ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
"โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
"เป็นอะไรอ่ะเจ๊ ทำหน้าเคร่งเครียดราวกะโลกจะแตก"
แกรนด์ รุ่นน้องแสนสนิทชิดเชื้อเรื้อรัง(ตูไม่ใช่เชื้อโรคนะไอ้ไรท์เตอร์----แกรนด์)ถามทันทีที่รุ่นพี่สาวที่มีผัวไปแล้วด้วยความตกใจปนสงสัย ก็อยู่ๆ ที่นั่งมองเจ๊แกเงียบแอนด์เครียดมาตั้งนานแล้วจู่ๆนางก็ตะโกนไม่มีปี่มีขลุ่ยไม่มีระนาดไม่มีกลองไม่มีฉิ่งไม่ไม่ฉาบ(มึงจะขนเอาดนตรีไทยมาทั้งแผงเลยมั้ยล่ะสัส)
"เจ๊เครียดดดดดดดดดด"
แก้มบ่นลากเสียงยาวอีกรอบ ก่อนที่รุ่นน้องอีกคนจะถามต่อ
"เจ๊เครียดอะไรอ่ะ"
สมายด์ หญิงสาวรุ่นน้องคนสนิทอีกคนหนึ่งในแก๊งค์สมาคมนินทาผัวถาม แก้มถอนหายใจพณุดอย่างเบื่อหน่าย
พักนี้ผัวเจ๊เป็นอะไรไม่รู้ ถามอะไรก็ไม่ตาม ไม่หือ ไม่อือ ไม่อะไรเลย วันๆทำหน้าเครียดราวกับสีผิวมันจะขาวขึ้น เนี่ย บรรยากาศอึมครึมมาสี่ห้าวันแล้ว เจ๊เครียดอ่ะแก เนี่ย ผัวเจ๊เครียดจนไม่มาเอาเจ๊หลายวันแล้ว เจ๊เครียด"
หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้วยถึงกับมองหน้ากัน คือ ที่เครียดเครียดที่ผัวไม่ทำการบ้านใช่ไหม แล้วอะไรอะไรจะพูดตรง18+บวกได้ขนาดนั้น เรื่องนี้เด็กอ่านเยอะนะเห้ย
บางที เจ๊ก็พูดตรงไป แค่บอกผัวไม่ทำการบ้านก็พอ
"เจ๊กะผัวงอนอะไรกันป่าว"สต๊อป หนึ่งในสมาคมนินทาผัวถาม
แก้มส่ายหน้ารัวๆ
"ม่ายยยยยยเลย ไม่ได้ทะเลาะไม่ได้งอนอะไร แต่อยู่ๆผัวเจ๊ก็ซึมขึ้นมาเฉยๆ โอ้ย เจ๊เครียดดดดดด"
"เครียดอีกแล้ว"แกรนด์พึมพำ
"เฮ้อ ผัวจ๋า มีปัญหาอะไรน่าจะปรึกษาเมีย โอ้ย เป็นอะไรมีอะไรน่าจะคุยกัน ทำไมเงียบไป โอ้ย เจ็เครียดดดดดดดดดดด"
และแก้มก็ระบายต่อไป รุ่นน้องสองสามคนได้แต่มองหน้ากันงงๆ
ประมาณเจ๊เครียดกะผัว แต่ทำไมคนรับเคราะห์นั่งหูชาต้องมาเป็นพวกเราด้วย บรรดาสาวสวยไม่เข้าใจ
บ้านของริท
"อ่ะ เห็ดจ๋า ถึงบ้านแล้วจ้ะ เดินดีๆนะจ้ะ"
"ก๊ะ อปป้า"
"เพิ่งมาถึงบ้านเหนื่อยๆ เห็นนอนพักผ่อนก่อนนะ แล้วตื่นมาค่อยกินข้าวกัน เดี๋ยวพี่จะทำกับข้าวรอให้"
"ก๊ะ อปป้า"
หลังจากที่พาเมียตัวเองไปพักผ่อนเสร็จ ริทก็ลงมาจากชั้นบนเพื่อที่จะทำกิจวัตรของตัวเองต่อ แต่ก่อนที่จะทำอะไรมากกว่านี้ เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นเสียก่อน ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนที่จะออกไปดูว่าใครมา
แล้วก็พบว่า ที่แท้ เพื่อนของเขานั่นเอง
"อ้าว ไอกัน นึกว่าใคร วันนี้มาหากูถึงบ้านเลยนะ ทุกทีจะนัดกันที่ร้านกาแฟ"
ริททักทายเพื่อนก่อน ก่อนที่กันจะพยักหน้า
"ก็ นิดหน่อย พักนี้เห็นเอ็งไม่ค่อยว่าง พาเมียไปโรงพยาบาลบ่อย"
"เออ ไหนๆก็มาแล้ว เข้าบ้านก่อนเถอะมึง มีอะไรคุยกันในบ้านไป"
"เออ"
กับรับคำ ก่อนที่จะเดินตามเพื่อนเข้ามา แล้วทั้งคู่ก็มานั่งที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆ โรงเลี้ยงไก่ของริท
กันมองไปรอบๆ
"นี่ ซื้อไก่กะเป็ดมาลงใหม่อีกหรอ เห็นว่าตอนนั้นหมาพี่โน่ทำพิษไปสองรอบแล้วนี่ ยังจะเลี้ยงเป็นไก่อีกหรอ"
ริทพยักหน้า
"เอ้า ก็กูเลี้ยงไก่เป็นไว้ขายไข่ไง นี่ว่าจะขยายโรงเพิ่ม กะว่าจะเริ่มส่งไข่ไปพื้นที่อื่นไม่แค่เฉพาะในอำเภอ แล้วนี่กะว่าจะทดลองทำไข่เค็มส่งออกด้วยเนี่ย อนาคตคงมหาศาล"
"เป็นทั้งครูแล้วยังเลี้ยงไก่ขายไข่ ไม่เหนื่อยแย่หรอวะ"
"ก็พอตัว สมัยนี้ค่าครองชีพแพงจะตายห่า โดยเฉพาะแค่ตอนนี้ เมียกูใกล้คลอดลูกแล้ว กูคงใช้เงินเยอะเลยช่วงนี้ โชคดีมุนสำรองพอมีอยู่บ้าง นี่ที่ขยายเพราะเอาไว้เลี้ยงลูกนี่แหล่ะ"
ริทว่า กันมองเพื่อนเงียบๆ
"มึง คงใช้เงินเยอะนะ"
"ใช่ แต่ก็ไม่เดือดร้อนหรอก พอมีที่จะไม่ต้องกูหนี้ยืมสินใคร อาจจะรัดตัวหน่อย แต่เพื่ออนาคตครอบครัว กูทำได้"
ริทว่ายิ้มๆ กันมองหน้าเพื่อนเงียบๆ ตอนแรกเขากะมาปรึกษาริทกับปัญหาของเขาที่เกิดขึ้น
แต่ดูจากสิ่งที่ริทพูด ดูท่าทางในตอนนี้เขาคงต้องพึ่งตัวเอง เพราะเพื่อนของเขาก็ต้องดูแลครอบครัวเช่นกัน คงไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพื่อนของเขามีภาระไม่ได้เบาเลย เขาคงรบกวนเพื่อนไม่ได้สินะ
กันนั่งคิดเงียบๆ ริทหันมาทางเพื่อนพอดีอย่างนึกอะไรได้
"เออ จริงสิ เห็นพี่โน่ว่าแว่วๆว่าพักนี้มึงดูเครียดๆไป มีอะไรรึเปล่าวะ"
กันมอง
"ไม่มีหรอก กูก็อยู่ในโหมดเครียดบ้างอะไรบ้างเรื่อยเปื่อย่ะไม่มีอะไรหรอก"
ริทพยักหน้า ก่อนที่จะพูดต่อ
"ถ้ามีอะไรก็ปรึกษากันก็ได้ เผื่อกูช่วยอะไรได้อาจจะไม่มาก ถ้าเครียดอะไรก็ปรึกษากันนะเว้ย"
ริทตบบ่า กันส่ายหน้า
"ไม่มีอะไร นี่กูแค่มาเยี่ยมเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก"
"หรอ เออ เดี๋ยวกูให้อาหารไก่ก่อน เดี๋ยวต้องทำกับข้าวอีก"
เมื่อได้ยินเพื่อนตัวเองพูดแบบนั้น กันเลยลุกขึ้น
"งั้น กูกลับบ้านก่อนนะ"
"เออ งั้นกูไปเลี้ยงไก่ก่อนนะเว้ย"
"เออ งั้นกูกลับเลยละกัน"
"เออ"
ริทเดินออกจากตรงนั้นไปโรงเลี้ยงไก่ทันที กันมองตาม
"บอกไป มึงคงช่วยไม่ได้หรอก เพราะมึงก็มีภาระเหมือนกัน กูคงเอาแต่ตัวเองไม่ได้ เฮ้อ ว่าแต่ ทำยังไงดีวะ"
กันเดินออกมาจากบ้านริท ใบหน้ากลุ้มใจคิดไม่ตกไม่รู้จะทำยังไงดี ได้แต่เดินเตร็ดเตร่ไร้เป้าหมายประมาณเดินคลายความกลุ้มใจ ปัญหาในหัวทำให้เขาคิดไม่ตก
"กว่าจะเก็บค่าเช่าได้ก็อีกนาน เงินที่มีอยู่ในตอนนี้ก็ไม่พอ ทำไงดีนะ"
กันได้แต่กุมขมับ พยายามาทางออกว่าจะทำยังไงต่อไป ด้วยความที่มัวแต่อยู่ในความคิดตนเองทำให้เดินเพลิน จนไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองเดินมาถึงไหน สุดท้ายมาสะดุ้ง เมื่อเขาเดินมาแถว
"เห้ย นี่เราเดินเพลินจนมาที่นี่เลยหรอ"
มองไปรอบๆตัวเอง แถวนี้มันป่าท้ายหมู่บ้านนี่หว่า กูเดินเพลินขนาดนั้นเลยหรอ
กันมองไปรอบๆ จะว่าไปป่าแถวนี้ไม่ค่อยมีใครมา ไม่สิ ไม่มาเลยเพราะแถวนี้มันรกมาก มีแต่ไม้เลื้อยไม้เถารกไปหมด แน่ล่ะ ใกล้บ่อน้ำเก่านี่
"เฮ้อ เดินมาถึงนี่เลยแฮะ นี่เราเครียดหนักไปมั้ง กลับดีกว่า"
กันคิดได้ดังนั้น เลยจะหมุนตัวกะจะเดินกลับ
"เอ้า สะดุดรากไม้อีก ห่าเอ้ยมึง"
กันสบถแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อแล้วเดินจากไป ไม่ได้สนใจสิ่งที่ตนเองเดินเตะสักนิด เพราะเท่าที่เห็น ก็มีแต่รากไม้ที่โผล่พ้นจะพื้นดินเท่านั้น ถึงจะเตะแรงไปก็เถอะ มันมีอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มกลับมาสนใจหรอก
ต่อให้รากไม้นั้น มันไปกระแทกกิ่งไม้เก่าที่ซ้อนทับกัน จะไปสะเทือนอะไรเก่าๆผุๆจนร้าวก็ตาม
แต่ไม่นานนัก ไอ้สิ่งที่ร้าวนั้น กลับปรากฎควันดำๆลอยออกมา
..........................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น