ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปิดโอน [fic EXO] คนคุก (LuMin, KaiHun)

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่3.2

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 57


    ที่ใหม่ๆ ชีวิตเก่าๆ

     

     

     

     

    บทที่3.2

     

    “ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง??”เสียงของคิมจงอินอ่านตัวอักษรบนกระดาษก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองลู่หาน ชายหนุ่มยักไหล่ให้เพื่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ทัณฑสถานวัยหนุ่มวัยแก่ห่าเหวนี่มันอยู่ส่วนไหนของโลก

    “ทำไมพวกกูสี่คนไม่ได้ย้ายที่วะ?”ไอ้ใหญ่แทฮากระชากกระดาษจากมือจงอินไปมองพินิจตัวอักษรนั้นอีกรอบ มันก็ยังระบุชัดเจนว่าจุนฮี ยองฮา จีอา และรวมถึงตัวมันเองไม่ได้ถูกย้ายที่คุมขัง อีกทั้งซ้ำร้ายกว่านั้นคือไอ้จุนฮีและไอ้ยองฮาถูกย้ายแดนไปแดนสามอีกด้วย

    “พวกมึงสงสัยอะไรกันนัก”เสียงผู้คุมดังมาก่อนตัว พลองไฟฟ้าในมือถูกหวดไปมากลางอากาศ ไอ้แทฮารีบปฏิเสธว่าไม่มีอะไรแทบจะทันที ลู่หานเบื่อจะมองขี้หน้าของมันเลยเดินหนีออกจากห้องผู้คุมมาก่อน ไม่ลืมลากเด็กมินซอกที่ยังทำหน้าเหรอหราให้ออกมาด้วย เดินออกมาไม่เท่าไหร่ก็เจอกับไอ้ซึงฮยอนที่ยืนรออยู่

     

    ใบหน้าของลู่หานเรียบเฉย ขณะที่ใบหน้าของชเวซึงฮยอนอัดแน่นเต็มไปด้วยความหวัง...หวังว่าทั้งสามคน จงอิน ลู่หาน และมินซอกจะไม่ถูกย้ายไปไหน

    เพื่อน...จะยังอยู่กับชเวซึงฮยอน

     

    แต่แล้วใบหน้าที่แย้มยิ้มตลอดเวลาก็เริ่มเจื่อนลง จงอินตามมาคนสุดท้ายหุบปากที่จะเอ่ยเรียกเพื่อนได้ทันท่วงทีที่เห็นว่าบรรยากาศมันช่างน่าอึดอัด มินซอกมองหน้าซึงฮยอนเล็กน้อยก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ แขนเรียวเล็กยกขึ้นก่อนจะกอดคนตัวสูงเบาๆ

     

    “ผมจะไม่ลืมซึงฮยอนนะครับ”

     

    เป็นคำตอบได้ดีกว่าคำพูดเสียอีก...ซึงฮยอนยกมือกอดตอบคนตัวเล็กกว่าก่อนที่จะผละออกจากกัน

    “ผมจะไปเก็บของให้นะครับ มีแค่พวกเครื่องใช้ที่ยังเหลือกับชุดเล็กน้อยใช่ไหม?”คนตัวเล็กหันมาถาม ลู่หานพยักหน้าว่าใช่ จงอินเดินไปตบบ่าซึงฮยอนสองที ดวงตาทั้งสองคนสบกันก่อนที่ซึงฮยอนจะเป็นฝ่ายหลบสายตา

    “กูไปช่วยเด็กติ๋มเก็บของละกัน”ไอ้จงอินพูดเบาๆ ปิดท้ายด้วยการตบบ่าเพื่อนตัวโตไปอีกทีแล้วเดินตามเด็กติ๋มตัวเล็กที่ขึ้นเรือนนอนไปแล้ว

     

    ลู่หานรู้ว่ามันค่อนข้างทำใจลำบาก ถึงจะอยู่กันมาแค่ไม่ถึงอาทิตย์...แต่ซึงฮยอนก็มีแค่พวกเขาที่เป็นเพื่อน สถานะเด็กนางพญาบ้าบอนี่มันทำให้ซึงฮยอนไร้มิตรสหาย ทุกคนเกิดการหมั่นไส้เพราะสิทธิจากการเป็นเด็กนางพญา

    ถ้าได้เจอนางพญาคนงามนั่นสักครั้ง ลู่หานอยากจะบอกคนๆนั้นว่า ไม่ว่าจะให้ชเวซึงฮยอนเป็นเด็กนางพญาเพราะอะไร แต่ฐานะนั้นกำลังทำให้คนๆนึงไม่เหลือเพื่อนอยู่ข้างกาย ...มันกำลังทำให้คนๆนึงโดดเดี่ยว

     

    “ไว้กูจะเขียนจดหมายมาหา”ลู่หานบอก ซึงฮยอนพยักหน้ารับ คนตัวโตสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าคมเข้มเริ่มระบายยิ้มอีกครั้ง

    “กูเข้าใจ...กูทำใจไว้แล้วแต่มันก็ยากจะรับได้ว่าเพื่อนของกูกำลังจะจากกูไป...กูต้องกลับไปโดดเดี่ยวอีกครั้ง”

     

    “…”

     

    “แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ...กูจะคิดถึงพวกมึง ทั้งจงอิน แล้วก็มินซอก...กูจะไม่ลืมเลยว่ามีเพื่อนดีๆอย่างพวกมึงทั้งสามคน”ชเวซึงฮยอนคลี่ยิ้ม

    ลู่หานตบบ่าเพื่อนก่อนจะรั้งตัวสูงใหญ่เข้ามากอด กอดลาเป็นครั้งสุดท้าย

     

    “ลาก่อนนะเพื่อน”

     

     

    ลาก่อน...

     

     

     

     

     

    วันรุ่งขึ้นลู่หาน จงอินและมินซอกถูกเรียกตื่นเร็วกว่าปรกติ ผู้คุมจิกให้พวกเขาลุกไปขึ้นรถที่เตรียมรอไว้แล้ว แม้แต่หน้าตายังไม่ได้ล้าง ตรวนเหล็กถูกนำมาใส่ที่ข้อเท้าอีกทั้งยังมีกุญแจข้อมือของคู่กายที่ไม่ได้ใส่เสียนานอีกด้วย ลู่หานดึงตรวนหนักอึ้งขึ้น ก้าวขึ้นรถไปก่อนจะยื่นมือมาจับเด็กมินซอกที่งุ่มง่ามกับตรวนอยู่ ส่วนไอ้จงอินก็ปล่อยหัวแม่ง ตัวอย่างกับหมีควายต้องมีปัญญาขึ้นรถเองอยู่แล้ว

     

    เมื่อคืนลู่หานนอนไม่ค่อยหลับ กลิ่นส้วมรู้สึกจะแรงกว่าทุกวัน ใครคงแดกหมาเน่าไม่ก็ตัวเหี้ยอะไรเข้าไปถึงได้คงกลิ่นไว้ขนาดนั้น

     

    ประตูรถถูกปิดลง ช่องเล็กสำหรับระบายอากาศนั้นเป็นช่องเดียวกับที่ทำให้ลู่หานเห็นสภาพภายนอกได้ ลู่หานมองลอดช่องนั้นไป ไปยังเรือนนอนที่ใช้ซุกหัวนอนมาถึง 7 วันเต็ม

    เสียงสตาร์ทรถบอกว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะต้องจากที่แห่งนี้ไปแล้ว...

     

    ถึงคราวต้องลาแล้วจริงๆสินะ...ชเวซึงฮยอน

     

     

    “...กูจะไม่ลืมมึง”

     

     

     

    ยานพาหนะสีทมิฬเคลื่อนตัวออกช้าๆ ผ่านเรือนนอนแต่ละหลัง ผ่านโรงอาหารหลังคุ้นเคย ผ่านประตูเรือนจำ...และออกสู่ท้องถนน จุดหมายก็คงเป็นที่แห่งนั้น

     

    ...ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง

     

     

    ลู่หานมองบรรยากาศด้านนอกตัวรถผ่านรูถ่ายเทอากาศ อยู่นี่เองสินะ...อิสระ อยู่แค่ด้านนอกตัวรถนี่เอง ทำไมมันใกล้ขนาดนี้...แต่เอื้อมไม่ถึงเลย

     

     

    ใช้เวลาเดินทางคงราวๆครึ่งชั่วโมง แสดงว่าคงไม่ได้ไกลจากที่เดิมเสียเท่าไร ลู่หานเห็นว่ารถเลี้ยงเข้าซอยซอยหนึ่ง มีป้ายปูนอยู่ด้านหน้าแต่ไม่สามารถเห็นได้ คงเป็นป้ายสถานที่แห่งนี้ บ้านหลังใหม่ของลู่หาน เมื่อรถจอดสนิท ประตูของรถก็ถูกเปิดออก แสงสว่างลอดเข้ามาทำเอาแสบตาไปพักใหญ่ เพราะในรถมันมืดมาเสียตั้งครึ่งชม. สมาชิกใหม่สามคนถูกไล่ลงจากรถไปยืนเรียงหน้ากระดานก่อนที่พาหนะสีดำสนิทจะเคลื่อนไปจอดหลบอยู่ด้านหนึ่ง

     

    ผู้คุมที่มาด้วยกันแยกไปอีกทางเพื่อจัดการเรื่องเอกสารอะไรสักอย่าง ปล่อยให้ลู่หานยืนอยู่หน้าผู้คุมของบ้านหลังใหม่นิ่งๆ ไม่กี่นาทีก็กลับมาพร้อมเอกสารที่คาดว่าจะดำเนินการเรียบร้อย

     

    “ฝากด้วยนะอินซู พวกมันเรียนรู้กฎอะไรมาบ้างแล้วล่ะ แต่สอนมันใหม่ก็ดี ไอ้พวกนี้ไม่สร้างเรื่องหรอก อยู่ง่าย”ผู้คุมจากเรือนจำศาลผากผง เอกสารถูกยื่นให้ผู้คุมคนใหม่ที่ชื่ออินซู จากนั้นร่างในชุดสีกากีจึงวิ่งไปขึ้นรถคันเดิมที่พาลู่หานมาที่นี่ พาหนะคันนั้นถึงเคลื่อนออกไปทางเดิมที่เข้ามา

     

    “กูชื่อจางอินซู”เสียงทุ้มต่ำของผู้คุมคนใหม่พูดเรียบๆ ในมือเขาถือเอกสารนั้นก่อนพินิจมองตัวอักษรที่ถูกพิมพ์ไว้

     

    “ใครชื่อจงอิน?” ถามนิ่งๆแล้วปรายตามองทีละคน ไอ้จงอินยกมือขึ้นพร้อมมองหน้าของผู้คุมอินซูแทนคำตอบในคำถาม จางอินซูหัวเราะหึหึในลำคอ เรียวขายาวใต้กางเกงสีกากีขยับเดินไปมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะไปหยุดที่หน้าของจงอิน เมื่อจงอินกล้ามองหน้า ผู้คุมคนใหม่ก็กล้าจะมองตอบเช่นกัน

     

    “กูคิดว่ามึงเข้าใจกฎดี ไม่ว่าเรือนจำไหน...กฏก็คือกฎ กฎเดิมที่มึงต้องเข้าใจและปฏิบัติตาม หนึ่ง...มาก่อนเป็นพี่ สอง...มาหลังเป็นน้อง สาม...ผู้คุมใหญ่สุด”ผู้คุมอินซูก้มมองรายละเอียดในเอกสารอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของไอ้จงอินที่ยังไม่หลบสายตากัน

     

     

    “เพราะฉะนั้น...อย่าอวดดี”

     

     

    อั่ก!!

     

     

    สิ้นคำพูดของผู้คุมคนใหม่ หมัดหนักๆก็พุ่งตรงเข้าปะทะที่ร่างกายของคิมจงอินทันที หน้าท้องแกร่งถูกอัดกระแทกพาเอาจงอินตัวงอร้องเสียงหลง และลงไปกองกับพื้น เท้าของผู้คุมอินซูยกขึ้นเหยียบกลางลำตัวของเพื่อนทำให้ลู่หานทนไม่ไหว ร่างผอมขยับจะช่วยเพื่อนแต่มือเล็กๆของมินซอกกลับรั้งเอาไว้ ใบหน้ากลมส่ายไปมา

     

    “มันจะยิ่งไปกันใหญ่”ใช่...ถ้าลู่หานช่วยจงอินมันจะยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ใช่แค่ไอ้จงอิน แต่จะเป็นตัวลู่หานเองด้วยที่โดนกระทืบ หมัดเล็กกำแน่น กระทืบเท้าอยู่กับที่ ทำได้แค่มอง ทว่าเหมือนความซวยมันเกาะตัวอยู่ ผู้คุมอินซูตวัดสายตามามองที่ลู่หาน อาจเพราะเสียงกระทืบเท้านั้น

     

    จางอินซูถอนเท้าจากลำตัวของจงอิน สืบเท้าเข้าใกล้ลู่หานกับมินซอกแทน แขนเพรียวดันคนตัวเล็กกว่าไปด้านหลัง มินซอกตัวหด ได้แต่จับชายเสื้อของลู่หานเอาไว้

     

    “หรือมึงจะเอา”คำถามง่ายๆ ลู่หานกัดฟันกรอด ถ้าเป็นข้างนอกคุกเขาคงแลกหมัดกับคนตรงหน้าไปแล้ว หากแต่สถานการณ์ตอนนี้ ลู่หานทำเพียงกำหมัดให้แน่นกว่าเดิม กัดฟันพูดไปยากเย็น

     

    “เปล่าครับ...ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วย”ก้มหัวให้อย่างไม่เต็มใจสักนิด เอาจริงๆเรือนจำศาลที่เพิ่งจากมานั้น แม้จะพูดข่มขู่นักโทษ แต่ลู่หานยังไม่เห็นผู้คุมทำร้ายนักโทษถึงขนาดนี้เลยสักนิด

     

    “เหอะ...ไปเก็บเพื่อนมึงขึ้นมาจากพื้นสิ”เสียงสบถมาพร้อมคำสั่ง ลู่หานกับมินซอกถึงได้เข้าไปช่วยพยุงเพื่อนตัวโตขึ้นจากพื้น ดูท่าคิมจงอินจงเจ็บที่ท้องไม่เบา เพราะน้องจากโดนชกยังโดนเหยียบอีกด้วย แล้วเท้าที่สวมรองเท้าคอมแบตหนักอึ้งแบบนั้น ลงแรงไปไม่เบาคงซ้ำรอยโดยต่อยได้อย่างดี

     

    ผู้คุมอินซูปรายตามองไล่มาที่ลู่หานและเพื่อนอีกครั้ง มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม...ที่เหมือนจะดูแคลนและสมเพช

     

    “ยินดีต้อนรับสู่แดนหนึ่ง เรือนนอนของมึงคือเรือนสิงห์ ที่นอนคงไม่ต้องถามว่าอยู่ตรงไหน ถ้าโง่ไม่เข้าใจก็ไปถามไอ้พวกรุ่นเก่าๆให้มันแจกตีนสักสองสามทีเตือนความจำ”

     

    ผู้คุมอินซูพูดพร้อมกระดิกนิ้วเป็นเชิงบอกให้เดินตาม ลู่หานยกตรวนขึ้นจับ มือยังไม่ถูกปลดกุญแจ การเดินจุงค่อนข้างทุลักทุเล แต่ก็ยังน้อยกว่าเด็กมินซอกที่แทบจะลากเอาตรวนไปด้วยไม่ไหว ร่างสูงโปร่งของผู้คุมไปหยุดที่ทางขึ้นเรือนนอน ป้ายด้านหน้าเขียนไว้ว่า “เรือนนอนสิงห์” ต่างจากที่เรือนจำของศาล ที่เรือนนอนทุกเรือนไม่มีชื่อเรียก เพียงจำ ว่าเรือนนอนใดเป็นของตนก็เท่านั้น

     

    “พวกมึงอยู่เรือนนอนนี้ เอาของขึ้นไปเก็บแล้วจะไปทำเหี้ยอะไรกันก็เอา การอยู่ที่นี่ก็คล้ายที่เดิมของพวกมึงนั่นล่ะ”

     

     

    “...”

     

     

    “อ้อ...ค่าที่กวนตีนมองหน้ากู...คิมจงอินไม่ต้องแดกข้าวถึงกลางวัน เข้าจั๊ย...”

     

     

     

     

    สัดเอ้ย...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC.

     

     

     

    มันแย่ๆมะ?

    บอกเลยว่ายากที่ต้องมาเขียนบรรยายความเป็นอยู่ในคุกแบบนี้ ภาษามันก็ใช้ยาก การจัดหน้าเราก็ยังไม่ดี ขอโทษด้วยนะคะ

    เรื่องมันคงไม่หวือหวาอะไรอย่างนี้ต่อไป มันเหมือนเรื่องเล่า อธิบายไปเรื่อยๆมากกว่า 55555555

     

    #พี่ลู่คนคุก ติดแท็กกันได้ เราอ่านทุกทวิต แต่แค่ไม่ได้รี...55555555555

     

     

    อีก10ปีจะมาต่อนะคะ เราเหนื่อยละเกิน เราขอไปนอนกอดพี่เหี่ยวก่อนนะ

     

     

    สุขสันต์วันมินซอกค่ะ

     

     

     

    แมลงจี่...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×