ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Charpter II : Brother in memory
หลังจากนั้นหญิงสาวได้พาร่างของตนไปยังที่ที่นึง เป็นที่ๆเธอชอบไปเวลาที่เธอรู้ไม่สบายใจ หรือเวลาเป็นทุกข์ ซึ่งตอนนี้เธอก็รู้สึกแบบนั้น
รอบๆเต็มไปด้วยผืนหญ้า มีดอกไม้ประดับตบแต่งไว้อย่างสวยงาม ลมพัดโชยอ่อนๆ เรือนผมสีดำขลับไหวไปตามลมเล็กน้อย
ร่างบางทรุดตัวนั่งลงกอดเข่า พรางซุกหน้าลงไป ชายที่เธอน่าจะเกลียดหรือสมควรจะเกลียดแต่ทำไมจนตอนนี้ถึงยังเกลียดไม่ลงกัน การกระทำทุกๆอย่างทำไมมันถึงยังมีผลต่อหัวใจที่น่าจะโดนแช่แข็งไปแล้วของเธอได้อยู่ตลอด
ภาพที่น่าที่สะอิดสะเอียนแบบนั้น ทำไมต้องไปเจ็บปวดกับมันด้วยล่ะโซระ
เธอเฝ้าถามตัวเองในใจอยู่หลายๆครั้ง ซึ่งคำตอบเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ก็คือ ความรู้สึกที่ยังคงอยู่และไม่จางหายไปซักที
ศีรษะของเธอที่เคยมีฝ่ามือใหญ่และอบอุ่นของคนๆนึงชอบมาจับและลูบมันด้วยความเอ็นดู ภาพนั้นยังคงฝังอยู่ในใจ ซึ่งในตอนนี้ มันกลับเป็นน้องสาวของเธอที่ได้รับสัมผัสแบบนั้น
ถ้าถามว่าเจ็บใจมั้ย เป็นใครมันก็อดไม่ได้หรอกจริงมั้ย แต่ถ้าจะให้เล่นตีสองหน้าแบบนั้นสำหรับเธอไม่ไหวหรอก และไม่คิดจะทำด้วยซ้ำ การกระทำเรียกร้องความสนใจแบบนั้น..
'ตึก'
'ตึก'
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาหาหญิงสาวจากใครบางคน ถึงไม่ต้องเดาเธอก็รู้ได้จากแรงดันวิญญาณจากเจ้าของร่างนั้น
"มีธุระอะไรหรอคะ หัวหน้าอุคิทาเกะ"
บุคคลที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในหัวสมองนั่นเอง มาได้จังหวะอะไรแบบนี้กันนะ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมาทำไมกัน!
ร่างบางเงยหน้าขึ้นจากที่ซุกอยู่เมื่อครู่ พรางลุกขึ้นยืนและหันไปมองผู้ที่มาเยือนใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
และสิ่งที่เธอเห็นจากนัยต์ตาสีดำนั่นมันก็เหมือนเดิม เป็นสายตาที่เฝ้าถามอยู่ซ้ำๆว่า ทำไม ทำไม ทำไม เธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้
ทั้งที่เขาน่าจะรู้ตัวที่สุดแท้ๆว่าได้ทำอะไรลงไป ไม่สิมันไม่ใช่ความผิดเขา มันเป็นความผิดของเธอเองที่ไปเชื่อใจและไว้ใจคนอย่างเขามากขนาดนั้นนี่นะ
"หัวใจของเจ้ายัง มีอยู่มั้ย.."
นั่นเป็นคำถามที่เอ่ยออกมาจากปากเขาในตอนนี้ พร้อมกับสีหน้าที่เหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง
ซึ่งร่างบางเองก็ไม่เคยรู้เช่นกัน ว่าคนอย่างเขา ก็เจ็บปวดไม่ใช่น้อยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้
"หรือมันอาจจะมี แต่มันถูกแช่แข็งไปแล้วล่ะโซระ.."
สายตาทั้งคู่มองเข้าหากันแต่ต่างคนต่างก็ยังไม่เข้าใจในความหมายของจากข้างในนั้นเลย ก่อนโซระจะหลบสายตาอีกคนหลังจากจบประโยค..
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน ยังไงสำหรับท่านตอนนี้แล้วข้าก็เป็นนางร้ายมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่.."
"ใช่เจ้ามันร้าย.."
"..!?"
ร่างสูงว่าพรางสาวเท้าเข้ามาใกล้เธอจนห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ ร่างบางที่จะขยับถอยห่างต้องหยุด เมื่อแขนเรียวรวบรัดเอวของเธอไว้แล้วดึงเข้ามาหาตัว
เธอมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจ เขากำลังเล่นอะไรกัน
"แต่ข้าจะทำให้นางร้ายอย่างเจ้า กลับมาเป็นนางเอกเอง.."
"..."
หญิงสาวถึงกลับเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง เขาน่ะหรอต้องการให้เธอกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทำไมกันล่ะ ทั้งที่ตอนนี้ในสายตาของเขาก็ยอมรับว่าเธอเป็นนางร้ายแล้ว
"ข้าจะทำให้เจ้า กลับมาเป็นเหมือนเดิมโซระ.."
เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหนักแน่นพร้อมกับแววตาที่มุ่งมั่น
มือบางกำชายกิโมโนของชายหนุ่มแน่น นัยต์ตาสีม่วงคู่สวยสั่นไหวขึ้นพร้อมกับคำถามในใจเป็นร้อยๆคำ แต่ตนก็ไม่กล้าเอ่ยมันออกมาซักคำ
"ไร้สาระ.."
เมื่อเธอได้สติจากห้วงความคิดชั่วครู่ก็รีบผลั่กร่างสูงออกไปทันที
เธอไม่ใช่โซระที่แสนอ่อนแอแบบนั้นแล้ว ความรู้สึกแบบนั้นมันไร้สาระ มันไร้สาระ! มันไม่ควรจะมี โดยเฉพาะความเชื่อใจไอคนตรงหน้า!
"สายตาแบบนั้น เจ้าไม่เชื่องั้นสินะ"
เขาถามขึ้นอีกครั้งพรางหลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ มันคงจะยากกับการให้เธอมาเชื่อเขางั้นสินะ
"ขอโทษนะ ถ้าข้าเคยทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจ ข้าก็อาจจะโง่อย่างที่ซุยฟงว่าจริงๆนั่นแหละ ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าเลย"
เขาก้มหน้ารับความผิดทั้งที่ตนยังไม่รู้เหมือนกันว่าเคยทำอะไรให้เธอเกลียดได้ถึงขนาดนี้
"งั้นก็จงโง่ต่อไปแบบนั้นข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ขอตัวล่ะ"
ไอสีหน้ารู้สึกผิดแบบนั้นมันอะไร พึ่งจะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้งั้นหรอ มันสายไปมั้ย มันสายไปมั้ย พี่จูชิโร่..
เธอคิดพรางเดินผ่านเขาออกไปด้วยความรู้สึกที่ยังคงอัดแน่นที่หัวใจอย่างไม่เลือนหาย หยาดน้ำตาค่อยๆรินไหลผ่านดวงตาคู่สวยนั้นอย่างช้าๆ
มือบาดปาดน้ำตาออกไปอย่างลวกๆพรางรีบวิ่งออกไปที่หน่วยของตน
"โซระจัง~"
ในขณะที่เธอกำลังตรงไปที่หน่วย ระหว่างทางก็เจอกับชายหนุ่มเจ้าสำราญที่โบกมือทักทายเธอ
"หัวหน้า-"
"พี่ชุนซุยสิ.."
นิ้วเรียวทาบที่ริมฝีปากปากบางหยุดคำพูดของโซระไปกลางคัน พร้อมกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่หยื่นเข้ามาใกล้ๆ ก่อนเขาจะผละออกไปเมื่อว่าจบ
"พะ..พี่ชุนซุย มีอะไรงั้นหรอ"
เธอรู้สึกประหม่าขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่ได้เรียกเขาว่าพี่มาตั้งนาน นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง..
"ไปนั่งจิบชาคุยกันหน่อยมั้ย.."
โซระงุนงงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไรและก็ไม่ได้ปฏิเสธพรางเดินตามเคียวราคุไปที่หน่วยของเขา
ณ ห้องรับรองหน่วยที่8
"เอ่อ..ที่ว่าจิบชานี่มัน"
โซระต้องทำสีหน้าเนือยๆขึ้นกับชาที่ชายหนุ่มบอก ซึ่งมันไม่ใช่ชาแต่กลับเป็นสาเกของโปรดของเขาต่างหาก
"ใจเย็นๆก่อนสิ ข้าไม่ให้เจ้าดื่มสาเกนี่หรอกน่า"
เมื่อสิ้นเสียงชายหนุ่ม รองหัวหน้านานาโอะก็นำทาดชาเขาเสริฟให้แก่โซระ ทำให้เธอโล่งใจขึ้นทันทีคิดว่าจะต้องดื่มสาเกแล้วซะอีก
มือบางหยิบชาที่นานาโอะรินไว้ให้เธอเมื่อครู่ขึ้นมาจิบนิดนึง ก่อนจะวางลงที่เดิม
"แล้วพี่ชุนซุยมีอะไรจะคุยงั้นหรอคะ"
โซระเปิดประเด็นถามขึ้น เพราะไม่อยากจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอย่างไร้ประโยชน์
"โซระจัง นี่ก็นานแล้วนะที่เราไม่ได้คุยกันเหมือนอย่างพี่น้องแบบนี้.."
เคียวราคุกล่าวขึ้นพรางแก้วสาเกขึ้นมาดื่ม
"ก็..นะคะ"
โซระตอบแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังจะบอกอะไรกันแน่
"จำได้มั้ยตอนโซระจังยังเด็ก เจ้าติดใครมากที่สุด"
จำได้ไม่เคยลืมเลยล่ะ
เธอตอบเขาในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
"ทำไมหรอคะ"
"ฮะๆ แหมๆ ก็ตอนนั้นโซระจังน่ารักมากๆเลยนี่น่า น่าคิดถึงจะตาย แต่แปปๆก็โตเป็นสาวสวยขนาดนี้แล้ว"
"งั้นหรอคะ แต่นั่นมันก็แค่อดีตน่ะค่ะ อย่าไปพูดถึงเลย"
ดวงตาสีม่วงคู่สวยอ่อนแสงลงเล็กน้อย บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะเธอไม่อยากจะนึกถึงมัน เธอในอดีตกับเธอในตอนนี้มันคนละคนกันไปแล้ว
"แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขใช่มั้ยล่ะ.."
"อะ.."
ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธคำพูดเมื่อครู่ของเขาได้เลย
มีความสุข งั้นหรอ..
'พี่ซุนชุย~ แกล้งข้าอะแงๆ~ T ₩ T'
เด็กสาวดวงตากลมโต เรือนผมดำปะบ่า กำลังร้องให้งอแง เนื่องจากโดนผู้เป็นพี่ชายเจ้าสำราญของเธอแกล้ง
'โอ๋ๆ ขะ..ข้าขอโทษ อย่าร้องให้เลยนะ แกล้งนิดเดียวเองแหมๆ = ='
ชายหนุ่มเจ้าสำราญปลอบเธออย่างตระหนกเล็กน้อย เพราะทำอะไรไม่ถูกเวลาเธอร้องให้ แต่ก็ขยันแกล้งจริงๆ..
'เอาอีกแล้วนะเคียวราคุ..แกล้งโซระจังอีกแล้วงั้นหรอ'
'พี่จูชิโร่ แง~~'
ทันทีที่เห็นชายหนุ่มที่พึ่งมาเยือนใหม่ เด็กสาวก็รีบวิ่งไปกระโดดเกาะขาเขาทันที
'โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับเด็กดีๆ'
ร่างสูงย่อตัวลงในอยู่ระดับเดียวกับเธอ พรางดึงเธอเข้ามากอดปลอบและลูบผมอย่างอ่อนโยน
'แหมๆ ก็โซระน่าแกล้งนี่น่า'
'เจ้าน่ะเงียบไปเลยเคียวราคุ'
อุคิทาเกะหันไปดุใส่ผู้เป็นเพื่อนทงแสนจะแสบของตน ให้อยู่ด้วยสองคนทีไรต้องทำให้เธอร้องให้ได้ทุกที
'กะ..ก็'
'พอเลยไม่ต้องพูดเจ้าบ้าเอ้ย..เดี๋ยวข้าพาโซระไปเล่นเอง เจ้าน่ะรออยู่นี่เลย'
'โหดร้ายT T'
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็จูงมือเด็กสาวเดินไปที่ทุ้งดอกไม้ในที่ที่หนึ่ง
'พี่จูชิโร่~ ต้นไม้ต้นนั้นสวยจังเลย'
เด็กสาวชี้ไปที่ต้นที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูที่บานสะพรั่งและล่วงหล่นลงมา หรือก็คือซากุระนั่นเอง
'ต้นซากุระไงล่ะ โซระจัง'
'ซากุระหรอ สวยจังเลย..'
ว่าจบอุคิมาเกะก็พาหญิงสาวเดินไปที่ต้นซากุระ พรางนำดอกซากุระที่ล่วงหล่นจากพื้นแต่ก็ยังคงสวยงามนั้นมาใส่ที่ฝ่ามือเล็กของเด็กสาว
โซระมองซากุระในมือด้วยแววตาที่เปล่งประกายอย่างไร้เดียงสา
'ขอบคุณนะคะพี่จูชิโร่> <'
เด็กสาวหันมาฉีกยิ้มให้อุคิทาเกะพรางค่อยๆปล่อยซากุระในล่วงลงสู่พื้นด้วยสีหน้าที่หลงไหล..ทำให้ชายหนุ่มอดจะยิ้มตามออกมาไม่ได้ ก่อนตนจะย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเธอ พร้อมกับกอบกุมมือบางไว้ทั้งสอง
'นี่โซระจัง..'
เขาว่าพรางเอื้อมมือไปสัมผัสพวงแก้มของใบหน้าเด็กสาวอย่างนุ่มนวล
'คะ..'
จู่ๆหัวใจของเด็กสาวก็สั่นรัวขึ้นโดยที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจความหมาย
'โซระจังรักพี่จูชิโร่มั้ย..'
คำถามนั้นสร้างความร้อนผ่าวที่ใบหน้าใสของเด็กสาวขึ้นพร้อมกับแดงระรื่อโดยไม่รู้ตัว ก่อนเธอจะผุดยิ้มออกมาบางๆ
'รักสิ โซระรักพี่จูชิโร่ที่สุดเลย..'
มือเล็กกอบกุมฝ่ามือใหญ่ที่จับใบหน้าของเธออยู่พร้อมกับรอยยิ้มที่ยังไม่จางหาย
อุคิทาเกะยิ้มน้อยๆเป็นการตอบกลับ ก่อนเขาจะโน้มใบหน้าเข้ามาหาเด็กสาวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ พร้อมกับประทับริมฝีปากที่ริมฝีปากบางของเธอเบาๆ แล้วจึงถอนออกมา
เด็กสาวงุนงงเล็กน้อยกับสัมผัสเมื่อครู่ พรางใช้นิ้วเรียวแตะที่ริมฝีปากของตนอย่างไม่เข้าใจเช่นเดิม
'พี่ก็รักเธอนะ โซระจัง'
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยให้เด็กสาวด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง ซึ่งคำพูดและรอยยิ้มนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจเธอตราบนานเท่านาน
ตัดมาที่ปัจจุบัน
"ฮะ..เฮ้ย ข้าพูดแรงไปงั้นหรอ เจ้าร้องให้ทำไม.."
เคียวราคุละเลิกละลักทันทีที่จู่ๆหญิงสาวที่นั่งตรงหน้าตนก็น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแบบนั้นอย่างไม่มีเหตุผล
"เอ๊ะ น้ำตาข้าไหลหรอคะ.."
"ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ! - -"
มือบางแตะที่แก้มของตนที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะปาดมันอย่างไม่ใส่ใจ
เพียงแค่คิดถึงความทรงจำบ้าๆนั่น ถึงกับร้องให้เลยหรอ อ่อนแอจังนะโซระ
เธอตำหนิตนเองในใจ ทั้งที่ในความจริงมันก็อ่อนแอมาตั้งแต่แรกแล้ว
"โซระจัง.."
ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาวอย่างกังวล เพราะจู่ๆเธอก็ร้องให้ออกมาแบบนี้ แต่ในความจริง ใช่ว่าตัวเขาจะไม่รู้เหตุผลซักเท่าไหร่นัก
"เจ้าจะฝืนใจไปอีกนานแค่ไหนกัน"
"ไม่ใช่เรื่องที่พี่ชุนซุยจะต้องมากังวลกับข้าด้วยนะคะ"
"ทำไม่ได้หรอก เพราะเจ้า..เป็นน้องสาวคนสำคัญของข้านะ"
โซระชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะผุดยิ้มบางๆออกมาซึ่งก็นานๆครั้งที่จะได้เห็นมัน
รอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริง
"ขอบคุณนะคะ แต่ยังไงวันนี้ข้าขอตัวกลับบ้านก่อนดีกว่า.."
"อ้าวจะไปแล้วหรอโซระจัง.."
"ค่ะ ขอบคุณสำหรับชานะคะ.."
โซระลุกขึ้นโค้งให้อีกคน ก่อนจะเดินออกจากห้องและเพื่อจะเดินทางกลับบ้านตนเอง
เมื่อเดินมาถึงหน้าหน่วยที่8 เธอก็เหลียวหลังกลับไปมองอีกครั้ง
ขอบคุณนะคะ พี่ชุนซุย..
นี่คือสิ่งที่เธอรู้สึกออกมาจากข้างใน ไม่ว่านานแค่ไหนพี่ชายคนนี้ของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนไป ขอบคุณจริงๆ..
รอบๆเต็มไปด้วยผืนหญ้า มีดอกไม้ประดับตบแต่งไว้อย่างสวยงาม ลมพัดโชยอ่อนๆ เรือนผมสีดำขลับไหวไปตามลมเล็กน้อย
ร่างบางทรุดตัวนั่งลงกอดเข่า พรางซุกหน้าลงไป ชายที่เธอน่าจะเกลียดหรือสมควรจะเกลียดแต่ทำไมจนตอนนี้ถึงยังเกลียดไม่ลงกัน การกระทำทุกๆอย่างทำไมมันถึงยังมีผลต่อหัวใจที่น่าจะโดนแช่แข็งไปแล้วของเธอได้อยู่ตลอด
ภาพที่น่าที่สะอิดสะเอียนแบบนั้น ทำไมต้องไปเจ็บปวดกับมันด้วยล่ะโซระ
เธอเฝ้าถามตัวเองในใจอยู่หลายๆครั้ง ซึ่งคำตอบเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ก็คือ ความรู้สึกที่ยังคงอยู่และไม่จางหายไปซักที
ศีรษะของเธอที่เคยมีฝ่ามือใหญ่และอบอุ่นของคนๆนึงชอบมาจับและลูบมันด้วยความเอ็นดู ภาพนั้นยังคงฝังอยู่ในใจ ซึ่งในตอนนี้ มันกลับเป็นน้องสาวของเธอที่ได้รับสัมผัสแบบนั้น
ถ้าถามว่าเจ็บใจมั้ย เป็นใครมันก็อดไม่ได้หรอกจริงมั้ย แต่ถ้าจะให้เล่นตีสองหน้าแบบนั้นสำหรับเธอไม่ไหวหรอก และไม่คิดจะทำด้วยซ้ำ การกระทำเรียกร้องความสนใจแบบนั้น..
'ตึก'
'ตึก'
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาหาหญิงสาวจากใครบางคน ถึงไม่ต้องเดาเธอก็รู้ได้จากแรงดันวิญญาณจากเจ้าของร่างนั้น
"มีธุระอะไรหรอคะ หัวหน้าอุคิทาเกะ"
บุคคลที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในหัวสมองนั่นเอง มาได้จังหวะอะไรแบบนี้กันนะ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมาทำไมกัน!
ร่างบางเงยหน้าขึ้นจากที่ซุกอยู่เมื่อครู่ พรางลุกขึ้นยืนและหันไปมองผู้ที่มาเยือนใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
และสิ่งที่เธอเห็นจากนัยต์ตาสีดำนั่นมันก็เหมือนเดิม เป็นสายตาที่เฝ้าถามอยู่ซ้ำๆว่า ทำไม ทำไม ทำไม เธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้
ทั้งที่เขาน่าจะรู้ตัวที่สุดแท้ๆว่าได้ทำอะไรลงไป ไม่สิมันไม่ใช่ความผิดเขา มันเป็นความผิดของเธอเองที่ไปเชื่อใจและไว้ใจคนอย่างเขามากขนาดนั้นนี่นะ
"หัวใจของเจ้ายัง มีอยู่มั้ย.."
นั่นเป็นคำถามที่เอ่ยออกมาจากปากเขาในตอนนี้ พร้อมกับสีหน้าที่เหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง
ซึ่งร่างบางเองก็ไม่เคยรู้เช่นกัน ว่าคนอย่างเขา ก็เจ็บปวดไม่ใช่น้อยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้
"หรือมันอาจจะมี แต่มันถูกแช่แข็งไปแล้วล่ะโซระ.."
สายตาทั้งคู่มองเข้าหากันแต่ต่างคนต่างก็ยังไม่เข้าใจในความหมายของจากข้างในนั้นเลย ก่อนโซระจะหลบสายตาอีกคนหลังจากจบประโยค..
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน ยังไงสำหรับท่านตอนนี้แล้วข้าก็เป็นนางร้ายมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่.."
"ใช่เจ้ามันร้าย.."
"..!?"
ร่างสูงว่าพรางสาวเท้าเข้ามาใกล้เธอจนห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ ร่างบางที่จะขยับถอยห่างต้องหยุด เมื่อแขนเรียวรวบรัดเอวของเธอไว้แล้วดึงเข้ามาหาตัว
เธอมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจ เขากำลังเล่นอะไรกัน
"แต่ข้าจะทำให้นางร้ายอย่างเจ้า กลับมาเป็นนางเอกเอง.."
"..."
หญิงสาวถึงกลับเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง เขาน่ะหรอต้องการให้เธอกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทำไมกันล่ะ ทั้งที่ตอนนี้ในสายตาของเขาก็ยอมรับว่าเธอเป็นนางร้ายแล้ว
"ข้าจะทำให้เจ้า กลับมาเป็นเหมือนเดิมโซระ.."
เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหนักแน่นพร้อมกับแววตาที่มุ่งมั่น
มือบางกำชายกิโมโนของชายหนุ่มแน่น นัยต์ตาสีม่วงคู่สวยสั่นไหวขึ้นพร้อมกับคำถามในใจเป็นร้อยๆคำ แต่ตนก็ไม่กล้าเอ่ยมันออกมาซักคำ
"ไร้สาระ.."
เมื่อเธอได้สติจากห้วงความคิดชั่วครู่ก็รีบผลั่กร่างสูงออกไปทันที
เธอไม่ใช่โซระที่แสนอ่อนแอแบบนั้นแล้ว ความรู้สึกแบบนั้นมันไร้สาระ มันไร้สาระ! มันไม่ควรจะมี โดยเฉพาะความเชื่อใจไอคนตรงหน้า!
"สายตาแบบนั้น เจ้าไม่เชื่องั้นสินะ"
เขาถามขึ้นอีกครั้งพรางหลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ มันคงจะยากกับการให้เธอมาเชื่อเขางั้นสินะ
"ขอโทษนะ ถ้าข้าเคยทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจ ข้าก็อาจจะโง่อย่างที่ซุยฟงว่าจริงๆนั่นแหละ ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าเลย"
เขาก้มหน้ารับความผิดทั้งที่ตนยังไม่รู้เหมือนกันว่าเคยทำอะไรให้เธอเกลียดได้ถึงขนาดนี้
"งั้นก็จงโง่ต่อไปแบบนั้นข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ขอตัวล่ะ"
ไอสีหน้ารู้สึกผิดแบบนั้นมันอะไร พึ่งจะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้งั้นหรอ มันสายไปมั้ย มันสายไปมั้ย พี่จูชิโร่..
เธอคิดพรางเดินผ่านเขาออกไปด้วยความรู้สึกที่ยังคงอัดแน่นที่หัวใจอย่างไม่เลือนหาย หยาดน้ำตาค่อยๆรินไหลผ่านดวงตาคู่สวยนั้นอย่างช้าๆ
มือบาดปาดน้ำตาออกไปอย่างลวกๆพรางรีบวิ่งออกไปที่หน่วยของตน
"โซระจัง~"
ในขณะที่เธอกำลังตรงไปที่หน่วย ระหว่างทางก็เจอกับชายหนุ่มเจ้าสำราญที่โบกมือทักทายเธอ
"หัวหน้า-"
"พี่ชุนซุยสิ.."
นิ้วเรียวทาบที่ริมฝีปากปากบางหยุดคำพูดของโซระไปกลางคัน พร้อมกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่หยื่นเข้ามาใกล้ๆ ก่อนเขาจะผละออกไปเมื่อว่าจบ
"พะ..พี่ชุนซุย มีอะไรงั้นหรอ"
เธอรู้สึกประหม่าขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่ได้เรียกเขาว่าพี่มาตั้งนาน นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง..
"ไปนั่งจิบชาคุยกันหน่อยมั้ย.."
โซระงุนงงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไรและก็ไม่ได้ปฏิเสธพรางเดินตามเคียวราคุไปที่หน่วยของเขา
ณ ห้องรับรองหน่วยที่8
"เอ่อ..ที่ว่าจิบชานี่มัน"
โซระต้องทำสีหน้าเนือยๆขึ้นกับชาที่ชายหนุ่มบอก ซึ่งมันไม่ใช่ชาแต่กลับเป็นสาเกของโปรดของเขาต่างหาก
"ใจเย็นๆก่อนสิ ข้าไม่ให้เจ้าดื่มสาเกนี่หรอกน่า"
เมื่อสิ้นเสียงชายหนุ่ม รองหัวหน้านานาโอะก็นำทาดชาเขาเสริฟให้แก่โซระ ทำให้เธอโล่งใจขึ้นทันทีคิดว่าจะต้องดื่มสาเกแล้วซะอีก
มือบางหยิบชาที่นานาโอะรินไว้ให้เธอเมื่อครู่ขึ้นมาจิบนิดนึง ก่อนจะวางลงที่เดิม
"แล้วพี่ชุนซุยมีอะไรจะคุยงั้นหรอคะ"
โซระเปิดประเด็นถามขึ้น เพราะไม่อยากจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอย่างไร้ประโยชน์
"โซระจัง นี่ก็นานแล้วนะที่เราไม่ได้คุยกันเหมือนอย่างพี่น้องแบบนี้.."
เคียวราคุกล่าวขึ้นพรางแก้วสาเกขึ้นมาดื่ม
"ก็..นะคะ"
โซระตอบแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังจะบอกอะไรกันแน่
"จำได้มั้ยตอนโซระจังยังเด็ก เจ้าติดใครมากที่สุด"
จำได้ไม่เคยลืมเลยล่ะ
เธอตอบเขาในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
"ทำไมหรอคะ"
"ฮะๆ แหมๆ ก็ตอนนั้นโซระจังน่ารักมากๆเลยนี่น่า น่าคิดถึงจะตาย แต่แปปๆก็โตเป็นสาวสวยขนาดนี้แล้ว"
"งั้นหรอคะ แต่นั่นมันก็แค่อดีตน่ะค่ะ อย่าไปพูดถึงเลย"
ดวงตาสีม่วงคู่สวยอ่อนแสงลงเล็กน้อย บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะเธอไม่อยากจะนึกถึงมัน เธอในอดีตกับเธอในตอนนี้มันคนละคนกันไปแล้ว
"แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขใช่มั้ยล่ะ.."
"อะ.."
ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธคำพูดเมื่อครู่ของเขาได้เลย
มีความสุข งั้นหรอ..
'พี่ซุนชุย~ แกล้งข้าอะแงๆ~ T ₩ T'
เด็กสาวดวงตากลมโต เรือนผมดำปะบ่า กำลังร้องให้งอแง เนื่องจากโดนผู้เป็นพี่ชายเจ้าสำราญของเธอแกล้ง
'โอ๋ๆ ขะ..ข้าขอโทษ อย่าร้องให้เลยนะ แกล้งนิดเดียวเองแหมๆ = ='
ชายหนุ่มเจ้าสำราญปลอบเธออย่างตระหนกเล็กน้อย เพราะทำอะไรไม่ถูกเวลาเธอร้องให้ แต่ก็ขยันแกล้งจริงๆ..
'เอาอีกแล้วนะเคียวราคุ..แกล้งโซระจังอีกแล้วงั้นหรอ'
'พี่จูชิโร่ แง~~'
ทันทีที่เห็นชายหนุ่มที่พึ่งมาเยือนใหม่ เด็กสาวก็รีบวิ่งไปกระโดดเกาะขาเขาทันที
'โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับเด็กดีๆ'
ร่างสูงย่อตัวลงในอยู่ระดับเดียวกับเธอ พรางดึงเธอเข้ามากอดปลอบและลูบผมอย่างอ่อนโยน
'แหมๆ ก็โซระน่าแกล้งนี่น่า'
'เจ้าน่ะเงียบไปเลยเคียวราคุ'
อุคิทาเกะหันไปดุใส่ผู้เป็นเพื่อนทงแสนจะแสบของตน ให้อยู่ด้วยสองคนทีไรต้องทำให้เธอร้องให้ได้ทุกที
'กะ..ก็'
'พอเลยไม่ต้องพูดเจ้าบ้าเอ้ย..เดี๋ยวข้าพาโซระไปเล่นเอง เจ้าน่ะรออยู่นี่เลย'
'โหดร้ายT T'
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็จูงมือเด็กสาวเดินไปที่ทุ้งดอกไม้ในที่ที่หนึ่ง
'พี่จูชิโร่~ ต้นไม้ต้นนั้นสวยจังเลย'
เด็กสาวชี้ไปที่ต้นที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูที่บานสะพรั่งและล่วงหล่นลงมา หรือก็คือซากุระนั่นเอง
'ต้นซากุระไงล่ะ โซระจัง'
'ซากุระหรอ สวยจังเลย..'
ว่าจบอุคิมาเกะก็พาหญิงสาวเดินไปที่ต้นซากุระ พรางนำดอกซากุระที่ล่วงหล่นจากพื้นแต่ก็ยังคงสวยงามนั้นมาใส่ที่ฝ่ามือเล็กของเด็กสาว
โซระมองซากุระในมือด้วยแววตาที่เปล่งประกายอย่างไร้เดียงสา
'ขอบคุณนะคะพี่จูชิโร่> <'
เด็กสาวหันมาฉีกยิ้มให้อุคิทาเกะพรางค่อยๆปล่อยซากุระในล่วงลงสู่พื้นด้วยสีหน้าที่หลงไหล..ทำให้ชายหนุ่มอดจะยิ้มตามออกมาไม่ได้ ก่อนตนจะย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเธอ พร้อมกับกอบกุมมือบางไว้ทั้งสอง
'นี่โซระจัง..'
เขาว่าพรางเอื้อมมือไปสัมผัสพวงแก้มของใบหน้าเด็กสาวอย่างนุ่มนวล
'คะ..'
จู่ๆหัวใจของเด็กสาวก็สั่นรัวขึ้นโดยที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจความหมาย
'โซระจังรักพี่จูชิโร่มั้ย..'
คำถามนั้นสร้างความร้อนผ่าวที่ใบหน้าใสของเด็กสาวขึ้นพร้อมกับแดงระรื่อโดยไม่รู้ตัว ก่อนเธอจะผุดยิ้มออกมาบางๆ
'รักสิ โซระรักพี่จูชิโร่ที่สุดเลย..'
มือเล็กกอบกุมฝ่ามือใหญ่ที่จับใบหน้าของเธออยู่พร้อมกับรอยยิ้มที่ยังไม่จางหาย
อุคิทาเกะยิ้มน้อยๆเป็นการตอบกลับ ก่อนเขาจะโน้มใบหน้าเข้ามาหาเด็กสาวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ พร้อมกับประทับริมฝีปากที่ริมฝีปากบางของเธอเบาๆ แล้วจึงถอนออกมา
เด็กสาวงุนงงเล็กน้อยกับสัมผัสเมื่อครู่ พรางใช้นิ้วเรียวแตะที่ริมฝีปากของตนอย่างไม่เข้าใจเช่นเดิม
'พี่ก็รักเธอนะ โซระจัง'
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยให้เด็กสาวด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง ซึ่งคำพูดและรอยยิ้มนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจเธอตราบนานเท่านาน
ตัดมาที่ปัจจุบัน
"ฮะ..เฮ้ย ข้าพูดแรงไปงั้นหรอ เจ้าร้องให้ทำไม.."
เคียวราคุละเลิกละลักทันทีที่จู่ๆหญิงสาวที่นั่งตรงหน้าตนก็น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแบบนั้นอย่างไม่มีเหตุผล
"เอ๊ะ น้ำตาข้าไหลหรอคะ.."
"ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ! - -"
มือบางแตะที่แก้มของตนที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะปาดมันอย่างไม่ใส่ใจ
เพียงแค่คิดถึงความทรงจำบ้าๆนั่น ถึงกับร้องให้เลยหรอ อ่อนแอจังนะโซระ
เธอตำหนิตนเองในใจ ทั้งที่ในความจริงมันก็อ่อนแอมาตั้งแต่แรกแล้ว
"โซระจัง.."
ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาวอย่างกังวล เพราะจู่ๆเธอก็ร้องให้ออกมาแบบนี้ แต่ในความจริง ใช่ว่าตัวเขาจะไม่รู้เหตุผลซักเท่าไหร่นัก
"เจ้าจะฝืนใจไปอีกนานแค่ไหนกัน"
"ไม่ใช่เรื่องที่พี่ชุนซุยจะต้องมากังวลกับข้าด้วยนะคะ"
"ทำไม่ได้หรอก เพราะเจ้า..เป็นน้องสาวคนสำคัญของข้านะ"
โซระชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะผุดยิ้มบางๆออกมาซึ่งก็นานๆครั้งที่จะได้เห็นมัน
รอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริง
"ขอบคุณนะคะ แต่ยังไงวันนี้ข้าขอตัวกลับบ้านก่อนดีกว่า.."
"อ้าวจะไปแล้วหรอโซระจัง.."
"ค่ะ ขอบคุณสำหรับชานะคะ.."
โซระลุกขึ้นโค้งให้อีกคน ก่อนจะเดินออกจากห้องและเพื่อจะเดินทางกลับบ้านตนเอง
เมื่อเดินมาถึงหน้าหน่วยที่8 เธอก็เหลียวหลังกลับไปมองอีกครั้ง
ขอบคุณนะคะ พี่ชุนซุย..
นี่คือสิ่งที่เธอรู้สึกออกมาจากข้างใน ไม่ว่านานแค่ไหนพี่ชายคนนี้ของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนไป ขอบคุณจริงๆ..
====================
Writer talk :
ฝากคอมเม้นท์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น