ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่กัด..คู่กัน [THE END]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 ดูตัว

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 65




    บริษัทแห่งหนึ่ง..

    “พรุ่งนี้ฉันจะให้ลูกสาวฉันมาดูตัวลูกสาวแก”

    “พรุ่งนี้หรอ ดีเลย..”

    “ทำไม ดูรีบร้อนเป็นพิเศษเลยล่ะ”

    “ก็ฉันยังไม่บอกมันเรื่องที่ต้องหมั้นเลยน่ะสิ กลับไปจะได้บอกเลย”

    “อ้าวว..ฉันนึกว่าแกบอกแล้วซะอีก แล้วทำไมยังไม่บอกอีกล่ะวะ”

    “ถ้าขืนฉันบอกไปตอนนั้นนะ มีหวังมันคงบ่นให้ฉันฟังยาวๆ แน่ จะได้บอกวันนี้เลยจะได้ไม่ต้องฟังเสียงบ่นยาวๆ เพราะหลังจากวันนั้นแล้วมันจะได้ไม่บ่น ขี้เกียจฟัง”

    “นี่ลูกหรือแม่กันแน่วะ..555”

    “ฉันว่าแม่55555”

    เขายิ้มและหัวเราะให้คู่สนทนาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเปรียบเทียบลูกของตนว่าเหมือนแม่ของตัวเอง

    .

    “ฮัดชิ้วว!!”

    หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้าห้องน้ำแต่กลับจามขึ้นเสียงดังแล้วยกมือขึ้นบีบขยี้จมูกตัวเอง

    “โอ้ยย!! ใครนินทาฉันเนี่ยย..”

    .

    “แต่เมื่อวานฉันบอกยัยเอิร์ทแล้วนะ มันยืนกรานแทบตายว่ายังไงก็จะไม่ยอมหมั้น แต่พอเห็นหน้าลูกแกเท่านั้นแหละ มันรีบตอบตกลงโดยไม่มีการลังเลอะไรเลย แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนมีเล่ห์ในยังไงก็ไม่รู้”

    เขาสาทยายเรื่องของลูกสาวของตัวเองให้เพื่อนคู่สนทนาฟัง

    “แปลกๆนะลูกแก หรือว่าเค้าเคยเจอกันแล้ววะ”

    “ทีแรกฉันก็คิดเหมือนแกเหมือนกัน เอ้าา..เดี๋ยวต้องไปแล้วว่ะ มีประชุมบ่าย”

    เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วบอกกับเพื่อน

    “แล้วเจอกัน”

    “แล้วเจอกัน!!”

    จบประโยคชายวัยกลางคนก็เดินออกไปจากห้องของเพื่อนตัวเองที่เป็นถึงประธานบริษัทกิติพัตน์ กรุ๊ป

    .


    .


    .


    .


    .


    .

    วันดูตัว...

    “เป็นฝ่ายนัดเองแท้ๆ แต่กลับมาทีหลังแล้วให้คนอื่นเค้านั่งรอ มันใช้ได้ที่ไหนกัน”

    นัทธมนบ่นพึมพำอยู่คนเดียวพร้อมแสดงอาการไม่พอใจอย่างมากออกมาปะปนกับความอารมณ์เสียอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย

    “บ่นอะไรอยู่คนเดียว”

    หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามากล่าวทักหญิงสาวตรงหน้าอย่างอารมณ์ดีไม่น้อย

    “เฮ้อะะ!! นี่เธออีกแล้วหรอเนี่ยย..”

    เธอสบถขึ้นมาเสียงดังเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังนั่งลงเบื้องหน้าตัวเอง

    นี่ฉันทำเวรทำกรรมอะไรไว้ก็ไม่รู้ ถึงได้เจอแต่กับยัยบ้านี่ตลอดเลย

    “นี่..ใครบอกให้เธอนั่งฮะ!!”

    “ชู่ววว..อย่าเสียงดังสิคะ คนมองหมดเล่า แค่คู่หมั้นจะนั่งด้วยแค่นี้ไม่ได้หรอคะรุ่นพี่คนสวย”

    เธอฉีกยิ้มออกมา

    “อะไรนะ!!”

    “ชู่ววว!! เอิร์ทบอกแล้วไงคะว่าอย่าเสียงดังอ่ะ”

    “อย่าบอกนะว่า..คนที่พ่อจะให้ฉันหมั้นด้วยเป็นผู้หญิง นี่พ่อเขาคิดอะไรของเขาอยู่นะถึงให้ลูกตัวเองหมั้นกับผู้หญิงอ่ะ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นจะไม่ว่า แต่นี่ดันเป็นผู้หญิงแบบเธอ คือมันแบบ....”

    เธอไม่พูดต่อเพียงแต่ทำเป็นท่าทางที่ไม่พอใจปะปนไปกับความดูถูกอีกฝ่าย แล้วมองแบบหยามๆ

    “ทำไมคะ..ผู้หญิงอย่างเรานี่มันทำไม...”

    เธอกล่าวแล้วเอ่ยหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วกอดอกยิ้มมุมปากเพื่อจะยียวนกวนประสาทคู่สนทนาตรงหน้า

    “พูดจากวนประสาท กวนบาทา ชอบยั่วโมโหคนอื่น เจอทีไรก็มีแต่เรื่องซวยกับซวยทุกที..ไม่มีเรื่องไหนดีเลยสักเรื่องเดียว โฮ้ยยย!!”

    เธอกล่าวจนจบแล้วกอดอกตัวเองหันหน้าไปออกไปมองข้างนอกร้านผ่านกระจกสีใสอย่างอารมณ์เสีย

    ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะเนี้ยยย!!

    “ว่าไป๊..ถึงรูปร่างภายนอกของเอิร์ทเนี่ยจะเป็นผู้หญิงน้าาา แต่ภายในที่ซ้อนไว้อยู่อาจจะไม่ใช่ผู้หญิงก็ได้น้าา..ใครจะไปรู้ ฮึ่ฮึ่ฮึ่!!”

    เธอหัวเราะอย่างมีเล่ห์ในแฝงอยู่

    มันจะหัวเราะอะไรขนาดนั้นวะ โรคจิตรึเปล่าวะเนี่ยย!!

    “โรคจิตวะ!!”

    “อ้าวๆ..อยู่ดีๆมาว่ากันโรคจิตได้ไงกันเล่า”

    “อยากว่า..จะทำไม ถ้าให้ฉันต้องมาหมั้นกับคนอย่างเธอนะ ฉันยอมไปเอากับหมีควายในป่าซะยังจะดีกว่ามาหมั้นกับเธอ แบบนั้นคงจะดีกว่าเยอะ!!”

    “ก็เอาดิ!!”

    “นี่! อย่ามาท้าฉันนะ”

    “เปล่าท้าน้าาา!! แต่ว่านะ ก็คงต้องถามหมีควายก่อนว่ามันจะเอากับรุ่นพี่รึเปล่า”

    เธอกล่าวปฏิเสธต่อด้วยประโยคคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ แต่ต้องการยั่วโมโหอีกฝ่ายแทนพร้อมทั้งยิ้มให้เป็นเล่ห์ลมคมใน

    “ยัยบ้านี่..”

    ดูมันๆ ยังจะมายิ้มได้อีก เวรกรรมอะไรของฉันนักหนาเนี้ย ชาตินี้จะหนีไม่พ้นเลยหรือไง

    .

    .

    แต่หลังจากสิ้นสุดวันนั้นฉันก็ต้องมาเจอกับอีพี่เอิร์ทอะไรนั่นอีกที่หน้าโรงเรียน หรือแม้กระทั้งคาบที่ต้องเดินเรียนหรือพักเที่ยงเลิกเรียนที่ต้องเจอกันแทบทุกวัน

    แต่วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องใส่ชุดพละ ฉันก็ไม่ต้องทำอะไรมากแค่ต้องใส่ถุงเท้าสั้นไม่ยัดเสื้อเข้าข้างในไม่ผู้โบว์โรงเรียนก็เท่านั้น แต่ฉันซะอย่างไม่ใส่แม่งเลยถุงเท้า..แม่งเข้าโรงเรียนเลย ค่อยไปใส่ข้างในเลยทีเดียว นี่ฉันดูเลวไปมั้ยอ่ะ555 ไม่หรอก..

    ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าพวกสภานักเรียนจะเป็นยังไง โดยเฉพาะอีพี่เอิร์ทนั่นมันจะทำยังไงกับฉัน

    ฉันเดินไปไหว้พวกสภาพที่มายืนรับไหว้อยู่3-4คน แต่แปลก..ที่ว่าเช้านี้ไม่เจอยังนั่นเลยฉันจึงมองซ้ายมองขวาเพื่อจะหาว่ายัยนั่นอยู่ไหน

    “มองหาใครหรอพี่”

    เสียงฮ้าวของชายหนุ่มสภานักเรียนรุ่นน้องคนหนึ่งกล่าวดังขึ้น

    “อ้ออ..เปล่า เปล่าา..เปล่า...”

    ฉันตอบกลับรุ่นน้องสภานักเรียนคนนั้นไปแล้วรีบเดินเข้าโรงเรียน

    “เดี๋ยวก่อนพี่...”

    ชายหนุ่มคนนั้นเรียกเธออีกครั้ง เธอจึงหยุดยืนแล้วหันไปมองหน้าเขา

    “คะ!!”

    “ถุงเท้าทำไมไม่ใส่”

    “ค่อยไปใส่ข้างในก็ได้ป่ะน้อง..”

    ฉันกล่าวแล้วล้วงมือเข้าไปข้างกระเป๋าเป้แล้วหยิบถุงเท้าขึ้นมาโชว์ให้ดูคู่หนึ่ง

    “หรือถ้าจะให้ใส่ตรงนี้เลยเอามั้ยล่ะ”

    เธอทำท่าเหมือนจะนั่งลง

    “ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง..ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

    ก็นึกว่าจะให้ฉันนั่งใส่ตรงนี้จริงๆซะอีก แล้วฉันก็หันกลับเตรียมจะเดิน แต่ทว่าา...

    “แล้วโบว์ผูกผมล่ะ”

    หญิงสาวคนหนึ่งโพล่งปากพูดกระซิบขึ้นมาข้างหูของเธออย่างคุ้นหูคุ้นด้วยน้ำเสียงการพูด ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของน้ำเสียงนั้นเป็นใคร

    “ทำหล่นข้างทาง..จะไปตามเก็บให้มั้ยล่ะ”

    เชี่ยย!! นึกว่าจะไม่มาซะอีกตายล่ะกู โดนยัยนี่จับอีกแน่ๆ มายืนตรงหน้าฉันซะขนาดนี้เนี่ยย..

    “อ้ออ..หรอคะ!! แล้วนี่อะไร”

    เธอกล่าวแล้วเหลือบตามองไปในกระเป๋าของอีกคน แล้วหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมา

    “เชี่ยยย!!”

    เธออุทานออกมาแล้วคว้าเอาโบว์ผูกผม ก่อนรีบวิ่งแต่ไม่ทันโดนคว้าข้อมือแล้วโดนดึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องชนเข้ากับคนที่ดึงเธอไว้จนล้มลงนอนกับพื้น จนคนทั่วบริเวณนั้นหันมามองกันและในขณะนั้นอาจารย์ก็ได้เดินมาเห็นพอดี

    ทั้งสองร่างนอนทับกันบนพื้นใบจนแทบจะจูบกันได้อยู่แล้ว แต่หน้าดันอยู่ห่างกันเพียงเสี้ยวปลายจมูกเท่านั้น และจ้องตากันดังต้องมนตราอยู่ครู่หนึ่ง

    “เธอสองคนทำอะไรกัน...”

    เสียงอาจารณ์ใหญ่ดังขึ้นจนเธอทั้งสองคนต้องหลุดจากพวังแล้วรีบลุกขึ้นแล้วรีบจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย

    “มี..”

    “ไม่มีค่ะ”

    ทั้งสองพูดพร้อมกันแต่คนละคำตอบ จนอีกคนหันไปมองหน้าคนตอบปฏิเสธอย่างเจ้าเล่ห์

    “ตกลงมีหรือไม่มีกันแน่”

    “ไม่มีค่ะ! แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ”

    อาจารย์ใหญ่ได้ฟังดังนั้นก็เอามือคัดหลัง

    พอยัยนั่นพูดจบอาจารย์ใหญ่ก็ยืนมองหน้าเราสองคนอย่างเข้มขึมก่อนจะเดินไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “โฮ้ววว..โล่งงงง!!”

    “โล่งเรื่องอะไร..”

    “เรื่องของฉัน..ชิ!!”

    นัทธมนกล่าวแล้วจิปากพร้อมกับรีบเดินหนี พิชญาจึงเดินตามไปและเพื่อนของพิชญาที่เป็นสภานักเรียนด้วยกันจึงมองตามหลังไปด้วย

    “นี่..เดี๋ยวก่อนเซ้.....”

    เธอดึงคนข้างหน้าหันกลับมา

    “อะไรอีกวะฮะ!!”

    “เลิกเรียนเอิร์ทไปส่งมะ... OK! เลิกเรียนนี้เจอกัน”




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×