเว้ยยย มึงต้องหัดเอาอย่างคู่กูนี่รักกันปานจะกลืนหวานชื่นทุกช่วงชีวิต

     






    ?????????????




     

    โห่หหหหหหหหหหหห





     

    แค่โห่มันไม่พอครับผมเลยโบกกบาลไอ้คิวด้วย มันหัวเราะชอบใจแม่งพูดมาได้ว่าหวานชื่น?กูเห็นปามีดปากระทะแจกกันทุกวัน

     





    พี่คิววววววววววววววว ตายยากเนอะ เฮียๆหวัดดีคร้าบบบพี่คิวๆเต้ยหาพี่คิวโคตรนานเลย โทรศัพท์เต้ยแบทหมดน่ะ พี่คิวว่างไหมแล้วพี่คิว……….

     





    โว้ย!!!! แม่งทีละคำถามได้ไหมเต้ย กูฟังไม่ทัน หึ หวานมากกกกกกกกกโอ๊ยหวานจนกูอิจฉา ฮา

     





    ทำไมฟังไม่ทัน เต้ยพูดชัดทุกคำเหอะตัวเองหูไม่ดี

     





    กูหูดีแต่ถ้ามึงจะรัวใส่ขนาดนี้หูกูมันไม่ใช่เครื่องอัดเสียงมันเก็บข้อมูลไม่ทันโว้ย

     





    เครื่องอัดเสียงใคร พี่คิวซื้อเครื่องอัดเสียงหรอซื้อที่ไหนแพงไหมเอามาให้เต้ยเล่นหน่อยสิที่จริงวันนี้โทรศัพท์เต้ยไม่มีตังแหละแล้วทีนี้#5*&^)_*&^##@!*(%$_+(*&^$#@+*” ไอ้คิวไม่รอให้ไอ้เต้ยพล่ามจบมันก็ยกและหิ้วคอเสื้อแฟนซนๆของมันจากไปแล้วครับ กูเพลียแทนมันสองตัวจริงๆ

     






    หึ แม่งหวานกันมากกกกกกกูเชื่อแล้วคิวว่าพวกมึงรักกันปานจะกลืน กร้ากกกก พอไอ้หนึ่งตะโกนตามหลัง ไอ้คิวก็หันมาชี้หน้าก่อนจะพาไอ้เต้ยขึ้นรถไปไหนไม่รู้สงสัยพาไปรับยา

     






     

    พอไอ้คิวไปแล้วพวกผมก็แยกย้ายไปหาข้าวกลางวันกินพวกไอ้หนึ่งไอ้โจไปกินร้านแถวๆหน้ามอส่วนผมกระแดะมากินไกลนิดนึงเพราะมีนัดที่พารากอน ก็ไอ้พวกวิศวะทั้งหลายน่ะสิครับมันออกมาสั่งเสื้อรุ่นเสื้อภาคให้น้องปีหนึ่งแถวนี้ ผมเลยถูกโทรตามให้ออกมาพร้อมกับไอ้ฟ่างที่ซวยถูกไอ้แทนบังคับมาเหมือนกัน





    ฟ่างมันไปรับผมที่คณะและมันก็เริ่มสาปส่งไอ้แทนยันต้นตระกูลพ่อต้นตระกูลแม่ของไอ้แทนเลยครับ มันด่าตั้งแต่ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งยันอาหารมาเสิร์ฟมันก็ยังด่าไอ้แทนไม่เลิกเพราะตอนบ่ายมันต้องเข้างานรับน้องของสถาปัตย์แต่ก็ต้องเสียเวลาออกมาหาแฟน

     






    รสชาติอาหารดีขึ้นไหมห๊ะ น้ำซุปคล่องคอขึ้นรึเปล่าเห็นหน้ากูแล้วน้ำเปล่าเปลี่ยนเป็นน้ำแร่ไหมไอ่เหี้ย!!” ไอ้ฟ่างเทศน์จนหอบแดกแต่ไอ้แทนมันก็มามุขเดิมคือยิ้มและยกมือไหว้ หึหึ มีกราบลงที่อกด้วยครับแม่งกวนตีนดีชิบหาย ไอ้ฟ่างหลับตาสูดลมหายใจแรงๆก่อนจะหันกลับไปโซ้ยข้าวหน้าไอ้แทน(ปลาไหล)ต่อ

     






    ไอ้แทนก็ถือโอกาสคีบนั่นตักนี่ให้แฟน ผ่านไปซักพักไอ้ฟ่างก็เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ในทางที่เป็นมิตรต่อมนุษย์แล้ววู้ๆเย้ๆคือกูเกร็งมาตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว ก็ผมกลัวมันโกรธจนพาลมาฆ่าผมเพื่อระบายอารมณ์อ่ะดิแถมแม่งก็ขับรถซะยังกับแข่งฟอร์มูลาวัน ภูมินั่งเท้าคางมองพี่ชายแบบเอือมๆแถมยู่ปากใส่อีก บ๊ะ ทีตัวเองล่ะอย่าให้กูพูด ส่วนไอ้มิคมันไม่สนใจใครเลยครับแม่งแดกลูกเดียว อ๊ากกกปลาหิมะกูไอ้มิคคคคคสั่งมาให้กูใหม่เลยมึง

     





    คึ มึงช้าเอง ไอ้มิคยิ้มแฉ่ง ผมก็ได้แต่คาบตะเกียบแล้วร่ายมนต์ในใจขอให้แม่งติดคอขอให้มันสำลักขอให้ปลาเป็นพิษ!!!!!!!!!!!!!!!




     

    หึหึ เดี๋ยวกูสั่งให้ใหม่น่าเลิกทำหน้าอย่างนั้นได้แล้วแก้มจะแตกนะเตี้ย ผมหันควับไปหาป๋าภูมิผู้ใจดีและรีบทำหน้าทำตาให้หล่อที่สุด แหม๊แฟนใครหล่อแล้วยังใจดีอีก ฮิ้วววววววว กูแซวตัวเองเพื่อ???????

     







    น้องกูคงจนเพราะมึงช่วยสำเหนียกไว้ด้วย

     






    โหยยเชี่ยฟ่างคร้าบบบทีเพื่อนกูถอยหลุยส์ให้มึงอ่ะไหนจะแคมเปอร์กะคอนเวิร์สคู่ละเท่าไร ไอ้ฟ่างยักไหล่ยิ้มกวนๆให้ผมแล้วหันไปมองหน้าไอ้แทนก่อนจะเอาคางวางเกยไหล่ โอ้ววววววแรว๊งส์

     






    แทน…..บอกเพื่อนมึงไปสิว่า มึง เต็ม ใจ ฟังจากน้ำเสียงของไอ้ฟ่างแล้ว ถ้าไอ้แทนตอบว่าไม่ ร้านพวงหรีดร้านโลงศพก็เตรียมเฮได้เลยครับเพราะงานศพมันคงได้จัดที่พารากอนอย่างแน่นอน

     





    ครับๆกูเต็มใจซื้อให้ก็ถ้าไม่ซื้อให้เมียแล้วจะซื้อให้ใครล่ะ โอ๊ยยย ฝ่ามือเน้นๆกลางกบาล

     



    กูไม่มีมดลูกอย่าเสือกเรียกเมีย

     




    โหยฟ่างก็ไอ้แทนมันรักมันเคารพมึงไงมันเลยเรียกเพื่อยกย่องและให้เกียรติมึงอย่าไปด่ามันเลยน่า ไอ้มิคดูดชาเขียวเสียงดังแล้วเสนอหน้าพูดเหมือนคนที่รู้ลึกซึ้ง  ไอ้แทนถึงกับชูนิ้วโป้งให้อย่างถูกใจ มันทำทุกอย่างก็เพื่อมึง

     




    บอกมันไปมิคบอกมันไปปปป ไอ้แทนชี้นิ้วประกอบคำพูดอย่างออกรส ไอ้ภูมิกอดอกดูเพื่อนกับพี่เขยอย่างอารมณ์ดี วันนี้ไอ้หล่อมันยิ้มบ่อยมากเลยครับไม่รู้มันแอบไปพี้แมรี่เจนมารึเปล่า

     





    มันทั้งรักทั้งเกรงใจ



     

    อ่ะแน่นอน



     

    ทั้งเคารพและบูชา




     

    จะหาใครดีเท่ากูไม่มี๊

     




    มันทำไปด้วยความไม่ประสีประสา



     

    Yes




     

    บางครั้งเชี่ยแทนเลยหลุดความจัญไรออกไปบ้าง



     

    ก็ไม่น่าใช่ปัญห๊า



     

    เพราะฉะนั้นมึงก็ควรหาผัวใหม่ซะนะฟ่าง



     

    ถูกมิค ถุ๊ยไอ้เหี้ยมาเสี้ยมแฟนกู ฮ่าๆๆ ไอ้มิคตบโต๊ะหัวเราะมีความสุขส่วนไอ้ฟ่างก็จับซูชิไข่หอยเม่นยัดปากไอ้แทน มันก็กินไปตีกันไปมีไอ้มิคก่อกวนอยู่เป็นระยะส่วนผมกับภูมิก็เริงร่าอยู่กับปลาหิมะ ฮี่ฮี่ มื้อนี้แม้เราจะมีเพียงห้าคนแม่งก็ยังแย่งกันจนเหนื่อยแต่ก็ดีอยู่อย่างตรงที่อิ่มแปล้แต่ยังสบายกระเป๋าเพราะไอ้แทนกับไอ้ภูมิจ่ายยยยยยย มันอยากเรียกออกมาทำไมล่ะให้แม่งจ่ายซะเลย คึคึ

     







     

     

     

     กินข้าวอิ่มไอ้แทนไอ้ฟ่างก็กลับไปมอไอ้มิคก็ไปมอแต่มออื่นนะครับแล้วมันไปทำไม หึ ก็ไปรับสาวไงได้ข่าวว่าคนนี้พึ่งเริ่มคบเลยเช้าถึงเย็นถึง ส่วนผมกับภูมิเราจะดูหนังกันต่อตอนนี้เลยเดินย่อยก่อนไว้อีกซักพักค่อยไปดูรอบหนังแล้วกัน

     





    พีมรออยู่นี่นะกูไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวมา


     

    อ๋อ อืมๆ ผมรับกระเป๋าตัวเองที่ภูมิเอาไปถือให้มาถือไว้เอง ไอ้หล่อมันไปเข้าห้องน้ำส่วนผมก็นั่งจิ้มๆๆๆบีบีรอภูมิ

     

     





     

    จะมีเพียงเธอรักเพียงแต่เธอ

    โอบกอดเธอด้วยรัก รักที่ห่วงใย 

    ใจฉันให้เธอมันเป็นของเธอรู้ไหม 

    ทุกคำมันกลั่นออกมาจากหัวใจ 

    เราจะลอยข้ามฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว 

    จะไม่มีความเหงาเข้ามากล่ำกลาย 

    เพลงนี้เพื่อเธอมันเป็นของเธอรู้ไหม 

    สัญญาจะดูแลเธอจากนี้ ตลอดไป

     





    เสียงเรียกเข้าของมือถือภูมิทำเอาบีบีผมแทบหลุดมือ เชี่ยกำลังมันส์กูตกใจหมดผมควานหาไอโฟนมันในกระเป๋าก่อนจะหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมาและเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอก็คืออีกหนึ่งคนสำคัญของภูมิ คุณพ่อผมยิ้มก่อนจะรับสายเพราะตอนนี้คุณพ่อของภูมิก็เป็นคนสำคัญของผมเหมือนกัน




     

    ฮัลโหลครับพ่อ



     

    (น้องภ….อ้าวพีมเหรอ) ท่านทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็ฟังดูอ่อนโยน


     

    ครับพ่อ ภูมิมันไปเข้าห้องน้ำน่ะพ่อมีอะไรรึเปล่าครับเดี๋ยวพีมไปเรียกมันให้


     

    (ไม่เป็นไรๆพ่อแค่จะโทรมาบอกภูมิว่ามะรืนนี้พ่อกับแม่จะไปอิตาลี)



     

    อ้าวเหรอครับทำไมกะทันหันจังพ่อมีงานด่วนหรอ

     



    (ก็เรื่องงานด้วยแล้วก็กะว่าจะไปเยี่ยมญาติๆทางนู้นด้วยแล้วพรุ่งนี้พีมกับภูมิว่างไหม)

     



    ก็พีมมีเรียนเช้าครับแต่ภูมิเรียนถึงอืมน่าจะทุ่มนึงมั้งเห็นมันบอกว่ามีสอบด้วยทำไมหรอครับ

     



    (งั้นพรุ่งนี้ก็มาทานข้าวที่บ้านนะแม่เขาอยากเจอลูกๆก่อน นี่ก็บ่นๆแล้วว่าคิดถึงพีม) ได้ยินเสียงแม่ตะโกนมาในสายด้วยครับ^^คุณแม่ท่านยังคงใจดีและน่ารักไม่เปลี่ยนเลย

     





    ฮ่าๆครับพ่อเดี๋ยวพีมจะบอกภูมิให้แล้วก็ฝากบอกแม่ด้วยนะครับว่าพีมก็คิดถึง ไอ้ภูมิอ้อนแม่ผมจนได้ขึ้นหิ้งเป็นลูกชายคนใหม่แล้วทำไมผมจะทำบ้างไม่ได้ หึหึ แม่ภูมิก็สปอยผมเหมือนกันเหอะไม่อยากจะอวด

     




    (พีมจะคุยไหมแม่ก็นั่งอยู่กับพ่อ) ผมคุยโทรศัพท์กับคุณแม่อีกซักพักท่านก็วางไป ผมว่าผมคุยกับแม่นานนะแล้วก็ตั้งแต่วางสายไปก็นานเหมือนกันแต่ทำไมไอ้ภูมิมันยังไม่กลับมาอีกเนี่ยหรือตกโถฉี่ตายห่าไปแล้ว

     






    แม่งชอบเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยชอบทิ้งผมไว้คนเดียวไหนมันเคยสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้ผมต้องรอ ฮึ๋ย ไอ้คนผิดสัญญา!!! ไปตามมันหน่อยก็ได้วะเผื่อมันตายผมจะได้เรียกร่วมกตัญญูทันแต่พอผมหันหลังกลับมาก็เจอช่อกุหลาบสีขาวยื่นมาตรงหน้า

     





    ผมไล่มองตั้งแต่กุหลาบช่อโตเรื่อยไปถึงแขนเสื้อช็อปจนถึงหน้าหล่อๆของคนที่ถือดอกกุหลาบอยู่ ผมยืนบื้อใบ้ทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองหน้าไอ้ภูมิสลับกับช่อกุหลาบ

     





    เย้สสสสสสสสสสสสเข้ เผื่อคุณจะลืมไปคือว่าตอนนี้พวกผมยืนอยู่กลางห้างแล้วคิดว่าคนจะมองไหมครับ แม่งจะเหลือหรอผู้ชายสองคนกำลังยื่นกุหลาบให้กันแต่ก็ช่างมันเหอะเจอกันครั้งเดียว อย่าไปแคร์(เหรอ)







    >////////////////////<

     






    รับไปดิ๊ ไอ้หล่อยิ้มเขินๆพยักพเยิดหน้ามาที่ช่อกุหลาบเพื่อให้ผมรับไว้ ผมเผลอหลุดยิ้มเกาขมับเขินหนักก่อนจะยื่นมือไปรับช่อดอกกุหลาบขาวยักษ์มากอดไว้ ไอ้ที่มึงหายไปนานเพราะไอ้นี่สินะ

     





    เนื่องในโอกาสอะไรวะ ผมกอดช่อกุหลาบไว้ในอ้อมแขนก้มหน้าก้มตาแอบชำเลืองมองนิดๆว่ามีคนมองเราไหม อื้อหือ คนนั้นจะเอามือถือมาถ่ายรูปด้วยอ่ะแต่เธอเห็นว่าผมมองก่อนเธอเลยยิ้มเขินๆจากไป อ๊ากกกก เขินโว้ยยยยกูจะมอบรางวัลแฟนดีเด่นให้ไอ้หล่อสาขาเซอร์ไพรส์ยอดเยี่ยม

     




    โอกาสอยากให้ ดูแม่งตอบ ตายๆๆๆ ตอบแบบนี้กูคงต้องขอสมัครเป็นทาสรักมึงทุกชาติไปแม้ต้องกัดก้อนเกลือกินก็ยอม ชอบป่ะ แล้วดูแม่งถาม

     



    ชอบ

     



    เหรอ



     

    อื้อ

     



    ………………………” เดดแอร์


     

    ………………………” อากาศตาย

     




    สวยดีเนอะ หลังจากที่เราเงียบกันไปซักพักด้วยความเขินอันจุกอกภูมิมันก็ถามขึ้นมาลอยๆ ภูมิเกาหัวแกว่งแขนไปมาก่อนจะชี้มาที่ช่อกุหลาบที่มันเป็นคนซื้อเองพร้อมกับอมยิ้มเขินๆ

     



    อือสวยดีขอบคุณนะ หึหึ มึงเขินไมเนี่ยภูมิกูสิต้องเขิน สาดดดดดดด อิจฉาผมไหมครับ อิจฉากูอ่ะดิ๊ ไม่เคยได้อ่ะดิ๊ กูยังอิจฉาตัวเองเลย กร้ากกกกกกกก กูจับดอกกุหลาบแดกแม่ง

     






    หรือแดกไอ้คนให้ก่อนดี คึ อย่าทำทะลึ่งเบ่เบ๋






    >o<

     

     










                                                              ...............................

     






     

    เฮ้ยปัน…..ปัน…..ไอ้เชี่ยปันนนนนมึงทำไรวะ กูตะโกนจนคอจะพองแล้วนะจนไอ้พวกที่เตะบอลอยู่ในสนาม(ไอ้ภูมิ ไอ้แทน ไอ้คิว ไอ้ฟ่าง ไอ้แมท ไอ้เต้ย)หันมามองอ่ะ เอ่อ กูไม่ได้ตั้งใจนะพวกมึงเตะต่อไปเถอะกูขอโทษที่รบกวน ปันได้ยินไหมกูถามมึงทำไรวะแม่งตั้งใจเกิ๊น




     

    กูกำลังฝึกความถนัดทางสถาปัตย์เว้ยมึงดูๆ ไอ้ปันยื่นไอโฟนมาตรงหน้าเกือบทิ่มตากูเลย

     




    ด้วยการเล่นเดอะซิมเนี่ยนะ

     




    เออน่า ผมขมวดคิ้วใส่ไอ้คนที่นอนเอกเขนกเล่นเดอะซิมอยู่บนอัฒจรรย์ข้างสนามฟุตบอลวิศวะสนามที่มีความหลังฝังใจกับผม ฮึ๋ย มันไปนัดกันที่อื่นไม่ได้รึไงวะกูไม่ชอบที่นี่ อ๊ากกกกกกกกกก

     



    ปวดขี้หรอทำหน้าเหมือนอยากเบ่งอุนจิ ไอ้ปันมันว่าผมเอ่อมึงไม่ต้องเลือกใช้คำให้หลากหลายก็ได้ปันเลือกมาซักคำนี่แม่งมาทั้งขี้ทั้งอุนจิเลย





     

    เฮ้ย นั่นใช่พี่องุ่นป่ะมึง ไอ้ปันหันพรึ่บแทบจะทันทีแต่หารู้ไม่ว่า กร้ากกกกกกกกกกกกกกกก  โดนกูหลอกแล้วมึงงงงแหมๆหันเร็วเชียวนะมึงเป็นไรกันวะ




     

    ไอ้ตะเรี่ยยยยยยยยยยเดี๋ยวกูเตะตกอัฒจรรย์ให้ขาหดกว่าเดิมสัส ผมไม่สนใจคำด่ากะโหลกกะลาอาลาเล่ของไอ้ปันเพราะผมกำลังสะใจที่หลอกมันได้

     




    แต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงโหยหวนของไอ้เต้ยบวกเสียงหัวเราะของพวกไอ้คิวและภาพที่เห็นในสนามตอนนี้คือไอ้คิวถอดเสื้อโชว์วงแขนอันน่าสะพรึงมันพยายามจับไอ้เต้ยมาซุกจุ๊กแร้ช่างเป็นการกระทำที่น่าสยดสยองยิ่งนัก ไอ้เด็กนั่นก็ร้องลั่นสนามไอ้แมทก็ดีเหลือแสนแสดงความเป็นกัลยาณมิตรที่ประเสริฐด้วยการช่วยจับไอ้เต้ยไว้อีกแรง

     




    อ๊ากกกกกกกกกกกก พี่คิววววววววววไอ้พี่คิวปล่อยเต้ยยยยยเชี่ยแมทปล่อยกู

     




    ฮ่าๆๆ มึงผลักกูดีนักใช่ไหมมามะมาดมน้ำหอมสปาอโรมาเทอราปี้ของพี่เร็ววววว แม่งโคตรอุบาทถ้าผมเป็นไอ้เต้ยนะกูกลั้นใจตายตรงนั้นแหละมันแกล้งกันซักพักก็กลับไปเตะแบบปกติผมก็นั่งดูไป ไอ้ปันก็เล่นเกมส์ไป ส่วนไอ้มิคกับไอ้เบียร์ก็……….



     

    มันก็ทำมาจากถั่วเหลืองทั้งสองอย่างแต่เต้าหู้ก็คือเต้าหู้ นมถั่วเหลืองก็คือนมถั่วเหลือง

     





    อ้าว ไหนมึงบอกว่ามันคืออย่างเดียวกัน

     




    น้ำเต้าหู้กับนมถั่วเหลืองน่ะคืออย่างเดียวกันแต่เต้าหู้ไม่ใช่อันนั้นเอาไปทำกับข้าวมึงไม่เคยกินแกงจืดรึไงวะมิค

     




    อ้าวเมื่อกี้มึงบอกคนล่ะอย่างตกลงมันยังไงกันแน่

     




    มิคกูไม่เข้าใจว่าทำไมมึงไม่เข้าใจวะ กร้ากกกกไอ้เบียร์หมดปัญญาเลยทีเดียว มันอธิบายเรื่องน้ำเต้าหู้ และนมถั่วเหลืองให้ไอ้มิคฟังมาซักพักแล้วครับแต่ไอ้มิคก็ไม่เข้าใจว่ามันเหมือนหรือต่างกันเยี่ยงไร ฮ่าๆๆๆ

     




    ไอ้มิคมันก็แบบนี้ที่มักจะเข้าใจอะไรที่เข้าใจยากแต่มันจะสับสนกับเรื่องที่ไม่น่าโง่ เหอๆ ไอ้เบียร์ถอนหายใจตบไหล่ไอ้มิคสองทีก่อนเดินลงไปเตะบอลต่อปล่อยให้ไอ้มิคเข้ากูเกิ้ลเอิร์ธค้นหาเต้าหู้ต่อไป

     






    ส่วนสาเหตุที่เราต้องมารวมพลกันที่นี่เย็นนี้คืนเราจะมีปาร์ตี้ฉลองวันเกิดครบรอบสามปีของ……….ไอ้ข้าวผัดไอ้กระต่ายหมูตอนอ้วนยิ่งกว่าหมีพุงยื่นยิ่งกว่าหมูแต่ก็เป็นลูกรักของไอ้แทนกับไอ้ฟ่าง พวกไอ้แทนเลยนัดมาที่นี่ก่อนมันหาเรื่องอยากเตะบอลอ่ะผมว่า




     

    ทั้งที่ความจริงเราไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ไม่จำเป็นต้องนัดมาที่นี่แม่งสิ้นเปลืองเวลาจริงๆ ตอนนี้ก็รอไอ้หมอเชนคนเดียวครับเพราะมันสอบแลปอยู่นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกตั้งแต่เปิดเทอมมาเลยนะ

     





    เตี้ยเก็บบอลให้หน่อย  คุ้นๆไหมครับคำนี้ แต่คราวนี้คนสั่งมันเท้าเอวพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ไม่ใช่ตะโกนหน้าบึ้งถมึงทึงและผมก็ไม่ได้ตะโกนด่ากลับไปเหมือนอย่างครั้งแรกที่เราพบกัน เตะด้วยกันไหม

     





    เฮ้ยๆๆ ผัวเมียคู่นั้นชวนกันเตะบอลเว้ยยยย วิ้ดวิ้ว ไอ้สารเลวคิวมันเต้นท่าคืนนี้อยากได้กี่ครั้งใส่ผมด้วยผมเลยตอบแทนมันกลับด้วยนิ้วกลาง ผมเตะบอลส่งคืนให้ภูมิก่อนจะส่ายหัวกูขี้เกียจกูอยากไปกินเหล้าแล้วเมื่อไรไอ้เชนจะมาวะ

     





    ไอ้ปันนั่งอธิบายเรื่องน้ำนมถั่วเหลืองให้ไอ้แมทฟังแต่ไหงมาโผล่เรื่องเห็ดหลินจือได้ล่ะเนี่ยผมก็นั่งฟังนั่งหัวเราะคนบ้าสองคนคุยกันจนหกโมงกว่าๆไอ้เชนมันก็มา โอ้ววววววววว มาดคุณหมอหล่อมาเลยมันใส่เสื้อกราวด์ใส่แว่นด้วยครับโคตรราศีคุณหมอเลย

     





    โหพี่เชนไปสอบหรือไปแข่งไตรกีฬามาวะพี่ ฮ่าๆ เชี่ยน้องแมทที่พักออกมากินน้ำถามลูกพี่มันแต่ไอ้เชนไม่มีแม้แต่แรงจะตอบมันทรุดฮวบนั่งลงอย่างหมดสภาพ

     




     

    เอาฟอร์มาลีนฉีดกระตุ้นหน่อยไหมเพื่อน ผมเอาเท้าสะกิดหลังไอ้เชน เออดีว่ะมันไม่สู้ด้วยเว้ย

     





    แม่งเหนื่อยโคตรๆเชี่ยปันเหยิบไปดิ๊กูจะนอน

     




    มาระรานกูไมเนี่ยเดี๋ยวสั่งแองกี้เบิร์ดยิงไส้แตก ไอ้ปันหันมาค้อนควับใส่ไอ้เชนก่อนจะหันไปพูดเรื่องยาสตรีบัวผันต่อ



     

    เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอวะแล้วมึงทำข้อสอบได้ไหม ผมถามพร้อมกับเลื่อนลงไปนั่งข้างๆมัน





    ก็ได้บ้างแต่เหนื่อยยยมากกกูไม่ได้นอนมาแปดวันแล้วมึง แล้วนี่รอกูคนเดียวหรอพีม




     

    เออดิ เฮ้ยพวกมึงไอ้เชนมาแล้วกลับได้ยังวะ





     

    …………………………” ไม่มีหมาตัวไหนสนใจกูซักคนตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไล่ตะบี้ตะบันไอ้ลูกกลมๆนั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย กว่าพวกมันจะเลิกเล่นได้ก็ทุ่มนึงพอดีนี่ถ้ามันไม่มืดพวกมึงก็คงไม่หยุดสินะ

     





    พวกเรายกโขยงออกเดินไปที่จอดรถซึ่งก็ค่อนข้างไกลอยู่เหมือนกันเสียงเอะอะโวยวายดั่งลั่นทั้งเสียงด่าเสียงหัวเราะ ข้างหน้าสุดคือไอ้คิวที่พยายามลวนลามไอ้ฟ่างเพื่อแลกกับการถูกด่าอย่างไม่ปราณีโดยมีไอ้แทนที่กอดคอไอ้เชนหัวเราะพอใจกับการเห็นฟ่างประสาทเสีย 





     

    ไอ้เต้ยกับไอ้มิคที่รุมถามไอ้เบียร์เรื่องนมถั่วเหลืองว่าตกลงต่างจากน้ำเต้าหู้ยังไง จนไอ้คุณชายถึงกับยกมือไหว้ให้สองตัวนั้นเลิกยุ่งกับมัน

     





    และไอ้ปันกับไอ้แมทที่กระซิบกระซาบอะไรกันซักอย่างเหมือนกำลังวางแผนแกล้งใครซักคน ส่วนผมกับภูมิเราเดินรั้งท้ายมันกอดคอผมไว้เรามองภาพข้างหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนที่ภูมิจะเลื่อนมือจากกอดคอมาจับมือผมไว้แทน ผมเงยหน้ายิ้มให้ไอ้หล่อที่มันบังอาจกล้าจับมือผมในที่สาธารณะแม้ตรงนี้จะไม่มีใครก็เถอะ





     

    เตี้ย




     

    ไร?




     

    ทางข้างหน้าไกลนะ

     




    หืม?ไกลอะไรวะเดี๋ยวก็ถึงแล้วนู่นนนนเห็นรถลูกรักมึงไหมน่ะ

     





    หมายถึงทางที่เราจะเดินด้วยกันต่างหากมันยังอีกไกล ภูมิยิ้มและกระชับมือของเราที่จับกันไว้ให้แน่นขึ้น ผมบีบมือมันกลับเบาๆ 




    ถ้ามีมึงอยู่ข้างๆไกลแค่ไหนกูก็จะไป




     

    ทั้งชีวิตเลยนะ




     

    อื้ม ทั้งชีวิต



     

     

    หลายๆเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผมกับภูมิโดยเฉพาะเรื่องครอบครัวที่กว่าเราจะผ่านพ้นมาได้ จนตอนนี้ผมคิดว่าเราสองคนผ่านคำว่ารักมาแล้วสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันคือความคุ้นเคยความผูกพันที่ขาดกันไม่ได้

     






    ^_^







    ภูมิยิ้มให้ผมและผมก็ยิ้มให้มันเช่นกันแม้เราจะไม่ได้พูดว่า สัญญา แต่เราก็บอกผ่านความรู้สึกผ่านแววตาคู่นี้ผ่านรอยยิ้มนี้

     





    ผมเองก็ไม่รู้ว่าทางข้างหน้านั้นมันจะยาวไกลซักแค่ไหนไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ตราบใดที่ยังมีภูมิคอยจับมือและเดินอยู่ข้างๆ มีไอ้พวกเพื่อนๆตัวป่วนพวกนี้ร่วมเดินทาง

     






     

    ไม่ว่าจะต้องเดินอีกไกลแค่ไหน




    ไม่ว่าจะต้องหัวเราะหรือร้องไห้




    จะยิ้มหรือเสียใจ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร





    ผมก็พร้อมจะออกเดินทางไปกับพวกมันเสมอ

     

     

     

     

     

     












     

    จนกว่าจะพบกันใหม่

     

     

     





     

    The End

     

     

     

     

     












    http://my.dek-d.com/a/modules/DDRTE/editor/images/spacer.gif 








    เป็นสองคำที่พิมพ์ยากมากยากกว่าพิมพ์นิยายทั้งเรื่อง ฮ่าๆ อ่าจบแล้วหรอเนี่ยคนพิมพ์ก็ยังงงๆอยู่เลยค่ะคิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะพูดอะไรก็
    …….We are จบแล้วนะคะ(บอกตัวเอง ฮา) ขอบคุณทุกคนนะคะขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจขอบคุณช่วงเวลาดีๆขอบคุณทุกคนใน  We are คือ เรารักกันตาลไม่คิดว่าพวกเราจะมาไกลขนาดนี้ไม่คิดว่าการแต่งนิยายจะทำให้ได้เจอเพื่อนใหม่ๆที่ไม่เคยเจอหน้าแต่ว่าเราก็มอบสิ่งดีๆให้กันจากใจจริง

     





    สองปีที่ผ่านมาเราเหมือนได้สร้างสังคมเล็กๆเป็นกลุ่มเพื่อนที่ยิ่งใหญ่ในโลกเล็กๆของเราสำหรับตาลคนอ่านทุกคนคือเพื่อนบางคนตอนนี้จะนับญาติเป็นพี่น้องบุญธรรมกันแล้ว กรั่กๆ ขอบคุณจริงๆอีกครั้งนะคะตาลก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกยังไงเอาเป็นว่าถ้าวันใดคุณได้รับความรักมากๆจากคนที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณทำก็จะเข้าใจความรู้สึกของตาล

     




    น้องๆพี่ๆหลายคนบอกว่าได้รับอะไรหลายๆอย่างจากหนุ่มๆวีอาร์เวลาอ่านคอมเม้นตาลก็นั่งยิ้มเพ้อบ้าอยู่คนเดียวแต่บ่อยครั้งที่ทำให้เกิดความรู้สึกภูมิใจคือคนอ่านบอกว่า




    อยากเป็นคนดีอยากทำดีแบบหนุ่มๆในเรื่องบ้าง


    ตาลไม่ใช่คนดีนะคะไม่ใช่คนมองโลกสวยงามหรือคิดบวกตลอดเวลาแต่ยอมรับว่าตาลอยากให้อะไรกับสังคมบ้าง(อยากเป็นอองซานซูจี<<<นี่ก็เว่อไป) มันอาจจะไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่มันเป็นแค่สิ่งเล็กๆแต่ตาลภูมิใจในคนอ่านและตัวเองอย่างน้อยสิ่งที่อยากสื่อคนอ่านก็รับรู้มันได้

     



    คำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมันต่างกันใช่ไหมคะสำหรับคนอื่นๆตาลไม่รู้ แต่ตอนนี้ตาลคิดว่าตัวเองมาถึงจุดที่คิดว่าใช้คำนั้นได้ ไม่ใช่ว่าWe are เป็นที่รู้จักในระดับนึงแต่เป็นเพราะตาลได้ทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริงแล้ว ตาลฝันว่าอยากเป็นนักเขียนอยากมีนิยายของตัวเองอยากมอบความสุขหรืออะไรดีๆให้คนอ่านและตาลคิดว่าตาลทำได้หมดทุกอย่างแล้ว ดีใจกับตาลไหมคะ ฮ่าๆๆ 



     

    สุดท้ายก็ขอบคุณคนอ่านอีกครั้ง 

    ขอบคุณของขวัญที่ส่งมาถึงบ้านหรือที่ส่งให้ในเด็กดีก็ตาม


    ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือเรื่องเทคโนโลยีจากบรรดาน้องๆพี่ๆทุกคน


    ขอบคุณพี่ๆน้องๆแก๊งดอลที่น่ารักที่มักจะจับลูกตัวเองถ่ายรูปเป็นหนุ่มๆแล้วเอามาฝากเสมอ


    ขอบคุณเด็กดีที่เป็นจุดเริ่มต้นในการลงนิยายและแบ่งปันเรื่องราว จินตนาการ



    ขอบคุณเล้าเป็ดที่ให้ตาลได้มีพื้นที่แบ่งปันผลงานขอบคุณรางวัลนิยายสุดฮาแห่งปีของเซ็งเป็ดอวอร์ด



    ขอบคุณทุกคะแนนโหวตทั้งเด็กดีและในเล้า


    ขอบคุณบอทที่ทำให้ตาลรู้จักทวิตเตอร์ แม้จะไม่เคยคุยกับพี่ๆบอทครบทุกคนแต่ก็ขอบคุณมากๆกับความทุ่มเทความเสียสละที่นำเรื่องราวเล็กๆของหนุ่มๆไปต่อยอดสร้างความสุขให้คนอ่านในอีกพื้นที่หนึ่ง



    ขอบคุณน้องแอดมินแฟนเพจทั้งสองแฟนเพจแม้น้องๆจะมีภาระหน้าที่ก็ยังแวะเวียนมาพูดคุยกันเสมอ


    ขอบคุณคุณแม่ของน้องๆที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจหนูนะคะ


    ขอบคุณคำวิจารณ์ยาวๆที่ให้ตาลได้รู้จุดบกพร่องได้ปรับปรุงผลงาน


    ขอบคุณแฟนอาร์ตสวยๆที่ส่งเข้ามาให้ได้อมยิ้มทุกครั้งที่ได้เห็น


    ขอบคุณพ่อกับแม่ที่ไม่เข้าใจว่าวายคืออะไรแต่ก็เข้าใจความสุขของตาล 


    ขอบคุณเพื่อนๆที่ปั่นงานให้ตอนกูปั่นนิยายข้ามวัน 



    ขอบคุณความรักที่ไม่แบ่งแยก




    ขอบคุณมากๆค่ะ

     




    We are ไม่ใช่งานเขียนที่ดีที่สุดไม่ได้สมบูรณ์แบบถึงคำว่าวรรณกรรมเป็นแค่นิยายธรรมดาๆเรื่องหนึ่งแต่ในด้านความรู้สึกวีอาร์มีคุณค่ากับตาลมากกค่ะ ความรู้สึกระหว่างตาลกับคนอ่านความรักที่ตาลมีต่อหนุ่มๆกลุ่มนี้มันก็มีคุณค่ามาก



     

    ความฝันของตาลคือการเป็นนักเขียนและตาลก็ตั้งใจว่าจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นและจะพยายามเดินบนสายทางนี้ให้ได้และให้ดีจะพยายามเท่าที่ยังมีชีวิต

     



    สุดท้ายก็อยากให้ทุกคนเก็บพวกเขาไว้ด้วยนะคะ เหมือนเวลาที่เรานึกถึงหัวหินเราก็นึกถึงทะเล เห็นกุหลาบก็นึกถึงความรัก เห็นสีขาวก็นึกถึงความบริสุทธ์  เมื่อไรที่นึกถึงWe are ก็อยากให้ทุกคนนึกถึง เพื่อนมันก็เหมือนเพื่อนคนนึงและครั้งหนึ่งเราเคยรู้จักกัน บางครั้งอาจจะหลงลืมไปบ้างแต่ก็ไม่ได้หายไปไหนเมื่อไรที่นึกถึงก็อยู่ตรงนี้เสมอ




    ขอบคุณภูมิ พีม แทน ฟ่าง เชน เบียร์ ปัน คิว เต้ย แมท มิค คลื่น กรีน เฟรน จี้ เคที่ อาปุ้ย หนวด พี่โอ๊ต ฯลฯขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันจนถึงวันนี้

     




    สำหรับตาลแม้ว่านิยายจะจบลงแต่ในความรู้สึกก็ยังเห็นพวกเขาก้าวเดินต่อไปเราแค่ไม่ได้ติดตามชีวิตพวกเขาแล้ว แค่นั้นเองเนอะ 







    รักและขอบคุณ






    ………..ทะเลหัวใจ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×