คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : INTRO - HOW WE MET
SKYSCRAPER
– HOW WE MET
United State of America, September 2008…
“A great morning
Mr.Byun.”
“Thanks.” แบคฮยอนรับแก้วกาแฟมาจากเพื่อนร่วมงาน ส่งยิ้มกลับไปเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปสนใจกับคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่อ คิ้วสองข้างเริ่มขมวดเขาหากันหลังจากสายตาค่อยๆไล่อ่านข้อความบนจอ
มืออีกข้างเอื้อมมาหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบโดยไม่ละสายตาออกจากจอแม้แต่น้อย
“เฮ้อ… ” แบคฮยอนถอนหายใจทันทีหลังจากอ่านข้อความนั้นจบก่อนจะทิ้งตัวลงกับพิงพนักเก้าอี้
ขยี้ผมที่เซ็ตมาอย่างดีจนยุ่งไปหมด
“พี่แบคฮยอน…” เสียงอ่อยๆของจื่อเทา
หรือต้นเรื่องที่ทำให้แบคฮยอนต้องเครียดขนาดนี้ดังขึ้นข้างๆในไม่กี่นาทีต่อมา
“เห็นในเมลแล้วล่ะ
นายโอเคนะ?” แบคฮยอนยิ้มบางๆก่อนจะตบไหล่เทาเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
“ผมไม่อยากย้ายไปเลยพี่
ผมก็ไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย..”
“ก็แค่ย้ายทีมเอง นายก็ยังอยู่ใน
FBI อยู่ดี อย่าคิดมาก”
แบคฮยอนพยายามปลอบใจลูกทีมที่ทำงานอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี
แต่อยู่ๆก็ถูกย้ายทีมออกไป มันก็น่าแปลกใจไม่น้อย
เพราะตอนนี้ทีมของเขาก็ออกจะทำงานได้เข้าขากันได้ดี
ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องย้ายคนฝีมือดีอย่างจื่อเทาออกไป
“ถ้าไอ้คนที่มาแทนผมมันทำงานไม่ได้เรื่องนะผมจะ-”
“Good morning Mr.Byun.” เสียงของโซจีซอบ หรือหัวหน้าหน่วยสืบสวนต่างประเทศของเอฟบีไอขัดขึ้นมา
จื่อเทาจึงต้องหยุดพูดและทั้งสองก็ลุกขึ้นมาโค้งให้คนตรงหน้าพร้อมกัน โดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางเดินตามหลังจีซอบมาด้วย
“ครับหัวหน้า”
“นี่ชานยอล
ปาร์คชานยอล ลูกทีมแล้วก็รูมเมทคนใหม่ของนายที่บอกเอาไว้ในเมล”
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูง และพบว่าสายตาของปาร์คชานยอลนั้นได้จับจ้องมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว
“ทำความรู้จักกันไว้นะ”
พูดจบโซจีซอบก็เดินออกไป ทิ้งไว้แต่ความอึดอัดตรงโต๊ะทำงานของเขา
แบคฮยอนพยายามทำเป็นไม่เห็นสายตาของชานยอลที่ยังจ้องมาที่เขา
หันไปส่งสัญญาณให้จื่อเทากลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองได้แล้ว
“ปาร์คชานยอล อายุ?”
แบคฮยอนนั่งลงทำทีเป็นสนใจคอมพิวเตอร์ตรงหน้าและถามออกไป
“ยี่สิบสี่ครั-”
“นั่งลงสิ
ใช้คอมพิวเตอร์เก่งแค่ไหน? ทำอะไรได้บ้าง?”
“ถ้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ
อยากรู้อะไรก็รู้ได้หมด”
แบคฮยอนเพียงแค่ขานรับในลำคอเบาๆ
ตาทั้งสองข้างจ้องไปที่หน้าจอส่วนมือก็ค่อยๆเลื่อนเม้าส์อ่านประวัติของคนตรงหน้าที่แนบมาในเมล
“แล้วพี่ล่ะ?”
“หืม?”แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมา
“พี่คงจะไม่คิดให้ผมแนะนำตัวคนเดียวใช่ไหม?”
“บยอนแบคฮยอน
อายุยี่สิบสี่ เป็นหัวหน้าทีมนี้ แต่เรียกว่าแบคฮยอนก็พอ รอแปป เดี๋ยวค่อยพาไปแนะนำพี่ๆในทีม”
“อ้าว
แบคฮยอนไม่ได้แก่สุดเหรอ ถึงได้เป็นหัวหน้าทีม”
“เด็กสุดต่างหากล่ะ..”
แบคฮยอนหันกลับไปสนใจคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่อ
โดยไม่ได้ทันสังเกตว่าหลังจากที่เขาแนะนำตัวเสร็จนั้นมีรอยยิ้มอ่อนๆปรากฎขึ้นบนหน้าลูกทีมคนใหม่…
หนึ่งเดือนต่อมา…
“หัวหน้าครับ… ไม่สิ
แบคฮยอนคือผม…” ชานยอลยืนทำหน้าบื้อๆอยู่ตรงหน้าแบคฮยอน ซึ่งมันน่ารำคาญในสายตาหัวหน้าทีมตัวเล็กมากพอสมควร
หลังจากเข้ามาทำงานเขาก็รู้สึกได้แหละว่า
ชานยอลมันมีฝีมือแต่เมื่อเจอสถานการณ์จริงทีไร ไอ้บ้านี่ก็ลน ทำให้เรื่องวุ่นวายจนน่ารำคาญทุกที
“มีไร?”
“คือผมชอบแบคฮยอน
เป็นแฟนกับผมนะ…”
“…” แบคฮยอนทอดสายตามองคนตรงหน้านิ่งๆ
ไม่มีท่าทีตกใจใดๆทั้งสิ้น แต่สำหรับชานยอลแล้วมันน่ากลัวมาก
“เป็นบ้ารึไงปาร์คชานยอล”
อาจจะนับว่าเป็นประโยคยาวที่สุดที่แบคฮยอนเคยพูดกับเขาก็ได้
เพราะปกติแล้วคนตัวเล็กมักจะเก็บตัวและพูดในเวลาจำเป็นจริงๆ
“เปล่าคือผม..”
“กลับไปทำงาน เลิกพูดเรื่องไร้สาระก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” ยังไม่ทันที่ชานยอลจะพูดจบประโยค
หัวหน้าทีมก็เดินผ่านไหล่เขาไปโดยไม่สนใจกันสักนิด...
หกเดือนต่อมา...
“แบคฮยอนนี่จุดอะไรรู้ไหม?”
ชานยอลชูกระดาษเปล่าๆแผ่นหนึ่งที่มีจุดตรงกลางให้หัวหน้าเขาดูระหว่างที่ทุกคนในทีมกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอยู่
“จุดไร?” แบคฮยอนที่กำลังเคร่งเครียดกับเอกสารตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมามองนิ่งๆ
“จุดเริ่มต้นของพวกเราครับ ซารางเฮ” ชานยอลยกแขนสองข้างทำเป็นรูปหัวใจ
...
...
...
“จงอินมึงว่าคราวนี้ไอ้เด็กใหม่จะตายไหมว่ะ?” เซฮุนผู้มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดสะกิดจงอินที่ยังนั่งอ่านเอกสารอยู่ข้างๆ
จงอินเงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงว่าแบคฮยอนน่าจะยังอดทนกับเหตุการณ์แบบนี้ได้อยู่
ใช่
พวกเขารู้ดีว่าปาร์คชานยอลเด็กใหม่ใจกล้ากำลังท้าทายอำนาจมืดโดยการจีบบยอนแบคฮยอนหัวหน้าทีมของพวกเขา
ซึ่งการหยอดมุกเสี่ยวๆทุกวันเช้าเย็นมาเป็นเวลาหกเดือนนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ปกติแบคฮยอนก็แค่ไล่ไอ้เด็กใหม่ไปทำงาน แต่วันนี้...
“แต่กูดูแล้วไม่น่าตายดี คุณหัวหน้ามันจะระเบิดล่ะ ดูดิ” คยองซูชี้ไปที่แบคฮยอนที่มองชานยอลด้วยสายตาที่ลุกโชน
เห็นแบบนั้นเซฮุนก็รีบเขยิบเก้าอี้มานั่งข้างเพื่อนตัวเล็กทั้งสองกุมมือกันแล้วส่ายหน้าไปทางชานยอลเป็นสัญญาณบอกว่ามันไม่รอดแน่ๆ
และพวกเขาจึงเริ่มนับถอยหลัง...
“สาม... สอง... หนึ่ง...”
แอ็คชั่น!
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
เอกสารทั้งปึกในมือแบคฮยอนฟาดลงบนหัวชานยอลไม่ยั้ง
ถึงชานยอลจะพยายามปัดป้องยังไงแต่แบคฮยอนก็ไม่หยุดฟาด
“ปาร์คชานยอล!”
ผัวะ!
“บอกแล้วใช่ไหม!”
ผัวะ!
“อย่ามาพูดจาไร้สาระ!!”
ผัวะ!
“หมดความอดทนแล้วนะเว้ย!”
“ก็ผมชอบ
ไม่ดิผมรักแบคฮยอนจริ-”
ผัวะ!
เซฮุนและคยองซูก็ยังคงส่ายหัวไปมาพร้อมๆกัน
โบกมือลาอนาคตอันเรือนลางของชานยอล นี่พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆนะว่าทำไมปาร์คชานยอลต้องพยายามจีบแบคฮยอนขนาดนี้
ถึงแบคฮยอนจะเด็กสุดในทีมแต่กลับเข้าถึงยากพอๆกับจงอินเสียอีก … แล้วไอ้เด็กใหม่มันไปชอบอะไรในตัวแบคฮยอนกันแน่…
June 2010,
“ต่อไปเป็นข่าวการเมืองค่ะ
หลังจากมีข่าวลือกันหนาหูว่ามีซื้อเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่
ในวันนี้เวลาประมาณแปดนาฬิกาท่านได้ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวของท่านเอง
โดยยืนยันว่าไม่มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น
และจะตั้งใจทำงานเพื่อให้ประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุดค่ะ…”
ติ้ด…
“วีอาร์วัน! สวัสดีครับพวกเราเอ็กโซครับ!”
อยู่ดีๆช่องข่าวประจำวันที่แบคฮยอนตั้งอกตั้งใจดูอยู่นั้นก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นช่องอื่น
ทำให้เขาต้องหันไปดุตัวต้นเหตุที่ถือรีโมตอยู่ในมือทันที
“ไม่เห็นรึไงว่าดูอยู่”
“ก็เห็น...”
“เปลี่ยนกลับไป” แบคฮยอนพยายามจะแย่งรีโมททีวีคืนมา
แต่ก็ไม่เป็นผล ชานยอลชูรีโมตทีวีเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็คอยกันแบคฮยอนเอาไว้ด้วยท่าทีสบายๆ
“ไม่เอา แบคฮยอนสนใจแต่ข่าวยิ่งกว่าแฟนอีกนะ
ข่าวกับแฟนเลือกอะไร”
“...ข่าว”
“ผมไม่ได้จีบแบคฮยอนมาทั้งปีเพื่อมาแพ้ข่าวในทีวีแบบนี้นะ”
ชานยอลทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาดิ้นไปดิ้นมาเป็นเด็ก
ใช่... ในที่สุดแบคฮยอนก็ยอมรับปากเป็นแฟนเขาสักทีหลังจากที่พยายามตามจีบแทบตาย
ถึงแบคฮยอนจะตอบว่า ‘แล้วแต่มึง’ ก็เถอะ
เขาก็ถือว่านั่นคือคำตอบรับและแบคฮยอนคือแฟนของเขาแล้ว
“แล้วคนนี้ใครทำไมแบคฮยอนถึงคุยดีๆด้วยตลอดเลย” ชานยอลชูโทรศัพท์ของตัวเองที่มีภาพแคปเจอร์หน้าแชทระหว่างแบคฮยอนกับคนอื่นๆขึ้นมา
พยายามงอแงหาเรื่องที่จะทำให้แบคฮยอนสนใจเขาสักที
“แฮ็คโทรศัพท์ฉันอีกแล้วเหรอ?”
“ก็มัน...”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ทำอะไรแบบนี้ ห้ามแตะโทรศัพท์ฉันอีกเข้าใจ-”
Rrr…Rrr…Rrr…
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้แบคฮยอนหยุดพูดและเดินไปรับโทรศัพท์
“ครับพี่? ...ห้ะ?! ครับ อย่าลืมปิดทางออกทุกทางอย่าให้ใครออกไปได้
ครับไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” พูดเพียงไม่กี่คำแบคฮยอนก็รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง วิ่งไปหยิบบัตรประจำตัวและเสื้อโค้ททั้งของตัวเขาและชานยอล
“ทำไม? เกิดไรขึ้น?” ชานยอลที่ยังยืนงงๆอยู่ในห้องถามขึ้น
แต่ยังไม่ทันได้คำตอบหัวหน้าทีมก็จับแขนเขาลากออกจากห้องทันที
“เร็วๆสิ!”
.
.
.
เสียงสัญญาณเตือนภัยกรีดร้องลั่นอาคารFBIจนได้ยินมาถึงข้างนอก
ยังโชคดีที่ห้องพักของเขากับชานยอลไม่ได้ไกลจากที่ทำงานมากนัก
ทั้งคู่จึงวิ่งมาถึงโดยใช้เวลาไม่กี่นาที
“พี่..” แบคฮยอนเดินเข้าไปแตะไหล่จงอินที่ยืนมองที่เกิดเหตุอยู่
และแบคฮยอนก็แทบจะทรุดลงไปกับพื่นเมื่อจงอินถอยออกมาให้เห็นที่เกิดเหตุชัดๆ
“นี่มัน...” ภาพตรงหน้าคือร่างไร้ลมหายใจของรุ่นพี่คนสนิทของแบคฮยอน
หรือปาร์คจีซอง แต่แล้วเสียงสัญญาณที่เงียบไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาก็ดังขึ้นมาอีก
ในพริบตาแบคฮยอนและจงอินต่างรีบวิ่งเข้าไปที่คอมพิวเตอร์ของปาร์คจีซองทันที
“ปาร์คชานยอล!! ยืนทำบ้าอะไรอยู่?! สัญญาณดังแบบนี้แสดงว่ามีคนแฮคเข้ามาในระบบ ทำอะไรสักอย่างสิ!!” แบคฮยอนหันมาตะคอกใส่ชานยอลที่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างหลังเขาจนน่าหงุดหงิด
ตอนนี้จื่อเทาที่เขาเคยเชื่อใจเรื่องพวกนี้ก็ไม่อยู่.. บ้าที่สุด
“ครับ” ชานยอลค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าแต่ก็รีบเข้าไปที่คอมพิวเตอร์และพิมพ์ตัวอักษรและตัวเลขมากมายเพื่อพยายามกู้ระบบคืนมา
ยังไม่ทันที่จะกู้ระบบคืนมาได้สำเร็จ บนจอคอมพิวเตอร์ก็ปรากฎตัวหนังสือประหลาดที่คนประเทศนี้ไม่คุ้เคย
แต่แบคฮยอนจงอินและชานยอลนั้นกลับเข้าใจมันได้ดี...
“เตรียมตัวเอาไว้ พวกทรยศ...”
TBC
#ficskycb
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ติชมในเม้นหรือสกรีมในแท็คได้เลยค่ะ
ความคิดเห็น