ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #87 : ตอนที่ 75.2 ค่ายอาสา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32.43K
      185
      23 เม.ย. 55

















    ตอนที่
    75.2 ค่ายอาสา










     

    เราอาสาพัฒนาใจเริงร่าและสามัคคี

     

    เราร่วมจิตชีวิตพลี รวมไมตรีเพื่อพี่น้องผองไทย

     

    แม้ห่างไกลไม่ท้อถอย ถึงยอดดอยสูงเสียดเหยียดฟ้า

     

    เราบากบั่นฝ่าฟันเข้าไปหา ร่วมพัฒนาด้วยเมตตาอารี

     

    สายลมหนาวเคล้าลมฝน ในกมลเราแสนเยือกเย็น

     


    เราอบอุ่นในคุณที่บำเพ็ญ ความลำเค็ญก็มลายหายไป

     


    *เพลง เราอาสา









     

    เหมือนได้ยินเสียงเพลงแว่วๆมาจากทีมวิชาการหรือพวกคุณครูสอนน้องๆนั่นแหละครับมันกำลังพาน้องร้องเพลงกันอย่างสนุกพวกก้นครัวอย่างผมก็พลอยได้ฟังไปด้วยตอนนี้ในครัวกำลังยุ่งวุ่นวายเพราะใกล้เที่ยงนั่นก็หมายความว่าได้เวลาของมื้อกลางวันแล้วพวกเราเลยต้องเร่งมือทำกับข้าวให้เสร็จ แม้ว่าผมจะแค่แบกกระติกน้ำยกหม้อข้าวสับหมูสับไก่แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำกับข้าวใช่ไหมครับ

     








    หนึ่งสัปดาห์เต็มแล้วที่พวกเราขึ้นมาเป็นชาวค่ายชาวดอยอยู่บนแม่แจ่มมันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆเลยครับที่นี่บรรยากาศดีมากอากาศก็ดีและผมไม่อยากจะอวดเลยว่าที่นี่มีลำธารเล็กๆอยู่ใกล้ๆด้วยน้ำใสมากตอนเย็นพวกผมก็ลงไปเล่นไปจับปลาถือเป็นการอาบน้ำไปในตัว








    ไฮไลท์อีกอย่างที่สำคัญคือช่วงที่พวกเรามาออกค่ายเป็นปลายฤดูหนาวใช่ไหมละครับมันเป็นช่วงที่ดอกบัวตองบานเหลืองอร่ามเต็มหุบเขาพอดี สีเหลืองตัดกับสีแดงของต้นคริสต์มาส(
    Poinsettia) ต้นที่มันใบแดงๆอ่ะที่เราเอาไปปลูกประดับตามบ้านตามที่ต่างๆไม่ใช่ต้นคริสต์มาสที่เป็นต้นสนแล้วเอาของขวัญเอาตุ๊กตาไปแขวนในช่วงวันคริสต์มาสนะครับ กร้ากกกกกกกกกกกก

     








    นั่นแหละๆที่เราเห็นว่าใบมันเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงได้ก็ว่าสวยแล้วใช่ไหมแต่ต้นคริสต์มาสที่นี่แปลกยิ่งกว่านั้นอีกเหอะมันมหัศจรรย์มากเพราะมันต้นใหญ่โคตรๆเหมือนไม้ยืนต้นเลย ผมรู้สึกว่าจะมีกันเกือบทุกบ้านแต่เหมือนชาวบ้านเขาไม่ได้สนใจมันเท่าไรเหมือนเป็นแค่ต้นมะม่วงมะพร้าวธรรมดาทั่วไปแค่นั้น

     




    แต่ว่าเด็กหัดขึ้นดอยอย่างพวกผมนี่สิตกตะลึงกันใหญ่ถ่ายรูปซะเกือบจะทำเป็นหนังสั้นได้และที่แรงกว่านั้นคือไอ้คิวกับไอ้มิคมันมโนไปว่านี่คือต้นไม้ประหลาดมันเลยชักชวนกันไปขอหวย แม่งดูความคิดพวกมันดิแต่ผมก็แอบมาขูดด้วยเหมือนกันแหละ ฮ่าๆ




     

    ที่เล่ามานี่ไม่ได้อวดนะครับแค่จะบอกว่าที่นี่สวยมากผมไม่ได้อวดจริงๆนะเว้ยแค่อยากให้รู้ว่าที่แม่แจ่มบรรยากาศดี นี่ไม่ได้อวดเลยนะแค่อยากแจ้งให้ทราบว่าตอนพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกมันคล้ายๆนิวซีแลนด์แค่นั้นเอง หึ กูไม่ได้อวดครับคอนเฟิร์ม

     




    แล้วตอนเช้าๆนะมีหมอกหนาๆพอสายมาก็เริ่มร้อนและร้อนมากตกเย็นกลับหนาวซะงั้นแม่งหนาวเหมือนมันลืมไปว่าตอนกลางวันมันเคยร้อนแค่ไหน ก็เลยไม่แปลกที่คุณหนูภูมิจะหวัดแดกตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเพราะมันปรับตัวไม่ทัน

     




    ส่วนโรงเรียนที่เรามาออกค่ายเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆแล้วกันเนอะบริเวณโรงเรียนอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควรครับเป็นลานกว้างๆต้นไม้เยอะๆนึกออกใช่ป่ะมองไปก็จะเห็นหมู่บ้านอยู่ไกลลิบๆเพราะโรงเรียนอยู่สูงกว่าตามสเต็ปขั้นบันไดของชาวเขาทั่วไป







    โรงเรียนมีอาคารเรียนหลักสามหลังเป็นอาคารชั้นเดียวทั้งหมดแต่ละหลังอยู่ไกลกันพอสมควรรับ ก็มีอาคารของเด็กประถมป.1-.3 อีกหลังของป.4-.6 น้องๆที่นี่ไม่ได้แบ่งเกณฑ์อายุชัดเจนเหมือนเด็กในกรุงเทพเด็กต่างจังหวัดหรอกครับก็มีคละๆกันบ้าง

     




    ที่นี่มีคุณครูทั้งหมดสามคนฟังไม่ผิดหรอกครับที่โรงเรียนมีคุณครูแค่สามคนแล้วคิดดูนะว่าครูสามคนต่อนักเรียนหกห้องมันเลี่ยงไม่ได้ที่คุณครูต้องสอนหลายๆห้องพร้อมกัน ส่วนอีกอาคารอยู่เนินด้านบนถัดขึ้นไปเป็นส่วนของน้องๆอนุบาลอาคารหลังนี้ดูแข็งแรงกว่าที่อื่นๆครับ

     





    คุณครูเล่าให้ฟังว่าปีก่อนคุณครูที่นี่เอาเงินเดือนตัวเองมารวมกันซื้ออุปกรณ์มาแล้วก็อาศัยแรงจากชาวบ้านช่วยกันสร้างนอกนั้นก็จะมีห้องพักครูซึ่งเราก็อาศัยเพิงเล็กๆของห้องพักครูนี่แหละเป็นครัว

     





    ครัวแบบโอเพ่นแอร์เคยเห็นกันไหม หึหึ น้ำมันกระเด็นโดนแขนอีกรีนแต่ละทีมันกรี๊ดลั่นดอยแต่ดีหน่อยว่าส่วนที่เป็นครัวอยู่ห่างชาวบ้านชาวช่องเป็นโยชน์ใครทำอะไรไม่มีสิทธิ์เห็น และอีกอาคารเป็นเหมือนที่ประชุมของชาวบ้านน่ะครับอยู่ข้างบนติดกับอาคารอนุบาลซึ่งพวกผมก็ใช้ทำกิจกรรมนันทนาการแล้วก็กินข้าวกันที่นั่นด้วย

     






    ส่วนห้องสมุดที่พวกทีมก่อสร้างมันสร้างอยู่อีกฝั่งถ้าเรียงลำดับก็จะเป็น อาคารน้องประถมหลังที่หนึ่ง ห้องสมุดใหม่ที่กำลังสร้าง อาคารประถมหลังที่สอง ห้องน้ำ แล้วก็ห้องพักครูซึ่งก็คือครัวของพวกผมเอง แล้วสงสัยกันไหมครับว่าพวกเรานอนที่ไหน คงไม่คิดว่าเราจะนอนบนต้นไม้นะครับ หึ ผมไม่ใช่ตัวตุ่นนะเฟ้ยยย (ตัวตุ่นนอนบนต้นไม้???)

     





    พวกผู้หญิงทั้งแท้และเทียมนอนที่ห้องเรียนของน้องๆครับซึ่งคุณครูใจดีเคลียร์พื้นที่ให้หนึ่งห้องก็เบียดๆกันเอา ส่วนผู้ชายแบ่งเป็นสามกลุ่มนอนที่ห้องสมุดเก่าอีกกลุ่มนอนที่ห้องเก็บของติดกับห้องพักครูกลุ่มที่ว่าก็คือกลุ่มผมเองและอีกกลุ่มไปนอนที่บ้านพักครู

     






    และตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนผมกลับรู้สึกว่ามันสนุกมากกว่าเพราะเราเหนื่อยแค่กายแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มของน้องๆรอยยิ้มของชาวบ้านที่นี่ แค่นี้เราก็หายเหนื่อยและมีความสุขที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นได้ทำงานกับเพื่อนๆได้ฝึกอะไรหลายๆอย่าง ผมว่ามันคุ้มค่ามากๆเลยถ้าไม่นับ………………

     








    ไอ้ประธานค่ายที่วันๆมันเอาแต่ลอยไปลอยมาก็เข้าใจว่ามันต้องดูแลตรวจตราทุกฝ่ายแต่นี่แม่งไม่หยิบจับทำห่าไรเลย ฮ่าๆผมล้อเล่นครับไอ้ปันมันก็ทำหมดทุกอย่างนั่นแหละเพราะต้องรับผิดชอบหลายอย่างมันเลยต้องเดินดูทุกฝ่ายมันเดินผ่านไปที่ไหนใครๆก็เรียกใช้ประเสริฐเนอะเพื่อนผม

     






    “พ่อครัวแม่ครัวหัวป่ากลางวันนี้มีเมนูอะไรให้ชาวค่ายรับประทานคร้าบบบบ” นั่นไงพูดถึงไม่ได้มันต้องเสนอมาตลอด ผมที่กำลังหั่นถั่วฝักยาวตามคำสั่งอีกรีนเลยอดไม่ได้ที่จะปาซากถั่วใส่หัวเชี่ยปัน

     






    “ห่าพีมมึงปามาทำไมเนี่ยเดี๋ยวกูบอกนายช่างมาลงทัณฑ์ให้ช้ำหนอง คึ”

     





    “กลัวว่ะโคตรกลัวเลย” ปากดีตลอดอ่ะกู หึ ผมยักคิ้วให้ไอ้คนที่มันส่งสายตากวนๆมาให้

     




    “ไอ้พีมน่ะแค่ปาถั่วแต่กูจะปามีดปักขมับมึงนะคะอีปันถ้ามึงยังไม่หลบกูเนี่ย” อีกรีนหัวหน้าเชฟแห่งยอดดอยกำลังแบกแกลลอนซอสหอยสองแกลลอนใหญ่ๆมายืนอยู่ข้างหลังไอ้ปัน



     

    “โหทำไมแม่ครัวมันโหดกันจังวะกูแค่จะมาถามว่าใกล้เสร็จรึยังจะได้ไปตีระฆังเรียกพวกมันมากิน” ไอ้ปันมันพูดไปแต่มือนี่ตามหยิบหมูทอดที่พี่เมย์เพิ่งตักออกจากกะทะ “เชี่ย ร้อนๆ เจ๊เมย์ไมไม่บอกหน่อยว่ามันร้อน”

     




    “มีตาหามีแวว สมอยากตะกละดีนักแดกอีกซักชิ้นไหมคะน้องปัน”




    “นี่ทำกับประธานอย่างนี้เหรอเดี๋ยวกูสั่งถอนหุ้นให้หมด”

     



    “ฮ่าๆ คนละประธานแล้วพี่ปัน” พวกน้องๆผู้หญิงก็รุมไอ้ปันมันก็ป้วนเปี้ยนวนเวียนรอบตัวพวกผมอยู่ในครัวนี่แหละ หวิดจะโดนอีกรีนจับลงหม้ออยู่รอมร่อเพราะแม่งเร่งเกิน

     


    “ใกล้แล้วค่าใกล้แล้วเร่งกูจังนะแค่เลยเวลานิดๆหน่อยๆมึงจะเคี้ยวไม่ได้เลยใช่ไหมย๊ะเดี๋ยวแม่วางยาเบื่อให้มันซี้แหงแก๋ทั้งค่าย……แล้วนั่นอีพีมโอ๊ยยยยมึงหั่นถั่วผัดหมูให้คนกินนะคะไม่ใช่สับซากเปลือกแตงโมให้หมูแดก มึงทำเล็กๆหน่อยได้ไหมแล้วถ้าเสร็จแล้วก็ยกหม้อข้าวออกไปตักเลย อีน้องปาร์คมันไปไหนเนี่ยห๊ะปาร์คคคคอย่าให้กูเจอนะกูจะทำผัวให้เข็ดหายหัวดีนักนะมึง”

     

     




    หน้าที่หลักของผมก็มีแค่นี้แหละครับให้อีกรีนจิกกัดด่าแก้เครียดก่อนทำกับข้าว แม่งก็กูไม่เคยทำนี่หว่าผมก็ทำตามที่มันสาธิตให้ดูทุกอย่างแล้วนะ นี่ก็หั่นเล็กแล้วเหอะถ้าจะเล็กกว่านี้ให้กูเคี้ยวป้อนเลยไหมสัด ไอ้ปันมันทำท่าขนลุกขนพองสยองเกล้าแล้วก็เดินหนีไปส่วนพวกน้องๆที่นั่งหั่นหมูปอกไข่อยู่ก็หันมายิ้มๆขำๆที่เห็นผมทำปากขมุบขมิบใส่อีกรีน

     




     

    และแล้วช่วงกลางวันเวลาแห่งการทำงานก็ได้ผ่านพ้นไป ช่วงเย็นๆอากาศสบายๆแบบนี้ก็แวะเวียนมาทกทายมันเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนที่วิเศษณ์วิโสโอหังเป็นอย่างมากเลยละครับ แต่ที่จริงตอนนี้มีเพื่อนพ้องน้องพี่บางส่วนออกไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านสร้างสัมพันธ์กับชุมชนด้วยนะ เมื่อวานผมกับพวกเดอะแก๊งค์ไปแล้ววันนี้เลยอู้ ฮ่าๆ

     





    เพราะงั้นเวลานี้ใครอยากทำไรก็ทำใครใคร่เตะบอลเตะเมื่อกี้ผมก็เพิ่งไปเตะกับเขามาแต่เล่นได้ซักพักชักจะไม่ไหวแม่งเล่นกันแรงเกิ๊นหน้าแข้งกูแทบหลุด พวกรุ่นพี่รุ่นน้องก็เตะเท่าที่จำนวนคนและพื้นที่จะอำนวยแหละครับแบบว่ามันส์มากเตะบอลบนภูเขาเพิ่งเคยทำ(ทั้งที่พื้นก็ราบเหมือนสนามทั่วไปกร้ากก)

     




    ส่วนใครใคร่เดินชมป่าไม้ก็ไปหรือใครใคร่นั่งสหวีวี่วีกันอย่างไอ้ฟ่างกับไอ้แทนก็ทำแม่งนั่งจีบกันเหมือนพวกที่เพิ่งเริ่มเป็นแฟนกันใหม่ๆอ่ะคือตรงที่มันสองคนนั่งเป็นเนินสูงๆเป็นจุดชมวิวมองไปจะเห็นบรรยากาศยามเย็นแบบโรแม้นๆ หึ เห็นแล้วอยากจะถีบมันให้ตกหน้าผาเป็นผัวเมียเฝ้าดอยไม่ได้อิจฉาแค่รู้สึกว่ากูหมั่นไส้ก็แค่นั้น :P

     






    เฮ้ย มึงสองตัวทำอะไรกันวะเด็ดยอดหญ้าป้อนกันเหรอห๊ะภูมิมันพักออกมากินน้ำแล้วคงจะทนดูภาพหวีดๆของพี่ชายไม่ได้เลยตะโกนแซวพวกผมเลยพากันหัวเราะกันครืนไอ้คู่รักในตำนานมันหันมามองนิดๆแต่ก็ไม่ได้สนใจ

     



    กูเห็นหลังโรงครัวมีกองฟางอยู่สองสามกองมึงพากันไปเล็มไป๊ไอ้มิคก็ต่อได้โคตรปากหมา

     






    พาพ่อมึงไปกินเหอะไอ่สัดไอ้ฟ่างขว้างกิ่งไม้มาทางพวกผมส่วนไอ้แทนมันแค่หันมายิ้มแล้วก็นั่งโอบไหล่แฟน จากนั้นมันสองตัวก็หันไปชื่นชมพระอาทิตย์ลับยอดเขาชื่นชมความงามของทุ่งดอกบัวตอง ท้องฟ้า ลำธาร สายลม ชี้นกนกตายชี้ไม้ไม้เฉากันต่อไป

     




    มึงเป็นไรเนี่ยงอนเหี้ยอะไรอีกห๊ะเต้ยตัดกลับมาดูอีกคู่กันบ้างครับแหม่วันนี้มีหนังสดให้ดูหลายคู่เลยเว้ยแต่สงสัยจะคนละแนว หึ ไอ้คู่นี้มันบ้าอะไรกันอีกวะ

     





    เหี้ยอะไรไม่รู้ถ้าพี่คิวรู้สายพันธุ์ตัวเองเมื่อไรก็บอกเต้ยด้วยแล้วกัน โอ้ววแร๊วงส์บอกได้คำเดียวว่าแรงและอัจฉริยะมากๆครับไอ้เต้ยหลอกด่าอย่างมีชั้นเชิงน้องกูแม่งทำเพื่อนกูจอดว่ะ




     

    มันสองตัวเดินตามตูดกันต้อยๆไอ้คิวคว้าข้อมือไอ้เต้ยไว้ ไอ้เต้ยหยุดเดินหันกลับมามองหน้าแล้วสะบัดมือไอ้คิวออกก่อนจะเดินหนีไป เดี๋ยวยื้อๆ หยุดๆฉุดๆ ดึงๆ ไอ้คิวก็ตามไปคว้าใหม่ เหอๆกูว่ามึงไปเอาสาหรี่มาห่มแล้ววิ่งหลบหลังต้นไม้ขึ้นเขาลงเขาซักสามสี่ลูกนี่ได้ฟิวลิ่งมากๆเลยนะหนังอินเดียสุดๆและแล้วมันก็หลบหายเข้าหลังฉากไป ได้ยินเสียงด่ากันดังแว่วๆข้ามเขาเข้าไปฝั่งพม่าเลยนะพวกมึง

     




    มันทะเลาะอะไรกันวะพี่ผมยักไหล่ให้ไอ้น้องแมทกูจะไปรู้ได้ไงนั่งตีป๊อกเด้งกับมึงอยู่เนี่ย แหะๆเลยรู้กันหมดเลยว่าผมทำอะไร ก็นะเมื่อกี้ผมเตะบอลลดอารมณ์ทางเพศแล้วก็ต้องหากิจกรรมอื่นที่มันมีคุณค่ามาทำใช่ไหมละครับ

     





    ผมชอบออกกำลังเฉพาะส่วนอาทิเช่นการฝึกบริหารข้อมืออะไรงี้ แฮ่ๆ ที่ตั้งวงอยู่นี่ก็มีผม ไอ้ปัน ไอ้แมทไอ้ดล ไอ้เอ็ม ส่วนไอ้เชนไอ้เบียร์และไอ้พระเอกมันไปโชว์ความแมนแอนแฮนซั่มเตะบอลกับพี่ค่ายเพื่อนค่ายน้องค่ายนู่นไม่มีวี่แววว่าจะเลิกเล่นแต่อย่างใด ขอบใจนะภูมิที่มึงสนใจกู ฟายยยยย

     





    ผมก็มองดูภูมิบ้างเวลารอไอ้พวกนี้มันลงไพ่อ้าวแล้วแม่งภูมิมันถอดเสื้อตอนไหนวะเชี่ยนี่กูหวงนะเฟ้ยดูสิสาวๆและพวกอีกรีนอีจี้มองจนน้ำลายหกหมดแล้วผมมองมันอยู่ดีๆภูมิก็บังเอิญหันมาสบตาพอดี มันยักคิ้วแถมยิ้มเท่ๆอวดเขี้ยวมาให้ ผมเลยชูนิ้วโป้งกลับหัวกลับไปให้มันไอ้หล่อมันหัวเราะแล้วก็วิ่งไล่ลูกฟุตบอลต่อ

     

     



     

    เชี่ยมิคมึงแอบดูไพ่กูส่ายหัวให้ไอ้ภูมิเสร็จหันกลับมาเจอไอ้มิคกำลังคอยืดคอยาวส่องไพ่ในมือผมอยู่พอดี

     




    ก็มึงแอบดูเพื่อนกูคือผมดูไอ้ภูมินี่ผมผิดเหรอวะ พูดสิว่าก็กูดูผัวกู ฮ่าๆๆๆดอกนี้กูพูดไม่ออกจริงๆครับพี่น้องผมโดนรุมครับไอ้ปันไอ้แมทก็ไม่คิดจะช่วยอะไรเล้ยยยยยย

     




    ป๊อก82เด้ง กูแดกเอามาๆเจ้ามือเอ็มครับมึงเอาโฉนดที่ดินมาค้ำเลยก็ได้นะฮ่าๆๆๆ” นอกจากจะโดนแซวไพ่ยังไม่ได้แดกกับเขาอีกอัปรีย์ไปนะชีวิตกูเนี่ย




     

    เชี่ยปันมึงบูชาหลวงพ่อป๊อกหรอวะมือขึ้นชิบหายกูหมดตูดแล้วเนี่ยไอ้เอ็มบ่นพลางนับเหรียญให้ไอ้ปันกับไอ้แมท

     




    เออใช่เล่นอย่างอื่นบ้างไม่ต้องเอาตังค์แต่มาเล่นไพ่พระราชาดีกว่าคนชนะสั่งให้คนแพ้ทำไรก็ได้เอาอีกแล้วมันมาอีกแล้วการละเล่นประเภทนี้และก่อนที่เราจะถูกเล่นงานเราต้องชิ่งครับ

     






    “เฮ้ยพวกมึง พอดีกูต้องไป……….

     




    “มึงไม่ต้องเลยเชี่ยพีม แค่นี้ป๊อดเหรอวะห๊ะแค่นี้มึงไม่กล้าเหรอ” ไอ้ห่าดลกูไม่สงสัยเลยว่าทำไมมึงเป็นเพื่อนไอ้แทนได้รู้ทั้งรู้ว่าศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้แต่ลูกผู้ชายอย่างเราก็ต้องรักษามันไว้ให้ดียิ่งกว่าชีวิตเมีย แต่กูไม่ใช่คนรักศักดิ์ศรีไม่ได้เทิดทูนเกียรติยศเท่าไรพวกมึงปล่อยกูไปไม่ได้เหรอวะแต่ดูจากสายตาสี่ห้าคู่ที่ส่งตรงมาที่ผมก็พอจะรู้แล้วละครับว่า

     




    “เออๆเล่นก็เล่น”

     



    กติกาก็ง่ายๆเล่นสลาฟกัน แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญว่าผมโคตรมีดวงกับสลาฟเลยเล่นทีไรได้เป็นแต่ปุถุชนคนธรรมดาหรือไพร่นั่นแหละ ดวลกันไปดวลกันมาอยู่ซักพักไอ้คุณชายมันก็มาแจมด้วยแต่พวกผมไม่บอกมันนะว่าใช้อะไรเป็นเดิมพัน หึ

     






    สาธุขอให้ไอ้เบียร์เป็นทาสซักตาเถอะวะและแล้วผมก็รอดแต่คนที่ไม่รอดคือ ไอ้แมทกร้ากกกกกกกกรอดูว่าไอ้ดลหรือไอ้ปันจะได้เป็นคิง หึหึ สุดท้ายไอ้ปันก็ได้เป็นคิงครับไอ้น้องแมทหน้าซีดเลย





     

    “หึหึ แมททททมึงพร้อมรึยังน้องรัก” ไอ้ปันลูบหัวไอ้แมทเหมือนนายพรานกำลังจะฆ่าลูกหมูลูกหมาตาดำๆเลยครับ พวกผมก็ใช่ย่อยยิ่งน้องมันทำเหมือนจะลาตายพี่อย่างพวกเราก็ยิ้มเย็นถือดอกไม้จันทน์รอเลย

     




    “พี่ปันถือซะว่าผมเป็นรุ่นน้องพี่องุ่นช่วยเมตตาผมเถอะนะพี่นะเอาพอหอมปากหอมคอนะพี่” โฮยยยยยยแมทกูอยากจะลงไปขำที่เชิงเขาหน้าไอ้แมทหมดแล้วซึ่งความหวังแต่ไอ้ปันมันไม่ฟังหรอกเรื่องแกล้งคนน่ะงานหลักในชีวิตมัน มึงเสร็จแน่ไอ้ลูกครึ่ง

     




    “จะองุ่นจะลิ้นจี่นาทีนี้กูก็ไม่สนโว้ยไอ้แมทเอ๋ยมึงลงไปเต้นคันหูให้ชาวค่ายดูบัดเดี๋ยวนี้ กร้ากกกกกกกก ถ้าไม่อายงานนี้ชีวิตนี้มึงก็ไม่ต้องอายมันล่ะครับแต่ไม่ทำก็ไม่ได้ ไอ้แมทก็แบกหน้าหล่อๆกวนๆของมันไปอยู่กลางลานหน้าเสาธงก่อนที่จะ





     

    “คันหูไม่รู้เป็นอะไร เอาสำลีมาปั่นก็ไม่หาย”

     




    “เฮ้ยยยยยยยร้องอะไรวะไม่ได้ยิน แล้วนั่นคันหูแล้วเกาเข่ามันจะหายคันไหมเกาหูสิโว้ยยยย” พอไอ้มิคตะโกนเสร็จเท่านั้นแหละชาวค่ายต่างพร้อมใจหันมามองไอ้แมทกันถ้วนหน้าแม้แต่พวกที่เตะบอลหรือพวกที่จีบกันอยู่ก็หันมาโห่แล้วก็หัวเราะกันใหญ่คงรู้แหละว่ากำลังแกล้งกันอยู่ถือว่าสร้างสีสันให้ค่ายนะแมทน้องรัก

     







    “คานหูม่ายรู้เป็นอะร้ายยยยยยยยยย เอาสำลีมาปั่นก็ไม่หาย คันจริ๊งคันอยู่ข้างในคันหูทีไรขนลุกทุกที อ๊ากกกกกกกกพอแล้วโว้ยยยยยยยพี่”กร๊ากกกกอย่างฮา หน้าหล่อสัดแต่เต้นอุบาทสุดๆพอร้องพอเต้นเสร็จไอ้แมทก็วิ่งเข้าป่าหลังโรงเรียนไปแล้วครับ โอยพวกผมนั่งหัวเราะมันอย่างสะใจแม่งเกาห่าไรตรงหัวเข่าวะมันไม่อุบาทนะแต่ทุเรศชิบหาย

     




    “เฮ้ยตกลงพวกมึงพนันไรกันเนี่ย….” ราชนิกุลมันเริ่มรู้ตัวแล้วแต่ก็สายไปนะเพื่อนรัก หึหึ


     

    “ก็อย่างที่เห็นถ้าเป็นทาสก็ต้องถูกใช้แรงงาน”



     

    “งั้นกูไม่เล่นแล้วจะกลับไปเตะบอลกับพวกไอ้ภูมิ”

     





    “อ๊ะ อ๊ะ ท่านชายครับมึงขึ้นหลังเสือแล้วคิดจะลงง่ายๆแบบนี้มึงอยากเจอดีหรืออย่างไร” ไอ้ดลเจ้าเก่างานอดิเรกมันคือรับจ้างขู่ สุดท้ายไอ้เบียร์ก็ไปไหนไม่รอดอยู่ร่วมชะตากรรมกับกูนี่แหละแล้วที่สำคัญตาต่อมามันโดนครับ อุ๊บอิ๊บผมกับไอ้มิคทำไพ่ ฮ่าๆ อยากแกล้งไอ้เบียร์และคำสั่งจากคิงมิคคือ

     





    “ชายเบียร์สหายข้ากูขอสั่งให้มึงไปร้องเพลง ร้องไห้หาพ่อเธอหรือของพี่เท่งให้อีจี้ฟังต่อด้วยบอกรักแล้วก็ขอมันเป็นแฟน!!!!!!!!!” เย้สสสสสสสสสสสสเข้ กร้ากกกกกหนักกว่าไอ้แมทอีกมึ้งงงง ไอ้เบียร์อ้าปากค้างหน้าถอดสีเป็นเฉดๆหมดหล่อแล้วเพื่อนกู มันแบกอิฐถือปูนเลื่อยไม้มุงหลังคามันยังไม่ทำหน้าเศร้าขนาดนี้เลย โถๆๆๆช่างหน้าสงสารว่ะ หึหึ

     





    ไอ้เบียร์ชี้หน้าคาดโทษพวกผมก่อนจะค่อยๆเดินไปหาพวกอีกรีนอีจี้อีเฟรนที่เลือกชุดจะเป็นนางรำกันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไอ้เบียร์มันเดินไปถึงแล้วครับเหมือนพวกนั้นก็มองมันงงๆ ไอ้เบียร์หันกลับมามองพวกผมที่แทบจะกลั้นขำไม่อยู่คือหน้ามึงฮามากเบียร์ ออกแนวถ่ายทำรายการสยองขวัญก็ไม่ปานและเหมือนมันจะร้องเพลงแล้วเพราะสีหน้าพวกอีกรีนถึงกับตะลึงแต่พวกผมไม่ได้ยินเสียงไอ้เบีรเลย

     





    เฮ้ย ร้องดังๆดิวะถ้าพวกกูไม่ได้ยินมึงห้ามหยุด ผมก็แน่เหมือนกันนะเนี่ย

     





    XXXXXXมันหันกลับมาตะโกนด่าพวกผมซะเสียงดังด้วยคำคำหนึ่งที่มีความหมายคล้ายๆนิ้วกลางก่อนเริ่มร้องเพลงที่พวกเรารอคอย

     






    “ร้องไห้หาพ่อเธอรื้อออออ

    หรือเธอตะโกนหาพ่อ

    เจ็บช้ำจนน้ำตาคลอ


    ให้พ่อมาเช็ดน้ำตา


    ร้องไห้หาแม่เธอรื้อออออออ……..จี้ผมรักจี้เป็นแฟนกับผมนะครับ

     






    กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทรุดครับไอ้คุณชายถึงกับลงไปทรุดกอดเข่าตัวเองเลยครับเพื่อนกูมึงหมดแล้วซึ่งความเป็นราชนิกุลพวกที่เตะบอลตะโกนแซวผิวปากแล้วก็รุมโห่มันอย่างสนุก ไอ้ภูมิถึงกับแกว่งเสื้อวิ่งมาหาไอ้เบียร์เลยสร้างเสียงหัวเราะไปทั้งค่ายเพื่อนเบียร์เอ๋ยมึงฮามากกร๊ากกกก อีจี้จะเป็นลมแล้วมั้งอยู่ๆก็ได้ลาภลอยลาภห้าดาวระดับเทพซะด้วย

     




    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดคุณเบียร์ขา แอร๊ยยยยยยยยยจี้ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคุณเบียร์จะมีใจใฝ่ปองพิศวาสในตัวจี้ อีจี้จะกระโดดกอดไอ้เบียร์แต่มันหลบทันพวกผมหัวเราะกันน้ำตาไหลเรื่องนี้จะเป็นตำนานไปอีกแสนนานมึงรู้ไหมเบียร์ ส่วนไอ้คิวที่คงจะง้อไอ้เต้ยเรียบร้อยมันเดินกอดคอกันกลับมาก็ตะโกนแซว

     




    “ในที่สุดพวกมึงก็หากันจนเจอสินะขอให้ถือไม้เท้ายอดดอกทองกระบองใหญ่เท่าอีจี้นะเพื่อนเบียร์ ฮ่าๆๆ” และหลังจากนั้นเราก็โดนลงโทษกันไปทีละรายสองรายไอ้ปันโดนไปครั้งนึงไอ้เอ็มให้มันไปขายประกันกับต้นกล้วย

     




    “พี่กล้วยสนใจไหมครับรับรองว่าเราคุ้มครองทุกอย่างตะเกียบหักเราก็จ่ายอุบัติเหตุป่วยไม่สบายตายเรายินดีจ่ายให้ในราคาเดียวยันรุ่นลูกนะครับ บริษัทเราจ่ายให้ทุกกิจกรรมของชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรียนแต่งหน้า ปลูกป่า หาปลวก นวดฝ่าเท้า กำจัดขน ปล้นสะดมแอนอาเตอร์(and other)ถ้าพี่ทำประกันวันนี้แล้วเสือกตายพรุ่งนี้เราก็ยินดีจ่ายในวงเงินเท่าที่ทำ

     



    มันหันหน้ามาหาพวกผมเหมือนมองกล้องแล้วบอกสโลแกนว่า “ปันปันประกันชีวิตเพราะชีวิตคือชีวิต” ขายเสร็จไหว้ต้นกล้วยด้วยกร้ากกกกกกกกกกกก และไม่ว่าจะยังไงผมก็ดวงดีสามารถรอดมาได้อย่างหล่อๆจนตานี้ที่พวกมันบอกว่าเป็นตาสุดท้ายผมน่าจะไหวตัวให้ทันอ๊ากกกกกกโดนจนได้สิกู

     





    ตายแน่กูตายแน่ๆผมกลืนน้ำลายหนืดๆและค่อยๆช้อนตาขึ้นมองพวกมันช้าๆ กูต้องพยายามทำตัวให้น่าสงสารที่สุดแม้หน้าตาจะไม่ให้แต่ใจอยากรอดก็ต้องทำอย่างน้อยๆก็คงมีไอ้เบียร์ที่ผมหวังพึ่งบุญญาบารมีความดีของมันให้ตัดกำลังปีศาจของไอ้ปันกับไอ้มิคแต่เหมือนมันจะไม่ได้ผลเลยว่ะ

     

     




    หึไอ้เบียร์



     

    หึหึไอ้ปัน

     





    หึหึหึไอ้มิคและภารกิจที่ผมได้รับมอบหมายก็คือให้ไปตะโกนบทความหนึ่งที่ข้างสนามบอลต่อหน้าธารกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบตและชาวค่ายอีกนับล้านชีวิต(เว่อละ)

     



    มันให้โจทย์มาจนผมอยากจะเอาหน้ามุดดินภูเขาหนีหรือไม่ก็ไปผูกคอตายใต้ต้นดอกบัวตองให้รู้แล้วรู้รอด สาดดดดดดดดดดด ทำแบบนี้พวกมึงฆ่ากูเลยไหม ผมก็ได้แต่เดินคอตกมายืนข้างๆลานหน้าเสาธงที่กลายเป็นสนามบอลชั่วคราว พวกในสนามก็เริ่มหันมามองผมโดยเฉพาะไอ้หล่อคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความซวยของผมในครั้งนี้ด้วย










    “ไอ้ตะเรี่ยยยยยยยยยยยยยมึงจะยืนเคารพธงชาติรึไง รีบๆพูดสิโว้ยพวกกูมีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบอีกเย้อออออออฮ่าๆ” ไอ้พวกเดรัจฉานงานห่าไรนั่งตีป๊อกเด้งเป็นชาติแม่ง เอาวะ กลั้นใจทำไปพีมเดี๋ยวก็ผ่านไป

     





     

    ภูมิ!!!เชี่ยภูมิกูรักมึง รักสุดหัวใจสุดตับสุดไตไม่เคยรักใครเท่ามึงมาก่อนไอ้ยอดรักสลักในใจของกู

     

     



    ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว



     

    “ปรบมือให้กับ พีระณัฐ เรืองสิริวงศ์ด้วยคร้าบบบ บราโว่ บราโว่ บราโว่มากๆแคระ” ไอ้คิวไอ้ชั่ว

     




    “เพื่อนผมครับเพื่อนผม” มึงก็ชั่วไอ้เชน

     



    “เฮียพีมบ้าไปแล้วเฮียพีมเสียสติไปแล้วแน่ๆน่าสงสาร” พ่องดิเชี่ยเต้ยกูสติดีโว้ยยย




    ครวยยยยยยยยยยแม่งเอ๊ยผมอายโว้ยยยยยยยยยย คนอื่นเขาแซวเขาขำเพราะคงคิดว่าผมถูกแกล้งไอ้แกล้งน่ะมันก็ใช่อยู่หรอกแต่ผมกับภูมิเป็นอะไรกันละ เหอๆ พวกนั้นคงไม่รู้แต่สวะกลุ่มผมนี่สิแม่งฮากันดอยแตก ไอ้ภูมิมันหันมายิ้มขำๆพร้อมชูนิ้วโป้งชื่นชมความบ้าของผมด้วย

     





     

    “ภูมิก็รักเตี้ยคร้าบบบบบบ”

     

     





    ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว

     




     

    ไอ้ ไอ้ ไอ้เชี่ยภูมิมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม มึงจะมารับมุกอะไรตอนนี้ว๊าแล้วผมจะยืนให้พวกเปรตจากขุมอเวจีปู้ยี้ปู้ยำทางคำพูดทำไมเล่า เผ่นดีกว่าเว้ยแต่เดินออกมาไม่กี่ก้าวก็เจอมารอีกจนได้

     

     

    นีมึงถึงกับต้องประกาศให้คนในค่ายรับรู้เลยหรอวะพีมเจ๋งไปไหมเพื่อนกู เสียงไอ้แทนลอยมาจากข้างหลังผมหันไปมองเห็นมันยืนกอดคอไอ้ฟ่างอยู่รู้สึกว่าหน้าผมจะร้อนๆว่ะกูอายนะเนี่ยอายมากด้วย

     




    หึ แรดนักนะมึงเกิดน้องกูตบะแตกจับมึงปล้ำตรงนี้มึงเสร็จมันแน่

     




    แล้วมึงกับเพื่อนกูละเสร็จกันกี่รอบแล้วอย่าคิดว่าไม่กล้าสู้นะเฟ้ยยยย

     




    กูยังไม่เสร็จพอดีช่วงนี้ติดสัดน่ะเสร็จยากไอ้ฟ่างดันกระพุ้งแก้มแล้วยักคิ้วกวนๆให้ผมอย่างเป็นต่อ

     




    ตั้งแต่กูเป็นเพื่อนกับมึงยางอายกูหายไปเยอะเลยว่ะฟ่าง นี่กูหลอกด่ามึงนะเนี่ย ไอ้แทนก็เอาแต่ยิ้มมึงคงภูมิใจในตัวแฟนมึงมากสินะ มากจนไม่คิดจะยื่นมือเข้าช่วยกูเล้ยยย

     







    “งั้นเหรอ…..แล้วความแมนล่ะหายบ้างรึเปล่าน้องสะใภ้ หึ”

     

     







    เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยฟ่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

     

     









    กูถอยก็ได้วะ





     

    T^T

     
















    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>





    ……………………………………..

     


    -          มันคงต้องมีจุดสามแล้วล่ะ อ๊ากกก ทำไมยาวจังทำไมจบไม่ลง

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×