ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่ 32 กอด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 56.02K
      264
      27 เม.ย. 54








    ตอนที่
    32


     
    หลังจากไอ้คิวโชว์สวีทหวานให้ไอ้เต้ยท่ามกลางสักขีพยานชาวค่ายนับร้อย โดยมีอีกรีนกรีดร้องหวีดสยองด้วยความอิจฉาอยู่ข้างๆผมและคงมีแต่โต๊ะกับจานละมั้งที่จะดูไม่ออกว่าไอ้คิวมันร้องเพลงให้ใคร
     


    “ผัวขา  มึงแอบไปแซ่บกับน้องเต้ยตั้งแต่เมื่อรัย แอร๊ยยย ผู้ชายของกูเป็นของชายอื่นไปแล้ว” และอีกนานาประการที่อีกรีนมันพร่ำเพ้อละเมอ กูว่าว่างๆมึงก็ไปเข้าวัดปลงสังเวชให้สังขารมึงบ้างนะกรีน 
     


    และตั้งแต่ไอ้คิวมันร้องเพลงแทนใจ มอบดอกกุหลาบให้ไอ้เต้ย มันสองคนก็เหมือนหลุดเข้าไปสู่โลกคนบาป เรื่องแฟนของไอ้คิวไม่ใช่ประเด็นเพราะมันบอดผมว่า บอกเลิกแล้วเรียบร้อย
     
    จะมีก็แต่ไอ้เต้ยที่หาทางบอกไอ้คิวว่าความจริงมันกับไอ้เชนเป็นแค่แฟนฉบับสำเนา  พี่คิวกับน้องเต้ยก็เลยมีสภาพเหมือนอดัมกับอีฟ อยากแดกแอปเปิ้ลทั้งที่รู้ว่ามีพิษ มันผิดแต่ก็รักอะไรประมานนั้น
     

    ผมเองก็อยากให้ไอ้เต้ยบอกไอ้คิวเร็วๆ เพราะในเมื่อไอ้คิวก็ใจตรงกัน มันควรคบกันจริงๆจังๆซักที แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจคนเดียว ถึงผมจะมั่นใจว่าไอ้คิวมีเหตุผล
     

    แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่ามันจะไม่โกรธแล้วผมก็จะซวยอยู่คนเดียว ถ้าจะตายก็ขอตายเป็นหมู่คณะดีกว่า เลยโทรถามพวกกามเทพเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ไอ้ปันบอกว่าไงรู้มั้ยครับ
     

    “ให้ถุงยางช่วยสารภาพความจริง หนึ่งกล่องต่อชั่วโมง รับรองไอ้คิวเข้าใจแน่นอน” ไอ้เต้ยก็หน้าซีด ฮ่าๆ ไหนว่าแน่ แค่นี้ทำป๊อด โด่ สรุปก็คือรอให้กลับกรุงเทพก่อน ค่อยบอกพร้อมเซอร์ไพร์จากไอ้ปัน มันคงเด็ดมากแน่ๆ เพราะเห็นไอ้เต้ยคุยโทรศัพท์ไป ยิ้มมุมปากไป ไม่ใครก็ใครละวะงานนี้
     

    เมื่อได้เวลาพวกผมก็แยกย้ายมานอนพักผ่อนเอาแรง แต่
     

    “ไอ้เหี้ย ป๊อกเก้าสองเด้ง กูแดก เอามาๆ ฮ่าๆ วู้ รวย รวย รวย” เสียงไอ้คิวดังโหวกเหวก ผมที่อาบน้ำอยู่ยังได้ยินมันพูดทุกคำ ถึงจะเป็นโรงแรมพ่อมึง แต่ช่วยเกรงใจห้องข้างๆบ้างได้มั้ยวะ
     
    จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงไอ้เต้ยโวยวายและเสียงไอ้คลื่นนับเหรียญ หึหึ ทั้งที่มันเพิ่งทำซึ้งกันไป แต่ตอนนี้ช่วยลืมภาพเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วไปได้เลยครับ เพราะไอ้คิวมันก็คือไอ้คิว ไอ้เต้ยก็คือไอ้เต้ย สงสารก็แต่ไอ้คลื่นที่หลงกลไปเล่นกับเซียนพนันอย่างเชี่ยคิว
     



    “เฮียพีมมมม เสร็จยัง เต้ยปวดฉี่” ผมกำลังพันผ้าเช็ดตัว ไอ้เต้ยก็ทุบประตูห้องน้ำเสียงดังลั่น ถ้ามันพังก็โรงแรมของที่รักมึงนะ



    “เออๆ เสร็จแล้ว” ผมเปิดประตูออกมาเจอไอ้เต้ยในคราบชุดนอนลายสติสกำลังยืนกุมเป้า บิดไปบิดมา
     ขอแกล้งแม่งซะหน่อย ผมผิวปากยืนเช็ดผมขวางประตูไม่ให้มันเข้ามา คึคึ แต่ไอ้เต้ยกลับยิ้มแบบชั่วร้าย กลายเป็นผมที่ต้องระแวง
     

    “อะไร มองไรวะ”
     


    “ให้มันเป็นสีชมพู แค่ให้หัวใจของเราได้รู้ ว่านมเฮียพีมเป็นสีชมพู” เพลงพี่ตูนกูเสียหมด สาดดดด มันเบียดผมจนเซออกจากห้องน้ำพร้อมกับร้องเพลงที่มันแต่งเอง “เฮียพีมนมชมพู เฮียภูมิก็แฮปปี้”
     


    “ไอ้เต้ย ไอ้เหี้ย” เสียหมดอารมณ์กู
     



    ผมเช็ดผมที่ยังมีน้ำหยดติ๋งๆมานั่งที่ปลายเตียง ดูไอ้คิวกับไอ้คลื่นดวนป๊อกเด้งกัน
     ถึงว่าผ้าเช็ดตัวหายไปผืนนึง ที่แท้แม่งเอามาปูรองไพ่นี่เอง เชี่ยคิวแอบเปิดไพ่ไอ้เต้ยด้วย หึ สมน้ำหน้ามันอยากล้อกูดีนัก
     


    “สามขายังอุตส่าห์เล่นนะพวกมึง”
     


    “คนเดียวกูยังเล่นได้ ประสาอะไร นี่ๆดวงกูกำลังขึ้นรีบหารายได้โว้ย เชี่ยคลื่นแม่งโคตรอ่อน”
     


    “ก็มึงกับไอ้เต้ยทำไพ่ พีมมึงช่วย
    ” ไอ้คลื่นหันมาฟ้องผมแต่มันชะงัก “ไปใส่เสื้อผ้าดิ รกหูรกตา” มันรีบหันกลับไปดูไพ่ในมือ ไอ้คิวมองหน้าผมพร้อมกับยิ้มกวนส้นตีน ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยเดินไปถีบหลังมัน ก่อนจะใส่ชุดนอน และกลับมานั่งล้อมวง ก็นะ นิดหน่อยครับ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆเนอะ ^_^
     

    “มาแล้วๆ” ไอ้เต้ยกระโดดขึ้นมานั่งระหว่างผมกับไอ้คิว หึ ที่ว่างข้างๆไอ้คลื่นก็มี ไม่เสือกนั่งนะครับน้อง


    “เฮียคลื่นเฝ้าไพ่ให้เต้ยมั้ย”

    “เอ่อ เฝ้าครับ”
    แต่ก็ปล่อยให้ไอ้คิวดู กรั่กๆ

    “พี่คิวไม่ได้แอบดูใช่ป่ะ”

    “ใครจะอยากดูไพ่มึ้ง แต่ถ้าไม่ไว้ใจ จะเล่นตาใหม่ก็ด๊าย กูแฟร์ๆอยู่แล้ว” ไอ้คิวมันได้แต้มน้อยกว่าไอ้เต้ยอ่ะดิ ใครโง่ให้มันเป็นเจ้ามือวะ
     

    “หึหึ รู้ทั้งรู้ว่าถูกโกงก็ยังจะนั่งเล่นนะมึง” ผมว่าคลื่นตอนที่รอไอ้คิวสับไพ่ และมีไอ้เต้ยนั่งงงอยู่ข้างๆ มึงยังไม่เก็ทอีกเหรอเต้ยว่าถูกโกง
     
    “ก็เล่นสนุกๆน่ะ รอมึงมาช่วยเล่นด้วยไง”

    “นี่ไอ้คลื่น มึงจะจีบเพื่อนกูเหรอวะ”
    ไอ้ควาย ถามส้นตีนไรวะ ผมตบหัวไอ้คิวไปป้าบใหญ่ๆ โทษฐานปากดี


    “จีบแล้ว แต่เจ้าของมันหวง”


    “หึ ได้ข่าวว่าพวกมึงต่อยกันด้วยนี่หว่า เพื่อนกูมีดีตรงไหนวะ กูว่าไอ้แคระแม่งแอบไปทำวรนุชลิ้นทองมาแหงๆ” สาลิกาโว้ยไม่ใช่วรนุช ปากมันก็พูดไปมือมันก็สะบัดไพ่แจกแบบชำนาญ
     


    “ถ้ามึงอยากได้ใจเพื่อนกูนะ กูจะบอกวิธีให้  แต่ต้องจ่ายล่วงหน้ามาห้าร้อยรับรองเห็นผล”
    เงินซื้อคำว่าเพื่อนได้ใช่มั้ยคิว สำหรับมึงทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองหมดใช่มั้ยไอ้เลว  ไอ้คนขายเพื่อน กูจะด่ามึงว่าอะไรดีวะไอ้คลื่นหันมามองผมแล้วก็หันไปหาไอ้คิว มึงอย่าซื่อไปเชื่อมันนะคลื่น คนดีๆอย่างมึง ไม่ทันไอ้คิวหรอก
     
    “แหนะๆสนใจอ่ะดิ๊ แต่มึงต้องตอบคำถามกูก่อน มึงเป็นคนดีมั้ยวะ”


    “หืม เอ่อ คนดีมั้ยเหรอ ก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง”
     
    “ถ้ามึงจะจีบไอ้พีมนะ มึงพยายามอย่าเป็นคนดี เพราะถ้ามึงเป็นคนดี บทพระรองจะถามหามึงทันที มึงต้องเลวเข้าไว้ ทำสันดานเหี้ยเยอะๆ แล้วจะได้เป็นพระเอก จริงๆเชื่อกู” ไอ้คลื่นส่ายหน้า ปลงในชะตา


    “เต้ยว่า พี่คิวต้องได้เป็นพระเอกต่อกันซักสิบชาติ เพราะสันดานเหี้ยม๊ากมาก ฮ่าๆ”


    “แหม ถึงจะเหี้ยแค่ไหน แต่ก็มีคนแอบรักจนหัวปักหัวปำล่ะว๊า จริงมั้ยจ๊ะแคระเพื่อนรัก” ไอ้คิวอมยิ้มให้ผม แต่เหลือบตามองไอ้เต้ย ไอ้น้องเต้ยก็นั่งหน้าแดงตัวแดง ไงล่ะมึง คิดจะวัดฝีปากกับไอ้คิวมึงรอไปอีกสามชาติ เพราะหมาในปากมันไม่อนุโลมให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น แม้ว่ามึงจะอยู่ในฐานะว่าที่หวานใจมันก็เถอะเต้ย
     


    ผมเล่นได้สามสี่ตาก็เดินออกมาคุยโทรศัพท์ ที่จริงชิ่งเพราะผมได้เงินไอ้คิว ฮ่าๆ เลยโทรหาไอ้โฟโต้ลูกพี่ลูกน้อง กะว่าจะชวนมันไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วย คุยไปซักพักก็มีสายซ้อน ห้าทุ่มเป๊ะ ไอ้ภูมินี่หว่า ผมรีบวางสายไอ้โฟโต้แทบไม่ทัน
     
    “เออ ภูมิ”

    (ทำไมขึ้นรอสาย) เป็นเรื่องจนได้กู

    “คุยกับน้องอยู่”

    (มึงลูกคนเดียว มีน้องผุดมาตั้งแต่เมื่อไร)

    “น้อง ลูกพี่ลูกน้องน่ะ”


    (ผู้หญิง ผู้ชาย)

    “ผู้ชาย” เชื่อเถอะว่าเพศไหนไอ้ภูมิมันก็หึงได้
     
    (เอาเบอร์มา) อะไรของมันวะ พอมันได้เบอร์ไอ้โฟโต้ มันก็วางสายไป ซักพักไอ้โฟโต้ลูกลุงผมก็โทรกลับมาบอกว่า มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้โทรไปถามมันว่าพ่อชื่ออะไร นามสกุลอะไร เกี่ยวข้องยังไงกับผม นี่มึงหึงหรือมึงประสาทหลอนกันแน่ภูมิ


    “ไง สบายใจรึยัง”

    (ไม่ได้บอกว่าไม่สบายใจซะหน่อย หึหึ) เสียงแบบนี้ เมาชัวร์


    “มึงอยู่ไหนภูมิ กินเหล้าใช่มั้ย”

    (อืม กินกับพวกไอ้เบียร์ เพิ่งกลับบ้าน) ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ แอบไปกินไม่มีชวน จำไว้ๆ


    “อ้าว มึงกลับบ้านเหรอ ทำไมไม่นอนคอนโด”

    (กูมีพ่อมีแม่นะ ก็ต้องกลับมาให้เค้าเห็นหน้าบ้างสิ)

    “ครับ คุณภูมิสุดยอดลูกกตัญญู แล้วอาบน้ำยัง”

    “ยัง”


    “แหวะ เหม็นคนไม่อาบน้ำ”

    (แอบมาดมกูเหรอถึงรู้ หึหึ แปบนึงนะพีม) ผมได้ยินเสียงเหมือนมันเคาะประตู

    (พี่ฟ่าง ข้าวฟ่าง ไอ้ฟ่างเปิดประตูดิ๊ มึงเป็นไร) เพิ่งเคยได้ไอ้ภูมิเรียกไอ้ฟ่างว่าพี่ คึ น่ารักดี

    (พีมครับ แปบนึงนะ อย่าเพิ่งวาง)

    “อื้ม เคลียร์กับพี่มึงก่อนเถอะ” อย่าห่วงกูเลย ห่วงตัวเองก่อนเถอะ สงสัยไอ้ฟ่างกำลังองค์ลง ผมกลัวไอ้ภูมิจะได้รับอันตราย

    (มึงทะเลาะกับแทนหรอฟ่าง) ผมก็ทำหน้าที่เป็นเครื่องดักฟังต่อไป

    (เออ มึงคุยกับใคร ไอ้พีมใช่มั้ย บอกมันด้วยว่ากูเกลียดเพื่อนมัน ไปตายซะ) เสียงไอ้ฟ่างดังลอดมาในสาย เหอๆ อะไรกันอีกละพวกมึง เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย

    “มีไรวะภูมิ”


    (ฟ่างทะเลาะกับแทน มันเลยมานอนห้องกู) เห็นห้องน้องเป็นที่ลี้ภัยรึไง

    (ภูมิ ไอ้น้องภูมิ)

    (เออ ได้ยินไม่ต้องตะโกน แล้วมายุ่งกับเสือน้อยทำไม ของๆภูมินะ) เด็กน้อยของผมก็เริ่มงอแง ผมขอใช้ตำแหน่งแฟนบังเกิดเกล้าของไอ้ภูมิ เดาว่าเสือน้อยที่มันพูดถึงคือตุ๊กตาหมีตัวใดตัวหนึ่งของมันแน่นอน คอนเฟิร์ม


    (กูให้เวลามึงคุยโทรศัพท์กับผัวหรือเมียวะ เออนั่นแหละสิบนาที แล้วโทรไปบอกไอ้แทนให้โทรมาง้อกู ไม่งั้นกูจะฉีกไอ้ตุ๊กตาหมีของมึง)

    แม่นอีกแล้วกู แต่ไอ้ฟ่างโคตรพาลเลยอ่ะ ที่ผมได้ยินมันพูดทุกคำ ก็ไม่ใช่เพราะผมหูดีอะไรนักหนาหรอกนะครับ แต่เพราะไอ้ฟ่างมันตะโกน(แหกปาก)ต่างหากเลยได้ยิน

    (มึงก็โทรไปหาไอ้แทนเองสิ ยุ่งอะไรกับกู โอ๊ยฟ่าง กูเจ็บนะ)

    (เถียงกูเหรอ กล้าเถียงกูใช่มั้ย)

    (โอ๊ย เจ็บนะเว้ย มึงแกล้งน้อง แม่ครับ แม่ ไอ้ฟ่างตีภูมิ)
     

    (ไอ่ลูกหมา ไอ่ขี้ฟ้อง ตะโกนให้คอหอยพังแม่ก็ช่วยมึงไม่ได้หรอก แม่ไปออกงานได้สามชาติแล้ว เอาโทรศัพท์มานี่ เอามาภูมิ เอามา) ผมยืนขำฟังเสียงมันสองพี่น้องทะเลาะกัน มีเสีงตุบตับเหมือนคนตบหัว เสียงโครมครามเหมือนโยนของใส่กัน ไอ้ฟ่างแม่งอารมณ์ร้าย ตายแน่เด็กน้อยของกู มึงอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะภูมิ รอกูกลับไปดูใจก่อนนะที่รัก
     

    (เชี่ยฟ่าง เอาโทรศัพท์กูคืนมา หมาฟ่างเปิดประตู ป้าอร ป้าอรครับเอากุญแจมาให้ภูมิหน่อย ใครอยู่ข้างล่างเอากุญแจสำรองมาดิ๊ ฟ่างงง กูจะบอกโอ๊ต) ตามมาด้วยเสียงทุบประตูและโวยวายคล้ายจะงอแงของไอ้ภูมิ
     

    (ฮัลโหลพีม) ชิบหายแระ เสียงนี้

    “อะ เออ ว่าไงฟ่าง มีเรื่องอะไรวะ” มันแย่งโทรศัพท์น้องมาได้แล้วครับคุณผู้อ่าน

    (มึงรักน้องกูมั้ย)

    “ห๊ะ
    ……..เอ่อ”
     


    “ถ้ามึงรักน้องภูมิ มึงต้องโทรบอกเพื่อนมึงว่า อีกห้านาทีถ้ามันไม่โทรหากู กูจะไปเผาคอนโดมัน โชว์รูมรถ สนามกอล์ฟกูจะเผาแม่งให้หมด)

    “เอ่อ ฟ่าง แล้วมันเกี่ยวกับกูรักไอ้ภูมิตรงไหน” เสี่ยงตายมากผม

    (กูบอกว่าเกี่ยวก็เกี่ยวสิวะ หรือมึงอยากลองของ)
     

    สุดท้ายผมก็ต้องโทรไปบอกไอ้แทนว่าแฟนมันกำลังตกมัน เชี่ยนั่นยังไม่รู้ตัวเลยว่าถูกไอ้ฟ่างโกรธ ป่านนี้มันคงเคลียร์กันอยู่มั้ง เฮ้อ กว่าผมกับภูมิจะได้คุยกันดีๆก็เกือบเที่ยงคืน
     

    ผมวางสายจากภูมิ กลับเข้ามาในห้องไอ้สามตัวนั้นก็ปิดไฟนอนกันหมดแล้ว แสงสีส้มอ่อนของโคมไฟหัวเตียง ทำให้ผมเห็นสิ่งที่มหัศจรรย์อันดับเก้าของโลก ไอ้คิวกับไอ้เต้ยนอนกดเอ้ยกอดกันครับ แม่เจ้า
    !!!แม่ยก พ่อยกคิวเต้ยไปซื้อประทัดมาจุดฉลองกันได้เลยครับ ถ้าพวกไอ้ปันมาเห็นภาพนี้ มีเฮ
     



    ไอ้เต้ยซุกอกไอ้คิว กอดกันซะกลมเลย
     



    ผมแอบถ่ายรูปพวกมันไว้สามสี่รูป แล้วก็ย่องไปนอนเตียงตัวเอง ผมค่อยๆเอนตัวลงนอน เพราะกลัวจะรบกวนไอ้คลื่นจนมันตื่น
     

    “กูยังไม่หลับ”

    “อ้าว ทำไมยังไม่หลับอีกวะ ดึกแล้วนะมึง”


    “ตื่นเต้น”


    “ตื่นเต้นเรื่องอะไร”


    “ได้นอนกับมึงไง โคตรปลื้ม”


    “อ่ะนะ”
    ถึงจะไม่คิดอะไร แต่ผมก็เขินเป็นนะครับคุณคลื่น ผมสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผื่นใหญ่ผืนเดียวกับไอ้คลื่น ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดโคมไฟที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองเตียง
     

    “คิวกับน้องเต้ยคบกันเหรอพีม”


    “อืม
    ก็ประมาณนั้น”


    พวกผมหันไปมองเตียงข้างๆ คนสองคนที่นอนกอดกันใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ คงอุ่นน่าดู
    นี่กูยิ้มเพราะมองคนกอดกันเหรอเนี่ย


    “พีม”

    “หื้ม”
     

    ……………………


    ………………….


    “เปล่า นอนเถอะ”


    “อย่าแอบลักหลับกูนะ ฮ่าๆ”
     อาจจะพูดเล่น แต่ลึกๆผมก็แอบกลัวครับ แหะๆ


    “ถ้าจะทำ ขอตอนที่มึงมีสติดีกว่า”


    “เชี่ย นอนๆ” ไอ้นี่ เผลอไม่ได้ หาช่องหยอดตลอด
     

    “หึหึ ฝันดีนะพีม”


    “อืม ฝันดีคลื่น”
     
     
                                   ………………………………………


     


    วันนี้พวกผมจะเดินทางกลับกันแล้วครับ แต่ก่อนกลับก็ต้องไปเที่ยวกันหน่อย มากาญฯทั้งทีไม่ไปน้ำตกก็เหมือนมาไม่ถึง แต่ก่อนที่จะไปถึงน้ำตก อาจมีเลือดตกยางออกครับ
     


    “พี่คิว นั่นมันแว่นเต้ยนะ เอาคืนมา”

    “แว่นเต้ย
    ? ไม่เคยได้ยินว่ะ กูรู้จักแต่แว่นแก้ว”


    ……………..” แอ๊บแอ ฮากริบ
     

    “มุกไม่ฮา พากูเครียดอีกต่างหาก” ไอ้เต้ยหันหน้าออกไปกัดฟันพูดพึมพำ
     


    “หมายเหตุ แว่นแก้วเป็นพืชชนิดหนึ่ง ลักษณะคล้ายๆใบบัวบก ไอ้ปันเคยซื้อผิดมาต้มกินในวิชาคหกรรมตอนม
    .6 สรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้ช้ำใน แก้บวม แก้พิษไข้ ท้องอืด ท้องเสีย กินกับน้ำพริก ส้มตำ โอ๊ยแซ่บหลายครับ”ผมกับไอ้เต้ยมองหน้ากัดอย่างอดสู กูขอไว้อาลัยให้มุกมึงสามนาที
     


    ทั้งที่นั่งเบาะเดียวกันมันก็กวนกันอยู่แบบนั้น วันนี้พี่เจตขับรถเองครับ มีไอ้ฝ้ายนั่งเป็นตุ๊กตาเสียบกบาลหน้ารถ ผมว่าสองคนนี้ชักจะยังไงๆแล้วนะ ผมกับคลื่นเลยได้มานั่งบนรถทัวร์กับเพื่อนๆน้องๆ



    พวกถาปัดมันร้องเพล่งห่าอะไรไม่รู้ กำลังเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างศิลปกรรมกับสถาปัตย์ มันร้องประมานว่าถาปัดเท่ห์ ศิลปกรรมซกมก ถาปัดเซอร์ ศิลกรรมสกปรก ถาปัดแนว ศิลกรรมโสโครก



    ก็จริงอย่างที่พวกมันว่าแหละครับ แต่ก็มีเฉพาะภาคผมนะ พวกดุริยางค์ ก็สวยก็หล่อกันไป พวกนาฏศิลป์ยิ่งมีแต่หล่อๆสวยๆ เวลามันรำ แต่งหน้าเป็นตัวพระตัวนาง แยกแทบไม่ออกว่าใครพระแท้พระเทียม
    บางทีผู้ชายสวยกว่าผู้หญิงก็มี อย่างพวกอีกรีน อีจีจี้ เป็นต้น เหอๆ
     

    “ผัวขา มึงเงียบได้มั้ยคะ กูรำคาญ” อีกรีนมันลอยมาแล้วครับ มายืนค้ำหัวไอ้คิวกับไอ้เต้ย


    “ใครจุดธูปเรียกมึงมาวะ อีเล็บอุทัยเทวี เออกรีน เมื่อคืนมึงนอนห้องไหนวะ กูจะได้โทรบอกพ่อ ให้บอกพนักงานเอาเป็ดโปรมาล้างทำความสะอาด เพราะน้ำหนองของมึงมันมีเชื้ออหิวา เดี๋ยวติดแขกคนอื่น”
     


    “แหมๆ อีคุณผัว
    อย่ามาปากดี เมื่อคืนกูรู้กูเห็นนะย๊ะ หวานจนมดสำลักน้ำตาล น้องเต้ยว่ามั้ยค้า” ผมนั่งเบาะถัดจากไอ้คิวกับไอ้เต้ยเลยไม่รู้ว่าไอ้เต้ยมีสภาพเป็นยังไง แต่ดูจากความสยดสยองสะใจบนหน้าอีกรีนแล้ว ไอ้เต้ยคงแย่ ฮ่าๆ
     


    “ใครพาด้วงผสมแย้แม่เป็นค้างคาวอย่างมึงขึ้นรถมาด้วยวะ” หูยยย พี่คิวของเรามีออกโรงปกป้องด้วย
     

    “กรี๊ดดด ถ้ากูไม่มา พวกจิตรกรไส้แห้งจู๋เหี่ยวอย่างพวกมึงมีปัญญาเอนเตอร์เทนน้องมั้ยคะผัวขา ไอ้อีแต่ละตัวกว่าจะหลุดออกจากโลกของตัวเอง กูน่ะนางฟ้าผู้แสนดี”
    น้องๆที่นั่งอยู่ใกล้ๆก็พลอยขำไปด้วย
     


    “อีปลิงเขมร  อย่างมึงได้เป็นนางพญาปลวกก็บุญท่วมหัวแล้ว กูถามจริงๆเถอะกรีน ที่นมมึงเหี่ยวเนี่ย เพราะมึงแดกฮอร์โมนจนมันย้อย หรือมันแฟ่บเองตามแรงโน้มถ่วงของโลกวะ ฮ่าๆ”
     

    “อ๊ายยย อิคิว กูไม่ผิดหวังจริงๆที่เลือกมึงเป็นผัว คิวรู้มั้ยค๊า ว่าคิวเป็นแรงบรรดาลใจในการหาผัวของกรีนเลยนะ ยิ่งคิวด่ากรีนก็ยิ่งร้าก”


    “กูต้องรู้สึกดีใช่มั้ยกรีน” ไอ้คิวกับไอ้กรีนก็นัวเนียกันจนกระทั่งกรีนมันหันมาเจอกับ
     


    “ว๊าย คลื่น  อ๊ายยย คลื่นมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรคะ อีคิวจ๋า เราเลิกเป็นผัวเมียกันซักเพลานะ” แล้วกรีนก็ลอยละล่องมาหาไอ้คลื่น ที่นั่งข้างๆผมนี่แหละ




     โชคดีว่ะคลื่น ฮ่าๆ
     
     






    TBC >>>>>>>>>>>>>>
     



    ………………………………..
     




    สวัสดีจ๊ะชาวโลก เรยากลับมาแล้วนะคะ คิดถึ้งคิดถึงทุกคน อิอิ
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×