คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ห้องแาหารดรากอน
“ คาโล แกไปต่อยกับใครมาวะ” ครี๊ด ธันเดอร์มองคนที่ดูไม่น่าจะไปมีเรื่องกับใคร คำตอบที่ได้รับเป็นความเย็นเยือกจากนัยน์ตาสีฟ้าจนเจ้าตัวต้องหัวเราะแหะ ๆแล้วก้าวเท้าถอยออกมา ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นนักฆ่าที่มีสภาพไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
“ คิล แกไปทำอะไรมา” นัยน์ตาสีม่วงตวัดมามองอย่างไม่สบอารมณ์ รังสีฆ่าฟันรุนแรงแผ่ออกมาจนครี๊ดผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ “ ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร”
รังสีฆ่าฟันจึงได้หายไป พร้อมกับร่างของคิลที่เดินตามเพื่อนไปนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่โต๊ะ
ครี๊ดมองคนที่นั่งหน้าบูดหน้าบึ้งอย่างสงสัย สาย ตาหันไปเห็นเฟรินเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบูดสนิท ครี๊ดที่ได้รับบทเรียนจากเพื่อนสองคนจึงตัดสินใจไม่ทักแล้วรีบเดินไปนั่งที่ โต๊ะรอให้คนอื่นเป็นคนรับกรมแทน
ทันทีที่เฟรินนั่งลงข้าง ๆเพื่อนซี้ทั้งสองคน บรรยากาศอึมครึมก็ยิ่งมากขึ้นจนไม่มีใครเอ่ยปากถามเรื่องรอยช้ำบนหน้าของคนทั้งสาม
ฉึก
เสียง จิ้มขนมปังที่ฟังแล้วน่าสยดสยองทำเอาหลาย ๆคนกลืนน้ำลายอึก ส่วนเจ้าคนที่จิ้มก็กลืนขนมปังลงไปราวคนอดอาหารมาทั้งวัน ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารโดยไม่สนใจใคร ทำเอาความอดทนของแองเจลลีน่า โรมานอฟขาดผึ่ง
“ พวกนายจะทำหน้าไม่รับแขกไปถึงไหน” เสียงตวาดที่ดังลั่นทำเอารุ่นน้องหลาย ๆคนถึงกับสะดุ้ง แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อไปเมื่อเห็นสายตาที่แสนน่ากลัวของเธอ
“ หูตึงกันหรือไง” นัยน์ตา สีน้ำตาลเบือนมาสบเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปกินต่ออย่างไม่ใส่ใจ เท่านั้นแหละแองเจลลีน่าถึงได้ปราดเข้าไปคว้าคอเสื้อของเฟรินแล้วจ้องหน้า ราวจะกินเลือดกินเนื้อ
“ เฟลิโอน่า เกรเดเวล ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าพวกนายสามคนทำไมถึงมีสภาพแบบนี้”
“ ถ้าเธออยากรู้ก็ไปถามคิลมันเอง” เสียง หวานที่ตอนนี้เจ้าของเสียงกำลังอารมณ์บูดสนิทตอบ ทำให้แองเจลลีน่าปล่อยคอเสื้อของเธอก่อนจะหันไปหานักฆ่าหนุ่มที่ถูกเจ้าตัว ต้นเรื่องโยนภาระมาให้
“ ไปถามคาโล” ความอดทนของสาวน้อยดูจะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆก่อนหันไปหาคาโลด้วยความเดือดดาล
“ นายเป็นถึงหัวหน้าป้อมแล้วมาทำตัวแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าไปทำอะไรมา”
“ เรื่องส่วนตัว” คำพูดสั้น ๆที่เรียกอารมณ์โกรธของแองเจลลีน่าได้มากโข แต่ก่อนทีเจ้าหล่อนจะกลายร่างเป็นปีศาจเสียงกวน ๆจากโรก็ดังขึ้นก่อน
“ หมาฟัดกันคงจะไม่อยากบอกใคร”
หมาสามตัวหันมามองหน้าขอทานปากพล่อยอย่างเอาเรื่อง ก่อนที่ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าปากพล่อยไม่แพ้กันจะเค้นเสียงออกมา
“ แกว่าใครเป็นหมา โร เซวาเรส”
“ แล้วแต่จะคิดแล้วกัน” โรเอ่ยเสียงยั่วยวน “โชคดีที่บ่ายนี้ไม่มีเรียนไม่อย่างนั้นพวกนายคงจะโดนคนอื่นซักยิ่งกว่านี้”
บรรยากาศอึมครึมเริ่มลดลง เมื่อ เจ้าตัวยุ่งถอนหายใจเฮือกอย่างไม่ถือความเพราะรู้ว่าขอทานกิตติมศักดิ์พูด เพื่อดับอารมณ์โมโหของแองเจลลีน่า เท่านั้นแหละคำถามจึงเริ่มดังขึ้นทันที
“ แกสามคนมีต่อยกันหรือไง” ยังคงเป็นครี๊ดเจ้าเก่าที่ถามขึ้นมาคนแรก
“ แกก็เห็นอยู่” คำตอบจากเฟริน
“ แล้วทำไมแกสภาพดีสุดวะ”
“ มันอยู่ที่ฝีมือ” เฟรินปล่อยมุกไปเล็กน้อยแต่ก็ทำให้ความเครียดที่มีอยู่หายวับไป
“ คุณคิลทำไมปากเจ่ออย่างนั้นล่ะครับ” ซีบิลล์ หนุ่มแสนสุภาพถามขึ้น นัยน์ตาสีม่วงมองเพื่อนสองคนอย่างไม่สบอารมณ์
“ มีพวกขี้โกงแอบร่วมมือกัน”
“ แล้วทำไมนายหน้ายับกว่าใครล่ะ คาโล” ครี๊ดยังคงถามไม่เลิก คราวนี้หันไปทางคาโลที่ตาช้ำทั้งสองข้าง ปากเจ่อ และมีรอยแดงอยู่เต็มหน้า
“ โดนคนที่ชกไม่ดูตาม้าตาเรือ กับคนที่ปากอยู่ไม่สุขต่อยเอา” คนที่ชกไม่ดูตาม้าตาเรือกับคนปากอยู่ไม่สุขหันควับ ก่อนที่คนชกไม่ดูตาม้าตาเรือจะสวน
“ ก็ใครใช้ให้แกทำตัวเป็นอัศวิน”
“ แถมปากแกก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันนักหรอก ถ้าเมื่อคืนแกไม่พูดแล้วมันจะเป็นขนาดนี้มั้ย” นัยน์ตาสีม่วงมองเจ้าชายสูงศักดิ์ที่บัดนี้ไม่เหลือเค้าเจ้าชายนอกจากนัยน์ตาที่ดูหยิ่งยโส
“ แล้วใครใช้ให้พวกแกสองคนเส้นตื้น” ทายาทนักฆ่ามองคาโลด้วยสายตาวาววับไม่ต่างจากเจ้าหญิงจอมยุ่ง คาโลมองทั้งคู่อย่างไม่สะทกสะท้านก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“ มีแต่พวกโง่เท่านั้นแหละที่ยุขึ้น” การตะลุมบอนจึงเกือบจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ถ้าไม่ถูกโร ครี๊ด และซอร์โรดึงเอาไว้
คน ฟังถึงเริ่มปะติดปะต่อได้ คาโลคงจะเข้าวงตะลุมบอนเพื่อปกป้องเฟริน แต่คนถูกปกป้องก็ชกไม่เลือกหน้าจึงโดนทั้งสองคน ส่วนคิลก็คงจะโดนหมัดของคาโลเป็นส่วนใหญ่เพราะดันไปต่อยภรรยาในอนาคตของเจ้า ชายคนสำคัญ
... ประสาท
ความคิดของทุกคนที่เริ่มประติดประต่อเรื่องได้
มาทิลด้าส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ขนาดหัวหน้าป้อม ผู้คุมกฎกับผู้พิทักษ์ป้อมยังเป็นได้ขนาดนี้ พวกลิงทโมนแห่งป้อมอัศวินก็คงไม่ต้องพูดถึง
... ไม่เหลือ
เมื่อเหตุการณ์เริ่มกลับมาสู่ปกติ ห้องอาหารดรากอนจึงสงบอีกครั้ง แต่ก็สงบได้พักเดียวก่อนที่เสียงพูดคุยครึกครื้นจะดังลั่นอีกครั้ง
“ หน้าที่ใหม่เป็นยังไงบ้างล่ะ” แองเจลลีน่าถามขึ้นเมื่อเสียงเฮฮาเบาลง
“ ก็ดี” เสียงเรื่อย ๆจากโร ที่ปีนี้ได้เป็นเสนาธิการฝ่ายขวา
“ ไม่เลว” ครี๊ดตอบอบ่างมีอารมณ์ขันเหมือนเดิม “ ตำแหน่งผู้พิทักษ์ป้อมก็น่าสนุกดี แต่คงสู้ตำแหน่งผู้คุมกฎไม่ได้หรอก”
พรวด
น้ำชาที่เพิ่งจะจิบเข้าไปพุ่งออกมาจากปากของเฟริน ครี๊ดที่นั่งอยู่ตรงข้างจึงได้รับเคราะห์ไปเต็ม ๆ
“ โทษที ไม่ได้ตั้งใจ” เฟรินหัวเราะแห้ง ๆ ครี๊ดพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจพลางเอาผ้าขึ้นมาเช็ดก่อนจะทำหน้าเหย
“เหม็นชะมัด” เฟรินหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะตอบกลับไปด้วยสีหน้าซื่อ ๆ
“ก็เมื่อเช้าไม่ได้แปรงฟันมา ถ้าไม่เหม็นสิแปลก” ครี๊ด อ้าปากค้างก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าอย่างรวดเร็วท่ามกลางเสียงหัวเราะของ เพื่อนๆรวมคนที่บอกว่าตัวเองไม่ได้แปรงฟันหน้าตาเฉยโดยไม่นึกถึงสภานภาพของ ตัวเอง
ถ้ามีใครรู้ว่าเจ้าหญิงแห่งบารามอสและเดมอสที่ไม่ได้มีความเป็นราชนิกูลอยู่เลยนั้น พูดจาแบบนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น
ความซวยสนิทของเดมอสกับบารามอส ที่จะมีทายาททั้งทีดันเป็นเจ้าหญิงปากพล่อยนี่
“ นายไม่ได้แปรงฟันจริงเปล่า” คิลกระซิบถามเพื่อนตัวแสบเสียงเบาแต่ก็ไม่เบาเกินกว่าความสามารถในการได้ยินของเพื่อนร่วมโต๊ะจึงเป็นผลให้คนที่ได้ยินหูผึ่งเป็นแถบๆ
“ จะบ้าเรอะฉันแค่แกล้งมันเล่น”
“ แกโกหกเปล่าวะ ” นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววขบขันก่อนจะหันหน้าไปทางคาโลที่นั่งเงียบมานาน
“ คิลมันไม่เชื่อ นายลองพิสูจน์ดูหน่อยสิ” เฟรินทำท่าจะอ้าปากใส่คาโล คนโดนแกล้งจึงรีบสวนขึ้นมาก่อน
“ ฉันเชื่อ ถ้าคิลมันไม่เชื่อก็ให้มันพิสูจน์เอาเอง”
“ ฉันเชื่อ” นักฆ่าที่เกือบถูกฆ่าตายทั้งเป็นรีบตอนขึ้นทันที เฟรินหัวเราะคิกคัก ภาพที่แองเจลลีน่าต้องส่ายหน้าอย่างปลง ๆ
ถึงเจ้าหญิงแห่งบารามอสจะไม่ได้มีความเป็นหญิงเลยซักนิด แต่ก็ควรจะอายบ้าง โดยเฉพาะคนที่เจ้าหล่อนท้าทายนั้นเป็นถึงหัวหน้าป้อม และคนรักของตนเอง
... ไม่ไหว
“ ใคร รู้ข่าวเรื่องที่คิงโรเวนมีคู่หมั้นบ้าง” โรเอ่ยเนิบ ๆ แต่ก็เรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี แม้แต่ครี๊ดที่เพิ่งเดินเข้ามาก็รีบนั่งลงทันที นัยน์ตาทุกคู่มองไปยังขอทานกิตติมศักดิ์ที่ฉลาดเกินกว่าจะเรียกว่าขอทาน
“ คู่หมั้น!” เป็นเสียงของเฟรินที่ดังขึ้นพร้อมกับการลุกขึ้นยืนพรวดท่ามกลางความตกใจของเพื่อนๆ คา โลรีบฉุดคนที่ยืนอยู่ให้นั่งลง คนที่ลืมจึงได้รู้ตัวว่าเผลอไป โรมองเฟรินด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจ ก่อนจะสลัดความคิดออกแล้วเริ่มเล่าต่อ
“ เห็นว่าเป็นคนรู้จักตั้งแต่ยังเป็นปรินซ์ มาจาก...” เสียงของโรไม่ได้เข้าหูเฟรินเลยแม้แต่น้อย คำว่าคู่หมั้นดูจะเรียกร้องความสนใจไปหมด
คู่หมั้นที่ได้รับการสนับสนุนจากท่านเจ้าปีศาจ
คู่หมั้นที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อ หรือรูปร่างหน้าตา
ข้อความในจดหมายบอกแค่ว่าคู่หมั้นของเธอจะเดินทางมาที่เอดินเบิร์กเดือนหน้า ท่านจ้าวปีศาจกำลังทำเรื่องแจ้งไปยังมหาปราชญ์เลโมธี
น่าแปลกที่รอบนี้พ่อของเธอทำตัวถูกระเบียบ
ไอ้เจ้าคู่หมั้นคนนี้มันท่าจะไม่ธรรมดา แล้วก็ไม่ได้มีเหตุผลเลยที่ราชาปีศาจจะเลือกคู่หมั้นตามใจชอบทั้ง ๆที่รู้ว่าเธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตน
... พ่อนี่ท่าจะบ้า
นัยน์ตาสีน้ำตาลมองไปทางคาโลที่นั่งฟังโรพูดอย่างตั้งใจ คิ้วเรียวของเฟรินขมวดเป็นปมนิดๆ
ไอ้นี่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าหึงหวงเลย ไม่ใช่ว่าอยากให้มันหึงแต่ยังไงมันก็ควรจะมีบ้างไม่ใช่หรือไง แล้วดูปฏิกิริยาของมัน...นิ่งจนน่าหมั่นไส้
แฟนประสาอะไร
ไม่ได้เรื่อง...
บรรยากาศเริ่มขมุกขมัวจนคนโดนจ้องต้องหันหน้ามานัยน์ตาคู่สวยฉายแววฉงน
“ ปวดขี้รึไง” เจ้าคนที่ถูกหาว่าปวดขี้ผงะเล็กน้อย
มันเล่นมุก มุกที่ฟังยังไงก็น่ากระทืบ
“ เออ!” เสียงห้วนที่หวานเกินกว่าจะน่ากลัวทำให้คาโลเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าราวเข้าใจอะไร
“ งั้นก็ไปสิ” เฟรินเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ ไปไหน”
“ ก็ไปขี้สิ อั้นไว้นาน ๆมันจะปวดท้อง” เสียงเรียบ ๆแต่กลับกระตุกอารมณ์ของสาวน้อยที่ไม่ค่อยจะปกติอยู่แล้วให้พุ่งปรี๊ด นัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกาบวิบวับเมื่อมองนัยน์ตาสีฟ้าสวยที่ฉายแววหนักแน่น กับคำพูดของตัวเอง ก่อนที่หมัดหนัก ๆจะพุ่งตรงไปยังหน้าของเจ้าชายคนสำคัญที่ทำหน้าเหวอ เฟรินลุกไปอย่างไม่สบอารมณ์
ความคิดเห็น