ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 59






    อิสริยะกำลังชงกาแฟเพื่อที่จะเสิร์ฟลูกค้าตามที่ได้รับออเดอร์มา  วันนี้ธนทัตไม่ได้มาด้วย  ตนเองเลยทำงานอยู่คนเดียว

    “พี่คะ  หนูขอคาปูชิโน่ร้อนที่นึงค่ะ”

    “อ้อ  ได้ครับ”

    “วันนี้พี่แกงไม่ได้มาด้วยหรือคะ”

    อิสริยะส่ายหน้า

    “ไม่ครับ  พอดีมันเปื่อยนะ  วันนี้พี่เลยเหนื่อยคนเดียว”

    “อ๋อ  ค่ะ”

    อิสริยะละจากการสนทนากับลูกค้า  ก่อนที่จะจัดการตามที่ลูกค้าสั่งมา

    “สวัสดีครับ  ร้านกาแฟ  แกงแอนด์ฮั่น  ยินดีต้อนรับครับ”

    อิสริยะทักทายต้อนรับลูกค้าตามความเคยชินเมื่อสัมผัสได้ว่าลูกค้าเข้าร้าน  แต่ไม่ได้มองว่าใครมา

    “สวัสดีค่ะพี่ฮั่น”

    อิสริยะรู้สึกคุ้นๆ  เลยเงยหน้ามอง

    “อ้าว  น้องแกรนด์  มาไงเนี่ยเรา”

    อิสริยะดีใจที่รุ่นน้องตนเองมาที่ร้าน  พรรณวรทยิ้มให้

    “ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ  เพียงแต่แกรนด์มาทำธุระแถวนี้น่ะค่ะ  อืม  วันนี้พี่แกงไม่อยู่หรือคะ”

    “ไม่ล่ะ  ก็คราวก่อนโดนไอ้ริทเพื่อนพี่มันชก  ทำเอาหน้าบวมไปทั้งหน้ามันเลยขอพักน่ะ  แต่ที่จริงมันอู้มากกว่า”

    พรรณรทกระตุกคิ้ว

    “เดี๋ยวนะ  พี่ริท   พี่ริทที่เป็นแฝดพี่ของนายคนกินผัวนั่นน่ะหรอ”

    อิสริยะรีบอุดปากทันที

    “แกรนด์  อย่าพูดแบบนี้ต่อหน้าริทเชียวนะ”

    พรรณวรทแกะมือรุ่นพี่ตัวเองทันที

    “ทำไมแกรนด์จะพูดไม่ได้คะ  ก็ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง  แล้วที่สำคัญ  มันเป็นสาเหตุให้พี่บี้ที่เป็นญาติแกรนด์ตายอีกคน”

    พรรณวรทขุ่นอารมณ์

    อิสริยะส่ายหน้า

    “พี่ว่าอย่าพูดเรื่องนี้กันเลย  ว่าแต่  เอาอะไรดีล่ะ  มอคค่ามั้ย”

    อิสริยะตัดบท  เปลี่ยนเรื่องคุยทันที  พรรณวรทขัดใจ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

    “ก็ได้ค่ะ”

    “อืม  เดี๋ยวพี่เอาไปให้”

    อิสริยะไปจัดการของที่พรรณวรทสั่ง  หญิงสาวเลยไปนั่งมุมๆนึง

    เป็นจังหวะที่เรืองฤทธิ์เดินเข้ามาในร้านพอดี

    “ฮั่น”

    อิสริยะเงยหน้ามาทันที

    “อ้าว  ไอ้ริท  เอาอะไรดีละมึงวันนี้  คงจะเอาไปซื้อฝากกันตามเคย”

    “อืม  วันนี้ขอเป็นเบอเกอรี่ละกัน  วันนี้เอาเค้กวานิลาและช็อคโกแลตอย่างละสองชิ้น  แล้วก็เอาเอสเปรสโซ่เย็นที่นึง”

    “ได้  กลับบ้านนะมึง”

    “เออ  งั้นกูไปรอตรงโน้นก่อนละกัน”

    เรืองฤทธิ์เลือกที่นั่งก่อนที่จะลงนั่งตามปกติ  โดยไม่ได้สังเกตว่าตรงที่เรืองฤทธิ์นั่ง  ใกล้กับพรรณวรทด้วย

    “ไงคะพี่ริท  รู้สึกว่าจะรักน้องมากเลยนะคะ  ไม่กลัวว่าความซวยจะมาถึงตนเองบ้างหรือไง”

    หมอหนุ่มเปลี่ยนสายตาวาวโรจน์ที่ได้ยินเสียงเย้ยหยัน  ก่อนที่จะหันไปทางต้นเสียง

    “แกรนด์”

    “ค่ะ  แกรนด์เอง”

    พรรณวรทจ้องหน้าชายหนุ่ม  เรืองฤทธิ์ถามเสียงราบเรียบ  แร่แววตานี่บ่งบอกอย่างดีว่าเคืองขุ่น

    “พี่จะกลัวทำไม  ในเมื่อกันเป็นน้องของพี่”

    “หรอคะ  พี่ริทน่ะไม่กลัว  แต่คนอื่นน่ะกลัว   พี่ริทน่าจะพาพี่กันไปให้ห่างจากทุกคนจะดีกว่านะคะ  แกรนด์ไม่อยากเห็นใครตายเพราะตัวซวยอย่างพี่กัน”

    “กันไม่ใช่ตัวซวย  เมื่อไหร่จะเลิกเชื่อเรื่องบ้าบอแบบนี้ซักที”

    เรืองฤทธิ์เริ่มลงเสียงขุ่น

    “ตามใจนะคะพี่ริท  แกรนด์เตือนด้วยความหวังดีแล้ว”

    เรืองฤทธิ์กำมือแน่น  ก่อนที่จะลุกไปหาอิสริยะ

    “ไอ้ฮั่น  ของที่กูสั่งได้ครบยัง”

    อิสริยะงงเต้ก  แต่พอมองพรรณวรทก็พอจะเดาได้

    “ได้ๆ  เอาให้เดี๋ยวนี้เลย”

    “เท่าไหร่”

    “180  บาท”

    “เออ  เอาไปไม่ต้องทอนเสียเวลา”

    เรืองฤทธิ์รับของที่สั่งก่อนที่จะเดินออกไปจากร้านด้วยความเกรียดกราดแต่เก็บอารมณ์

    อิสริยะส่ายหน้า  ก่อนที่จะหันไปทางพรรณวรท

    “แกรนด์  พี่ขอล่ะนะ  อย่าพูดแบบนี้ต่อหน้าไอ้ริทมันเลย”

    พรรณวรทไม่ได้สนใจคำพูดของอิสริยะ  แต่ไปสนใจกับเครื่องดื่มตนเองแทน

     

    เรืองฤทธิ์เดินอ้าวด้วยอารมณ์เคืองขุ่น  พอประตูรถก็เข้าไปและวางเค้กไว้ที่เบาะหลัง  ก่อนที่จะหันมาทางพวงมาลัย

    “ริทจะไม่ให้ใครว่ากันของริทหรอก  ริทจะปกป้องกันเอง”

    ชายหนุ่มสบถ

     

     

     

    ภาคิณมานั่งที่โซฟา  หลังจากที่ตนเองจัดห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    ร่างสูงหยิบกระเป๋าสตางค์  ที่ในนั้นพกสิ่งสำคัญมาตลอด 

    รูปของนภัทร  ที่อยู่ในชุดมัธยมปลาย  ที่เคยได้จังหวะเก็บรูปภาพมาได้

    “น้องตาหวาน  ไม่รู้ว่าป่านนี้นายมีแฟนหรือยังนะ  อยากเจอเราจัง”

    ภาคิณมองคนในรูปด้วยรอยยิ้มสดใส  ครั้งนึงเขาเคยเจอนภัทรโดยบังเอิญ

    ภาคิณนึกถึงวันวาน  ครั้งที่ตอนนั้นเขาเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง  บังเอิญไปชนนภัทรเข้า

    “เอ่อ  น้อง  พี่ขอโทษนะ”

    “ไม่เป็นไรครับ”

    และนภัทรก็จะเดินออกไป  ทิ้งให้ภาคิณตกตะลึงกับใบหน้าหวานนั้น

    “น้องคนนั้นเป็นใครนะ”

    หลังจากวันนั้น  ภาคิณก็ไม่มีโอกาสเจอนภัทรอีกเลย  จนกระทั่งไปเจอนภัทรอยู่ที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง  บังเอิญเขาถ่ายรูปไปเรื่อยเลยถือโอกาสถ่ายรูปนภัทรได้  พอถ่ายเสร็จตั้งใจว่าจะเดินไปหา  แต่ไม่รู้ว่าร่างบางถูกใครซักคนที่เขาไม่เห็นใบหน้าชัดๆจูงหายไป  ภาคิณได้แต่เสียดาย

    จนมาตอนที่เขาอยู่ปีสอง  เรืองฤทธิ์ที่เป็นน้องรหัสที่สนิทกันแนะนำภัทรธิดา  ที่เป็นรุ่นพี่ของฝ่ายนั้นอีกทีแถมเชียร์ให้ตนและภัทรธิดาที่ปัจจุบันเป็นเพื่อนเขาจนคบตามคำเชียร์  ตั้งแต่ตอนนั้นภาคิณก็ไม่มีโอกาสเจอนภัทรอีกเลย  โดยไม่รู้ซักนิดว่าเรืองฤทธิ์เป็นแฝดของนภัทร  คนที่ตนหลงรักคนนั้น  ไม่รู้กระทั่งว่าคนที่ตนหลงรักชื่ออะไร  จนผ่านไปหลายปี  ที่คบภัทรธิดาก็ตกลงกันให้เหลือเพียงความเป็นเพื่อน  ทำให้ภาคิณ  กลับมาคิดถึงนภัทรอีกครั้ง

    “เมื่อไหร่  เราสองคนจะได้เจออีกนะ”

    แม้ไม่รู้ว่าชื่ออะไร  แต่สำหรับเขานภัทรเป็นคนที่ตนยังแอบรักไม่เสื่อมคลาย

    หวังว่าเราจะได้เจอกันนะ

     

    “กัน  นี่เค้ก  ริทซื้อมาฝาก”

    ผู้เป็นพี่ยื่นจานที่มีเค้กอยู่วางตรงหน้า  นภัทรก็ทำตาวาวดีใจ

    “เค้กน่ากินจัง  งั้นกันไม่เกรงใจนะ”

    “จะเกรงใจทำไม  ก็ริทซื้อมาให้กันนี่  พูดแปลกๆ”

    นภัทรแลบลิ้นใส่  ก่อนที่จะจัดการของว่างที่เสิร์ฟมาให้

    เรืองฤทธิ์หายไปในครัว  ก่อนที่จะกลับมาด้วยนมอุ่นๆ

    “อ่ะ  กินนมด้วยนะ  แล้วอย่าลืมแปรงฟันล่ะ  จะได้เข้านอน”

    “อื้อ  แหม  ริทนี่ไม่เคยลืมเลยนะว่ากันต้องดื่มนมก่อนนอน  สั่งยังกะพ่อเชียว”

    เรืองฤทธิ์เอามือลูบหัวนภัทรเล่น

    “น้องคนเดียว  ริทต้องรู้ทุกอย่างสิ  เดี๋ยวริทขึ้นไปอาบน้ำนะ   เดี๋ยวจะมาเก็บ”

    “อื้ม”

     

    ค่ำคืนห้วงราตรี

    “ยะ  อย่า  อ้า  อ้ะ  ฮึก  โอ้ย”

     

    “เอ้ะ  ป่านนี้ทำไมกันยังไม่ตื่นนะ”

    เรืองฤทธิ์เลยตัดสินใจขึ้นดู  พอเปิดประตูออกก็พบว่านภัทรนั่งร้องไห้

    “กัน  เป็นอะไรไปอีกล่ะ”

    นภัทรเงยหน้าจากการฟุบไปกับเข้าที่ตนเองนั่งกอดเข่าฟุบหน้าลงไปร้องไห้  ใบหน้าสวยมีแต่น้ำตา

    “อย่าบอกนะว่า”

    “ฮึก  ฮือ  กันฝันอีกแล้ว  ทำไมความเลวร้ายครั้งเดียวมันตามหลอกหลอนกันไม่มีหายไปเลย  ฮึก”

    ร่างสีน้ำผึ้งสะอื้นไห้  เรืองฤทธิ์ดึงน้องตนเองเข้ามาซบอก

    “อย่าคิดมากนะกัน  ริทอยู่ตรงนี้ทั้งคน  อย่าร้องไห้เลยนะคนดี”

    นภัทรไม่ตอบ  ได้แต่นอนซบตรงอกของเรืองฤทธิ์  เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกเป็นระยะ

     

    “หรอริท  จ้า  ไม่เป็นไร  เดี๋ยวพี่อยู่เวรแทน”

    วิชญาณีกรอกสายโทรศัพท์  ก่อนที่จะวาง

    “พี่แก้ม  เมื่อกี้เหมือนพี่พูดชื่อริท  มีอะไรหรอครับ”

    “พอดีริทเขาขอเปลี่ยนเวรกับพี่น่ะ  บอกว่ากันไม่สบาย”

    ภูหิรัณย์ได้ยินชื่อนี้เลยกำมือแน่น  อีกแล้ว  นภัทรอีกแล้ว

    “เซน  พี่รู้นะว่าเราคิดอะไร  เซนจะไปแคร์อะไรนักหนา  กันเขาเป็นแฝดริทเขา  ก็ต้องเอาใจใส่ตามธรรมดา  พี่น้องรักกัน  เซนจะไปโกรธกันทำน้องของริทเขาทำไม”

    หมอจิตแพทย์รุ่นพี่ถาม  ภูหิรัณย์ได้แต่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ

    โดยไม่ได้ใส่ใจกับคำถามของรุ่นพี่  ก่อนที่จะเดินออกไป

    “เฮ้อ  คนเรา  ก็เขาไม่รัก  จะไปคาดหวังอะไร  แต่ก็นะ  ผู้ชายดีๆอย่างริท  คงไม่แปลก  ที่มีแต่คนรัก”

    วิชญาณีพูดเรื่อบเปื่อย  ก่อนที่จะทำงานของตัวเองต่อไป

    “กัน  เมื่อไหร่แกจะตายไปจากชีวิตริทซักที  ถ้าไม่มีแก  ริทต้องหันกลับมามองฉัน”

    ภูหิรัณย์กำมือแน่น

     

    นภัทรตัวร้อนจี๋  เรืองฤทธิ์จึงเอาผ้ามาเช็ดตัวให้เพื่อให้ไข้ลดลง

    “แม้แต่หลับ  กันยังดูอ่อนแอ  แล้วแบบนี้เราจะให้กันไปเป็นของใคร  หึ  ไม่มีใครที่ริทวางใจได้ซักคน”

    เรืองฤทธิ์พูดเสียงเย็นๆ  และเมื่อมั่นใจว่านภัทรคงจะหลับยาว  ก็เลยว่าจะไปข้างนอก   เพื่อออกไปซื้อาหารมาทำกับข้าวให้นภัทร  ไม่สบายแบบนี้ต้องกินอาหารอ่อนๆ

     

    ซูเปอร์มาร์เก็ต

    “วันนี้ทำข้าวต้มหมูละกัน”

    ร่างเล็กหยิบหมูสังที่บรรจุใส่กล่องอย่างดีหยิบใส่รถเข็น  ก่อนที่จะไปเลือกซื้อของอื่นๆ

    “ทั้งหมด 830  บาทค่ะ”

    “ครับ  นี่ครับ”

    “ค่ะ  รับมา 1000 นะคะ”

    เรืองฤทธิ์จ่ายเงินเสร็จก็ยืนรอเงินทอน

    “นี่ค่ะ  ทอน 170 บาทนะคะ  โอกาสหน้ามาใหม่นะคะสวัสดีค่ะ”

    พนักงานไหว้ลูกค้าตามกฎ  ก่อนที่เรืองฤทธิ์จะหิ้วของพะรุงพะรังเพื่อจะไปที่ลานจอดรถ

    “แหม  น้องฐิสานี่น่ารักที่สุดเลย  ฟอดดดดด”

    เป็นจังหวะที่ภัทรธิดาควงแฟนสาวมาเดินซื้อของ  เรืองฤทธิ์เงยหน้าเห็นพอดี

    “พี่โม  สวัสดีครับ”

    ภัทรธิดาหันมาทางรุ่นน้อง  ในขณะที่ตนเองยังโอบเอวแฟนสาวอยู่

    “อ้าวริท  นี่มาซื้อของหรอเรา”

    “ครับ  เอ่อนี่”

    เรืองฤทธิ์ชี้ไปทางหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่ถูกมือปลาหมึกของภัทรธิดาโอบเอวตลอดเวลา  ภัทรธิดาเห็นสายตารุ่นน้องก็พอจะเดาได้

    “อ้อ  นี่ไงคนที่พี่เล่าให้ฟัง  น้องฐิสาที่พี่เอารูปให้ดู  เป็นยังไงตัวจริง  อึ้งไปเลยอ่ะดิ”

    เรืองฤทธิ์มองคนข้างๆภัทรธิดาด้วยสายตาราบเรียบสนิท

    “น้องฐิสาจ้ะ  นี่ริท  เขาเป็นหมอที่โรงพยาบาลแถวนี้แหละ  เป็นรุ่นน้องพี่เอง”

    “สวัสดีค่ะพี่ริท”

    “อืม”

    เรืองฤทธิ์รับไหว้เปล่งเสียงสั้นๆ

    “พี่โมมาทำอะไรแถวนี้หรอครับ”

    ภัทรธิดายิ้ม

    “พอดีพี่เพิ่งพาฐิสาเขาไปเที่ยวมาน่ะ  ขากลับก็เลยแวะซื้อของนิดหน่อย”

    “ครับ”

    “พี่ริทนี่ตัวจริงหล่อนะคะเนี่ย  ฐิสาได้ยินพี่โมเล่าให้ฟังบ่อยๆ  ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

    วริฏฐิสายิ้มหวานให้เรืองฤทธิ์ที่อีกฝ่ายยิ้มรับ  แต่ทำเอาภัทรธิดามองตาขวาง

    “นี่สา  ชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าพี่เลยหรอ  ระวังนะ  คืนนี้พี่จะทำโทษทั้งคืน”

    “บ้าสิพี่โม  ทำไมหื่นจริงๆนะ  ฐิสาไม่เข้าใจจริงๆว่าหลวมตัวมาคบกับพี่โมได้ไง  ชิ”

    “หื่นหรอ  ว่าพี่หื่นหรอ  มานี่  ขอพี่ชื่นใจเลยละกัน  ฟอดดดดด”

    ภัทรธิดาโชว์หวานต่อหน้าเรืองฤทธิ์  ในขณะที่เรืองฤทธิ์มองด้วยสายตาขุ่นๆ

    เพียงแต่สองคนนั้นไม่ได้สังเกต

    “พอแล้วค่ะพี่โม  เกรงใจพี่ริทบ้างสิคะ”

    “โอ้ย  ไปเกรงใจมันทำไม  มันน่ะตายด้าน  ป่านนี้มันยังไม่มีแฟนเลย”

    ภัทรธิดาว่า  ทำเอาแฟนสาวของตนเองแปลกใจ

    “พี่ริทเนี่ยนะคะ  ไม่อยากจะเชื่อเลย  รอดมาได้ยังไงคะเนี่ย”

    “ก็นั่นน่ะสิ  ไม่รู้ว่าพี่น่ะจะมีน้องสะใภ้เมื่อไหร่”

    ภัทรธิดาแซว  แต่เรืองฤทธิ์ยังเงียบ

    “พี่ริทคะ  ป่านนี้พี่ริททำไมยังไม่มีแฟนหรอคะ  หรือว่ายังไม่มีใครเข้าตา”

    “เปล่าหรอกครับน้องฐิสา  พอดีว่าพี่ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้หรอกนะ”

    ภัทรธิดาหัวเราะ

    “ก็มัวแต่ดูแลน้องยังไงล่ะ  เลยไม่รู้จักหาความสุขเข้าตนเองไง  เออแฮะ  ฐิสาจ้ะ  พี่ลืมกระเป๋าตังค์  เดี๋ยวน้องฐิสารอพี่ตรงนี้ก่อนนะคะ  เดี๋ยวพี่กลับไปที่รถก่อน”

    “อ้าว  ก็ไปสิคะ  มัวแต่มาบอกฐิสาอยู่นั่นแหละ  รีบไปสิ”

    “ก็พี่ไม่อยากไปนี่นา  ไม่อยากห่างจากฐิสาเลย”

    “เวอร์แล้วค่ะ  ไปได้แล้ว  ชิ”

    “ก่อนไป  ขอพี่ชื่นใจก่อนนะ  ฟอดดดดดดด”

    ภัทรธิดาไม่วายยังขโมยหอมจากแฟนสาว  ก่อนที่จะวิ่งไปหน้าตาระรื่น  ทิ้งให้วริฏฐิสายืนหน้าแดง

    “บ้าสิ  พี่โมนะ  ติดเชื้อหื่นมาจากใครก็ไม่รู้”

    “คงมาจากพี่โน่มั้งครับ”

    อยู่ๆเรืองฤทธิ์ก็โพล่งออกมา  ทำให้วริฏฐิสางง

    “พี่โน่  นี่  ใครกันคะ”

    “อ้าว  น้องฐิสาไม่รู้หรือครับ  ว่าพี่โมเคยมีแฟนมาก่อน”

    หญิงสาวนิ่งไปครู่นึง

    “อ้อ  คงจะเป็นคนเดียวกับพี่โมที่เล่าให้ฟังนี่เอง”

    “เอ้ะ  พี่โมเล่าให้น้องฐิสาแล้วหรอ”

    “ค่ะ  พี่โมบอกว่าเขาเคยมีแฟนเป็นผู้ชาย  แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด   เพราะว่าเข้ากันไม่ได้  พี่โมกับแฟนคนนั้นก็เลยเหลือเพียงความเป็นเพื่อน”

    “ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหรอครับ”

    หญิงสาวร่างเล็กส่ายหน้า

    “ไม่ค่ะ  เพราะเราสองคนอยู่กับปัจจุบัน”

    วริฏฐิสาพูดแค่นั้น  ก่อนที่จะถูกคนฉวยโอกาสขโมยหอมอีกครั้ง

    “ฟอดดดด  คุยกันเรื่องอะไรเอ่ย”

    “อุ้ย  พี่โม  ทำไมชอบฉวยโอกาสเรื่อยเลยนะ”

    “ก็เราอยากน่ารักเองนี่นา  น่ารักจนพี่รอคืนนี้ไม่ไหวแล้ว”

    “บ้าสิ พูดได้ไม่อายปาก”

    “อายทำไม  คนเยอะแยะ  เอ้อ  ริท  พี่ขอตัวก่อนนะ  เดี๋ยวคืนนี้พี่จะเหลือเวลาความสุขน้อยลง  ไปก่อนนะจ้ะน้องรัก  ไปเถอะฐิสา  เดี๋ยวคนนี้เราจะได้เต็มที่”

    วริฏฐิสาตีแฟนหนุ่ม(?)ทันทีด้วยความเขิน

    “ตลอดล่ะ  ไม่อายคนอื่นบ้างเลย  พี่ริทค่ะ  สาขอตัวไปก่อนนะคะ  เดี๋ยวสาจะเปลืองตัวไปมากกว่านี้”

    “ตามสบายครับ”

    เรืองฤทธิ์ยิ้ม  ก่อนที่จะมองตามหญิงสาวคู่รักหวานแหววที่เดินจากไป

     

    “เอ่อ  พี่โมคะ”

    ภัทรธิดาหันมาทางคนรักทันที

    “มีอะไรหรอจ้ะน้องสา”

    “เอ่อ  เมื่อกี้เราสองคนกะพี่ริทนะคะ”

    ภัทรธิดาของขึ้นทันที

    “อย่าบอกนะว่าไปหลงเสน่ห์หมอเตี้ย  อย่าคิดเชียวนะ  พี่หึงนะ  บอกไว้ก่อน”

    ภัทรธิดาพูดจบ  ทำท่าจะหอมแก้มแฟนสาวอีกแล้ว  แต่วริฏฐิสายกมือดันหน้าไว้ก่อน

    “โอ้ยพี่โม  เลิกหื่นแปบนึงได้มั้ยคะ  สาสึกหรอกันพอดี”

    “ใครใช้ให้เราน่ารักล่ะ  น่ารักจนพี่หลงขนาดนี้”

    “โอ้ะ พี่โม  เดี๋ยวสิ  สาซีเรียสนะเนี่ย”

    คำพูดแฟนสาวทำเอาภัทรธิดางง

    “สา   มีอะไรหรอ”

    วริฏฐิสานิ่งไปนิด

    “คือ  เมื่อกี้พี่ริทพูดถึงแฟนเก่าของพี่โมน่ะค่ะ”

    ภัทรธิดายิ้มทันที

    “คือริทมันเพิ่งรู้ว่าพี่เลิกกับพี่รหัสของโน่มัน  แฟนเก่าพี่น่ะ  แล้วเพิ่งมารู้ว่าพี่คบกับน้องสาไงจ้ะ  ก็เลยถามด้วยความสงสัยตามปกติ  ช่างเถอะน่า  แต่น้องสาน่ะ  รู้ไว้อย่างเดียวนะ  ว่าตอนนี้  พี่รักน้องสาคนเดียว  สาน่ารักขนาดนี้  จะให้พี่โมคนหล่อไปไหนละจ้ะ”

    หญิงสาวร่างหวานหยิกคนรักทันที

    “นี่แน่ะ  หมั่นไส้คนหล่อ”

    “แล้วรักไหม”

    วริฏฐิสาหน้าแดง

    “ไม่รัก  แล้วจะยอมให้พี่โมฉวยโอกาสแทบจะสามเวลาหลังอาหารหรอ  คนบ้า”

    เท่านั้นแหละ  ภัทรธิดายิ้มทันที

    “น่ารักที่สุดเลย  งั้นคืนนี้ให้พี่ฉวยโอกาสต่อนะ”

    “ชิ  อีตาหื่นเอ้ย”

    “หื่นยังไงก็รักนะคะ”

    “ชิ  ไปแล้ว ไม่รอแล้ว  เชอะ”

    ภัทรธิดายิ้มเมื่อเห็นท่าทางเขินน่ารักของแฟนสาว

    “แหม  เขินก็ไม่บอก  รอพี่ด้วยสิ”

    สองสาวคู่รักพากันหยอกล้อ  โดยไม่รู้สึกเลยว่า  ว่าทั้งหมด  อยู่ในสายตาเรืองฤทธิ์  ที่มองทั้งคู่เงียบๆโดยที่ทั้งคู่ไม่เห็น

    ...............................................................................................................................................................

    อัพแล้วจ้า  เม้นเป็นกำลังใจด้วยน้า

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×