ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3
วิลัยคลับ พัทยา
"ชั้นบอกแกกี่ร้อยครั้งแล้วห้ะว่าห้ามหาเรื่องชะนีในคลับของชั้น แกรู้มั้ยว่าแกทำให้ชั้นเสียชื่ออับอายมาก"
"แหม มันไม่มีอะไรมากเสียหน่อย มีปากเสียงนิดหน่อยเองก็เหมือนตอนที่เจ๊ยังเคยชวนชั้นไปตบนางเบลล่านังมินนังกี้นังกิฟข้อหามาแย่งเฮียเวียร์อดีตผัวเจ๊นั่นแหละ"
"เหมือนกันตรงไหนยะ ตอนนั้นชั้นทำไปเพราะชั้นโดนแย่งผัว สโลแกนชั้นมีทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครแกจำไม่ได้หรือไง ชั้นทำไปเพราะมันไม่ถูกต้อง แกไม่เคยมีผัวแกไม่เข้าใจกะคำว่าชั้นก็รักของชั้นเข้าใจบ้างมั้ยหรอก(สงสัยเจ๊จะเป็นแฟนคลับนิวจิ๋ว) แต่แกชั้นรู้นะยะว่าแกปากพล่อยไปหาเรื่องเค้า"
"แต่ก็เรียกว่าหาเรื่องชาวบ้านเหมือนกัน น่าเจ๊ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา"
"ย่ะตอนนี้ไม่คราวหน้าคลับชั้นพัง"
"น่าเจ๊จ๋า อย่าเคืองเลยน้าอ้ะ กันนี่ขอโทษต่อไปจะพยายามเงียบๆ"
"ดี"
"ถ้าไม่จำเป็น"
ภาวินีหันขวับ
"นังกันนี่ นอกจากแกจะเป็นกะเทยนี่แกยังปากหมาไม่มีตกเลยนะ"
"มีตกก็เจ็บอ่ะสิเจ้"
"นังนี่ เฮ้อเอาเถอะ ชั้นเบื่อกับการด่าละเมื่อยปาก เอาล่ะจะไปซ้อมร้องเพลงก็ไปไป๊ ก่อนที่ชั้นจะเปลี่ยนใจด่าต่อ"
"เก็บเอาไว้ด่าผัวคนใหม่เจ๊เหอะ"
"เอ้ะ อีนี่ ชั้นจะด่าผัวชั้นทำไม ด่าแกคนเดียวปากชั้นก็จะย้วยหมดแล้ว ไปไป๊ เห็นหน้าแกแล้วปวดหัว"
"ไม่ด่าชั้นต่อหรอ"
"ไม่ด่าละ แต่จะเปลี่ยนเป็นตบแทน"
"ง่า อีเจ้แรง"นภัทรโอด
ภาวินีถลึงตาใส่
"ยัง ยังไม่ไปอีกนังแดดเดียว"
"ไปแล้วค่า"
นภัทรรีบวิ่งปรู๊ดออกจากห้องทำงานของภาวินีทันที ภาวินีกุมขมับก่อนที่จะนึกอะไรได้
นั่นคือ โทรหาผัว
"พี่ณเดชขา โนนี่คิดถึงพี่ณเดชจังเลยค่าคิดถึงพี่ณเดชจัง บลาๆๆๆๆ"
นภัทรที่ออกจากห้องไป ยังได้ยินแอบพึมพำินทาด้วยความหมั่นไส้
"แหม เราออกปุ๊บโทรหาผัวปั๊บ แถมผัวนี่ชื่อเดียวกะคู่จิ้นญาญ่าซะด้วยนะเจ๊โน่"
......
"ไงคะ เยินสมใจมั้ยคะเจ๊กันนี่ขา"
ตั้มมี่ถามหลังจากที่นภัทรออกมาสุมหัวกับบรรดาเกิร์ลกรุ๊ปทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นฮันนี่เรียกสั้นๆว่าเจ้ฮั่น หรือจะเป็นนางแกงส้มที่เปลี่ยนชื่อมากิ๊บเก๋ว่าแกงกี้ หรือจะเป็นนางกั่งกั๊ง หรือนางไอซ์ซี่ สตรีแท้อย่างนางมาตังและแอปเปิ้ล พร้อมใจกันมาสาระแนรอผลว่านภัทรจะโดนภาคิน เอ้ยๆไม่ใช่เจ๊ภาวินีด่าอะไรบ้าง
"นิดหน่อย ครั้งนี้ถือว่าเบา ด่าแค่นี้ชั้นไม่ยี่หระหรอกจ้ะ"นภัทรโอ้อวดด้วยความมั่นใจ
"แหม แกนี่ชอบหาเรื่องให้เจ้ด่าได้ทุกวัน เดี๋ยวเจ้แกไม่มีแรงกลับไปตรางให้ผัวนางหรอก"
"โอ้ย เจ้ฮั่น แกงกี้ว่านะกะเทยทึกอย่างเจ๊โน่อ่ะมีแรงครางให้ผัวตลอดมากกว่า แกงเกรงว่าผัวนางจะไม่มีแรงทำให้นางมากกว่าน่ะสิ ไม่งั้นผัวเก่านางที่ชื่อว่าเฮียเวียร์จะหนีกลับไปอยู่ขอนแก่นหรอ"
นภัทรหัวเราะ งานนี้สนุกล่ะ การนินทาเจ้านายของชอบ
"แต่ก็น่าแปลกนะแก เจ้แกยังคงหาผัวเป็นคนขอนแก่นเหมือนเดิมอ่ะ ถามจริงผู้ชายขอนแก่นมีดีอะไรหรอ"มาตังถาม
"ไม่รู้หรือจ้ะมาตัง ผู้ชายขอนแก่นส่วนใหญ่แก่นใหญ่ไง"
"ว้ายนังตั้มมี่แกแร้งมาก แต่กันนี่ชอบ"
"คริๆๆๆๆๆๆ กั่งกั๊งก็ชอบ แก่นใหญ่จริงเปล่ากั่งกั๊งอยากพิสูจน์"
"ไม่เอาน่ะกั่งกั๊ง เราเป็นกุลสตรีไม่ควรแรงนะค้า เราต้องเรียบร้อย"
"เรียบร้อยแล้วเมื่อไหร่จะหาผัวได้ล่ะ แกงกี้ไม่แอ๊บแบบแม่ชีหรอก เดี๋ยวนี้ผู้ชายดีๆเหลือน้อยเต็มทีนะจะบอกให้"
"จะไปอยากอะไรอ่ะแกงกี้ ก็กินกันเองกะเจ้ฮั่นสิ รสชาติแปลกไม่เหมือนชาวบ้านดีนะเออ"
"บ้าชั้นไม่ใช่เลสนะแก อ้พจริงสิ ริชชี่ยังไม่มาหรอ ฮันนี่เข้ามาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นริชชี่เลย"
นภัทรนึก
"จริงด้วย สงสัยนางจะยังมาไม่ถึงมั้ง"
"มีอะไรหรอ"
และแล้วบุคคลที่ทุกคนกำลังมองหาก็เอ่ยขึ้น นภัทรเดินปร๋อเข้าไปหาทันที
"ริชชี่ แกทำไมแกเพิ่งมา ไม่งั้นล่ะก็จะชวนนินทาเจ๊โน่หน่อย"
"พอดีแม่เพิ่งหลับไปน่ะว่าแต่นินทาเจ๊โน่เรื่องอะไรกัน แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวเราไปซ้อมร้องเพลงดีกว่า"
ตั้มมี่มองเรืองฤทธิ์ทำเอาคนโดนมอง งงๆแต่ไม่ได้สนใจอะไรเดินเข้าห้องแต่งตัว นภัทรมองตามด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะเดินตามเข้าไป
"ตั้มมี่ แกมองอะไรริชชี่อ่ะ"
แอปเปิ้ลถาม ตั้มมี่ส่ายหน้า
"เปล่าหรอกแค่สงสัยว่าริชชี่กะเทยแน่หรอ บอกตรงๆนะ ตั้มมี่ไม่ได้สัมผัสถึงพลังงานผู้หญิงในตัวริชชี่เลย"
"เค้าเรียบร้อยมั้งแก"แกงกี้ให้ความเห็น
"ไม่ใช่แก เรียบร้อยยังไงมันต้องให้พลังรู้สึกว่ามีความเป็นผู้หญิงจริงๆบ้าง แต่นี่ คำพูดกะท่าทางการแต่งตัว เหมือนพยายามเป็นกะเทย"
"ช่างเหอะแก ยังไงริชชี่ก็เพื่อนพวกเราอยู่ดี"
"ช่ายๆ"
"แม่เพ้ออีกแล้วหรอ ริชชี่"
นภัทรถาม หลังจากที่ตามเรืองฤทธิ์เข้ามา
"อืม แต่ตอนนี้แม่หลับไปแล้ว"
นภัทรนั่งข้างๆมือไม้กรีดกรายตามประสา
"แกโอเคนะ"
"ชั้นโอเคดี อาจจะเหนื่อยหน่อยที่ต้องสิ่งไปกับระหว่างโรงพยาบาลกะคลับ แต่สบายมากกันนี่ไม่ต้องห่วงเรานะ"
"เราเพื่อนกันนี่นา แกอ่ะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดชั้นจะไม่ห่วงได้ไง เธออ่ะไม่รังเกียจที่เราเป็นกะเทยด้วยซ้ำ"
"เราจะรังเกียจได้ไงในเมื่อเราก็กะเทยเหมือนกัน"
"ก่อนหน้านั้นเธอไม่ใช่กะเทยซักหน่อย ออกจะหล่อด้วยซ้ำสาวๆในโรงเรียนกรี๊ดพี่ริทๆทั้งนั้น"
เรืองฤทธิ์กัดฟันลุกพรวด
"ริทอะไรไร้สาระ ชั้นไม่รู้จัก กันนี่นี่เพ้อเจ้อนะอยู่ๆมาพูดถึงใครก็ไม่รู้ ไม่เอาล่ะ ชั้นไปซ้อมร้องเพลงดีกว่า"
เรืองฤทธิ์เดินออกไปทันที นภัทรได้แต่มองตาม
แกจะหลอกตัวเองเพื่อคนอื่นไปได้แค่ไหน ริชชี่
ตื้ดดดดดดด
เสียงโทรศัพท์ นภัทรคว้ามันมาดูก่อนที่จะรับสาย
"ฮัลโหล แคน มีอะไรหรอโทรหาพี่เนี่ยพี่กำลังจะไปซ้อมร้องเพลง"
นภัทรรอฟังคำตอบ แต่แล้วบางอย่างในสายทำเอานภัทรอึ้ง
"พ่อหรอ เอ่อ อืม งั้นชั้นจะกลับบ้านตอนนี้ละกัน"
นภัทรวางสายมือกำโทรศัพท์แน่น
"พ่อ"
...........
"เห้ย เนี่ยนะน้อง เครื่องยนต์ตรงนี้เริ่มไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ เครื่องมีกำลังผลิตช้าลงนะ แล้วนี่ ตรงนี้ดูเหมือนว่าสนิมมันเข้าไปอุดตรงช่องนั้น ปล่อยเอาไว้ไม่ได้นะแบบนี้ยังไงบอกช่างโรงงานมาดูด้วย"
"ครับคุณแก้ม"
"คุณแก้มครับ"
เสียงเรียกดังลั่นโรงงาน วิชญาณีหันไป
"มีอะไรโดม"
"คือหัวหน้าโรงงานจีเขาจะขอปรึกษาเรื่องลายใหม่นะครับ"
"ได้เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้ เออ เดี๋ยวคุณกำชับช่างซ่อมบำรุงอีกทีแล้วให้ส่งรายงานขึ้นไปด้วย"
"ได้ครับท่าน"
โรงงานจี
"ตอนนี้ดูเหมือนว่าลูกค้าทางสิงคโปร์จะชอบลายชุดMusic loverมาก ทางนั้นเลยสั่งของทางเราเพิ่มขึ้นเท่าตัว เห็นทีงานนี้เราคงต้องเพิ่มกำลังผลิตมากขึ้น"
วิชญาณีกอดอกเท้าคางครุ่นคิด
"เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวผมว่าเราใช้เครื่องจักรชุดเดิมผลิตไปก่อนแล้วเบิกงานผลิตบางส่วรไปอีกโรงงานที่ของไม่ค่อยมีสั่งมากนักอย่างโรงงานเอฟผลิตผ้าม่านส่งแอฟฟริกาโดยเฉพาะ ตอนนี้ลูกค้าทางนั้นขอชะลอการนำเข้า เราใช้โรงงานส่วนนั้นได้เลย แล้วยังไงเดือนหน้าจะมีการอนุมัติเครื่องจักรการผลิตเพิ่มอีกที"
ต่อมา
"ผมว่าบริเวณนี้น่าจะสร้างโรงงานไฟฟ้าเพิ่มอีกหน่ยเพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นนะ"
ต่อมา
"ผมว่างานส่วนแพคกิ้งนี่น่าจะมีมาตรการป้องกันการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและประหยัดขึ้น อย่างเช่นออกมาตรการให้พนักงานระวังการบรรจุภัณฑ์ที่เกิดการเสียเปล่าไม่ให้เสียเปล่ามากขึ้น อาจจะตั้งกฎอย่างเสียหนึ่งชิ้นให้มีการหักค่าแรง พนักงานเราจะได้รู้จักใช้วัสดุให้คุ้มค่า"
ต่อมา
"น้องๆ ระวังของตรงนี้หน่อย ระวังกล่องบรรจุภัณฑ์โดนน้ำล่ะ ของส่งต่างประเทศระดับเกรดเอจะเสียหายซักนิดไม่ได้นะ"
วิชญาณีไล่เดินสำรวจงานทั้งโรงงานซึ่งเป็นโรงงานผลิตส่งออกผลิตภัณฑ์ผ้าระดับแบรนด์เนม ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากผ้าไหมที่สั่งตรงมาจากเมืองจีน ทำไมราคาสินค้าที่นี่มีราคาแพงมากเน้นส่งออกต่างประเทศล้วนๆ
หลังจากวันนี้มาสำรวจเรียบร้อย
"คุณแก้มครับ ตอนนี้ได้เวลากลับสำนักงานใหญ่แล้วครับ ท่านประธานรออยู่ครับ"
"หรอ งั้นคุณไปเตรียมรถให้ผมได้เลย เดี๋ยวจะได้รายงานเฮียหน่อย"
"ครับ"
บริษัทGG Marketing จำกัด สำนักงานใหญ่กรุงเทพมหานคร
"วันนี้ผมไปสำรวจโรงงานที่นครปฐมมา เดี๋ยวรายงานผลตรวจการผมสั่งให้เลขาโดมจัดการ พรุ่งนี้ส่งถึงโต๊ะเฮีย"
"ไปตรวจการคราวนี้ไม่มีปัญหาใช่มั้ย"
"มีบ้าง อย่างจักรกลบางชุดเริ่มเสื่อมสภาพ ผมก็กำชับเรื่องการซ่อมบำรุงไป บางส่วนอาจจะต้องสั่งเครื่องจักรชุดใหม่มาเสริมกำลังผลิต ยิ่งตอนนี้ทางสิงคโปร์อเมริกาฝรั่งเศสบราซิลต้องการทางเราเพิ่มขึ้น เราจะต้องเพิ่มกำลังผลิตให้เพียงพอซึ่งถ้าลูกค้าสั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบนี้เห็นทีเราจำเป็นต้องสร้างโรงงานใหม่เพื่อตอบรับผลิตสินต้าที่สูงขึ้น แต่ทีนี้กว่าจะคืนทุนคงใช้เวลาหน่อย เพราะทุนการผลิตยุคปัจจุบันสูงกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าตัวยิ่งตอนนี้ของก็แพงขึ้นเรื่อย ยังดีบริษัทเราอยู่ได้ดีระดับนึงเนื่องจากลูกค้าไว้วางใจเครดิตบริษัทเรา หุ้นก็อยู่ตัว ส่วนปัญหาอย่างอื่นผมสั่งแผนสำรองส่งไปให้ผู้จัดการโรงงานเอาไปจัดการละ เดี๋ยวเดือนหน้าผมจะลงไปอีกที"
อาณัตพลปรบมือ
"ดีมากแก้ม พี่ดีใจนะเว้ยที่มีน้องสาวเก่งๆอย่างแก"
วิชญาณีขุ่น
"เฮีย เมื่อไหร่เฮียจะเลิกมองผมเป็นผู้หญิงซักที ทั้งที่ผมทำงานได้มากขนาดนี้ ผมเบื่อนะเฮีย เบื่อแม่ด้วย ผมบอกแล้วไงส่าผมไม่ใช่ผู้หญิง"
อาณัตพลถอนหายใจ
"แก้ม พี่เข้าใจนะเว้ยว่าเออแกแมน แกแมนจริง แต่แกปฏิเสธได้ไหมว่าทุกวันนี้แกยังใช้คำว่านางสาวข้างหน้า"
"เฮียอาร์"
"พี่น่ะไม่เท่าไหร่ ยังไงต่อให้นายจะเป็นน้องชายหรือน้องสาวพี่รับได้หมด ที่พี่นับถือตัวแกเพราะความคิดอ่านและการทำงานบวกบุคลิคน่าเชื่อถือในตัวแก แต่เรื่องที่แกบอกแมนไม่แมนมันไม่เกี่ยวกัน แต่สำหรับแม่ ต่อให้แกแมนยังไงสายตาแม่แกก็คือลูกสาวอยู่ดี"
วิชญาณีลุกขึ้นอย่างเคืองขุ่น
"ทำไมวะเฮีย แค่ผมมีร่างกายเป็นผู้หญิงแต่ใจผมไม่ใข่ผู้หญิง ความสามารถผมไม่น้อยหน้าผู้ชายคนไหนแม้แต่เฮีย แต่ทำไมทั้งแม่และเฮียยังมองผมเป็นผู้หญิงอยู่ดีวะ"
"แก้ม แกต้องเข้าใจตรงนี้ คือภายนอกความจริงร่างกายแก แกยังเป็นผู้หญิงทุกอย่าง รูปร่าง หน้าตา คำนำหน้าแกก็ยังผู้หญิงอยู่ดี พี่ว่าแกทำใจเรื่องนี้เหอะ ยังไงแกก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่วันยันค่ำ"
"เฮีย ว้อย หงุดหงิดยิ่งคุยยิ่งหงุดหงิด ผมไม่คุยกับเฮียละ ไปละ อ้อ รายงานบัญชีประจำปีที่เฮียขอนะ ผมสั่งเลขาโดมเอาไว้ละ ตอนเย็นคงได้รับนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมไปคลายเครียดก่อนนะเฮีย"
วิชญาณีออกจากห้องอาณัตพลไปอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดี อาณัตพลหัวเราะ
"ยังไงแกก็ผู้หญิงอยู่ดีอ่ะวะ"
...
"กูไม่เข้าใจแม่กะเฮียเลยจริงๆว่ะไอเจี๊ยบ ไอนท ไอดิว ไอพุฒ แม่ง ทำไมวะ ถึงกูจะมีร่างกายเป็นผู้หญิงแต่เรื่องตัวตน จิตใจการทำงาน ไลฟ์สไตล์ทุกอย่างกูก็ผู้ชาย แต่ทำไมทั้งแม่และเฮียยังมองกูเป็นผู้หญิงวะ"
วิชญาณีระบายอารมณ์กะเพื่อนทอมและเพื่อนผู้ชายอย่างคนอารมณ์เสีย
"ก็มึงยังใช้คำว่านางสาวอยู่ มันก็ไม่แปลกนะเว้ย มึงจะบ่นอะไรนักหนาวะ มึงดูกูกะไอเจี๊ยบดิ๊ กูเองใช่ว่าจะต่างจากมึงถึงกูจะแมนแบบมึงเหมือนไอดิวหรือไอพุฒ แต่คำนำหน้ากู็ยังนางสาว แต่กูก็ไม่ซีเรียส นางสาวก็นางสาวสนใจอะไร ส่วนแม่กะเฮียมึงห้ามเขาไม่ได้หรอก"
นทว่า ลลนาสมทบ
"ใช่ อย่าบ่นเลยว่ะไอแก้ม กูยังไม่เดือดร้อนแบบมึงนะเว้ย"
"แต่กูเซ็ง ที่เชี่ยกว่านั้นคือแม่กูพยายามจับคู่ให้ไอสนอะไรนั่นน่ะ ทั้งที่มันเจ้าชู้แล้วเป็นเสือไบด้วย กูแหกปากบอกแม่ไปกี่ร้อยรอบแม่กูไม่เคยฟังเลยว่ะ เห้ย บ๋อย เอาวิสกี้ที่นึงดิ๊ แรงๆเข้มๆนะ"
"ครับเพ่"
พุฒถอนหายใจ
"แก้ม อย่าคิดมากเลย เชื่อเราเหอะ สักวันแม่แกก็เข้าใย"
"เข้าใจ เข้าใจอะไร หาผัวโดยไม่ถามความสมัครใจเรียกเข้าใจหรอ เหอะ ถ้าไม่เกรงใจพ่อที่ขอให้กูสาบานก่อนตายห้ามผ่าตัดแปลงเพศนะแม่ง ป่านนี้นี่กูนี่มาริโอ้ หมากปริญ เคนธีเดช ติ๊กเจษตกงานแน่"
"ครับพ่อรูปหล่อ น่ายังไงก็ทำไม่ได้ ทำใจเหอะวะ"
"เออ กูจะพยายามนะ"
ตื้ดดดดดด
วิชญาณีล้วงกระเป๋าออกมาดู
"เหอะ ตายยากจริงแม่กู ฮัลโหลแม่ อะไร อะไรแม่ผมยอกกี่ครั้งว่าไม่เอา ผมไม่แต่งงานกับไอ้สนนั่นเด็ดขาด อะไรนะ พรุ่งนี้ต้องไปดูตัว แม่ผมไม่เอาไม่เอาเข้าใจมั้ยแม่ แม่ เดี๋ยวๆ"
สายเงียบไปแล้ว วิชญาณีหงุดหงิดถึงกับปาฏทรศัพท์ทิ้งทันที
เพล้ง
"เฮ้ย ไอแก้ม นั่นไอโฟนรุ่นใหม่นะเว้ย"
อรุณพงศ์ท้วง แต่วิชญาณีหาสนไม่
"ช่างแม่ง เครื่องไม่กี่ตังค์กูซื้อใหม่ได้ เชี่ยเซ็ง เฮ้ยบ๋อยพี่ขอชุดใหญ่ ไม่เมาไม่กลับบ้าน"
"ไอแก้ม"
"ไม่ต้องห่วงว่ากูจะเมา กูแดกยกโหลกูเดินตรงเนียบ เฮ้ยไวๆไม่งั้นพี่ไปร้านอื่น"
"ครับ"
เชี่ย วิชญาณีอยากบ้า
..............................
มาต่อแล้วครับ เป็นกำลังใจเค้าด้วยครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น