ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Bleach ] หัวใจที่ถูกแช่แข็งของเจ้า ข้าจะละลายมันเอง..

    ลำดับตอนที่ #5 : Charpter IV : Villain Appear

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 61


    ชายหน้ากาก ซึ่งตอนนี้ถูกล่วงรู้ตัวตนในนาม หัวหน้าหน่วยที่5 ไอเซ็น โซสึเกะ มองผู้ที่มาเยือนใหม่อย่างคาดไม่ถึง ราวกับเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดเอาไว้ ก่อนตนจะถอดหน้ากากออกเพราะยังไงมันก็ไม่มีความหมายเมื่อได้ล่วงรู้ถึงตัวตนของตนแล้ว

    "คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นเจ้า ยามาโมโตะ โซระ ทั้งที่น่าจะโง่งมปล่อยให้น้องกลั่นแกล้งอยู่แท้ๆ.."

    ใบหน้าคมภายใต้หน้ากากถูกเผยออกมาซึ่งก็เป็นไปตามที่โซระกล่าว คนๆนี้คือไปเซ็น โซสึเกะ ชายผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่ดี และมีนิสัยเรียบๆที่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา

    อุคิทาเกะที่ฟังอยู่ด้วยนั้นถึงกับชะงักไปเล็กน้อย กลั่นแกล้งงั้นหรอ ทำไมเขาถึงไม่รู้เลยล่ะ

    "โอ้โห นี่แกรู้ถึงนิสัยจริงๆของยัยนั่นด้วยงั้นหรอ แสดงว่ายัยนั่นก็มีส่วนร่วมเรื่องคดีนี้ด้วยงั้นสินะ"

    ถึงไอเซ็นจะไม่ตอบคำถามเธอ แต่เธอก็พอจะเดาออก ใบหน้าที่แสนใสซื่อเหมือนจะไร้พิษภัยของยัยนั่น แท้จริงภายใต้หน้ากากนั้นเต็มไปด้วยยาพิษที่น่ากลัว

    "โซระ อึก..หนีไปซะ นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เจ้าจะชนะได้"

    อุคิทาเกะฝืนยันตัวลุกขึ้นมาพร้อมดาบคู่ของตน

    "ดูสังขารตัวเองด้วยค่ะ บาดเจ็บขนาดนั้นยังมีแรงมาเตือนคนอื่นเขาอีก"

    ถึงจะเป็นถ้อยคำที่เย็นชา แต่มันก็แฝงไปด้วบความห่วงใยจากใจของเธอ เพราะคนที่ทำให้เธอร้อนใจที่สุดจนมาถึงที่นี่ได้ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเขา

    "แหมๆ เป็นห่วงกันจริงนะคะ พี่จูชิโร่ ละก็พี่สาวที่แสนน่ารักของมายุมิ~"

    ก่อนจะปรากฎผู้มาเยือนใหม่ที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆไอเซ็นซึ่งก็เป็นที่คุ้นเคยกันดีกว่าใครๆอยู่แล้ว ยามาโมโตะ มายุมิ น้องสาวของโซระนั่นเอง แต่สิ่งที่เธอเห็นมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ รู้อยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้

    "มายุมิจัง.."

    อุคิทาเกะแถบไม่เชื่อสายตาของตนเองกับสิ่งที่เห็น หญิงสาวที่เขาคิดว่าไร้เดียงสาและใสซื่อที่สุด บัดนี้กำลังแสยะยิ้มร้ายๆเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าออกมาจากใบหน้าใสนั้นได้เลย

    "ตกใจหรอคะพี่จูชิโร่~ มายุมิก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกน้า ก็พี่จูชิโร่น่ะ ไม่เคยมองข้าเลยซักครั้งนี่น่าา~"

    มายุมิเอ่ยขึ้นเสียงใสๆพร้อมกับแสร้งทำสีหน้าซื่อๆ

    "วันๆพี่จูชิโร่เอาแต่ถามไถ่เรื่องพี่โซระทั้งวันเลย คิดว่ามายุมิจะทนไหวอย่างนั้นหรอคะ มันน่าเบื่อมากๆเลยรู้มั้ย ทั้งๆมายุมิน่ารักกว่ายัยพี่โซระนั่นแท้ๆแต่ทำไม..แกถึงไม่เคยหันมามองข้าบ้างเลย อุคิทาเกะ.."

    ประโยคสุดท้ายของมายุมิเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบเย็นผิดกับทุกครั้งที่เคยได้ยิน ซึ่งสำหรับโซระแล้วเธอชินกับมันไปตั้งนานแล้วล่ะ เพียงแต่ไม่มีใครเคยเห็นธาตุแท้ของตุ๊กตาตัวร้ายอย่างยัยนี่เท่านั้น

    "นี่แสดงว่าทั้งหมด มันคือการแสดงให้โซระกลายเป็นตัวร้ายต่อหน้าทุกคนสินะมายุมิจัง.."

    เสียงทุ้มเอ่ยเรียบนิ่ง ราวกับกำลังโกรธจนไฟลุกอยู่ด้านใน เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขาได้มองโซระผิดมาตลอดและทำร้ายจิตใจเธอไปในทางอ้อม เพียงเพราะหลงกลภาพหลอกตาที่มาจากหน้ากากของสาวน้อยผู้ใสซื่อ ซึ่งมันทำร้ายจิตใจของคนที่เขา..รักขนาดไหนกัน ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมโซระถึงเกลียดตนได้มากขนาดนี้

    "ฮ่าๆๆ! ดูสีหน้าพี่จูชิโร่สิ เป็นสีหน้าที่ดีมากเลยนะคะ แค้นข้างั้นหรอ รู้สึกยังไงกับการที่พึ่งรู้ว่าตัวเองทำร้ายยัยนั่นมากที่สุดล่ะ เจ็บมากมั้ยพี่จูชิโร่~ ^ ^"

    มายุมิยั่วโมโหอุคิทาเกะด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ยังเสแสร้งใส่ความใสซื่อ

    "ฮารุซาเมะ เผามัน ข้าชักเริ่มจะรำคาญแล้ว.."

    หญิงสาวที่ทนเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่กำลังเจ็บปวดขนาดนั้นไม่ไหว ซึ่งมันทำให้ตนโมโหแทนไม่ใช่น้อย จึงเอ่ยสั่งอีกาเพลิงบนไหล่ตน

    "จงพุ่งสังหาร ชินโซ"

    "..!?"

    'ควับ!'

    'เคร้ง!'

    แต่ยังไม่ทันที่อีกาจะบินออกจาไหล่ไป ก็ต้องตั้งรับคมดาบใหม่จากใครบางคนที่มาจากด้านหลังพรางเบี่ยงทิศทางคมดาบที่ยาวนั่นไปด้านข้างแล้วถอยห่างออกมาทันที

    "แกก็เอาด้วยหรอ หัวหน้าอิชิมารุ งิน"

    โซระเริ่มหัวเสียขึ้นเมื่อกบทมันเกินกว่าที่คาด ถึงตนจะไม่ค่อยชอบหน้าหัวหน้าหน่วยทีา3 อิชิมารุ งิน ซักเท่าไหร่แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นกบท

    "ข้าคิดว่าเจ้าน่าสนใจกะจะหลอกดึงมาเป็นพวกแท้ๆ สายไปหรอเนี่ย.."

    งินเอ่ยด้วยรอยยิ้มตาปิดที่แฝงไปด้วยความมุ่งร้ายอย่างคาดไม่ถึง

    ก่อนอุคิทาเกะจะรู้สึกถึงจิตสังหารของผู้ที่มาเยือนใหม่อีกคน ซึ่งมุ่งเป้าไปทีตนและโซระ

    "โซระระวัง!"

    "..!?"

    "จงส่งเสียง ซึซึมุชิ.."

    'วี๊ดดด!!'

    "อึก..เสียงมัน"

    โซระปิดหูตัวเองพรางเข่าอ่อนลงด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับโลหิตที่ไหลออกมาจากใบหู แต่ก็ยังพยายามคุมสติของตนไม่ให้สลบไป

    "โซระ!"

    อุคิทาเกะพุ่งเข้าไปหาโซระและย่อตัวลงไปโอบร่างเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแน่นเพื่อกลบเสียงที่ดังทำลายแก้วหูของเธอ

    "โซระไม่เป็นไรนะ อดทนไว้ก่อน"

    "อึก..ปวดหัว"

    เสียงทุ้มกระซิบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนๆเพื่อช่วยผ่อนครายและไม่ให้เธอเกร็ง

    "เจ้า โทเซ็น คาซาเมะ.."

    และก็ชายผู้เป็นกบทอีกคน ที่ปรากฎตัวพร้อมกับ

    "อา~ ในที่สุดก็ครบแล้ว"

    มายุมิว่าพรางแสยะยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะมองภาพที่อุคิทาเกะโอบกอดผู้เป็นพี่สาวของเธอจนทำให้เกิดอารมณ์โทสะขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

    "ปกป้องกันดีนัก ก็ตายกันซะพวกแก!"

    'ตึก ตึกๆๆ!'

    และในขณะนั้นเองกำลังเสริมที่โซระให้ไรตะไปเรียกก็กำลังเข้ามาที่นี่

    "แย่ๆ ดูเหมือนจะฆ่าไม่ทันซะแล้วนะครับ มายุมิจัง"

    "หุบปากเจ้างูพิษ"

    งินหันไปเย้ยหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่เดาอารมณ์ไม่ออก ก่อนเธอจะหันไปมองค้อนกับเจ้าตัวอย่างโมโห

    "พอๆ ไม่ใช่เวลาที่พวกเจ้าจะมาเถียงกัน ได้แล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปที่ฐานทัพแล้ว"

    ว่าจบ มิติทางผ่านที่เรียกว่า อูเอโกมุนโด้ก็เปิดออกพร้อมกับเหล่าฮอลโล่ที่ออกมาต้อนรับ..

    "นั่นมันอะไรน่ะ.."

    ซุยฟง และคนอื่นๆที่มาถึงต่างตกใจกับภาพที่เห็น พรางครุ่นคิดประมวลผล ว่าเจ้าพวกนั้นกำลังก่อกบทเป็นแน่ถึงได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกฮอลโล่ได้แบบนั้น

    แสงสีเหลืองส่องลงมาจากห้วงมิติไปยังพวกที่กบททั้ง4 พวกนั้นค่อยๆลอยตัวขึ้นไปตามลำแสงนั้น

    ภาพสุดท้ายที่ได้เห็นคือไอเซ็นถอดและหักแว่นของตนออกพรางมองลงมาจากที่ลอยอยู่กับยมทูตที่มาใหม่และเก่าด้วยสายตาเหยียดๆ ราวกับตนเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า

    "ข้าจะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด และจะต้องเหนือกว่าฮอลโล่และยมทูตอย่างพวกเจ้า จำไว้ให้ดี.."

    และนี่ก็เป็นประโยคสุดท้ายก่อนเขาและพวกของเขาจะหายไปยังมิตินั้น..

    "ไม่ไหวๆ..พวกเจ้าไม่เป็นไรนะอุคิทาเกะ.."

    เคียวราคุที่เป็นหนึ่งในกำลังที่มาช่วยเขาเดินเข้ามาถามไถ่อย่างกังวล โดยเฉพาะผู้ที่สลบเมือบอยู่ในอ้อมอกของอุคิทาเกะ

    "อ่า มาทันเวลาพอดีเลย เคียวราคุ..อึก"

    แต่ถึงเจ้าตัวจะกล่าวเช่นนั้น บาดแผลที่ได้จากไอเซ็นก็ยังสาหัสอยู่ไม่น้อย

    "เฮ้อ มันทันเวลาตรงไหนล่ะเนี่ย ไม่ไหวๆ เหมือนข้าจะมาสายนะ.."

    เคียวราคุสังเกตเห็นบาดแผลอีกคนถึงกับกุมขมับอย่างรู้สึกผิดในใจ ถ้าเขาเอะใจมากกว่านี้ล่ะก็

    "เอาน่าๆ ยังไงก็รับตัวโซระไปก่อนเถอะ"

    อุคิทาเกะผละร่างบางที่อ้อมอกออกแล้วส่งให้เคียวราคุรับร่างเธอไปต่อ เพราะตอนนี้โลหิตจากบาดแผลของเขามันเปื้อนที่กิโมโนของเธอไปแล้ว..

    เคียวราคุรับร่างบางอุ้มขึ้นมาในอ้อมแขน จากนั้นยมทูตกำลังเสริมก็ทยอยเข้ามาให้ความช่วยเหลือ


    หลังจากนั้นทางโซลโซไซตี้จึงเริ่มการประชุมขึ้นจากเหตุการณ์ขับขันที่ผ่านมา

    ณ ห้องประชุมใหญ่

    ชายชราร่างสูงน่าเกรงขรามยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าหัวหน้าแห่งสิบสามหน่วยพิทักษ์ จะขาดไปก็แต่อุคิทาเกะที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ อุโนะฮานะ เร็ทซึ หัวหน้าหน่วยแพทย์ของโซลโซไซตี้หน่วยที่4 ซึ่งกำลังรักษาอุคิทาเกะอยู่ และพวกเหล่ากบท

    "จากที่ฟังรายงานจากซุยฟงหัวหน้าหน่วยที่2 พวกกบท ตัวบงการก็คือ ไอเซ็น โซสึเกะอดีตหัวหน้าหน่วยที่5 ซึ่งกำลังวิจัยพลังปริศนาที่ทำให้ยมทูตมีพลังแบบฮอลโล่และพัฒนาให้เป็นสิ่งที่เหนือกว่านั้น รวมทั้ง อิชิมารุ งิน อดีตหัวหน้าหน่วยที่3 โทเซ็น คานาเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยที่9 และความผิดพลาดครั้งใหญ่ของตัวข้า บุตรหลานที่ข้าไว้เนื้อเชื่อใจ ยามาโมโตะ มายุมิ อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่1.."

    มือเหี่ยวหยาบกร้านกำไม้เท้าที่ข้างในเป็นดาบที่ทรงพลังไว้แน่นอย่างเจ็บใจ โดยเฉพาะกับผู้เป็นบุตรหลานของตน พอนึกถึงเธอแล้ว มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิดต่อบุตรหลานอีกคนของตน ที่ไม่เชื่อใจเธอในวันนั้น

    "ใช่แล้วครับ คาดว่าน่าจะต้องวางแผนการร้ายอยู่ที่อูเอโกมุนโด้พร้อมกับพวกฮอลโล่และวิจัยพลังอันน่ากลัวนั้นเพื่อมาโจมตีพวกเราเป็นแน่.."

    ฮิสึกายะ โทชิโร่ เด็กหนุ่มอัจฉริยะซึ่งเป็นถึงหัวหน้าหน่วยที่10 ได้คาดการณ์ขึ้นตามการวิเคราะห์

    "แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ ดาบฟันวิญญาณของเจ้านั่น เคียวกะซุยเงสึ จากที่ฟังอุคิทาเกะเล่าแล้ว มันเป็นการสะกดโดยสมบูรณ์ ควบคุมสัมผัสทั้ง5น่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็น่าวิจัยเหมือนกัน.."

    คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วยวิจัยวิทยาการหน่วยที่12 อัจฉริยะด้านการวิจัยในโซลโซไซตี้กล่าวขึ้นเสริม

    "ข้าเห็นด้วยกับคุโรซึจิ ในความน่ากลัวของดาบฟันวิญญาณนั่น และที่มันดึงโทเซ็นไปเป็นพวก เพราะโทเซ็นมีดวงตาที่บอดสนิทจึงไม่เป็นผลกับดาบฟันวิญญาณของมัน.."

    โคมามูระ ซาจิน หัวหน้าหน่วยที่7 ผู้ที่มีใบหน้าแปลกประหลาดคลับคล้ายสุนัขแต่ก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในตัว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคานาเมะ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นอดีตไปอย่างน่าเจ็บใจ

    "อย่างที่ทุกคนบอก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเริ่มวางการป้องกันที่หนาแน่นขึ้นไปอีก และเริ่มวางแผนตั้งรับกับความเลวร้ายที่จะมาถึง ซึ่งไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็ว แต่ข้าคาดว่ามันคงต้องใช้เวลาเตรียมการอยู่บ้าง ซุยฟง อายาเมะ หลังประชุมมาพบข้าที่ห้องทำงาน จากนี้ก็แยกย้ายได้"

    หลังจากนั้นหัวหน้าหน่วยต่างพากันแยกตัวออกไป

    ซุยฟงที่ได้รับคำสั่งเมื่อครู่เดินตามท่านหัวหน้าใหญ่ไปที่ห้องทำงานตามคำสั่งของเขาทันที

    "มีอะไรงั้นหรือคะ ท่านเก็นริวไซ"

    เธอถามขึ้นด้วยถ้อยคำที่สุภาพและท่าทางที่นอบน้อม

    "โซระ หลานข้าเป็นอย่างไรบ้าง.."

    ซุยฟงชะงักเล็กน้อย เพราะที่น่าแปลกกว่าประโยคนั้นคือ น้ำเสียงที่ดูอ่อนลงราวกำลังกังวลใจ..

    "เธอมีอาการบาดเจ็บที่แก้วหู นอนพักอยู่ที่หน่วยแพทย์ค่ะ ตอนนี้อุโนะฮานะคงกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของเธออยู่ อย่าได้กังวลเลยค่ะ.."

    "งั้นหรอ ขอบใจที่เมตตาหลานข้ามาตลอด เจ้าเป็นคนเดียวที่สนิทและดีกับเธอ ขอบใจมาก"

    เขาเอ่ยขึ้นในฐานะที่เป็นปู่ของโซระเป็นครั้งแรก คาดว่าคงจะรู้สึกผิดกับเธอหนักเอาการเลยจริงๆ

    "ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับโซระ เธอเป็นเพื่อนที่ดีของข้าอยู่แล้ว.."

    "อ่า ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าไปได้แล้วล่ะ.."

    "ค่ะ ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว.."

    เธอโค้งตัวให้คนตรงหน้า ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    เจ้าของร่างชายชราเดินไปที่ระเบียงพรางมองไปที่พระอาทิตย์ที่จวนจะตกดิน..

    ภาพเด็กสาวที่เป็นบุตรหลานของเธอก็ปรากฎมาในความทรงจำ พร้อมกับรอยยิ้มที่สดไส้ไร้มลทิน

    ทำไมต้องมาคิดถึงภาพเหล่านี้ในเวลาที่สายเกินไปแบบนี้นะ จะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้ มันคงจะไม่ทันแล้วจริงๆ..

    ====================

    Writer talk

    ในที่สุดทุกคนก็รู้ว่าใครคือนางร้ายตัวจริงซักที คือดีย์ จากนี้ความสัมพันธ์ปู่หลานของโซระ รวมถึงอุคิทาเกะนั้นจะเป็นยังไง รอดูตอนต่อไปได้เลยครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×