ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 59








    “โธ่เว้ย”

    เรืองฤทธิ์กลับมาบ้านก็ตรงเช้าห้องตนเองโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  แม้กระทั่งนภัทร  เพราะเขารู้ว่าตอนนี้นภัทรหลับอยู่   พอเข้ามาในห้องได้ก็เหวี่ยงเสื้อไปที่เตียงทันที

    “ทำไมวะ  อุตส่าห์กันพี่โน่ให้เป็นแฟนพี่โมได้  แต่สุดท้าย  มันก็กลับมาอีก  ไม่มีวัน  ริทไม่มีวันให้เป็นแบบนี้แน่  หึ  ริทจะไม่มีวันยอมให้กันเป็นของใคร  ไอ้โตโน่  ถ้าแกคิดจะมายุ่งกับน้องฉัน  ชีวิตแกอย่าหวังว่าจะอยู่อย่างสงบเลย  พี่โม  ผมขอโทษนะพี่  ที่ผมจำเป็นต้องทำให้พี่กลับมาเป็นแฟนพี่โน่ให้ได้  เพราะถ้าพี่โน่จะมาแยกกันออกจากริท  ริททนไม่ได้  ฮึ่ม”

    หมอร่างเล็กกำมือแน่น  ดวงตาที่เคยเป็นประกายหวานๆสดใสกลับเต็มไปด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

    “กัน  รักริทหรือเปล่า”

    คำพูดเมื่อตอนเด็กลอยเข้ามาในหัว

    “รักดิ  ริทเป็นแฝดของกัน  กันจะอยู่กับริทตลอดไป”

    “จริงนะ  น้องกันของริท  อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ”

    “อื้อ  กันสัญญา  กันจะอยู่กับพี่ชายคนนี้ตลอดไป  ริทต้องสัญญาก่อนนะว่าริทจะอยู่กับกันตลอดไป  เราสองคนเป็นฝาแฝดกันจะต้องไม่แยกจากกันนะ”

    “แน่นอน  ริทสัญญาว่าจะปกป้องกันตลอดไป  กันก็อย่าไปไหนจากริทนะ”

    “อื้อ  สัญญา”

    สองพี่น้องฝาแฝดที่แตกต่างพากันเกี่ยวก้อยสัญญา

    “ริทจะรักษาสัญญา  และกันต้องรักษาสัญญากับริทด้วย  ว่ากัน  จะอยู่กับริทคนเดียว  อุตส่าห์ปล่อยให้มีโอกาส  ในเมื่อฟ้าเข้าข้างริท  ให้กันอยู่กับริทแบบนี้  ริทก็ไม่มีวันปล่อยให้กันรักใครอีก  กันต้องอยู่กับริทตลอดไป”

    เรืองฤทธิ์กัดฟันแน่น  สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง  เขากับกันอยู่ด้วยกันแล้วจะมีใครซักคนมาพรากไปน่ะหรือ 

    ไม่มีวัน

    ที่ผ่านมา

    เขาปล่อยมามากพอแล้ว

    ช่วยไม่ได้  ในเมื่อคนเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้อยู่กับน้องของเขาเอง

    และนภัทรก็กลับมาอยู่กับเขาแล้ว

    ครั้งนี้  เขาจะไม่มีวัน  ให้นภัทรรักใครเด็ดขาด

    ถ้ามันคิดจะพรากไปละก็

    เห็นดีกันไปข้างนึง

     

    เช้าวันต่อมา

    “ริท  วันนี้ทำอะไรกินหรอ  หอมจัง”

    นภัทรเดินเข้ามาในครัวทักทายพี่ชายด้วยความร่าเริง  เรืองฤทธิ์หันมาทางนภัทรส่งยิ้มใสๆให้

    “ก็ข้าวต้มกุ้งไงกัน  วันนี้ริทปรุงสุดฝีมือเลยน้า”

    “หรอ  เอ  มีอะไรมั่งนะที่ริทไม่ทำสุดฝีมือ  เห็นทำอะไรก็อร่อยทุกมื้อ”

    “หรอ  งั้นกินให้หมดนะ  ถ้าไม่หมดริทเคืองจริงๆด้วย”

    นภัทรหน้าเบ้

    “หมดนี่  กันจะพุงแตกมั้ยเนี่ย”

    “แตกก็ไม่เป็นไร  ริทเย็บให้”

    “ริท  ท้องคนนะ  ไม่ใช่เสื้อ  ชิ”

    เรืองฤทธิ์ยิ้ม  ก่อนที่จะตักข้าวต้มกุ้งให้

    สองฝาแฝดนั่งกินข้าวด้วยกัน  บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข

    “กัน”

    อยู่ๆเรืองฤทธิ์ก็เอ่ยทำลายความเงียบ  นภัทรเงยหน้า

    “หือ  มีอะไรหรอ”

    “ริทรักกันนะ”

    นภัทรวางช้อน  ก่อนที่จะเอามือจับหน้าฝาแฝดตัวเองและหยิกเบาๆ

    “รู้แล้วน่า  จะมีใครรักกันเท่าริทล่ะ”

    “อืม”

    เรืองฤทธิ์ตักกุ้งตัวโตในชามตนเองให้นภัทร  เพราะรู้ว่านภัทรชอบกินกุ้งมาก  ก่อนที่จะพูดต่อ

    “กัน  สัญญากับริทอะไรอย่างนึงได้มั้ย”

    “อะไรหรอ”นภัทรถามทั้งที่ยังเคี้ยวตุ้ยๆ

    “ริทไม่อยากเห็นกันร้องไห้อีก”

    “หมายความว่ายังไงหรอ”นภัทรถาม  ความสงสัยเกาะกุมทันที

    “คือ  ริทไม่อยากเห็นกันร้องไห้อีก  กัน  รู้มั้ยว่าเวลากันมีความรักและสูญเสียคนที่รักไปกันทำให้ริททุกข์ใจแค่ไหน  ริทไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีกแล้ว  กัน  ริทขอให้กันอย่ามีความรักได้ไหม”

    นภัทรอึ้งไปทันที

    “ริท  คือกัน”

    “นะกัน  กันไม่เคยมีความสุขเลยเวลามีความรัก  นะ   ริทขอ  ถ้ากันกลัวว่าจะไม่มีใครดูแล  ริทจะดูแลกันเอง”

    นภัทรนิ่งไปซักครู่

    “อื้อ  ก็ได้  เพราะกันเองก็ไม่อยากเจ็บ  อีกอย่าง  คงไม่มีใครสนใจคนกินผัวอย่างกันหรอก  กันเจ็บมามากพอแล้ว”

    “ดีมาก  อ่ะ  กินเยอะๆนะ”

    “อื้อ”

    นภัทรยิ้มให้  ก่อนที่จะกินข้าวต้มต่อไป  เรืองฤทธิ์มองนภัทรด้วยความสมใจ

    เพราะเขาหวง  น้องของเขา

    ปล่อยมามากแล้ว  ถึงเวลาที่จะทวงของรักของตนเอง  คืน!

     

    ธนทัตดื่มเหล้าที่ผับ  ความเจ็บแค้นที่ไม่สามารถชนะเรืองฤทธิ์ได้   ยิ่งฝ่ายนั้นตัวเล็กกว่าเขาแท้ๆ  แต่เขากลับสู้ไม่ได้ 

    “กันต้องเป็นของเรา  ไอ้ริท  แกจะหวงน้องแกไปซักกี่น้ำ  อย่าให้ถึงทีกูบ้างละกัน  กูจะทวงของกูคืน  กูรักกันมาตั้งนาน  ในเมือโอกาสกลับมาอีกครั้ง  จะไม่ยอมเสียกันไปเด็ดขาด”

    ธนทัตพูดกับตัวเองก่อนที่จะกระดกแก้วเหล้าในมือรวดเดียว  ก่อนที่จะวางแก้มอย่างแรง

    เสียงเพลงในผับที่ออกจะหวานซ้ำ  แต่ไม่สามารถดับความร้อนรุ่มในใจเขาได้

    “โอ้ะ  ขอโทษครับ”

    ธนทัตรู้สึกว่าเหมือนใครมาชน  ธนทัตหันไปพบชายคนหนึ่งตัวสูงพอกับเขา  แต่รึ้กว่าจะร่างเล็กกว่า

    “ไม่เป็นไรครับ  ผมไม่ถือ”

    หน้าหวานยิ้มมาให้

    “แหม  ไม่อยากจะรู้จักกันหน่อยหรือครับ”

    ธนทัตเลิกคิ้ว

    “คุณต้องการอะไร”

    ร่างบางยิ้ม  ก่อนที่จะพูดต่อไป

    “ผมชื่อเซน  คุณล่ะ”

    “ผมชื่อแกงส้ม  เรียกแกงก็ได้”

    ดูเหมือนว่าธนทัตจะเดาออกว่าฝ่ายนั้นตั้งใจจะมาชนเขา  และพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายยั่วยวนตัวเองเลยหันมา

    “ต้องการอะไร”

    ภูหิรัณย์ยิ้ม

    “เปล่านี่  แค่อยากทำความรู้จัก”

    ธนทัตไม่สนใจ

    “แต่ผมไม่อยากรู้จัก  อย่ามาสนใจผมเลย”

    ภูหิรัณย์หัวเราะ

    “แน่ใจหรอคุณแกงส้ม  ว่าไม่อยากจะรู้จักผม  ทั้งที่จุดประสงค์ของเราไม่ต่างกัน”

    ธนทัตหันขวับ

    “หมายความว่ายังไง”

    “คุณแกง  ต้องการนายกัน   น้องของหมอริทไม่ใช่หรอ”

    ธนทัตประจันหน้าภูหิรัณย์ทันที

    “คุณรู้จักด้วยหรอ”

    “แน่นอน  รู้จักทั้งพี่และน้องเลยล่ะ”

    ภูหิรัณย์ยกคิ้วท้าทาย  ธนทัตเริ่มรู้สึกถูกใจเสียแล้ว

    “ท่าทางผมกับคุณน่าจะทำความรู้จักกันให้มากๆแล้วมั้ง”

    ภูหิรัณย์ยิ้มพอใจ  ก่อนที่จะเอามือไปลูบอกแกร่งอย่างเบามือราวกับปลุกอารมณ์

    “ก็เอาสิ  ผมเองก็อยากจะรู้จักคุณมากกว่านี้เหมือนกัน  ว่าแต่จะไปทำความรู้จักที่ไหนดีล่ะ”

    ภูหิรัณย์กระซิบข้างหูเสียงแหบพร่า  ก่อนที่ธนทัตจะกระชากร่างตรงหน้ามาบดขยี้จูบอย่างร้อนแรงก่อนที่จะตอบว่า

    “ที่ไหนก็ได้  จะทั้งวันหรือชั่วคราวผมไม่เกี่ยง”

    ธนทัตมองอีกฝ่ายด้วยแววตาหื่นกระหาย  ส่วนอีกฝ่ายก็จ้องกลับไม่แพ้กัน

    “งั้นขอรู้จักแบบลึกซึ้งและหนักๆเลยละกัน  ทั้งคืน   ยิ่งดี”

    สองคนมองหน้ากัน  ท่าทางจะถูกใจกันมาก

     

    ในห้องสุดหรูของโรงแรมแห่งหนึ่ง  สองร่างกำลังฟัดเหวี่ยงอย่างเมามันส์และถึงพริกถึงขิง  เสื้อผ้าหล่นเกลื่อนกราดไปหมด  สองเสียงประสานกันไม่เป็นจังหวะอย่างเร่าร้อน   ถ้าหากห้องนี้เก็บเสียงไม่ดีใครผ่านมาก็รู้ว่าคนในห้องทำอะไรกัน

    เวลาต่อมา

    ธนทัตมองภูหิรัณย์อย่างติดใจ  ร่างบางอยู่ในชุดคลุมสีขาวหยดน้ำเกาะตามกายทำเอาร่างนั้นดูเป็นประกายสวยงาม  ยกเว้นจิตใจของคนคนนั้น

    กิจกรรมที่ผ่านมา  หาได้ทำให้ทั้งคู่ดับความร้อนรุ่มในใจได้  ยิ่งต่างคนต่างพากันสนองทุกท่วงท่าแบบไม่มีการหยุดพัก

    ทำเอาทั้งสองคนติดใจซึ่งกันและกันไม่น้อย

    แต่ก็นั่นแหละ  ก็แค่คู่นอนชั่วคราว  เพราะจุดประสงค์ทั้งคุ่

    ไม่ใช่สิ่งนี้

    แต่ก็นั่นแหละ  ธนทัตรู้สึกโหยหาสิ่งนั้นจากภูหิรัณย์  แต่ตอนนี้ต้องพักยกกันก่อน  เพราะมีเรื่องที่จะตกลงกัน

    “ไม่นึกเลยนะว่าคุณทำให้ผมคลั่งได้”

    ธนทัตว่า  พลางจิบไวน์ไป  แต่ตาหาได้ห่างไปจากคนนี้ไม่

    “แหม  อะไรกัน  แค่ไม่กี่ยกมาบอกว่าคลั่ง  แล้วแบบนี้นายกันจะทำให้คุณคลั่งอย่างผมทำให้คุณหรือเปล่า”

    ภูหิรัณย์ยิ้มยั่ว  ลากมือไล้ไปตามอกแกร่งของธนทัต  ธนทัตยิ้ม  ก่อนที่จะมืออีกฝ่ายให้ออกจากตน  แต่เปลี่ยนเป็นกระชับกอดแทน

    “ร้อนแรงจังนะ”

    “เพราะคุณเซนนั่นแหละ  ผมเองก็ห่างเรื่องพวกนี้นานเสียด้วย”

    “มิน่า  ถึงได้แรงดีไม่มีตก”

    “หรอ”

    สองคนยิ้ม  สายตานี่มันปีศาจชัดๆ

    “เอาล่ะ  ผมว่าเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า”

    ภูหิรัณย์ว่า  ก่อนที่จะขยับห่างคนตัวสูงกว่า

    “คุณเซนคงไม่ใช่แค่อยากให้ผมแยกกันออกจากหมอริทหรอกมั้ง  ดูท่าทางคุณสนใจหมอริท”

    ร่างบางยิ้มถูกใจ

    “แน่นอน  เพราะถ้าไม่มีมัน  หมอริทต้องสนใจฉัน  ไม่ใช่เอาแต่ดูแลมันจนไม่คิดจะมองฉันเลย”

    “เราสองคนหัวกเดียวกันเลยนะคุณเซน  ผมเองก็หมั่นไส้ไอ้หมอริทเหมือนกัน  ไม่รู้จะหวงอะไรนักหนา”

    “ใช่  เพราะอย่างนี้ไง  เราสองคนต้องร่วมมือกัน”

    ธนทัตมองภูหิรัณย์

    “ยังไง”

    “ก็คิดดูนะ  ถ้าคุณแกงตกเป็นของคุณได้  มีหรือหมอริทจะปล่อยให้น้องของเขาเปื้อนราคี  ก็คงยอมยกให้คุณไง”

    “พูดมันง่ายนะคุณเซน  ผมเองก็หาทางตลอดเวลาเหมือนกัน  แต่สุดท้าย  มันก็กลับมาขัดจังหวะได้”

    ธนทัตพูดด้วยความแค้น  เจ็บใจที่เรืองฤทธิ์ขวางได้ทุกครั้ง

    “เพราะอย่างนี้ไง  เราสองคนต้องร่วมมือกัน  ต่างคนต่างวิน-วินทั้งคู่  เป็นยังไง  แฟร์มั้ย”

    ธนทัตยิ้มถูกใจ

    “น่าสนใจดีนี่  ว่าแต่  เราสองคนยังสนุกได้ใช่ไหม”

    ธนทัตลูบใบหน้าอีกคนด้วยราคะ  ภูหิรัณย์เองก็น้อยหน้าซะที่ไหน

    “ตราบใดที่เราสองคนต้องการ  เราก็ยังร่วมสนุกได้  ว่าแต่คุณเถอะ  ตอนนี้ยังอยากอยู่หรือเปล่าล่ะ”

    สิ้นคำถาม  ธนทัตรวบร่างภูหิรัณย์ให้ราบไปกับเตียงทันที

    “พอใจกับคำตอบมั้ยครับ  ผมน่ะ  ไม่ถนัดคำพูด  แต่กระทำชัดเจน”

    “แล้วจะรอช้าทำไมล่ะ  ผมน่ะไม่ไหวแล้ว”

    ไม่ต้องพูดอะไรมาก  เพราะในห้องตอนนี้ลุกท่วมไปด้วยไฟราคะทั้งสองคน  โดยไม่มีใครยอมแพ้กันเลยทีเดียว 

     

    นภัทรมาทำงานตามปกติ  พอเข้ามาบริษัทเสียงนินทาก็ดังอีกครั้ง

    “หึ  ยังอุตส่าห์หน้าด้านอยู่นะ  หึ  ไม่รู้ว่าคนกินผัวจะเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า”

    “นั่นน่ะสิ  ถ้าเป็นฉันน่ะนะ  คงไม่อยู่หรอก  กลัวว่าความซวยจะไปตกถึงคนอื่นน่ะ  ขนาดน้องชายหัวหน้าแผนกน่ะ  ยังไม่พ้นเลย  คนตัวซวยกาลกิณี  คนกินผัว  ทำไมถึงได้หน้าด้านกันนะ”

    นภัทรได้ยินคำพูดทุกอย่างก็สะอึก  ก่อนที่จะเดินหนีไป

    “ชิ  ทำมาทนไม่ได้  มารยา”

    นภัทรวิ่งเข้ามาห้องน้ำ  พอเห็นว่าๆไม่มีใครก็ร้องไห้โฮทันที

    “ฮึก  ฮืออออออออ”

    ร่างสีน้ำผึ้งสะอื้นโดยไม่กลัวว่าใครจะมาได้ยิน  ยิ่งตอนนี้ไม่มีใครเข้ามาก็ยิ่งแล้วใหญ่

    “ฮึก  เมื่อไหร่  เราจะพ้นเรื่องบ้าๆซักที  ฮึก  นี่เราต้องทนถูกคนอื่นหาว่าเราเป็นคนกินผัวแบบนี้อีกนานเท่าไหร่  ฮึก”

    นภัทรร้องไห้  ทรุดตัวนั่งไปกับพื้นในขณะที่มือตนเองยังเกาะอยู่ขอบอ่างล้างหน้า

    อยู่ๆก็มีมือหนึ่งยื่นมาตรงหน้า  พร้อมกับผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าสะอาดตาให้

    “แคน”

    นภัทรร้องออกมา  เมื่อเห็นอติรุจยิ้มอ่อนโยนฉายแววตาอบอุ่นให้

    “นี่ครับพี่กัน”

    “เอ่อ พี่”

    “อย่ากักเก็บไว้เลยครับ  ผมรู้ว่าพี่กันเสียใจ  ร้องไห้ออกมาเถอะครับ  เผื่อว่าพี่จะได้สบายใจขึ้น”

    “แคน  ฮึก”

    อติรุจยังยื่นมาให้

    “อ่ะ  นี่ผ้าเช็ดหน้าครับ  ไม่ต้องเกรงใจ”

    นภัทรลังเล   อติรุจยื่นมาให้พลางคะยั้นคะยอ  แต่เมื่อนภัทรยังไม่ยอมรับ  ตนเองเลย

    “ขอโทษนะครับพี่กัน”

    อติรุจขออนุญาต  ก่อนที่จะบรรจงเช็ดน้ำตาคนหน้าหวานตรงหน้าอย่างเบามือและทะนุถนอม  นภัทรอึ้งไม่น้อย

    “แคน”

    อติรุจสะดุ้ง

    “พี่กัน  แคนขอโทษ  แคนไม่ได้คิดจะล่วงเกินพี่กันนะครับ  แต่ว่าแคนเห็นพี่กันเจ็บแบบนี้ไม่ได้”

    อติรุจเอ่ยด้วยความจริงใจ  นภัทรรับรู้มันอดรู้สึกดีไม่ได้

    “แคน  ฮึก”

    นภัทรเริ่มอยากหาที่อบอุ่น  แต่ในตอนนี้หาที่ไหนไม่ได้  เลยโผเข้ากอดอติรุจทันที

    “แคน  ฮึก  ฮืออออ”

    อติรุจปล่อยให้คนตรงหน้าทำตามความต้องการ  พลางเอามือลูบหลังราวกับให้กำลังใจ  รู้ดีคนตรงหน้าคนนี้อ่อนแอ  ยามนี้ต้องการคนที่จะให้พักพิงหัวใจได้

    “พี่กันครับ  พี่กันอย่าคิดมากเลยนะครับ  คนพวกนั้นเขาก็แค่มีปมด้อย  พอเห็นคนอื่นล้ม  พวกเขาก็แค่หาทางสนุกเพื่อปิดจุดอ่อนตัวเอง  พี่กันอย่าคิดมากเลยนะครับ”

    “แต่พี่  มันตัวซวยจริงๆ  พวกเขาพูดไม่ผิดหรอกนะแคน”

    นภัทรยังคงสะอื้น  อติรุจดังคนตรงหน้าให้มาประจันหน้าตนเอง

    ก่อนที่จะเอามือเกลี่ยน้ำตาให้แทนอย่างเบามือและบรรจงเพื่อไม่ให้คนคนนี้รู้สึกสะเทือนใจ

    “พี่กันครับ  คนตัวซวยไม่มีหรอกครับ  ผมไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้  พี่กันอย่าไปใส่ใจคนพวกนั้นเลยครับ  อย่างที่แคนบอก   พวกเขาก็แค่ปิดปมด้อยของตนเองโดยใช้จุดอ่อนของคนอื่น  พี่แคนต้องเข้มแข็งนะครับ  ถ้าพี่ไม่มีใครแล้วไม่รู้จะนึกถึงใคร  พี่กันมาหาผมได้นะครับ  แคนจะอยู่คอยเป็นกำลังใจให้”

    “แคน  ทำไมนายถึงดีกับพี่  นายไม่รังเกียจพี่หรอ”

    อติรุจส่ายหน้า

    “ไม่ครับ  เพราะสิ่งที่ทำให้ผมรักพี่กัน  คือความดีของพี่กัน  พี่กันไม่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อน  คอยช่วยเหลือทุกคนได้ถ้าสามารถทำได้”

    นภัทรหันหน้าไปทางอื่น

    “พี่น่ะหรอ  คนดี  คนที่ทำให้คนอื่นตายอย่างพี่น่ะหรอ”

    อติรุจยิ้ม

    “พี่กันครับ   ไม่มีใครสามารถทำให้ตายกันได้หรอกครับ  คนเราเมื่อถึงคราวตาย  ยังไงก็ตายครับ  ต่อให้ไม่มีพี่กัน  ถ้าเขาถึงคราว  สุดท้ายเขาก็ตายอยู่ดี  ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำแซวกันเล่นๆ  ว่า ไม้จิ้มฟันทิ่มเหงือก  ยังเจือกตายหรอกครับ”

    คำพูดของอติรุจทำเอานภัทรอดขำเล็กๆไม่ได้  ก่อนที่จะซึ้งในต่อมา

    “ขอบคุณนะแคน  ที่ทำให้พี่รู้สึกดี  พี่พอจะเข้าใจ  แต่ว่าพี่จะทำใจทันที  คงจะเป็นไปไม่ได้  ขอพี่ได้มีเวลาทำใจก่อนนะ”

    อติรุจยิ้ม  ก่อนที่จะกุมมือเพื่อให้กำลังใจนภัทร

    “ผมจะรอวันที่พี่กันกลับมาสดใสเหมือนเดิมนะครับ  สู้ๆนะครับพี่กัน”

    “ขอบคุณนะ”

    นภัทรยิ้มให้  นึกกระดากใจที่อติรุจมาทำดีแบบนี้  เขารู้ว่ารุ่นน้องหนุ่มจริงใจแค่ไหน  แต่นภัทรยอมรับไม่ได้

    เพราะอติรุจดีเกินไป  เขาไม่ควรคู่กับคนนี้หรอก

    .............................................................................................................................................................

    อัพแล้วจ้า  เดี๋ยวตอนหน้าพี่โน่พี่กันจะเจอกันแล้ว  อ่านแล้วอย่าลืมเม้นนะจ้ะ  รักทุกคนค่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×