ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Charpter XIX : Relationship of Miwa & Shunsui Part 1
"โซระจัง.."
อุคิทาเกะเอ่ยอย่างอ้ำอึ้ง เมื่อเห็นหญิงสาวที่พึ่งมาใหม่
"ยินดีต้อนรับกลับมานะเรนะ สนใจจะไปเยี่ยมเพื่อนรักเจ้าหน่อยมั้ย^ ^"
โซระไม่สนใจเสียงเอ่ยเรียกจากคนข้างหลัง แต่สนใจที่จะยั่วโทสะหญิงสาวที่เธอพึ่งเหวี่ยงไปเมื่อครู่อย่างนึกสนุก เพราะไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนคิดจะทำอะไร
เพื่อนกันนิสัยไม่ทิ้งแถวจริงๆนะ แค่หล่อนจะร้ายกว่าเท่านั้น..
"ยังใจดีไม่เปลี่ยนเลยนะพี่โซระ..แต่ขอผ่านล่ะ เพราะข้ามาหาแค่พี่จูชิโร่เท่านั้น"
เรนะว่าพรางกระตุกยิ้มขึ้นอย่างไม่ยอมกันและเดินเข้ามาประจัญหน้ากับเธอใกล้ๆแถมยังยืนกอดอกอย่างไม่เกรงกลัว คิดว่าโดนแค่นี้เธอจะต้องกลัวรึไง ยัยนั่นต่างหากที่ต้องสยบแทบเท้าเธอ
"ถ้าเช่นนั้น.."
แต่คิดหรอว่าคนอย่างโซระจะพ่ายแพ้ต่อเธออีกรอบ แน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมโดนหักหน้าเหมือนที่เจ้าหล่อนและน้องสาวแสนรักเคยทำไว้กับเธอแน่นอน
ริมฝีปากบางยิ้มมุมปากขึ้น พรางพาร่างของตนเองหันหลับไปหาชายหนุ่มที่นั่งมองทั้งสองคนโดยสีหน้าที่วิตกกังวลเพราะกลัวจะเกิดการวิวาทขึ้นตามนิสัยของเขา
!!
"ซะ..โซระ -//-"
เรนะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นโซระเดินเข้าไปนั่งตักของชายหนุ่มพร้อมกับนำแขนแกร่งทั้งสองข้างของเขามาโอบตัวของเธอไว้ ซึ่งเจ้าตัวถึงกับหน้าขึ้นสีกับการกระทำของเธอไปไม่น้อย เนื่องจากไม่เคยเห็นเธอลุกใส่เขาแบบนี้มาก่อน
ลูเคียที่ยืนมองภาพนั้นถึงกลับปิดหน้าด้วยความเขินอายแทนทั้งคู่ แต่ผู้เป็นรองหัวหน้าอย่างมิวะกลับยิ้มเยาะอย่างชอบใจ
แบบนี้สิถึงจะเป็นน้องสาวของข้า..
และก็ครุ่นคิดขึ้นมาแบบนั้น
"เมื่อเจ้ามาหาพี่จูชิโร่..ก็เหมือนกับมาหาข้าด้วยเช่นกัน ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดมากเลยนี่ เรนะ^ ^"
โซระว่าพรางยิ้มยั่วโทสะอีกครั้งราวกับผู้ชนะ ซึ่งเป็นการกระทำที่บ่งบอกว่า ตนไม่ใช่คนอ่อนแอที่หล่อนเคยกลั่นแกล้งไว้มากมายอีกแล้ว ถ้าคิดจะสยบเธอล่ะก็กลับไปคิดใหม่จะดีกว่า
เพราะเธอนี่แหละจะสยบยัยมารร้ายอย่างหล่อนให้จมดิน
นางมารร้ายมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่เจ็บใจ โดยเฉพาะสีหน้าที่เย้ยยันจากโซระยิ่งทำให้เธอเดือดจนแทบทนไม่ไหว คิดว่าถ้าเป็นมายุมิคงจะทนไม่ได้แล้วแน่ๆ แต่ยังไงยัยนั่นก็อยู่ในคุกไปแล้ว กำจัดตัวเกะกะได้คนนึงแล้วนี่
กะอีแค่ยัยนี่คนเดียว ใครมันจะไปยอมกัน
แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ เจ็บใจนัก..
"เฮ้อ แย่จังๆ เอาไว้จะมาหาใหม่แล้วกันนะพี่จูชิโร่.."
หล่อนถอนหายใจออกด้วยใบหน้านิ่งๆที่พยายามกักเก็บอารมณ์โมโหไว้สุดๆ ก่อนจะระบายยิ้มหวานๆให้แก่ชายหนุ่มโดยไม่สนว่าจะมีหญิงสาวคนใดนั่งอยู่บนตักเขาตอนนี้ก็ตามเพราะสำหรับเธอแล้ว
อะไรที่เธออยากได้ เธอก็ต้องได้..
โซระเองก็พอจะรู้ว่าคนอย่าง เคียวราคุ เรนะ คงจะไม่ยอมรามือกับเธอง่ายๆแน่ ก็เอาสิ..เธอจะสั่งสอนให้หล่อนรู้เอง ว่าความเจ็บปวดที่เธอเคยได้รับมันเป็นยังไง และจะหยุดนิสัยริษยาแย่ๆนั่นเสียให้ได้
"คะ..ครับ"
อุคิทาเกะเอ่ยตอบเธอไปตามมารยาท ก่อนเธอจะหันหลังแล้วเดินออกไปจากห้อง
โซระที่เห็นว่าเธอเดินออกไปแล้ว ค่อยๆลุกจากตักชายหนุ่มพรางถอนหายใจออกมายาวเหยียดด้วยความรู้สึกที่อึดอัดใจอยู่นมนาน
"ไปซักที น่ารำคาญเป็นบ้า.."
ใบหน้าสวยบูดบึ้งแสดงอารมณ์ขึ้นอย่างชัดเจนทันที ราวกับพึ่งถอดหน้ากากออกยังไงอย่างนั้น เพราะการที่เธอทำตัวแบบนั้นใช่ว่าจะถนัดซักเท่าไหร่ เพียงแต่การกระทำมันไปเองโดยอัติโนมัติ เมื่อเห็นยัยนั่นมายุ่มย่ามกับชายหนุ่ม
"แหมๆ ไม่เบาเหมือนกันนะโซระ"
มิวะเดินเข้ามากอดคอชมผู้เป็นน้องสาวด้วยความปลาบปลื้มใจสุดๆ หรือจะเรียกว่าสะใจแทนก็ไม่ผิดซักเท่าไหร่ ก็ถึงกับเล่นหักหน้ายัยนั่นออกไปได้ซึ่งความหน้าด้านขนาดนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
"ว่าแต่เจ้ากับเรนะนี่ไม่ถูกกันหรอ.."
ลูเคียเพื่อนสาวของเธอที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรนักถามขึ้นอย่างสงสัย ไม่คิดว่าโซระจะไม่ถูกกับเรนะขนาดนั้น
"ไม่ถูกอย่างนั้นหรอ เปลี่ยนไปใช้คำว่า ข้าไม่ค่อยอยากจะเป็นมิตรกับยัยนั่นเท่าไหร่จะดีกว่านะ.."
หญิงสาวเอ่ยด้วยสีหน้าที่ยังหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
"เอาน่าๆ เธอก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้วนี่"
อุคิทาเกะพูดขึ้นเพื่อสงบอารมณ์ของหญิงสาว พรางลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยีหัวเธอ
แต่แทนที่เธอจะสงบใจลง กับทำสีหน้าบึ้งขึ้นกว่าเดิม..
"เข้าใจเธอดีซะเหลือเกินนะคะ.."
น้ำเสียงหวานประชดขึ้นอย่างไม่พอใจ เพราะไอนิสัยอันแสนดีของเขาแบบนี้ไงถึงไม่รู้อะไรเลยซักอย่าง ว่าเหตุผลที่เธอหงุดหงิดมากขนาดนี้ จริงๆแล้วมันก็มาจากเขานั่นแหละ
"อย่าพูดแบบนั้นสิโซระ.."
และในขณะที่โซระกำลังเข้าสู่โหมดน้อยใจอุคิทาเกะนั้น ลูเคียและมิวะที่ไม่อยากจะเป็นกขค จึงเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ทั้งคู่เคลียกันให้เข้าใจ
"นี่โซระ.."
หลังจากที่สองคนนั้นออกไปแล้ว อุคิทาเกะก็เอื้อมไปจับเธอหันมาหาตนจากที่หันหลังอยู่ เพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะเขาก็พอจะรู้ว่าเธอกำลังน้อยใจอยู่..ถึงจะไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดซักเท่าไหร่
นัยตาสีม่วงเบือนหลบสายตาอีกคนด้วยความรู้สึกน้อยใจที่มันกลั้นไม่อยู่ บวกกับความรู้สึกที่กลัวอยู่ในใจ เพราะตั้งแต่เรนะมาเธอก็อดที่จะระแวงไม่ได้ว่าหล่อนจะ แย่งคนที่เธอรักไปจากเธออีกรอบ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอกลัวมากกว่าอะไรทั้งหมด
"อย่าเงียบแบบนั้นสิ เจ้าเป็นอะไรไหนบอกข้าซิ.."
ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปจับมือบางของเธอทั้งคู่มากระชับแน่น นัยน์ตาสีดำคู่สวยมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนๆ ปะปนความรู้สึกกังวลใจ
ปกติแล้วโซระไม่ใช่คนที่จะงี่เง่า แต่ในเวลาที่อยู่กับชายหนุ่ม เธอกลับทำตัวเหมือนกับเด็กเอาแต่ใจแบบนี้ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ตัว เธออยากจะรับรู้ความสำคัญของตัวเธอเองเท่านั้นซึ่งมันก็ไม่เคยเป็นกับชายอื่นใดนอกจากเขา
"ข้าเป็นแบบนี้แล้ว..มันน่ารำคาญมั้ยพี่จูชิโร่"
เธอถามออกมาพรางก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกแย่เล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงไออุ่นบางๆที่ศีรษะที่แสนคุ้นเคยจากฝ่ามือใหญ่ของเขา
"ฟังข้าแล้วจำไว้ให้ดีนะ..โซระจัง"
มือใหญ่ของเขาลูบไล้ที่เรือนผมดำขลับอย่างอ่อนโยนเช่นเคย พรางไล้ลงมาที่ใบหน้าเรียว
"จะน้อยใจข้า จะงอแงใส่ข้ามากแค่ไหนก็ตามแต่ใจเจ้าเถอะ ข้าพร้อมที่จะรับและปลอบใจเจ้าเสมอ เพียงแต่..อย่าไปทำเช่นนี้กับชายอื่นใดก็พอ.."
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาประดับด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนจะค่อยๆดึงร่างเธอเข้ามาซบแนบแผ่นอกกว้างของเขา
ร่างบางรู้สึกผ่อนครายและสบายใจขึ้นทันทีที่สิ้นประโยคเขา และจากความรู้สึกอบอุ่นภายใต้อ้อมอกของเขา
"เข้าใจแล้วค่ะ.."
เธอผละกอดออกมาอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาสีม่วงอ่อนแสงลงมองร่างสูงด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นใจ
ทุกครั้งเลย ไม่ว่าตอนไหนที่เธอรู้สึกแย่กับอะไรต่างๆ เขาคนนี้ก็สามารถทำให้ครายลงได้ทุกครั้ง..
ดีใจจริงๆที่มาเจอกับเขา..และได้รู้สึกกับเขาแบบนี้
พี่จูชิโร่..
แต่ในการกระทำของทั้งคู่นั้น กลับถูกจับจ้องจากใครบางคนที่อยู้ด้านนอกของห้องซึ่งเป็นชายหนุ่มที่แสนจะคุ้นเคย
"อะ..แฮ่ม!"
เสียงกระแอมของผู้เป็นรองหัวหน้าของหน่วยที่13 ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งไปเล็กน้อยแต่ยังทำสีหน้าทะเล้นไม่เปลี่ยนแปลง
"แหมๆ มิวะจังเองหรอ..ตกใจหมดเลย"
"เจ้ามาทำอะไรอยู่หน้าห้อง เคียวราคุ.."
ร่างบางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ และแน่นอนว่า ทั้งอุคิทาเกะและเคียวราคุ ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมาทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่จะพูดจาสนิทสนมกันนัก
"ข้ากะว่าจะมาตามเรนะจังที่นี่..เพราะเห็นนางบอกจะมาหาพ่อรูปหล่อของหน่วยนี้ แต่เหมือนจะไม่อยู่ซะแล้ว แย่แฮะ.."
เคียวราคุเกาหัวแก้เก้อ ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆขึ้น แต่ในความจริงมันอาจจมีอะไรมากกว่านั้น..
"แล้วใช่เรื่องที่เจ้าจะมายืนเผือกคู่รักชาวบ้านเขารึไงย้ะ ถ้ารู้ว่าไม่มีก็รีบกลับบ้านไปสิฟ้ะ!"
"คู่รักอย่างนั้นหรอ.."
ชายหนุ่มยิ้มกริ่มขึ้นอย่างไม่น่าไว้ใจ ทำให้มิวะที่ยืนอยู่เริ่มงงๆขึ้นกับคำถามของเขา ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
"เจ้าหมายความว่ายังไง ถึงได้ถามแบบนั้น"
"ข้าแค่คิดว่า มันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้"
"..."
"เขาทั้งสองคนเคยพูดมั้ยล่ะ ว่าเป็นคนรักกันน่ะ.."
มิวะทอดสายตามองร่างสูงอย่างอึ้งๆ ปะปนความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ และไม่ค่อยจะพอใจนักกับคำพูดของเขาซักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ามันแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
ไปโดนยัยเรนะปั่นหัวอะไรมากันแน่
หญิงสาวอยากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เพราะเธอให้เกียรติคนตรงหน้าจึงไม่อยากว่าร้ายหรือดูหมิ่นน้องสาวของเขาซักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าตัวก็แสนจะรักน้องสาวของตนยิ่งชีพอยู่แล้ว
"แต่สองคนนั้นเขารักกัน เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรอ.."
"ข้ารู้..ถึงจะรักกัน แต่สถานะของทั้งคู่มันก็ยังไม่ชัดเจนอยู่ดี.."
"นี่เจ้า! ต้องการจะพูดอะไรกันแน่เคียวราคุ.."
หญิงสาวเริ่มรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาแปลกๆ เมื่อเพื่อนของตนเริ่มพูดเหมือนจะสื่ออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยจะดีออกมา
โดนน้องตัวเองปั่นหัวไปแล้วรึไงกันนะ
"อย่ามองข้าในแง่ร้ายนักสิ.."
เคียวราคุว่าพรางเดินเข้าไปประชิดร่างบางแล้วนำมือไปจับที่บ่าของเธอทั้งสองข้าง พร้อมกับยิ้มออกมา ด้วยรอยยิ้มที่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนทุกที
"เพราะยังไง..ข้าก็ยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจโซระอยู่ดีไม่ใช่หรอ"
!!!
"เจ้าตัดใจจากนางไปแล้วไม่ใช่หรอ เจ้าน่ะจะ-"
นิ้วเรียวทาบริมฝีปากบางหยุดคำพูดของเธอไปกลางคัน
"ไม่ไหวๆ~ คนใจร้ายอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์มาสอนข้าหรอกนะ.."
ว่าจบเขาก็ถอนนิ้วออกมาจากริมฝีปากของเธอด้วยสีหน้าที่เฉยชาซึ่งไม่มีให้เห็นกันบ่อยๆ ก่อนจะเดินสวนเธอออกไปอย่างไม่แลหลัง
หญิงสาวยืนนิ่งแข็งทื่อ มือบางกำแน่น พรางเม้มริมฝีปากเหมือนกำลังรู้สึกเจ็บปวดอะไรบางอย่าง
ถ้าวันนั้นข้าไม่ทำแบบนั้น เจ้าก็คงไม่เป็นเช่นนี้สินะ..
ข้าขอโทษ..ชุนซุย
ถึงตอนนี้มันจะสายไปแล้วก็เถอะ..
Shunsui talk
ข้าเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่ทนฝืนมาอยู่ตั้งนาน ถ้าอยู่กับนางไปนานๆมีหวังข้าคงเผลอหลุดปากออกไปแน่
จริงๆแล้วอาจจะคิดว่ามีแค่นางกับอุคิทาเกะที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มันไม่ได้มีแค่นั้น เพราะข้าเองก็สนิทกับทั้งคู่ไม่แพ้กันเพราะเป็นยมทูตที่ร่วมรุ่นกันมาตั้งแแต่วัยเรียน
ใช่ทั้งที่เป็นแบบนั้น ทั้งที่ข้าก็เป็นเพื่อนนางเหมือนกัน
หรือนางเห็นอุคิทาเกะเป็นเพียงเพื่อนคนเดียวกันแน่ ถึงได้ทำร้ายกันแบบนั้น..
เข้าใจ ข้าเข้าใจดี แต่ยังไงมันก็น่าเจ็บใจ ถ้านางช่วยข้ามากกว่านี้ล่ะก็..
ข้าคงไม่ต้องมานั่งปั้นยิ้มทนดูอะไรที่มันบาดตาอยู่แบบนี้ก็ได้..
Writer talk
เฮ้ยๆ~ มิวะกับเคียวราคุมีอดีตอะไรกันแน่ แต่รู้สึกว่านางจะแลดูห้าวมากไปหน่อยมั้ยนะ เนื้อหานี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเคียวราคุกับมิวะที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ ซึ่งก็มีความเกี่ยวข้องกับโซระเป็นสำคัญอีกด้วย ยังไงก็ฝากติดตามและคอมเม้นท์ให้กำลังในการแต่งต่อไปด้วยครับ ♡
อุคิทาเกะเอ่ยอย่างอ้ำอึ้ง เมื่อเห็นหญิงสาวที่พึ่งมาใหม่
"ยินดีต้อนรับกลับมานะเรนะ สนใจจะไปเยี่ยมเพื่อนรักเจ้าหน่อยมั้ย^ ^"
โซระไม่สนใจเสียงเอ่ยเรียกจากคนข้างหลัง แต่สนใจที่จะยั่วโทสะหญิงสาวที่เธอพึ่งเหวี่ยงไปเมื่อครู่อย่างนึกสนุก เพราะไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนคิดจะทำอะไร
เพื่อนกันนิสัยไม่ทิ้งแถวจริงๆนะ แค่หล่อนจะร้ายกว่าเท่านั้น..
"ยังใจดีไม่เปลี่ยนเลยนะพี่โซระ..แต่ขอผ่านล่ะ เพราะข้ามาหาแค่พี่จูชิโร่เท่านั้น"
เรนะว่าพรางกระตุกยิ้มขึ้นอย่างไม่ยอมกันและเดินเข้ามาประจัญหน้ากับเธอใกล้ๆแถมยังยืนกอดอกอย่างไม่เกรงกลัว คิดว่าโดนแค่นี้เธอจะต้องกลัวรึไง ยัยนั่นต่างหากที่ต้องสยบแทบเท้าเธอ
"ถ้าเช่นนั้น.."
แต่คิดหรอว่าคนอย่างโซระจะพ่ายแพ้ต่อเธออีกรอบ แน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมโดนหักหน้าเหมือนที่เจ้าหล่อนและน้องสาวแสนรักเคยทำไว้กับเธอแน่นอน
ริมฝีปากบางยิ้มมุมปากขึ้น พรางพาร่างของตนเองหันหลับไปหาชายหนุ่มที่นั่งมองทั้งสองคนโดยสีหน้าที่วิตกกังวลเพราะกลัวจะเกิดการวิวาทขึ้นตามนิสัยของเขา
!!
"ซะ..โซระ -//-"
เรนะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นโซระเดินเข้าไปนั่งตักของชายหนุ่มพร้อมกับนำแขนแกร่งทั้งสองข้างของเขามาโอบตัวของเธอไว้ ซึ่งเจ้าตัวถึงกับหน้าขึ้นสีกับการกระทำของเธอไปไม่น้อย เนื่องจากไม่เคยเห็นเธอลุกใส่เขาแบบนี้มาก่อน
ลูเคียที่ยืนมองภาพนั้นถึงกลับปิดหน้าด้วยความเขินอายแทนทั้งคู่ แต่ผู้เป็นรองหัวหน้าอย่างมิวะกลับยิ้มเยาะอย่างชอบใจ
แบบนี้สิถึงจะเป็นน้องสาวของข้า..
และก็ครุ่นคิดขึ้นมาแบบนั้น
"เมื่อเจ้ามาหาพี่จูชิโร่..ก็เหมือนกับมาหาข้าด้วยเช่นกัน ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดมากเลยนี่ เรนะ^ ^"
โซระว่าพรางยิ้มยั่วโทสะอีกครั้งราวกับผู้ชนะ ซึ่งเป็นการกระทำที่บ่งบอกว่า ตนไม่ใช่คนอ่อนแอที่หล่อนเคยกลั่นแกล้งไว้มากมายอีกแล้ว ถ้าคิดจะสยบเธอล่ะก็กลับไปคิดใหม่จะดีกว่า
เพราะเธอนี่แหละจะสยบยัยมารร้ายอย่างหล่อนให้จมดิน
นางมารร้ายมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่เจ็บใจ โดยเฉพาะสีหน้าที่เย้ยยันจากโซระยิ่งทำให้เธอเดือดจนแทบทนไม่ไหว คิดว่าถ้าเป็นมายุมิคงจะทนไม่ได้แล้วแน่ๆ แต่ยังไงยัยนั่นก็อยู่ในคุกไปแล้ว กำจัดตัวเกะกะได้คนนึงแล้วนี่
กะอีแค่ยัยนี่คนเดียว ใครมันจะไปยอมกัน
แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ เจ็บใจนัก..
"เฮ้อ แย่จังๆ เอาไว้จะมาหาใหม่แล้วกันนะพี่จูชิโร่.."
หล่อนถอนหายใจออกด้วยใบหน้านิ่งๆที่พยายามกักเก็บอารมณ์โมโหไว้สุดๆ ก่อนจะระบายยิ้มหวานๆให้แก่ชายหนุ่มโดยไม่สนว่าจะมีหญิงสาวคนใดนั่งอยู่บนตักเขาตอนนี้ก็ตามเพราะสำหรับเธอแล้ว
อะไรที่เธออยากได้ เธอก็ต้องได้..
โซระเองก็พอจะรู้ว่าคนอย่าง เคียวราคุ เรนะ คงจะไม่ยอมรามือกับเธอง่ายๆแน่ ก็เอาสิ..เธอจะสั่งสอนให้หล่อนรู้เอง ว่าความเจ็บปวดที่เธอเคยได้รับมันเป็นยังไง และจะหยุดนิสัยริษยาแย่ๆนั่นเสียให้ได้
"คะ..ครับ"
อุคิทาเกะเอ่ยตอบเธอไปตามมารยาท ก่อนเธอจะหันหลังแล้วเดินออกไปจากห้อง
โซระที่เห็นว่าเธอเดินออกไปแล้ว ค่อยๆลุกจากตักชายหนุ่มพรางถอนหายใจออกมายาวเหยียดด้วยความรู้สึกที่อึดอัดใจอยู่นมนาน
"ไปซักที น่ารำคาญเป็นบ้า.."
ใบหน้าสวยบูดบึ้งแสดงอารมณ์ขึ้นอย่างชัดเจนทันที ราวกับพึ่งถอดหน้ากากออกยังไงอย่างนั้น เพราะการที่เธอทำตัวแบบนั้นใช่ว่าจะถนัดซักเท่าไหร่ เพียงแต่การกระทำมันไปเองโดยอัติโนมัติ เมื่อเห็นยัยนั่นมายุ่มย่ามกับชายหนุ่ม
"แหมๆ ไม่เบาเหมือนกันนะโซระ"
มิวะเดินเข้ามากอดคอชมผู้เป็นน้องสาวด้วยความปลาบปลื้มใจสุดๆ หรือจะเรียกว่าสะใจแทนก็ไม่ผิดซักเท่าไหร่ ก็ถึงกับเล่นหักหน้ายัยนั่นออกไปได้ซึ่งความหน้าด้านขนาดนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
"ว่าแต่เจ้ากับเรนะนี่ไม่ถูกกันหรอ.."
ลูเคียเพื่อนสาวของเธอที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรนักถามขึ้นอย่างสงสัย ไม่คิดว่าโซระจะไม่ถูกกับเรนะขนาดนั้น
"ไม่ถูกอย่างนั้นหรอ เปลี่ยนไปใช้คำว่า ข้าไม่ค่อยอยากจะเป็นมิตรกับยัยนั่นเท่าไหร่จะดีกว่านะ.."
หญิงสาวเอ่ยด้วยสีหน้าที่ยังหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
"เอาน่าๆ เธอก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้วนี่"
อุคิทาเกะพูดขึ้นเพื่อสงบอารมณ์ของหญิงสาว พรางลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยีหัวเธอ
แต่แทนที่เธอจะสงบใจลง กับทำสีหน้าบึ้งขึ้นกว่าเดิม..
"เข้าใจเธอดีซะเหลือเกินนะคะ.."
น้ำเสียงหวานประชดขึ้นอย่างไม่พอใจ เพราะไอนิสัยอันแสนดีของเขาแบบนี้ไงถึงไม่รู้อะไรเลยซักอย่าง ว่าเหตุผลที่เธอหงุดหงิดมากขนาดนี้ จริงๆแล้วมันก็มาจากเขานั่นแหละ
"อย่าพูดแบบนั้นสิโซระ.."
และในขณะที่โซระกำลังเข้าสู่โหมดน้อยใจอุคิทาเกะนั้น ลูเคียและมิวะที่ไม่อยากจะเป็นกขค จึงเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ทั้งคู่เคลียกันให้เข้าใจ
"นี่โซระ.."
หลังจากที่สองคนนั้นออกไปแล้ว อุคิทาเกะก็เอื้อมไปจับเธอหันมาหาตนจากที่หันหลังอยู่ เพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะเขาก็พอจะรู้ว่าเธอกำลังน้อยใจอยู่..ถึงจะไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดซักเท่าไหร่
นัยตาสีม่วงเบือนหลบสายตาอีกคนด้วยความรู้สึกน้อยใจที่มันกลั้นไม่อยู่ บวกกับความรู้สึกที่กลัวอยู่ในใจ เพราะตั้งแต่เรนะมาเธอก็อดที่จะระแวงไม่ได้ว่าหล่อนจะ แย่งคนที่เธอรักไปจากเธออีกรอบ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอกลัวมากกว่าอะไรทั้งหมด
"อย่าเงียบแบบนั้นสิ เจ้าเป็นอะไรไหนบอกข้าซิ.."
ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปจับมือบางของเธอทั้งคู่มากระชับแน่น นัยน์ตาสีดำคู่สวยมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนๆ ปะปนความรู้สึกกังวลใจ
ปกติแล้วโซระไม่ใช่คนที่จะงี่เง่า แต่ในเวลาที่อยู่กับชายหนุ่ม เธอกลับทำตัวเหมือนกับเด็กเอาแต่ใจแบบนี้ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ตัว เธออยากจะรับรู้ความสำคัญของตัวเธอเองเท่านั้นซึ่งมันก็ไม่เคยเป็นกับชายอื่นใดนอกจากเขา
"ข้าเป็นแบบนี้แล้ว..มันน่ารำคาญมั้ยพี่จูชิโร่"
เธอถามออกมาพรางก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกแย่เล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงไออุ่นบางๆที่ศีรษะที่แสนคุ้นเคยจากฝ่ามือใหญ่ของเขา
"ฟังข้าแล้วจำไว้ให้ดีนะ..โซระจัง"
มือใหญ่ของเขาลูบไล้ที่เรือนผมดำขลับอย่างอ่อนโยนเช่นเคย พรางไล้ลงมาที่ใบหน้าเรียว
"จะน้อยใจข้า จะงอแงใส่ข้ามากแค่ไหนก็ตามแต่ใจเจ้าเถอะ ข้าพร้อมที่จะรับและปลอบใจเจ้าเสมอ เพียงแต่..อย่าไปทำเช่นนี้กับชายอื่นใดก็พอ.."
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาประดับด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนจะค่อยๆดึงร่างเธอเข้ามาซบแนบแผ่นอกกว้างของเขา
ร่างบางรู้สึกผ่อนครายและสบายใจขึ้นทันทีที่สิ้นประโยคเขา และจากความรู้สึกอบอุ่นภายใต้อ้อมอกของเขา
"เข้าใจแล้วค่ะ.."
เธอผละกอดออกมาอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาสีม่วงอ่อนแสงลงมองร่างสูงด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นใจ
ทุกครั้งเลย ไม่ว่าตอนไหนที่เธอรู้สึกแย่กับอะไรต่างๆ เขาคนนี้ก็สามารถทำให้ครายลงได้ทุกครั้ง..
ดีใจจริงๆที่มาเจอกับเขา..และได้รู้สึกกับเขาแบบนี้
พี่จูชิโร่..
แต่ในการกระทำของทั้งคู่นั้น กลับถูกจับจ้องจากใครบางคนที่อยู้ด้านนอกของห้องซึ่งเป็นชายหนุ่มที่แสนจะคุ้นเคย
"อะ..แฮ่ม!"
เสียงกระแอมของผู้เป็นรองหัวหน้าของหน่วยที่13 ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งไปเล็กน้อยแต่ยังทำสีหน้าทะเล้นไม่เปลี่ยนแปลง
"แหมๆ มิวะจังเองหรอ..ตกใจหมดเลย"
"เจ้ามาทำอะไรอยู่หน้าห้อง เคียวราคุ.."
ร่างบางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ และแน่นอนว่า ทั้งอุคิทาเกะและเคียวราคุ ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมาทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่จะพูดจาสนิทสนมกันนัก
"ข้ากะว่าจะมาตามเรนะจังที่นี่..เพราะเห็นนางบอกจะมาหาพ่อรูปหล่อของหน่วยนี้ แต่เหมือนจะไม่อยู่ซะแล้ว แย่แฮะ.."
เคียวราคุเกาหัวแก้เก้อ ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆขึ้น แต่ในความจริงมันอาจจมีอะไรมากกว่านั้น..
"แล้วใช่เรื่องที่เจ้าจะมายืนเผือกคู่รักชาวบ้านเขารึไงย้ะ ถ้ารู้ว่าไม่มีก็รีบกลับบ้านไปสิฟ้ะ!"
"คู่รักอย่างนั้นหรอ.."
ชายหนุ่มยิ้มกริ่มขึ้นอย่างไม่น่าไว้ใจ ทำให้มิวะที่ยืนอยู่เริ่มงงๆขึ้นกับคำถามของเขา ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
"เจ้าหมายความว่ายังไง ถึงได้ถามแบบนั้น"
"ข้าแค่คิดว่า มันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้"
"..."
"เขาทั้งสองคนเคยพูดมั้ยล่ะ ว่าเป็นคนรักกันน่ะ.."
มิวะทอดสายตามองร่างสูงอย่างอึ้งๆ ปะปนความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ และไม่ค่อยจะพอใจนักกับคำพูดของเขาซักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ามันแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
ไปโดนยัยเรนะปั่นหัวอะไรมากันแน่
หญิงสาวอยากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เพราะเธอให้เกียรติคนตรงหน้าจึงไม่อยากว่าร้ายหรือดูหมิ่นน้องสาวของเขาซักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าตัวก็แสนจะรักน้องสาวของตนยิ่งชีพอยู่แล้ว
"แต่สองคนนั้นเขารักกัน เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรอ.."
"ข้ารู้..ถึงจะรักกัน แต่สถานะของทั้งคู่มันก็ยังไม่ชัดเจนอยู่ดี.."
"นี่เจ้า! ต้องการจะพูดอะไรกันแน่เคียวราคุ.."
หญิงสาวเริ่มรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาแปลกๆ เมื่อเพื่อนของตนเริ่มพูดเหมือนจะสื่ออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยจะดีออกมา
โดนน้องตัวเองปั่นหัวไปแล้วรึไงกันนะ
"อย่ามองข้าในแง่ร้ายนักสิ.."
เคียวราคุว่าพรางเดินเข้าไปประชิดร่างบางแล้วนำมือไปจับที่บ่าของเธอทั้งสองข้าง พร้อมกับยิ้มออกมา ด้วยรอยยิ้มที่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนทุกที
"เพราะยังไง..ข้าก็ยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจโซระอยู่ดีไม่ใช่หรอ"
!!!
"เจ้าตัดใจจากนางไปแล้วไม่ใช่หรอ เจ้าน่ะจะ-"
นิ้วเรียวทาบริมฝีปากบางหยุดคำพูดของเธอไปกลางคัน
"ไม่ไหวๆ~ คนใจร้ายอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์มาสอนข้าหรอกนะ.."
ว่าจบเขาก็ถอนนิ้วออกมาจากริมฝีปากของเธอด้วยสีหน้าที่เฉยชาซึ่งไม่มีให้เห็นกันบ่อยๆ ก่อนจะเดินสวนเธอออกไปอย่างไม่แลหลัง
หญิงสาวยืนนิ่งแข็งทื่อ มือบางกำแน่น พรางเม้มริมฝีปากเหมือนกำลังรู้สึกเจ็บปวดอะไรบางอย่าง
ถ้าวันนั้นข้าไม่ทำแบบนั้น เจ้าก็คงไม่เป็นเช่นนี้สินะ..
ข้าขอโทษ..ชุนซุย
ถึงตอนนี้มันจะสายไปแล้วก็เถอะ..
Shunsui talk
ข้าเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่ทนฝืนมาอยู่ตั้งนาน ถ้าอยู่กับนางไปนานๆมีหวังข้าคงเผลอหลุดปากออกไปแน่
จริงๆแล้วอาจจะคิดว่ามีแค่นางกับอุคิทาเกะที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มันไม่ได้มีแค่นั้น เพราะข้าเองก็สนิทกับทั้งคู่ไม่แพ้กันเพราะเป็นยมทูตที่ร่วมรุ่นกันมาตั้งแแต่วัยเรียน
ใช่ทั้งที่เป็นแบบนั้น ทั้งที่ข้าก็เป็นเพื่อนนางเหมือนกัน
หรือนางเห็นอุคิทาเกะเป็นเพียงเพื่อนคนเดียวกันแน่ ถึงได้ทำร้ายกันแบบนั้น..
เข้าใจ ข้าเข้าใจดี แต่ยังไงมันก็น่าเจ็บใจ ถ้านางช่วยข้ามากกว่านี้ล่ะก็..
ข้าคงไม่ต้องมานั่งปั้นยิ้มทนดูอะไรที่มันบาดตาอยู่แบบนี้ก็ได้..
====================
Writer talk
เฮ้ยๆ~ มิวะกับเคียวราคุมีอดีตอะไรกันแน่ แต่รู้สึกว่านางจะแลดูห้าวมากไปหน่อยมั้ยนะ เนื้อหานี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเคียวราคุกับมิวะที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ ซึ่งก็มีความเกี่ยวข้องกับโซระเป็นสำคัญอีกด้วย ยังไงก็ฝากติดตามและคอมเม้นท์ให้กำลังในการแต่งต่อไปด้วยครับ ♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น