ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปิดโอน [fic EXO] คนคุก (LuMin, KaiHun)

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่5.1

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 57


    ชีวิตถ้าขาดรอยยิ้มมันจะมีสีสันได้ยังไง

     

     

     

    บทที่4.2

     

    “พอสตาร์ทแล้วก็ใส่เกียร์ ออกด้วยเกียร์สองเสมอ ใส่เกียร์แล้วค่อยๆบิดคันเร่ง ทำได้ไหม?”เสียงคิมอูฮยอนกำลังสอนคนตัวเล็กขี่มอเตอร์ไซค์ดังแว่วๆ ลู่หานผละสายตาจากการตัดสติ้กเกอร์ไปมอง เห็นคิมมินซอกยิ้มน้อยๆยามที่บิดคันเร่งแล้วรถเคลื่อนไปข้างหน้า

    “มึงอยู่นี่มานานยังวะ?”ไอ้จงอินถามชเวดงกอน มันหน้ายังกะโจรปล้นใจ พวกข่มขืนแล้วฆ่าอะไรเทือกนั้น แต่เสือกถูกจับด้วยขอหาขายธรรมดาเท่านั้นเอง ไอ้ชินอูบอกว่าทุกคนในที่นี้มาจากคดีเดียวกันคือยาเสพติด ไม่ว่าจะขาย หรือเสพก็ตาม บางคนมาด้วยข้อหาทั้งสองกระทง ลู่หานเพิ่งจะรู้ว่าคนสมัยนี้เกี่ยวขข้องกับยานรกนั่นเยอะมากมายขนาดนี้ บางคนตกเป็นทาสของฤทธิ์ที่ทำให้มึนเมา บางคนตกเป็นทาสอำนาจเงินตราที่ได้มาง่ายๆ...เช่นเขาเองก็ด้วย

    เห็นได้ชัดเจนว่ายาเสพติด...เข้ามาเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่ว่าอย่างไรก็แก้ได้ไม่หมด

     

    ให้ตามจับกันไปมา สุดท้ายแล้วก็ยังมีเล็ดลอดออกมาขายมอมเมาประชาชนอยู่ดี...

     

    “อยู่มาสองละ เหลืออีกสอง พอดีโดนหลายรอบแล้วไม่เข็ด ทำไงได้ เงินแม่งดี ลูกเมียกูต้องแดกห่า...รัฐบาลเหี้ยนี่แม่งบอกจะช่วยเหลือคนจน แล้วไง กูก็ยังจนเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ”

    “...”

    “งานสุจริตค่าแรงต่ำๆมันไม่พอเอามายาไส้ปากท้องสามสี่ชีวิตหรอกมึง ฮ่ะๆ”มันพูดแกมหัวเราะ...ก็ถูก

    ไม่งั้นลู่หานจะเลือกขายยาทำไม...งานของแม่ได้เงินเดือนไม่กี่วอน ไหนจะอี้ชิงที่ต้องเรียน...แต่ละคนที่อยู่ในคุก ไม่ได้เข้ามาเพราะความเลวโดนสันดานเสียหมดหรอก...

    “แล้วเมียกะลูกมึงจะมาเยี่ยมใกล้ชิดไหมวะ ลูกมึงอายุเท่าไหร่ ยังละอ่อนอยู่ป่ะ กูชอบเด็ก”ไอ้จงอินถาม มือยังกรีดลากคัตเตอร์ไปตามขอบของลายที่จะเอาติดข้างตัวถังรถ ไอ้ดงกอนด่าว่ามันเป็นพวกโลลิค่อนแต่มันก็ไม่สำนึก

    “กูนึกถึงน้องกูหรอก ตอนเด็กนะ กูชอบฟัดน้องฉิบหาย ตัวงี้นิ่มเชีย หอมไปหมด เดี๋ยวน้องกูมาเยี่ยมใกล้ชิดนะกูจะฟัดโชว์”โห...เหี้ยนี่สกิลสูง

    พูดถึงน้องไอ้จงอินนะ ต้องนึกถึงเงินทุกที ลู่หานยังติดหนี้ไอ้เหี้ยนี่อยู่เยอะเลยล่ะ ทั้งตั้งแต่ตอนอยู่เรือนจำศาลหรือตอนนี้เอง เพราะงานที่ทำมันแลกของได้ไม่กี่อย่าง แล้วของใช้ที่จำเป็นมันก้มีเยอะแยะไปหมด อีกเหตุผลคงเป็นไอ้ตัวเล็กที่หัดขี่มอเตอร์ไซค์อยู่นู่น มินซอกลงงานไม่ค่อยได้งาน ถึงยังต้องอาศัยบัญชีไอ้จงอินใช้ไปก่อน แล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครมาเยี่ยมคนตัวเล็กด้วย

     

    ก็เจ้าตัวบอกเองว่าไม่มีใคร...แม้แต่จะเขียนจดหมายกลับไปหาก็ยังไม่มีใครให้เขียนกลับไป...

     

    แต่เรื่องเงินนี่ไอ้จงอินมันเต็มใจ มันบอกใช้ได้ บ้านมันรวย รวยแล้วแม่งจะมาขายยาทำห่าเหวอะไร?

    “กูล่ะอดทนรอถึงวันนั้นไม่ไหวเลย กูอยากจะเจอเมียเจอลูกจะแย่ กูมีรูปด้วยนะ ลูกกูน่ะ สองขวบละ จะดูไหม?”ดงกอนถาม ทุกคนที่รวมหัวกันตัดสติ้กเกอร์ก็ฮือฮาขอดูกันใหญ่ เด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้นนั้นนอนยิ้มส่งให้กล้องอยู่ ด้านหลังรูปเขียนว่า ชเวนูนา ชื่อน่ารักดีเหมือนกัน

    “อันนี้ถ่ายตอนสองขวบ แต่ตอนมาหานี่คงจะสามแล้วล่ะมั้ง”ดงกอนพึมพำ มันจูบรูปลูกตัวเองแล้วยิ้มร่า ก่อนจะเก็บรูปรูปใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นไว้

     

    “มึงรู้ไหม?...”

    “...”

     

    “ที่กูอดทนยอมให้คนประณามว่าเลว เป็นคนขี้คุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า...ก็เพื่อคนในรูปใบนี้แหล่ะ”

     

     

     

    ค น คุ ก

     

     

     

    ชีวิตประจำวันในคุกมันไม่มีอะไรมากไปกว่าตื่นตามเวลามาเข้าแถวตรวจเครื่องแต่งกายกับผม จากนั้นก็กินข้าวแล้วแยกไปลงงาน ตอนนี้ลู่หานอยู่มาได้จะสองอาทิตย์ ลงงานครบทุกที่แล้ว ที่ชอบสุดคงเป็นซ่อมบำรุงกับงานช่าง

    ส่วนของงานช่างก็เป็นพวกงานไม้ หรืองานเหล็กดัด แบ่งแยกเป็นส่วนๆไป แต่ตอนนี้งานช่างกำลังเห่อทำลวดดัดโครงเป็นรูปต่างๆสำหรับใช้เป็นที่เลื้อยของต้นไม้ เนื่องจากจะทำสวน ไอ้อูฮยอนเลยเสนอให้ทำลวดดัดแบบนี้ แล้วปลูกชาฮกเกี้ยน อาจจะใช้เวลาหน่อยกว่าจะโตจนเลื้อยเต็มรูปดัด แต่ก็แข็งแรงและอยู่ได้นานดี ชาฮกเกี้ยนนั้นเป็นไม้ทนแดดทนฝน อยู่ได้ทุกฤดู

    มีนักโทษหลายคนเริ่มได้จดหมายตอบกลับเรื่องเยี่ยมญาติใกล้ชิดแล้ว หมดเขตส่งในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า และงานจะจัดอีกสามอาทิตย์ข้างหน้านี้ ลู่หานไม่ปฏิเสธว่าตัวเองก็นั่งรอจดหมายตอบกลับมาของตัวเองอยู่เหมือนกัน...แม้ว่าจะมีความหวังแค่ริบหรี่ก็ตาม

     

    “กูได้ข่าวว่านางพญานี่ย้ายมาแดนหนึ่ง...จริงป่ะวะ”ไอ้อูฮยอนเปิดบทสนธนาระหว่างนั่งกินข้าวกลางวัน ลู่หานตักไข่พะโล้ใส่ถาดหลุมไอ้จงอิน สะดุดหูกับคำว่านางพญา...

    ที่นี่ก็มีนางพญางั้นเหรอ??

    “นางพญา...เหมือนกับที่เก่าเลย ที่นั่นก็มี”มินซอกบอก อูฮยอนพยักหน้าหงึกหงัก

    “ใช่ นางพญาก็มีทุกเรือนจำนั่นล่ะ...สิทธิของนางพญาก็คล้ายๆพี่ใหญ่คุมคุก แต่ไม่ใช่ได้ตำแหน่งมาเพราะเรื่องตีนหนัก กระทืบเก่งไรงี้...แต่นางพญาได้มาเพราะสเน่ห์”ลู่หานไม่ค่อยเข้าใจ ที่ว่าได้มาเพราะสเน่ห์...แต่ที่เขาแน่ใจคือคำสั่งของนางพญานั้นมีผลปฏิบัติราวกับเป็นคำสั่งของผู้คุม...

    “แล้วเด็กนางพญา...”ไอ้จงอินถาม เป็นคำถามที่ลู่หานข้องใจมาตั้งแต่อยู่เรือนจำศาล รู้ว่าเด็กนางพญา...อย่างเช่นซึงฮยอน มีสิทธิเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมซึงฮยอนถึงได้ตำแหน่งนั้นมา

    อูฮยอนขำ ตักข้าวใส่ปาก เคี้ยวไม่กี่ครั้งก็กลืน

    .

    .

    “มึงอยากเป็นเด็กนางพญาเหรอวะจงอิน”อูฮยอนไม่ได้ตอบแต่กลับถามกลับ จงอินบอกว่าเปล่า ใครจะไปอยากเป็น...ถ้าต้องแลกสิทธิ์พิเศษ ความเป็นอยู่ที่ดี กับการไร้มิตรสหายแบบที่ซึงฮยอนเป็น...

     

    “ก็ไม่แน่นะ นางพญาย้ายมาอยู่แดนเรา อาจเจอคนถูกใจก็ได้”ไอ้อูฮยอนพูดทิ้งท้ายแล้วหยิบถาดข้าวที่ว่างเปล่าลุกไปล้าง ลู่หานชักริมฝีปาก...อย่างน้อยก็ไม่ใช่เขาล่ะนะ

    “มึงคงได้เอาผู้ชายอย่างที่เคยบอกแล้วมั้ง”ตบบ่าไอ้จงอินแล้วลุกเอาถาดไปล้างถามอูฮยอน ไอ้จงอินโวยวายเสียงดังว่าไม่ใช่แม่ง ใครจะไปอยากเอาผู้ชายคนอื่น ทำเอาคนอื่นงงกันไปเป็นแถบว่าคนอื่นของแม่งคืออะไร แต่ไอ้หมีควายก็กลบเกลื่นด้วยการถือถาดมาล้างซะเฉย

     

    ลู่หานหัวเราะ...เอาถาดล้างเสร็จแล้วน้ำยังหยดติ๋งๆเคาะหัวเพื่อนหน้าหมีไปที เดินเอาถาดไปคว่ำที่ตะแกรงตากก่อนจะกลับไปลงงานกันเหมือนเดิม

     

    วันนี้ลงงานคหกรรม ไอ้อูฮยอนลักขนมที่มินซอกทำกินไปหลายชิ้นเลยโดนไอ้ชินอูด่าแบบถึงโคตรพ่อโคตรแม่ ก็ขนมพวกนี้จะเอาไปขายในสหกรณ์ต่อ ถ้ามีจำนวนชิ้นน้อยก็หมายถึงค่าแรงของักโทษก็จะน้อยตามไปด้วย แต่ดูท่าไอ้อูฮยอนจะไม่ได้สำนึก

    มินซอกยิ้มขำบอกเดี๋ยวทำเพิ่มให้ก็ได้

     

    ลู่หานช่วยผสมแป้งทำคุ้กกี้ให้ ส่วนไอ้จงอินไปนั่งเฝ้าเตากับไอ้ดงกอนนักโทษคนอื่นๆ เอาจริงๆก็คือไปนั่งเฉยๆรอขนมสุกมากกว่า

    “พอไหมมินซอก”ลู่หานถามคนตัวเล็กที่กำลังแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง เห็นบอกว่าจะเอาไข่ขาวมาทำขนมอะไรให้กินกันสักอย่าง

    “ได้แล้วฮะ...ลู่หานฮยองบีบแป้งลงถาดเลย”หน้ากลมๆหันมามองแล้วบอกให้ตักแป้งใส่ถุงผ้าสำหรับบีบครีม จากนั้นก็บีบเนื้อแป้งลงถาด รูปร่างมาตรฐานที่ทำคุ้กกี้ก็หนีไม่พ้นกลมๆ เหลี่ยมๆ รูปหัวใจ มินซอกหันมาหัวเราะเพราะลู่หานบีบแป้งแรงเกินไป เลยกลายเป็นคุกกี้อันใหญ่ แต่ก็ถือว่าขนาดยังใช้ได้อยู่ ไม่ต้องแก้อะไร

     

    ลู่หานมองอีกคนที่หัวเราะร่าเริง

     

    คิมมินซอกกำลังเปลี่ยนแปลง...

     

    จากเด็กพูดน้อยถามคำตอบคำ ไม่กล้าจะสบสายตาใคร มีแต่ความหวาดกลัว อ่อนแอ ปวกเปียก ตอนนี้มินซอกเริ่มหัวเราะกับคนอื่นมากขึ้น เริ่มสบสายตาคนรอบกายมากขึ้น...

    ลู่หานคิดว่าไม่นานเด็กนี่คงจะเปิดเผยตัวตนกับคนอื่นมากกว่านี้...

     

    “มินซอกรู้ตัวไหมว่ายิ้มแล้วน่ารัก”จู่ๆคำชมจากลู่หานก็ทำให้มินซอกชะงักมือที่กำลังตีไข่ขาวในชามพลาสติก คนตัวเล็กกระพริบตาปริบๆ แก้มยุ้ยๆเหมือนจะขึ้นสีแดงมาจางๆแต่เจ้าตัวก็หลบมันเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น ก้มหน้าก้มตาตีไข่ขาวต่อไป

    “ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหนเลย”ปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม ลู่หานวางมือเปื้อนผงแป้งลงบนหัวเล็กแล้วขยี้จนผมนิ่มๆนั่นขาวไปด้วยแป้ง นักโทษคนอื่นเห็นคนตัวเล็กโดนแกล้งก็กรูเข้ามาแกล้งกันบ้างอย่างสนุกสนาน แป้งทำขนมคลุ้งไปทั่ว หัวกลมๆเต็มไปด้วยแป้งจนขาวโพลน แต่กลับมีแต่เสียงหัวเราะดังลั่นไปทั้งช็อปคหกรรม

    ดีที่ผู้คุมเข้ามาเห็นเสียก่อน ไม่งั้นทั้งช็อปคงเละเทะไปมากกว่านี้ มินซอกร้องโวยวายน้อยๆเมื่อถูกล็อกคอป้ายแป้งเข้าที่หน้าเป็นการส่งท้าย น้ำหูน้ำตาไหลเหมือนน่าสงสารแต่ก็น่าแกล้งไปด้วยกัน

     

    “ฮยองแกล้งผม!”เสียงเล็กว่า ย่นปากด้วยความไม่พอใจแล้วขอผู้คุมไปอาบน้ำ ปล่อยให้คนอื่นทำความสะอาดช็อปและรอคุ้กกี้อบเสร็จกันไป

    ลู่หานมองชามไข่ขาวที่คนตัวเล็กทิ้งเอาไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่ามินซอกตั้งใจจะทำอะไรให้กิน แต่เห็นเอาข้าวโพดหวานออกมาหั่นใส่ชามไว้อยู่ ข้าวโพดพวกนี้ก็มาจากแปลงเกษตรกรรมนั่นล่ะ ปลูกไว้ไม่ได้มากเท่าไหร่ มันเลยเป็นเข้าโพดฟันหลอ เอาไว้ต้มกินกันเล่นๆ

    ดูท่าอีกนานกว่ามินซอกจะกลับมา ทั้งโกรธทั้งอายที่โดนแกล้งแบบนั้น คงงอนไปแล้วแหง๋ ลู่หานจับชามไข่ขาวขึ้นตีอีกสักพักก็ค่อยๆใส่แป้งข้าวโพดลงไประวังไม่ให้มันจับเป็นก้อน ตีให้เข้ากับไข่ขาวก่อนหน้า

     

    ความจริงเขาทำอาหาร ทำขนมไม่เป็นเท่าไหร่หรอก แต่ก็พอรู้วิธีทำอะไรกินอยู่บ้าง

     

    มือเรียวหยิบเอาข้าวโพดมาเทใส่แป้งผสมไข่ที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนจะตั้งกระทะที่เตาแก๊สแล้วเทน้ำมันใส่ไปกึ่งหนึ่ง รอให้น้ำมันร้อนได้ที่ ไอ้สีขาวลอยขึ้นเหนือกระทะก็ใช้ผ้าพันด้านช้อนแล้วตักข้าวโพดในชามก่อนจะหย่อนลงในน้ำมันให้เป็นก้อนๆ

    เสียงน้ำมันกระจายดังขึ้นและค่อยๆเบาลง ลู่หานตักข้าวโพดชุบแป้งลงทอดหลายลูก ไอ้ชินอูร้องอุทาน มองข้าวโพดชุบแป้งทอดในกระทะแล้วชมลู่หานว่าทำแดกเองก็เป็นกับเขาด้วย

    ลู่หานหัวเราะ เขี่ยอันที่สุกแล้วขึ้นวางในถาดอบคุ้กกี้ที่ยังมีผงแป้งรองอยู่ ขี้เกียจจะหากระดาษทิชชู่ซับน้ำมันให้มันวุ่นวาย ที่นี่ไม่ใช่รายการทำอาหารตามช่องหลากสี ไอ้ผงแป้งที่อยู่ในถาดนั่นก็ช่วยซับน้ำมันได้เหมือนกัน

    ข้าวโพดชุบแป้งทอดสีเข้มวางสลอนอยู่ในถาด ลู่หานกวักมือเรียกพวกที่เฝ้าเตาอบมากินกัน ถ้ามีน้ำจิ้มคงจะดีกว่านี้ แต่ลู่หานไม่รู้ว่าจะไปหาวัตถุดิบทำน้ำจิ้มได้ที่ไหน ที่มีก็แค่น้ำตลไว้ทำขนมเท่านั้นเอง

    “เหลือให้มินซอกด้วยนะ”เขาบอกแล้วหาเอากระดาษแถวนั้นมาห่อชิ้นข้าวโพดชุบแป้งทดเอาไว้ให้มินซอก เห็นไอ้ชินอูเอาข้าวโพดชุบแป้งทอดสองชิ้นไปแบ่งให้ผู้คุมที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูช็อป ลู่หานยิ้มให้ผู้คุมที่มองเข้ามาหากลุ่มคนที่รุมกินข้าวโพดชุบแป้งทอดเหมือนพวกอดอยาก

     

    ...น่าแปลกที่ผู้คุมนั้นส่งยิ้มกลับมาให้...

     

    นี่คงเป็นอีกอย่างที่ลู่หานได้รู้...ว่าผู้คุมกับนักโทษก็สามารถเป็นมิตรกันได้...

     

    ในคุกไม่ได้มีแค่ผู้คุมที่ปล่อยปละให้นักโทษตีกันตามสบายเหมือนที่เรือนจำศาล ไม่ได้มีแค่ผู้คุมที่พยายามจะแจกตีนตัวเองให้นักโทษเหมือนผู้คุมอินซู ไม่ได้มีแค่ผู้คุมที่ลากกระบองไฟฟ้าไปมาอย่างอวดกร่าง...

     

     

    ลู่หานกับเพื่อนเก็บกวาดช็อปคหกรรม ล้างอุปกรณ์เก็บเข้าที่ เสร็จสิ้นเวลาสี่โมงเย็น มินซอกกลับมาพอดี หน้ากลมๆยังอูมอยู่ หัวเล็กเบี่ยงหลบมือไอ้จงอินที่จะเอื้อมไปขยี้ผม

    ลู่หานส่งห่อกระดาษที่บรรจุข้าวโพดชุบแป้งทอดสามชิ้นเอาไว้ให้คนตัวเล็ก คิ้วเรียวเลิ่กขึ้น มือเล็กรับไปงงๆแล้วเปิดห่อดูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถาม

    “ฮยองทำเองเหรอ?”

    “อืม ลองกินดิ”มินซอกเดินตามทุกคนไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างมือล้างไม้ มือเล็กก็หยิบเอาข้าวโพดชุปแป้งทอดออกมาจากห่อด้วย ความจริงคนตัวเล็กก็จำทำข้าวโพดทอดเหมือนกัน นึกประหลาดใจที่ลู่หานทำมันต่อจากที่มินซอกค้างเอาไว้ได้โดยที่ไม่รู้ว่ามินซอกคิดจะทำอะไรมาก่อน

    แม้กัดไปจะมีน้ำมันเยิ้มไปสักนิด แต่รสชาติถือว่าโอเคเลยทีเดียว เพราะใส่แป้งไม่ได้มากเกินไป รสหวานของไข่เลยยังคงอยู่ อีกทั้งตัวข้าวโพดเองก็ถือว่ากำลังดี ไม่ได้ดิบหรือสุกเกินไป

     

    มินซอกอมยิ้ม รอคนอื่นล้างมือไปก็กัดข้าวโพดชุบแป้งทอดอีกคำหนึ่ง...

     

     

    ก็อร่อยดีนะ...

     

     

     

     

     

     

    TBC.

     

     

    ไม่เห็นจะมีสาระอะไร ฟิคอัลไรไร้สาระไปวันๆ ก๊ากกกกกกกกกก

     

    เหย เรื่องคหกรรมนี่บอกเลยไม่รู้เรื่องอย่างแรง 555 รู้สึกว่าจะโอเคกับการเขียนฉากซ่อมรถมากกว่า 5555555555555

     

    ยังมีคนคิดว่าซอกรวยอยู่อีกหรือ เราไม่ได้บอกเลยน้าว่าน้องรวย 5555555 น้องไม่ใช่ลูกคุณหนูมาจากไหนหรอกข่า แต่ปูมหลังนางเป็นยังไงก็คงต้องดูกันต่อไป อุก๊ากกกกกกกกกก

     

     

    ให้ทาย...นางพญาของทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางแห่งนี้คือใคร??

     

     

    #พี่ลู่คนคุก นะจ๊ะนะ

     

    เม้นก็ดีนะ เม้นเหอะ *บูชาด้วยพี่ลู่*

     

     

     

     

    แมลงจี่...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×