ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Bleach ] หัวใจที่ถูกแช่แข็งของเจ้า ข้าจะละลายมันเอง..

    ลำดับตอนที่ #8 : Charpter VII : Sound cry of the heart

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 61


    เบียคุยะที่ฟังคนที่อ้อมแขนของตนเมื่อครู่ถึงกับต้องหยุดฝีเท้าแล้วมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ

    คงจะเมาจนละเมอล่ะมั้ง

    "เจ้าเมามากแล้วนะ ลูเคีย.."

    เสียงทุ้มเอ่ยตำหนิร่างเล็กด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย ถ้าสร่างเมาจริงๆเธอคงจะเทศน์ยาวเป็นแน่

    "ข้ายังมีสติค่ะท่านพี่.."

    เธอว่าพรางเลื่อนแขนเรียวโอบที่ลำคอร่างสูง แล้วเงยมองเขาเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่าง

    "ลูเคีย.."

    ใบหน้าหล่อเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ

    "ช่วยหันมามองข้า ดั่งข้าเป็นเพียงผู้หญิงคนนึง บ้างได้มั้ยท่านพี่.."

    เบียคุยะต้องตกใจกับคำพูดหล่อนอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจแน่ชัด

    "ถ้าเช่นนั้น ช่วยบอกเหตุผลของเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ"

    ลูเคียหน้าแดงขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินคำถามจากร่างสูง พรางเบือนหลบสายตาคมของชายหนุ่มแล้วซุกใบหน้าไปที่แผ่นอกกว้าง

    "ไม่รู้เลย..จริงๆหรอคะ"

    เสียงหวานถามด้วยน้ำเสียงอ่อนๆแต่เต็มไปด้วยความประหม่า

    ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรเพียงแต่รอหญิงสาวพูดให้จบพรางสาวเท้าเดินต่อไป

    "ข้า..รักท่านพี่ รักมา..ตลอดเลย"

    ก่อนชายหนุ่มจะต้องหยุดฝีเท้าอีกครั้งด้วยความตกใจสุดขีด ดวงตาคมเบิกกว้างพรางมองลงมาที่ร่างเล็ก

    ใช่เขาไม่รู้เลย ไม่คิดว่าเธอจะรู้สึกกับเขาเช่นนี้ ทั้งที่ตัวเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษกับเธอนัก นอกจากดุและเข้มงวดกับเธอในฐานะพี่ชายคนนึง แถมยังทำให้เธออาจจะไม่พอใจในหลายๆเรื่องอีกด้วยแล้วทำไม..

    "ทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้กับข้าล่ะ.."

    คำถามที่เขาอยากถามมากในตอนนี้ เพราะอยากรู้คำตอบว่าไปรักเขาด้วยเรื่องอะไร ทั้งที่เขาก็ทำไม่ดีกับเธอในหลายๆอย่าง

    "รู้สึกรัก มันต้องมีเหตุผลที่เป็นทางการแบบนั้นด้วยหรอคะ"

    สำหรับลูเคียแล้ว เธอรู้สึกรักเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ยังบอกไม่ได้เลย รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกดีเวลาได้พบ รู้สึกอยากเจอเวลาไม่เห็นหน้า รู้สึกหลายๆอย่างกับผู้เป็นพี่ชายที่ไม่แท้ของเธอไปเสียแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้เลย

    "มันมีเพียงอย่างเดียวที่ข้าบอกท่านได้ตอนนี้.."

    "..."

    "คือการที่ข้าอยากจะเห็นใบหน้าของท่านพี่แบบนี้ไปตลอด.."

    "..."

    "อยากจะได้ยินเสียงของท่านพี่ไปตลอด"

    "..."

    "ที่ข้ารู้สึกมันผิดมั้ยคะ ท่านพี่เบียคุยะ"

    เบียคุยะที่เงียบฟังผู้เป็นน้องสาวกำลังเอ่ยความในใจทั้งหมดออกมา จู่ๆใจของเขาก็สั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

    นี่เขากำลังหวั่นไหวกับคำพูดเธอไปแล้วงั้นหรอ

    ยังอ่อนหัดจริงๆสินะตัวข้า

    เขาครุ่นคิดและตำหนิตัวเองในใจก่อนจะผุดยิ้มบางๆออกมา

    ลูเคียที่เห็นเช่นนั้นถึงกับหน้าซุกหน้าลงไปที่แผ่นอกภายใต้อ้อมแขนเขาอีกครั้งด้วยความเขินเป็นที่สุด เหมือนกับลูกแมวน้อยในอ้อมอก

    "เจ้าไม่อ่อนหัดแล้วนะ ลูเคีย.."

    นัยตาคมมองคนในอ้อมอกด้วยแววตาอ่อนๆ เหมือนตอนนี้ตนกำลังหลงเข้าไปในคำพูดของเธอเข้าอย่างไม่รู้ตัว ถึงตอนนี้จะไม่เข้าใจตัวเองซักเท่าไหร่ แต่ก็พอรู้ได้ว่าเธอตอนนี้ทำให้ใจเขากำลังปั่นป่วนมากกว่า..โซระเสียแล้ว

    ลมพัดอ่อนๆโชยเข้ากระทบเรือนร่างของทั้งสองบรรยากาศอันเย็นเยียบทำให้ร่างเล็กค่อยๆเคลิ้มและหลับลงในที่สุด


    ณ คฤหาสต์ตระกูลคุจิกิ

    ชายหนุ่มค่อยๆบรรจงวางร่างเล็กลงบนที่นอนอย่างเบามือ พรางปัดปอยผมที่บดบังใบหน้าใสของเธออย่างนุ่มนวล

    และระหว่างนั้นเขาก็ครุ่นคิดถึงความในใจที่เธอได้กล่าวไว้ จู่ๆก็ต้องผุดยิ้มน้อยๆออกมาอีกครั้ง

    "ท่านพี่คะ.."

    ร่างเล็กพรึมพรัมทั้งๆที่หลับตาอยู่ พรางตะแคงหันมาหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเตียงเธอ

    แขนเรียวเล็กหยื่นไปข้างหน้าเหมือนกับพยายามคว้าอะไรบางอย่าง ก่อนเบียคุยะจะเอื้อมไปกอบกุมมือบางนั้นแล้วนำมันวางลงขณะที่ยังกุมมือบางนั้นอยู่

    "ข้ารู้แล้ว ความรู้สึกของเจ้า หลับเถอะนะลูเคีย.."

    ใบหน้าหล่อค่อยๆโน้มลงจุมพิตที่หน้าผากเล็กอย่าวแผ่วเบา แฝงไปด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    หลังจากนั้นเขาก็จัดการห่มผ้าให้หญิงสาวก่อนจะเดินออกไปจากห้อง


    ณ ที่ทำการหน่วยที่4

    ชายหนุ่มยังนอนหลับไหลอยู่ที่เตียง ทั้งพึ่งฟื้นสติมายามรุ่งเช้าที่ผ่านมา จึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อรักษาบาดแผลให้หายในเร็ววัน จนผ่านไปราวๆ2-3ชม.

    'แกร๊ก..'

    เสียงประตูห้องเปิดขึ้น โดยพยายามให้ไร้เสียงที่สุด ปรากฎร่างผอมเพรียวของหญิงสาวเรือนผมดำขลับยาวสลวย

    ดวงตากลมโตมองไปยังผู้ที่หลับไหลในห้วงนิทราด้วยสายตาอ่อนๆผิดกับทุกที ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ๆอย่างไร้เสียง

    มือบางเลื่อนไปสัมผัสหน้าผากของคนป่วยที่หลับไหลอยู่เพื่อวัดไข้อย่างที่ทำมาตลอด1อาทิตย์ เพราะที่ผ่านมาชายหนุ่มมักมีไข้สูงตลอดในตอนหัวค่ำถึงกลางดึก

    "อา..ไข้หายแล้วสินะ"

    เสียงหวานถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ทั้งที่มืบางยังคงวางอยู่ที่หน้าผากอีกคน และตอนนั้นเอง..

    'หมับ'

    "..!?"

    ฝ่ามือใหญ่ของเจ้าของร่างคนป่วยก็เอื้อมมากอบกุมมือบางนั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

    เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้น นัยตาสีดำเหลือบมองไปทางหญิงสาวทันทีด้วยตาที่ยังปรือๆอยู่..

    "เจ้าจริงๆด้วย..โซระ"

    เมื่อเห็นร่างหญิงสาวชายหนุ่มก็ฉีกยิ้มขึ้นทันทีด้วยความดีใจ พรางนำมือบางมาแนบที่ใบหน้าของเขาอย่างหลงไหล

    โซระเพียงได้แต่มองและปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นโดยที่ตนตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะจงเกลียดจงชังคนบนเตียงนี้ต่อไปแล้ว

    "ชอบฉวยโอกาสแบบพี่ชุนซุยตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ.."

    แต่เธอก็ทนที่จะบ่นเขาอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ พรางทรุดตัวลงนั่งข้างๆเตียง ส่วนชายหนุ่มก็ขยับขึ้นมาเอนตัวพิงพนักเตียง

    "มือเจ้า..ยังนุ่มเหมือนเดิมเลยนะ"

    เขาว่าพรางเปลี่ยนจากนำมือบางของเธอที่แนบใบหน้าอยู่ นำมาจุมพิตเบาๆที่หลังมือ

    "นะ..นี่ท่าน.."

    การกระทำนั้นทำให้หญิงสาวถึงกับต้องหน้าแดงพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะคล้ายจะระเบิดออกมาและรีบชักมากลับมาทันที

    "เจ้าเขินหรอ โซระ..จัง"

    ชายหนุ่มยิ้มจนตาปิดอย่างชอบใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาหญิงสาวที่เริ่มจะเหมือนเมื่อก่อนเสียแล้ว

    "จะทำได้ใจไปแล้วนะคะ หัวหน้าอุคิทาเกะ"

    โซระเบือนหน้าหนีเพื่อกลบใบหน้าอันแดงก่ำนั้นไปด้วย

    "อ้าว ข้าก็ได้ใจเจ้าไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ"

    หัวใจดวงน้อยแถบระเบิดออกมาจากอก กับคำพูดหยอดมุขห่วยๆของชายหนุ่ม แต่มันช่างแตกต่างกับชายอื่นที่แม้จะมามุขแบบไหนตนก็ไม่รู้สึกเยอะกว่าเท่าชายผู้นี้เลย

    "หยะ..อย่ามามั่วซั่วนะคะ อยากสลบไปอีกซักเดือนหรือไง!"

    "ฮ่าๆ ล้อเล่นน่าๆ เรื่องนั้นข้าไม่มีทางได้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ.."

    "..."

    "เจ้าคงจะฝืนใจน่าดู เพราะงั้นขอบใจที่มาหาข้านะ.."

    เขาว่าพรางหันไปทางหน้าต่างเหมือนกับกำลังบดบังความรู้สึกที่มันขัดกับเสียงหัวเราะอันร่าเริงของเขา

    เพราะตัวเขาที่ทำผิดขนาดนั้นกับเธอ จะไปมีสิทธิ์ได้หัวใจของเธอได้อย่างไร แค่เธอลดตัวมาหาเขาถึงเพียงนี้มันก็มากพอสำหรับคนอย่างเขาแล้ว

    'พรึบ!'

    'พรืด!'

    'ตุบ!'

    "ซะ..โซระจัง"

    โซระกดไหล่ทั้งสองของชายหนุ่มลงให้ล้มลงไปนอนจากที่พิงพนักเตียงอยู่ พรางขึ้นไปคร่อมบนร่างสูงนั้น

    อุคิทาเกะถึงกับอ้ำอึ้งกับการกระทำของเธออย่างไม่เข้าใจ

    "ขนาดนี้ยังไม่เข้าใจอีกหรอคะ!"

    เสียงหวานตะโกนกร้าวออกมาอย่างหัวเสีย ราวกับกำลังร้อนใจอะไรบางอย่าง

    "ถ้าเป็นเมื่อก่อนข้าคงจะฟันมือของท่านให้ขาดสะบั้นที่บังอาจมาแตะต้องตัวข้าไปเสียแล้ว.."

    "..."

    "แต่ในตอนนี้ท่านก็รู้ว่ามันต่าง ทั้งที่เป็นแบบนั้นแล้วไอคำพูดตัดใยเมื่อครู่มันคืออะไร.."

    "..."

    "ข้าน่ะ ยังไม่หายโกรธท่านหรอกอย่าได้ใจไปนักเลย..เพราะงั้น..ฮึก เพราะงั้นก็รีบหายไวๆแล้วลุกมาขอโทษข้าซะ พี่จูชิโร่.."

    ร่างเล็กระบายความอัดอั้นในใจในสภาพที่คร่อมชายหนุ่ม

    หยาดน้ำตาหลั่งรินล่วงหล่นลงมาใส่ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มใต้ร่างพร้อมกับความเจ็บปวดที่ระบายออกมาจากข้างในซึ่งเก็บไว้นานเท่านาน

    ชายหนุ่มได้แต่มองหญิงสาวและรับความรู้สึกนั้นมาอย่างเต็มใจ ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปปาดน้ำของใบหน้าสวยนั้นอย่างนุ่มนวลพรางเลื่อนไปลูบผมดำขลับอย่างอ่อนโยนซึ่งไม่ได้สัมผัสมานานจนจำไม่ได้

    เส้นผมยังคงอ่อนนุ่มในฝ่ามือใหญ่ของเขาเช่นเดิม ความรู้สึกยังคงอบอุ่นเหมือนในความทรงจำครั้งวัยเยาว์ไม่แปรเปลี่ยน

    "พี่เข้าใจแล้ว หยุดร้องเถอะนะ โซระจัง"

    น้ำเสียงอ่อนโยนและนุ่มนวลแฝงไปด้วยความอบอุ่นจากข้างใน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้โซระยังหลงไหลมันจนถึงตอนนี้

    จนเวลาผ่านไปซักพัก หญิงสาวค่อยๆถอนตัวออกมาจากร่างของชายหนุ่ม พรางหันหลังให้

    "ก็บอกแล้วไง ว่าอย่าได้ใจนัก.."

    เสียงหวานที่อ่อนๆเอื้อนเอ่ยออกมาต่างจากถ้อยคำที่ฟังดูห้วนๆอย่างสิ้นเชิง

    "เรื่องวันนั้น ที่ปกป้องข้าไว้..ขอบคุณมากนะ.."

    สิ้นประโยคสุดท้าย ร่างบางก็สาวเท้าเดินออกไปจากห้องทันทีโดยไม่รอให้ชายหนุ่มเอ่ยตอบอะไร

    นัยตาสีดำมองแผ่นหลังของหญิงสาวออกไป ก่อนริมฝีปากจะเผลอผุดยิ้มออกมาอีกรอบ พรางสัมผัสใบหน้าของตนที่ยังคงเปื้อนหยดน้ำตาจากหญิงสาวเมื่อครู่

    ทำให้เขาเห็นถึงความรู้สึกจริงๆมากมายที่กักเก็บเอาไว้มานานจนไม่อาจรู้ได้..

    ในที่สุดเขาก็ได้รู้ซักทีว่าเธอคงยัง เป็นโซระจังของเขาอยู่เช่นเดิม



    อีกด้านนึง

    ณ อูเอโกมุนโด้ ศูนย์บัญชาการใหญ่

    ภายในห้องทำงานใหญ่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา ชายหนุ่มร่างสูงนั่งอยู่ที่เก้าอี้โต๊ะทำงานด้วยท่าทางที่น่าเกรงขราม

    นัยตาคมมองรูปภาพในมือ พร้อมอีกมือที่ถือกาแฟเพื่อนำมาดื่ม

    "ยังเก็บไว้อยู่อีกหรอครับ รูปของเด็กคนนั้นน่ะท่านไอเซ็น.."

    น้ำเสียงยียวนกวรประสาทจากชายที่ยืนอยู่ข้างๆซึ่งมีฐานะเป็นถึงมือขวาของเขา

    "ก็แค่ตัวหมากที่ใช้การไม่ได้ ข้าลืมทิ้งรูปไปเท่านั้น เจ้าเอามันไปทิ้งทีสิ งิน.."

    มือหนาหยื่นรูปให้แก่มือขวาของตนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเปลี่ยนมาจิบกาแฟอีกรอบนึง

    "รับทราบ.."

    ผู้เป็นมือขวา อิชิมารุ งิน เอ่ยตามคำรับสั่งพรางรับรูปนั้นมาแล้วหายออกไปจากห้องเพื่อไปทิ้งตามคำสั่งของเขาผู้เป็นนาย

    เมื่อไอเซ็นเห็นว่ามือขวาของตนออกไปแล้วจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปยังหน้าต่างภายในห้อง

    เมื่อมองออกไปก็พบเพียงความมืดมิดอับแสงจันทร์ที่เคยเห็นภายในที่ที่จากมา ถึงจะมีพระจันทร์แต่มันก็เป็นเพียงสิ่งที่เขาสร้างขึ้นจากพลัง ไม่สวยงามดั่งเช่นของจริงที่เคยเห็น

    "ทำไมในเวลานี้ ข้าต้องคิดถึงรองหัวหน้าอย่างเจ้าที่ข้าไม่เคยต้องการด้วยนะ.."

    นัยตาคมสีน้ำตาลมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง

    ภาพความทรงจำของหญิงสาวและชายหนุ่มที่เคยนั่งกันอยู่บนหลังคาของที่ทำการหน่วยที่5กันเพียงสองคน

    'อะ..เอ๊ะ หัวหน้าไอเซ็น ทำไมมานั่งอยู่นี่ล่ะคะ'

    เสียงหวานจากหญิงสาวที่พึ่งขึ้นมาเอ่ยทักขึ้น เพราะตนคิดว่าจะมานั่งรับลมเพียงคนเดียวและไม่คิดว่าจะมีใครอยู่

    'อ้าวฮินาโมริคุง ยังไม่ไปนอนอีกหรอดึกป่านนี้แล้ว'

    เสียงทุ้มถามขึ้นอย่างนุ่มนวล แต่มันก็เพียงแค่หน้ากากที่ใส่เข้าหาผู้อื่นเหมือนกับทุกคนเพียงเท่านั้น

    'คะ..คือ ข้านอนไม่หลับน่ะค่ะ กะ..ก็พึ่งมาทำงานในฐานะรองหัวหน้านี่คะ มันรู้สึกตื่นเต้นไม่หายเลย'

    หญิงสาวพูดเสียงตะกุกตะกักคล้ายกับกำลังเขินปะปนความประหม่าในใจที่กำลังคุยกับผู้เป็นหัวหน้าขวัญใจของเธออยู่สองคนกลางดึกแบบนี้

    'งั้นหรอ ถ้างั้นก็มานั่งด้วยกันสิ ถือซะว่ามานั่งเป็นเพื่อนข้าแล้วกัน'

    ชายหนุ่มชักชวนหญิงสาวด้วยรอยยิ้มบางๆ เธอชะงักขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทางขวยเขินเช่นเดิม

    'จะดีหรอคะ..'

    'ไม่เป็นไรหรอกน่า..'

    'ถ้าอย่างนั้น ไม่เกรงใจแล้วนะคะ'

    จากนั้นหญิงสาวก็ล้มตัวทรุดนั่งข้างๆชายหนุ่ม พรางมองไปยังพระจันทร์ยามค่ำคืนด้วยแววตาที่ใสซื่อและไร้เดียงสาราวกับผ้าขาวที่ไร้การแต่งแต้ม

    ไอเซ็นเผลอหันไปเหลือบมองใบหน้าของเธออยู่พักนึง ก่อนจะรีบสะบัดความคิดบ้าๆบอๆของเขาออกไปแล้วกลับไปมองพระจันทร์เช่นเดิม

    จู่ๆหญิงสาวก็นำแขนเรียวรวบกอดตนเองเหมือนกำลังรู้สึกหนาวเหน็บเพราะอากาศที่เย็นเยียบยามค่ำคืน

    ชายหนุ่มที่เห็นดังนั้น จู่ๆเขาก็ถอดเสื้อคลุมที่ใส่นอนวันนี้ของตนเองโดยอัตโนมัติก่อนสมองจะคิด แล้วนำมันไปคลุมให้กับร่างเล็ก

    'รู้ว่าหนาว ทีหลังก็อย่าลืมหาอะไรมาคลุมทับด้วยสิ ฮินาโมริคุง'

    คำพูดนั้นแฝงไปด้วยความห่วงอยู่ลึกๆโดยที่ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะห่วงเธอแบบจริงจังขนาดนั้นเสียหน่อย แต่มันก็เผลอไปจนได้..

    'ขะ..ขอโทษที่รบกวนนะคะ'

    ฮินาโมริผงกหัวขอโทษขอโพยอย่างกะรอึกกระอัก ก่อนจะกลบสีหน้าแดงของตนเองโดยหันไปอีกทาง

    ไอเซ็นที่เห็นภาพนั้นจู่ๆเขาก็ผุดรอยยิ้มออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง..

    เอาอีกแล้ว ร่างกายมันไปก่อนความคิดตลอด..

    'สวบ'

    แขนเรียวแกร่งเลื่อนไปโอบร่างเล็กเข้ามาอีกแผ่นอกตน

    'แทนคำขอโทษ ข้าก็ขอความอบอุ่นจากเจ้าบ้างแล้วกัน..'

    ร่างเล็กชะงักไปเล็กน้อย หัวใจดวงน้อยเต้นรัวกระหน่ำไม่เป็นจังหวะคล้ายจะระเบิดออกมา ริมฝีปากบางแอบฉีกยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะค่อยๆเอนใบหน้าแนบลงกับแผ่นอกกว้างของผู้เป็นหัวหน้า

    ดวงตากลมค่อยๆปิดเปลือกตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างไม่รู้ตัวภายในอ้อมแขนของร่างสูง

    ท่ามกลางแสงจันทร์และสายลมอ่อนๆที่พัดผ่านไปในความรู้สึกอบอุ่นของค่ำคืนนี้ เป็นความรู้สึกที่ชายหนุ่มไม่ชอบจนถึงตอนนี้

    ไม่ชอบเพราะมันทำให้เขาควบคุมตนเองไม่ได้

    มันทำให้เขากลายเป็นคนที่อ่อนแอ

    มันทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง

    และการที่หมากไม่ได้เรื่องอย่างเธอมามีผลต่อหัวใจของเขาด้วยเช่นกัน..

    ====================

    Writer talk

    จัดกันไปยาวๆสามคู่นะคะตอนนี้ อย่าลืมคอมเม้นท์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ♡
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×