ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ยิ้ม ^_^

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 55






    ตอนที่ 5
     




    ผมเดินหอบหิ้วของออกมาเพราะพี่ยามบอกว่าห้างกำลังจะปิดแล้ว จากเมื่อตอนกลางวันที่ผู้คนเดินพลุกพล่าน ตอนนี้แทบจะไม่มีคนเลย ผมเม้มริมฝีปากแน่น ผมโกรธ ผมโมโห ไอ้นั่นมันเป็นใคร มันใหญ่มาจากไหนถึงได้กล้าทำกับผมแบบนี้ผมโกรธมัน โกรธไอ้ภูมิ โกรธที่มันให้ผมนั่งรอ


    แต่ที่ผมโกรธยิ่งกว่าคือตัวเองที่โง่นั่งรอมัน พอโกรธก็พาลพอพาลก็อารมณ์เสีย พออารมณ์เสียก็อยากจะเขวี้ยงของที่อยู่ในมือทิ้งยิ่งพอนึกได้ว่าเป็นของไอ้ภูมิผมก็อยากจะกระทืบให้พังคาตีนแต่ถ้าผมทำแบบนั้นมันก็อาจจะมากระทืบผมให้ตายคาตีนมันเช่นกัน

    เฮ้ออ สุดท้ายชีวิตไอ้พีมก็ต้องตกเป็นเบี้ยล่างคนอย่างไอ้ภูมิจริงๆหรอเนี่ย
      นี่เพิ่งวันแรกผมก็ร่อแร่ ต่อไปกูจะรอดมั้ยวะ ~_~


    "อ่อนนุชครับพี่" ผมบอกพี่แท็กซี่หลังจากตะเกียกตะกายเอาถุงช้อปและตัวเองเข้ามาในรถได้เป็นผลสำเร็จ โอยยย ตัวไม่อยู่ยังอุตส่าห์ทิ้งของไว้รังควาญกูเนาะ เชี่ยภูมิ

    "โหน้อง เป็นผู้ชาย ซื้อของเก่งเหมือนกันนิ" พี่แท็กยิ้มพร้อมกับเอ่ยแซวผมผ่านกระจกมองหลัง

    "ไม่ใช่ของผมหรอกพี่ แหะๆ"

    "อ๋อ ของแฟนล่ะสิ" ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ของแฟน??เหอๆ ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย ไม่ใช่ของผมแล้วก็ไม่ใช่ของแฟนผมคร้าบบเพ่

    "สงสัยจะรักแฟนมากใช่มั้ยน้อง ซื้อให้แถมเอากลับบ้านให้ รักกันใหม่ๆก็งี้แหละ สมัยที่พี่ยังหนุ่มยังหล่อเหมือนน้องพี่ก็แบบนี้" หืม?? หล่อเหมือนผม เอ่อ ก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองอ่ะนะ แต่หน้าผมกับหน้าพี่แท๊กมีสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือตาดำ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ขี้เกียจปฏิเสธพี่แก
     
    ผมทั้งเพลียทั้งง่วงแถมต้องมาเจอพี่แท็กที่อารมณ์ดีสีฟ้าใส กูอยากงีบอย่าชวนคุยจะได้ม้ายยคร้าบบบ ผมสลึมสลือบอกทางมาบ้านถูกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมรีบจ่ายเงินแล้วรีบปีนออกมาทันที ผมว่าพี่แท็กคนนี้เลิกขับแท็กซี่แล้วไปจัดเดี่ยวแข่งพี่โน๊ตท่าจะรุ่ง คนไรวะฝอยไม่มีพัก

    "กลับมาแล้วคร้าบบบ" ผมตะโกนบอกเบาๆพอเป็นพิธี ดึกป่านนี้จะมีใครอยู่อีกละ อาปุ้ยคงเข้านอนตั้งแต่สองทุ่มแล้วมั้ง ผมลากสังขารขึ้นห้องตัวเอง เดินไปก็แทบจะหลับไปครับ


    "เฮ้ยยย!!!" ผมกระโดดหลบผีสังขยาหน้าเขียวที่โผล่มาจากห้องน้ำ  จากที่ผมง่วงๆตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ


    "อะไรกันจ๊ะหลานชายสุดหล่อ นี่อาปุ้ยคนสวยเอง ตกใจไปได้" ผมมองคน เอ่อ ไม่แน่ใจนะว่าคน เอาเป็นว่าอะไรซักอย่างที่มีโคลนเขียวๆทาเต็มหน้าเหลือเพียงลูกกะตาเวลาพูดก็เหมือนจะขยับปากได้แค่นิดหน่อย ร่างนั้นแอบอ้างว่าเป็นอาของผม

    "อาจริงดิ" ผมยังไม่ปักใจเชื่อครับ


    "ก็ใช่นะสิย๊ะ แกอย่าทำเหมือนกลัวชั้นจะได้มั้ย แล้วนี่ไปไหนมาถึงกลับบ้านเอาซะป่านนี้ ถ้าแม่แกรู้นะคงเหาะมาฉีกอกชั้นแน่ๆ" อาปุ้ยทำสะบัดสะบิ้งให้เหมือนกับสตรีเพศมากที่สุด บอกแค่นี้คงพอจะรู้ใช่มั้ยครับว่าคุณอาของผมเพศไหน
     

    แต่อาผมจะเป็นอะไรหรือเพศไหนก็ช่างแต่อาปุ้ยเป็นคนดี คนดีมากด้วย^^แถมความรั่วก็ไม่ได้น้อยกว่าความดีเลย ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวผม เอาไว้ว่างๆจะเล่าให้ฟังนะครับ^__^

    "พีมไปกินข้าวกับเพื่อนมา" อาปุ้ยเหล่มองผมอย่างสำรวจ

    "แล้วหอบหิ้วอะไรมาซะเยอะ"


    "เอ่อ ของเพื่อนพีมน่ะ มันฝากไว้" ไหลไปพีม ไหลต่อไป ผู้หญิงอย่าหยุดสวยผู้ชายก็อย่าหยุดไหลและแถ  แต่จะรอดมั้ยก็ต้องลุ้นครับ


    "แหมๆเพื่อนจริงหรอจ๊ะ หื้ม แฟนก็บอกมาเห้อ อาไม่แซวหรอก" แล้วที่ยืนส่งสายตาล้อเลียนอยู่นี่ไม่เรียกแซวหรอครับคุณอา แล้วทำไมใครๆต้องคิดว่าของนี่เป็นของแฟนผมด้วยวะ


    "เพื่อนจริงๆคร้าบ โห่อาแฟนเฟินอะไรพีมไม่มีหรอก" อาปุ้ยทำหน้าทำตาเหมือนไม่เชื่อเชื่อเถอะครับเพราะนี่ถือเป็นความจริงเพียงเรื่องเดียวที่ผมพูดออกไป เรื่องไม่มีแฟน จริงแท้ที่สุด


    "แน่นะ ไม่ใช่ซื้อฝากสาวหรอกนะจ๊ะพ่อหนุ่มน้อย" อาปุ้ยจีบปากจีบคอพูดแล้วหัวเราะคิกคัก


    "โหยยอา ไม่มีจริงๆ พีมง่วงแล้ว ไปนอนแล้วนะ ฝันดีครับคนสวย"


    "แน่จริงอย่าหนีสิย๊ะ" ผมหันหลังมายักคิ้วให้อาปุ้ยแล้วรีบเปิดประตูเข้าห้องอย่างรวดเร็ว

    เฮ้อออออออออ



    ผมทิ้งของลงกับพื้นห้องแล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียง ทั้งที่เพลียและเหนื่อยมาทั้งวันแต่เอาเข้าจริงๆตาผมกลับหลับไม่ลงเอาแต่คิดเคียดแค้นไอ้ภูมิไม่หาย ผมเป็นคนนะมีความรู้สึก เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยต้องรอใครนานขนาดนี้


    คิดแล้วอยากซัดปากแม่รง ไอ้สัดหมา ฟึดฟัดอยู่ได้ซักพักสังขารก็ชักไม่ไหว ตาเริ่มปรือๆแต่ก่อนที่ผมจะหลับผมก็มีบางเรื่องที่จะสารภาพ คือว่าผมนายพีมสุดหล่อ
    จะ จะ จะไม่อาบน้ำครับ กร๊ากกก ก็เหนื่อยอ่ะนอนเลยละกันเนอะ ฝันดีครับ^_^
     

    ~~แหละยังคิดถึง นะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ~~


    อ๊ากกก ใครแม่รงโทรมาตอนนี้เนี่ยผมที่เพิ่งหลับก็ถึงกับสะดุ้ง ควานหาโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว กูเหนื่อยกูอยากนอน


    "ฮาโหลลล คราย"ใจจริงอยากด่าออกไป  ครวยเอ๊ยโทรมาทำส้นตีนไรวะ

    (กูเอง)

    "กูไหน ไม่มีเพื่อนชื่อกู"

    (สัดพีมอย่ากวนตีน กูคิวเว้ย)
    อ่อ ไอ้คิวนี่เอง ผมลุกขึ้นพิงหัวเตียงแล้วสบัดหัวไล่อาการง่วง


    "ฮ้าววว มีไรมึง กูง่วงจะตายห่า "

    (มึงไปไหนมา)
    ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำถาม


    "ไปไหน อะไรของมึงวะ"

    (ก็ที่อยู่ๆมึงวิ่งออกจากห้องไงไอ่ควาย กูตกใจหมดนึกว่าเกิดเรื่องอะไร แถมโทรไปมึงก็ไม่รับ)

    "อ๋อออออออ"ที่อ๋อยาวคือเพิ่งเข้าใจว่าไอ้คิวมันสื่อถึงเรื่องอะไรแต่อีกเหตุผลคือผมอ๋อเพื่อถ่วงเวลาคิดหาคำโกหก อ่า หลังๆมานี่ผมโกหกเพื่อนบ่อยเกินไปรึเปล่านะ

    "ไม่มีไรหรอกมึง คือว่า เอ่อ พอดีว่าเพื่อนอาปุ้ยเพิ่งกลับจากปาปัวนิวกินีนะ" ชิบ -หาย ออกทะเลแล้วกู ผมคิดไม่ออกเว้ย ยิ่งดึกๆง่วงๆแรมผมยิ่งต่ำจะประมวลผลอะไรแต่ละทีก็ช้า

    (ปาปัวนิวกินี?แล้ว?)
    เสียงไอ้คิวแบบว่าไร้เยื่อใยมาก ประมาณ เพื่อนอาปุ้ยมาแล้วเกี่ยวไรกับมึง

    "แล้ว กูก็ต้องไปรับเค้าไง" น่าจะรอดนะ"กูขอโทษนะเว้ยคิว ที่ไม่ทันได้บอกมึง คือกูรีบมากเลย กลัวว่าเพื่อนอาปุ้ยจะรอนาน" พอเห็นมันเงียบผมก็รีบพูดเลยครับ
    (เออๆ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกละกัน ห่า ตกใจหมดนึกว่าญาติเสีย)


    "พ่องมึงดิ" ผมยิ้มแม้กำลังจะด่ามัน ยิ่งรู้ว่าไอ้คิวเป็นห่วงผมก็ยิ่งรู้สึกผิดที่โกหกมัน "คิว กูขอโทษนะ"ขอโทษที่โกหก ให้ตายสิผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย

    (เฮ้ย ขอโทษไมวะกูไม่ได้โกรธกูก็แค่เป็นห่วง ไอ้แทนแม่งก็โทรมาด่ากูว่าไม่ดูแลมึง มันจะชวนมึงกับกูไปแดกข้าวเย็นไงแล้วพอมันถามว่ามึงไปไหน กูบอกไม่รู้มันก็ด่ากูใหญ่)
    โหหห เพื่อนผมแม่งซึ้ง


    "พวกมึงรักกูขนาดนี้เลยหรอวะ" ผมถามออกไปด้วยหัวใจที่พองโต ก๊าก สำนวนนิยายได้อีกผม


    (รักดิ ก็มันจะให้มึงเลี้ยง ฮ่าฮ่า)


    "พ่อมึงตายไอ้คิว แค่นี้นะกูจะนอน" ไอ้เพื่อนเวร หัวใจผมแฟ่บลงในบัดดล ไอ้คิวมันยังหัวเราะไม่เลิกไม่รา ห่า พูดซะผมประทับใจที่ไหนได้จะหลอกแดก ฮึ๋ย บอกลากันอีกไม่กี่คำผมก็ตัดสายมันไป


    ตอนแรกว่าจะไม่อาบน้ำแต่ไหนๆก็ตื่นแล้ว อาบให้สบายตัวหน่อยละกัน
       คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ผมหลับฝันดีมาก ผมฝันว่าได้จระเข้ฟาดหางฟาดใส่ปากไอ้ภูมิ หึหึ แม่งสะใจเชี่ยๆและนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมอยากจะทำฝันให้เป็นจริง   ^________^





    ....................................................................




     
    จากที่สาบานตนไว้ว่าถ้าเจอหน้าไอ้ภูมิผมจะซัดปากมันเอาให้เลือดกบปาก ผมจะขย้ำคอมันให้หายแค้น
    แต่ตอนนี้ผมต้องชักรอกความคิดนั้นลงไปให้ลึกที่สุด

    เพราะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าผมในตอนนี้ ไอ้ภูมิมันบอกให้ผมมาหาที่โรงยิมเก่าหลังภาคโยธา ผมมาถึงได้ซักพักแล้วแต่ไม่กล้าเดินเข้าไปได้แต่แอบดูอยู่ไกลๆ โผล่แค่หัวส่วนตัวแอบอยู่หลังประตู 


    ไอ้ภูมิยืนดูดบุหรี่ดูลูกสมุนมันกระทืบคนอยู่เห็นหน้ามันแล้วของขึ้นวะ โมโห แต่พอเห็นสิ่งที่มันกำลังทำอยู่ ถ้าผมฉลาดก็ควรจะอยู่เฉยๆน่ะนะ แล้วพวกห่านี่ก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรเล้ยนี่มันในมหาวิทยาลัยนะ ยังกล้ามีเรื่องทะเลาะวิวาท

    "เฮ้ย พอๆเดี๋ยวแม่งตายเร็ว มันไม่สะใจกู" มันใช้ปลายตีนขยี้บุหรี่ที่มันเพิ่งทิ้งลงพื้นก่อนจะเดินเข้าไปเอาเท้าข้างเดียวกันเหยียบหน้าอกไอ้คนโชคร้ายคนนั้นที่นอนเลือดอาบหมดสภาพ


    จากการคาดคะเน ผมว่าแม้แต่น้ำข้าวต้มไอ้นั่นก็ไม่มีปัญญาแดกอ่ะ ปางตายเลยนะนั่นน่ะ ไอ้ภูมินั่งยองๆลงข้างๆไอ้คนนั้นโดยมีไอ้แทน ไอ้หัวทองแล้วก็ไอ้รูปหล่อเมื่อคราวก่อนที่ผมเคยเจอ พวกมันยืนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ


    "จำใส่หัวเน่าๆของมึงไว้ว่าอย่ามาซ่าส์กับกู และฝากบอกพี่สาวมึงด้วย ว่าเลิกตอแยกูซักทีก่อนที่
    กูจะ-ทน-ไม่-ไหว" น้ำเสียงเย็นๆนิ่งๆของไอ้ภูมิเป็นอะไรที่ชวนสยองมากผมได้ยินแบบนั้นก็ขนหัวลุกชันอย่างพร้อมเพรียง


    ถ้าเกิดมันทำกับผมเหมือนที่ทำกับไอ้นั่นผมต้องตายแน่ๆ ต่อไปกูจะทำหน้าที่เบ๊ให้ดีที่สุด

    กูสัญญานะภูมินะ  เอาว๊ะ เป็นเบ๊สองเดือนก็ดีกว่าต้องตายใต้ตีนมันภายในสองชั่วโมง

    Y_Y   !__!


    พูดจบมันก็ให้ลูกสมุนหิ้วปีกไอ้เด็กนั่นออกไป


    "มิค กี่โมงแล้ว" มันหันไปถามไอ้หัวทอง อ่อ ไอ่นี่ที่เรียกผมว่าเปี๊ยกเมื่อคราวก่อนมันชื่อมิคนี่เอง


    "สี่โมงสี่นาทีเวลาดีมีคนคิดถึงวะมึง คิกคิก" ไอ้คนที่ชื่อมิคตอบพร้อมกับทำหน้าทำตาแช่มชื่น ไอ้นี่ดูท่าทางกะล่อน ขี้เล่นเหมือนไอ้ปันเลยแฮะ


    "กูก็นึกว่ามีอะไรๆสนุกให้ดู ห่า มีแค่เนี๊ยะ" ไอ้แทนทำหน้าเบื่อๆเซ็งๆ เห็นไอ้แทนกับไอ้ภูมิอยู่ด้วยกัน มันก็ชวนให้ผมหายใจไม่ทั่วท้อง

    "ทำเป็นเซ็ง เมื่อกี้กูนึกว่ามึงจะเข้าไปรุมไอ้เด็กนั่นอีกคน"ไอ้รูปหล่อมาดคุณชายยิ้มเลวให้ไอ้แทน

    "มึงก็ไม่ต่างจากมันร้อก เบียร์" ไอ้หล่อมาดคุณชายชื่อเบียร์สินะ ห่านเอ๊ยหน้าก็หล่อชื่อก็เพราะ อยุติธรรมไปมั้ยชีวิตมนุษย์โลก

    "พอๆเลิกกัดกันแล้วก็กลับไปได้แล้ว" ไอ้ภูมิมันโบกไม้โบกมือไล่เพื่อน

    "อ้าว แล้วมึงอ่ะ"

    "กูมีนัด" เฮือกกกกกก อย่านะอย่าพูดนะมึง อย่าบอกใครว่ามึงนัดกูไว้น๊าแค่นี้ผมก็ทำตัวลีบเล็กจนจะแทรกเป็นเนื้อเดียวกับผนังแล้ว

    "นัดใครวะ" แทนเอ๊ย ได้โปรดรีบๆไปเหอะขอร้องและสาบานได้ผมไม่ได้คิดไปเองด้วยว่าไอ้ภูมิมันเหลือบมามองตรงที่ผมยืนอยู่แต่ก็แค่แวบเดียวแค่นั้น

    "เออน่า นัดใครก็เรื่องของกู พวกมึงไปได้แล้วไป"

    “โห่ สาดดด เปลี่ยนบรรยากาศหรอมึง อืม จะว่าไปที่แบบนี้มันก็น่าตื่นเต้วดีเหมียนกาน" ตกลงว่าไอ้คนชื่อมิคมันลิ้นไก่สั้นหรือเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ถึงได้พูดไม่ชัด
     

    ไอ้เบียร์ไอ้แทนยิ้มเลวอมก้อนเลศนัยไว้เต็มปากก่อนจะผลักไหล่ไอ้ภูมิ อะไรของพวกมันวะ ไอ้มิคเบ่งหน้าอกแล้วยกกำปั้นไอ้ภูมิมาทุบลงหน้าอกตัวเอง มันพูดว่า เพื่อนกูๆ

    ไม่นานไอ้สามตัวนั้นก็เดินกอดคอกันออกไป จนเมื่อแผ่นหลังไอ้แทนหายไปจากสายตาผมถึงกับเป่าปากรู้สึกโล่งไปทั้งอก


    "มึงมาช้า"

    "เฮ้ย!!! สัด กูตกใจ" ไอ้ภูมิมายืนข้างหลังผมตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ พอเห็นว่าผมตกใจมันก็ทำหน้าสะใจซะเต็มสตรีม

    "หน้าซีดๆ เป็นไตวายหรอ " คือไอ้ที่หน้ากูซีดเนี่ยเพราะตกใจมึงแหละ แต่อีกสาเหตุคือภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ไอ้ภูมิมันทำกับเด็กคนนั้น ก็ชวนให้ผมตัวสั่นได้เหมือนกัน


    ผมชักสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่กระทืบผมแบบไอ้คนนั้น ทำไมเอาผมมาเป็นเบ๊ หรือเป็นเพราะผมเป็นเพื่อนไอ้แทนมันเลยเกรงใจ โหยยยเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคบไอ้แทนก็มีประโยชน์เหมือนกันหรือการที่มันได้แกล้งผมอาจจะสะใจกว่า ฮึ๋ย ผมว่าเพราะเหตุผลนี้แหละ


    "เมื่อวานกูบอกให้รอ แล้วเป็นส้นตีนอะไรถึงไม่รอกู" ผมหันขวับ เงยหน้าขึ้นมองไอ้เชี่ยภูมิจนคอแทบเคล็ด มันว่าไงนะ ไอ่ฟายเอ๊ย ผมฟิวขาดแล้ว


    "สัด พูดมาได้ว่ากูไม่รอ กูนั่งรอมึงสี่ชั่วโมงรอจนห้างปิด ทีหลังจะไปปี้กันก็ไม่ต้องเสือกบอกให้กูรอของของมึงก็ไม่ใช่น้อยๆ กูทั้งหอบทั้งหิ้ว ทั้งเพลียทั้งหิวแล้วยังกล้าพูดอีกหรอว่ากูไม่รอ แม่งเอ๊ย"ชุดใหญ่ไม่แถมเป๊ปซี่มีแต่น้ำลายล้วนๆ


    กว่าจะนึกได้ ความเย็นก็แล่นผ่านกระดูกสันหลังผมเรียบร้อย นี่ผมทำอะไรลงไปปากจะพาซวยไหมเนี่ยอุตส่าห์ไม่วีนแล้วเชียว คราวนี้ตายแน่กู ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ไม่กล้ามองหน้ามันแต่รับรู้ได้ว่ามันแผ่รัศมีออกมา


    "หึหึ" หือ? หัวเราะ ใครมาหัวเราะแถวนี้วะตรงนี้มีผมกับไอ้นรกภูมิ อารมณ์ผมตอนนี้ห่างไกลคำว่าหัวเราะมากเพราะงั้นก็ต้องเป็นไอ้ภูมิ ผมเงยหน้ามองมันอีกรอบ ใช่จริงๆด้วย


    "ขะ ขำไรวะ" หรือมันโดนด่าจนบ้าไปแล้ว ผมคิดว่ามันจะประเคนตีนใส่หน้าผมหรือไม่ก็ตบบ้องหูซักฉาดหรืออาจจกไส้มาฉีกเล่น แต่ผมก็ไม่เข้าใจอารมณ์มันสักเท่าไร พูดง่ายๆคือผมตามอารมณ์มันไม่ทัน


    "ขำหมาในปากมึง" จบคำพูดมัน ทั้งกระเป๋า เสื้อแจคเก็ต หนังสือก็ถูกไอ้ภูมิโยนมา สัด กูไม่ใช่ตระกร้านะเว้ยโยนมาได้แต่เดชะบุญว่าผมรับของของมันไว้ได้ทุกอย่าง
     

    นี่ถ้าผมทำของมันร่วงแม้แต่ชิ้นเดียวนะ ผมคงกลายสภาพเป็นเหมือนเด็กที่ถูกมันซ้อมเมื่อกี้แน่นอน
      ไอ้ภูมิมันเดินตัวปลิวลิ่วไปหารถแต่ผมนี่เดินเอียงเซแถ่ดๆแล้ว สงสารกูบ้างมั้ยเนี่ย หึ ถ้าคนอย่างมันสะกดคำว่าสงสารเป็นคงไม่ทำกับผมแบบนี้หรอก


    "ไอ้เตี้ย เดินให้มันเร็วๆหน่อย แม่งขาคนหรือขาหอยทากวะ สั้นได้ใจกูจริงๆ" สัดหมาด่ากูอีกแล้วพวกคุณดูดิไอ้ภูมิมันด่าผม มันว่าผมอ่ะ คับข้องหมองใจไม่มีใครให้ฟ้องฟ้องคนอ่านนี่แหละวะ


    "เชี่ยถ้ามึงรีบมากนักทำไมไม่ไปตั้งแต่เมื่อวานวะ"


    "บ่นไรกู"


    "เปล๊า แฮ่ๆ" ผมส่งยิ้มตอแหลให้มันแต่ใจยังแอบด่าต่อไป หูดียังกับหูหมา หุหุ


    "อย่าให้รู้นะมึง กูเอาเลือดหัวออกแน่" โอยยย ไอ้โหด ไอ้ซาดิส ไอ้ชั่วช้า สามาน สามหาว


    "มึงขับรถเป็นมั้ยเตี้ย" พอเดินมาถึงเมอร์ซิเดสคันงามคันเดิมที่เคยพาผมไปแอ่วแถวสมุทรปราการ อึ๋ย คิดแล้วขนลุก ผมยืนมองมันงงๆก่อนสมองที่บรรจุเมมน้อยๆของผมจะเริ่มทำงานถามแบบนี้แสดงว่ามันต้องให้ผมทำหน้าที่คนขับรถแน่นอน เพราะงั้น


    "ฮื่อ ขับไม่เป็น" ส่ายหน้าจนคอแทบหลุดแต่จริงๆผมขับเป็นครับ ฮ่า แต่เรื่องไรต้องขับรถให้มันอ่ะ สู้นั่งเชิดหน้าสบายๆเป็ยคุณนายเอ๊ยคุณชายดีกว่าเยอะ


    "กูน่าจะรู้ว่าสมองกุ้งอย่างมึงคงขับไม่เป็น แล้วจะยืนเซ่อทำซากอ้อยไร ขึ้นรถเด้!!" ไรวะแค่นี้ก็ต้องตะคอกด้วย แต่ผมไม่แคร์แค่นี้ไม่เป็นไร ถูกมันด่าเพื่อแลกกับการไม่ต้องขับรถก็ถือว่าคุ้มละนะ
     ^_^
     




    ......................................................................
     



    ค่ายมวย
     
    OoO


    ไอ้ภูมิเลี้ยวรถเข้ามาในสถานที่ๆที่มีป้ายเบ้อเริ่มเทิ่มว่า ค่ายมวยส.สักยิม ผมก็ตาเหลือกแทบจะทันทีจากที่นั่งเงียบกันมาตลอดทาง ผมหันไปมองมันแต่มันยังหน้านิ่งเหมือนเดิม



    "ขนเป้กับน้ำที่อยู่ท้ายรถมาให้กูด้วย" มันดับเครื่อง สั่งเสร็จคุณชายท่านก็โยนกุญแจรถให้ผมพร้อมกับกำชับให้ล็อคให้เรียบร้อยแล้วให้รีบตามคุณชายไป ผมได้แต่นั่งเอ๋อยังไม่ทันได้ถามมันเลยว่าพาผมมาที่นี่ทำไม มันก็เดินเข้ายิมไปแล้ว คงไม่ใช่ อ๊ากกกก ไม่จริงๆๆๆ มันคงไม่ได้เอาผมมาเป็นคู่ซ้อมใช่ม๊ายยยยยย
    >o<


     
    "ช้า" ไอ้ภูมิหันมาทำตาเหวี่ยงๆใส่ผมทันทีที่เงาหัวผมโผล่เข้ามาในยิม โอย มึงก็ดูของที่กูหอบมาก่อนเหอะ ทั้งเยอะทั้งหนัก ใช่ซี้ก็ตัวเองเดินแกว่งไข่ตัวเปล่าสบายชิลล์ๆนิ ผมรีบวางของทั้งหมดลงม้านั่งข้างๆมันแล้วจะรีบถาม


    "มึงพากูมาค่ายมวยทำไม"มันเงยหน้าขึ้นมามองผมซึ่งยืนค้ำหัวมันอยู่ สายตามันหมือนรำคาญผมสุดๆ
    "อย่าสำคัญตัวผิด กูไม่ได้พามึงมา กูมาออกกำลังกายมึงเป็นเบ๊มีหน้าที่ต้องคอยรับใช้กู ลืมไปแล้วแหงะ" หางเสียงกระแดะมากภูมิขอบอก อ่อ เอากูมาเป็นเด็กให้น้ำ


    "อีกอย่าง มาค่ายมวยคงไม่ได้มาดูหมีแพนด้าหรอก" แน๊ะ มีเหน็บมีแนม

    "เหรอ กูนึกว่ามึงมาดูบุญบั้งไฟ" ผมก็ประชดกลับบ้างดิ มันเลยผลักหัวผมไม่รู้ว่ามันตั้งใจหรือกะเอาให้ตายแม่งมือหนักหัวแทบจะทิ่มลงพื้น

    พอมันกระทำชำเราร่างกายผมจนสาแก่ใจก็คว้าเป้เดินไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมสังเกตว่านักมวยคนอื่นๆที่กำลังซ้อมหรือแม้แต่พวกพี่เลี้ยงพวกครูฝึกก็แสดงท่าทีเคารพมัน  อะไรกันวะ

    ระหว่างรอมันผมก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อย โหหห มีเวทีมวยเกือบสิบแนะกว้างเว่อ ได้ยินเสียงเตะเสียงต่อยก็รู้สึกมันส์ดี โอ๊ะ เด็กตัวเล็กๆก็มี เด็กผู้หญิงด้วยเว้ยเท่ห์ดีแฮะ


    จริงๆผมก็ชอบดูมวยนะ มวยไทย มวยสากล มวยโลก มวยปล้ำดูได้หมดแต่ถ้าชอบจริงๆก็มวยไทยนั่นแหละทั้งได้ออกกำลังกาย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แถมเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้วย  เจ๋งสุดๆไปเลยน้องสาว
     

    แต่รายของเชี่ยภูมิผมจะจัดมันไว้อีกกลุ่มจะถือซะว่าที่มันมาชกมวยเป็นเพราะมันชอบความรุนแรง อิยะฮะฮ่า กร๊ากๆ


    "ตกลงมึงสติไม่สมประกอบจริงๆสินะเตี้ย" นั่นไงแค่คิดนิมิตถึง มันก็มา

    "ไร ก็ กู..." ผมหันไปกะด่าแต่ว่าอึ้งไปสามสิบวิครับ ไอ้ภูมิในชุดเสื้อยืดคอวีสีเขียวเข้มเนื้อบาง กับกางเกงขาสั้นสีกรม แค่ชุดออกกำลังกายยังแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดตีน เท่ห์สัดๆ

    แต่เฮ้ย อย่าชื่นชมมัน ก็งั้นๆแหละว๊า แค่สูง แค่ขาว แค่หล่อ ไม่เห็นมีไรเลย เฮอะ  จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยนะครับว่าไอ้ภูมิเป็นนักมวยที่หล่อที่สุดในโลกา มันขมวดคิ้วนิดๆที่อยู่ๆผมก็อึ้งแล้วเปลี่ยนเป็นหน้าบึ้ง คงงงกับผมมั้ง กูก็งงตัวเองวะมึง


    "กูจะไปซ้อม มึงนั่งเฝ้าของอยู่นี่ เข้าใจ๊"

    "เออ แม่งสั่งกูอยู่ได้ เฮ้ย!!" สั่งจบมันก็โยน ย้ำว่ามันโยนไอโฟนกับลาคอสจระเข้แท้ที่ในนั้นบรรจุเงินไว้อย่างมากมายมหาสารมาให้ผม หัวใจแทบหลุดไปกองกับพื้น
     
    สาดดด เกิดกูรับไอโฟนมึงไม่ได้ มึงยินดีรับบีบีกูไปใช้แทนมั้ย โอยย ขวัยเอ๊ยขวัญมาขวัญอุษามณีจงเป็นของพี่พีม คริคริ มึงเห็นไอโฟนเป็นขนมครกรึไงถึงคิดจะโยนก็โยน ห่า หลายหมื่นนะนั่น

    วันนี้ผมก็ได้รู้อะไรใหม่ๆเกี่ยวกับไอ้ภูมิ นอกจากมันจะเอาแต่ใจ เอาใจยาก ขี้รำคาญ ขี้โมโห มันยังชอบโยนของด้วย อยู่กับมันคงช่วยเพิ่มทักษะในด้านต่างๆให้ผมได้อ่ะนะ

    มันสั่งเสร็จก็เสด็จไปซ้อมมวย มันใส่นวมสีดำ
      มันไม่มีคู่ซ้อมหรอกครับซ้อมกับกระสอบทรายก็เตะก็ต่อยกันไป แต่ดูท่าตีนกับมือมันหนักไม่ใช่เล่นนะนั่นโดนเข้าไปแต่ละที บรื่อ น่ากลัวๆ  


    ผมก็แปลกใจเหมือนกันที่คนอย่างมันจะสนใจกีฬาหรือการออกกำลังอย่างการชกมวย คิดว่าหล่อๆไฮโซๆอย่างมันจะชอบกีฬาประมานออกรอบไดฟ์กอล์ฟ ไม่ก็ตีเทนนิส เล่นสคอส ไรงี้  แสดงว่ามันก็คนไทยหัวใจช้างเหมือนกันนี่หว่า


    ระหว่างที่รอคุณชายภูมิมันโชว์พาวว์ผมก็ฆ่าไอ้เวลาด้วยการนั่งกดบีบีคุยกับเพื่อน ไอ้เชนแม่งตั้งสถานะบีบีได้กากมาก “ไม่สั้นไม่น้อยแถมซอยถี่ยิบ” เสื่อมได้อีกเพื่อนกู เล่นได้ซักพักก็ชักเบื่อแฮะ หันซ้ายหันขวาเจอไอโฟนไอ้ภูมิ วะวะว้าว หึหึ คลิปผมอยู่ในนี้สินะ เสร็จกูละ
     

    ผมชะเง้อมองมันเห็นตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกับกระสอบทรายไม่ได้สนใจอย่างอื่น ดีทางสะดวก ผมรีบคว้าไอโฟนมันขึ้นมากดแต่ปรากฏว่า....... มันตั้งล็อคเครื่องไว้ต้องใส่รหัสก่อน หึ๋ย รอบคอบจังนะไอ่ชั่ว อะไรวะ
    เซ็งโว๊ย
     

    ไปเดินเล่นระงับบำบัดอารมณ์เสียๆหน่อยละกัน ไหนๆก็มีวาสนาได้มาค่ายมวยเป็นครั้งแรกขอไปชื่นชมให้เป็นบุญตาหน่อยเถอะว่ามันมีอะไรบ้างแต่ถ้าจะไปเดินเล่นก็ต้องหอบโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถของไอ้ภูมิใส่เป้ผมไปด้วย ชิ วุ่นวายๆ


    ผมก็เดินดูคนอื่นซ้อมอะไรไปเรื่อย ปล่อยไอ้ภูมิมันชกลมชกแล้งไปคนเดียวได้ยินเสียงตุบตับ ตุบตับแล้วรู้สึกเสียวไส้ เกิดวันดีคืนดีมันผีเข้าหมั่นไส้ผมขึ้นมา เตะป๊าปเข้าซี่โครงผม คงอ๊าก จุกๆเจ็บๆนี่แค่คิดนะเนี่ยยังสัมผัสได้ถึงความทรมานเลยครับ


    "ไอ้หนู มาใหม่เหรอ ลุงไม่เคยเห็นหน้า"ผมสะดุ้งนิดๆที่มีคนเรียกก็กำลังลุ้นพี่กล้ามโตกับพี่ลายสักรูปมังกรว่าใครจะสอยใครร่วง หันมาเจอคุณลุงที่ดูจะห้าสิบปลายๆแต่ยังดูแข็งแรงยืนหน้าโหดอยู่


    "อ่อ ครับ"

    "มาซ้อมมวยหรอ"

    "เอ่อ เปล่าครับ เพื่อนชวนมาเป็นเพื่อนน่ะครับ" เหอๆ ไม่ใช่เพื่อนครับ อีกอย่างมันก็ไม่ได้ชวนด้วยแต่มันบังคับแล้วลากคอผมมา

    "ก็ว่า ดูท่าทางหน่วยก้านอย่างเอ็งตีปิงปองยังจะไม่รอด" ผมแทบสะดุดตีนตัวเองล้ม

    "อ้าวลุง ทำไมพูดงี้อ่ะครับ อย่ามาดูถูกผมนะ ลองหมัดสะท้านโลกของผมปะล๊า ลองป่าว" ผมตั้งการ์ด เตรียมแย๊บซ้ายแย๊บขวา แต่คุณลุงมองผมยิ้มๆปนทุเรศลูกตาแต่ผมยังตั้งหมัด ขยับเท้าไปมาคือเตรียมพร้อมเต็มที่ว่างั้น

    "ไอ้เตี้ย!!! มึงไปเชิดหุ่นกระบอกอะไรตรงนั้น มานี่ดิ๊" o_O ผมเกือบสำลักน้ำลายตัวเองผมหยุดการกระทำทุกอย่าง มุมปากผมกระตุกๆ แล้วกัดฟันหันไปหาไอ้ภูมิที่ยืนเท้าเอวมองผมเอือมๆ เชิดหุ่นกระบอกพ่องมึง สาดด กูจะโชว์พลังหมัดเว้ย เสียหมดเลย

    "เพื่อนผมเรียกแล้ว ถือว่าลุงโชคดีไปละกัน ไปแระ" ลุงแม่รงขำไรวะ ผมเปล่าชิ่งนะ ก็ไอ้ภูมิมันเรียก ให้คนรอนานมันไม่ดี(เหรอออออออ)
    "มีไร" ผมเดินหน้าเป็นตูดไปหาไอ้ภูมิ

    "น้ำกูละ" หือ?น้ำมึง ผมแอบอมยิ้มคิดทะลึ่ง น้ำมึงก็อยู่กับมึงดิ ก๊าก

    "มึงคิดเหี้ยไรเนี่ย กูหมายถึงน้ำดื่มไปเอามา" นี่มันรู้ความคิดผมด้วยหรอเนี่ย อ่า ไอ้นี่น่ากลัว แต่ผมว่าผมกลัวตัวเองมากกว่า ฮ่าฮ่า ก๊ากๆ

    "เออๆ" ผมเดินไปหยิบน้ำเปล่าและสปอนเซอร์มา ประสบการณ์สอนให้รู้ว่าอย่าเดาใจไอ้ภูมิว่ามันจะเอาอะไรทางที่ดีควรจะเตรียมของมาให้มันเลือกแดกเองจะดีกว่า

    "มึงไปคุยอะไรกับลุงสัก" มันกระเดือกน้ำด้วยท่าทางสุดเท่ห์ มันคงไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองกินน้ำได้เท่ห์แค่ไหน อิจฉาเว้ยยย แล้วมันถามว่าอะไรนะ ลุงสัก ?

    "ลุงสัก ใครวะ"

    "ก็คนที่มึงคุยด้วยเมื่อกี้ไงลุงสักเจ้าของค่าย"

    "ห๊า!!!เจ้าของค่าย!! ">o<งามหน้ามั้ยละมึงไอ้พีม เกือบมีเรื่องกับเจ้าของค่ายมวย เกือบกลายเป็นศพแล้วมั้ยล๊า ไอ้ภูมิมองผมงงๆมันส่ายหน้าเอือมๆแล้วกลับไปซ้อมต่อ

    ผ่านไปเกือบๆชั่วโมงมันก็เลิกแล้วก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนกลับลุงสักแวะมาคุยกับมันแถมเดินมาส่งด้วย ผมละอายแทบไม่กล้ามองหน้าแกแต่ก็ถือโอกาสขอโทษลุงสัก ลุงแกใจดีผิดกับหน้าโหดๆมากครับแกบอกว่าผมตลก น่ารักดี จะไม่ปลื้มก็ตรงนี้แหละ
       -_-

    "เพื่อนคุณภูมิตลกดีนะครับ"

    "หึ มันไม่ค่อยเต็มน่ะ" ถึงผมจะเก็บของอยู่หลังรถผมก็ได้ยินนะครับเชี่ยภูมิครับ

    "คุณท่าานสบายดีมั้ยครับ" ทำไมต้องนอบน้อมถ่อมตนกับไอ้เด็กโหดอย่างไอ้ภูมิด้วยลุง

    "ก็ดีครับ ลุงสักก็ไปหาพ่อบ้างสิ บ่นอยากเจอเหมือนกัน" ผมเบะปากเลียนเสียงไอ้ภูมิ ก็ดีครับ ได้ครับ แหยะๆๆ

    "ลุงก็อยากไปครับ แต่ช่วงนี้เด็กในค่ายเดินสายแข่งเยอะ ลุงเลยยุ่งๆยังไงก็ฝากสวัสดีคุณพ่อด้วยนะครับ"

    "ครับ งั้นผมกลับแล้วนะ"


    "ครับ ว่างๆก็มาอีกนะครับคุณภูมิ"
    "ครับ  เฮ้ยไอ้เตี้ย เสร็จยัง ชักช้า"

    "เออๆเสร็จแล้วๆ แม่รงดุจังวะ แฮ่ๆผมกลับแล้วนะคร้าบ ขอโทษอีกครั้งนะครับคุณลุง"ผมรีบวิ่งมาหามันก่อนที่ระเบิดอารมณ์มันจะลงใส่กบาลผม

    "อุบะ ไอ้หนูนิ บอกว่าไม่เป็นไร ว่างๆก็มาได้นะเดี๋ยวลุงฝึกมวยให้"

    "คร้าบบ งั้นกลับนะครับ สวัสดีครับ" ไอ้ภูมิกับผมไหว้ลาลุงสัก แล้วขึ้นรถกลับบ้าน ฮ้าาา เพิ่งเคยมาค่ายมวยครั้งแรก สนุกดีแฮะเกือบชกกับเจ้าของค่าย เหอๆ แรงตลอดนะมึงไอ้พีม




    "มึงๆ"นั่งรถมาได้ซักพัก กระเพาะผมก็ยื่นอุทธรณ์ร้องขอความเป็นธรรม หิวๆๆๆๆ

    "มีไร" มันขานรับสั้นๆโดยไม่หันมามองผม


    "หิวข้าว" คราวนี้มันยอมหันหน้ามามองผมแล้ว แต่ถ้ามองดุๆอย่างนี้ก็หันไปมองถนนต่อเหอะ ก็ผมหิวอ่ะ นี่มันจะสองทุ่มแล้วนะ ผมกำลังกินกำลังโตนิ(แต่คงจะไม่โตไปกว่านี้แล้วมั้ง)


    "เรื่องมาก"

    "ก็กูหิว งั้นมึงก็จอดเดี๋ยวกูกลับเอง"


    "นี่มึงคิดว่ากูจะไปส่งหรอ"

    "อ้าว" ผมเหวอเลยครับ ใช่ครับผมคิดว่ามันจะไปส่ง แต่รู้แล้วหล่ะว่ากำลังคิดผิด คิดผิดก็คิดใหม่ มันจะไปยากอะไรกลับเองก็ได้เว้ย


    "จะกินไร"  ผมหันไปมองมันอีกครั้งด้วยความงงและมึน ผมก็ขอยืนยันคำเดิมนะครับว่าตามอารมณ์คุณชายแกไม่ทันจริงๆ

    "บะหมีเกี๊ยว นั่นๆ ร้านตรงนั้น" ผมมองไปเห็นคล้ายๆจะเป็นโต้รุ่งขนาดย่อมๆอยู่ริมถนน

    "สกปรก" จี๊ด คำๆนี้จี๊ด
    "เออ!! ของข้างทางมันสกปรกสำหรับคุณชายอย่างมึง งั้นจอดรถกูจะลง"


    "กูหมายถึงมึงต่างหากสกปรก น้ำยังไม่อาบกล้าลงไปกินข้าวท่ามกลางผู้คนอีกหรอ"

    “อ้าว เอ่อ ก็… ก็ไม่เห็นเป็นไรนิ" บทสนทนาจบลงพร้อมๆกับไอ้ภูมิตบไฟเลี้ยวเข้าจอดริมฟุตบาทและหน้าผมที่แหกและชาไม่รู้ว่าควรโกรธมันที่ด่าผมสกปรกหรือควรอายหรือควรดีใจที่จะได้กินข้าวหลากหลายอารมณ์จริงๆอยู่กับไอ้บ้านี่เนี่ย

     และก็อย่างที่คิดครับพอเดินลงมาคนที่นั่งอยู่ก็มอง แม้แต่คนที่นั่งอยู่ร้านข้าวมันไก่ข้าวขาหมูที่อยู่ถัดไปยังมีสะกิดบอกกันมองด้วย เอ่อ ผมกับมันไม่ใช่คนเหล็กสามนะครับ
    ร้านนี้มีแค่สี่ห้าโต๊ะเอง ก็นะบะหมี่เกี๊ยวริมถนนจะให้มีอะไรเยอะแยะผมเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ด้านใน กลัวว่าถ้าเลือกนั่งติดถนนไอ้ภูมิจะไม่กล้าแดก

    "เอาไรพ่อหนุ่ม"
    "บะหมี่เกี๊ยวต้มยำเพิ่มเกี๊ยวด้วยนะป้า"ผมตะโกนสั่งเสร็จก็หันมาถามไอ้ภูมิ ที่เอาแต่เงียบ

    "มึงกินไร"

    ".................."ก็ยังเงียบ


    "เฮ้ยมึง ป้าเค้ารอ"

    "กูสั่งไม่เป็น" มันพูดเสียงเบา แล้วเสหน้าไปมองถนน เฮ้ย ไอ่ห่านี่ใครวะมันแอบแดกไอ้ภูมิเข้าไปใช่มั้ย คายไอ้โหดออกมานะเว้ย

    "ห๊ะ??"

    ^_^

    >_<

    "กูสั่งไม่เป็น!!" คราวนี้มันทำหน้าเหมือนโกรธๆผมที่หลุดขำเลยรีบกลั้นยิ้ม

    "เอาเหมือนกันอีกชามครับป้า แล้วก็เป๊ปซี่สองขวดน้ำแข็งสองแก้วครับ" ผมมองหน้ามัน ทั้งอยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้ากลัวมันต่อยฟันร่วง เลยได้แต่ยิ้มกลั้นหัวเราะจนท้องแข็ง

    ไอ้ภูมิชูกำปั้นใส่ผมแล้วถลึงตาโหดๆใส่อีก ปกติผมก็คงจะหงอกับท่าทางแบบนี้ของมันแต่ตอนนี้ดูยังไงก็เหมือนเด็กเอาแต่ใจแค่นั้น

    "มันไม่มีเมนู กูไม่รู้ว่าต้องสั่งยังไง"มันเก๊กเสียงเย็นชา โห่ ไอ้ฟอร์มจัด ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย

    "แสดงว่ามึงไม่เคยกินบะหมี่เกี๊ยว" นาทีทองครับเมื่อมีโอกาสผมเลยต้องคว้าไว้ ผมรีบทำตัวเป็นบอใบไม้ ทับทม หึหึ

    "ควาย กูเคยกินเหอะแต่ไม่เคยนั่ง เอ่อ ร้านแบบนี้หรือถ้าอยากกินก็บอกให้คนใช้ที่บ้านไปซื้อให้" โหหห มันคุณชายกว่าที่ผมคิดอีกนะเนี่ย เออเว้ยไอ้เราก็นึกว่าจะมีแต่ในหนังในละคร สงสัยที่เขาว่ากันว่าชีวิตจริงยิ่งกว่าละครจะจริง หึหึ

    "เออๆก็แค่บอกว่าสั่งไม่เป็นก็จบไม่เห็นต้องโวยวาย" ผมยิ้มขำมัน ผมไม่ได้ขำเยาะเย้ยมันที่สั่งไม่เป็น แต่แค่คิดว่า มันก็เป็นอะไรที่น่ารักดี

    "อ่ะ ได้แล้วพ่อหนุ่ม "

    "ขอบคุณครับ เอ่อป้าขอน้ำซุปด้วยนะ" คุณป้ายิ้มใจดีแล้วก็กลับไปตั้งน้ำซุปชามโตมาให้ ไอ้ภูมินั่งจ้องชามบะหมี่ตาปริบๆ

    "อ่ะ"ผมยื่นช้อนกับตะเกียบให้มัน "มานี่กูปรุงให้" แค่สั่งมันยังไม่เป็น ก็ไม่ต้องหวังว่ามันจะปรุงเป็น

    "กูทำเป็นน่า ไม่ต้องยุ่ง" เมื่อมันยืนยันแบบนั้นผมก็ปล่อยมันทำไป แต่ผมแอบเห็นนะว่ามันจะตักตามที่ผมตัก หึหึ ไอ้ฟอร์มจัดเอ๊ย จริงๆผมไม่ค่อยชอบปรุงหรอกเพราะบะหมี่เกี๊ยวมันอร่อยอยู่แล้ว ก็เลยจัดการโซ้ยให้ว่องส่วนไอ้ภูมิมันก็กินของมันไป

    "อะอ่อยอั๊ยอึง" ผมพยายามเงยหน้าขึ้นคุยกับไอ้ภูมิทั้งที่เส้นคาปากและอีกส่วนอยู่ในชาม ไอ้ภูมิมองผมเหมือนรับไม่ได้ ผมยักไหล่ไม่แคร์ ผมไม่ใช่สาวน้อยขี้อายที่ต้องมานั่งดัดจริตจกร้านกินคำเล็กคำน้อยเรียบร้อยต่อหน้าชายหนุ่มนะ ก็เป็นของผมแบบนี้ ไม่สนเว้ย ผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินไม่ได้สนใจไอ้ภูมิเท่าไร

    "เผ็ด!!!"

    "หืม" ผมก็งงสิครับเลยเงยหน้าขึ้นมอง เฮ้ย!! สภาพไอ้ภูมิแบบว่าปากมันแดงเจ่อ  แก้มก็แดง หูยิ่งแดง เหงื่อก็ออกซะเต็มหน้า ผมอยากจะปล่อยก๊าก ไอ้ภูมิกินเผ็ดไม่ได้

    "มึงกินเผ็ดไม่ได้หรอ"

    "ไม่ใช่ !!!กู แค่ แค่ กูแค่ไม่ชอบ" ทั้งที่จริงผมอยากระเบิดเสียงหัวเราะ(เยาะเย้ย)และอยากจะสมน้ำหน้ามันนะ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ มันเหมือนเด็กเลย ผมเอามือไปแตะก้อนน้ำแข็งที่ป้าเอามาเสิร์ฟเกิน จนรู้สึกว่ามือชาแล้วยื่นไปแตะปากไอ้ภูมิ


    อาจเป็นเพราะผมไม่ทันได้คิดอะไร อาจเป็นเพราะผมแค่อยากจะช่วยมันให้หายเผ็ด แต่เหมือนใครกดปุ่มอะไรซักอย่างให้หยุดทุกสิ่งรอบๆตัวของผม ความรู้สึกบางอย่างตอนที่ผมสบตากับดวงตาคมสีดำขลับของมัน ความรู้สึกบางอย่างวิ่งชนผม มันรวดเร็วมาก
     

    อะไรกัน อะไรที่ทำให้หัวใจผมกระตุกจนรู้สึกอุ่นๆในอกแบบนี้


    "เอ่อ คือ โทษที คือ" ผมรีบชักมือกลับทันทีที่ตื่นจากภวังค์บ้าๆนั่น มันจะซัดปากผมรึเปล่านะที่บังอาจไปแตะต้องร่างกายมันแต่ดูเหมือนไอ้ภูมิเองก็มึนๆกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มันสบัดๆหัวแต่หลังจากนั้นมันก็


    "แหวะ มือเค็มวะ หึหึ" มันพูดทั้งที่พยายามมเป่าปากไล่ความเผ็ด

    ^__^


    "เชี่ยยยคราวหลังกูไม่ช่วยแล้ว แม่งบรรยากาศเสียหมด" ไอ้ประโยคแรกอะด่ามัน แต่ประโยคหลังผมพึมพำกับตัวเอง แต่!!!


    เมื่อกี้นี้มันยิ้ม ไอ้ภูมิยิ้ม OoOผมอยากได้กล้องซักแปดล้านพิกเซลเพื่อเก็บชอตหายากแห่งปี ผมเพิ่งเคยเห็นมันยิ้มแบบเต็มปากเต็มแก้มครั้งแรก


    จะพูดให้ถูกต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นมันยิ้ม อาจเป็นเพราะรอยยิ้มของมันหรือเพราะอะไรผมก็ไม่อาจรู้ได้ที่ทำให้ผมนิ่งค้างอีกรอบ




    แต่สิ่งที่ผมรู้ในตอนนี้คือรอยยิ้มของไอ้ภูมิก็สวยดีแฮะ^___^
     
     






     TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



     

    ...........................................
     




     
    Talk:เชิญด่าและสาปแช่งที่ข้าพเจ้าหายไปได้ตามใจชอบคะ หึหึ แต่ยาวสะใจใช้ได้ทีเดียวเนอะ หรือจะเอายาวกว่านี้ เค้าสามารถนะเออ^_^

    ปล.1 ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและทุกๆกำลังใจนะคะ ขอบคุณคร๊า อิอิ

    ปล .2 นายเอกกรุณาครองสติให้มั่น อย่าเป๋นะพีม หึหึ

    เจอกันหลังสอบเสร็จคะ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×