ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกรียนๆ Online

    ลำดับตอนที่ #1 : เกรียนที่ ๑

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 59


         

    *รีไรท์แล้วจ้า





          “
    อาร์มมมมมมมม”

           เสียงทุ้มใหญ่ดังมาแต่ไกล ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างสูงใหญ่ หุ่นดีราวกับหลุดออกมาจากนิตยาสารเกย์//- - ผมชี้โด่เดไม่เป็นทรง แต่กลับดูดีอย่างประหลาด ผมที่ถูกย้อมดัดเซตซอยไดร์จนทั้งหัวกลายเป็นสีขาวราวกับผมงอก แต่เจ้าตัวกลับมองว่ามันเทห์ (ตรงไหนหว่า?) ผมสีขาวสะท้อนกับแสงของหลอดไฟระย้าหรูหรา ที่ห้อยลงมาจากเพดานที่อยู่สูงเทียบเท่าสองชั้นภายในห้องเดียว ทำให้เขาดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ ใบหน้าที่มองดูก็รู้ว่าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่ดวงตาที่ได้รับมาจากมารดานั้น กลับคมเข้มอย่างไทยๆ และได้รับการผสมผสานกันอย่างลงตัว

     

           “ไรว่ะ? อูฐลายเสือ - -” น้ำเสียงทุ้มที่ฟังดูสบาล ผสมกับการกวนบาทานิดๆของร่างสูงอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย ผมสีดำธรรมชาติที่ไม่เคยผ่านการย้อมดัดเซตซอยไดร์อะไรมาก่อน ใบหน้าที่ดูเป็นไทยแท้ดั้งเดิมและหล่อเหลาไม่แพ้ใคร เอ่ยขึ้นในขณะที่อ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวใหญ่ที่มองดูก็ต้องตาละห้อย เพราะหากได้นั่งก็คงขนหน้าแข้งร่วงกราว แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้แน่นอน ชายหนุ่มดันแว่นตาที่เสริมโครงหน้าให้กลายเป็นเด็กเนิส์ดได้ไม่ยาก เพราะหน้าตาให้อยู่แล้ว พร้อมกับมองผู้มาใหม่ที่ตนรู้จักดี

     

           “=[]= อาเมนผ่าตัดอะยัง?”

           “ยัง - - ทำไม?จะผ่าหมาให้ฉันหรอ?”

           “รู้ทันอีก ฉันเกลียดแกT[]T

           “ขอบใจ แต่ฉันเพาะเอาไว้ทำฟาร์มว่ะ เสียใจด้วยให้แกผ่าไม่ได้” ชายหนุ่มที่มีนามว่าอาเมนเอ่ยขึ้นพร้อมกับดันแว่นตาของตนให้เขาที่อีกครั้ง ด้วยความเคยชิน

     

           “อาเมนใจร้าย ทานตะวันคนนี้จะไม่ทน!!!” อาเมนมองหน้าเพื่อนรักของตนพร้อมกับส่ายหัวให้กับความติ๊งต๊องของเพื่อนรัก ใบหน้าที่เก๊กขรึมไม่อาจซ่อนแววตาขบขันเอาไว้ได้เลย

     

           “- - ไอ้หอกไม่มีหัว” อาเมนเอ่ยขึ้นลอยๆพร้อมกับก้มลงอ่านหนังสือต่ออย่างไม่สนใจเพื่อนรักของตน

     

           “อ้าว ก็ไอ้หอกหักอะดิ?”

     

           “....”

     

           “....!!! ไอ้เวรอาเมนครับ!!!!

     

           ทานตะวันโวยวานขี้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าร่างสูงตรงหน้าหลอกด่าตน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำด่าที่ไหนมาด่าคนตรงหน้าดี มันกวนบาทานักไอ่นี้เนีย

     

           ...ยิงมุกที่ไหร่ ตบมุกกูพังยังไม่พอ ตอกหน้ากูซะหงาย ไอ่เวรเอ๊ยยยย!..

     

           ทานตะวันได้แต่บ่นอยู่ในใจอย่างคนที่ทำอะไรไม่ได้

           “มีอะไรก็ง้างปากพูดมา เสียเวลาอ่านหนังสือเว้ย”

           อาเมนดันแว่นพลางก้มหน้าอ่านหนังสือต่ออย่างไม่สนใจคนตรงหน้า ทำให้ทานตะวันไม่พอใจ จึงชะโงกหน้าเข้าไปร่วมวงในการอ่านของเพื่อนรักตรงหน้า

           “โอ้ววววว O.O” ทานตะวันหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่เพื่อนตรงหน้านั้นอ่านตอนนี้ พลางตบหัวเพื่อนรักอย่างไม่เบามือ “น่อมแน้มว่ะ อ่านอะไรแต่ละอย่าง ครั้งที่แล้วก็เรื่องโซระกับแม่แก เดี๋ยวนี่หนังสือนี้จะได้เจอพ่อแกแน่คราวนี้”

           “- - อย่าพูดให้หลอนดิว่ะ อุตสาหนีออกมาอ่านเงียบๆ แล้วนะ ถ้าสะเออปากสว่านบอกพ่อฉัน ฉันจะบอกพ่อแกว่าแกเสียศูนย์ให้กระเทยแล้ว ที่นี้ล่ะแกเอ๋ยยย อย่าว่าแต่แม่แกเลย ต่อให้พระสงฆ์มาบิฑบาตรแกก็ไม่รอดว่ะ”

           อาเมนขู่ทานตะวันกลับอย่างไม่ใส่ใจ เพราะยังไงมันก็แพ้ทางเขาอยู่วันยังค่ำ ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่กุเรื่องนิดหน่อยให้พ่อมันฟัง เท่านี้ก็อยู่หมัดแล้ว เพราะพ่อมันมักจะเชื่อเขาและเข้าข้างเขาอยู่แล้ว

           T[]T เกลียดแกที่สุดในโลกเล้ยยยย ขอให้แกเสร็จกระเทยในเร็ววัน!!!!

           ทานตะวันนแช่งอาเมนด้วยท่าทีที่ไม่จริงจังนัก เพราะต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วกับคำด่าที่พูดออกมาแต่ละคำ เพราะนั่นมันหมายถึงว่า การที่อีกฝ่ายเข้าใจกันโดยไม่ต้องมากพิธีรีตองอะไร แค่มองตาก็รู้ถึงกึ๋นก็ว่าได้

           “- - ถ้ายังไม่พูดเรื่องที่มีสาระ ฉันจะเรียกน้องเชอรี่ของแกมาอีกรอบแน่ เอาให้ฟ้าเหลืองกันไปเลย แล้วก็จะโทรบอกพ่อมึงด้วยว่ามึงเหลวไหลคว้ากระเทยมาทำเมีย”

           “เค้าเกลียดตัวที่ซู้ดดดดดดTT[]TT” ทานตะวันร้องโวยวายทันทีที่อาเมนเริ่มขู่อีกรอบเนื่องจาก คนที่อาเมนเอ่ยถึงนั้น เปรียบเสมือนแผลกลางใจของทานตะวัน เพราะเชอรี่ ทำให้เขาต้องมาโดนเพื่อนรักล้อจนวันเผาผีแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย และทำให้เขาเกลียดกระเทยไปนานแสนนาน

           “ถ้ายังไม่เลิกคร่ำครวญ ฉันจะเอาไข่เชอรี่ยัดปากค่อยดูสิ มีอะไรก็พูดมา เสียเวลา”

           “เออๆ ก็แค่จะชวนเล่นเกมด้วยกันก็เท่านั้นเอง ทำไมโหดจังวุ้ยแกนี่ ปากอ้อนตีนมากกกก” ทานตะวันพูดพร้อมกับลากเสียงยาว เพื่อให้ดูสมจริงและกวนตีนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

           “ก็แค่นั้น ทำไมต้องมากพิธีรีตองด้วยว่ะ คราวนี้เกมอะไร อย่าบอกว่าเกมเก่า ไม่เล่นนะแม่งเล่นที่ไร ชนะแกตลอด ” อาเมนกล่าวอย่างไม่สนใจว่าฝ่านตรงข้ามจะบอกช้ำจากการพูดจากระแทกเข้าถึงกระดูกดำเรื่องเกมที่ดวลกันมาแต่ก่อน

           “เออ! ใช่สิ ฉันมันเก่งไม่เทพเหมือนแก แต่อย่างน้อยก็เร้าใจกว่าแกเยอะ” ทานตะวันพูดพร้อมกับยกคิ้วหลิ่วตาไปให้อาเมนหมั่นไส้เล่น

           “- -เร้าใจจนเกือบจะได้กระเทยเป็นเมีย ถ้าเป็นแบบนั้นฉันขอบายว่ะ”

           “TT อย่าเอาปมฉันมาล้อเล่นบ่อยดิว่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนใจปล้ำแกซะเลยนี่!

           “- - แกปล้ำฉัน? หึๆ  ฉันก็จะจับมึงมัด แล้วค่อยๆ แลเนื้อส่วนแขนขาแกออกมาทีละชิ้น จากนั้นเผาทิ้ง เอากระดูกไปลอยน้ำทะเลไม่ให้เหลือซากแล้วบอกพ่อแกว่า ตะวัน! หนี! ตาม! กระเทย!!!!!

           “ขอโตดคับพี่ T/|\T

           “- - แล้วที่นี้แกจะแข่งเกมอะไรกับฉันอีก?” อาเมนเอ่ยถามหลังจากแกล้งทานตะวันจนขอบตาเริ่มรื้อๆแล้ว “อธิบายให้เข้าใจ เกมแบบไหน เป็นยังไง แล้วดีตรงไหน เสียยังไง แล้วสนุกมั้ย? มีผู้หญิงหรือเปล่า? แล้วที่สำคัญ! ผู้ในเกมนั้นสวยไหม?!! ตอบ!!!

           “อย่าขู่บ่อยได้มั้ยยย ฉี่จะราดอยู่แล้วววววว

           “หลังแหวนจะได้ปลิวไปหาจริงๆ ล่ะเนี่ย เร็วๆ เวลามีค่า” อาเมนพูดพร้อมกับมองหน้าทานตะวันด้วยสายตาที่ขบขันเต็มทน ที่บอกให้มันพูดเข้าเรื่องเร็วๆก็เพราะ เขากลัวทนไม่ไหว หลุดเสียงหัวเราะออกมา แล้วจะกลายเป็นว่า ไอ่คนตรงหน้ามันก็จะงอนเขาไปหลายวัน กว่าจะง้อมันได้ หมดไอติมไปทั้งร้าน!

           “ก็ได้! เกมนี้ เป็นเกมที่พัฒนามาจากเครื่องสแกนสมองเหมือนกับในหนังที่แกดูบ่อยๆนั่นแหละ ตอนแรกก็เอาไว้ปรับคลื่นสมองของคนที่เป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทราให้มีคลื่นสมองพร้อมที่จะตื่นขึ้นมายอมรับความจริง และเยียวยาผู้ที่ป่วยทางจิตด้วยการบำบัดคลื่นสมองอ้ะ แต่ที่ถืออยู่เนี้ยะเป็นรุ่นที่พัฒนาแบ้วนะ”

    ทานตะวันหยิบกล่องที่มีขนาดใบไม่ใหญ่ไม่เล็กมีพื้นที่พอให้ใส่ของได้สบายๆ และบนกล่องก็เขียนแนะนำไว้คราวๆทำให้ผู้ที่อ่านรู้ว่าในกล่องนี้มันคืออไร ทานตะวันโยนให้อาเมนดูพลางแกะอมยิ้มที่เอาติดมือมาด้วยเข้าปาก และอมไว้จนแก้มตุ่ย ด้วยความที่เจ้าตัวคิดว่าน่ารัก และความจริงมักเป็นสิ่งที่ไม่ตายเสมอ หากใครได้เห็นภาพนี้ ก็คงจะคิดว่าสมัยนี้โจรภาคใต้ชอบกินอมยิ้มกันหรือเป็นแน่แท้ แต่ก็คงจะไม่มีทางที่ใครจะเห็นภาพลักษณ์ของเจ้าตัวที่เป็นแบบนี้หรอก เพราะภาพลักษณ์ ที่คนภายนอกมองทานตะวันนั้น ทั้งสุภาพ เรียบร้อย พูดจาไพเราะมีหลักการ น่าเชื่อถือ และเย็นชา แต่ใครจะรู้บ้างว่า หากทานตะวันได้สนิทใครสักคนนั้น ภาพลักษณ์ที่เห็นนั้น มันใช้กับคนนั้นไม่ได้ ราวกับว่าเป็นคนละคนเลย

           “อืม ไงต่อ” อาเมนพูดพร้อมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ทานตะวันพูดและเริ่มสำรวจเจ้ากล่องที่ทานตะวันโยนให้เมื่อกี้ราวกับว่ามันคืองานวิจัย และตรวจหาเชื้อโรคก็เป็นได้

           “ไอ้เครื่องเนี้ยะ ที่จริงมันมีหลายเจ้าที่เอามาทำเป็นเกม แต่ไม่รุ่ง เพราะว่าไอ่คนบริหาร มันบริหารไม่เป็น ส่วนมากก็เจ๊ง เพราะลูกตัวเองทำให้สมดุลเกมเสีย แต่ว่าเกมที่เอามาเสนอให้มันเพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้เอง ไม่ต้องห่วงเรื่องสมดุลเกม เพราะไอ่คนที่บริหารเกมนี้ เขาซื้อคานแบบถาวรเอาไว้ ไม่ต้องห่วงเรื่องสมดุลเกม เพราะไม่มีลูกให้เล่น ฮ่าๆ โอ๊ยยย! มันเจ็บนะ!

           ทานตะวันลูบหัวตัวเองปรอยๆ เพราะโดนสันหนังสือที่อาเมนถือเข้า เพราะพูดจาไร้สาระมาเกินไป จนทำให้คนที่ฟังคำอธิบายหลุดหัวเราะมาครั้งจนฟังไม่ได้ความ จึงต้องทำโทษกันเล็กน้อย แต่คงไม่น้อยสำหรับคนที่ไม่สนิทกันจริงๆ

           “ปากหมา ไปว่าให้เขา อธิบายต่อ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่เล่นกับแก” อาเมนขู่พร้อมกับจ้องมองไปยังสิ่งที่เพิ่งแกะออกมาสดๆร้อนๆ รูปร่างของมันคล้ายหมวกกันน็อก แต่ติดที่ว่ามีสายระโยงระยาง มีรูให้เสียบอะไรต่อมิอะไร และปุ่มอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเขาสันนิษฐานว่ามันคงเป็นปุ่มกดเริ่มเกม

           “เออๆ เกมนี้มันก็คล้ายๆเกมทั่วไปอ้ะ ชื่อของมันคือ... แท้น แทน แท๊นนนน ‘Online เกรียนๆ ครับโผ้มมมม ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ แต่ชื่อแม่งโคตรเชิญชวนเลย แถมเกมนี้ยังต่างจากเกมอื่นๆด้วย อะๆ สนใจอะดิ๊ แต่บอกไว้ก่อนนะ ชื่อเกมยังไง ตัวเกมก็เป็นแบบนั้นนะเว้ยยย”

    ทานตะวันอธิบายให้อาเมนฟังอย่างออกรสออกชาติ ชนิดที่ว่าน้ำไหลไฟดับ สุดฤทธิ์สุดเดช จนน้ำลายแตกฟองไปเรียบร้อย ทำให้อาเมนเริ่มกลั้วหัวเราะอยู่ในลำคอ และพับหนังสือเก็บเข้าดิแล้ววางบนโต๊ะ โดยเบี่ยงความสนใจไปให้คนตรงหน้ามากขึ้น เพราะวิธีการพรีเซนต์ของทานตะวันที่บริษัทไหนซื้อตัวไปเป็นเซลขายของก็คงจะได้กำไรอย่างงามแน่ๆ

    “ต้องถามตามบทใช่ม๊ะ?” อาเมนถามทานตะวันที่ตอนนี้ทำหน้าและส่งสายตาให้กับอาเมนเพื่อบอกว่าให้ถามมันหน่อย มันจะได้มีกำลังใจในการพรีเซนต์เกมต่อ

    “ช่ายยย เมน ข้ารักเอ็งว่ะ จุ๊ฟๆ นี่ถ้าไม่ถามจะจับมึงส่งกระเทยแถวสีลมว่ะ ฮ่าๆ”

    “ดอกไม้! ก็ได้ๆ แล้วไงต่อว่ะครับ ไอ่คุณชายทานตะวันนน” อาเมนลากเสียงยาวเพื่อประชดเพื่อนรักของตนที่บอกว่าหากเขาไม่ถามจะจับเขาส่งให้กระเทยแถวสีลมนั้นเอง

     

    “ฮ่าๆ แน่นอนเกมนี้ต่างกับเกมอื่นที่ว่า เกมนี้แข่งความเกรียนเว้ย ไม่ได้แข่งความเทพ ถ้ามัวแต่เข่งความเทพ ฉันว่าอีกสิบชาติถึงจะชนะแกอะ”

           “ก็รู้ตัวดี แล้วเกมนี้มันเป็นยังไง อธิบายต่อสิ”

    “ฮั่นแน่!! สนใจล่ะซี๊”

    “หลังแหวนยังคอย”

    “ก็ได้ๆ เกมนี้ไม่เน้นความเก่ง แต่เน้นความเกรียน คือแบบว่าเข้ามาเล่นสนุกๆอ้ะ จบป่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบเกรียน ก็จะมีเหมือนเกมทั่วๆไปอ้ะ แต่ที่ฉันชอบและเลือกเกมนี้ก็คือว่า แม่งเกรียนนนน ฮ่าๆ เหมาะกะคนอย่างตะวัน ราวกับว่ามันถูกสร้างมาเพื่อตะวันโดยเฉพาะ วะฮ่าๆ” ทานตะวันพูดพร้อมกับหัวเราะดังลั่นห้อง

    “อย่าลีลามาก บอกจุดประสงค์มา จะแข่งอะไร?” อาเมนเอ่ยถามด้วยสีหน้าระอาคนตรงหน้า แต่ก็อดที่จะหัวเราะกับท่าทางและคำพูดไม่ได้

    ตั้งแต่เด็ก เขากับทานตะวันมักจะแข่งขันกันเรื่องเกมมาเสมอ ถ้าถามว่าทำไมไม่แข่งเรื่องเรียนกัน ก็คงจะตอบได้เลยว่ามันก็เท่าๆกันนั้นแหละ สุดท้ายก็เสมอกันอยู่ดี จนต้องตัดใจมาดวลเกมกันแทน ตั้งแต่เด็กทานตะวันกับเขามักจะพลัดกันแพ้พลัดกันชนะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา แต่หากเวลาผ่านไปสักวันสองวันก็กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม ราวกับว่าเรื่องราวที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะพวกเราะมันคิดว่า การที่มัวแต่คิดถึงอดีตจะทำให้อนาคตของเราล่มจม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเขากับทานตะวันเป็นคู่เกย์

    “แหมๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกกก ก็แค่อยากให้เล่นสนุกๆแล้วก็หาสถานที่ให้แกอ่านโซระของแกได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีใครมาก่อกวนโดยเฉพาะพ่อกับแม่แก"

    เมื่ออาเมนนึกถึงเหตุผลที่ทานตะวันพูดให้ฟังก็ทำให้เข้าแทบจะตอบตกลงไปในทันที เพราะนั้นคือผลประโยชน์สูงสุดของเขาเลยก็ว่าได้ สถานที่ที่ไม่มีใครมาก่อกวนเวลาอ่านหนังสือ แม้กระทั่งมัน ก็คงไม่ก่อกวนเขาหรอกใช่มั้ยนะ? แต่ยังไงก็น่าสนใจดี เอาสักหน่อยดีกว่า เล่นไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้วนี่นา

    “ตกลงที่ไหน เวลาไหน เล่นยังไงว่ะ เร็วๆ ให้ว่อง” อาเมนกระตือรือร้นขึ้นมาในทันที่

    “- - ที่เรื่องอย่างนี้เร็วนะมึง ไวกว่าหมาบ้านฉันอีก ฟายย”

    “ตกลงอยากให้เล่นจริงป่ะเนี้ย บริการสิครับ บริการ เอามาให้อยากถ้าจากไปฉันฆ่าแกตายแน่”

    TT ฆ่าฉันให้ตายเสียยังดีกว่า~” ทานจะวันบ่นพร้อมกับส่งหนังสือวิธีการเล่นอย่างละเอียดให้กับอาเมน

    “จะเล่นรอนะ อ่านเสร็จเมื่อไหร่ก็ตามเข้าไปก็แล้วกัน เดี๋ยวจะไปเทพรออยู่ที่นั้น ว่ะฮ่าๆๆๆๆ” ทานตะวันหัวเราะร่าแล้วเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้อาเมนนั่งจ้องหนังสือที่ทานตะวันเอามาวางเอาไว้แทนที่หนังสือของเขาและเอามันติดมือไปด้วยอย่างแนบเนียน แต่หารู้ไม่ว่า อาเมนนั้นรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะเป็นแบบนั้น ก็ได้แกล้งเอาหนังสือธรรมะสอดเอาไว้ในนิตยาสารผู้ชายที่กองสูงเท่าภูเขา และเขาก็คาดเดาได้ว่า ทานตะวันจะเลือกเล่นไหนไปไม่ได้นอกจะเล่มที่เป็นรุ่นอลิมิเต็ตเอดิชั่นเท่านั้น

    ทานตะวันนั่งจ้องหนังสือเล่นที่ดูไม่ใหญ่ไม่เล็ก และขนาดพอดีมืออยู่พักใหญ่ นี่จะให้เขาอ่านหนังสือน่าเบื่อประจำปีหรือยังไงนะ?

    ทันทีที่อาเมนคิด สองนิ้วก็จับหนังสือขึ้นมาราวกับว่ามันเป็นนตัวเชื้อโรคก็ไม่ปาน ลักษณะการจับขึ้นเรียกได้ว่าคีบขึ้นมาเลยตั้งหาก อาเมนจับหนังสือนั้นพลิกไปพลิกมา อย่างกับว่ากำลังทำการชันสูตรพลิกศพเจ้าหนังสือที่เป็นโรค และสุดท้าย นิ้วเรียวยาวนั้นก็คีบหนังสือนั้นทิ้งถังขยะไปอย่างไม่อาลัยใยดี ก็ใครอยากจะอ่านกัน! ถ้ามีรูปสาวๆสวยอยู่บนหน้าปกแทนไอ่ล้ำเพาะกล้ามนะ จะไม่ว่าอะไรสักคำ!!

     

    หลังจากที่อาเมนเดินออกมาจากห้องที่เขาใช้เป็นสถานที่กำบังจากสายตาอันแหลมคงของทั้งบิดาและมารดาของตน เขาได้เดินไปยังห้องครัว ที่เปรียบเสมือนห้องนอนแห่งที่สองของเขา เนื่องจากว่า อาเมนเป็นคนที่หิวบ่อยมาก แทบทั้งวันเขาจึงคลุกอยู่กับห้องครัว ไม่ชิมอาหาร ก็ทำอาหาร ฝีมือของอาเมนนั้น แทบจะเรียกได้ว่า เชฟภัตคารมาเอง

    นอกจากฝีมือ และรูปร่างอันหล่อเหลาเหาเรียกพ่อแล้ว(เกี่ยวกันตรงไหนว่ะ // อาเมน) อาเมนยังเป็นนักกินตัวพ่อเลยก็ว่าได้ การกินถือเป็นเรื่องรองอันดับสามรองจากการอ่านหนังสืออย่างว่าและการเอาตัวรอดในการหลบคนไม่ให้รู้ว่าตนอ่านอะไรหรือเรียกง่ายๆว่าการเอาตัวรอดนั่นแหละ

     

    “ป้าเฌอครับ วันนี้มีอะไรทานบ้างครับ อามหิ๊วหิว”

    อาเมนเดินตรงเข้าไปกอดเอวอวบอ้วนตรงหน้า คนที่เปรียบเป็นญาติผู้ใหญ่อีกคนที่อาเมนเคารพและนับถือ

    “ป้าก็กำลังทำ สปาเก็ตตี้ซอตคาโบนาร่า พัดเนื้อใส่พริกหวาน ซุปเนื้อโกเบ แล้วก็อีกเยอะแยะไปหมด คุณหนูค่ะ ป้าว่ารออีกสักประเดี๋ยวไม่ได้หรอค่ะ เดี๋ยวก็ถึงเวลารับประทานอาหารแล้วด้วย รอสักประเดี๋ยวนะค่ะ” ร่างของหญิงวัยกลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดูและอ่อนโยน เธอรักและเอ็นดูคุณหนูของเธอเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เกิดมา พ่อและแม่ของเขาแทบจะหาเวลามาดูแลลูกของตนเองไม่ได้ ก็มีแต่เธอเท่านั้นที่ดูแล และเด็กคนนี้ก็ไม่เคยงอแง หรือเอาแต่ใจอย่างเด็กมีปัญหา เธอจึงรักและเอ็นดูราวกับลูกของตน

    “คร้าบๆ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะครับ”

    “จ้าๆ แล้วป้าจะเรียกนะ”

    “ป้าครับ พรุ่งนี้ผมตื่นสายนะครับ พอดีว่าจะเล่นเกมที่ไอ้ทานให้มานะครับ ถ้าพรุ่งนี้ป้าปลุกแล้วผมไม่ตื่นไม่ต้องตกใจนะครับ ผมเล่นเกมอยู่”

    “จ้าๆ ป้าทำเสร็จแล้ว ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมาทานข้าว เดี๋ยวป้าจัดโต๊ะรอ” ร่างอวบอ้วนไล่ผู้ที่เปรียบเสมือนลูกของตนเองไปอาบน้ำเพื่อลงมาทานข้าว

     

     

    ร่างสูงเดินขึ้นบันได้วนสุดหรูหราอลังการงานสร้าง ราวกับว่าผู้สร้างได้ถอดแบบออกมาจากภาพฝีมือจิตรกรเอกของโลกอย่างไรอย่างนั้น อาเมนเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องของตน ที่ทำจากไม่โอ๊กที่แกะสลักอย่างปราณีตและละเอียดอ่อน พร้อมกับพลักเข้าไป ปรากฏห้องที่ใช้โทนสีเทาซึ่งเป็นสีที่เจ้าตัวชอบในการตกแต่งเครื่องเรือนไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน วอเปเปอร์ พื้นห้อง โต๊ะกระจก โต๊ะทำงาน ต่างล้วนตกแต่งด้วยสีเทาทั้งสิ้น มีเพียงเสื้อผ้าเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นสีเท่าทั้งหมด

    อาเมนนั่งจ้อง ไอ่กล่องที่บรรจุเครื่องเล่นเกมที่ ทานตะวันให้มาอย่างพิจารณา พร้อมกับชันสูตรกล่อนนั้น ก็พบคำเตือนว่า กรุณาอย่าให้กล่องชำรุดหรือเสียหาย มิฉะนั้นอาจทำให้มีผลกระทบต่อการเล่นเกมของท่านได้หรือคำเตือนกลายๆว่าห้ามเปิดกล่อนั่นแหละ

    ...ไม่เปิดกล่องแล้วมันจะเล่นยังไงฟะ?.....

     

     อาเมนจึงได้ถอดใจธุระส่วนตัวจากนั้นก็ลงไปรับประทานอาหารแทน

     

    หลังจากนั้นไม่นาน อาเมนก็รับประทานอาหารเสร็จ เขาเดินมาที่เตียงหลังใหญ่ของตนพร้อมกับยกโทรศัพท์ โดยใช้เบอร์บ้านโทรหาทานตะวัน เพื่อสอบถามบ้างเรื่องที่ค้างคาใจ

     

     [ว่า?... มีอะไรถึงได้โทรมา คนจะเล่นเกมบ๊ะ ไอ่นี้]

     

    = = ทาน อยากจะถามอะไรหน่อยดิ”

     

    [อะไรว่ะ ให้ไวๆ]

     

    “มัน...ต่อยังไงว่ะ? มันบอกว่าห้ามแกะกล่อง แล้วถ้าไม่แกะแล้วตูจะเล่นยังไงล่ะเนี่ย ไอ่ทานนนนน”

     

    [นี่แกไม่อ่านหรอ ไอ่ที่ให้ไปน่ะ หัดอ่านซะมั้งสิ ไอ่หอก มันเป็นมุก เข้าใจป่ะ ที่เขาบอกห้ามแกะ แกเชื่อหรอ? ก็บอกแล้วว่ามันเกรียนไง ฮ่าๆ]

     

    “- - ห่านแล้วก็ไม่บอก แกสอนเลย ถ้าไม่สอน ก็ไม่เล่นล่ะ รำคาญ!!

     

    [ขอโตดคับพี่]

     

    หลังจากนั้น ทานตะวันก็อธิบายวิธีการเล่นและการเสียบต่ออุปกรณ์ให้อาเมนฟัง ก็ปาเข้าไปสองชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้ ตามปกติแล้ว ไม่ถึง 5 นาทีแทบทุกคนก็สามารถเล่นได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องอ่านคู่มือหรือให้ใครสอน แต่เนื่องจากอาเมนเป็นพวกหัวทางเทคโนโลยีมีนิดเดียว จึงไม่สามารถเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีได้เท่ากับคนอื่น เรียกได้ว่าโง่ในเรื่องเทคโนโลยีเลยที่เดียว กว่าจะรู้เรื่อง ก็เล่นเอาทานตะวันถึงกับหอบแฮกเลยที่เดียว

     

    [เข้าใจยังว่ะ พูดเป็นรอบที่สิบสองแล้วนะ ว่าให้กดปุ่มไหนเป็นอันดับแรก แล้วคืนนี้จะได้เล่นป่ะ? นี่มันก็สามทุ่มแล้วนะครับ คุณอาเมนที่รัก ถ้าแกยังโง่อยู่อีก พรุ่งนี้ฉันจะไปนอนกับแก แล้วแกก็คงรู้ว่าคนอย่างฉันคงไม่นอนเฉยๆแน่!]

     

    “เออๆ เดี๋ยวฉันจะลองทบทวนดู แกก็รู้นี่นา ว่าฉันเป็นยังไงยังจะเร่งอีก”

     

    [เออๆ แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการ เดี๋ยวเข้าไปนะ กดแอดเพื่อนฉันด้วย ฉันชี่อซันฟลาวเวอร์ขอแอคโค่ครับ นะ]

     

    “เออๆ ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ฉันล่ะปวดตับกับชื่อแกเนี่ย”

     

    [แล้วเจอกัน เดี๋ยวฉันจะเทพก่อนแกให้ได้ ค่อยดู]

     

    ตรู๊ดดดดด

     

    อาเมนตัดสายทิ้งทันที เพราะตอนนี้เริ่มอยากเล่นเต็มแก่แล้ว อาเมนลมตัวลงนอนกับที่นอนของตอน จัดการทุกอย่าง เหมือนกับที่ทานตะวันสอนตน จัดท่าทางการนอนของตัวให้เรียบร้อย สำรวจข้าวของและร่างการของตน เครื่องเล่นว่าพร้อมหรือไม่ จากนั้น อาเมนก็กดปุ่มเริ่มต้นการทำงานของเครื่องเล่นเกม เข้าสู่เกม Online เกรียนๆ ทันที

     

    WELCOME … LOG IN!!!




    ---------------------------------------------------------------
         ตอนแรกเป็นยังไงบ้าง คอมเมนบอกด้วยนะ ผ แล้วก็ขอความกรุณาช่วยหาคำผิดด้วยครบ ขอบคุณครับ^[]^


    #ป.ล. มารีไรท์จ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×