คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 12
นภัทรมาทำงานตามปกติ ตอนนี้ทุกคนในบริษัทไม่ได้พูดถึงเขาในแง่ลบเท่าไหร่นัก
ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่เรื่องวิงเวียน เขายังเป็นอยู่ คงเพราะความเครียดสะสม
“เอ่อ กัน สีหน้าเราดูซีดหน่อยๆ เป็นอะไรหรือเปล่า”
ศุภรุจถามอดีตน้องสะใภ้ นภัทรส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรครับ กันแค่มีปวดหัวนิดหน่อยครับ”
พูดไปคลำหัวไป ศุภรุจส่ายหน้า
“กัน ถ้าเราไม่สบายพี่ว่ากันลาพักก็ได้นะ เดี๋ยวพี่อนุมัติให้ เอามั้ย”
ศุภรุจว่าด้วยความหวังดี แต่นภัทรปฏิเสธ
“อย่าดีกว่าครับ กันไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น”
ศุภรุจถอนหายใจ เฮ้อ นภัทรยังคงเป็นคนที่เอาใจเขามาใส่ใจเราเหมือนเดิม
“กัน เรายังเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ พี่ล่ะเสียดาย ถ้าเราเป็นครอบครัวเดียวกันก็ดี เสียดายเนอะ แต่กันไม่คิดมากนะ ยังไงสายตาพี่ เราก็น้องชายที่น่ารักของพี่คนนึง ไม่ต้องเครียดละ เดี๋ยวจะไม่สบายมากกว่าเก่า”
“ครับพี่รุจ”
“เหนื่อยก็พักนะเรา”
“ครับ”
นภัทรยิ้มฝืดๆ ยิ่งเห็นหน้าพี่ชายของณัฐพัชร์คนรักเก่าที่เคยจะแต่งงาน
ทำเอาอดเสียใจไม่ได้
ถึงตอนนี้ทุกคนจะเพลาๆเรื่องดวงกินผัวของเขา ที่ทุกคนเอามานินทาจนเขาคิดมาก
แต่ยังไง
เขาก็อดเสียใจไม่ได้
เพราะตนเองคิดว่าตน เป็นคนทำให้คนรักมีอันเป็นไป
“เอาอีกแล้วนะพี่กัน”
เสียงทุ้มๆของอติรุจ นภัทรเลยหันไปมอง
“แคน”
“พี่กันครับ แคนเอาโกโก้ร้อนมาฝากครับ”
นภัทรยิ้มรับ
“ขอบคุณนะ”
อติรุจตัดสินใจนั่งข้างๆ
“พี่กันครับ อย่าคิดมากเลยนะครับ พี่รุจเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างที่พี่กันคิดเลยนะ”
“ฮึก แคน แต่พี่อดคิดไม่ได้ แคนก็รู้ บางที ถ้าไอซ์ไม่มาคบกับพี่ เขาอาจจะไม่ต้องตายก็ได้”
“แคนไม่เคยคิดอย่างนั้น ไอซ์เขาถึงคราวเท่านั้น คนเราไม่ตายวันนี้ วันหน้าก็ต้องตายซักวันอยู่ดีนะครับ พี่กัน อย่าคิดมากสิครับ”
อติรุจพยายามปลอบ
นภัทรยังคงน้ำตาไหล
อติรุจเห็นแล้วอดปวดใจไม่ได้
เขาไม่อยากเห็นนภัทรร้องไห้แบบนี้เลย
อติรุจหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดตา ก่อนที่จะบรรจงเช็ดให้อย่างเบามือ นภัทรชะงัก
“แคน”
นภัทรรู้สึกอบอุ่น ถึงเขาตอนนี้ไม่กล้าที่จะรับรักใครได้
แต่การกระทำอติรุจ ทำเอานภัทรหวั่นไหว
เพราะความอบอุ่นที่อีกฝ่ายมอบให้
แต่เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมา
“แคน แคนอย่ามาใกล้พี่เลย”
นภัทรเตือน อติรุจไม่เข้าใจเล็กน้อย แต่พอจะเดาได้
“พี่กันครับ”
“แคน พี่ไม่อยากเป็นตัวซวยให้แคนนะ”
อติรุจส่ายหน้า
“พี่กันครับ สำหรับแคน พี่กันไม่ใช่ตัวซวยอย่างที่ทุกคนกล่าวหา คนที่จะซวยหรืออะไรก็ตาม มาจากตนเองทั้งนั้นที่ปรุงแต่ง พี่กันครับ ถ้าอย่างน้อยพี่กันเห็นแคนเป็นน้องชายของพี่กัน ได้โปรด ยิ้มซักหน่อยนะครับ แคนว่ารอยยิ้มสดใส เหมาะกับพี่กันมากกว่า”
“แคน”
นภัทรอึ้ง
“อีกอย่างนะครับ พี่กันอย่าลืมสิ พี่ริท พี่ชายที่แสนดี คอยดูแลพี่กันมาตลอด เขาคงไม่สบายใจ หากเห็นว่าพี่กัน ยังเจ็บปวดเพราะเรื่องแบบนี้ ไหนจะคุณน้าวรินรัตน์ แม่ของพี่กัน พี่กันไม่ต้องการให้ใครมาทุกข์ใจเพราะพี่กันไม่ใช่หรอครับ ดังยั้น พี่กัน กลับมายิ้มเถอะครับ นะ แคนว่าพี่กัน เหมาะกับรอยยิ้มที่สดใสมากกว่า”
คำพูดของอติรุจ ทำเอานภัทรอึ้ง นึกไม่ถึง อติรุจอายุน้อยกว่าเขาแท้ๆ แต่กลับมีความเป็นผู้ใหญ่และผู้นำมากกว่าเขาเสียอีก
แล้วเขาล่ะ ทำไมยังอ่อนแอแบบนี้
นภัทรสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนที่จะปล่อยลมออกมาราวกับค่อยๆผ่อนคลาย ก่อนที่จะยิ้มให้อติรุจเห็น
“พี่ยิ้มแล้วนะ”
อติรุจค่อยเบาใจ ดีใจที่เห็นรอยยิ้มของคนที่เขารัก
แม้ว่านภัทร จะเห็นเขาเป็นแค่
น้องชายก็ตาม
แต่ไม่เป็นไร
สำหรับนภัทร เขาจะเป็นน้องชายอย่างที่นภัทรต้องการ
“ขอบคุณนะพี่กัน ที่ให้แคนได้เห็นรอยยิ้มอันสดใสของพี่”
นภัทรยิ้มให้ อติรุจก็ดีใจ ทั้งสองยิ้มให้กัน
ตอนเย็น
“พี่กัน จะกลับบ้านแล้วหรอครับ”
อติรุจถาม เพราะเห็นนภัทรกำลังจะเดินลงไป
“อืม ก็เลิกงานแล้วนี่นา อยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้ นี่แคนก็กำลังจะกลับใช่ไหม”
“ครับพี่กัน จริงสิ เดี๋ยวแคนไปส่งพี่กันไหมครับ ได้ข่าวว่าพี่ริทยังไม่กลับ”
ร่างบางส่ายหน้า
“อย่าดีกว่า พี่ไม่อยากให้แคนมีปัญหากับริท พี่กลับก่อนนะ”
นภัทรจะหันตัวกลับ
“เอ่อ พี่กันครับ”
“หืม”
นภัทรหันไปตามเสียง
อติรุจยิ้ม ก่อนที่จะพูดต่อ
“ยิ้มทุกวันนะครับ แคนอยากเห็น”
นภัทรอบอุ่น เมื่ออติรุจยิ้มให้อ่อนโยน
“ขอบคุณนะแคน น้องชายของพี่ นายเป็นน้องชายที่ดีของพี่จริงๆ”
อติรุจหน้าสลดเล็กน้อย แต่ยังไงสำหรับเขา แค่นี้ก็ดีถมไป
“ครับพี่กัน ถ้าพี่กันทุกข์ใจ อย่าลืมน้องชายคนนี้ละกันนะครับ”
นภัทรยิ้มละมุน
“ได้สิ ขอบคุณนะ พี่กลับก่อนนะ”
“ครับ ราตรีสวัสดิ์ล่วงหน้านะครับ”
“ขอบคุณนะแคน”
เมื่อแยกออกจากอติรุจมาแล้ว นภัทรก็มายืนรอรถที่ข้างถนนหน้าบริษัท
ร่างบางสอดส่ายตาหารถไปเรื่อย
“โม นั่น ใช่กันหรือเปล่านะ”
ภาคิณขับรถผ่านมาแถวนี้ ภัทรธิดาที่นั่งมาด้วย หลังจากที่ทั้งคู่ไปทำธุระมา
“เออ ใช่ว่ะไอ้โน่ ริทยังไม่กลับมาจากสัมมนา กันเลยมารอแท็กซี่ละมั้ง”
ภาคิณได้ยินดังนั้น เลยทำท่าจะขับไปใกล้
ภัทรธิดาสงสัย
“จะทำอะไรวะ”
ภาคิณหันมาทางเพื่อน
“ก็จะรับกันไปกับเราไง กันรอแท็กซี่แบบนี้ใช่ว่าจะปลอดภัยนะ”
ภัทรธิดาส่ายหน้า
“เฮ้ย แก อย่าดีกว่า ลืมแล้วหรอ ว่าริทมันหวงน้อง มันคงไม่ยอมให้แกใกล้กันหรอก”
ภาคิณถอนหายใจ
“โม แล้วถ้ากันเป็นอะไรขึ้นมา ริทมันไม่เสียใจมากกว่าเดิมหรอ อย่างน้อย แค่พากันกลับบ้านนะ”
ภัทรธิดาถอนหายใจ ใช่ว่าเธอจะไม่เป็นห่วงนภัทรนะ เพราะนภัทรเป็นน้องฝาแฝดของเรืองฤทธิ์ น้องรักของตนเองสมัยเรียน
แต่ว่า เรืองฤทธิ์หวงน้องมาก ถ้าภาคิณเข้าใกล้แบบวันนั้น ไม่รู้ว่าเรืองฤทธิ์จะคิดยังไง
“ไม่ดีมั้งแก ชั้นไม่อยากให้ริทมันโกรธเท่าไหร่”
“น่าโม แค่พาไปส่งบ้านแค่นี้เอง อีกอย่างแกก็นั่งอยู่ด้วย ริทมันน่าจะเข้าใจนะ”
ภัทรธิดาส่ายหน้าล
“เออ เราเองก็เป็นห่วงน้องกันเหมือนกัน เอาสิ แต่แกรู้จักบ้านริทหรอ”
ภาคิณยิ้ม
“ก็รู้จักบังเอิญน่ะ แต่ช่างมันเถอะ”
“เออ ไปสิ”
ปี๊นๆ
เสียงแตรรถที่ดังราวกับเรียก นภัทรหันไปมอง
“กัน นี่พี่โมเองนะ”
“พี่แตงโม”
นภัทรทัก เนื่องจากเขารู้จักภัทรธิดา เพราะว่าภัทรธิดาเป็นพี่สาวคนสนิทของแฝดพี่อย่างเรืองฤทธิ์ ดังนั้น นภัทรจึงให้ความเคารพด้วย
ภัทรธิดาลงไปหาเอง เนื่องจากเกรงว่าถ้าหากภาคิณลงไปนภัทรอาจจะไม่สบายใจ โดยจากเหตุการณ์ในวันนั้น
“กัน จะกลับบ้านหรือเรา”
นภัทรพยักหน้า
“ครับ”
ภัทรธิดายิ้ม
“งั้น กลับกับพี่ก็ได้นะ พอดีพี่มากับเพื่อนพอดี กำลังจะผ่านแถวบ้านเรา ไปมั้ย”
นภัทรลังเล
“เอ่อ”
นภัทรเหลือบไปเห็นภาคิณ
“อ้ะ พี่โน่”
ภัทรธิดาเห็นนภัทร พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร
“ไม่ต้องห่วง พี่แค่พาเรากลับบ้าน พี่ไม่อยากให้ริทไม่สบายใจ ไม่ต้องห่วงนะ มีพี่อยู่ทั้งคน”
“แต่ว่า”
ภัทรธิดากุมมือนภัทร
“ไม่ต้องห่วง ถ้าริทมันรู้เรื่องนี้แล้วโกรธ พี่จะพูดกับมันให้ ยังไง ริทมันก็เคารพพี่”
นภัทรลังเลพักใหญ่
“ก็ได้ครับ”
“อย่างนี้สิ ไอ้เสือดื้อ ไป”
ภัทรธิดานำนภัทรเดินขึ้นรถภาคิณ
“ป้ะไอ้โน่ ไปส่งน้องกัน”
ภัทรธิดาพูดขึ้นเมื่อทุกคนเข้ามาในรถแล้ว ภาคิณยิ้ม
“เอาสิ ขอบใจนะโม”
ภัทรธิดาพยักหน้า
“เออน่า กันเป็นน้องริทมัน กันก็เหมือนน้องเราด้วย”
ภาคิณมองนภัทรผ่านกระจกหลัง แววตาอบอุ่นถูกส่งไปให้ แต่นภัทรกลับหันหน้าหนี
ภาคิณยิ้ม ภัทรธิดามองหน้าเพื่อน
“เฮ้อ โน่เอ้ย แกก็รู้นะว่าริทมันหวงน้อง ชั้นไม่อยากเห็นทั้งแกและริททะเลาะกันเลยว่ะ”
ภัทรธิดาถอนหายใจ
บ้าน ของนภัทร
นภัทรลงจากรถภาคิณ ก่อนที่จะหันไปขอบคุณพี่ทั้งสอง
“ขอบคุณทั้งพี่โน่พี่โมนะครับ”
ภัทรธิดาเปิดกระจกรถ
“อืม ไม่เป็นไร แล้วอย่าลืมล็อกบ้านให้ดีล่ะเรา เรายิ่งสู้ใครไม่เป้นด้วยนะ”
นภัทรยิ้มขอบคุณด้วยใจ
“ขอบคุณครับ งั้นกันขอตัวก่อนนะครับ”
“จ้ะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะเรา”
นภัทรขอตัวเข้าบ้านไปแล้ว
ภาคิณมองตาม
“ไอ้โน่ ตาน่ะ แหม มองไม่ขาดสายเลยนะ อย่าลืมว่าริทมันหวง เดี๋ยวก็โดนมันต่อยอีกหรอก”
ภัทรธิดาเตือนด้วยความหมั่นไส้ ภาคิณหัวเราะ
“ก็น้องเขาน่ารักนี่”
ภัทรธิดาส่ายหน้า หัวเราะปนระอาพอกัน
“เฮ้อ มองแต่ตา มืออย่าต้องละกัน ชั้นขี้เกียจจองศาลาสี่”
“โม แกแช่งเพื่อนหรอเนี่ย”
“เอ้า ก็พูดเรื่องจริง ริทเวลาโมโหเป็นไงแกก็เห็น”
ภาคิณส่ายหน้า ที่เพื่อน ไม่สนับสนุน
“ไอ้โน่ ออกรถ กูจะไปหาฐิสา ไวๆ”
ภาคิณหมั่นไส้เพื่อนสาว
“หนอย ทีแกยัง แหม ห่างนิดห่างหน่อย”
“เอ้า กูผิดหรอ กูคิดถึงแฟนกู ถ้ามึงไม่ชวนกูไปดูที่ดิน ป่านนี้กูไปเที่ยวกะฐิสาไหนต่อไหนแล้ว”
ภัทรธิดาหันมาโวย แถมทำท่าจะต่อยให้ ภาคิณเกรงใจ
“เออ ดุกูจริง ไปก็ไป”
“เออ นั่นแหละ พูดมาก ไปได้แล้ว”
ภาคิณออกรถสตาร์ทไปทันที ไม่งั้นเขาอาจจะตายคาทีนเพื่อนสาวจอมโหด
นภัทรเดินเข้ามาในบ้านด้วยความอ่อนใจ
ยามที่เขาอยู่คนเดียว มันเหงานะ
ตื้ดดดด
นภัทรได้ยินเสียงโทรศัพท์ ของตนเอง
“อ้ะ ริท”
ร่างบางพอรู้ว่าใครโทรมาก็รับสาย
“ฮัลโหล”
“กันหรอ เป็นยังไงบ้าง มีใครมาก่อกวนกันหรือเปล่า”
นภัทรปฏิเสธ
“ไม่นี่ ริทสบายใจได้นะ”
ดูเหมือนว่าเสียงปลายสายจะแสดงถึงความโล่งอก
“ก็ดีแล้ว ริทเบาใจหน่อย ดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าลืมดื่มนมที่ให้ไว้ล่ะ จะได้หลับสบาย”
“อืม ขอบคุณนะริท”
“อืม อย่าลืมที่ริทบอกล่ะ ริทวางก่อนนะ พอดีมีสัมมนาต่อ”
“อื้อ”
นภัทรวางสาย
“เฮ้อ ขนาดห่างยังไม่วายห่วงเรานะ ริท กันรักริทนะ ริทเป็นพี่ชายของกันดูแลกันมาตลอดจริงๆ ถ้ากันไม่มีริท ป่านนี้ไม่รุ้ว่ากันจะมีชีวิตยังไงฮึก”
นภัทรเสียงสั่น ก่อนที่จะหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการทำงานทั้งวัน
..............................................................................................................................................
อัพแล้วจ้า ฝากด้วยนะ
ความคิดเห็น