ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Charpter IV : Villain Appear
ชายหน้ากาก ซึ่งตอนนี้ถูกล่วงรู้ตัวตนในนาม หัวหน้าหน่วยที่5 ไอเซ็น โซสึเกะ มองผู้ที่มาเยือนใหม่อย่างคาดไม่ถึง ราวกับเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดเอาไว้ ก่อนตนจะถอดหน้ากากออกเพราะยังไงมันก็ไม่มีความหมายเมื่อได้ล่วงรู้ถึงตัวตนของตนแล้ว
"คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นเจ้า ยามาโมโตะ โซระ ทั้งที่น่าจะโง่งมปล่อยให้น้องกลั่นแกล้งอยู่แท้ๆ.."
ใบหน้าคมภายใต้หน้ากากถูกเผยออกมาซึ่งก็เป็นไปตามที่โซระกล่าว คนๆนี้คือไปเซ็น โซสึเกะ ชายผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่ดี และมีนิสัยเรียบๆที่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา
อุคิทาเกะที่ฟังอยู่ด้วยนั้นถึงกับชะงักไปเล็กน้อย กลั่นแกล้งงั้นหรอ ทำไมเขาถึงไม่รู้เลยล่ะ
"โอ้โห นี่แกรู้ถึงนิสัยจริงๆของยัยนั่นด้วยงั้นหรอ แสดงว่ายัยนั่นก็มีส่วนร่วมเรื่องคดีนี้ด้วยงั้นสินะ"
ถึงไอเซ็นจะไม่ตอบคำถามเธอ แต่เธอก็พอจะเดาออก ใบหน้าที่แสนใสซื่อเหมือนจะไร้พิษภัยของยัยนั่น แท้จริงภายใต้หน้ากากนั้นเต็มไปด้วยยาพิษที่น่ากลัว
"โซระ อึก..หนีไปซะ นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เจ้าจะชนะได้"
อุคิทาเกะฝืนยันตัวลุกขึ้นมาพร้อมดาบคู่ของตน
"ดูสังขารตัวเองด้วยค่ะ บาดเจ็บขนาดนั้นยังมีแรงมาเตือนคนอื่นเขาอีก"
ถึงจะเป็นถ้อยคำที่เย็นชา แต่มันก็แฝงไปด้วบความห่วงใยจากใจของเธอ เพราะคนที่ทำให้เธอร้อนใจที่สุดจนมาถึงที่นี่ได้ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเขา
"แหมๆ เป็นห่วงกันจริงนะคะ พี่จูชิโร่ ละก็พี่สาวที่แสนน่ารักของมายุมิ~"
ก่อนจะปรากฎผู้มาเยือนใหม่ที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆไอเซ็นซึ่งก็เป็นที่คุ้นเคยกันดีกว่าใครๆอยู่แล้ว ยามาโมโตะ มายุมิ น้องสาวของโซระนั่นเอง แต่สิ่งที่เธอเห็นมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ รู้อยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้
"มายุมิจัง.."
อุคิทาเกะแถบไม่เชื่อสายตาของตนเองกับสิ่งที่เห็น หญิงสาวที่เขาคิดว่าไร้เดียงสาและใสซื่อที่สุด บัดนี้กำลังแสยะยิ้มร้ายๆเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าออกมาจากใบหน้าใสนั้นได้เลย
"ตกใจหรอคะพี่จูชิโร่~ มายุมิก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกน้า ก็พี่จูชิโร่น่ะ ไม่เคยมองข้าเลยซักครั้งนี่น่าา~"
มายุมิเอ่ยขึ้นเสียงใสๆพร้อมกับแสร้งทำสีหน้าซื่อๆ
"วันๆพี่จูชิโร่เอาแต่ถามไถ่เรื่องพี่โซระทั้งวันเลย คิดว่ามายุมิจะทนไหวอย่างนั้นหรอคะ มันน่าเบื่อมากๆเลยรู้มั้ย ทั้งๆมายุมิน่ารักกว่ายัยพี่โซระนั่นแท้ๆแต่ทำไม..แกถึงไม่เคยหันมามองข้าบ้างเลย อุคิทาเกะ.."
ประโยคสุดท้ายของมายุมิเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบเย็นผิดกับทุกครั้งที่เคยได้ยิน ซึ่งสำหรับโซระแล้วเธอชินกับมันไปตั้งนานแล้วล่ะ เพียงแต่ไม่มีใครเคยเห็นธาตุแท้ของตุ๊กตาตัวร้ายอย่างยัยนี่เท่านั้น
"นี่แสดงว่าทั้งหมด มันคือการแสดงให้โซระกลายเป็นตัวร้ายต่อหน้าทุกคนสินะมายุมิจัง.."
เสียงทุ้มเอ่ยเรียบนิ่ง ราวกับกำลังโกรธจนไฟลุกอยู่ด้านใน เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขาได้มองโซระผิดมาตลอดและทำร้ายจิตใจเธอไปในทางอ้อม เพียงเพราะหลงกลภาพหลอกตาที่มาจากหน้ากากของสาวน้อยผู้ใสซื่อ ซึ่งมันทำร้ายจิตใจของคนที่เขา..รักขนาดไหนกัน ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมโซระถึงเกลียดตนได้มากขนาดนี้
"ฮ่าๆๆ! ดูสีหน้าพี่จูชิโร่สิ เป็นสีหน้าที่ดีมากเลยนะคะ แค้นข้างั้นหรอ รู้สึกยังไงกับการที่พึ่งรู้ว่าตัวเองทำร้ายยัยนั่นมากที่สุดล่ะ เจ็บมากมั้ยพี่จูชิโร่~ ^ ^"
มายุมิยั่วโมโหอุคิทาเกะด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ยังเสแสร้งใส่ความใสซื่อ
"ฮารุซาเมะ เผามัน ข้าชักเริ่มจะรำคาญแล้ว.."
หญิงสาวที่ทนเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่กำลังเจ็บปวดขนาดนั้นไม่ไหว ซึ่งมันทำให้ตนโมโหแทนไม่ใช่น้อย จึงเอ่ยสั่งอีกาเพลิงบนไหล่ตน
"จงพุ่งสังหาร ชินโซ"
"..!?"
'ควับ!'
'เคร้ง!'
แต่ยังไม่ทันที่อีกาจะบินออกจาไหล่ไป ก็ต้องตั้งรับคมดาบใหม่จากใครบางคนที่มาจากด้านหลังพรางเบี่ยงทิศทางคมดาบที่ยาวนั่นไปด้านข้างแล้วถอยห่างออกมาทันที
"แกก็เอาด้วยหรอ หัวหน้าอิชิมารุ งิน"
โซระเริ่มหัวเสียขึ้นเมื่อกบทมันเกินกว่าที่คาด ถึงตนจะไม่ค่อยชอบหน้าหัวหน้าหน่วยทีา3 อิชิมารุ งิน ซักเท่าไหร่แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นกบท
"ข้าคิดว่าเจ้าน่าสนใจกะจะหลอกดึงมาเป็นพวกแท้ๆ สายไปหรอเนี่ย.."
งินเอ่ยด้วยรอยยิ้มตาปิดที่แฝงไปด้วยความมุ่งร้ายอย่างคาดไม่ถึง
ก่อนอุคิทาเกะจะรู้สึกถึงจิตสังหารของผู้ที่มาเยือนใหม่อีกคน ซึ่งมุ่งเป้าไปทีตนและโซระ
"โซระระวัง!"
"..!?"
"จงส่งเสียง ซึซึมุชิ.."
'วี๊ดดด!!'
"อึก..เสียงมัน"
โซระปิดหูตัวเองพรางเข่าอ่อนลงด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับโลหิตที่ไหลออกมาจากใบหู แต่ก็ยังพยายามคุมสติของตนไม่ให้สลบไป
"โซระ!"
อุคิทาเกะพุ่งเข้าไปหาโซระและย่อตัวลงไปโอบร่างเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแน่นเพื่อกลบเสียงที่ดังทำลายแก้วหูของเธอ
"โซระไม่เป็นไรนะ อดทนไว้ก่อน"
"อึก..ปวดหัว"
เสียงทุ้มกระซิบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนๆเพื่อช่วยผ่อนครายและไม่ให้เธอเกร็ง
"เจ้า โทเซ็น คาซาเมะ.."
และก็ชายผู้เป็นกบทอีกคน ที่ปรากฎตัวพร้อมกับ
"อา~ ในที่สุดก็ครบแล้ว"
มายุมิว่าพรางแสยะยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะมองภาพที่อุคิทาเกะโอบกอดผู้เป็นพี่สาวของเธอจนทำให้เกิดอารมณ์โทสะขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"ปกป้องกันดีนัก ก็ตายกันซะพวกแก!"
'ตึก ตึกๆๆ!'
และในขณะนั้นเองกำลังเสริมที่โซระให้ไรตะไปเรียกก็กำลังเข้ามาที่นี่
"แย่ๆ ดูเหมือนจะฆ่าไม่ทันซะแล้วนะครับ มายุมิจัง"
"หุบปากเจ้างูพิษ"
งินหันไปเย้ยหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่เดาอารมณ์ไม่ออก ก่อนเธอจะหันไปมองค้อนกับเจ้าตัวอย่างโมโห
"พอๆ ไม่ใช่เวลาที่พวกเจ้าจะมาเถียงกัน ได้แล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปที่ฐานทัพแล้ว"
ว่าจบ มิติทางผ่านที่เรียกว่า อูเอโกมุนโด้ก็เปิดออกพร้อมกับเหล่าฮอลโล่ที่ออกมาต้อนรับ..
"นั่นมันอะไรน่ะ.."
ซุยฟง และคนอื่นๆที่มาถึงต่างตกใจกับภาพที่เห็น พรางครุ่นคิดประมวลผล ว่าเจ้าพวกนั้นกำลังก่อกบทเป็นแน่ถึงได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกฮอลโล่ได้แบบนั้น
แสงสีเหลืองส่องลงมาจากห้วงมิติไปยังพวกที่กบททั้ง4 พวกนั้นค่อยๆลอยตัวขึ้นไปตามลำแสงนั้น
ภาพสุดท้ายที่ได้เห็นคือไอเซ็นถอดและหักแว่นของตนออกพรางมองลงมาจากที่ลอยอยู่กับยมทูตที่มาใหม่และเก่าด้วยสายตาเหยียดๆ ราวกับตนเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า
"ข้าจะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด และจะต้องเหนือกว่าฮอลโล่และยมทูตอย่างพวกเจ้า จำไว้ให้ดี.."
และนี่ก็เป็นประโยคสุดท้ายก่อนเขาและพวกของเขาจะหายไปยังมิตินั้น..
"ไม่ไหวๆ..พวกเจ้าไม่เป็นไรนะอุคิทาเกะ.."
เคียวราคุที่เป็นหนึ่งในกำลังที่มาช่วยเขาเดินเข้ามาถามไถ่อย่างกังวล โดยเฉพาะผู้ที่สลบเมือบอยู่ในอ้อมอกของอุคิทาเกะ
"อ่า มาทันเวลาพอดีเลย เคียวราคุ..อึก"
แต่ถึงเจ้าตัวจะกล่าวเช่นนั้น บาดแผลที่ได้จากไอเซ็นก็ยังสาหัสอยู่ไม่น้อย
"เฮ้อ มันทันเวลาตรงไหนล่ะเนี่ย ไม่ไหวๆ เหมือนข้าจะมาสายนะ.."
เคียวราคุสังเกตเห็นบาดแผลอีกคนถึงกับกุมขมับอย่างรู้สึกผิดในใจ ถ้าเขาเอะใจมากกว่านี้ล่ะก็
"เอาน่าๆ ยังไงก็รับตัวโซระไปก่อนเถอะ"
อุคิทาเกะผละร่างบางที่อ้อมอกออกแล้วส่งให้เคียวราคุรับร่างเธอไปต่อ เพราะตอนนี้โลหิตจากบาดแผลของเขามันเปื้อนที่กิโมโนของเธอไปแล้ว..
เคียวราคุรับร่างบางอุ้มขึ้นมาในอ้อมแขน จากนั้นยมทูตกำลังเสริมก็ทยอยเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นทางโซลโซไซตี้จึงเริ่มการประชุมขึ้นจากเหตุการณ์ขับขันที่ผ่านมา
ณ ห้องประชุมใหญ่
ชายชราร่างสูงน่าเกรงขรามยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าหัวหน้าแห่งสิบสามหน่วยพิทักษ์ จะขาดไปก็แต่อุคิทาเกะที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ อุโนะฮานะ เร็ทซึ หัวหน้าหน่วยแพทย์ของโซลโซไซตี้หน่วยที่4 ซึ่งกำลังรักษาอุคิทาเกะอยู่ และพวกเหล่ากบท
"จากที่ฟังรายงานจากซุยฟงหัวหน้าหน่วยที่2 พวกกบท ตัวบงการก็คือ ไอเซ็น โซสึเกะอดีตหัวหน้าหน่วยที่5 ซึ่งกำลังวิจัยพลังปริศนาที่ทำให้ยมทูตมีพลังแบบฮอลโล่และพัฒนาให้เป็นสิ่งที่เหนือกว่านั้น รวมทั้ง อิชิมารุ งิน อดีตหัวหน้าหน่วยที่3 โทเซ็น คานาเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยที่9 และความผิดพลาดครั้งใหญ่ของตัวข้า บุตรหลานที่ข้าไว้เนื้อเชื่อใจ ยามาโมโตะ มายุมิ อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่1.."
มือเหี่ยวหยาบกร้านกำไม้เท้าที่ข้างในเป็นดาบที่ทรงพลังไว้แน่นอย่างเจ็บใจ โดยเฉพาะกับผู้เป็นบุตรหลานของตน พอนึกถึงเธอแล้ว มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิดต่อบุตรหลานอีกคนของตน ที่ไม่เชื่อใจเธอในวันนั้น
"ใช่แล้วครับ คาดว่าน่าจะต้องวางแผนการร้ายอยู่ที่อูเอโกมุนโด้พร้อมกับพวกฮอลโล่และวิจัยพลังอันน่ากลัวนั้นเพื่อมาโจมตีพวกเราเป็นแน่.."
ฮิสึกายะ โทชิโร่ เด็กหนุ่มอัจฉริยะซึ่งเป็นถึงหัวหน้าหน่วยที่10 ได้คาดการณ์ขึ้นตามการวิเคราะห์
"แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ ดาบฟันวิญญาณของเจ้านั่น เคียวกะซุยเงสึ จากที่ฟังอุคิทาเกะเล่าแล้ว มันเป็นการสะกดโดยสมบูรณ์ ควบคุมสัมผัสทั้ง5น่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็น่าวิจัยเหมือนกัน.."
คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วยวิจัยวิทยาการหน่วยที่12 อัจฉริยะด้านการวิจัยในโซลโซไซตี้กล่าวขึ้นเสริม
"ข้าเห็นด้วยกับคุโรซึจิ ในความน่ากลัวของดาบฟันวิญญาณนั่น และที่มันดึงโทเซ็นไปเป็นพวก เพราะโทเซ็นมีดวงตาที่บอดสนิทจึงไม่เป็นผลกับดาบฟันวิญญาณของมัน.."
โคมามูระ ซาจิน หัวหน้าหน่วยที่7 ผู้ที่มีใบหน้าแปลกประหลาดคลับคล้ายสุนัขแต่ก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในตัว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคานาเมะ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นอดีตไปอย่างน่าเจ็บใจ
"อย่างที่ทุกคนบอก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเริ่มวางการป้องกันที่หนาแน่นขึ้นไปอีก และเริ่มวางแผนตั้งรับกับความเลวร้ายที่จะมาถึง ซึ่งไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็ว แต่ข้าคาดว่ามันคงต้องใช้เวลาเตรียมการอยู่บ้าง ซุยฟง อายาเมะ หลังประชุมมาพบข้าที่ห้องทำงาน จากนี้ก็แยกย้ายได้"
หลังจากนั้นหัวหน้าหน่วยต่างพากันแยกตัวออกไป
ซุยฟงที่ได้รับคำสั่งเมื่อครู่เดินตามท่านหัวหน้าใหญ่ไปที่ห้องทำงานตามคำสั่งของเขาทันที
"มีอะไรงั้นหรือคะ ท่านเก็นริวไซ"
เธอถามขึ้นด้วยถ้อยคำที่สุภาพและท่าทางที่นอบน้อม
"โซระ หลานข้าเป็นอย่างไรบ้าง.."
ซุยฟงชะงักเล็กน้อย เพราะที่น่าแปลกกว่าประโยคนั้นคือ น้ำเสียงที่ดูอ่อนลงราวกำลังกังวลใจ..
"เธอมีอาการบาดเจ็บที่แก้วหู นอนพักอยู่ที่หน่วยแพทย์ค่ะ ตอนนี้อุโนะฮานะคงกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของเธออยู่ อย่าได้กังวลเลยค่ะ.."
"งั้นหรอ ขอบใจที่เมตตาหลานข้ามาตลอด เจ้าเป็นคนเดียวที่สนิทและดีกับเธอ ขอบใจมาก"
เขาเอ่ยขึ้นในฐานะที่เป็นปู่ของโซระเป็นครั้งแรก คาดว่าคงจะรู้สึกผิดกับเธอหนักเอาการเลยจริงๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับโซระ เธอเป็นเพื่อนที่ดีของข้าอยู่แล้ว.."
"อ่า ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าไปได้แล้วล่ะ.."
"ค่ะ ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว.."
เธอโค้งตัวให้คนตรงหน้า ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เจ้าของร่างชายชราเดินไปที่ระเบียงพรางมองไปที่พระอาทิตย์ที่จวนจะตกดิน..
ภาพเด็กสาวที่เป็นบุตรหลานของเธอก็ปรากฎมาในความทรงจำ พร้อมกับรอยยิ้มที่สดไส้ไร้มลทิน
ทำไมต้องมาคิดถึงภาพเหล่านี้ในเวลาที่สายเกินไปแบบนี้นะ จะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้ มันคงจะไม่ทันแล้วจริงๆ..
Writer talk
ในที่สุดทุกคนก็รู้ว่าใครคือนางร้ายตัวจริงซักที คือดีย์ จากนี้ความสัมพันธ์ปู่หลานของโซระ รวมถึงอุคิทาเกะนั้นจะเป็นยังไง รอดูตอนต่อไปได้เลยครับ
"คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นเจ้า ยามาโมโตะ โซระ ทั้งที่น่าจะโง่งมปล่อยให้น้องกลั่นแกล้งอยู่แท้ๆ.."
ใบหน้าคมภายใต้หน้ากากถูกเผยออกมาซึ่งก็เป็นไปตามที่โซระกล่าว คนๆนี้คือไปเซ็น โซสึเกะ ชายผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่ดี และมีนิสัยเรียบๆที่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา
อุคิทาเกะที่ฟังอยู่ด้วยนั้นถึงกับชะงักไปเล็กน้อย กลั่นแกล้งงั้นหรอ ทำไมเขาถึงไม่รู้เลยล่ะ
"โอ้โห นี่แกรู้ถึงนิสัยจริงๆของยัยนั่นด้วยงั้นหรอ แสดงว่ายัยนั่นก็มีส่วนร่วมเรื่องคดีนี้ด้วยงั้นสินะ"
ถึงไอเซ็นจะไม่ตอบคำถามเธอ แต่เธอก็พอจะเดาออก ใบหน้าที่แสนใสซื่อเหมือนจะไร้พิษภัยของยัยนั่น แท้จริงภายใต้หน้ากากนั้นเต็มไปด้วยยาพิษที่น่ากลัว
"โซระ อึก..หนีไปซะ นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เจ้าจะชนะได้"
อุคิทาเกะฝืนยันตัวลุกขึ้นมาพร้อมดาบคู่ของตน
"ดูสังขารตัวเองด้วยค่ะ บาดเจ็บขนาดนั้นยังมีแรงมาเตือนคนอื่นเขาอีก"
ถึงจะเป็นถ้อยคำที่เย็นชา แต่มันก็แฝงไปด้วบความห่วงใยจากใจของเธอ เพราะคนที่ทำให้เธอร้อนใจที่สุดจนมาถึงที่นี่ได้ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเขา
"แหมๆ เป็นห่วงกันจริงนะคะ พี่จูชิโร่ ละก็พี่สาวที่แสนน่ารักของมายุมิ~"
ก่อนจะปรากฎผู้มาเยือนใหม่ที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆไอเซ็นซึ่งก็เป็นที่คุ้นเคยกันดีกว่าใครๆอยู่แล้ว ยามาโมโตะ มายุมิ น้องสาวของโซระนั่นเอง แต่สิ่งที่เธอเห็นมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ รู้อยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้
"มายุมิจัง.."
อุคิทาเกะแถบไม่เชื่อสายตาของตนเองกับสิ่งที่เห็น หญิงสาวที่เขาคิดว่าไร้เดียงสาและใสซื่อที่สุด บัดนี้กำลังแสยะยิ้มร้ายๆเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าออกมาจากใบหน้าใสนั้นได้เลย
"ตกใจหรอคะพี่จูชิโร่~ มายุมิก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกน้า ก็พี่จูชิโร่น่ะ ไม่เคยมองข้าเลยซักครั้งนี่น่าา~"
มายุมิเอ่ยขึ้นเสียงใสๆพร้อมกับแสร้งทำสีหน้าซื่อๆ
"วันๆพี่จูชิโร่เอาแต่ถามไถ่เรื่องพี่โซระทั้งวันเลย คิดว่ามายุมิจะทนไหวอย่างนั้นหรอคะ มันน่าเบื่อมากๆเลยรู้มั้ย ทั้งๆมายุมิน่ารักกว่ายัยพี่โซระนั่นแท้ๆแต่ทำไม..แกถึงไม่เคยหันมามองข้าบ้างเลย อุคิทาเกะ.."
ประโยคสุดท้ายของมายุมิเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบเย็นผิดกับทุกครั้งที่เคยได้ยิน ซึ่งสำหรับโซระแล้วเธอชินกับมันไปตั้งนานแล้วล่ะ เพียงแต่ไม่มีใครเคยเห็นธาตุแท้ของตุ๊กตาตัวร้ายอย่างยัยนี่เท่านั้น
"นี่แสดงว่าทั้งหมด มันคือการแสดงให้โซระกลายเป็นตัวร้ายต่อหน้าทุกคนสินะมายุมิจัง.."
เสียงทุ้มเอ่ยเรียบนิ่ง ราวกับกำลังโกรธจนไฟลุกอยู่ด้านใน เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขาได้มองโซระผิดมาตลอดและทำร้ายจิตใจเธอไปในทางอ้อม เพียงเพราะหลงกลภาพหลอกตาที่มาจากหน้ากากของสาวน้อยผู้ใสซื่อ ซึ่งมันทำร้ายจิตใจของคนที่เขา..รักขนาดไหนกัน ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมโซระถึงเกลียดตนได้มากขนาดนี้
"ฮ่าๆๆ! ดูสีหน้าพี่จูชิโร่สิ เป็นสีหน้าที่ดีมากเลยนะคะ แค้นข้างั้นหรอ รู้สึกยังไงกับการที่พึ่งรู้ว่าตัวเองทำร้ายยัยนั่นมากที่สุดล่ะ เจ็บมากมั้ยพี่จูชิโร่~ ^ ^"
มายุมิยั่วโมโหอุคิทาเกะด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ยังเสแสร้งใส่ความใสซื่อ
"ฮารุซาเมะ เผามัน ข้าชักเริ่มจะรำคาญแล้ว.."
หญิงสาวที่ทนเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่กำลังเจ็บปวดขนาดนั้นไม่ไหว ซึ่งมันทำให้ตนโมโหแทนไม่ใช่น้อย จึงเอ่ยสั่งอีกาเพลิงบนไหล่ตน
"จงพุ่งสังหาร ชินโซ"
"..!?"
'ควับ!'
'เคร้ง!'
แต่ยังไม่ทันที่อีกาจะบินออกจาไหล่ไป ก็ต้องตั้งรับคมดาบใหม่จากใครบางคนที่มาจากด้านหลังพรางเบี่ยงทิศทางคมดาบที่ยาวนั่นไปด้านข้างแล้วถอยห่างออกมาทันที
"แกก็เอาด้วยหรอ หัวหน้าอิชิมารุ งิน"
โซระเริ่มหัวเสียขึ้นเมื่อกบทมันเกินกว่าที่คาด ถึงตนจะไม่ค่อยชอบหน้าหัวหน้าหน่วยทีา3 อิชิมารุ งิน ซักเท่าไหร่แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นกบท
"ข้าคิดว่าเจ้าน่าสนใจกะจะหลอกดึงมาเป็นพวกแท้ๆ สายไปหรอเนี่ย.."
งินเอ่ยด้วยรอยยิ้มตาปิดที่แฝงไปด้วยความมุ่งร้ายอย่างคาดไม่ถึง
ก่อนอุคิทาเกะจะรู้สึกถึงจิตสังหารของผู้ที่มาเยือนใหม่อีกคน ซึ่งมุ่งเป้าไปทีตนและโซระ
"โซระระวัง!"
"..!?"
"จงส่งเสียง ซึซึมุชิ.."
'วี๊ดดด!!'
"อึก..เสียงมัน"
โซระปิดหูตัวเองพรางเข่าอ่อนลงด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับโลหิตที่ไหลออกมาจากใบหู แต่ก็ยังพยายามคุมสติของตนไม่ให้สลบไป
"โซระ!"
อุคิทาเกะพุ่งเข้าไปหาโซระและย่อตัวลงไปโอบร่างเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแน่นเพื่อกลบเสียงที่ดังทำลายแก้วหูของเธอ
"โซระไม่เป็นไรนะ อดทนไว้ก่อน"
"อึก..ปวดหัว"
เสียงทุ้มกระซิบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนๆเพื่อช่วยผ่อนครายและไม่ให้เธอเกร็ง
"เจ้า โทเซ็น คาซาเมะ.."
และก็ชายผู้เป็นกบทอีกคน ที่ปรากฎตัวพร้อมกับ
"อา~ ในที่สุดก็ครบแล้ว"
มายุมิว่าพรางแสยะยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะมองภาพที่อุคิทาเกะโอบกอดผู้เป็นพี่สาวของเธอจนทำให้เกิดอารมณ์โทสะขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"ปกป้องกันดีนัก ก็ตายกันซะพวกแก!"
'ตึก ตึกๆๆ!'
และในขณะนั้นเองกำลังเสริมที่โซระให้ไรตะไปเรียกก็กำลังเข้ามาที่นี่
"แย่ๆ ดูเหมือนจะฆ่าไม่ทันซะแล้วนะครับ มายุมิจัง"
"หุบปากเจ้างูพิษ"
งินหันไปเย้ยหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่เดาอารมณ์ไม่ออก ก่อนเธอจะหันไปมองค้อนกับเจ้าตัวอย่างโมโห
"พอๆ ไม่ใช่เวลาที่พวกเจ้าจะมาเถียงกัน ได้แล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปที่ฐานทัพแล้ว"
ว่าจบ มิติทางผ่านที่เรียกว่า อูเอโกมุนโด้ก็เปิดออกพร้อมกับเหล่าฮอลโล่ที่ออกมาต้อนรับ..
"นั่นมันอะไรน่ะ.."
ซุยฟง และคนอื่นๆที่มาถึงต่างตกใจกับภาพที่เห็น พรางครุ่นคิดประมวลผล ว่าเจ้าพวกนั้นกำลังก่อกบทเป็นแน่ถึงได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกฮอลโล่ได้แบบนั้น
แสงสีเหลืองส่องลงมาจากห้วงมิติไปยังพวกที่กบททั้ง4 พวกนั้นค่อยๆลอยตัวขึ้นไปตามลำแสงนั้น
ภาพสุดท้ายที่ได้เห็นคือไอเซ็นถอดและหักแว่นของตนออกพรางมองลงมาจากที่ลอยอยู่กับยมทูตที่มาใหม่และเก่าด้วยสายตาเหยียดๆ ราวกับตนเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า
"ข้าจะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด และจะต้องเหนือกว่าฮอลโล่และยมทูตอย่างพวกเจ้า จำไว้ให้ดี.."
และนี่ก็เป็นประโยคสุดท้ายก่อนเขาและพวกของเขาจะหายไปยังมิตินั้น..
"ไม่ไหวๆ..พวกเจ้าไม่เป็นไรนะอุคิทาเกะ.."
เคียวราคุที่เป็นหนึ่งในกำลังที่มาช่วยเขาเดินเข้ามาถามไถ่อย่างกังวล โดยเฉพาะผู้ที่สลบเมือบอยู่ในอ้อมอกของอุคิทาเกะ
"อ่า มาทันเวลาพอดีเลย เคียวราคุ..อึก"
แต่ถึงเจ้าตัวจะกล่าวเช่นนั้น บาดแผลที่ได้จากไอเซ็นก็ยังสาหัสอยู่ไม่น้อย
"เฮ้อ มันทันเวลาตรงไหนล่ะเนี่ย ไม่ไหวๆ เหมือนข้าจะมาสายนะ.."
เคียวราคุสังเกตเห็นบาดแผลอีกคนถึงกับกุมขมับอย่างรู้สึกผิดในใจ ถ้าเขาเอะใจมากกว่านี้ล่ะก็
"เอาน่าๆ ยังไงก็รับตัวโซระไปก่อนเถอะ"
อุคิทาเกะผละร่างบางที่อ้อมอกออกแล้วส่งให้เคียวราคุรับร่างเธอไปต่อ เพราะตอนนี้โลหิตจากบาดแผลของเขามันเปื้อนที่กิโมโนของเธอไปแล้ว..
เคียวราคุรับร่างบางอุ้มขึ้นมาในอ้อมแขน จากนั้นยมทูตกำลังเสริมก็ทยอยเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นทางโซลโซไซตี้จึงเริ่มการประชุมขึ้นจากเหตุการณ์ขับขันที่ผ่านมา
ณ ห้องประชุมใหญ่
ชายชราร่างสูงน่าเกรงขรามยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าหัวหน้าแห่งสิบสามหน่วยพิทักษ์ จะขาดไปก็แต่อุคิทาเกะที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ อุโนะฮานะ เร็ทซึ หัวหน้าหน่วยแพทย์ของโซลโซไซตี้หน่วยที่4 ซึ่งกำลังรักษาอุคิทาเกะอยู่ และพวกเหล่ากบท
"จากที่ฟังรายงานจากซุยฟงหัวหน้าหน่วยที่2 พวกกบท ตัวบงการก็คือ ไอเซ็น โซสึเกะอดีตหัวหน้าหน่วยที่5 ซึ่งกำลังวิจัยพลังปริศนาที่ทำให้ยมทูตมีพลังแบบฮอลโล่และพัฒนาให้เป็นสิ่งที่เหนือกว่านั้น รวมทั้ง อิชิมารุ งิน อดีตหัวหน้าหน่วยที่3 โทเซ็น คานาเมะ อดีตหัวหน้าหน่วยที่9 และความผิดพลาดครั้งใหญ่ของตัวข้า บุตรหลานที่ข้าไว้เนื้อเชื่อใจ ยามาโมโตะ มายุมิ อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่1.."
มือเหี่ยวหยาบกร้านกำไม้เท้าที่ข้างในเป็นดาบที่ทรงพลังไว้แน่นอย่างเจ็บใจ โดยเฉพาะกับผู้เป็นบุตรหลานของตน พอนึกถึงเธอแล้ว มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิดต่อบุตรหลานอีกคนของตน ที่ไม่เชื่อใจเธอในวันนั้น
"ใช่แล้วครับ คาดว่าน่าจะต้องวางแผนการร้ายอยู่ที่อูเอโกมุนโด้พร้อมกับพวกฮอลโล่และวิจัยพลังอันน่ากลัวนั้นเพื่อมาโจมตีพวกเราเป็นแน่.."
ฮิสึกายะ โทชิโร่ เด็กหนุ่มอัจฉริยะซึ่งเป็นถึงหัวหน้าหน่วยที่10 ได้คาดการณ์ขึ้นตามการวิเคราะห์
"แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ ดาบฟันวิญญาณของเจ้านั่น เคียวกะซุยเงสึ จากที่ฟังอุคิทาเกะเล่าแล้ว มันเป็นการสะกดโดยสมบูรณ์ ควบคุมสัมผัสทั้ง5น่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็น่าวิจัยเหมือนกัน.."
คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วยวิจัยวิทยาการหน่วยที่12 อัจฉริยะด้านการวิจัยในโซลโซไซตี้กล่าวขึ้นเสริม
"ข้าเห็นด้วยกับคุโรซึจิ ในความน่ากลัวของดาบฟันวิญญาณนั่น และที่มันดึงโทเซ็นไปเป็นพวก เพราะโทเซ็นมีดวงตาที่บอดสนิทจึงไม่เป็นผลกับดาบฟันวิญญาณของมัน.."
โคมามูระ ซาจิน หัวหน้าหน่วยที่7 ผู้ที่มีใบหน้าแปลกประหลาดคลับคล้ายสุนัขแต่ก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในตัว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคานาเมะ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นอดีตไปอย่างน่าเจ็บใจ
"อย่างที่ทุกคนบอก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเริ่มวางการป้องกันที่หนาแน่นขึ้นไปอีก และเริ่มวางแผนตั้งรับกับความเลวร้ายที่จะมาถึง ซึ่งไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็ว แต่ข้าคาดว่ามันคงต้องใช้เวลาเตรียมการอยู่บ้าง ซุยฟง อายาเมะ หลังประชุมมาพบข้าที่ห้องทำงาน จากนี้ก็แยกย้ายได้"
หลังจากนั้นหัวหน้าหน่วยต่างพากันแยกตัวออกไป
ซุยฟงที่ได้รับคำสั่งเมื่อครู่เดินตามท่านหัวหน้าใหญ่ไปที่ห้องทำงานตามคำสั่งของเขาทันที
"มีอะไรงั้นหรือคะ ท่านเก็นริวไซ"
เธอถามขึ้นด้วยถ้อยคำที่สุภาพและท่าทางที่นอบน้อม
"โซระ หลานข้าเป็นอย่างไรบ้าง.."
ซุยฟงชะงักเล็กน้อย เพราะที่น่าแปลกกว่าประโยคนั้นคือ น้ำเสียงที่ดูอ่อนลงราวกำลังกังวลใจ..
"เธอมีอาการบาดเจ็บที่แก้วหู นอนพักอยู่ที่หน่วยแพทย์ค่ะ ตอนนี้อุโนะฮานะคงกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของเธออยู่ อย่าได้กังวลเลยค่ะ.."
"งั้นหรอ ขอบใจที่เมตตาหลานข้ามาตลอด เจ้าเป็นคนเดียวที่สนิทและดีกับเธอ ขอบใจมาก"
เขาเอ่ยขึ้นในฐานะที่เป็นปู่ของโซระเป็นครั้งแรก คาดว่าคงจะรู้สึกผิดกับเธอหนักเอาการเลยจริงๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับโซระ เธอเป็นเพื่อนที่ดีของข้าอยู่แล้ว.."
"อ่า ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าไปได้แล้วล่ะ.."
"ค่ะ ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว.."
เธอโค้งตัวให้คนตรงหน้า ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เจ้าของร่างชายชราเดินไปที่ระเบียงพรางมองไปที่พระอาทิตย์ที่จวนจะตกดิน..
ภาพเด็กสาวที่เป็นบุตรหลานของเธอก็ปรากฎมาในความทรงจำ พร้อมกับรอยยิ้มที่สดไส้ไร้มลทิน
ทำไมต้องมาคิดถึงภาพเหล่านี้ในเวลาที่สายเกินไปแบบนี้นะ จะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้ มันคงจะไม่ทันแล้วจริงๆ..
====================
Writer talk
ในที่สุดทุกคนก็รู้ว่าใครคือนางร้ายตัวจริงซักที คือดีย์ จากนี้ความสัมพันธ์ปู่หลานของโซระ รวมถึงอุคิทาเกะนั้นจะเป็นยังไง รอดูตอนต่อไปได้เลยครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น