ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #76 : ตอนที่ 66 ครั้งหนึ่ง.........ที่เรารักกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 31.11K
      185
      30 ม.ค. 55















    ตอนที่
    66 ครั้งหนึ่ง…….ที่เรารักกัน

     






    วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าทุกวันจะพูดให้ถูกคือผมลุกจากเตียงตั้งแต่เช้าเพราะเมื่อคืนผมไม่ได้หลับเลย ภาพที่แม่ร้องไห้ ภาพที่ท่านขอร้องผมทั้งน้ำตา เสียงของพ่อที่บอกตัดขาดจากภูมิทุกอย่างวนเวียนอยู่ในหัวของผมแต่ไม่มีภาพไหนชัดเจนเท่าใบหน้าของภูมิตอนที่บอกว่าจะรอผมกลับไป

     




    แม้ว่าผมอยากจะดื้ออยากฝืนต่อไปแต่มันจะคุ้มอะไรเมื่อภูมิต้องไม่เหลือครอบครัว เรายังจะจับมือกันแล้วพูดว่ารักของเราสวยงามได้เต็มปากอยู่มั้ยถ้ายังมีคนร้องไห้และเสียใจกับเรื่องนี้ ถ้าภูมิจะต้องเจ็บก็ขอให้เจ็บเพราะผิดหวังดีกว่าเจ็บเพราะความรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต



     

    ก่อนออกจากบ้านผมเขียนข้อความใส่กระดาษวางไว้หน้าห้องอาปุ้ยเพราะกลัวอาปุ้ยตื่นมาตกใจคิดว่าผมหายไปไหน ผมถอนหายใจยาวเมื่อก้าวขาออกจากบ้านเผื่อมันจะช่วยลดความรู้สึกหนักๆในอกลงได้บ้าง ผมเงยหน้ามองฟ้าเบื้องบนเช้านี้ท้องฟ้าไม่สดใสมันดูหม่นๆเมฆมืดครึ้มเหมือนฝนกำลังจะตกในอีกไม่ช้า

     





    แม้แต่ฟ้ายังเศร้าเป็นเพื่อนผมเลย

     





    ผมเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงป้ายรถเมล์ผมเดินผ่านร้านน้ำเต้าหู้ ร้านหมูปิ้งที่อยู่ใกล้ๆป้ายรถเมล์มีคนยืนรอรถเพียงแค่ไม่กี่คนอาจเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นเช้าวันเสาร์คนเลยบางตา ผมไม่ค่อยได้สัมผัสบรรยากาศยามเช้าของกรุงเทพบ่อยนักตั้งแต่อยู่กับภูมิเพราะกว่าเราจะตื่นกว่าจะได้ไปมหาลัยพระอาทิตย์ก็ขึ้นมาเกือบจะครึ่งฟ้าแล้ววันนี้ได้เห็นก็รู้สึกแปลกตาดีเหมือนกัน
     




     

    ผมยืนรอรถด้วยความรู้สึกเหนื่อยๆเหมือนใจมันล้าเลยทำให้ร่างกายพลอยอ่อนแรงลงไปด้วย ผมขึ้นมาบนรถและมองหาที่นั่งตอนเช้าแบบนี้ที่นั่งว่างเยอะไม่ต้องแย่งไม่ต้องเบียดกับใคร ผมเลือกนั่งเบาะเดี่ยวก่อนจะเตรียมเงินไว้ให้พี่กระเป๋ารถเมล์





     

    พอได้ขึ้นรถเมล์มันทำให้ผมนึกถึงวันที่ผมกับภูมิขึ้นรถเมล์ไปบ้านไอ้เชนด้วยกัน หึหึ มันน่ะไม่ยอมให้ใครมาใกล้ผมเลยแถมยังทำให้ผมเขินต่อหน้าคนหมู่มากอีก ภูมิมันรักผมมากเลยรู้มั้ย มันน่ะห่วงผมไปซะทุกเรื่อง ขี้หึงขี้หวง

     





    ภูมิมันเอาแต่ใจแล้วก็ขี้งอนแต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็รักทุกๆอย่างที่รวมเป็นภูมิ ที่จริงภูมิเป็นคนอ่อนโยน มือภูมิอุ่น อ้อมกอดของมันก็อุ่น ยิ้มของภูมิทำให้ผมอยากยิ้มตาม ความรักที่ภูมิมีให้คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมและเพียงแค่คิดถึงภูมิผมก็ยิ้มได้แม้จะเป็นยิ้มที่ติดจะเหงาไปบ้างแต่ผมก็ยิ้มได้เพราะภูมิ

     





    ภูมิจะเป็นรอยยิ้มของผมเสมอ

     





    ผมเงยหน้ามองบนฟ้าผ่านกระจกใสอีกครั้งเมื่อละอองฝนเล็กๆเริ่มตกลงมาเกาะที่กระจก ผมเผลอกอดตัวเองเพราะรู้สึกว่ามันหนาวทั้งที่หยาดฝนไม่ได้โดนตัวผมเลยซักนิด มันเป็นความกลัว ความกังวน ความเจ็บปวดที่มันปนเปอยู่ภายในใจของผม คนที่ผมรักกำลังรอผมอยู่ คนรักของผมกำลังไม่สบายมันยอมทิ้งครอบครัวทิ้งทุกอย่างเพื่อความรักเพื่อที่จะได้อยู่กับผม

     





    แต่ผมกำลังจะไปหาภูมิเพื่อให้ภูมิได้ครอบครัวคืนมาผมจะคืนภูมิให้พ่อจะทำให้แม่ไม่ต้องร้องไห้อีก แม้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำมันอาจเป็นสิ่งที่ฆ่าเราสองคนให้ตายทั้งเป็นแต่ผมไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ แค่คิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าผมกับภูมิจะต้องกลายเป็นแค่เพื่อน ผมก็ต้องพยายามหายใจถี่ๆเพราะความรู้สึกแน่นหน้าอกมันเจ็บจนผมต้องงอตัวและกุมตรงหน้าอกไว้ มันเป็นความรู้สึกเจ็บเสียดๆเหมือนถูกอะไรซักอย่างวิ่งเหยียบหัวใจ

     




     

    ผมกระพริบตาถี่ๆปวดกระบอกตาเพราะผมฝืนบางอย่างไว้ผมลุกขึ้นเมื่อใกล้ถึงป้ายที่ผมจะต้องลง รู้สึกแปลกดีเหมือนกันที่พอเราอยากให้เวลามันผ่านไปเร็วๆมันกลับค่อยๆดำเนินไปอย่างเชื่องช้า แต่พอเราอยากหยุดเวลาให้มันช้าลงมันกลับผ่านไปเร็วเหลือเกิน ทั้งที่ผมอยากยืดเวลาอยากให้ระยะทางมันไกลออกไปแต่สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ยอมรับความจริงว่าเวลาไม่เคยสนใจความรู้สึกของใคร

     





    ผมยิ้มให้แม่บ้านและพี่ ร...ของคอนโด ผมยื่นถุงน้ำเต้าหู้ที่ซื้อติดมือมาจากแถวๆหน้าคอนโดให้พี่ ร..ภ กับน้าแม่บ้าน พี่เขาบอกขอบคุณและถามผมว่าเป็นอะไรรึเปล่าคงเพราะเห็นผมแหงนหน้ามองบนคอนโดชั้นสูงสุดแต่ไม่ยอมเดินเข้าไปซักที

     





    ผมส่ายหน้าและยิ้มให้บอกว่าไม่เป็นไรก่อนจะเดินเข้ามาเพราะฝนเริ่มลงเม็ด ขาผมเริ่มอ่อนแรงตั้งแต่ตอนยืนอยู่ในลิฟต์จนตอนนี้ที่มายืนอยู่หน้าห้อง ห้องของผมกับภูมิที่ที่เราเคยอยู่ด้วยกันในนั้นมีความทรงมากมายระหว่างเราแต่ผมกลับไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป ไม่กล้าเผชิญหน้า

     




    ไม่รู้ว่าพอเห็นหน้าภูมิแล้วความตั้งใจของผมจะลดเหลือแค่ศูนย์รึเปล่า ผมไม่อยากทำร้ายภูมิเลย ผมอยากอยู่กับภูมิอยากเห็นภูมิมีความสุขอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภูมิมีรอยยิ้มอยากใช้ชีวิตคู่กับภูมิไปจนถึงวันสุดท้ายอย่างที่เราเคยสัญญาแต่ผมก็มองไม่เห็นหนทางที่เราจะเดินโดยไม่มีใครเจ็บไม่ได้เลย

     

     





    แค่คิดว่าจะต้องทำร้ายภูมิผมก็อยากจะถอยห่างจากประตูบานนี้ อยากวิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกล

     






    เพราะไม่ว่าจะจากกันหรือจะรักกันต่อไปเราก็เจ็บอยู่ดี

     






    สุดท้ายผมก็เลือกที่จะเปิดประตูเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิด เกิดจากการตัดสินใจของผมเอง ผมสะดุ้งตกใจที่เห็นภูมิยืนอยู่หลังบานประตูมันเองก็ดูจะตกใจเหมือนกัน ผมส่งยิ้มที่คิดว่าสดใสให้ภูมิมันก็ยิ้มบางๆตอบกลับมาทั้งที่หน้ามันดูอ่อนเพลียเหลือเกิน

     





     “กำลังจะออกไปรับอยู่พอดีเลย” ภูมิบอกผมด้วยเสียงแหบๆเหมือนคนไม่มีแรง น้ำตาที่ผมอุตส่าห์กักกลั้นไว้ก็ไหลอย่างไม่มีทางห้ามผมโถมตัวเข้ากอดมันไว้ได้ยินเสียงมันหัวเราะเบาๆอยู่ในคอ

     





    “คิดถึงกูมากขนาดเลยหรอ” ภูมิลูบหัวผมเบาๆ แค่สัมผัสเบาๆอ่อนโยนจากภูมิก็ทำให้ความตั้งใจของผมแทบไม่เหลือ จะทนได้แค่ไหนกันพีม ต่อไปจะไม่มีอ้อมกอดนี้ ไม่มีมือข้างนี้ ไม่มีเสียงนี้คอยกระซิบบอกรัก จะไม่มีภูมิของพีมอีกแล้วนะ ผมกำเสื้อภูมิแน่นฝังหน้าร้องไห้อยู่กับอกมัน ร้องจนแสบตา ร้องให้หัวใจมันกล้าพอที่จะทำร้ายตัวมันเอง

     




    “อื้มมมม คิดถึง” ผมไม่อยากร้องไห้เหมือนอย่างตอนนี้ที่น้ำตากำลังไหล

     





    “คิดถึงกูแล้วร้องไห้ทำไมหรือโดนอาปุ้ยดุมา” เหมือนภูมิแตะจมูกลงกับขมับของผมและค้างอยู่แบบนั้น

     

     


    “เปล่ากู ฮึก กูไม่ได้เป็นไรแค่…..อยากกอดมึง” อยากกอดก่อนที่จะไม่มีโอกาสผมอยากเป็นคนเห็นแก่ตัวอยากยึดภูมิไว้กับผม ผมหวงอ้อมกอดนี้ แต่ผมรู้ดีว่าผมทำไม่ได้

     



    “ภูมิตัวมึงร้อนมากเลยกินยารึยัง” ผมส่งเสียงอู้อี้อยู่กับอกมันเพราะรู้สึกว่าตัวภูมิร้อนมากและหน้ามันก็ซีดมาก

     



    “ยัง เมื่อคืนปวดท้องน่ะก็เลยไม่ค่อยหิว” เมื่อวานมันแค่ตัวอุ่นๆเป็นไข้แต่มันไม่บอกผมเลยว่ากระเพราะมันกำเริบ

     



    “มึงปวดท้องเหรอแล้วเป็นอะไรมากมั้ย อ้วกรึเปล่าทำไมมึงไม่กินข้าวมึงเป็นกระเพราะถึงไม่หิวก็ต้องกินจะได้กินยาแล้วได้นอนบ้างรึเปล่า” ผมรัวถามเป็นชุดผมไม่อยู่แค่คืนเดียวภูมิยังไม่สบายแล้วต่อไปล่ะผมไม่อยู่มันจะดูแลตัวเองได้มั้ย

     



    ใครจะคอยซื้อนมหมีมาไว้ให้ ใครจะพาลูกสมุนน้อยของมันไปอาบน้ำ ตอนเช้าก่อนไปเรียนมันจะหาถุงเท้าหาเข็มขัดเจอมั้ย จะดูการ์ตูนกับใคร เวลาร้องไห้ใครจะปลอบ เวลาหิวใครจะนั่งกินข้าวเป็นเพื่อน เวลาเหงาจะกอดใคร มึงจะอยู่ได้มั้ยภูมิ ถ้าเราต้องจากกันมึงจะอยู่ได้รึเปล่า

     


     

    “นอนแต่ไม่ค่อยหลับ ไม่มีมึงนอนด้วยกูไม่ชินอีกอย่างกูก็กลัวว่ามึงจะไม่กลับมากูเลยรอ” แม่งโคตรเจ็บ ผมกอดภูมิแน่นขึ้น กลิ่นหอมของตัวภูมิที่ผมคุ้นเคยผมจะเก็บไว้ เก็บเอาไว้ในใจผมค่อยๆดันตัวเองออกจากภูมิ

     





    ถึงเวลาแล้ว

     




    “ภูมิ” ผมเงยหน้ามองภูมิ ผมกัดฟันแน่นข่มความอ่อนแอทั้งหมดเพื่อจะพูดบางคำ ภูมิบีบจมูกผมเบาๆเมื่อเห็นว่าผมจ้องมันมากไป ดวงตาสีดำคมคู่นั้นวูบไหวแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความรักทุกครั้งที่มันมองผม

     


    “อืม”

     


    “เรา…..เลิกกันดีมั้ย เป็นเพื่อนกันก็ได้ เรายังรักกันได้นะ…. กู…..  ไม่รู้น้ำตามันไหลตอนไหน ไม่รู้ว่าหายใจติดๆขัดๆตั้งแต่เมื่อไร ภูมิกระชากตัวผมกลับไปกอดตามเดิมมันเพิ่มแรงกอดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก มันส่ายหน้าอยู่กับไหล่ของผม

     



    “รู้ตัวรึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา” ผมพยักหน้าอยู่กับอกภูมิ รู้สิกูรู้ว่ากำลังทำร้ายมึงอยู่กูเป็นคนใจร้ายใช่มั้ยภูมิ “เจ็บใช่มั้ย”

     




    “อืม  เหมือน….เหมือนจะตายเลย”

     




    “แล้วจะทิ้งภูมิไปทำไมภูมิก็เจ็บเป็นนะ อยากเห็นภูมิตายไปต่อหน้าใช่มั้ย….” ท้ายเสียงของภูมิแผ่วลงเสียงสั่นอย่างน่าสงสารก่อนที่ผมจะรู้สึกว่ามีบางอย่างซึมผ่านเสื้อตรงหัวไหล่ของผมจนเปียก คงไม่ใช่อย่างอื่นนอกจากน้ำตาของภูมิ ยิ่งภูมิมีน้ำตายิ่งทำให้ผมร่ำร้องอยู่ในใจ มีทางอื่นให้เราเลือกเดินมั้ยขอซักทางที่ไม่ต้องทรมานแบบนี้ให้เราสองคนได้รึเปล่า จะให้เลิกกันทั้งที่ยังรักมันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอไม่สงสารพวกผมบ้างเลยรึไง

     

     



    แต่ใครล่ะจะได้ยิน

     

     





    “แต่…..แต่ว่าอยู่ด้วยกันไปยิ่งมีคนเจ็บกว่านี้นะแล้วพ่อล่ะภูมิแล้วครอบครัวมึงล่ะ”

     



    “เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลย เราไปเที่ยวกันนะกูจัดกระเป๋าไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าได้ของครบรึเปล่ามึงช่วยดูอีกทีสิเผื่อกูลืมอะไร” ภูมิดึงมือผมให้เดินตามเข้าไปในห้องแต่ผมขืนตัวไว้ “พีมเดี๋ยวไปถึงหัวหินดึกนะไปไม่กี่วันไม่ต้องเอาไปไปเยอะหรอก” ผมเห็นชัดคาตาว่าภูมิกำลังร้องไห้ “ยังไม่อยากไปเหรองั้นมึงหิวมั้ย กินข้าวก่อนค่อยค่อยไปก็ได้ กินข้าวผัดมั้ย” ผมกัดริมฝีปากตัวเองและพยักหน้าอย่างน้อยขอกินข้าวด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายคงไม่ผิดอะไร

     




    “งั้นมึงไปจัดของรอ กูทำเสร็จจะเรียก” ภูมิบออกก่อนจะหันหลังเดินเข้าครัวไปผมยืนมองแผ่นหลังของภูมิที่สั่นไหวไม่ต่างจากใจของผมที่กำลังจะแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี ผมเข้ามาในห้องนอนนั่งซบหน้ากับฝ่ามือตัวเอง ไม่นานภูมิก็เรียกผมไปกินข้าว

     



    “อร่อยมั้ย” ภูมิถาม ผมไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไงเพราะผมกลืนไม่ลงแต่ผมก็ยิ้มทั้งน้ำตาและพยักหน้าให้ภูมิ ผมแน่นหน้าอกจนปวดปร่า

     




    “อร่อยสิมึงไม่ต้องจ้องขนาดนั้นหรอก” ผมฝืนกินได้สองสามคำก็วางช้อนภูมิเองก็เหมือนกันมันกินไม่ถึงสามคำแล้วก็เขี่ยข้าวสลับกับมองหน้าผม ผมเก็บจานเก็บแก้วไปล้างพอหันมาก็เห็นว่าภูมิยังคงนั่งมองผมอยู่ ผมยิ้มให้มันก่อนจะเดินเข้าไปใกล้และเอาหน้าผากแตะหน้าผากภูมิเพื่อวัดไข้ ตัวมันยังร้อนเหมือนเดิม

     




    “ไข้ขึ้นอีกแล้ว ไปกินยาแล้วนอนเถอะ ยาหลังอาหารอยู่ไหน”

     


    “ในห้อง” มันจับมือผมไปบีบเล่นก่อนจะซบหน้าลงกับท้องผม ผมเลยลูบผมภูมิเล่นน้ำตาก็พาลแต่จะไหล

    เหมือนนักโทษที่รอเวลาประหาร รอเวลาที่จะหมดลมหายใจ

     


    “ปวดท้องด้วยมั้ย”

     



    “ปวดแต่ไม่มาก”

     



    “แต่หน้ามึงซีดมากเลยนะภูมิ ไหวรึเปล่าไปโรงพยาบาลกันเถอะมึงเป็นแบบนี้กูใจไม่ดีเลย”

     



    “กูไม่เป็นไรแค่นอนพักเดี๋ยวก็หาย”

     



    “งั้นก็ไปนอนพักกันเถอะ” เราจูงมือกันเดินมาห้องนอนผมให้ภูมินอนก่อนจะห่มผ้าให้ถึงอก ผมออกมารินน้ำและหายาแก้ไข้ยากระเพราะให้ภูมิ ครั้งนี้ภูมิไม่ดื้อมันยอมกินยาอย่างว่าง่ายและมันก็มองตามทุกๆการกระทำของผม จนเห็นว่าผมทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยมันก็ดึงผมให้ลงไปนอนด้วยกัน

     



    “กินยาแล้วก็นอนซักทีสิ คนไข้อะไรโคตรดื้อยาเลย”



    “พีม”


     

    “หื้ม”

     





    “ถ้ากูหลับไปแล้วตื่นมากูจะได้เจอมึงมั้ย” เสียงเหงาๆของภูมิทำให้ผมได้แต่ก้มหน้า สายตาที่มองมาช่างน่าสงสาร ผมไม่ตอบแต่ขยับเข้าไปซุกกอดภูมิยิ่งกว่าเดิม ผมตะแคงนอนซบลงตรงตำแหน่งหัวใจของภูมิหัวใจมันเต้นแผ่วๆ ภูมิสอดแขนรองให้ผมหนุนนอน อยากจะหยุดเวลาเอาไว้อยากจะอยู่กับภูมิแบบนี้จัง

     




    ผมมองออกไปด้านนอกฝนกำลังตกหนักอากาศกำลังเย็นสบายแถมมีเสียงเพลงจากคลื่นวิทยุที่ภูมิเปิดไว้บรรยากาศชวนให้หลับแต่ผมกลับข่มตาหลับไม่ได้เลย ได้แต่คิดจะทำยังไงต่อไปคิดจนปวดหัวปวดใจก็ยังไม่เห็นทาง

     


    แต่ผ่านไปซักพักด้วยร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้ามาหลายวันหรืออาจเป็นเพราะเสียงเพลง สายฝนและอ้อมกอดของภูมิที่ทำให้ผมเคลิ้มหลับไป ผมรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรแตก ผมสะดุ้งและมองหาภูมิแต่ไม่มี



    คงเพราะผมกลัวจนวิตกเกินไปว่าจะเสียภูมิเลยทำให้ผมตัวสั่นควบคุมร่างกายไม่ได้เมื่อตื่นมาแล้วไม่เจอภูมิ ผมปลอบใจตัวเองว่าไม่มีอะไรและพยายามตั้งสติ มีเสียงที่น่าจะดังมาจากในห้องน้ำ ผมรีบวิ่งไปดูทันที และหัวใจผมก็หล่นวูบที่เห็นภูมิกำลังกุมท้องคุกเข่าเกาะชักโครกและอาเจียนอยู่ ผมรีบเข้าไปประคองและลูบหลังให้

     




    “มึงเป็นอะไรภูมิ เจ็บมากมั้ย หายใจลึกๆนะ อ้วกเลยอ้วกออกมาให้หมด” ผมทั้งลูบหลังทั้งกอดปลอบภูมิมันหน้าซีดมือเย็นตัวเย็น ผมก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกมันโก่งคออาเจียนแต่ก็ไม่มีอะไรออกมาเพราะว่ามันไม่ได้กินอะไรผมคว้าผ้าขนหนูมาชุบน้ำแล้วเช็ดหน้าให้ภูมิ ใบหน้าซีดขาวของมันเหยเกกัดฟันเหมือนกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวด “ภูมิ ฮึก ไปหาหมอเถอะ ไปหาหมอกันนะ” ผมบอกมันตอนที่ประคองภูมิออกจากห้องน้ำ

     





    “ไม่เป็นไร พีมกูหนาว”





    “หนาวเหรอ เดี๋ยวกูปิดแอร์นะ” ผมประคองมันมานอนก่อนจะวิ่งไปปิดแอร์และรีบรื้อลิ้นชักที่เก็บยากระเพราะของภูมิ ผมป้อนยาให้ภูมิและกอดภูมิไว้ตัวมันสั่นบอกว่านั่งก็ปวดนอนก็เจ็บ ผมเองก็เจ็บที่เห็นมันเป็นแบบนี้นานเกือบชั่วโมงกว่าภูมิจะค่อยๆดีขึ้นจนสามารถนอนนิ่งๆในท่าเดิมได้





    ผมนั่งมองคนหลับอย่างไม่รู้จะทำยังไงจะอยู่ต่อหรือจะรีบไปซะตั้งแต่ตอนนี้ ไหนๆก็จะทำร้ายภูมิแล้วก็จากไปตอนที่มันกำลังอ่อนแอเลยดีมั้ยจะได้ใจร้ายสมกับที่ตั้งใจไว้ก่อนที่ความอดทนของผมจะหมดลง ผมลูบใบหน้าของคนที่ผมรัก ผมอยากจดจำทุกอย่าง ทุกความรู้สึก ทุกๆอย่างระหว่างเราสองคน ผมก้มลงประทับจูบที่หน้าผากภูมิ ผมมองใบหน้าหล่อๆที่ผมนึกรักอยู่ทุกลมหายใจอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นแต่ข้อมือของผมกลับถูกคว้าไว้

     





    “พีม จะไปไหน มึงจะไปไหน” ผมจะไม่หันหลังกลับไปเด็ดขาด ผมพยายามดึงข้อมือออกจากมือภูมิมันกำลังป่วยคงสู้แรงผมไม่ได้ แต่ผมคิดผิดเพราะภูมิยังยึดข้อมือผมไว้แน่น ภูมิพยายามลุกขึ้นเพื่อจะกอดผมไว้ ผมรู้ว่ามันกำลังทรมานทั้งกายและใจแต่สุดท้ายภูมิก็ยืนขึ้นกอดผมจากด้านหลังเสียงหอบหายใจแผ่วๆดังอยู่ข้างหูบ่งบอกว่ามันต้องใช้เรี่ยวแรงมากแค่ไหน ผมกล้ำกลืนความเจ็บกลับลงไปในใจก่อนจะบอกกับภูมิ

     






    “ฮึก ปล่อยมือกูเถอะเลิกกันเถอะภูมิ” แม่งเหมือนถ่มเศษแก้วออกจากปาก เจ็บแต่ก็ต้องพูดออกมาผมรู้สึกว่าภูมินิ่งไปผมไม่รู้ภูมิมีสีหน้าแบบไหน ผมไม่กล้าหันกลับไปมอง มันเกยคางวางไว้ที่ไหล่ของผมและอ้อมกอดของมันเริ่มสั่น

     




     

    “ที่พูดเมื่อกี้น่ะ มึงละเมอใช่มั้ยแค่ล้อเล่นใช่มั้ยพีม” ผมไม่ตอบและหันกลับไปกอดภูมิ ผมปล่อยเสียงร้องไห้เสียงสะอื้นที่อดทนกลั้นไว้ออกมาจนหมด

     


     

     

    ภูมิ ฮึก กูยังรักมึง….. รักมากแต่เราคงมาได้แค่นี้ ฮือออ กู ขอโทษ เราจบแค่นี้เถอะนะ






    “ไม่เอา ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น พีมต้องอยู่กับภูมิสิ พีม อยากได้….อยากได้อะไร บอกภูมินะ ภูมิจะหาให้ ฮึก   พีมอยากไปเที่ยว…. ที่ไหนภูมิจะพาไป บอกภูมิสิพีมต้องการอะไร ฮึก จะให้ ให้ทุกอย่าง” น้ำตาของภูมิคือสิ่งที่ผมเกลียด เกลียดมาตลอด เกลียดมาเสมอ ผมไม่ชอบแบบนี้ ไม่ชอบเลย ผมกัดปากแน่นจนคิดว่าถ้าเพิ่มแรงอีกนิดเลือดอาจจะไหล

     




    ผมค่อยๆดันตัวออกจากอ้อมกอดของภูมิ ผมเช็ดน้ำตาตัวเองเพื่อที่จะได้มองหน้าภูมิให้ชัดๆ ผมอยากจดจำและซึมซับทุกอย่างไว้ ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ภูมิและประคองแก้มภูมิไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของผม มันร้องไห้และส่ายหน้าเบาๆ สายตาคู่นั้นกำลังขอร้องอ้อนวอนผมให้เปลี่ยนใจ ผมโน้มภูมิลงมากอดให้อกผมเป็นที่ซับน้ำตาก่อนที่ผมจะทำร้ายภูมิ

     




    “ภูมิ….มึงรู้ไว้นะว่ากูจะรักมึงทุกวันทุกนาทีที่ยังหายใจ มึงช่วยเดินต่อไปข้างหน้า ช่วยมีความสุขด้วยนะ”

     





    ผมเขย่งตัวพร้อมกับโน้มคอภูมิลงมาก่อนจะประทับจูบที่ริมฝีปากมันแผ่วเบาผมสัมผัสได้ถึงความเย็นของน้ำตาจากใบหน้าภูมิ จูบนี้คงเป็นจูบครั้งสุดท้ายของเรา ภาพต่างๆ เรื่องราวมากมายที่ผมกับภูมิได้ผ่านมาด้วยกันมันไหลเวียนฉายชัดอยู่ในหัวใจ ไม่ว่าจะอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ผมคนนี้ก็จะรักภูมิ

     

     


     

     

    ผมผละออกจากภูมิ พอแล้วกับการล่ำลาที่มีแต่จะเรียกร้องเอาน้ำตาของเรา ภูมิไม่ยอมปล่อยมือผมทั้งที่มันไม่มีแรงจะยืน ผมใช้แรงทั้งหมดถึงข้อมือตัวเองออกจากมือภูมิตอนที่มันกำลังกุมท้องตัวเอง มันพยายามจะคว้าตัวผมไว้แต่ร่างกายภูมิฝืนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ผมทำราวกับมองไม่เห็น ไม่เห็นว่าใครคนหนึ่งพยายามตะเกียกตะกายจะตามผมมา

     





    ผมรีบเดินออกจากห้องและปิดประตูผมก่อนจะทรุดนั่งพิงกับประตูอย่างหมดแรง ผมรู้สึกว่าตัวเองสะอื้นจนหายใจไม่ทัน มันไม่เจ็บแล้ว แต่ผมกำลังจะตาย






    “ฮึก ภูมิ กู ฮึก ขอโทษ” ผมนั่งซบหน้ากอดเข่าร้องไห้เหมือนจะขาดใจ เสียงสะอื้นของอีกคนที่อยู่ในห้องยังแว่วมาเข้าหูและกรีดหัวใจของผมจนอยากจะตายอยู่ตรงนี้ แม้มีแค่บานประตูที่กั้นเราเอาไว้แต่ทำไมมันถึงเหมือนไกลเหลือเกิน

     







     

    “พีม อย่าไป” นั่นคือคำพูดสุดท้ายของภูมิที่ผมได้ยิน เสียงของผู้ชายที่ผมรักมาก แว่วมาพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังออกมาจากในห้องแต่ก็เหมือนลอยมาจากที่ไกลแสนไกล
    Playlist






















    คงเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนขีดโชคชะตา
    สร้างฉันและเธอให้มา ให้ได้พบเจอกัน
    ให้ฉันได้มีโอกาส ลิ้มรสในความชื่นบาน
    ให้เรามีกัน มีวันเวลาที่ดี






    และเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนพรากเราเช่นกัน
    ให้เวลาเพียงแค่นั้น กลับต้องเสียเธอไป
    ฉันรู้ว่าไม่มีหวัง จะเหนี่ยวและรั้งเธอไว้ข้างกาย
    จะทำยังไงก็คงไม่มีหนทาง






    หากชีวิตฉันต้องขาดเธอไป จะเป็นยังไง
    ชีวิตคงไร้ความหมาย และเหมือนไร้พลัง
    ร่างกายที่เคยอดทน ก็คงไม่มีกำลัง
    ไม่มีความหวังให้ฉันได้ชื่นหัวใจ







    แค่เพียงพรุ่งนี้ถ้าตื่นมา มองไปไม่เจอเธอ
    แค่นึกก็ทำให้เพ้อ หวั่นและไหวในใจ
    ถ้าเราจะต้องจากกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
    คงรู้ใช่ไหมว่าฉันจะต้องเสียใจ







    หากชีวิตฉันต้องขาดเธอไป จะเป็นยังไง
    ชีวิตคงไร้ความหมาย และเหมือนไร้พลัง
    ร่างกายที่เคยอดทน ก็คงไม่มีกำลัง
    ไม่มีความหวังให้ฉันได้ชื่นหัวใจ





    แค่เพียงพรุ่งนี้ถ้าตื่นมา มองไปไม่เจอเธอ
    แค่นึกก็ทำให้เพ้อ หวั่นและไหวในใจ
    ถ้าเราจะต้องจากกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
    คงรู้ใช่ไหมว่าฉันจะต้องเสียใจ
    เสียใจจนตาย









     

    หากวันข้างหน้าภูมิได้พบเจอใครใหม่ ได้มีความรักครั้งใหม่ผมก็หวังว่าภูมิจะยังเหลือซอกมุมเล็กๆในใจไว้จดจำเรื่องราวของเราสองคน ส่วนผมจะยังมีภูมิอยู่ในใจเสมอและแค่ภูมิคนเดียวตลอดไป

     

     





    แม้ว่าต่อจากนี้ผมจะไม่มีอ้อมกอดของภูมิ ไม่มีสัมผัส  ไม่มีภูมิเดินเคียงข้าง ไม่มีอีกแล้ว









     

    ลาก่อนภูมิ ลาก่อนหัวใจ ลาก่อนสุดที่รัก

     









     

    TBC >>>>>>>>>>>>>>>




    …………………………….


    -          สั้นเนอะ งื้อออ แล้วมันจะผ่านไปนะคะน้องพีมน้องภูมิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×