ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Bleach ] หัวใจที่ถูกแช่แข็งของเจ้า ข้าจะละลายมันเอง..

    ลำดับตอนที่ #3 : Charpter II : Brother in memory

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 61


    หลังจากนั้นหญิงสาวได้พาร่างของตนไปยังที่ที่นึง เป็นที่ๆเธอชอบไปเวลาที่เธอรู้ไม่สบายใจ หรือเวลาเป็นทุกข์ ซึ่งตอนนี้เธอก็รู้สึกแบบนั้น

    รอบๆเต็มไปด้วยผืนหญ้า มีดอกไม้ประดับตบแต่งไว้อย่างสวยงาม ลมพัดโชยอ่อนๆ เรือนผมสีดำขลับไหวไปตามลมเล็กน้อย

    ร่างบางทรุดตัวนั่งลงกอดเข่า พรางซุกหน้าลงไป ชายที่เธอน่าจะเกลียดหรือสมควรจะเกลียดแต่ทำไมจนตอนนี้ถึงยังเกลียดไม่ลงกัน การกระทำทุกๆอย่างทำไมมันถึงยังมีผลต่อหัวใจที่น่าจะโดนแช่แข็งไปแล้วของเธอได้อยู่ตลอด

    ภาพที่น่าที่สะอิดสะเอียนแบบนั้น ทำไมต้องไปเจ็บปวดกับมันด้วยล่ะโซระ

    เธอเฝ้าถามตัวเองในใจอยู่หลายๆครั้ง ซึ่งคำตอบเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ก็คือ ความรู้สึกที่ยังคงอยู่และไม่จางหายไปซักที

    ศีรษะของเธอที่เคยมีฝ่ามือใหญ่และอบอุ่นของคนๆนึงชอบมาจับและลูบมันด้วยความเอ็นดู ภาพนั้นยังคงฝังอยู่ในใจ ซึ่งในตอนนี้ มันกลับเป็นน้องสาวของเธอที่ได้รับสัมผัสแบบนั้น

    ถ้าถามว่าเจ็บใจมั้ย เป็นใครมันก็อดไม่ได้หรอกจริงมั้ย แต่ถ้าจะให้เล่นตีสองหน้าแบบนั้นสำหรับเธอไม่ไหวหรอก และไม่คิดจะทำด้วยซ้ำ การกระทำเรียกร้องความสนใจแบบนั้น..

    'ตึก'

    'ตึก'

    เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาหาหญิงสาวจากใครบางคน ถึงไม่ต้องเดาเธอก็รู้ได้จากแรงดันวิญญาณจากเจ้าของร่างนั้น

    "มีธุระอะไรหรอคะ หัวหน้าอุคิทาเกะ"

    บุคคลที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในหัวสมองนั่นเอง มาได้จังหวะอะไรแบบนี้กันนะ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมาทำไมกัน!

    ร่างบางเงยหน้าขึ้นจากที่ซุกอยู่เมื่อครู่ พรางลุกขึ้นยืนและหันไปมองผู้ที่มาเยือนใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

    และสิ่งที่เธอเห็นจากนัยต์ตาสีดำนั่นมันก็เหมือนเดิม เป็นสายตาที่เฝ้าถามอยู่ซ้ำๆว่า ทำไม ทำไม ทำไม เธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้

    ทั้งที่เขาน่าจะรู้ตัวที่สุดแท้ๆว่าได้ทำอะไรลงไป ไม่สิมันไม่ใช่ความผิดเขา มันเป็นความผิดของเธอเองที่ไปเชื่อใจและไว้ใจคนอย่างเขามากขนาดนั้นนี่นะ

    "หัวใจของเจ้ายัง มีอยู่มั้ย.."

    นั่นเป็นคำถามที่เอ่ยออกมาจากปากเขาในตอนนี้ พร้อมกับสีหน้าที่เหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง

    ซึ่งร่างบางเองก็ไม่เคยรู้เช่นกัน ว่าคนอย่างเขา ก็เจ็บปวดไม่ใช่น้อยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้

    "หรือมันอาจจะมี แต่มันถูกแช่แข็งไปแล้วล่ะโซระ.."

    สายตาทั้งคู่มองเข้าหากันแต่ต่างคนต่างก็ยังไม่เข้าใจในความหมายของจากข้างในนั้นเลย ก่อนโซระจะหลบสายตาอีกคนหลังจากจบประโยค..

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน ยังไงสำหรับท่านตอนนี้แล้วข้าก็เป็นนางร้ายมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่.."

    "ใช่เจ้ามันร้าย.."

    "..!?"

    ร่างสูงว่าพรางสาวเท้าเข้ามาใกล้เธอจนห่างกันเพียงไม่ถึงคืบ ร่างบางที่จะขยับถอยห่างต้องหยุด เมื่อแขนเรียวรวบรัดเอวของเธอไว้แล้วดึงเข้ามาหาตัว

    เธอมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจ เขากำลังเล่นอะไรกัน

    "แต่ข้าจะทำให้นางร้ายอย่างเจ้า กลับมาเป็นนางเอกเอง.."

    "..."

    หญิงสาวถึงกลับเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง เขาน่ะหรอต้องการให้เธอกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทำไมกันล่ะ ทั้งที่ตอนนี้ในสายตาของเขาก็ยอมรับว่าเธอเป็นนางร้ายแล้ว

    "ข้าจะทำให้เจ้า กลับมาเป็นเหมือนเดิมโซระ.."

    เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหนักแน่นพร้อมกับแววตาที่มุ่งมั่น

    มือบางกำชายกิโมโนของชายหนุ่มแน่น นัยต์ตาสีม่วงคู่สวยสั่นไหวขึ้นพร้อมกับคำถามในใจเป็นร้อยๆคำ แต่ตนก็ไม่กล้าเอ่ยมันออกมาซักคำ

    "ไร้สาระ.."

    เมื่อเธอได้สติจากห้วงความคิดชั่วครู่ก็รีบผลั่กร่างสูงออกไปทันที

    เธอไม่ใช่โซระที่แสนอ่อนแอแบบนั้นแล้ว ความรู้สึกแบบนั้นมันไร้สาระ มันไร้สาระ! มันไม่ควรจะมี โดยเฉพาะความเชื่อใจไอคนตรงหน้า!

    "สายตาแบบนั้น เจ้าไม่เชื่องั้นสินะ"

    เขาถามขึ้นอีกครั้งพรางหลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ มันคงจะยากกับการให้เธอมาเชื่อเขางั้นสินะ

    "ขอโทษนะ ถ้าข้าเคยทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจ ข้าก็อาจจะโง่อย่างที่ซุยฟงว่าจริงๆนั่นแหละ ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าเลย"

    เขาก้มหน้ารับความผิดทั้งที่ตนยังไม่รู้เหมือนกันว่าเคยทำอะไรให้เธอเกลียดได้ถึงขนาดนี้

    "งั้นก็จงโง่ต่อไปแบบนั้นข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ขอตัวล่ะ"

    ไอสีหน้ารู้สึกผิดแบบนั้นมันอะไร พึ่งจะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้งั้นหรอ มันสายไปมั้ย มันสายไปมั้ย พี่จูชิโร่..

    เธอคิดพรางเดินผ่านเขาออกไปด้วยความรู้สึกที่ยังคงอัดแน่นที่หัวใจอย่างไม่เลือนหาย หยาดน้ำตาค่อยๆรินไหลผ่านดวงตาคู่สวยนั้นอย่างช้าๆ

    มือบาดปาดน้ำตาออกไปอย่างลวกๆพรางรีบวิ่งออกไปที่หน่วยของตน

    "โซระจัง~"

    ในขณะที่เธอกำลังตรงไปที่หน่วย ระหว่างทางก็เจอกับชายหนุ่มเจ้าสำราญที่โบกมือทักทายเธอ

    "หัวหน้า-"

    "พี่ชุนซุยสิ.."

    นิ้วเรียวทาบที่ริมฝีปากปากบางหยุดคำพูดของโซระไปกลางคัน พร้อมกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่หยื่นเข้ามาใกล้ๆ ก่อนเขาจะผละออกไปเมื่อว่าจบ

    "พะ..พี่ชุนซุย มีอะไรงั้นหรอ"

    เธอรู้สึกประหม่าขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่ได้เรียกเขาว่าพี่มาตั้งนาน นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง..

    "ไปนั่งจิบชาคุยกันหน่อยมั้ย.."

    โซระงุนงงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอะไรและก็ไม่ได้ปฏิเสธพรางเดินตามเคียวราคุไปที่หน่วยของเขา


    ณ ห้องรับรองหน่วยที่8

    "เอ่อ..ที่ว่าจิบชานี่มัน"

    โซระต้องทำสีหน้าเนือยๆขึ้นกับชาที่ชายหนุ่มบอก ซึ่งมันไม่ใช่ชาแต่กลับเป็นสาเกของโปรดของเขาต่างหาก

    "ใจเย็นๆก่อนสิ ข้าไม่ให้เจ้าดื่มสาเกนี่หรอกน่า"

    เมื่อสิ้นเสียงชายหนุ่ม รองหัวหน้านานาโอะก็นำทาดชาเขาเสริฟให้แก่โซระ ทำให้เธอโล่งใจขึ้นทันทีคิดว่าจะต้องดื่มสาเกแล้วซะอีก

    มือบางหยิบชาที่นานาโอะรินไว้ให้เธอเมื่อครู่ขึ้นมาจิบนิดนึง ก่อนจะวางลงที่เดิม

    "แล้วพี่ชุนซุยมีอะไรจะคุยงั้นหรอคะ"

    โซระเปิดประเด็นถามขึ้น เพราะไม่อยากจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอย่างไร้ประโยชน์

    "โซระจัง นี่ก็นานแล้วนะที่เราไม่ได้คุยกันเหมือนอย่างพี่น้องแบบนี้.."

    เคียวราคุกล่าวขึ้นพรางแก้วสาเกขึ้นมาดื่ม

    "ก็..นะคะ"

    โซระตอบแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังจะบอกอะไรกันแน่

    "จำได้มั้ยตอนโซระจังยังเด็ก เจ้าติดใครมากที่สุด"

    จำได้ไม่เคยลืมเลยล่ะ

    เธอตอบเขาในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา

    "ทำไมหรอคะ"

    "ฮะๆ แหมๆ ก็ตอนนั้นโซระจังน่ารักมากๆเลยนี่น่า น่าคิดถึงจะตาย แต่แปปๆก็โตเป็นสาวสวยขนาดนี้แล้ว"

    "งั้นหรอคะ แต่นั่นมันก็แค่อดีตน่ะค่ะ อย่าไปพูดถึงเลย"

    ดวงตาสีม่วงคู่สวยอ่อนแสงลงเล็กน้อย บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะเธอไม่อยากจะนึกถึงมัน เธอในอดีตกับเธอในตอนนี้มันคนละคนกันไปแล้ว

    "แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขใช่มั้ยล่ะ.."

    "อะ.."

    ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธคำพูดเมื่อครู่ของเขาได้เลย

    มีความสุข งั้นหรอ..


    'พี่ซุนชุย~ แกล้งข้าอะแงๆ~ T ₩ T'

    เด็กสาวดวงตากลมโต เรือนผมดำปะบ่า กำลังร้องให้งอแง เนื่องจากโดนผู้เป็นพี่ชายเจ้าสำราญของเธอแกล้ง

    'โอ๋ๆ ขะ..ข้าขอโทษ อย่าร้องให้เลยนะ แกล้งนิดเดียวเองแหมๆ = ='

    ชายหนุ่มเจ้าสำราญปลอบเธออย่างตระหนกเล็กน้อย เพราะทำอะไรไม่ถูกเวลาเธอร้องให้ แต่ก็ขยันแกล้งจริงๆ..

    'เอาอีกแล้วนะเคียวราคุ..แกล้งโซระจังอีกแล้วงั้นหรอ'

    'พี่จูชิโร่ แง~~'

    ทันทีที่เห็นชายหนุ่มที่พึ่งมาเยือนใหม่ เด็กสาวก็รีบวิ่งไปกระโดดเกาะขาเขาทันที

    'โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับเด็กดีๆ'

    ร่างสูงย่อตัวลงในอยู่ระดับเดียวกับเธอ พรางดึงเธอเข้ามากอดปลอบและลูบผมอย่างอ่อนโยน

    'แหมๆ ก็โซระน่าแกล้งนี่น่า'

    'เจ้าน่ะเงียบไปเลยเคียวราคุ'

    อุคิทาเกะหันไปดุใส่ผู้เป็นเพื่อนทงแสนจะแสบของตน ให้อยู่ด้วยสองคนทีไรต้องทำให้เธอร้องให้ได้ทุกที

    'กะ..ก็'

    'พอเลยไม่ต้องพูดเจ้าบ้าเอ้ย..เดี๋ยวข้าพาโซระไปเล่นเอง เจ้าน่ะรออยู่นี่เลย'

    'โหดร้ายT T'



    หลังจากนั้นชายหนุ่มก็จูงมือเด็กสาวเดินไปที่ทุ้งดอกไม้ในที่ที่หนึ่ง

    'พี่จูชิโร่~ ต้นไม้ต้นนั้นสวยจังเลย'

    เด็กสาวชี้ไปที่ต้นที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูที่บานสะพรั่งและล่วงหล่นลงมา หรือก็คือซากุระนั่นเอง

    'ต้นซากุระไงล่ะ โซระจัง'

    'ซากุระหรอ สวยจังเลย..'

    ว่าจบอุคิมาเกะก็พาหญิงสาวเดินไปที่ต้นซากุระ พรางนำดอกซากุระที่ล่วงหล่นจากพื้นแต่ก็ยังคงสวยงามนั้นมาใส่ที่ฝ่ามือเล็กของเด็กสาว

    โซระมองซากุระในมือด้วยแววตาที่เปล่งประกายอย่างไร้เดียงสา

    'ขอบคุณนะคะพี่จูชิโร่> <'

    เด็กสาวหันมาฉีกยิ้มให้อุคิทาเกะพรางค่อยๆปล่อยซากุระในล่วงลงสู่พื้นด้วยสีหน้าที่หลงไหล..ทำให้ชายหนุ่มอดจะยิ้มตามออกมาไม่ได้ ก่อนตนจะย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับเธอ พร้อมกับกอบกุมมือบางไว้ทั้งสอง

    'นี่โซระจัง..'

    เขาว่าพรางเอื้อมมือไปสัมผัสพวงแก้มของใบหน้าเด็กสาวอย่างนุ่มนวล

    'คะ..'

    จู่ๆหัวใจของเด็กสาวก็สั่นรัวขึ้นโดยที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจความหมาย

    'โซระจังรักพี่จูชิโร่มั้ย..'

    คำถามนั้นสร้างความร้อนผ่าวที่ใบหน้าใสของเด็กสาวขึ้นพร้อมกับแดงระรื่อโดยไม่รู้ตัว ก่อนเธอจะผุดยิ้มออกมาบางๆ

    'รักสิ โซระรักพี่จูชิโร่ที่สุดเลย..'

    มือเล็กกอบกุมฝ่ามือใหญ่ที่จับใบหน้าของเธออยู่พร้อมกับรอยยิ้มที่ยังไม่จางหาย

    อุคิทาเกะยิ้มน้อยๆเป็นการตอบกลับ ก่อนเขาจะโน้มใบหน้าเข้ามาหาเด็กสาวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ พร้อมกับประทับริมฝีปากที่ริมฝีปากบางของเธอเบาๆ แล้วจึงถอนออกมา

    เด็กสาวงุนงงเล็กน้อยกับสัมผัสเมื่อครู่ พรางใช้นิ้วเรียวแตะที่ริมฝีปากของตนอย่างไม่เข้าใจเช่นเดิม

    'พี่ก็รักเธอนะ โซระจัง'

    เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยให้เด็กสาวด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง ซึ่งคำพูดและรอยยิ้มนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจเธอตราบนานเท่านาน



    ตัดมาที่ปัจจุบัน

    "ฮะ..เฮ้ย ข้าพูดแรงไปงั้นหรอ เจ้าร้องให้ทำไม.."

    เคียวราคุละเลิกละลักทันทีที่จู่ๆหญิงสาวที่นั่งตรงหน้าตนก็น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแบบนั้นอย่างไม่มีเหตุผล

    "เอ๊ะ น้ำตาข้าไหลหรอคะ.."

    "ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ! - -"

    มือบางแตะที่แก้มของตนที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะปาดมันอย่างไม่ใส่ใจ

    เพียงแค่คิดถึงความทรงจำบ้าๆนั่น ถึงกับร้องให้เลยหรอ อ่อนแอจังนะโซระ

    เธอตำหนิตนเองในใจ ทั้งที่ในความจริงมันก็อ่อนแอมาตั้งแต่แรกแล้ว

    "โซระจัง.."

    ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาวอย่างกังวล เพราะจู่ๆเธอก็ร้องให้ออกมาแบบนี้ แต่ในความจริง ใช่ว่าตัวเขาจะไม่รู้เหตุผลซักเท่าไหร่นัก

    "เจ้าจะฝืนใจไปอีกนานแค่ไหนกัน"

    "ไม่ใช่เรื่องที่พี่ชุนซุยจะต้องมากังวลกับข้าด้วยนะคะ"

    "ทำไม่ได้หรอก เพราะเจ้า..เป็นน้องสาวคนสำคัญของข้านะ"

    โซระชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะผุดยิ้มบางๆออกมาซึ่งก็นานๆครั้งที่จะได้เห็นมัน

    รอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริง

    "ขอบคุณนะคะ แต่ยังไงวันนี้ข้าขอตัวกลับบ้านก่อนดีกว่า.."

    "อ้าวจะไปแล้วหรอโซระจัง.."

    "ค่ะ ขอบคุณสำหรับชานะคะ.."

    โซระลุกขึ้นโค้งให้อีกคน ก่อนจะเดินออกจากห้องและเพื่อจะเดินทางกลับบ้านตนเอง

    เมื่อเดินมาถึงหน้าหน่วยที่8 เธอก็เหลียวหลังกลับไปมองอีกครั้ง

    ขอบคุณนะคะ พี่ชุนซุย..

    นี่คือสิ่งที่เธอรู้สึกออกมาจากข้างใน ไม่ว่านานแค่ไหนพี่ชายคนนี้ของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนไป ขอบคุณจริงๆ..

    ====================

    Writer talk :

    ฝากคอมเม้นท์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×