คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เกรียนที่ ๖
“แฮ่กๆ
แกจะพาฉันไปไหน” ผู้แบกร่างของไอ้ทานพาดบ่า
ก่อนจะนำมาวางไว้ที่แท่นเผาศพที่ผมเคยนอน
“มาถอนคำสาป”
ผมจัดแจงเตรียมอุปกรณ์ทำพิธีทันที โดยมือนึ่งล้วง มือหนึ่งถือ.. อ่า... มือหนึ่งล้วงอุปกรณ์
มือหนึ่งถือคู่มือน่ะ
“อย่าบอกนะ
ว่าเมื่อกี้...”
“เออ ฝีมือฉันเอง”
“ทำได้ไงว่ะ”
“พ่อสอนมามั้ง
แม่ง ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาชนฉัน มือถือระเบิดอยู่ บึ้มเลย”
ผมจัดการนำเทียนมาวางที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง
ปลายมือทั้งสองข้าง และที่หัวของมัน ก่อนจะพูดคาถาตามที่คู่มือมันให้มา
ดีนะที่ระหว่างที่งมสำรวจเจอ ไม่งั้นผมก็คงจะทำอะไรไม่เป็นแน่ๆ
ผมจับขวดยา ที่มันผุดจากดินขึ้นมาหลังจากที่ผมท่องคาถาจบ
แล้วจับกรอกปากไอ้ทานทันที
แต่มันก็ยังไม่วายบ่นเรื่องรสชาติและกลิ่นที่ไม่ค่อยจะพึงประสงค์สักเท่าไหร่นัก
“แหวะ ยาอะไร
กลิ่นยังกับขี้แมว รสชาติอย่างกับท่อน้ำเสีย หลอกฉันป่ะเนี่ย”
“กินๆ เข้าไป
นี่มันต้องแลกกับมานาแล้วก็พลังชีวิตฉันเลยนะ แกพึงสำนึกเอาไว้เถอะ!”
“ถ้าพลังชีวิตกับมานาแกห่วยขนาดนี้
ปล่อยฉันให้ตายเสียยังดีกว่า มันทรมาน~”
...ยังมีอารมณ์มาร้องเพลงอีก - -
“แค่กๆ อ่า
รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ แกทำได้ไงว่ะ” หลังจากที่โดนผมจับยากรอกปากได้ไม่นาน
มันก็ยกนาฬิกาขึ้นมาดูสถานะของมัน ก็เห็นว่าคำสาปได้รับการถอนแล้ว
แต่ไม่รู้ว่าคนที่โดนไปด้วยจะเป็นยังไง
“เก่งไง
ส่วนระเบิดคำสาป ฉันบอกแล้ว มันฟลุ๊กว่ะ”
“ไม่ใช่
ฉันถามว่าแกถอนคำสาปได้ยังไง หรือแกเล่นสายซับพอร์ต?”
“ซับพอร์ตบ้านป้าแกสิ
พูดแล้วฉันยังงงไม่หาย”
“แกงงอะไร
ถามตะวันคนนี้ได้ ฉันยินดีตอบเสมอ”
“ฉันถามแกจริงๆนะ...”
ผมทำหน้าเข้ม “แกลืมบอกอะไรฉันหรือเปล่า”
“ก็ไม่นะ”
ทานตะวันยังทำหน้าใสซื่อ ราวกับว่ามันได้บอกผมไปหมดแล้ว
“แล้วที่ฉันเจอ
NPC สาวประเภทสองนั่นหละ หมายความว่าไง”
“ห๊ะ! แกเจอ!”
ทานตะวันทำตาโต ทำปากเป็นรูปตัวโออย่างอึ้งๆ “ไม่อยากจะบอกว่าแกโคตรโชคดีว่ะ! มันเป็นตำนานเลยนะเว้ย!”
“ยังไง”
ผมไม่เข้าใจที่ไอ้ทานมันพูด มันจะเป็นตำนานได้ยัง
“ก็เขาเล่ากันมาว่า
ใครได้เจอกับ NPC ที่แปลกประหลาด คนๆ นั้นมักจะได้ไอเทมแปลกๆ หรือไม่ก็ระดับสถานะดีๆ
กันทั้งนั้น!”
“ดีออกใช่ไหม?! แกรู้หรือเปล่าว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง!!!”
ผมถึงกับเดือดทะลุร้อยไปแล้ว
“ฉันไม่รู้ แกก็เล่าสิ!”
“ตอนฉันเข้าเกม
แม่ง NPC เกือบจะลวนลามฉัน! สถานะฉันก็ต่ำต้อย ใส่ชุดลิเกมา
แม่งก็โดนปล้น!”
สุสานที่เคยเงียบสงบ
กลับมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น ทำให้ผู้คนที่อยู่ระแวกนั้นเริ่มมีเรื่องเล่าแปลกๆ
เกี่ยวกับสุสานแห่งนี้ ว่ามีผี ทั้งดุ ทั้งเฮี้ยน และน่ากลัว! โดยที่เจ้าตัวต้นเหตุก็ยังไม่รู้ว่าเสียงของตัวเองจะส่งผลกระทบอะไร
“แกบ้าป่าวว่ะ! ใส่ชุดลิเก! แกเอาเล็บขบคิดไง!”
“ตอนแรกกะจะมาเล่นฮาๆ
ไม่มีใครรู้จักไง แต่งลิเกไม่เห็นจะแปลก”
“ไม่แปลก
แต่ไม่มีใครทำ สมควรล่ะที่โดนปล้น”
“แต่โจรโคตรกิ๊กก๊อกกะโหลกกะลามากว่ะ
ฉันหนีมันออกมาได้ แต่ดั๊น มาเดินตกบ่อขี้ที่ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มันปล่อยเอาไว้ แกรู้ป่ะ
ว่าสาวทั้งเมืองแม่งไม่แลกูเลย แล้วก็มีเงื่อนไขบ้าๆ มาอีก
ว่ากูจะต้องพูดเป็นทำนองลิเกเป็นเวลาสามวันต่อเดือน พ่อง ให้ตายสิ!”
“แล้วแกทำไง”
“ขายทิ้งดิ
เก็บไว้บูชาอ่อ”
“ได้เท่าไหร่”
“2500 แม่งโดนโกง แล้วแกรู้ไหม เครื่องสำอางแต่งมาอย่างดี กะเอาให้เหมือนที่ลิเกแต่ง
พอจะล้างออก เสือกไม่ออก ฉันต้องโดนกล่าวหาว่าเป็นกระเทยหัดแต่งหน้า ไอ้อาร์มงี้เฟลเลย”
จากนั้นผมก็ได้เล่าความลำบากในการมีชีวิตอยู่ในโลกของเกรียนๆ
ออนไลน์แห่งนี้ให้ไอ้ทานฟัง ไอ้บ้านนั่นก็ได้แต่นั่งหัวเราะผมจนท้องคัดท้องแข็ง
มึงไม่เจอแบบกู
มึงไม่รู้หรอ!
TTTTTTTTTTTTTTT
ตามสัญญาคร้าบบบ เป็นกำลังใจให้นักเขียนตัวน้อยตัวนี้ด้วยนะ 555
ป.ล. บทพูดอาจจะดูมุ้งมิ้งนะ ฉันกับแกเนี่ย แบบ ก่อนหน้านั้นไรท์เขียนเป็นกูกับมึง แต่แบบ โดนแบนไง เลยจัดมาแบบมุ้งมิ้งล่ะกัน ถ้าใครอยากได้อรรถรสแบบดิบ เถื่อน แลดูเป็นธรรมชาติ เป็นฉันกับแก เป็นกูกับมึงนะ 555 มันได้ฟิลเพื่อนสนิทกันกว่าเยอะ
ป.ล. 2 อย่ากดแบนเค้านะตัวเองง
ความคิดเห็น