ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Baramos หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน ปีสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

    ลำดับตอนที่ #11 : การต่อสู้

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 53


    คิล คิล คิล

    ไอ้บ้าคิล !!

    ใครสั่งให้มันใจร้อนแบบนี้

    เฟรินวิ่งลงบันไดไปด้านล่าง  แต่ เมื่อสัมผัสถึงเสียงฝีเท้าหนัก ๆที่ตามมาก็หันควับกลับไปทันที แต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนที่เธอคิดจะหันกลับไปด่าพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว

    ร่างสูงชะงักเท้าไว้ ก่อนจะไปชนหญิงคนสำคัญ แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาหยุดได้ทันก่อนที่จะชนเจ้าหล่อนตก บันไดตายไปเสียก่อน

    ตาย...

    ถ้าเมื่อกี้เขาเบรกไม่ทัน  เจ้า หล่อนคงไม่พ้นตกบันไดตายไปจริง ๆ

    จะว่าไปเมื่อกี้เขาก็ไม่ได้วิ่งเร็วขนาดที่เป็นอยู่

    หรือเป็นผลจากคำสาป

    ชีวิตสั้นลงเพราะเส้นชะตาชีวิตถูกตัดให้สั้นลงกว่า เดิม...

    “ นายทำฉันเกือบหัวใจวายตาย  เมื่อกี้ เกือบชนฉันแล้วนะเนี่ย  ถ้านายชนฉันคงได้ตกบันไดคอ หักตายคาป้อม”

    คำว่าตายดูจะกระแทกเข้ามาที่กลางใจของคาโลเต็ม ๆ

    “ ต่อไปนี้ห้ามพูดว่าตายอีกเด็จขาด” คำสั่งที่ดูแปลก ๆในความคิดของเฟริน แต่เจ้าหล่อนก็พยักหน้ารับเมื่อเห็นสายตาจริงจังของคาโล

    เคร้ง

    เสียงดาบดังขึ้นเตือนสติคนทั้งคู่ให้วิ่งลงบันไดต่อไป

    ภาพที่ปรากฏบนนัยน์ตาคู่สวยของเฟรินทำให้เธอแทบหยุด หายใจ

    นักฆ่าคนเก่งที่บัดนี้เลือดเต็มตัว นอนหอบหายใจรัวอยู่ที่พื้น ขณะที่โครงกระดูกขนาดเท่าคนกำลังขยับเคียวอันมหึมาอยู่เหนือร่างนักฆ่าแห่ง ซาเรส

    “ ผ่าปฐพี!! เสียงเรียก ดาบดังขึ้น ก่อนที่ร่างคนเรียกจะพุ่งทะยานไปรับคมเคียวก่อนที่มันจะตวัดไปที่ร่างเพื่อน

    เคร้ง

    เสียงกระทบกันของดาบทำให้นัยน์ตาสีม่วงของนักฆ่าเบิก กว้าง

    “ แกจะมาทำไม  เดี๋ยวก็ได้ตาย หรอก”  คนถูกถามไม่ตอบแต่ผลักเคียวใหญ่ออกไปให้ห่าง จากตัว

    “ แกก็เลยจะตายแทนฉันงั้นสิ  จ้อง ตามันไปแล้วสิถึงได้สภาพเป็นอย่างนี้” 

    คิลเลือกที่จะเงียบ

    ใช่... เขาจ้องตามีแดงเข้าไปแล้ว  จึง ต้องสู้โดยปิดตา  แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าไอ้ยมทูตตัวนี้ มันจะไม่มีแม้แต่เสียงขยับตัว

    พื้นเริ่มเย็นเยียบ น้ำแข็งเกาะกินตามพื้นด้วยฤทธิ์พ่อมดแห่งคาโนวาล

                “ วีสกาย่า”  พายุ หิมะพัดวูบ น้ำแข็งค่อย ๆจับตัวบนเคียวใหญ่ของนักล่า  ก่อน จะแตกออกตามอารมณ์ของผู้ร่ายเวทย์

                หัวกะโหลกในผ้าคลุม แย้มรอยยิ้มอย่างน่าหวาดเสียว  ก่อนจะค่อย ๆลอยตัวไปทางพ่อมดคนเก่งแห่งคาโนวาล  ก่อนจะหยุดนิ่ง เมื่อห่างจากเจ้าชายคนสำคัญเพียงไม่กี่ก้าว เสียงหัวเราะที่บาดหูสร้างความกลัวให้แล่นเข้ามาปะทะเฟรินเต็ม ๆ

                น่ากลัว 

                ความรู้สึกเดียวที่เกาะกินหัวใจไปจนหมด สิ้น

                ดวงหน้าของคาโลยังนิ่งสนิท นัยน์ตาคู่สวยมองเคียวที่เหลือแต่ด้ามของผู้บุกรุกนิ่ง  น้ำ แข็งเริ่มจับตัวเป็นกำแพงหนาด้านหน้า  ก่อนจะเริ่ม ขยายพื้นที่ไปยังโครงกระดูกในชุดดำ  แต่ยมทูตไม่รอ ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ  ร่างทั้งร่างหายไป ก่อนจะไปปรากฏอยู่ด้านหลังคาโล

                 เคียวที่ไม่รู้ว่าไปเอาหัวมาจากไหน เตรียมฟันเข้ากลางลำตัวของหัวหน้าป้อมอัศวิน

                เคร้ง

                เสียงดาบปะทะอีกครั้ง  นัยน์ตา สีน้ำตาลฉายแววเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้มองดวงตาสีแดงของยมทูตตาแดง

                “ แกอย่ายุ่งกับคนที่ไม่เกี่ยว  แกอยากจัดการก็จัดการฉันคนเดียว”  เสียง เครียดจัดดังจากปากของผู้คุมกฎสาวแห่งป้อมอัศวิน “ อย่ายุ่งกับมัน”

                เคียวใหญ่เริ่มปะทะกับดาบใหญ่  ความเร็วที่แทบจะมองไม่ทันทำให้เพื่อนร่วมป้อมที่เพิ่ง วิ่งลงมาถึงพากันตาค้าง  ในขณะที่คาโลเริ่มหงุดหงิด

                ตัวเองจะตายอยู่รอมร่อยังจะเอาแต่ห่วง คนอื่นอยู่ได้

                ถึงเมื่อกี้เจ้าหล่อนจะไม่ได้เข้ามา ขวางเคียวไว้เขาก็ไม่โดนเคียวนั่นฟันกลางตัวแน่ ๆ  ใน เมื่อกำแพงน้ำแข็งเคลื่อนตัวมาด้านหลังเขาแล้ว

                ยุ่งไม่เข้าเรื่อง

    เคร้ง

    เสียงปะทะที่เที่ยวนี้ดังขึ้นกว่าเดิม แสดงถึงพลังรุนแรงที่ปล่อยออกมาจากเคียวเล่มยักษ์ ดาบใหญ่และเคียวดันกันอยู่กลางอากาศ  ดันกันไปมา 

    ที่มองยังไงเฟรินก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ

    มองหน้าคู่ต่อสู้ไม่ได้

    ไหนจะแรงอีก  แรงผู้หญิงหรือจะ สู้แรงยมทูตปีศาจได้

    แต่ภาพที่เห็นกลับเป็นดาบใหญ่เป็นฝ่ายดันเคียวจนจะ ประชิดร่างโครงกระดูก  เสียงหัวเราะที่ฟังดูโหยหวน ดังมาจากปากของยมทูตก่อนที่มันจะดันดาบออกไป แล้วลอยขึ้นไปบนฟ้า

    “ คิดจะหนีรึไง  แกมันขี้ขลาด” ร่างผอมของยมทูตหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับมายังเด็กสาวที่มองด้วยสายตาวาวโรจน์

    “ ข้าไม่เคยขี้ขลาด” เสียงแหบแห้งที่ฟังดูน่าขนลุก ก่อนที่โครงกระดูกลอยได้จะตกลงมาอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงหัวเราะแหลมแสบแก้วหูของมัน คราวนี้เป้าหมายเป็นนักฆ่าที่ยืนหายใจรวยริน

    “ คิลระวัง!” เสียงตะโกนดังลั่นจากเฟริน  ในขณะที่โรพุ่งตัวเข้าไปผลักนักฆ่าหนุ่มที่แทบไม่มีแรง ยืน

    ฮ่าฮ่าฮ่า

    เสียงหัวเราะแสบแก้วหูดังขึ้นอีกครั้งจากยมทูตตาแดงที่ บัดนี้ยืนเผชิญหน้ากับขอทานกิตติมศักดิแห่งทริสทอร์ที่บัดนี้ยืนขวางร่าง อ่อนแรงของนักฆ่าแห่งซาเรสไว้

    เคียวใหญ่เลื่อนลงมากลางหัวด้วยความรวดเร็ว โรกระโดดวูบก่อนจะเตะคนที่เพิ่งตั้งหลักได้ให้ไปไกล ๆ  จนทายาทนักฆ่าสบถเบา ๆ

    เคียวใหญ่ขยับเข้ามาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะฟันร่างบางของเด็กหนุ่ม  ร่างนั้น ก็ไปโผล่ด้านหลัง แล้วแตะเข้าเต็มท้อง  มือที่ว่าง เปล่าจู่ ๆก็มีเปลวไฟลุกพรึบแล้วหายไปปรากฏอยู่ที่ชายผ้าของยมทูต 

    แต่ปีศาจร่างกระดูกเพียงแค่สะบัดมือเปลวไฟที่ลุกลามมา เรื่อย ๆก็หายไป  โดยไม่มีแม้แต่รอยไหม้

    ซอร์โร วันวิล  พุ่งไปด้านหลัง ของปีศาจ  ก่อนจะวาดดาบลงไปกลางหลังของมัน

    ฟันไม่เข้า!

    ดาบที่แข็งแกร่งของยอดนักรบซอร์โรฟันเจ้าปีศาจโครง กระดูกนี่ไม่เข้า

    ไม่น่าเชื่อ  แต่ก็ต้องทำใจเชื่อ

    มือที่มีแต่กระดูกของมันปัดร่างยอดนักรบจนกระเด็นไปคนละ ทาง

    กัส โทนีย่าจึงพุ่งเข้าไปแล้วฟันเข้าที่กลางหัว

    ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    เจ้าโครงกระดูกไม่แสดงอาการใด ๆ ทั้งสิ้น  นอกจากรอยยิ้มกว้าง  แล้วนัยน์ตาสีแดงก็ เริ่มฉายแสงจ้า  ส่งผลให้กัสเผลอตัวมองนัยน์ตาคู่ นั้นเข้า

    “ อย่ามองมัน”  เฟรินตะโกนก้อง

    นี่เพราะเธอเพื่อนสองคนจึงโดนตัดเส้นชีวิต

    ถ้าไม่ชนะ เธอ คิล แล้วก็กัส จะได้ตายไปพร้อม ๆกันแน่

    แล้วใครจะไปยอมแพ้ง่าย ๆ

    ดาบใช้ไม่ได้ก็ใช้เวทย์สู้สิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×