ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนกินผัว(รีไรท์)

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 59







    หลังจากที่เรืองฤทธิ์เดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดตามที่ได้รับคำสั่ง  นภัทรจึงอยู่บ้านคนเดียว  บางครั้งเบื่อๆเพราะเงียบเหงา  ก็เลยออกไปข้างนอกบ้างบางเวลา

    วันนี้นภัทรไม่ได้ออกไปไหน  เลยตัดสินใจเก็บห้องของตัวเองทำอะไรแก้เบื่อ

    “เอ้ะ”

    นภัทรเห็นกล่องใบหนึ่ง  เลยหยิบขึ้นมาดู

    มือเรียวหยิบสร้อยเส้นหนึ่ง  ที่มีจี้หินสลักชื่อว่า  BG

    มันเป็นสร้อยที่สุกฤษฎิ์เคยให้  ตอนที่รักกัน  ยังคบกันและกำลังจะแต่งงาน

    นภัทรนึกถึงวันเวลาเก่าๆ

    “อ้ะ  พี่บี้ครับ  เล่นอะไรของพี่เนี่ย”

    นภัทรตอนนั้นถูกสุกฤษฎิ์หอมแก้มโดยไม่รู้ตัว  ร่างบางขวยเขินเมื่อถูกคนรักแอบขโมยหอมเขาเสียเต็มประดา

    “ก็พี่คิดถึงกันนี่นา  พี่รักกันนะ”

    “กันก็รักพี่บี้ครับ”

    “น่ารักจังเลยครับ  น้องกันของพี่”

    “อ้ะ  พี่บี้  อย่าสิครับ  เดี๋ยวริทเขาก็เอาเรื่องพี่หรอก  พี่บี้ก็รู้นะว่าริทน่ะ  เขาไม่ชอบให้พี่บี้ทำอะไรรุ่มร่ามกับกันนะ  ไม่เข็ดหรอ  กว่าจะทำให้ริทยอมรับพี่ได้น่ะ”

    นภัทรพูดไปหนีการสัมผัสสุกฤษฎิ์ที่ยังคงขโทยแก้มเขาเป็นระยะๆ 

    “นั่นสินะ  ก็ได้ครับน้องกัน  แต่อย่าลืมนะ  ถ้าเราสองคนแต่งงานกันเมื่อไหร่  พี่จะจัดหนัก”

    สุกฤษฎิ์พูดจบก็หอมแก้มนภัทรอีก  จนร่างบางต้องหนี

    “ไม่เอาแล้ว  อยู่กับพี่นี่กันเปลืองตัวตลอดเลยอ่ะ”

    นภัทรแง่งอนคนรัก

     

    และวันที่นภัทรหัวใจสลายครั้งที่สองก็มาอีกครั้ง

    โทรศัพท์นภัทรดังขึ้น

    “ฮัลโหล  สวัสดีครับ”

    “กัน  เกิดเรื่องอีกแล้ว  รู้หรือเปล่าว่าพี่บี้จมน้ำตาย”

    เสียงพรรณวรท  ญาติคนนึงของสุกฤษฎิ์  พอนภัทรรู้ว่าสุกฤษฎิ์จมน้ำตาย  แทบจะทรุดไปกับพื้น

    “ฮึก  พี่บี้  มะ  ไม่จริง  ฮือออออ”

    นภัทรร้องไห้  ก่อนที่จะไปดูร่างสุกฤษฎิ์ที่โรงพยาบาล  พบว่าคนรักตนเองจมน้ำตายจริงๆ  นภัทรร้องไห้แทบน้ำตาเป็นสายเลือด

    “พี่บี้  ฮึก  พี่บี้ครับ  ไหนว่าพี่บี้รักกันไม่ทิ้งกันไง  ฮือออ”

    นภัทรร้องไห้ตลอดงานศพสุกฤษฎิ์  โดยที่เรืองฤทธิ์ต้องคอยปลอบไม่ห่าง

    “เพราะกันใช่ไหมครับ  ถ้ากันไม่เจอพี่บี้  พี่บี้คงไม่ต้องมาตาย  เพราะตัวกาลกิณีอย่างกัน  ฮึก”

    นภัทรสะอื้น  ก่อนที่จะเก็บสร้อยเส้นนั้นเอาไว้ 

     

    ตื้ดดดดดดด

    นภัทรลงมาหาอะไรทานรองท้อง  หลังจากที่สงบสติอารมณ์อยู่นาน  พอได้ยินโทรศัพท์ก็ไปรับ

    “ฮัลโหล  กันพูดครับ”

    “กัน  เป็นยังไงบ้างอ่ะเรา”

    เสียงอิสริยะดังมาตามสาย  นภัทรถอนหายใจ

    นี่คงเป็นเรืองฤทธิ์  ที่ฝากเขาให้อิสริยะคอยดู

    “ผมสบายดีครับพี่ฮั่น”

    “เออ  พี่ก็ไม่มีอะไรมากหรอก  ริทมันฝากเราไว้กับพี่น่ะ  ยังไงก็อย่าลืมล็อกประตูละกัน  หรือไปไหนเราต้องคอยระวังล่ะ  อย่าไปไหนโดยไม่บอกพี่   มีอะไรก็บอกพี่นะ  พี่จะได้บอกริทให้มันสบายใจ

    “ครับ  พี่ฮั่น  กันขอบคุณครับ”

    “อืม  เดี๋ยวตอนเย็นพี่จะเข้าไปเยี่ยมล่ะ  เอาอะไรมั้ย”

    “ไม่ดีกว่าครับ”

    “หรอ  งั้นแค่นี้ก่อนนะ ลูกค้าเข้าร้านพอดี  แล้วอย่าลืมที่พี่บอกล่ะ  ไม่งั้นไอ้ริทมันเอาพี่ตายแน่”

    นภัทรหัวเราะเบาๆ

    “ครับพี่ฮั่น  กันจะดูแลตัวเองครับ”

    “อืม  งั้นแค่นี้ก่อนนะ”

    อิสริยะวางสาย  นภัทรมองโทรศัพท์ตนเองหลังจากคุยกับอิสริยะ

    “เฮ้อ  ริทนี่  ทำคนอื่นร้อนใจไปหมด”

    นภัทรพึมพำ  ก่อนที่จะหายไปในครัว

     

    อิสริยะวางโทรศัพท์

    “เฮ้อ  ไอ้ริทนะไอ้ริท  มันจะรู้ตัวมั่งมั้ยว่ามันทำให้น้องชายตัวเองอึดอัด  ดีนะที่กันมันเรียบร้อย  ไอ้ริทน้า”

    อิสริยะส่ายหัวระอาเอือม  ก่อนที่จะบริการลูกค้าต่อไป

    “รับอะไรดีครับ”

    “เอาชาเขียวร้อนค่ะ”

    “ได้ครับ  รอซักครู่นะครับ”

    อิสริยะจัดการบริการลูกค้าที่มาสั่งเครื่องดื่มต่างๆ 

    ตืดดดดดดด

    “ฮัลโหล  ฮั่นพูดครับ  อ้าวไอ้ริท”

    คนที่โทรมาเป็นเรืองฤทธิ์  ไม่มีอะไรต่อไป  เรืองฤทธิ์ก็ถามอิสริยะทันที

    “ไอ้ฮั่น  มึงไปดูน้องกูยัง”

    อิสริยะส่ายหน้า  ไอ้นี่มันจะหวงห่วงน้องไปไหน

    “นี่  ไอ้ริท  กูว่ามึงน่ะ  เบาๆมั่งก็ได้นะ  เมื่อกี้สามชั่งโมงที่แล้ว มึงก็เพิ่งโทรมา  ก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวกูไปดูกันมันตอนเย็น”

    “ก็กูห่วง  ผิดด้วยเรอะ”

    “เออ  รู้แล้ว  เออน่าเดี๋ยวตอนเย็นไปดูให้”

    “เออดี  อย่าทำอะไรน้องกูล่ะ  ถ้าน้องกูเป็นอะไรกลับไปกูจะกระทืบมึง”

    อิสริยะหมั่นไส้  แหม  ตัวก็เล็กยังจะกล้ากระทืบเขาอีก

    “เออ  กลัวตายนักนะมึง  แหม  หวงจริ๊ง  ถามจริง  กันเป็นน้องมึงหรือแฟนมึงกันแน่วะ  หวงนักนะมึง”

    “สัสฮั่น  ปากหมาแล้วไงมึง  ไอ้นี่”

    อิสริยะหัวเราะ  

    “กูอำเว้ย  แหม่  เออน่า  กูบอกว่าจะดูให้ก็ดูให้สิ  ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  กันก็เหมือนน้องแท้ๆของกู  กูไม่ให้ใครมาทำน้องกูเหมือนกัน  ริท  มึงสบายใจได้”

    “เออ  ก็มีมึงนี่แหละ  ที่กูไว้ใจ  ฝากกันด้วยนะ  แล้วอย่าให้ไอ้สัสแกงมันรู้ล่ะ”

    อิสริยะส่ายหน้าระอา 

    “เออ  แกงมันไม่รู้หรอกน่า”

    “เออ  แค่นี้นะ  กูมีสัมมนาต่อ”

    “เออ”

    เรืองฤทธิ์วางสายไปแล้ว  อิสริยะก็ทำงานต่อ

    “อ้าว ไอ้แกง  มึงนี่โผล่ซะกูเกือบปิดร้าน  ไม่มาซะห้าทุ่มเลยล่ะวะ”

    อิสริยะว่าเพื่อนร่วมร้านทันที  แต่ธนทัตไม่พูดอะไร  มาถึงก็เดินไปหลังร้าน  ทิ้งให้อิสริยะงง

    “อะไรวะ  พูดด้วยก็ไม่พูด  เชี่ย  แล้วไม่ค่อยมาช่วยร้านเล้ย”

    อิสริยะบ่นไปตามประสา  ไม่สนใจธนทัตต่อไปเพราะงานล้มมือ

    ในขณะที่ธนทัตคิดอะไรบางอย่าง

    “หาทางเข้าใกล้กัน  เราจะเอากันมาเป็นเมียเราให้ได้”

     

    บ้าน  พานิชเอื้ออารี

    “สวัสดีครับพี่ฮั่น”

    นภัทรไหว้ผู้มาเยือน  อิสริยะมาถึงก็ยื่นกล่องเค้กให้

    “อ่ะ  กัน  พี่เอามาฝาก”

    “ขอบคุณครับ”

    อิสริยะมองไปรอบๆ

    “เออนะ  พี่ไม่ได้มาบ้านริทมันเป็นปีแระ  ว่าแต่เราเถอะ  อยู่คนเดียวได้เปล่าล่ะ”

    นภัทรพยักหน้า

    “กันอยู่ได้ครับ  พี่ฮั่นไม่ต้องห่วง”

    “อืม  เออ  จริงสิเรา  นี่เราคิดจะมีครอบครัวหรือเปล่า”

    คำถามอิสริยะ  ทำเอานภัทรนิ่งไป

    ก่อนที่จะตอบ

    “กัน ไม่กล้ารักใครอีกแล้วล่ะครับ  คนกินผัวอย่างกัน  ใครจะมาดูแลล่ะครับ”

    ประโยคนั้น  ทำเอาอิสริยะอดเป็นห่วงไม่ได้เหมือนกัน

    “ก็ดีเหมือนกันนะ  พี่ว่าถ้าความรักทำให้เราเจ็บปวด พี่ว่าเราก็วางเฉยไปเลย  ริทมันคงสบายใจด้วย  กันเราเข้าใจพี่เรานะ  ว่าทำไมริทมันถึงไม่อยากให้กันรักใครเท่าไหร่”

    นภัทรพยักหน้า

    “กันรู้ครับ  ริทเขาไม่อยากให้กันเสียใจอีก  และกันเองก็ไม่อยากเสียใจเหมือนกันครับ  กันไม่อยากเป็นต้นเหตุ  ที่ทำให้คนที่กันรักกันคบ  เป็นอะไรไปอีก”

    สิ้นประโยค  นภัทรก็น้ำตาร่วงทันที  อิสริยะไม่รู้จะทำยังไง  ก็เลยเข้าไปใกล้  ก่อนที่จะกอดร่างบางพลางให้กำลังใจ

    “พี่ว่าอดีตมันเป็นยังไงก็ปล่อยไปเถอะ  พี่ว่าเราอยู่กับปัจจุบันน่ะดีแล้ว  กัน  พี่เชื่อนะว่ากันจะต้องมีความสุขซักวัน  วันนี้ไม่มีความสุข   วันพรุ่งนี้ก็มี”

    อิสริยะปลอบ  นภัทรพยักหน้ารับไว้

    “ครับ  กันจะพยายาม”

    อิสริยะเห็นสว่ามันจะมืดแล้ว  

    “งั้น  พี่กลับก่อนล่ะเรา  ดูแลตัวเองล่ะ”

    อิสริยะว่าก่อนที่จะออกไปขากบ้าน

    นภัทรได้แต่หน้าสลด

    “ใครจะกล้ามารักคนกินผัวอย่างกันละครับ  กันเองก็ไม่กล้ารักใครแล้วเหมือนกัน”

    นภัทรพึมพำ  ก่อนที่จะจัดการปิดบ้าน  ปิดห้องหับเอาไว้  พอเหนื่อยก็อาบน้ำนอน

     

    นภัทรนอนอยู่บนเตียง  ส่ายหน้าระสับระส่าย  ภาพที่เขาถูกใครซักคนข่มขืน  ยังตามมาหลอกหลอนเขาอยู่

    “ฮึก  อย่า  มะ  ม่าย  ไม่นะ  ฮึก  อย่า  อย่า  ช่วยด้วย”

    นภัทรร้องไปมาจนลุกจากที่นอน  ตัวยันกับเตียง

    “ฮึก  ฮืออออ  ริท  อยู่ไหน  ฮึก  กันกลัว   ฮือออออ”

    ร่างบางสะอื้นไห้  หลายปีมาแล้ว  ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ 

    ฝันร้ายในวันนั้น  มันหลอกหลอนเขาไม่มีจางหาย

     

    วันต่อมา

    นภัทรรู้สึกไม่สบายใจ  ก็เลยมาทำบุญเอว่าความทุกข์มันจะหายไปจากใจได้บ้าง

    ร่างสีน้ำผึ้งเดินให้อาหารปลาที่ท่าน้ำหน้าวัด  หน้ายังคงเศร้าไปเปลี่ยนแปลง

    นภัทรพยายามลืมอดีตที่เจ็บปวด  แต่ก็ยังร้องไห้อยู่

    “ฮึก”

    นภัทรสะอื้น  สายตามองไปกับสายน้ำด้วยแววตาสลดอย่างน่าใจหาย  น้ำตาไหลอาบแก้ม  คิดถึงคนรักเก่าๆ  ที่ตายไปแล้ว

    “พี่สน  พี่บี้  ไอซ์  พี่เก่ง  พี่อาร์  กันขอโทษ  เมื่อไหร่กันจะไมเป็นแบบนี้ซักทีนะ”

    ร่างบางยังโทษตัวเอง

    พอทำใจสงบได้บ้าง  และก็หันตัวกลับไปเพื่อที่จะกลับบ้าน

    “โอ้ะ”

    ดูเหมือนว่าร่างบางจะชนใครเข้า  ก่อนที่จะทำท่าล้มลง

    “ระวังครับ”

    คนคนนั้นรีบประคองไม่ให้นภัทรล้ม ก่อนที่นภัทรจะยึดตัวอีกคนแน่น

    “ขะ  ขอบคุณครับ”

    นภัทรหลับตาปี๋  ไม่รู้ว่าใครมาประคอบงตนแบบนี้

    แต่พอลืมตา  ร่างบางก็ตกใจ

    “พี่โตโน่”

    ภาคิณนั่นอง  วันนี้เขามาพักผ่อนและทำบุญแถวนี้  กำลังจะมาให้อาหารปลาก็ถูกใครชนเข้า  คราแรกก็ไม่มีอะไร  แต่พอรู้ว่าตนเองชนใคร  ร่างสูงก็ดีใจขึ้นมาทันที

    “กัน  กันนี่”

    นภัทรอึ้ง  ไม่นึกว่าจะเจอภาคิณที่นี่

    แต่ทำไมนะ  อ้อมกอดนี้  อบอุ่นจัง  แต่

    นภัทรรีบออกจากอ้อมกอดภาคิณทันที  ก่อนที่จะ

    “เอ่อ  ผมขอโทษครับ”

    นภัทรจะเดินหนีไป  แต่ภาคิณเรียกและคว้าแขนนั้นเสียก่อน

    “เดี๋ยวสิกัน”

    นภัทรหันมา  ก่อนที่จะแกะมือภาคิณ

    “พี่โน่ครับ  ปล่อยเถอะ”

    ภาคิณเห็นว่านภัทรขอร้องขนาดนั้น  จำต้องปล่อยมือ

    “พี่ขอโทษ”

    นภัทรไม่ว่าอะไร  สูดลมหายใจลึกๆก่อนที่จะเดินหนี 

    แค่ภาคิณดักเสียก่อน

    “กัน  พี่อยากคุยกับกัน  จะได้ไหม”

    ร่างบางมองหน้า

    “เอ่อ  แต่กันไม่รู้จะคุยอะไรหรอกครับ  กันขอโทษนะครับ  ขอตัวกลับก่อน”

    นภัทรจะเดินหนีอีกครัง  แต่แล้วก็รู้สึกเวียนหัวอีก  ทำให้คราวนี้นภัทรจะล้มอีกครั้ง  ภาคิณตกใจที่นภัทรล้มลง  เลยรีบรับเอาไว้

    “กัน”

    นภัทรที่ร่างกายอ่อนเพลียก็ได้แต่หลับไปไม่รู้เรื่อง  ภาคิณรู้สึกเป็นห่วงคนในอ้อมแขน

    “กัน  พี่จะพากันไปโรงพยาบาลนะ”

    ภาคิณรีบอุ้มนภัทรในท่าเจ้าสาว   ความห่วงทำให้เขาไม่คิดอะไร  รู้แต่ว่าตอนนี้  เขาจะพานภัทรไปโรงพยาบาล

    “กัน  อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ”

    ภาคิณพยายามร้องเรียก  แต่นภัทรยังคงไร้สติตามเดิม

     

    ...........................................................................................................................................

    อัพแล้วจ้า  หวังว่าสนุกนะจ้ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×