ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Switch Love=สลับรักหัวใจลงล็อค(กันแก้ม เอ้ะ หรือแก้มกัน)

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 59





    ตอนนี้นภัทรเองก็ยังคงหลับอยู่บนเตียง  ในขณะที่ทุกคนพากันงงและพากันซุบซิบใหญ่  สงสัยอย่างมากว่านภัทรเป็นอะไร  นางปากจัดก็จริง  แต่นิสัยนางแบบนี้บอกก่อนเลยว่า 

    ไม่เคยปรากฎ  เจอแบบนี้พวกกูไม่งงก็แปลกแล้ว

    "ตั้มมี่ว่านะ  นางกันนี่น่ะความจำเสื่อม  สมองกระทบกระเทือนชัวร์เลย"

    "กั่งกั๊งก็เห็นด้วยกะตั้มมี่น้า"

    "ไอซี่ก็เห็นด้วย  บอกก่อนนะ  ถึงกันนี่นางนน่ะปากจัดก็เถอะ  แต่น่างไม่เคยมีอาการอารมณ์ร้ายแบบนี้มาก่อนเลย"

    "จริงด้วย  แอปเปิ้ลก็ไม่เคยเห็นเจ๊กันนี่เป็นแบบนี้เลยน๊า"

    "ช่าย  มาตังเองก็ไม่เคยเห็นนะพวกเธอ"

    "แล้วตกลงนางเป็นอะไรล่ะ"

    "โอ้ย  ไม่รู้หรอก"

    แต่ละนางพากันจับเข่าคุยประหนึ่งข่าวเด็ดประจำวัน

    ภาวินีเองก็งงไปกับคนอื่นด้วย  เรืองฤทธิ์ก็สงสัยไม่น้อย

    เขารู้สึกว่า  นี่ไม่เหมือนนภัทรที่เขารู้จักเลย  เหมือนไม่ใช่เพื่อนเขายังไงชอบกล

    ส่วนปฏิภาณ  ยังคงคอยเฝ้าลูกชายอยู่  จนอติรุจที่เห็นว่าบิดาตนเองเฝ้าพี่ชายตนเองนานแล้ว
    "พ่อครับ  ผมว่าพ่อไปพักผ่อนเถอะครับ"

    "ไม่ล่ะ  พ่อห่วงไอกันมัน  ยิ่งเมื่อกี้เห็นท่าทางมันไม่ค่อยดีอยู่ด้วย"

    ภาวินีถอนหายใจ  เลยลองพูดบ้าง

    "แต่  คุณอาค่ะ  โนนี่ว่าคุณอาน่าจะพักผ่อนบ้างนะคะ  เห็นว่านั่งเฝ้าทั้งคืนมาหลายวัน  ถ้าฝืนร่างกายแบบนี้โนนี่เกรงว่าร่างกายคุณอาจะทรุดลงได้นะคะ"

    "ไม่เป็นไรหรอก  อาอยากเฝ้าไอกันมันมากกว่า"

    "แต่ถ้ากันนี่  เอ้ย  กันมันตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วเห็นคุณอาฝืนเฝ้าจนร่างกายทรุดโทรม  กันมันอาจจะรู้สึกแย่ที่ทำให้พ่อตนเองเป็นห่วงไม่เป็นอันกินอันนอนแบบนี้โนนี่ว่ากันมันไม่สบายใจจนอาการมันที่เป็นอยู่แล้วทรุดลงอีกได้นะคะ"

    ปฏิภาณหันมามองหน้ารุ่นพี่สุดสวยของนภัทรแล้วขบคิด  ก่อนที่จะเห็นด้วยแต่ยังคงลังเล  อติรุจจึงพูดอีกคน

    "เดี๋ยวผมเฝ้าพี่กันแทนเองครับพ่อ"

    "แต่เอ็ง"

    "น่า  นะครับพ่อ  ผมก็นั่งดูไปอ่านหนังสือไปก็ได้นี่ครับ  พอพี่กันฟื้นขึ้นมา  แล้วผมจะโทรบอกพ่อนะครับ"

    ปฏิภาณถอนหายใจก่อนที่จะพยักหน้าตกลง

    "เอ้า  ก็ได้  แต่ถ้าพี่เอ็งมีอะไรยังไงก็บอกพ่อด้วยล่ะ"

    "ครับพ่อ"

    ปฏิภาณมองหน้านภัทรที่หลับอยู่บนเตียงอีกที  ภาวินีเลยพูดอีกครั้ง
    "ม่ค่ะ  เดี๋ยวโนนี่ไปเป็นเพื่อนคุณอานะคะ"

    "อืม  ขอบใจนะ  ตา  เอ่อ  หนูโน่"

    ปฏิภาณเดินออกจากห้องคนไข้โดยมีภาวินีเดินตาม  ก่อนที่จะออกไปภาวินีหันม่าสั่งเด็กๆอีกที

    "นี่  ยังไงพวกหล่อนก็อยู่เป็นเพื่อนกันนี่ก่อนนะสาวๆ"

    "ค่า"

    "ดีมาก  อ้อ  เรื่องร้านไม่ต้องห่วง  ปิดร้านจนกว่านางกันนี่มันจะฟื้น  พวกแกก็ลั้ลลาปลัดกันไปละกะัน"

    "ค่าเจ๊"

    ภาวินีออกไปแล้ว  ส่วนคนอื่นก็ยังยืนอยูู่พักนึง

    "นี่พวกแก  ตอนนี้มาตังหิวแล้วอ่ะ   ลงไปหาอะไรกินกันก่อนมั้ย"

    "อะไร  ผู้ชายหรอแก"

    "ว้ายนังไอซี่บ้า  มาตอนนี้มาผู้ชงผู้ชายอะไรล่ะ  ตอนนี้หิวจริงๆนะยะ  นี่พวกแก  จะไปกันก่อนมั้ย  พออิ่มค่อยขึ้นมาดูนางต่อ"

    "นั่นน่ะสิ  แกงกี้ก็หิวแล้วด้วยอ่า"

    "งั้น  พวกเราก็ไปหาอะไรกินกัน  อ้อ  ริชชี่  แกจะลงไปกินกับพวกเราเลยมั้ย"

    ฮันนี่หันมาถาม  แต่เรืองฤทธิ์กลับปฏิเสธ

    "ไม่ล่ะ  ขอเราดูกันนี่ดีกว่า  อีกอย่างเราไม่ค่อยหิวด้วย"

    "โอ้ย  ริชชี่แกนะแก  นี่  อีกนานแน่ะกว่ากันนี่นาจะตื่นขึ้นมาเพราะว่าเมื่อกี้นางปวดหัวแรงมากนะแก  นี่ลงไปกินอะไรก่อนดีหกว่ามั้ยแก  นี่มันก็ตอนเที่ยงแล้วนะ"

    ไอซี่ว่า  เรืองฤทธิ์ยังส่ายหน่้ายืนยันคำตอบเดิมอยู่ดี

    "ไม่ดีกว่า  เดี๋ยวหิวเมื่อไหร่ค่อยลงไปหาอะไรกินทีหลังดีกว่า"

    "แน่ใจนะแก"

    แอปเปิ้ลถามอีกครั้ง  เรืองฤทธิื์ยังคงยืนยันคำตอบเดิมทำเอาสาวๆทั้งสาวแท้และสาวเทียมพากันถอนหายใจ

    "ก็ได้  แต่ถ้าแกหิวล่ะก็  ร้านพี่ไนกี้ที่เดิม  โอเคป้ะ"

    "อืมได้ๆ"

    "งั้นพวกเราไปกันเถอะ  กั่งกั๊งหิวจะตายอยู่แล้ว"

    "ไม่ใช่อยากเจออีตาวินมอไซค์นายซีดีที่อยู่วินหน้านั่นหรอ"

    "บ้า  ไอซี่  แกนี่ก็รู้ทันตลอด  แต่นี่หิวจริง  ลงไปกันเถอะ"

    "ไปๆ"

    บรรดาสาวๆพากันออกไปเพื่อลงไปหาอะไรกินตามประสา  ในห้องยังคงเหลือเรืองฤทธิ์และอติรุจ

    "ผมว่าพี่ริทลงไปหาอะไรกินกับเพื่อนก็ได้นี่ครับ"

    เรืองฤทธิ์รู้สึกเหนื่อยหน่าย  รู้สึกไได้ว่ามีเพียงอติรุจที่เขาไม่สามารถให้เรียกชื่ออย่างที่ตนต้องการได้  แต่ก็ไม่พูดอะไีรนอกจากทำตัวเหมือนปกติที่ทำทุกวัน

    "ไ่ม่ล่ะ  พี่ไม่หิวเท่าไหร่  แคนจะลงไปกินก็ได้นะ"

    "โธ่  ผมเพิ่งโซ้ยมาม่าไปเมื่อกี้  ผมไม่หวหีรอก  พี่ริทลงไปกินกับพี่ๆเถอะครับ"

    "ไม่ล่ะ พี่ว่า"

    "ตื้ดดดดด  

    เสียงโทรศัพท์  เรืองฤทธิ์หยิบมันขึ้รมารับทันที

    "คะ  พ่อ   ห้ะ  แม่อาละวาด  ค่ะๆ  รินจะไปเดี๋ยวนี้  ค่ะๆ"

    เรืองฤทธิ์วางสาย  จะหันมาทางอติรุจแต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะเข้าใจ

    "ไปเถอะครับพี่ริท  ส่วนพี่ชายไว้เป้็นหน้าที่ผมเอง"

    "อืม  แล้วพี่จะมาใหม่นะ"

    "ครับ"

    และสุดท้าย  ตอนนี้ในห้องก็มีเพียงอติรุจคนเดียวที่ทำหน้าที่เฝ้านภัทรแทน  เด็กหนุ่มก็อ่านหนังสือไปด้วยเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์  จนกระะทั้งพอดีเพือนที่โรงเรียนโทรมาอติรุจเลยออกไปรับสายพูดคุยช้างนอกเพือ่ไม่ให้เสียงดังรบกวนพี่ชาย  

    แต่เมื่ออติรุจออกไปซักพัก

    "ไปกันหมดแล้วหรอ"

    ร่างบนเตียงพึมพำ  ที่จริงเขารู้ึกตัวตื่นตั้งแต่ปฏิภาณยังไม่ออกจากห้องด้วยซ้ำ  แต่เพราะความแปลกใจบางอย่าางร่างที่นอนบนเตียงเลยทำทีหลับไปจนทุกคนออกไปจนหมดนั่นเอง

    ออกไปซักที  ว่าแต่

    คนพวกนั้นเป็นใคร  นี่คือความคิดของสิ่งที่อยู่ในนภัทร

    กันนี่  คือใคร  คำถามแรก  และคำถามที่สองตามมาคือ  ทำไมเหมือนกันนี่ที่ว่า  ทุกคนหมายถึงตัวเรา  ทั้งที่เราไม่ได้ชื่อว่ากันนี่เสียหน่อย  แล้วกันนี่ที่ว่าใครกัน

    เแปลกจริงๆ  ทำไมทุกคนถึงเรียกเราว่านภัทรล่ะ  ทั้งที่เกิดมา  กูมีชื่อเดียวว่า

    เออ  ช่างเถอะ

    "คันหน้าไงไม่รู้  เดินไปล้างหน้าดีกว่า"















    ร่างของนภัทรเดินลงจากเตียงก่อนที่จะมองหาห้องน้ำ  จนสายตาเห็นว่าสิ่งที่ตนต้องการอยู่ตรงไหนเขาก็เดินไปทันที

    "นั่นไงห้องน้ำ  เฮ้อ  เพลียชะมัด"

    ปากพึมพำตามอารมณ์ก่อนที่จะเดินพาร่างของตนเองเดินเข้าห้องน้ำตามความประสงค์  รู้สึกรำคาญตัวเองเพราะมันต้องลากเสาน้ำเกลือกเข้าไปด้วยนี่สิ

    "เออ  ปวดท้องอีก  ฉี่ดีกว่า"

    นภัทรนึกก่อนที่จะทำธุระส่วนตัวของตนเอง

    แต่พอตอนที่จะจัดการทำความสะอาดนี่สิ

    เอ้ะ

    ทำไมกลางขาเรามันมีอะไรห้อยๆด้วยวะ

    เออ  ช่างเหอะ

    ร่างสีน้ำผึ้งไม่ใส่ใจความผิดปกติของตนเองที่ไม่เคยมีมาพอล้างให้สะอาดแล้วก็ล้างมือล้างหน้า  ก่อนที่จะพาตนเองออกจากห้องนอน

    "เอ้ะ"

    แต่แล้ว  แวบนึงเข้ามาในสมอง  ก่อนที่จะหันหน้าไปทางข้างหลัง  ซึ่งมันเป็นกระจกสะท้อนเงาอยู่

    ก่อนที่

    "เอ้ะ  หือ  เห้ย"



    ...........



    "หมอบอกสมองไอ้แก้มมันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่นา"

    อาร์คิด  หลังจากที่เขาได้ไปฟังหมอมา  หมอบอกว่าวิชญาณีไม่ได้เป็นอะไรสมองก็ปกติไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น  แต่นั่นก็ทำเอาอาร์งงเพราะเขาไม่เคยเห็นน้องสาวตนเองแสดงท่าทีจริตจก้านแบบนั้น  แปลก  มันน่าแปลกจริงๆ

    "หรือว่ามันเพี้ยนวะ"

    "ตาอาร์  ว่าไงลูก"

    "หมอบอกก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับแม่"

    ลลนามอง

    "แล้วทำไม  แก้มมันดูแปลกจากเดิมล่ะพี่อาร์"

    "สงสัยมันคงมึงน่ะ"

    เสียงการสนทนาในห้องนี้ทำเอาคนที่หลับไปครู่ใหญ่ตื่นขึ้นมาแต่ไม่ขยับตัวหลืบตาหรี่ตามองเล็กๆเพราะงงไปหมด

    ใครก็ไม่รู้  จะมีคุ้นก็ยัยทอมคนนั้นน่ะ  จำได้ว่านางมากับชะนีคุโรบุตะนี่นา

    แต่ก็แปลก  คนที่เราไม่รู้จักทำท่าว่าสนิทสนมกันดีกับเรา  ทั้งที่เราไม่รู้จักซักคนมันยังไง  หรือว่าเราตาลาย

    ไม่สิ  คนอย่างกันนี่คำว่าตาลายไม่มีอยู่ในพจนานุกรม

    เราไม่รู้จักใครซักคน  แต่ทำไมเรียกเราว่าแก้มล่ะ  แล้วยัยแก้มนี่ใคร



    ............................

    "เห้ยๆๆๆๆๆ  อะไรนี่  นี่มัน"

    ร่างนภัทรทำท่าตกตาตื่นเบิกตาโพลงอย่างระคนตกใจ  อะไรนี่  นี่มันไม่ใช่เรานี่นา

    "นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ  เห้ย  เดี๋ยว   หรือว่าตาลายก็ไม่นี่หว่า"

    เกิดอะไรขึ้นกันแน่  หลังจากที่เอะใจกับเงากระจกของตนเองเลยหันไปดู  ปรากฎว่า

    ภาพที่เขาเห็นมันคือชายหนุ่มคนนึงที่ไว้ผมยาว  ตอนแรกตาฝาดพอขยี้มาไปมากลับไม่ใช่  ปรากฎว่าเป็นผู้ชายที่ไหนไม่รู้  

    แล้วนี่  มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    "เกิดอะไรขึ้นวะ"

    และเกิดคำถามแบบนี้บ่อยเท่าไหร่ไม่ทราบได้

    "นี่มันเรื่องอะไรกันวะ  นี่มันไม่ใช่เรานี่หว่า  เกิดอะไรขึ้นวะ"






    ........................................................


    มาต่อแล้วจ้า








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×