ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Charpter XIII : Because i love him
"อย่าได้ใจให้มันมากนักนะ ไอเซ็น.."
หญิงสาวค่อยๆช้อนร่างของฮินาโมริแล้วใช้ก้าวพริบตาหามุมที่ปลอดภัยเพื่อจัดการวางร่างเธอไว้ ศึกจากนี้คงอาจทำให้เธอโดนลูกหลงได้จึงต้องพาเธออกมาจากตรงนั้นก่อน
จากนั้นเธอจึงกลับไปหาชายหนุ่มผู้บงการกบทที่ชั่วร้ายที่สุด
"แกรู้มั้ยไอเซ็น ความทะเยอทะยานของแก มันคร่าชีวิตยมทูตไปกี่คน ไอการวิจัยงี่เง่าของแกมันทำให้ต้องเสียสละไปมากเท่าไหร่ แกรู้บ้างมั้ย.."
น้ำเสียงหวานเย็นเหยียบขึ้นด้วยความโกรธจัด พอนึกถึงการกระทำของไอกบทแสนชั่วตรงหน้าตน
"แล้วทำไมข้าต้องสนใจด้วยล่ะ.."
ไอเซ็นยั่วโทสะหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่ราวกับไม่รู้สึกรู้สา ทำให้อารมณ์เธอเดือดพล่านจนแทบคุมไม่อยู่
"ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ยอมแพ้ซะไอเซ็น"
เธอยังคงพยายามคุมอารมณ์ของตนไว้อย่างใจเย็น ถึงข้างในมันจะร้อนใจอย่างจะฉีกกระชากคนตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม แต่นี่ถือเป็นการให้โอกาสก่อนเธอจะหมดความอดทน
"ข้าควรพูดคำนั้นมากกว่านะ ยอมแพ้แล้วหนีไปซะ.."
แต่เหมือนการเจรจาจะไร้ผล เธอคงจะต้องใช้มันแล้วสินะ
"การเจรจาล้มเหลวสินะ.."
"หึ..เจ้าก็คงไม่ยอมเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าได้เสียเวลาเลยโซระ.."
'ฟุบ!'
ร่างสูงพุ่งเข้ามาพรางง้างดาบหวังจะฟาดฟันด้วยการโจมตีเดียว แต่ทว่าตอนนั้น
'ใช้ร่างข้าเลย ฮารุซาเมะ..'
'ตู้ม!!'
ชายหนุ่มต้องกระโดดถอยห่างออกมาเพราะรู้สึกถึงแรงดันวิญญาณที่น่าสะพรึงและน่าขนลุกแผ่ออกมาจากหญิงสาวผิดกับปกติ
เปลวไฟสีแดงเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นเปลวไฟรัติกาลที่ค่อยๆครอบคลุมร่างเธอ จากอีกาที่เกาอยู่นบ่า ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป..
"นั่นมัน.."
เหมือนไอเซ็นพอจะรู้ถึงที่มาของดาบฟันวิญญาณนั้นอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกระเอียดเท่ากับเจ้าของเท่าไหร่นัก
"เอาล่ะ..ไอเซ็นสินะ"
เสียงหวานเรียบเย็นขึ้นผิดปกติจนราวกับเป็นคนละคน นัยน์ตาสีม่วงบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดั่งโลหิต ปรายตามองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาที่นิ่งเรียบ
"นี่เจ้า เล่นมายากลอะไรอยู่โซระ.."
ไอเซ็นยังคงความเยือกเย็นไว้อยู่ถึงตอนนี้จะรู้สึกขนลุกแปลกๆก็เถอะ
"ข้าไม่ใช่โซระ.."
'ฟุบ..'
"เฮือก!.."
"นามของข้าคือ 'ฮารุซาเมะ' "
'เคร้ง!'
หญิงสาวที่ก้าวโผล่ไปอยู่ด้านหลังชายหนุ่มด้วยความเร็วที่ไอเซ็นแทบมองไม่เห็น ทำให้ตนสะดุ้งเฮือกถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วนในจิตใจราวกับจะคลื่นไส้ ดีที่ตนหันมารับดาบของหญิงสาวทัน ถึงจะเฉียดฉิวแล้วเกิดรอยเฉี่ยวบริเวณแก้มไปเล็กน้อยก็เถอะ
"จะซักแค่ไหนกันเชียว..แกน่ะ"
เหมือนตอนนี้ชายหนุ่มจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นเมื่อได้เห็นพลังของโซระที่ทัดเทียมกับตนหรืออาจจะเหนือกับตนแบบนี้
อย่ามาล้อเล่นนะ! เขาจะมาโดนยมทูตอย่างเธอเล่นงานเป็นไปไม่ได้!!
"ฉุนเฉียวซะเหลือเกินนะ.."
'เคร้ง ๆ ๆ ๆ ๆ'
ทั้งคู่ผลัดกันลุกรับด้วยแรงดาบอันหนักหน่วง ซึ่งไอเซ็นก็ไม่เปิดช่องให้ฮารุซาเมะในร่างหญิงสาวใช้เปลวไฟเลยแม้แต่น้อย
ก็น่ากลัวไม่เบาเหมือนกันนี่
ชายหนุ่มเริ่มเหงื่อผุดขึ้นด้วยความรู้สึกเหนื่อยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับหญิงสาว แต่สีหน้าของเธอไม่ได้แสดงอาการอะไร
ระหว่างนั้นเอง
'ฉึก..'
คมดาบปริศนาแทงเข้าที่ร่างของหญิงสาวจากด้านหลัง โดยชายหนุ่มที่ยิ้มออกมาราวกับผู้มีชัยอีกครั้ง
"ถึงดาบฟันวิญญาณอย่างเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าแล้ว มันก็แค่มดปลวกเท่านั้น.."
เขานั้นได้ปลดปล่อยชิไคไว้ตั้งแต่เริ่มสู้แล้วยังไงล่ะ ร่างที่เธอสู้อยู่นั้นหาใช่ร่างของเขาไม่ ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้ขยับร่างกายใดๆเพียงแต่ยืนดูเธอต่อสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนไป จนหาโอกาสเข้าไป
"อย่างงั้นเองหรอ..ถึงว่าทำไมรู้สึกแปลกๆ.."
"..!!"
หญิงสาวที่หน้าจะไม่มีแรงเหลือแม้แต่เสียงพูดกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะไม่สะทกสะท้ายใดๆ
"นะ..นี่เจ้า"
ไอเซ็นตกใจจนแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน ทั้งที่น่าจะไม่มีแรงเหลือแล้วแท้ๆ เพราะมันโดนจุดสำคัญเต็มจนมิดด้ามแล้วนี่
มือบางที่ไม่ได้ถือดาบเลื่อนไปแตะคมดาบที่โผล่ออกมาจากลำตัว พร้อมกับรอยยิ้มอันเย็นระเยือกจนรู้สึกได้ถึงความน่าขนลุก
"ทั้งที่เจ้าน่าจะยอมแพ้ตามที่โซระบอกตั้งแต่แรกแล้วแท้ๆ.."
สิ้นเสียงหวานเปลวไฟสีดำรัตติกาลค่อยๆแผ่ออกมาจากมือบางที่แตะคมดาบของอีกคนและแผดเผาคมดาบน้ำสลายเป็นผุยผงไปในพริบตาคามือของไอเซ็น..
"มะ..ไม่จริง"
ไอเซ็นถึงกลับขยับถอยห่าง ด้วยความตกใจจนแทบสติหลุด ดาบฟันวิญญาณจะทำลายง่ายขนาดนั้นได้ยังไง
ไฟนั่นมันบ้าอะไร!
"เอาล่ะ..ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว ไอเซ็น"
'ฟุบ'
'หมับ!'
หญิงสาวเคลื่อนตัวไปหาชายหนุ่มด้วยความเร็วที่ไอเซ็นไม่สามารถหลบหนีได้ทัน
"จับได้แล้ว.."
"..!?"
มือบางจับเข้าที่แขนของไอเซ็นเพื่อไม่ให้ร่างสูงหนีไปได้..ซึ่งแรงจับจากหญิงสาวที่ไม่น่าจะเยอะขนาดนี้ กลับทำให้เขาไม่สามารุขยับตัวได้ราวกับถูกกดดันโดยแรงดันวิญญาณอันหน้าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากร่างของเธอด้วย
"แขนของเจ้าแข็งแรงดีนะ..แต่น่าเสียดาย"
'พรึ่บ!'
"อ๊ากกกก!!"
เปลวไฟรัตติกาลผุดขึ้นแผดเผาแขนของไอเซ็นจนทำให้เจ้าตัวทรมานจนร้องลั่น ก่อนหญิงสาวจะถอนมือออกมาแล้วมองไปยังชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"ฟะ..ไฟมัน..อ๊ากก หยุดที!!"
เปลวไฟที่น่าจะแผดเผาเพียงแขนของไอเซ็น บัดนี้ค่อยๆลามเข้าไปแผดเผาร่างของไอเซ็นจนเจ้าตัวล้มลงไปนอนดิ้นพล่านอย่างทรมาณ
"โอกาสมันมี แต่เจ้ากับไม่คว้ามันไว้เอง เพราะฉะนั้นก็ทุกข์ทรมาณกับไฟของข้าไปจนกว่าร่างของเจ้าจะกลายเป็นผุยผงซะ.."
ชายหนุ่มหมดแรงจนถึงขนาดไม่มีแม้แต่แรงจะร้องออกมา พรางนอนแน่นิ่งให้ไฟรัติกาลแผดเผาไปโดยไม่ขยับอะไร
คงเพราะรู้ว่าแม้จะดิ้นหรือจะกรีดร้องซักเพียงใด เปลวไฟมันก็ไม่สามารถยะมอดดับลงได้
'ตึก ๆ ๆ ๆ'
เสียงฝีเท้าจากใครบางคนวิ่งเข้ามาทางนี้
"ท่านไอเซ็น!!"
ร่างบางที่พึ่งเข้ามาเห็นภาพนั้นถึงกลับน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดที่เห็นชายที่ตนรักกำลังโดนแผดเผาอย่างทรมาณ พรางทำท่าจะวิ่งเข้าไป
'หมับ..'
"อยากตายรึไงยัยหนู! วิ่งพรวดพราดเข้าไปแตะไฟนั่นเจ้าได้โดนเผาแบบนั้นแน่.."
ฮารุซาเมะในร่างโซระรั้งตัวเธอไว้ แต่เธอก็พยายามดิ้นไปดิ้นมาราวกับจะเข้าไปหาให้ได้
"ฮึก..โซระจัง ขอร้องแหละหยุดทีเถอะ หยุดไฟนั่นที ยังไงแล้วเขาก็ไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้แล้วนะ ขอร้องแหละนะ.."
ฮินาโมริร้องให้เขย่าแขนขอร้องหญิงสาวทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธอนั้นไม่ใช่โซระ แต่เป็นดาบฟันวิญญาณ
"นี่เจ้า..ไม่โกรธแค้นบ้างรึไง"
ฮารุซาเมะมองเธออย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่เธอน่าจะโกรธแค้นชายผู้นี้มากแท้ๆ แต่ทำไมถึงยังอยากจะช่วยอีกกัน
"ข้ารักเขา..ฮึก ข้าทนเห็นเขาเป็นแบบนี้ไม่ได้.."
รองหัวหน้าสาวหน้าใสว่าพรางทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดและอัดแน่นจากข้างในจนหมดเรี่ยวแรงจะยืนต่อ
'ฮารุซาเมะ คลายไฟนั่น'
เสียงผู้เป็นนายดังขึ้นในโสดประสาท เพราะเธอก็ไม่อยากเห็นฮินาโมริทรมาณแบบนี้เหมือนกันถึงจะไม่สนิทชิดเชื้อกันมากมาย แต่ยังไงเธอก็คือเพื่อนคนนึง
'จะดีแน่หรอโซระ..'
ฮารุซาเมะย้ำเพื่อความแน่ใจ
'อ่า คลายได้เลย..'
'รับทราบ..'
ฮารุซาเมะที่ได้รับคำสั่ง จึงพาร่างของตนเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม พรางหยื่นมือไปแตะที่แขนของไอเซ็นแล้วทำการครายไฟรัตติกาล
แปลกใจนิดหน่อยที่ร่างของเขาไม่ดับสลายไป เพียงแต่ร่างกายแดงก่ำไปทั้งร่าง คงเป็นเพราะโฮเงียคุภายในร่างกายของเขาที่ทำให่ร่างกายยังคงสภาพได้แต่ก็ไม่อาจจะมีแรงมาต่อสู้ได้อีก
"ฮึก ท่านไอเซ็น!!"
ฮินาโมริเห็นดังนั้นจึงรีบปลีกตัวลุกพรวดเข้าไปหาชายหนุ่มทันที ฮารุซาเมะที่ไม่อยากจะขัดขวางการร่ำลากันจึงเดินออกมา พรางนำร่างของฮิสึกายะที่บาดเจ็บอยู่ขึ้นและประคองออกไป..
"ฮะ..ฮินาโมริคุง"
เสียงทุ้มแหบพร่าจากร่างที่นอนแน่นิ่งไม่มีแม้แต่แรงขยับนิ้วเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก นัยน์ตาสีน้ำตาลอร่ามมองขึ้นยังหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่อ่อนลง
มือบางนำมือของชายหนุ่มขึ้นมากอบกุมไว้แน่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล
"ท่านไอเซ็น..ไม่เป็นไรแล้วนะคะ ฮึก"
ร่างบางว่าพรางนำมือที่กอบกุมอยู่ขึ้นมาทาบที่ใบหน้าสวยอย่างไม่รังเกียจถึงแม้จะเปอะเปื้อโลหิตก็ตาม
"อะ..อึก มะ..เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกไร้เดียงสาแบบนี้ซักทีนะ.."
ชายหนุ่มผุดยิ้มบางๆขึ้นซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ไร้ซึ่งการเสแสร้งอย่างที่เคยทำ เป็นรอยยิ้มที่มอบให้หญิงสาวตรงหน้าเพียงผู้เดียว
"อึก..ใบหน้าของเจ้าจะเปื้อนเลือดข้าเอานะ ฮะ..ฮินาโมริคุง"
"ข้าไม่สน ขอแค่เวลานี้..ขอแค่ได้อยู่กับท่านในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว.."
ว่าจบหญิงสาวก็โน้มตัวลงไปกอดชายหนุ่มอย่างโหยหา ด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากหัวใจที่เก็บไว้มาเนิ่นนานของเธอ
ที่อยากจะกอดเขาแบบนี้มานานแล้ว..
แขนอันไร้เรี่ยวแรงของร่างสูงค่อยๆขยับขึ้นออย่างยากลำบาก พรางนำไปกอดเธอกลับด้วยความรู้สึกเดียวกัน..
"ขะ..ขอบคุณนะ อึก..ข้าน่ะ.."
ชายหนุ่มค่อยๆเปลี่ยนเลื่อนมือมาประคองใบหน้าหญิงสาวบนร่างตนให้ตรงกับใบหน้าของเขา
"ข้าก็รักเจ้าสุดหัวใจเช่นเดียวกัน.."
ความรู้สึกที่กักเก็บไว้ภายในก้นบึ้งของหัวใจจากไอเซ็น บัดนี้ได้เผยออกมากับหญิงสาวที่ตนอยากจะบอกมากที่สุด และสุดท้ายก็ได้บอกมันกับเธอในที่สุด
ประโยคนั้นทำให้เธอถึงกับปล่อยน้ำตาออกมายกใหญ่ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆใบหน้าคมของร่างสูง พรางค่อยๆประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวลแฝงไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างผ่านสัมผัสนี้..ก่อนจะถอนออกมา
นัยน์ตาคมมองใบหน้าหญิงสาว ด้วยแววตาที่ใกล้จะริบหรี่ด้วยความหมดแรงก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
"ขอบคุณนะ..ฮินาโมริ"
เปลือกตาค่อยๆปิดลงหลังจากสิ้นประโยค
ข้าดีใจที่ได้พบเจ้า ฮินาโมริ
Writer talk
ฮึก เรื่องมันเศร้าอะไรเช่นนี้ /ปาดน้ำตา แล้วก็จบไปอีกหนึ่งตอนนะคะ ส่วนไอเซ็นจะตายมั้ย เรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไปฝากติดตามด้วยนะคะ ตอนต่อไปหลังๆจากนี้อาจจะมีดราม่าเยอะหน่อยนะ ♡
หญิงสาวค่อยๆช้อนร่างของฮินาโมริแล้วใช้ก้าวพริบตาหามุมที่ปลอดภัยเพื่อจัดการวางร่างเธอไว้ ศึกจากนี้คงอาจทำให้เธอโดนลูกหลงได้จึงต้องพาเธออกมาจากตรงนั้นก่อน
จากนั้นเธอจึงกลับไปหาชายหนุ่มผู้บงการกบทที่ชั่วร้ายที่สุด
"แกรู้มั้ยไอเซ็น ความทะเยอทะยานของแก มันคร่าชีวิตยมทูตไปกี่คน ไอการวิจัยงี่เง่าของแกมันทำให้ต้องเสียสละไปมากเท่าไหร่ แกรู้บ้างมั้ย.."
น้ำเสียงหวานเย็นเหยียบขึ้นด้วยความโกรธจัด พอนึกถึงการกระทำของไอกบทแสนชั่วตรงหน้าตน
"แล้วทำไมข้าต้องสนใจด้วยล่ะ.."
ไอเซ็นยั่วโทสะหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่ราวกับไม่รู้สึกรู้สา ทำให้อารมณ์เธอเดือดพล่านจนแทบคุมไม่อยู่
"ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ยอมแพ้ซะไอเซ็น"
เธอยังคงพยายามคุมอารมณ์ของตนไว้อย่างใจเย็น ถึงข้างในมันจะร้อนใจอย่างจะฉีกกระชากคนตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม แต่นี่ถือเป็นการให้โอกาสก่อนเธอจะหมดความอดทน
"ข้าควรพูดคำนั้นมากกว่านะ ยอมแพ้แล้วหนีไปซะ.."
แต่เหมือนการเจรจาจะไร้ผล เธอคงจะต้องใช้มันแล้วสินะ
"การเจรจาล้มเหลวสินะ.."
"หึ..เจ้าก็คงไม่ยอมเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าได้เสียเวลาเลยโซระ.."
'ฟุบ!'
ร่างสูงพุ่งเข้ามาพรางง้างดาบหวังจะฟาดฟันด้วยการโจมตีเดียว แต่ทว่าตอนนั้น
'ใช้ร่างข้าเลย ฮารุซาเมะ..'
'ตู้ม!!'
ชายหนุ่มต้องกระโดดถอยห่างออกมาเพราะรู้สึกถึงแรงดันวิญญาณที่น่าสะพรึงและน่าขนลุกแผ่ออกมาจากหญิงสาวผิดกับปกติ
เปลวไฟสีแดงเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นเปลวไฟรัติกาลที่ค่อยๆครอบคลุมร่างเธอ จากอีกาที่เกาอยู่นบ่า ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป..
"นั่นมัน.."
เหมือนไอเซ็นพอจะรู้ถึงที่มาของดาบฟันวิญญาณนั้นอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกระเอียดเท่ากับเจ้าของเท่าไหร่นัก
"เอาล่ะ..ไอเซ็นสินะ"
เสียงหวานเรียบเย็นขึ้นผิดปกติจนราวกับเป็นคนละคน นัยน์ตาสีม่วงบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดั่งโลหิต ปรายตามองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาที่นิ่งเรียบ
"นี่เจ้า เล่นมายากลอะไรอยู่โซระ.."
ไอเซ็นยังคงความเยือกเย็นไว้อยู่ถึงตอนนี้จะรู้สึกขนลุกแปลกๆก็เถอะ
"ข้าไม่ใช่โซระ.."
'ฟุบ..'
"เฮือก!.."
"นามของข้าคือ 'ฮารุซาเมะ' "
'เคร้ง!'
หญิงสาวที่ก้าวโผล่ไปอยู่ด้านหลังชายหนุ่มด้วยความเร็วที่ไอเซ็นแทบมองไม่เห็น ทำให้ตนสะดุ้งเฮือกถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วนในจิตใจราวกับจะคลื่นไส้ ดีที่ตนหันมารับดาบของหญิงสาวทัน ถึงจะเฉียดฉิวแล้วเกิดรอยเฉี่ยวบริเวณแก้มไปเล็กน้อยก็เถอะ
"จะซักแค่ไหนกันเชียว..แกน่ะ"
เหมือนตอนนี้ชายหนุ่มจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นเมื่อได้เห็นพลังของโซระที่ทัดเทียมกับตนหรืออาจจะเหนือกับตนแบบนี้
อย่ามาล้อเล่นนะ! เขาจะมาโดนยมทูตอย่างเธอเล่นงานเป็นไปไม่ได้!!
"ฉุนเฉียวซะเหลือเกินนะ.."
'เคร้ง ๆ ๆ ๆ ๆ'
ทั้งคู่ผลัดกันลุกรับด้วยแรงดาบอันหนักหน่วง ซึ่งไอเซ็นก็ไม่เปิดช่องให้ฮารุซาเมะในร่างหญิงสาวใช้เปลวไฟเลยแม้แต่น้อย
ก็น่ากลัวไม่เบาเหมือนกันนี่
ชายหนุ่มเริ่มเหงื่อผุดขึ้นด้วยความรู้สึกเหนื่อยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับหญิงสาว แต่สีหน้าของเธอไม่ได้แสดงอาการอะไร
ระหว่างนั้นเอง
'ฉึก..'
คมดาบปริศนาแทงเข้าที่ร่างของหญิงสาวจากด้านหลัง โดยชายหนุ่มที่ยิ้มออกมาราวกับผู้มีชัยอีกครั้ง
"ถึงดาบฟันวิญญาณอย่างเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าแล้ว มันก็แค่มดปลวกเท่านั้น.."
เขานั้นได้ปลดปล่อยชิไคไว้ตั้งแต่เริ่มสู้แล้วยังไงล่ะ ร่างที่เธอสู้อยู่นั้นหาใช่ร่างของเขาไม่ ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้ขยับร่างกายใดๆเพียงแต่ยืนดูเธอต่อสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนไป จนหาโอกาสเข้าไป
"อย่างงั้นเองหรอ..ถึงว่าทำไมรู้สึกแปลกๆ.."
"..!!"
หญิงสาวที่หน้าจะไม่มีแรงเหลือแม้แต่เสียงพูดกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะไม่สะทกสะท้ายใดๆ
"นะ..นี่เจ้า"
ไอเซ็นตกใจจนแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน ทั้งที่น่าจะไม่มีแรงเหลือแล้วแท้ๆ เพราะมันโดนจุดสำคัญเต็มจนมิดด้ามแล้วนี่
มือบางที่ไม่ได้ถือดาบเลื่อนไปแตะคมดาบที่โผล่ออกมาจากลำตัว พร้อมกับรอยยิ้มอันเย็นระเยือกจนรู้สึกได้ถึงความน่าขนลุก
"ทั้งที่เจ้าน่าจะยอมแพ้ตามที่โซระบอกตั้งแต่แรกแล้วแท้ๆ.."
สิ้นเสียงหวานเปลวไฟสีดำรัตติกาลค่อยๆแผ่ออกมาจากมือบางที่แตะคมดาบของอีกคนและแผดเผาคมดาบน้ำสลายเป็นผุยผงไปในพริบตาคามือของไอเซ็น..
"มะ..ไม่จริง"
ไอเซ็นถึงกลับขยับถอยห่าง ด้วยความตกใจจนแทบสติหลุด ดาบฟันวิญญาณจะทำลายง่ายขนาดนั้นได้ยังไง
ไฟนั่นมันบ้าอะไร!
"เอาล่ะ..ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว ไอเซ็น"
'ฟุบ'
'หมับ!'
หญิงสาวเคลื่อนตัวไปหาชายหนุ่มด้วยความเร็วที่ไอเซ็นไม่สามารถหลบหนีได้ทัน
"จับได้แล้ว.."
"..!?"
มือบางจับเข้าที่แขนของไอเซ็นเพื่อไม่ให้ร่างสูงหนีไปได้..ซึ่งแรงจับจากหญิงสาวที่ไม่น่าจะเยอะขนาดนี้ กลับทำให้เขาไม่สามารุขยับตัวได้ราวกับถูกกดดันโดยแรงดันวิญญาณอันหน้าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากร่างของเธอด้วย
"แขนของเจ้าแข็งแรงดีนะ..แต่น่าเสียดาย"
'พรึ่บ!'
"อ๊ากกกก!!"
เปลวไฟรัตติกาลผุดขึ้นแผดเผาแขนของไอเซ็นจนทำให้เจ้าตัวทรมานจนร้องลั่น ก่อนหญิงสาวจะถอนมือออกมาแล้วมองไปยังชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"ฟะ..ไฟมัน..อ๊ากก หยุดที!!"
เปลวไฟที่น่าจะแผดเผาเพียงแขนของไอเซ็น บัดนี้ค่อยๆลามเข้าไปแผดเผาร่างของไอเซ็นจนเจ้าตัวล้มลงไปนอนดิ้นพล่านอย่างทรมาณ
"โอกาสมันมี แต่เจ้ากับไม่คว้ามันไว้เอง เพราะฉะนั้นก็ทุกข์ทรมาณกับไฟของข้าไปจนกว่าร่างของเจ้าจะกลายเป็นผุยผงซะ.."
ชายหนุ่มหมดแรงจนถึงขนาดไม่มีแม้แต่แรงจะร้องออกมา พรางนอนแน่นิ่งให้ไฟรัติกาลแผดเผาไปโดยไม่ขยับอะไร
คงเพราะรู้ว่าแม้จะดิ้นหรือจะกรีดร้องซักเพียงใด เปลวไฟมันก็ไม่สามารถยะมอดดับลงได้
'ตึก ๆ ๆ ๆ'
เสียงฝีเท้าจากใครบางคนวิ่งเข้ามาทางนี้
"ท่านไอเซ็น!!"
ร่างบางที่พึ่งเข้ามาเห็นภาพนั้นถึงกลับน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดที่เห็นชายที่ตนรักกำลังโดนแผดเผาอย่างทรมาณ พรางทำท่าจะวิ่งเข้าไป
'หมับ..'
"อยากตายรึไงยัยหนู! วิ่งพรวดพราดเข้าไปแตะไฟนั่นเจ้าได้โดนเผาแบบนั้นแน่.."
ฮารุซาเมะในร่างโซระรั้งตัวเธอไว้ แต่เธอก็พยายามดิ้นไปดิ้นมาราวกับจะเข้าไปหาให้ได้
"ฮึก..โซระจัง ขอร้องแหละหยุดทีเถอะ หยุดไฟนั่นที ยังไงแล้วเขาก็ไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้แล้วนะ ขอร้องแหละนะ.."
ฮินาโมริร้องให้เขย่าแขนขอร้องหญิงสาวทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธอนั้นไม่ใช่โซระ แต่เป็นดาบฟันวิญญาณ
"นี่เจ้า..ไม่โกรธแค้นบ้างรึไง"
ฮารุซาเมะมองเธออย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่เธอน่าจะโกรธแค้นชายผู้นี้มากแท้ๆ แต่ทำไมถึงยังอยากจะช่วยอีกกัน
"ข้ารักเขา..ฮึก ข้าทนเห็นเขาเป็นแบบนี้ไม่ได้.."
รองหัวหน้าสาวหน้าใสว่าพรางทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดและอัดแน่นจากข้างในจนหมดเรี่ยวแรงจะยืนต่อ
'ฮารุซาเมะ คลายไฟนั่น'
เสียงผู้เป็นนายดังขึ้นในโสดประสาท เพราะเธอก็ไม่อยากเห็นฮินาโมริทรมาณแบบนี้เหมือนกันถึงจะไม่สนิทชิดเชื้อกันมากมาย แต่ยังไงเธอก็คือเพื่อนคนนึง
'จะดีแน่หรอโซระ..'
ฮารุซาเมะย้ำเพื่อความแน่ใจ
'อ่า คลายได้เลย..'
'รับทราบ..'
ฮารุซาเมะที่ได้รับคำสั่ง จึงพาร่างของตนเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม พรางหยื่นมือไปแตะที่แขนของไอเซ็นแล้วทำการครายไฟรัตติกาล
แปลกใจนิดหน่อยที่ร่างของเขาไม่ดับสลายไป เพียงแต่ร่างกายแดงก่ำไปทั้งร่าง คงเป็นเพราะโฮเงียคุภายในร่างกายของเขาที่ทำให่ร่างกายยังคงสภาพได้แต่ก็ไม่อาจจะมีแรงมาต่อสู้ได้อีก
"ฮึก ท่านไอเซ็น!!"
ฮินาโมริเห็นดังนั้นจึงรีบปลีกตัวลุกพรวดเข้าไปหาชายหนุ่มทันที ฮารุซาเมะที่ไม่อยากจะขัดขวางการร่ำลากันจึงเดินออกมา พรางนำร่างของฮิสึกายะที่บาดเจ็บอยู่ขึ้นและประคองออกไป..
"ฮะ..ฮินาโมริคุง"
เสียงทุ้มแหบพร่าจากร่างที่นอนแน่นิ่งไม่มีแม้แต่แรงขยับนิ้วเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก นัยน์ตาสีน้ำตาลอร่ามมองขึ้นยังหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่อ่อนลง
มือบางนำมือของชายหนุ่มขึ้นมากอบกุมไว้แน่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล
"ท่านไอเซ็น..ไม่เป็นไรแล้วนะคะ ฮึก"
ร่างบางว่าพรางนำมือที่กอบกุมอยู่ขึ้นมาทาบที่ใบหน้าสวยอย่างไม่รังเกียจถึงแม้จะเปอะเปื้อโลหิตก็ตาม
"อะ..อึก มะ..เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกไร้เดียงสาแบบนี้ซักทีนะ.."
ชายหนุ่มผุดยิ้มบางๆขึ้นซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ไร้ซึ่งการเสแสร้งอย่างที่เคยทำ เป็นรอยยิ้มที่มอบให้หญิงสาวตรงหน้าเพียงผู้เดียว
"อึก..ใบหน้าของเจ้าจะเปื้อนเลือดข้าเอานะ ฮะ..ฮินาโมริคุง"
"ข้าไม่สน ขอแค่เวลานี้..ขอแค่ได้อยู่กับท่านในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว.."
ว่าจบหญิงสาวก็โน้มตัวลงไปกอดชายหนุ่มอย่างโหยหา ด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากหัวใจที่เก็บไว้มาเนิ่นนานของเธอ
ที่อยากจะกอดเขาแบบนี้มานานแล้ว..
แขนอันไร้เรี่ยวแรงของร่างสูงค่อยๆขยับขึ้นออย่างยากลำบาก พรางนำไปกอดเธอกลับด้วยความรู้สึกเดียวกัน..
"ขะ..ขอบคุณนะ อึก..ข้าน่ะ.."
ชายหนุ่มค่อยๆเปลี่ยนเลื่อนมือมาประคองใบหน้าหญิงสาวบนร่างตนให้ตรงกับใบหน้าของเขา
"ข้าก็รักเจ้าสุดหัวใจเช่นเดียวกัน.."
ความรู้สึกที่กักเก็บไว้ภายในก้นบึ้งของหัวใจจากไอเซ็น บัดนี้ได้เผยออกมากับหญิงสาวที่ตนอยากจะบอกมากที่สุด และสุดท้ายก็ได้บอกมันกับเธอในที่สุด
ประโยคนั้นทำให้เธอถึงกับปล่อยน้ำตาออกมายกใหญ่ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆใบหน้าคมของร่างสูง พรางค่อยๆประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวลแฝงไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างผ่านสัมผัสนี้..ก่อนจะถอนออกมา
นัยน์ตาคมมองใบหน้าหญิงสาว ด้วยแววตาที่ใกล้จะริบหรี่ด้วยความหมดแรงก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
"ขอบคุณนะ..ฮินาโมริ"
เปลือกตาค่อยๆปิดลงหลังจากสิ้นประโยค
ข้าดีใจที่ได้พบเจ้า ฮินาโมริ
====================
Writer talk
ฮึก เรื่องมันเศร้าอะไรเช่นนี้ /ปาดน้ำตา แล้วก็จบไปอีกหนึ่งตอนนะคะ ส่วนไอเซ็นจะตายมั้ย เรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไปฝากติดตามด้วยนะคะ ตอนต่อไปหลังๆจากนี้อาจจะมีดราม่าเยอะหน่อยนะ ♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น