ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Baramos หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน ปีสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

    ลำดับตอนที่ #6 : ง้อสาว

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 53


    ตุบ

    หมอนอีกใบถูกเขวี้ยงไปที่พื้น ก่อนที่เจ้าตัวยุ่งจะกระโดดลงไปแล้วตั้งหน้าตั้งตาต่อยหมอนใบนั้นโดย จินตนาการให้เป็นหน้าใครบางคนที่สร้างความหงุดหงิดให้เธอเป็นที่สุด

    ไอ้คาโลบ้า

    ง้อประเทศไหนเขาง้อกันแบบนี้

    ไอ้เราพอเห็นมันเปิดประตูเข้ามาก็นึกว่าจะพูดดี ๆ  แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นกวนตีน

    เป็นไงบ้าง ขี้แล้วใช่มั้ย คราวหลังเวลาปวดขี้ก็อย่าอั้นนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย  ฉันเป็นห่วง

    คิดแล้วก็ยิ่งโมโห  นี่มันเห็น หน้าเธอติดคำว่าปวดขี้อยู่รึไง ถึงได้ทักแต่อย่างนั้น

    ถึงไอ้คำว่าเป็นห่วงจะชวนให้ใจเต้นอยู่บ้าง แต่พอมองหน้ามันนี่ก็อย่างกับมีคนมาจับกรอกปากพูด ทำเอาอดไม่ได้จนต้องไปสร้างรอยแผลให้หน้าหล่อ ๆของมัน

    เมื่อเฟรินเริ่มเมื่อยจึงโยนหมอนขึ้นเตียง ชั่วครู่ความคิดสุดแสนบรรเจิดก็แวบเข้ามาในหัว เฟรินยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมองไปที่ประตูแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งไปใส่กลอนประตูทันที  นัยน์ตาสีน้ำตาล มองเตียงของบุรุษที่บัดนี้กำลังไปประชุมกับผู้พิทักษ์ป้อมอย่างเจ้าเล่ห์  รอยยิ้มที่ดูน่าขนลุกปรากฎขึ้นบนใบหน้าหวานที่กำลังฉาย รอยสะใจ

     

     

    คาโลยืนอยู่หน้าห้องตัวเองเป็นเวลานาน นึกแค้นเพื่อนสนิทอยู่รำไรเพราะหลังจากประชุมเสร็จทายาทนักฆ่าก็บอกว่าง่วง นอน แล้วชิ่งไปทันที

    วันนี้ประชุมนานมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ๆ เสียงในห้องเงียบไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับอะไร  คิ้วเรียวของคาโลขมวดเป็นปมแน่นก่อนจะคลายออกพร้อมกับการ เปิดประตู

    นัยน์ตาสีฟ้าสอดส่องไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่พบกับร่างของใคร คาโลถอนหายใจอย่าง    โล่งอก ขายาวก้าวฉับๆไปยังโต๊ะประจำที่บัดนี้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม มีโคมไฟขนาดย่อมตั้งอยู่ด้านซ้ายของโต๊ะ

    โต๊ะที่เป็นระเบียบเสมอ  ไม่ว่า เจ้าของโต๊ะจะงานยุ่งเพียงใด

    แต่แล้วนัยน์ตาสีฟ้าก็ไปสะดุดอยู่ที่ร่างบางที่นั่งขด อยู่ที่กำแพง 

    มันคงรอจนหลับ...

    คาโลขยับตัวไปทางร่างบอบบางก่อนจะร่ายมนต์  รอยช้ำค่อยๆหายไปจนมองไม่เห็นนัยน์ตาคู่สวยที่มักจะแสดง ความเย็นชาเสมอแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักปากบางแย้มรอย ยิ้มมุมปาก

    “ หนาว” เสียงหวานดังขึ้น มือเล็กลูบแขนเบาๆ  คาโลขมวดคิ้ว

    ห้องที่ไม่ได้เปิดเครื่องทำความเย็นไว้เลยจะหนาวได้ไง หรือว่า...

    มือขาวเอื้อมไปจับหน้าผากมนเบาๆก่อนจะชักมือออกอย่างรวด เร็ว

    ตัวร้อนอย่างกับไฟ...

    “ หนาว” เสียงหวานดังขึ้นอีกรอบ

    “ เฟริน” คาโลเรียกแต่หญิงสาวยังไม่รู้สึกตัว

    “ หนาว” คาโลรีบอุ้มคนป่วยไปที่เตียง แต่เมื่อจะวางร่างลงไปที่เตียงเจ้าหล่อนก็เกร็งตัวเอาไว้  มือ ร้อนจัดกอดเจ้าชายคนสำคัญไว้แน่น  หน้าหวานขยับเข้า มาจนจะติดดวงหน้าขาวๆของคาโลก่อนจะทิ้งน้ำหนักไปที่ไหล่กว้าง

    “ เฟรินไปนอนที่เตียง”

    “ ฮื้อ” เสียงครางเบาๆ

    “ เฟรินไปนอนที่เตียงเถอะ  เดี๋ยว ไข้ไม่ลด” น้ำเสียงแสดงถึงความห่วงใยของผู้พูด

    “ ไม่เอาเตียง ไม่เอา...” เสียงครางซ้ำๆพร้อมกับการเพิ่มแรงรัด  ร่างที่ฉวย โอกาสกอดเจ้าชายคนสำคัญสั่นเทา

    “ ไม่เอาเตียง...” น้ำเสียงคราวนี้สั่นเครือทำเอาคนถูกฉวยโอกาสก้มลงไปมองหน้าคนพูดก่อนจะทำ หน้าตกใจ

    “ เฟรินร้องไห้ทำไม” แต่เสียงนุ่มกลับเรียกน้ำใสๆให้ไหลออกมาอีกครั้ง

    “ ไม่เอาเตียง...” คาโลขมวดคิ้วอีกครั้งแต่ก็เดินออกมาจากเตียงแล้วตรงไปที่โซฟาขนาดใหญ่กลาง ห้องแล้ววางร่างเจ้าหญิงคนสำคัญลงอย่างทะนุถนอมแต่มือเล็กยังไม่ยอมปล่อย

    “ หนาว” เสียงเครือดังขึ้นอีกครั้ง

    “ เดี๋ยวไปเอาผ้าห่มให้” คาโลแกะมือคนป่วยออกก่อนจะเดินไปที่เตียงเพื่อหยิบผ้าห่มมาให้สตรีคนสำคัญ

    “ อย่าไปที่เตียง...” น้ำเสียงเสียงปนสะอื้นทำให้คาโลหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมาทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลที่คลอไปด้วยน้ำใส ๆ ปรือขึ้นเล็กน้อย มือเล็กที่พยายามยกขึ้นตกลงไปบนโซฟาอย่างหมดแรง  ท่าทางที่ดูน่าสงสัย สายตาพ่อมดคนเก่งแห่งคาโนวาล

    ... เตียงมีอะไร

    คาโลก้าวฉับ ๆไปที่เตียงโดยไม่ฟังเสียงห้ามที่ดังจากปากคนป่วย  มือ ขาวกระชากผ้าห่มออกทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×