คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ยมทูตตาแดง
“ เอาเหอะฉันขี้เกียจจะทะเลาะกับแกแล้ว เรื่องคู่หมั้นก็เลิกพูดแล้วกัน” เฟรินพูดเปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง “ มาช่วยกันนึกซิว่าจะพูดเรื่องอะไรกันดี”
“ นึกไม่ออกก็ไม่ต้องพูด” คำพูดเรียบ ๆจากเจ้าชายแห่งคาโนวาล แต่คิลยิ้มขำ ๆ
“ หรือจะพูดเรื่องผี”
“ อย่าเลย กลัวคนแถวนี้จะนอนไม่ หลับ” นักยั่วมือหนึ่งส่งไฟไปยังคนที่ดูไม่มีอารมณ์ร่วมที่สุดในห้อง
“ หรือว่ากลัวว่าตัวเองจะนอนไม่หลับกันแน่” คำย้อนเจ็บ ๆแสบ ๆ ตามนิสัย คน ยั่วจึงิ้มแหย ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลเบือนออกไปนอก หน้าต่าง
แล้วใบหน้าที่มีแต่กระดูกก็ปรากฏในนัยน์ตาของเธอ นัยน์ตาที่ควรจะกลวงโบ๋กลับมีแสงสีแดงวาบออกมา
เจ้าหญิงแสนอวดดีหวีดร้องลั่นไม่เหลือเค้าความอวดดีแม้ แต่น้อย
“ เฟริน” เสียงสองเสียงดังแทบจะพร้อมกันก่อนที่เจ้าชายคนเก่งจะปราดเข้าไปหาหญิงสาว ที่ยังหลับตาปี๋ “ เฟรินเป็นอะไร”
“ ตะ...ตา...แด....ย..ทู..ตะ...ยะ” เสียงตะกุกตะกักจนฟังไม่รู้เรื่อง
คนกล้ากลายเป็นคนขี้ขลาด
แต่ปฏิกิริยาแปลก ๆของเพื่อนสาวทำให้ยอดนักฆ่ารู้สึกแปลก ๆ แล้วตัดสินใจมองไปยังหน้าต่างที่แม่คนเก่งมองออกไปเมื่อครู่
โครงกระดูกสวมชุดดำทั้งตัว ถือเคียวลอยอยู่ด้านนอก แต่มันหันหลังให้ห้องนี้
คิลเบิกตากว้าง ก่อนมองไปที่เพื่อนสาวที่ทำท่าราวจะควักลูกตาตัวเองออกมา
“ บัดซบ!!” คำสบถของทายาทนักฆ่าทำให้คาโลหันกลับมามอง “ มีอะไร”
“ ยมทูตตาแดง” คำสั้น ๆของคิลไม่ได้ทำให้ความสงสัยของคาโลลดลงแม้แต่น้อย แต่คนอธิบายไม่อยู่ให้ถาม นักฆ่าแห่งซาเรสรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนจะตะโกนดังลั่น
“ ห้ามออกจากห้องเด็จขาด ปิดหน้าต่างให้สนิทแล้วเข้านอนให้หมด ถ้าฉันเห็นใครออกมาเพ่นพ่านหรือเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ได้เห็นดีกัน”
เสียงโหวกเหวกโวยวายจึงได้เงียบกริบราวไม่เคยมีเสียง
สู้กับนักฆ่า ฆ่าตัวตายชัดๆ...
แต่คำห้ามของผู้พิทักษ์ป้อมก็ห้ามได้เพียงรุ่นน้องเท่า นั้นเพราะเพื่อนร่วมชั้นกลับไม่มีใครฟัทุกคนเดินตรงมายังห้องหัวหน้าป้อม พร้อมกันทันที
“ เกิดอะไรขึ้น” คำถามจากมาทิลด้าแต่ไม่มีคำตอบจากคนตะโกน หญิงสาวผู้หมดความอดทนจึงเดินเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจนักฆ่าแห่งซาเรสที่ทำ หน้าเครียด คนอื่นๆจึงเดินตามเข้าไป
“ เกิดอะไรขึ้นคะคุณคิล” เรนอนเอ่ยขึ้นอย่างกังวล นัยน์ตาคมตวัดมาแวบหนึ่งก่อนจะหันไปทางอื่นแล้วพูดเสียงเครียดจัดไม่สมนิสัย
“ ถ้าทุกคนรู้เรื่องแล้วฝากบอกให้ไปดูแลรุ่นน้องด้วย” พูดจบคนพูดก็หายไปอย่างรวดเร็วราวไม่เคยยืนอยู่ตรงนั้น ดวง ตาคู่สวยฉายแววงุนงงก่อนจะเดินตามคนอื่นๆเข้าไปในห้อง
“ เกิดอะไรขึ้นเธอเห็นอะไร” เสียงถามจากมาทิลด้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะคอกเมื่อคนถูกถามยังไม่เลิกเอามือ ปิดตาและทำท่าจะควักลูกตา จนคาโลที่นั่งอยู่ข้าง ๆต้องรวบมือไว้ “ เอาแต่หลับตาแล้วมันจะไปได้เรื่องมั้ย”
คนที่นั่งตัวสั่นอยู่ที่พื้นห้องเงยหน้าขึ้นมาเป็นครั้ง แรก หน้าหวานซีดลงจากเดิมจนคนถามถึงกับผงะ ปากซีดขยับเล็กน้อย น้ำเสียงที่ เปล่งออกมาก็อู้อี้จนฟีงแทบไม่รู้เรื่อง
“ ยมทูต...ตาแดง”
“ ยมทูตตาแดง” เสียงทวนเบาๆจากโร เซวาเรส “ ไม่น่าเชื่อมันมาที่นี่ได้ยังไงกัน” นัยน์ตาสีเขียวฉายแววครุ่นคิดก่อนจะแสดงท่าทีตกใจแล้วมองไปยังร่างบางที่แทบ จะไม่มีแรงประคองตัวให้ตั้งตรง “ อย่าบอกนะว่านายไปสบตามันเข้า”
เสียงกังวลจัดที่แทบไม่เคยได้ยินจากบุรุษนามโรเซวาเรส ทำให้คนที่ตัวสั่นอยู่แล้วสั่นยิ่งกว่าเดิมก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แต่ก็ทำให้คนฉลาดเริ่มนั่งไม่ติด นัยน์ตา สีเขียวฉายแววเครียดจัด มือขาวกำแน่นสนิท
“ มันเป็นตัวอะไร ทำไมพวกนายถึงทำท่าเครียดกันขนาดนั้น” คำถามตรงๆของครี๊ดถือว่าตรงกับความคิดของหลายๆคนมากเพราะทั้งห้องดูจะมีแค่ เฟรินกับโรเท่านั้นที่รู้
เจ้าหญิงแห่งเดมอสกำมือแน่นก่อนจะเริ่มอธิบาย “ ยมทูตตาแดงเป็นปีศาจโครงกระดูกจากเดมอส” เฟรินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดคำต่อไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “ ใครก็ตามที่ได้สบตากับมันจะตายทุกคน เหมือนโดนตัด เส้นชีวิตให้สั้นลง”
ราวกับลมหายใจของคนในห้องถูกขโมยไป แต่สำหรับคาโลราวกับมีคนเอามีดมาผ่ากลางหัวใจของเขา มือที่วางจับไหล่บางอยู่ก็จับแน่นกว่าเดิมร่างบางสั่นน้อยๆทำให้เขาอดไม่ได้ ที่จะสวมกอดหล่อนไว้
“ ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวนะ ฉัน จะไม่ยอมให้นายเป็นอะไรแน่ ๆ” เฟรินแยกเขี้ยวอย่างฝืนๆ
“ นายเห็นฉันขี้ขลาดขนาดนั้นเลยหรือไง ฉัน ไม่ใช่คนที่อ่อนแอถึงขนาดต้องให้นายมาคอยปกป้อง และ ที่สำคัญฉันก็ไม่คิดจะนอนรอความตายแน่ๆ” คำพูดที่แสดงถึงความมุ่งมั่นทำให้คาโลผละออกจากร่างบาง นัยน์ตา สีฟ้ามองเข้าไปในตาโตแต่ก็พบเพียงความมุ่งมั่น คนตัวโตจึงถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันไปทางขอทานผู้รอบรู้
“ แล้วมีทางแก้ไหม”
“ ถ้ากำจัดยมทูตตาแดงตัวที่นายเจอได้ก็จะไม่เป็นไร แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่มีใครเคยทำได้เพราะคนที่สบตามัน ไปแล้วครั้งหนึ่งถ้าสบอีกครั้งจะ... ไม่รอด” บรรยากาศวังเวงแผ่ไปทั่วห้องก่อนที่ความหวังจะกลับมาเมื่อได้ยินประโยคต่อไป จากสารานุกรมเคลื่อนที่แห่งป้อมอัศวิน “ แต่ไม่จำเป็นว่าคนโดนสาปจะต้องกำจัดด้วยตัวเอง”
คนโดนสาปรีบกลับพูดขัดทันที “ ฉันไม่อนุญาตให้พวกนายสู้กับเจ้าปีศาจนั่น ฉันจะจัดการเอง”
“ จะบ้าหรือไง แกสู้เองเกิดจ้อง ตามันอีกนี่ตายเลยนะเฟ้ย” ครี๊ดแย้งแต่คนต้นเรื่องกลับยิ้มยี่ยวน
“ ของสนุกใครเขาจะอยากให้คนอื่นมาแย่ง”
“ สนุกของนายนี่ถึงตายเลยเนี่ยนะ” เสียงจากเจค
“ เค้าเรียกว่าน่าตื่นเต้นต่างหาก เอา เป็นว่าถ้าห้ามใครจัดการมันเด็จขาดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ยืนขึ้นโดยไม่สนใจแรงดึงที่ต้นแขนจากเจ้าชายแห่งคาโนวาล นัยน์ตาสีน้ำตาลมองไปรอบๆก่อนจะฉายแววตกใจเมื่อมองไม่เห็นเพื่อนซี้คนสำคัญ
“ คิลหายไปไหน...”
“ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแต่เห็นบอกว่าถ้าทุกคนรู้เรื่องแล้วให้ลงไปดูแลรุ่นน้อง ” เสียงหวานๆจากเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลทำเอาคนถามนิ่งสนิทก่อนจะหันไปสบกับ นัยน์ตาสีเขียวที่เริ่มฉายแววเครียด
“ ไปนานหรือยัง” โรเอ่ยถาม
“ ก็ตั้งแต่ที่พวกเราเข้ามาในห้องแล้วล่ะค่ะ”
ยังไม่ทันจบคำเจ้าคนถูกสาปก็วิ่งพรวดออกไปราวติดจรวด แต่ยังไม่วายตะโกนด่าเพื่อนซี้ไปตลอดทาง
“ ไอ้นักฆ่าน่าโง่ ”
ทันทีที่เจ้าตัวยุ่งปราดออกไป คา โลก็วิ่งตามออกไปติดๆ สมาชิกป้อมอัศวินมองตามอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปทางคนที่ฉลาดที่สุดในห้องที่ทำท่าจะลุกตามเจ้าชายคนเก่ง แห่ง คาโนวาลไป
“ ทำไมมันต้องอยากจัดการขนาดนั้นแบ่งให้พวกเราเล่นบ้างก็ได้” กัส โทนีย่ายอดนักรบแห่งป้อมอัศวินเอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีเขียวตวัดมามองก่อนปากบางจะยิ้มเหยียด
“ นายคิดว่าเฟรินมันอยากจะสนุกคนเดียวงั้นหรือ” เหล่าผู้กล้าแห่งป้อมอัศวินพยักหน้าก่อนที่ซิบิลล์จะชะงักแล้วถามขึ้น
“ หรือว่ายมทูตตาแดงนี่สามารถสาปคนได้ครั้งละหลายๆคน”
“ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูก ต้องบอกว่า สาปทุกคนที่เผลอไปจ้องตาสีแดงของมันต่างหาก”
“ งั้นที่เฟรินไม่อยากให้เราสู้ก็เพราะ...” แองเจลลีน่าพูดขึ้นเบาๆ
“ อย่างที่คิด หมอนั่นไม่อยาก ให้พวกเราเสี่ยงไปด้วย”
ความเงียบแผ่กระจายไปทั่วห้อง
“ แทนที่จะมานั่งซึมแบบนี้สู้ไปช่วยมันไม่ดีกว่าหรือ” ทุกคนลุกพรวดขึ้นพร้อมกันแต่สาวงามผู้แสนรอบคอบกล่าวค้าน
“ แบ่งคนไปคุ้มกันน้องๆด้วยดีไหมคะ เพราะพวกลิงทโมนก็ไม่น่าจะทนอยู่เฉยได้ถ้าเกิดการต่อสู้ขึ้นในป้อม”
มาทิลด้าพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะออกคำสั่ง
“ ซีบิลล์ แองจี้ เรนอน เจคแล้วก็ครี๊ดไปคุ้มกันพวกลิงไม่ให้ออกมาเพ่นพ่านอย่าให้มีใครได้รับ อันตรายอะไรเด็จขาด”
“ สุดท้ายฉันก็ไม่ได้สนุกอีกแล้ว” เสียงบ่นจากครี๊ด ธันเดอร์ชายหนุ่มผู้รักความสนุกทำให้คนออกคำสั่งหันมายิ้มหวาน
“ นายได้สนุกแน่กับการต้อนฝูงลิงทโมนเข้าคอก คราวนี้หน้าโหดๆของนายจะได้ใช้ประโยชน์เต็มที่”
“ ฉันว่าเธอไปด้วยน่าจะดีกว่า เพราะ พวกรุ่นน้องดูจะเกรงใจเธอมากกว่าคนอื่น ๆ ที่เธอส่งไปนะ” โรเอ่ยแย้ง มาทิลด้านิ่งครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับคำ
“ แต่ถ้าพวกนายจัดการไม่ได้ ฉัน จะออกไปช่วย”
“ คงไม่ถึงมือเธอหรอก เธอก็รู้ว่าป้อมอัศวินเป็นพวกชอบซ่อนคม”
ความคิดเห็น