คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : I wanna forget it at all Part 1
I hear the sound of death
“ซองมิน วันนี้กลับบ้านช้าหน่อยนะ ช่วยพี่จัดการเอกสารหน่อย” เสียงนุ่มดังขึ้นในช่วงเวลาเลิกงานสี่โมงครึ่ง เจ้าของชื่อที่กำลังจัดการกับแฟ้มเอกสารหมุนเก้าอี้ที่นั่งอยู่หันมาหาคนที่เอ่ยเรียกตน
“ครับ ได้ครับ แล้วพี่ฮีชอลจะให้ผมช่วยตรงไหนบ้างล่ะ” ตอบรับความช่วยเหลือจากพี่ชายแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อรับงานที่จะได้รับมอบหมาย
ฮีชอลจัดแจงหยิบแฟ้มเอกสารที่จะต้องใช้มาจากโต๊ะของตนที่อยู่ชิดผนังกำแพงของตนที่ยังค้างงานอยู่ มาให้ซองมินอย่างเร่งรีบ กำลังจะเดินมาที่โต๊ะของน้องชายจังหวะเดียวกันเอกสารบางแผ่นร่วงลงพื้นปลิวไปด้านหลัง ร่างบางหันกลับไปก้มหยิบขึ้นมาอย่างทุลักทุเลเพราะแฟ้มเอกสารเล่มหนาที่หอบไว้อยู่ในมือ
ยิ่งรีบก็เหมือนจะยิ่งช้าเพราะเก็บในนี้ ก็ร่วงใบนั้น ซองมินที่เห็นอย่างนั้นก็จะเดินเข้ามาจะช่วย แต่ร่างบางเก็บเสร็จเสียก่อน เลยไม่ได้เดินเข้าไปได้แต่รอรับงานอยู่ที่เดิม
“ก็...อาจจะเยอะหน่อยนะ ซองมินก็พิมพ์สรุปการประชุมของเดือนนี้ รายชื่อลูกค้าของเดือนนี้ซึ่งก็เยอะหน่อย เพราะช่วงนี้มีผู้ว่าจ้างเยอะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดี และ อ้อ... อุปกรณ์ที่ขาดไปแล้วต้องสั่งซื้อใหม่ อืมมม... เท่านี้แหละ ส่วนที่เหลือ... พี่จัดการเอง พี่ไปแปปเดียวเดี๋ยวก็กลับ ถ้ายังไม่เสร็จพี่ทำต่อเอง” ฮีชอลบอกในส่วนงานที่จะให้ซองมินช่วยแล้วก้มมองดูนาฬิกาเพื่อดูว่าเขาสายมากี่นาทีแล้ว และต้องรีบไปให้เร็วที่สุด
“ตาย! พี่สายมากแล้ว วันนี้เด็กๆมีแสดงละครซะด้วย พี่ไปก่อนนะซองมิน เดี๋ยวพี่ส่งเด็กๆที่บ้านแล้วจะรีบกลับมานะ” ฮีชอลจัดแจงเอกสารที่ต้องใช้ให้ซองมินแล้ววิ่งไปเก็บแฟ้มที่ห้องทำงานของตนอย่างเร่งรีบแข่งกับเวลาที่ดูเหมือนจะเดินเร็วเสียเหลือเกินในตอนนี้
“ผมฝากบอก ยองอุน กับ จงอุน ด้วยนะครับ ว่า สู้ๆ” ซองมินบอกฮีชอลพร้อมกับทำท่ากำมือแล้วชูขึ้นเป็นเครื่องหมายของการต่อสู้ที่ให้กำลังใจ พร้อมส่งยิ้มตาหยี๋ไปให้พี่ชายอย่างน่าเอ็นดู
“อือ แล้วจะบอกให้นะ ไปแล้วๆ” ฮีชอลเก็บข้าวของอย่างรีบร้อนและเมื่อเดินก้าวพ้นประตูไปได้สักครู่ก็ต้องรีบร้อนกลับเข้ามาหยิบโทรศัพท์ไป และโบกมือลาซองมินอย่างรีบๆ
“ฮ่ะๆๆ เกือบลืมซะแล้วนะ พี่ฮีชอล ^^” ซองมินละจากแฟ้มเอกสารเล่มหนาหันมายิ้มให้กับพี่ชายของตน แล้วหันกลับมาจัดการกับเอกสารที่กองเป็นภูเขาตรงหน้าต่อ
“นี่น่ะหรองานที่พี่ฮีชอลต้องรับผิดชอบ ทำไมเยอะขนาดนี้นะ หน้าที่บางส่วนมันเป็นของเรขาฯ อี ไม่ใช่หรือไง พี่เป็นเจ้านายนะ ทำงานหนักกว่าลูกน้องแบบนี้กะจะไม่แบ่งเงินเดือนหรือไงนะ ^^” ร่างเล็กของซองมินบ่นไปยิ้มไปอ่านเอกสารไปอย่างอารมณ์ดี
“ แล้วเราจะมามัวคิดอะไรอยู่ได้นะเรา เฮ้อออ”
เมื่อเริ่มคิดได้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งคิดเรื่องอื่น ทำงานให้เสร็จเร็วๆจะดีที่สุด จากนั้นก็รีบนำเอกสารต่างๆไปนั่งอ่านหน้าเจ้าเครื่องสมองกลทันที นิ้วเล็กคลิ๊กเมาส์เปิดโปรแกรมเวิสเพื่อจะพิมพ์งานลงไปและเริ่มดำเนินการแกะอักขระที่คล้ายลายแทงหาสมบัติอย่างมุ่งมัน ราวกับว่ามันอาจจะทำให้เขาเจอสมบัติล้ำค่าที่ถูกกักเก็บไว้ในกระดาษสีขาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
มือเล็กวางประจำการอยู่ที่แป้นคีย์บอร์ด เอียงคออ่านข้อมูลในกระดาษบนโต๊ะด้านขวามือพลางพิมพ์ไปด้วยอย่างคล่องแคล่วและตั้งใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ” ซองมินเอ่ยรับ แล้วละจากงานหันหลังกลับไปมองผู้ที่เดินเข้ามาในห้องทำงาน
กริ๊งงง กริ๊งงง กริ๊งงง .....
“กลับช้านะนายน่ะ” ฮยอกแจเอ่ยทักเพื่อนสนิท ซองมินก็ยิ้มให้ทำนองว่า ‘งานฉันมันเยอะกว่านายน่ะสิไก่แจ’
“คุณซองมินครับ ผมเอาเอกสารข้อมูลลูกค้ามาเพิ่มให้ตามคำสั่งของประธานครับ พอดีว่าคุณ คิบอม เพิ่งโทรมายืนยัน ผมก็เลยยังไม่ได้ใส่ชื่อลงในเอกสารที่ส่งไปเมื่อเช้าครับ” เรขาฯ อี ทงเฮพูดกับซองมินอย่างสุภาพแต่ดูเหมือนหุ่นยนต์ไร้ชีวิตมากกว่า ฮยอกแจที่เดินมาด้วยกันมองอย่างเอือมระอา หุ่นยนต์รุ่นปลาบนบกนี่น่าขนลุกจริงๆ
ซองมินเดินมายังโต๊ะวางเอกสารขนาดใหญ่ที่เยื้องไปริมกำแพงนิดหน่อย ทงเฮยื่นแผ่นกระดาษให้ซองมิน
“ขอบคุณครับ” ซองมินรับมาแล้วก็อ่านข้อมูลในกระดาษเล็กน้อย
“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”
“นั่นสิซองมิน ขอบคุณทำไม หุ่นยนต์เขาทำตามคำสั่งอยู่แล้ว.... โอ๊ยยยยย!” ฮยอกแจร้องลั่นเมื่อแฟ้มเอกสารปึกหนาลอยมากระทบศีรษะอย่างจัง ซองมินก็เอาแต่หัวเราะ ส่วนหุ่นยนต์ที่ประทุสร้ายเขาก็มองด้วยสายตานิ่งตามเสต็บ
“ผมขอตัวกลับแล้วนะครับคุณซองมิน” ทงเฮโค้งตัวให้ซองมินเล็กน้อย “แล้วพรุ่งนี้ผมจะเอา Soup chicken death under water มาฝากเป็นมื้อกลางวันนะครับ” ซองมินยิ้มอย่างงงๆ แต่ฮยอกแจถึงกับผงะไป ทงเฮหันมาจ้องเขา ปากนั้นแสยะยิ้มอย่างน่าสยอง ทงเฮเดินผ่านฮยอกแจไปได้ก้าวหนึ่งก็วาดแขนลากคอเสื้อออกไปจากห้องทำงานทันทีแล้วก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของไก่ใกล้ตาย
ซองมินส่ายหัวน้อยๆ นำแผ่นกระดาษมายังหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ วางรวมกับแฟ้มเอกสารข้อมูลการลูกค้าแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาถอดรหัสตัวหนังสือสรุปการประชุมต่อ แล้วเรื่องของฮยอกแจกับเรขาฯทงเฮก็เข้ามาในหัวอีกครั้ง ไม่รู้ว่าสองคนนั้นกลับบ้านไปฮยอกแจจะโดนคุณทงเฮจับไปต้มซุปจริงๆหรือเปล่า
. . . . . . .F.O.R.G.E.T. . . . . . . .
เวลาที่ผ่านไปเกือบชั่วโมงทำให้ตอนนี้พนักงานทุกคนในออฟฟิตต้องกลับกันไปจนหมดแล้ว บนท้องฟ้ามืดลงแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้การทำงานของร่างเล็กนั้นล่าช้าแต่อย่างใด และยังคงตั้งใจทำอย่างไม่คิดจะพักเพราะทุกนาทีนั้นสำคัญ
กริ๊งงง กริ๊งงง กริ๊งงง .....
เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ที่ประตูทางเข้าส่งเสียงดังขึ้นมา เป็นสัญญาณของผู้ที่เข้ามายังออฟฟิตแห่งนี้ในยามเย็นและในห้องทำงานนี้ ประตูถูกเปิดออกโดยชายผู้มาเยือนซองมินถึงที่
ด้วยที่ตั้งของโต๊ะทำงานที่หันหลังให้กับประตูทางเข้าทำให้ซองมินไม่รู้ว่าผู้มาเยือนที่แท้จริงนั้นเป็นใครกันแน่
“พี่ฮีชอลกลับมาแล้วหรอครับ ผมยังทำไม่เสร็จเลย พี่มาเหนื่อยๆนั่งพักก่อนเถอะ” ซองมินยังคงจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าอย่างแน่วแน่จนไม่ทันได้สังเกตุว่าบุคคลผู้มาเยือนห้องนี้เป็นใครแต่ก็ตีความไปเองว่าเป็นพี่ชายของตน เพราะนี่ก็เย็นมากแล้วคงไม่มีใครอื่นเข้ามาหาเขานอกจากพี่ชาย
ผู้มาเยือนร่างสูงโปร่งถอดเสื้อโค้ตตัวหนาออกวางพาดไว้กับพนักพิงโซฟาสีแดงสด การแต่งตัวที่ดูดีของเขาบ่งบอกถึงฐานะความเป็นอยู่ที่ดีและสมบูรณ์แบบ ทรงผมฟูหน่อยๆซอยละต้นคอ สร้อยคอสายสีดำรัดรอบคอ เสื้อเชิ้ตสีขาวชายโผล่นอกกางเองรัดรูปแฟร์ชั่นสีควันบุหรี่และรองเท้าคอนเวิร์สหุ้มข้อเท้าสีเขียวอ่อน แสดงให้เห็นได้ถึงฐานะได้อย่างดี
ร่างโปร่งนั่งลงไขว่ห้างบนโซฟานุ่มที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ติดกับประตูทางเข้า และตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของร่างเล็ก ซึ่งเป็นจุดนั่งชมคนขยันได้ดีเยี่ยม กวาดสายตาคมไปรอบๆห้องนี้อย่างพินิจและนึกย้อนความหลัง เขาหันไปสะดุดตากับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ริมห้องติดกับผนังด้านขวา อ่านป้ายชื่อที่ตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานอย่างนึกขำอยู่ในใจ
‘ประธาน คิม ฮีชอล’
.......หึ เป็นห่วงกันจริงๆเลยนะ สองพี่น้อง........
ผู้มาเยือนกำลังยิ้มเยาะให้กับความรักที่อยากจะปกป้องกันและกันของพี่น้องคู่นี้เสียยกใหญ่ แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากเรียวนั่น นอกจากรอยยิ้มที่ดูแคลน
“...............”
“ยองอุน กับ จงอุน แสดงละครเป็นยังไงบ้างครับ คงไม่ได้ทำอะไรเปิ่นๆออกไปหรอกใช่มั้ยครับ ฮ่ะๆๆๆ ^^” ซองมินชวนผู้มาเยือนคุยอย่างไม่นึกสงสัยข้องใจกับการนิ่งเงียบที่ผิดแปลกของอีกฝ่าย และยังคงคัดลอกตัวหนังสือจากหน้ากระดาษลงสู่หน้าจอสมองกลไปเรื่อยๆ
“...............”
“พี่ฮีชอลครับ เป็นอะ....”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าลูกของฉันเป็นยังไงบ้าง .......ก็เลิกกันมาปีนึงแล้วนี่” เสียงทุ้มน่ากลัวสำหรับซองมินดังเข้ามาในโสทประสาทรับรู้
“รักกันมากขนาดย้ายข้าวของมานั่งทำงานด้วยกันเลยนะ....ซองมิน”
ร่างเล็กตัวแข็งทื่อราวก้อนหิน เมื่อเสียงนั้นหยุดลง ดวงตาสั่นระริกเพราะความกลัวจากเรื่องราวในอดีต อดีตที่มีแต่ความเลวร้าย เขากำลังกลัวเจ้าของเสียงนั้น เสียงจากคนที่เขาไม่สามารถลืมได้ไปตลอดชีวิต!
. . . . . . .F.O.R.G.E.T. . . . . . . .
ไรท์เตอร์คิดพล็อตมันมาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนได้แล้ว แต่ยังไม่เคยได้ทำจริงๆซะที
ติชม คอมเม้นให้ไรท์เตอร์หน่อยนะคะ จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง ^^
ความคิดเห็น