ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Switch Love=สลับรักหัวใจลงล็อค(กันแก้ม เอ้ะ หรือแก้มกัน)

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 402
      10
      6 เม.ย. 59




    "คุณหมอคะ  ตกลงนังกันนี่มันเป็นยังไงบ้างคะ"

    "ตกลงลูกสาวดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ"

    "ลูกชายผมเป็นยังไงบ้างครับ"

    "น้องสาวผมปลอดภัยมั้ยครับ"

    เสียงแต่ละคนถามชนิดไม่มีเว้นวรรคให้หมอที่กำลังจะพูดออกมาได้พูดซักที จะพูดทีคนนั้นก็แทรกมา จะพูดทีคนโน้นก็แทรกมาจนหมอได้แต่อ้าปากค้างยังงั้น

    หน้าหมอแบบ กูจะได้พูดตอนไหน

    "ขอโทษนะครับ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบก่อนนะครับ"

    "จะให้เย็นได้ไงล่ะคะคุณหมอ น้องสาวฉันทั้งคนนะคะจะให้เย็นได้ไงหมอก็พูดมาซักทีสิคะมัวแต่อมดอกพิกุลอยู่ได้ ว้ายคนสวยชักรำคาญ ถึงจะเป็นกะเทยแต่ก็เคยเป็นนักมวยมาก่อนนะคะ"

    "เจ๊โน่ค้า ใจเย็นค่า"

    "เย็นอะไรยะนังฮั่น ยุ่งมากแม่ตบกล้ามบุบนะยะเป็นกะเทยเสือกเพาะกล้ามอีก"

    "โอ้ย แล้วเจ๊จะมายุ่งอะไรกับกล้ามชั้นล่ะเนี่ย มันใช่เรื่องที่จะมาลงที่กล้ามชั้นมั้ย"

    "ก็ชั้นรำคาญลูกตา  โอ้ยแล้วตกลงเมื่อไหร่หมอจะพูดวะ. เดี๋ยวจับทำผัวซะเนี่ย"

    ทะเลาะอยู่ดีๆวกมาทีรหมอให้หมอเกาหัวงงซะงั้น

    "คือคุณนภัทร"

    "โอ้ยหมอ บอกมาซักทีสิวะ ปั้ดโธ่ หมอนีลีลา"

    "ไอ้โน่ เอ้ย โนนี่ ใจเย็นดิ๊"

    "เย็นไม่ไหวล่ะอาร์  ชั้นเป๊นห่วงน้องสาวชั้นนี่"

    อาณัตพลเกาหัวแกรก ประมาณแบบแล้วกูกะแม่กูไม่ห่วงน้องสาวกูหรือไง. กูจะฟังหมอมึงก็แทรกอยู่ได้ เดี๋ยวจับไปเปลี่ยนชื่อเป็นภาคินเหมือนเดิมเลยนี่. 

    เรืองฤทธิ์ที่เงียบอยู่นานเริ่มรำคาญเสียงทะเลาะกันเอง เขาเดินเข้าไปหาหมอ

    "แล้วตกลง เพื่อนผม เอ่อ เพื่อนริชชี่เป็นยังไงบ้างคะ"

    คำถามและโทนเสียงที่เรืองฤทธิ์พูดออกไป  ทำให้ลลนาหันขวับเพราะสะดุดอะไรเข้า

    ผมหรอ น้ำเสียงเมื่อกี้มัน

    หมอถอนหายใจในที่สุดก็ได้พูดซักที หมอทั้งสองคนที่ยืนค้างอยู่นานจึงได้พูดว่า

    "ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับแต่กว่าคนไข้จะฟื้นคงต้องใช้เวลา  แต่ว่าคนไข้ปลอดภัยแล้วครับ พักฟื้นที่นี่ซักหนึ่งสัปดาห์ก็กลับบ้านได้"

    "แล้วลูกสาวดิฉันไม่ช้ำภายในตรงไหนแน่นะคะ"

    "แค่บาดเจ็บภายนอกนะครับ จะหนักหน่อยตรงที่คนไข้ได้รับกระทบกระเทือนมากไปหน่อย เลยทำให้คนไข้ไม่ได้สติ

    "พี่ชายผมไม่เป็นอะไรแน่นะครับ"

    "ครับ เท่าที่ตรวจและเอ็กซเรย์ตอนนี้นะครับ แต่เพื่อความสบายใจ. อาจจะพักฟื้นที่โรงพยาบาลนานกว่าหนึ่งอาทิตย์เพื่อทำการเช็กให้ละเอียดเพื่อตรวจร่างกายให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้หมอขอตัวก่อนนะครับ"

    คุณหมอเดินออกไปจากตรงนั้นทั้งสองคนท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน

    "แก้ม แม่ดีใจที่ลูกปลอดภัย"

    "โอ้ย นึกว่ากันนี่จะเป็นอะไรมากกว่านี้อีก โล่งอกไปที"

    "พี่กัน พี่หายไวๆนะครับ"

    "แก้ม พี่ดีใจนะที่เราปลอดภัย"

    ทุกคนพากันสบายใจขึ้นเมื่อได้รู้ว่าทั้งนภัทรและวิชญาณีปลอดภัย 

    อติรุจหันมาทางบิดา

    "พ่อครับ  พี่กัน"

    "เออ พ่อรู้"

    เรืองฤทธิ์รู้สึกโล่งอกที่นภัทรปลอดภัย ตอนนี้นภัทรก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วแค่หมดสติและได้รับบาดเจ็บบางส่วน เมื่อนภัทรไม่ได้เป็นอะไรมากเขาจึงปลีกตัวออกมาเพื่อโทรหาที่บ้าน

    ลลนามองตาม




    "ตอนนี้แม่ยังไม่ตื่นใช่มั้ยคะพ่อ ค้ะ เพื่อนรินไม่เป็นอะไรแล้ว เพียงแต่หมดสติไป ตอนแรกเห็นทุกคนบอกว่าแย่เพราะมีแต่เลือดแต่หมอช่วยได้ทันพอดี รินว่ากว่าเพื่อนรินคงยังไม่ฟื้นเดี๋ยวรินจะกลับไปนะคะ ค่ะพ่อ รินจักลับบ้านแล้วค่ะ แค่นึ้นะคะ"

    เรืองฤทธิ์วางสายถอนหายใจโล่งอกไปที

    "เฮ้อ กลับบ้านไปดูแม่ดีกว่า พ่อจะได้พักผ่อน"

    เรืองฤทธิ์หันหลังกลับเพื่อจะเดินออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้าน หลังจากไม่มีอะไรน่ากังวลเขาก็ตัดสินใจไปอยู่ต่อ

    แต่จังกวะที่หัน ลลนาตามมาพอดีเรืองฤทธิ์ถึงกับชะงักไปเลยทีเดียว

    แต่ไม่พูดอะไรออกไป กลัวว่าเขาจะหลุดอะไรบางอย่างให้ลลนาจับได้เข้า

    "ริท  นาย"

    เรืองฤทธิ์หลุบตาลงเพื่อไม่สบตาอีกฝ่าย แต่ลลนาเดินเข้าหา

    "ริท  เจี๊ยบมีเรื่องจะขอคุยหน่อย จะ"

    "ชั้นไม่มีอะไรจะพูดกะเธอ แล้วชั้นก็ไม่ได้ชื่อริท ชั้นคือริน เรียกริชชี่ก็ได้. ถ้าจะทักคราวหน้าล่ะก็ก็จำด้วยละกันว่าชั้นชื่ออะไร"

    "ริท เจี๊ยบจะ"

    "เอ้ะ ก็บอกแล้วไงว่ารินๆไม่ก็ริชชี่  เป็นทอมแล้วยังปลาทองไม่เปลี่ยนอีก"

    ลลนายิ้มทันที

    "ปลาทอง ใช่ นายคือริทจริงๆด้วย นายชอบเรียกเจี๊ยบว่าปลาทองด้วย ริทจำเราได้นี่"

    เรืองฤทธิ์อึ้งก่อนที่จะรีบเสออกไปทางอื่น

    "จำด้งจำได้อะไร ก็เธอมันความจำสั้นชั้นย้ำอะไรเธอก็ไม่ฟังนี่ ดังนั้นปลาทองน่ะเหมาะกะเธอดีชั้นจะว่าเธอเป็นปลาทองมันก็ไม่ผิด อย่ามาโมเมอะไรส่งเดช   หลบชั้นจะกลับบ้าน"

    "เดี๋ยวสิ เจี๊ยบยัง"

    "นี่จะหลบไปซะดีๆมั้ย ชั้นจะกลับบ้าน"

    เรืองฤทธิ์เริ่มโทนเสียงเข้มขึ้น ลลนาจะพูดต่อแต่พอเจอสายตาเรืองฤทธิ์ที่แสดงออกจนลลนารู้สึกหวั่น เลยหลีกทางให้อีกฝ่ายทันที เรืองฤทธิ์ไม่ชายตามองเอาแต่เดินอ้าวไม่หันมาทางลลนาซักนิด

    ลลนาถอนหายใจแต่แววตายังไม่ยอมแพ้ง่ายๆพลันคิดว่ายังไงต้องหาทางคุยกับอีกฝ่าย 

    "ริท นายหนีฉันไม่พ้นหรอก ยังไงเราจะหาทางคุยกับนายให้ได้"

    เธอปลุกใจตนเองและไม่ยอมแพ้นึกตามไปทันที

    "ริทๆ เดี๋ยวสิ"

    เรืองฤทธิ์ไม่ฟัง พยายามเดินหนีไม่มีแม้แต่รอ ลลนายังเดินตาม

    "ริทเดี๋ยวสิ"

    เดินเร็วชะมัด 

    "จะตามมาทำไม"

    เรืองฤทธิ์ตัดสินใจหยุดและหันกลับมาถาม ทำเอาลลนาเกือบหยุดไม่ทัน

    "ริท เจี๊ยบอยากคุยกับริทไง"

    เรืองฤทธิ์จ้องเขม็งเดินเข้าไปหา ทำเอาลลนาถอยหลังอัตโนมัติ

    "ริท เรา"

    "ชั้นว่าเธอเลิกเพ้อหาหมอนั่นจะดีกว่า สารเลวนั่นมันตายไปนานแล้ว ถ้าไม่อยากเดือดร้อนเลิกตามหาคนที่เธออยากคุยซะ อย่ามายุ่งกับชั้นด้วยชั้นไม่ชอบทอม"

    "ทำไมนายต้องว่าตัวเองว่าเลวด้วยริท นายทำอะไรมาริท บอกเราสิ เราสองคนสัญญาไม่ใช่หรอว่ามีอะไรจะบอกไม่ปิดบัง นายเป็นอะไรทำไมต้องแกล้งเป็นกะเทยด้วย"

    "เธอนี่เพ้อเจ้อนะ แกล้งเป็นกะเทยอะไรชั้นไม่รู้เรื่อง ชั้นเป็นผู้หญิงแบบนี้มาตั้งนานแล้ว และชั้นก็ชื่อริน ไม่ได้ชื่อริทอย่างที่เธอยัดเยียด  และโลกนี้ก็ไม่มีคนชื่อริทอยู่บนโลกมาตั้งนานแล้ว มันตายไปแล้วเลิกบ้าซะที  และก็ตามชั้นด้วย รำคาญ"

    เรืองฤทธิ์ตะคอกก่อนที่จะเดินหนีไม่ใยดีลลนาแม้แต่จะไม่ชายตามอง ลลนารู้สึกไม่เข้าใจจริงๆว่าตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ เมื่อก่อนเธอจำได้ว่าเรืองฤทธิ์ไม่ได้เป็นแบบนี้

    "ต้องเกิดอะไรขึ้นกับนายบางอย่างแน่ นายถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ ชั้นไม่เชื่อหรอกว่านี่คือตัวตนของนาย  แต่ก็ได้ ในเมื่อนายยืนยันนักหนาว่าเป็นกะเทยนัก ชั้นจะเป็นทอมต่อไป จนกว่าชั้นจะหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาย"

    ลลนาพึมพำกับตนเอง ถอนหายใจเดินกลับ ยังไงวันนี้คงไม่มีทางได้คลายเรื่องคาใจของเธอ 



    แกรก

    เรืองฤทธิ์กลับมาถึงห้องนอนของมารดา สายตาจับจ้องร่างที่นอนบนเตียง

    "แม่  รินกลับมาหาแม่แล้วค่ะ  คนที่อยู่กับแม่ทุกวันนี้คือรินนะคะแม่ ได้โปรดหายไวๆนะแม่ รินสัญญาว่าจะไม่ให้คนที่แม่เกลียดมาให้เห็นหน้า มันตายไปแล้วนะแม่ ไอ้ริทมันไม่มีทางกลับมาให้แม่เห็นแล้ว ลูกของแม่มีแต่เกวริฅน หายป่วยนะแม่แล้วรินจะพาแม่ไปเที่ยวที่แม่อยากไปนะแม่"

    เรืองฤทธิ์นั่งกุมมือมารดาสายตาเจ็บปวดสุดแสนร้องไห้ไม่อาย

    เรืองเดชแง้มประตูแอบดู

    "ริทเอ้ย เวรกรรมของลูกจริงๆ  เมื่อไหร่ลูกจะยอมปลดจากบ่วงกรรมและบทลงโทษตนเองซะที"





    ตอนนี้ทั้งนภัทรและวิชญาณีถูกพาย้ายจากห้องฉุกเฉินมาที่ห้องคนไข้ ทั้งคู่ยังคงไร้ท่าทีที่จะฟื้นอีกนาน  บรรดาเพื่อนๆนภัทรก็พากันกลับหมดแล้ว. กะว่าจะมาเยี่ยมอีกทีพรุ่งนี้เลยแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ยกเว้นภาคินที่ยังยืนคุยกับอาณัตพลอยู่

    "เฮ้อ เวรกรรมอะไรนะ ยัยแดดเดียวเอ้ย นี่ น้องนายเป็นไงบ้างล่ะ"

    "ยังไม่ฟื้นเลย นี่แม่เราก็เอาแต่นั่งเฝ้าแก้มมัน เฮ้อ แก้มเอย แกจะรู้มั้ยว่าแม่ห่วงแกแค่ไหน"


    ห้องวิชญาณี

    "แม่ขอโทษนะลูก แม่ผิดเองที่บังคับเรา ตื่นขึ้นมาหาแม่ไวๆนะ แม่รักลูกนะแก้ม ฮือๆๆ"



    "เออ ว่าแต่น้องสาวเธอล่ะโน่"

    ภาวินีหันไปทางห้องนภัทร

    "ยังไม่ฟื้นเลยอ่ะอาร์ ตอนนี้พ่อนังกันนี่กะน้องชายนางเฝ้าอยู่. เฮ้อ ถึงจะไม่ชอบที่ลูกเป็นทอมหรือกะเทย แต่สุดท้ายก็ยังคงรักลูกอยู่ดี"



    ภายในห้องนภัทร

    "พ่อ. พี่กันคงยังไม่ฟื้นตอนนี้หรอกพ่อ ผมว่าพ่อไปพักเถอะครับ เดี๋ยวผมเฝ้าพี่กันให้"

    "ไม่เป็นแคน พ่อว่าเรานั่นแหละนอนไปเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้าอีก"

    "แต่พ่อ"

    "เออ พ่อไม่เป็นไร เอ็งไปนอนไป"

    "ครับ"

    ปฏิภาณหันมาทางนภัทรที่ยังหลับบนเตียง

    "กัน หายไวๆนะ พ่อรักแกนะไอกัน"

    ปฏิบัติาณพูดไปลูบหัวนภัทรไป ใบหน้าชายวัยกลางคนมองนภัทรด้วยความเป็นห่วง

    เลยไม่ๅด้สังเกตุว่ามีการเคลื่อนไหวบางอย่างของคนบนเตียงคนไข้





    .............

    มาต่อครบตอนแล้วครับ. ติชมได้น้า เจอกันตอนหน้าจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×