ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 14

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 59







    โรงพยาบาล

    “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ”

    เรืองฤทธิ์ถามทันที  เมื่อที่เขาพานภัทรมาที่โรงพยาบาลที่เขาเป็นหมอจิตเวชที่นี่

    “เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา  แต่ว่าอุณหภูมิในร่างกายสูง  หมอว่าให้คนไข้อยู่ที่นี่  อีกสองสามวันก็หาย  พี่ขอตัวก่อนนะ”

    หมออ๋อมที่รู้จักกันบอกเรืองฤทธิ์  ก่อนที่เรืองฤทธิ์จะออกไป

    เรืองฤทธิ์เดินมาดูที่น้องชายของเขา  ตอนนี้กำลังหลับอยู่บนเตียง

    “กัน  หายไวๆนะ”

    เรืองฤทธิ์หอมหน้าผากน้อง  ก่อนที่จะนั่งรอข้างๆ  ตอนนี้นภัทรยังคงไม่ฟื้น  แต่ตอนนี้ร่างกายอาการคงที่  ตอนนี้เรืองฤทธิ์ปล่อยให้น้องตนเองหลับเต็มที่ไป

     

    ภาคิณหยิบรูปนภัทรมาดูด้วยความคิดถึง

    “กัน  พี่อยากจะเป็นคนคนนั้นของกัน  พี่รักกันนะ  ซักวัน  พี่จะชนะใจกันด้วยหัวใจของพี่ให้ได้”

    ภาคิณยิ้มให้คนในรูป  ก่อนที่ค่อยลูบใบหน้าคนในรูปอย่างทะนุถนอม

     

    “ไอ้ริท”

    “ไอ้ฮั่น”

    อิสริยะเดินมาดูนภัทร  ก่อนที่จะหันไปทางเพื่อน

    “เฮ้อ  น้องแกนี่อ่อนแอจริง  ริท  กูว่ามึงนะดูแลน้องมากไปป่าววะ  น้องมันอ่อนแอหมด”

    “ไอ้ฮั่น  กูรักน้องกู  กูดูแลน้องตัวเองมันผิดตรงไหนวะ”

    เรืองฤทธิ์ว่า

    อิสริยะส่ายหน้า  เข้าใจว่ารักน้อง  เพราะเรืองฤทธิ์ทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีให้กับนภัทรมาตลอด

    “ผิดตรงที่  มึงประคบประหงมเกินไป  เห็นมั้ย  น้องมึงอ่ะ  เดี๋ยวป่วยเอา  ป่วยเอา  ทั้งกายละจิตใจ  กูว่ามึงน่าจะปล่อยให้กันลองใช้ชีวิตเป็นของตัวเองมั่งนะ”

    “แต่ว่า”

    อิสริยะตบบ่า

    “เอาน่า  ไอ้ริท  ซักวันนะเว้ย  สุดท้าย  มึงก็ต้องแต่งงานมีภรรยา  มีครอบครัวเป็นของตัวเอง  ดังนั้น  ถ้ามึงไม่คิดจะให้น้องดูแลตัวเอง  ก็หาใครซักคนมาเป็นคนดูแลน้องตัวเองบ้างเถอะว่ะ  ริท  ก็สงสารกันมันนะเว้ย  กันมันก็น้องข้าคนนึง  ริท  ถ้ามึงยังเป็นยังงี้อยู่  แล้วถ้ามึงเป็นอะไรไปขึ้นมา  น้องมึงจะอยู่ยังไง”

    เรืองฤทธิ์เงียบ

    “น่า  กูรู้ว่ามึงห่วงน้อง  แต่บางที   มันก็มากเกินไป  เห็นมั้ย  น้องมึงอ่ะ  สภาพเป็นยังไง  ร่างกายอ่อนแอไม่พอ  จิตใจก็อ่อนแอ  ริท  ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนรักกู  กูไม่พูดแบบนี้หรอกนะ”

    อิสริยะตบบ่า  เรืองฤทธิ์ได้แต่ถอนหายใจ

    “แต่กูไม่ไว้ใจใคร”

    “มึงก็ศึกษาดูไปเรื่อยๆสิวะ  ไอ้แคนไง  รายนั้นน่ะ  กูเห็นนะ  ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นน้องกันก็จริง  แต่นายนั่นท่าทางจริงใจ  ดูแลกันได้  มึงไม่ลองให้แคนมาอยู่ในชีวิตกันมั่งล่ะ  กูว่านะ  คนจริงใจอย่างแคน  น่าจะบรรเทาและปกป้องกันมันได้”

    อิสริยะแนะนำ  ที่จริง  อติรุจเป็นรุ่นน้องเขาคนนึง  อายุพอๆกะธนทัตนั่นแหละ  เพียงแต่อติรุจเริ่มเรียนช้า แต่ธนทัตเรียนเร็ว  เลยอยู่รุ่นเดียวกะเขา  และพอรู้ว่าอติรุจคิดยังไงกับนภัทร  และเขารู้จักน้องคนนี้ดี

    อติรุจนับว่าเป็นคนที่ดีมาก  และสุภาพบุรุษคนนึง

    “เอาไว้กูมั่นใจจริงๆว่ามีคนดูแลน้องกูได้  ค่อยว่ากันทีหลัง  แต่ตอนนี้ที่สำคัญที่สุด  กันต้องหาย”

    เรืองฤทธิ์ว่า  ก่อนที่ทั้งสองจะคุยกันตามประสาเพื่อนฝูง

     

    “พี่แก้ม  วันนี้ริทไม่มาเข่าเวรหรือครับ”

    ภูหิรัณย์ยิ้มให้รุ่นพี่สาวที่ทำงานแผนกเดียวกับเรืองฤทธิ์  วันนี้เห็นว่าเรืองฤทธิ์ไม่อยู่ก็เลยถามหา

    “เห็นว่าน้องเขาไม่สบายจ้ะ  ริทเลยไปเฝ้า”

    วิชญาณีตอบโดยไม่สนใจอะไร  ในขณะที่ภูหิรัณย์นึกหมั่นไส้

    “สำออยล่ะสิ  หึ  ไอ้คนกินผัว”

    รุ่นพี่สาวไม่ค่อยชอบใจนัก ที่รุ่นน้องพูดแบบนี้

    “เซน  ทำไมเราเป็นแบบนี้  ไปว่าน้องของริททำไม”

    “ก็เซนเกลียดมัน  มันคนเดียวที่ทำให้ริทไม่เคยสนใจเซน”

    “ไม่ใช่เพราะนายทำตัวนายเองหรอ”

    “พี่แก้ม”

    “เซน  ถ้าเซนต้องการชนะใจริทละก็  พี่ว่ามันมีวิธีเดียวคือความจริงใจ  แต่ที่พี่เห็นมันไม่ใช่  นอกจากเซนไม่จริงใจยังไปว่าร้ายกันน้องเขา  เซนก็รู้ว่าริทรักน้องมาก  แล้วเซนตั้งตัวร้ายแบบนี้  คงจะสมหวังนะ”

    วิชญาณีว่าอย่างระอา  ก่อนที่จะออกไปจากตรงนั้น

    “พี่แก้ม”

    ภูหิรัณย์ไล่หลังไม่พอใจ  ก่อนที่จะโกรธคนที่เป็นต้นเหตุ

    “ไอ้กัน  แกไม่มีวันสงบสุขแน่”

     

    “อื้ม”

    “กัน”

    นภัทรลืมตา  ก่อนที่จะมองไปรอบๆ

    “ริท  ที่นี่”

    “โรงพยาบาลน่ะ  กันไม่สบาย  ริทเลยพามาที่นี่”

    นภัทรเหนื่อยหอบ

    “น้ำ  ขอน้ำ”

    “น้ำหรอ”

    เรืองฤทธิ์รีบไปนำสิ่งที่น้องต้องการมาให้ทันที  แล้วให้คนบนเตียงดื่ม

    “พอแล้วล่ะริท  กันดีขึ้นแล้ว”

    “อืม”

    เรืองฤทธิ์เดินไปเก็บแก้ว  ก่อนที่จะเดินกลับมาที่เตียงน้องชาย

    “กัน  เป็นยังไง  ค่อยยังชั่วหรือยัง”

    นภัทรพยักหน้า

    “ดีมากแล้วล่ะ”

    เรืองฤทธิ์ถอนหายใจ  ค่อยสบายใจหน่อย

    “แล้วริทกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

    นภัทรถาม  เพราะไม่รู้ว่าตนเองสลบไปเพราะพิษไข้ตั้งแต่เมื่อไหร่สลบไปกี่วันก็ไม่รู้

    “ตอนเช้าน่ะ  แต่ตอนนี้ก็ทุ่มนึงแล้ว  กันหิวมั้ย”

    “ไม่ล่ะ”

    นภัทรส่ายหน้า  ก่อนที่เรืองฤทธิ์จะพูดต่อ

    “งั้นพักผ่อนเยอะๆนะเรา  จะได้หายไวๆ”

    “อื้อ”

    นภัทรค่อยปิดเปลือกตา  ก่อนที่จะเข้าสู้ห้วงนิทราอีกครั้ง   เรืองฤทธิ์มองด้วยความห่วงใย

     

    “อะไรนะเซน  คุณว่ากันนอนโรงพยาบาลหรอ”

    ธนทัตว่า  ขณะที่ทั้งคู่นัดออกมาเจอกัน

    “ใช่  มันสำออยล่ะสิ  เรียกร้องความสนใจ  คนกินผัวที่มีแต่คนรังเกียจก็เป็นแบบนี้แหละ  นี่แกง  คุณจะจัดการยังไงต่อ”

    ธนทัตยิ้มร้าย

    “โรงพยาบาลที่ว่า  ก็ที่ไอ้ริทมันอยู่ใช่ไหม”

    ภูหิรัณย์พยักหน้า

    “ก็ใช่น่ะสิ  นี่แกง  นายกันออกมาข้างนอกแบบนี้  ถ้าหาทางได้  ก็รีบจัดการนะ  หมอริทคงไม่มีเวลาเฝ้าตลอดเวลาหรอก”

    “อือ  ไว้ผมคิดดูก่อนละกัน  ว่าแต่คืนนี้  คุณไปกับผมต่อนะ”

    ภูหิรัณย์ยิ้มหวาน  ก่อนที่จะกระซิบข้างหู

    “ก็ไปสิ”

    และทั้งสองก็พากันออกไป

     

    วันต่อมา

    “กัน  กินเยอะๆล่ะเรา”

    “ริท  กันกินเองได้น่า”

    นภัทรยิ้ม  ก่อนที่จะบอกปัด  เพราะพี่ชายแฝดตนเองทำราวกับเขาเป็นเด็กอย่างนั้น

    “ก็กันไม่ค่อยมีแรง  ริทก็ต้องดูแลพิเศษสิ”

    “พี่หรือพ่อห้ะ”

    “เป็นได้ทั้งคู่  มา  เร็ว  เราอย่าดื้อมา  ริทป้อน”

    “อื้ม”

    นภัทรรับข้าวเข้าปาก  ก่อนที่จะเคี้ยวลงไป

    “เป็นยังไง  นี่ริทซื้อมาข้างนอกนะ”

    นภัทรยิ้ม

    “อร่อย  ดีกว่าอาหารโรงพยาบาลเสียอีก”

    “งั้นก็ดี  กินเยอะๆล่ะ  จะได้หายไวๆ”

    “คร้าบบบบ  พ่อ”

    “ก๊อกๆๆ”

    นภัทรมองไปทางประตู

    “ใครมาน่ะริท”

    นภัทรถามแฝด  ก่อนที่คนมาใหม่จะเข้ามา

    “อ้ะ  พี่ฮัน  สวัสดีครับ”

    “อ้าวกัน  ดีขึ้นแล้วนี่เรา”

    เป็นอิสริยะนั่นเอง  วันนี้มาเยี่ยมนภัทรตามปกติ

    “กัน  วันนี้พี่ซื้อนมกับขนมผลไม้มาฝาก  กินเยอะๆล่ะเรา  จะได้แข็งแรง”

    “ขอบคุณครับพี่โน่”

    อิสริยะยิ้มให้น้องชายเพื่อนสนิท  ก่อนที่จะหันมาทางเรืองฤทธิ์

    “แล้วนี่  กันจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่วะ”

    “ก็อีกสองวันนั่นแหละ  เออ  ขอบใจนะ  อุตส่าห์มาดูบ่อยๆ”

    “เออน่า  กันก็น้องกูเหมือนกัน”

    สองหนุ่มหัวเราะ  ก่อนที่อิสริยะนึกได้

    “เออ  ริท  พอดีกูมีเรื่องจะคุยด้วยแน่ะ”

    เรืองฤทธิ์สงสัย

    “อะไรของมึงเนี่ย  กูไม่ว่าง  เฝ้ากันอยู่”

    “เออ  ก็คุยเรื่องรถกูอ่ะ  ที่กูว่าจะถามมึงหน่อยว่ารถกูนี่ขายที่ไหนได้ราคา  พอดีกูจะเปลี่ยนรถ”

    “โถ  พ่อคนรวย  ถุย”

    เรืองฤทธิ์หมั่นไส้

    “พอกะมึงนั่นแหละ  เอ่อ  กัน  เดี๋ยวพี่เยือมตัวพี่ชายเราหน่อยนะ  ป้ะ”

    อิสริยะดึงเรืองฤทธิ์ไปทันที  ที่จริงไม่ได้อยากคุยอะไรเท่าไหร่หรอก

    เพียงแต่จะเปิดข่องว่างให้ใครคนนึงเท่านั้น

    อิสริยะแอบตอนที่เรืองฤทธิ์เผลอ  กดส่งข้อความ

    “แคน  ตอนนี้กันอยู่ที่โรงพยาบาล  เดี๋ยวพี่จะดึงตัวให้  แล้วเราไปหากันล่ะ”

    อิสริยะยิ้ม  เขาเชียร์อติรุจให้ลงเอยกับกัน  เพราะอติรุจเป็นคนดี  และรักกันด้วยใจ

    “ขอบคุณครับ”

    ข้อความตอบกลับมา  ทำเอาอิสริยะยิ้ม

    เรืองฤทธิ์เห็นเพื่อนยิ้มคนเดียว

    “ฮั่น  มึงมีอะไรวะ”

    อิสริยะส่ายหน้า

    “ก็ไม่มีอะไรนี่”

    “เออ  แล้วไป”

     

    “ช่อนี้ครับ  ราคาเท่าไหร่ครับ”

    “1200ค่ะ”

    “ขอบคุณครับ”

    อติรุจรับดอกไม้มา  วันนี้เขาจะไปเยี่ยมนภัทร  หลังจากที่อิสริยะรุ่นพี่ของเขาโทรมาบอกตั้งแต่เมื่อคืน  เขาอยากมาหานภัทร  แต่เพราะเรืองฤทธิ์อยู่  เขาเลยเลี่ยงสภาวะเผชิญหน้า  ยังไงซะฝ่ายนั้นก็พี่ชายนภัทร  เขาต้องให้ความเคารพเป็นธรรมดา

    “กุหลาบสีขาว  เหมาะกับคนอย่างพี่   จะได้หายไวๆ”

    อติรุจมองช่อดอกไม้ที่มีกุหลาบสีขาวเต็มไปหมด  ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

    “จริงสิ”

    เนื่องด้วยพันธะลูกผู้ชาย  เขาจึงโทรหาภาคิณ

     

    ห้องของภาคิณ

    ร่างสูงกำลังง่วนกับการตรวจเอกสาร  เวลาในตอนนั้นโทรศัพท์เขาเข้าพอดี

    ตื้ดดดด

    ภาคิณมอง

    “ใครโทรมา”

    ร่างสูงเปิดหน้าจอ  ก่อนที่จะเห็นว่าใคร

    “นายแคน”

    ร่างสูงตัดสินใจรับ

    “ฮัลโหล  ภาคิณพูดครับ  คุณแคน  มีอะไรหรอ”

    เสียงปลายสายดังขึ้น

    “ตอนนี้พี่กันไม่สบายครับ  คาดว่าวันพรุ่งนี้กลับ  พี่จะมาหาพี่กันก็มาได้นะครับ  แต่ก็ระวังพี่ริทหน่อยละกันเพราะพี่ริทอยู่”

    ปลายสายวางไปแล้ว  สร้างความเป็นห่วงให้ภาคิณมาก

    “กัน  เป็นอะไรมากหรือเปล่านะ”

     

    ก๊อกๆๆ

    นภัทรมองประตู

    “ใครมานะ”

    ซักพัก  ประตูก็ถูกเปิดออก

    “แคน”

    “ครับพี่กัน”

    อติรุจออกมาด้วยช่อกุหลาบขาวบริสุทธิ์

    “พี่กันครับ  แคนมาเยี่ยมครับนี่ครับ  ดอกไม้  หายไวๆนะครับ”

    “ขอบคุณนะแคน  เอ้ะ  แคนรู้ได้ไงว่าพี่ไม่สบาย”

    “พอดีพี่ฮั่นบอกนะครับ”

    นภัทรหัวเราะ  ที่แท้ที่ลากเรืองฤทธิ์ออกไปเมือ่กี้นี่

    “ดีขึ้นหรือยังครับ”

    “พี่ดีขึ้นแล้วล่ะ  ขอบคุณนะที่เป็นห่วงพี่”

    “ครับ  หายๆวๆนะครับ”

    อติรุจมองนภัทรด้วยความเป็นห่วง  นภัทรรู้สึกอบอุ่น

    แอ๊ดดดดด

    “ไอ้แคน”

    อติรุจหันไป  พอเห็นว่าเป็นใครก็ยกมือไหว้ทันที

    “สวัสดีครับพี่ริท”

    เรืองฤทธิ์ไม่ได้มีมีหน้าโกรธเคืองอะไร  แต่ว่าใบหน้าเขานิ่ง

    “มาหากันหรอ”

    “ครับ  ผมมาเยี่ยมพี่กัน  แต่ว่าตอนนี้พี่ริทอยู่  งั้นผมไม่รบกวนล่ะครับ”

    “อืม  ขอบใจที่อุตส่าห์มานะ”

    ครั้งนี้เรืองฤทธิ์ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธอะไร  เพียงแต่ท่าทีดูนิ่งไปหน่อย  แต่ยังยิ้มให้  อติรุจจดีใจที่เรืองฤทธิ์ไม่นึกรังเกียจตนแล้ว

    “วันหลัง  ถ้าจะมาเยี่ยมกันน่ะ  ไม่ต้องให้ไอ้ฮั่นช่วยก็ได้  มาเยี่ยมตามปกติได้เลย”

    เรืองฤทธิ์ว่าเรียบๆ  อติรุจดีใจ

    “ครับ  พี่ริท  ขอบคุณมากครับ  งั้นวันนี้ผมกลับก่อนนะครับ”

    “อืม  โชคดีล่ะ”

    อติรุจออกไปแล้ว  เรืองฤทธิ์วางของที่ซื้อมาไว้ที่โต๊ะ

    “กัน  อ้ะ  นม  บำรุงร่างกาย”

    “อื้อ”

    นภัทรรับนมแก้วนั้นมาดื่ม  ก่อนที่จะถาม

    “ริท  ริทไม่”

    เรืองฤทธิ์พอจะรู้ว่านภัทรหมายถึงอะไร

    “ริทว่าไม่เห็นจะเป็นไร  บางครั้งเพื่อนฝูงจะมาหาสู่กันก็ไม่แปลก  อีกอย่างแคนเป็นคนดี  ริทไว้ใจ”

    นภัทรโล่งอก  ที่ตอนนี้เรืองฤทธิ์ยอมรับเพื่อนพ้องน้องพี่เขาแล้ว

    “กัน  อ้ะ  ผลไม้  ริทปอกไว้ให้”

    “อื้อ  ขอบคุณนะ”

    “กินเยอะๆละ  จะได้ดีขึ้นไวๆ”

    “คร้าบบบบ  พ่อ”

    นภัทรหัวเราะคิกคัก  เรืองฤทธิ์ได้แต่ยิ้มอ่อนโยน

    ............................................................................................................................................................................

    อัพแล้วจ้า  ฝากด้วยจ้า  ลีดอย่าหายไปไหนน้า  เค้าเหงา

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×