สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความฝัน
สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความฝัน
ผู้เข้าชมรวม
213
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความฝัน
เมื่อคืนฉันฝันถึงมันอีกแล้ว
ฉันเคยได้ยินคำโบราณคำหนึ่งว่าห้ามเล่าความฝันตอนกำลังกินข้าว ซึ่งฉันก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร ? ทำไม ? มันเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องจำคุกประหารชีวิตเลยหรือเปล่า ? หรือมันเป็นเพียงความเชื่อที่สานสืบต่อกันมาโดยไร้เหตุผลอธิบาย-แต่ถึงอย่างไร ฉันก็ไม่ได้อยากใส่ใจอยากรู้กับเรื่องอย่างนี้มากมายหรอก (ฉันว่าเรื่องดาราตบตีกันยังน่าสนใจกว่าเป็นสิบเป็นร้อยเท่า) เพราะฉันเป็นคนที่ไม่ชอบความฝัน
ฉันเกลียดความฝันของตัวฉันเอง
จำได้จนไม่อยากจำว่าฉันเป็นคนที่ฝันบ่อยเหลือเกิน เกือบทุกคืนก็ว่าได้ บางคืนฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมกับเหงื่อหยาบที่เปียกชื้นเต็มตัว บางคืนฉันปล่อยร้องไห้โฮออกมาอย่างกับเด็กที่ไม่เคยร้องไห้ ความฝันมันไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกดีเลยสักครั้ง บางครั้งฉันพยายามฝืนตาไม่ให้หลับลงเพียงเพราะฉันกลัวที่จะฝันอีกครั้ง
บ่อยครั้งที่ฉันมักจะได้ยินเพื่อน ๆ ของฉันเล่าความฝันให้ฟังกลางโต๊ะอาหาร บางคนถอดความฝันเป็นตัวเลข บางคนถอดความฝันเป็นรอยยิ้ม คงมีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้นแหละมั่งที่ถอดรหัสความฝันด้วยน้ำตา และบ่อย ๆ ขณะที่เพื่อนของฉันนั่งแลกเปลี่ยนความฝันตักมันออกจากปากมาแบ่งบันกันอย่างสนุกสนาน ตัวฉันทำได้แค่นั่งนิ่ง-เงียบ และเฉย จนเพื่อนถามว่าเป็นอะไร
ใจฉันอยากจะพูดว่าไม่อยากเล่า ไม่อยากฟัง แต่ก็ตอบให้ตัวเองดูดีได้ออกไปว่า โบราณเขาถือไม่ให้เล่าความฝันขณะกินข้าว (ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่เชื่อคำเตือนนี้เลยสักนิด)
ด้วยความเป็นคนที่เกลียดความฝันตัวเองจนเข้าขั้นโรคจิต มันทำให้ฉันพยายามหาทางหนีมันด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้ฉันไม่ต้องฝัน บางครั้งฉันนั่งสวดมนต์ก่อนนอนเป็นชั่วโมง ๆ หวังให้ใจมันสงบ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย บางครั้งฉันหายานอนหลับมากินเพื่อที่จะไม่ให้ฝัน ฉันคิดว่าการหลับลึกลงไปเลยอาจทำให้ความฝันไม่สามารถตามมารังควานได้ แต่ที่ไหนได้ฉันกลับต้องฝันยาวนานกว่าเดิม ทรมานกว่าเดิม และรู้สึกแย่กับตัวเองมากกว่าเดิมตอนที่สะดุ้งตื่นขึ้นมา
เวลาที่ฉันสะดุ้งตื่นจากความฝันกลางดึก หลังจากปาดน้ำตาจากสองขอบแก้มเสร็จสิ้น ฉันมักจะจ้องมองฝ่ามือของฉันในความสลัวและพร่ามัวของม่านตา-ทุกครั้งมันเป็นเพียงฝ่ามือเปียกชื้นที่ว่างเปล่า ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่ไม่ได้หยิบอะไรออกมาจากความฝัน
ฉันเคยอ่านขอความประโยคหนึ่งในหนังสือ ข้อความเกี่ยวกับความฝันเขาบอกว่า คนที่ไม่มีความฝันคือคนที่ตายไปแล้ว ฉันอ่านจบแล้วรู้สึกจุกหน้าอกแปลบขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ-วันนี้หากฉันเลือกได้ฉันขอเลือกเป็นคนที่ตายไปแล้ว เพราะมันเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่งที่จะทำให้ฉันไม่ต้องฝันอีกต่อไป แต่ฉันไม่สามารถหนีความจริงพ้น ฉันยังไม่มีโอกาสได้พรสวรรค์ข้อนี้มาครอบครอง ทุกครั้งที่ฉันแตะหน้าอกตัวเอง มันร้อนผ่าวและเต้นเป็นจังหวะช้าบ้างเร็วบ้างอยู่ตลอดเวลา-ฉันยังไม่ตาย ความฝันยังคงคงอยู่กับฉันต่อไป
แล้วความจริงล่ะ ฉันถามตัวเอง ?
ฉันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ของฉันจะเป็นอย่างไร ฉันไม่รู้ว่าฉันจะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างไรโดยไม่มีน้ำตาและไม่ฝันถึงมัน จ้องมองฝ่ามือที่ว่างเปล่าของตัวเอง ความว่างเปล่าห่อหุ้มสองมือจนทำให้ฉันรู้สึกเหงา-แต่ความเหงามันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีกว่าความฝัน
เดินจูงมือกัน ภาพวันวานถูกฉายวนอยู่ในความฝัน ทุกครั้งที่หลับตาฉันฝันถึงมัน ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามจะลืมมัน
หากคืนนี้ฉันฝันอีกครั้ง
ฉันภาวนาขอให้มืออุ่น ๆ นั้นหายไป ขอให้ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีในวันวานจางหายจนหมดไป ขอให้ฉันเดินคนเดียวในความฝันเหมือนที่ฉันเดินคนเดียวในโลกแห่งความจริง
ถึงแม้มันจะเหงาบ้างนิดหน่อย แต่มันก็คงดีกว่าที่อย่างน้อย ฉันก็สามารถลืมมันไปได้จริง ๆ สักที
ฉันไม่ต้องการมืออุ่น ๆ คู่นั้นอีกแล้ว-จริง ๆ
ผลงานอื่นๆ ของ เรื่อยเปื่อยฯ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เรื่อยเปื่อยฯ
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น