ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Baramos หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน ปีสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

    ลำดับตอนที่ #5 : สาวงาม

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 53


    ก๊าก

    เสียง หัวเราะที่ดังขึ้นทันทีที่ผู้คุมกฎสาวที่กำลังอารมณ์แปรปรวนลุกจากโต๊ะไป นัยน์ตาสีฟ้าหันไปหาเพื่อนซี้ที่กำลังหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างสงสัย เป็นที่สุด

    “ มันเป็นอะไรของมัน”  คำ ตอบที่ไม่มีใครคิดจะตอบเพราะทุกคนยังหัวเราะไม่หยุดกับมาดเจ้าชายน้ำแข็งที่ หลุดไปต่อหน้าต่อตา แม้แต่สามสาวแห่งป้อมอัศวินก็ยังอดหัวเราะไม่ได้  ครี๊ดมองหัวหน้าป้อมที่ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างขบขันแต่ก็ตัดสินใจไม่พูดอะไร

    นาน ๆทีจะได้เห็นเจ้าชายคนสำคัญหลุดมาด ยังไงก็ขอดูให้เต็มที่ดีกว่า

    “ คุณคาโลไม่น่าไปพูดอย่างนั้นเลยนะคะ” เจ้าหญิงคนงามแห่งป้อมอัศวินเอ่ยปากขึ้น เสียงหัวเราะจึงได้หยุดลงก่อนจะมองไปยังเจ้าหญิงคนสวยที่กำลังจะเรียกมาดที่ หลุดไปให้กลับมาสู่หัวหน้าป้อมอัศวินราวจะห้าม

    “ อย่างไหน  ฉันพูดอะไรผิด”

    “ ก็ตั้งแต่ที่ถามว่าคุณเฟลิโอน่าปวด... เอ่อ อยากถ่ายหนัก แล้วล่ะค่ะ”  คำพูดที่สุดแสนจะหยาบคายสำหรับเรนอนถูกเปลี่ยนไปเป็นคำพูดแสนสุภาพ แต่คาโลยังคงไม่เข้าใจ

    “ แค่ทักแค่นั้นเนี่ยนะ”

    “ นายควรจะเข้าใจอารมณ์ผู้หญิงให้มากกว่านี้” อาจารย์ครี๊ดเริ่มบรรยาย “ ผู้หญิงเป็นเพศที่ละเอียดอ่อน คิดมากกว่าคนทั่วไปสองเท่า  เพราะฉะนั้นการที่จะพูดอะไรก็ต้องคิดยิ่งกว่าเดิมเป็นสองเท่า”

    เมื่อคนฟังที่ตอนนี้หลายเป็นเพื่อน ๆทั้งโต๊ะยังทำหน้าไม่เข้าใจ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงแต่ยังหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้จึงชี้แจง

    “ ก่อนจะพูดอะไรก็ต้องคิดให้มาก  คิดให้ละเอียด  คิดจนกว่าจะแน่ใจว่าจะไม่ทำให้เจ้าหล่อนขัดใจ ถ้ายังไม่มั่นใจก็คิดต่อไปเรื่อย ๆ” ซอร์โร ฟังเพื่อนร่วมป้อมพูดจึงแย้งขึ้น

    “ คิดขนาดนั้นก็คงไม่ต้องพูดอะไรแล้วมั้ง”

    “ นี่แกไม่เชื่อฝีมืออาจารย์ครี๊ด ธันเดอร์คนนี้รึไง” สายตาทุกคู่แสดงถึงความไม่เชื่อถือออกมาอย่างเด่นชัด ผู้เชี่ยวชาญทำเสียงจิ๊จ๊ะเล็กน้อยก่อนจะหันไปคุยกับคนที่กำลังประสบปัญหา อยู่

    “ สำหรับนาย คาโล  นายแค่ไปพูดหวาน ๆกับมันซักนิดหน่อยเดี๋ยวมันก็หายงอนไปเองแหละ”

    “ การง้อสตรีไม่ใช้วิสัยของนักรบ” คำพูดเรียบ ๆแต่เต็มไปด้วยมาดเหลือล้นทำให้ครี๊ดถลึงตามอง

    “ แล้วจะให้ผู้หญิงมาง้อเองนี่มันเป็นนักรบตรงไหนมิทราบ เจ้าชายคาโล วาเนบลี”

    หน้า ขาว ๆของคาโลที่บัดนี้แทบจะดูสภาพไม่ได้เนื่องจากมีรอยช้ำมากมายจนนับไม่ถ้วน แล้วยังมีรอยใหม่เอี่ยมที่ดูจะช้ำกว่าที่อื่นอยู่บนโหนกแก้ม นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้ารับข้อเสนอ

    “ จะลองดู”

       

    ก๊าก

    เสียงหัวเราะน่าปวดหัวของคิลทำให้คาโลถึงกับกุมขมับ

    ไหนมันบอกว่าแค่พูดหวาน ๆนิดหน่อยมันก็หายงอน  แล้วนี่อะไร

    แค่เขาอ้าปากพูดไปแค่ประโยคเดียวเท่านั้นแหละ หมัดเล็ก ๆแต่หนักเกินตัวก็ลอยมาที่หน้าเขาทันทีแถมเที่ยวนี้เอาซะปากแตก

    คิลม องหน้าเพื่อนซี้ที่ตอนนี้กำลังกลุ้มใจกับปัญหาหนักอกอย่างขบขัน หน้าขาว ๆแทบจะดูไม่ได้โดยเฉพาะปากที่เจ่ออยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับมีเลือดไหลซิบ ๆ

    ท่าทางมันจะลืมว่าตัวเองมีเวทย์รักษา ...

    นัยน์ตาสีม่วงพราวระยับ  ก่อนจะตบบ่าเพื่อนแรง ๆ

    “ นายก็เหลือเกิน” นัยน์ตาสีฟ้าเย็นเฉียบดูน่ากลัว แต่ความขบขันของคิลมีมากกว่า “ เป็นใครได้ฟังนายพูดก็คงจะอารมณ์เสีย”

    “ ยังไง” เสียงเรียบที่ตวัดขึ้นทำให้เดาอารมณ์ได้ไม่ยาก

    ... บื้อเกินไป ตรงเกินไป  คงอีกนานกว่าคู่นี้จะไปได้ราบรื่น

    “ นายลองคิดดูเองแล้วกัน” คิลพูดอย่างไม่คิดต่อความ “ดีนะที่มิสแรมเชลเรียกพบ ไม่อย่างงั้นนายคงจะสภาพแย่กว่านี้”

    นัยน์ตาคู่สวยยังฉายแววงุนงง คิลได้แต่ถอนหายใจเฮือกแต่ไม่คิดจะอธิบายอะไรอีก

    เจ้าหญิงจอมแสบที่จะโกรธทั้งทีก็ดันไปยึดห้องนอนของหัวหน้าป้อมทั้ง ๆที่พอขึ้นปีเจ็ดก็มีห้องเป็นของตัวเองแล้ว

    สงสัยจะกลัวว่าเจ้าชายคนสำคัญจะไม่ง้อ

    ประสาท...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×