ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infinity online (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #47 : ตอนที่ 41 กลับมาแล้ว โลกอินฟินิตี้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.42K
      98
      6 เม.ย. 58




    ตอนที่  41 กลับมาแล้ว โลกอินฟินิตี้

     

              เพลิงพิโรธ      ตูม!!

                “ฉันขอปิดฉากนะ” 

                มหาเวทย์แสงเหมันต์ทมิล!!   บรึม!!!!

              “อิอิ เป็นไง มหาเวทย์ของฉัน”  เสียงแหลมใสของสตรีนางหนึ่งพูดด้วยความดีใจ

                “จ้าๆ  เยี่ยมมากเลยจ้า”   ผู้หญิงสวมชุดนักเวทย์ระดับสูงสีขาวกล่าวเบาๆ

                “เธอยังไม่หายซึมอีกเหรอ  มิโกะ”  เสียงแหลมใสเมื่อสักครู่ดังขึ้นอีกครั้ง พูดด้วยความเป็นห่วง  ผู้พูดนี้ก็คือ มารรัตติกาลหรือเพื่อนปูเป้นั่นเอง

                “ผ่านมาหกปี เราก็ยังหาออฟไม่เจอเลย  แต่ฉันเชื่อว่า หากเราพยายามตามหาต่อไป ยังไงก็ต้องได้พบเขาแน่”   มิโกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกเศร้าๆ

                “นั่นสินะ ระหว่างตามหาไอ้ออฟ เราก็ต้องบุกเบิกดันเจี้ยนที่เป็นช่องต่อระหว่างทวีปนี้กับอีกทวีปหนึ่ง”  เอกเป็นคนพูด

                “แต่มันผ่านมาสี่ปี ก็ยังไม่มีกลุ่มไหนพิชิตชั้นเจ็ดได้เลย  อีกอย่างเราไม่รู้ว่าดันเจี้ยนช่องต่อนี้มีกี่ชั้นด้วย”  อาร์ตพูด

                “แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องผ่านไปสู่อีกโลกหนึ่งให้ได้  ถึงแม้ว่าเราจะถูกขังอยู่ในโลกใบนี้ ไม่สามารถออกไปสู่โลกแห่งความจริงได้ก็เถอะ”  ชัยพูดเสริม

     

     

                โลกอินฟินิตี้ออนไลน์ บัดนี้เปรียบเสมือนโลกอีกใบที่เหล่าผู้เล่นต้องอาศัยอยู่  ออนกลับไปเมื่อห้าปีก่อนในโลกอินฟินิตี้  ได้เกิดความโกลาหลขึ้น เมื่อผู้เล่นทั้งหมด ไม่ว่าเป็นหรือตาย ได้ถูกบางอย่างดึงเข้ามาสู่อวาตาร์ในโลกแห่งนี้ และถูกกักขังไม่สามารถออกไปได้ แม้กระทั่งเหล่าจีเอ็มก็ถูกดึงมาด้วย  ส่วนในโลกแห่งความจริงนั้น ได้มีร่างจริงของผู้เล่นจำนวนมากที่ถูกทิ้งโดยไร้วิญญาณและเมื่อไม่มีสารอาหารหล่อเลี้ยง ร่างจริงก็สิ้นชีวิตไปในที่สุด แต่ทว่าถึงแม้ร่างจริงจะสิ้นไปแล้ว แต่วิญญาณยังอยู่ในร่างอวาตาร์   การดำเนินการของชีวิตหลังความตายจึงแปรปรวน เพราะเหล่านิริยบาลมิสามารถตามหาดวงวิญญาณเหล่านั้นได้   แม้กระทั่งคนที่ตายแล้วก็ยังมิวายถูกดึงวิญญาณมาในโลกอินฟินิตี้นี้ 

                เหล่าจีเอ็มไม่สามารถติดต่อกับผู้ดูแลระบบด้านนอกได้  และภายนอกก็ไม่สามารถติดต่อเข้าไปได้ สิ่งลึกลับสีดำนั่นที่เปรียบเสมือนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย  อีกอย่าง สิ่งที่เรียกว่าระบบของเกมนั้น บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว อะไรที่อยู่ในการควบคุมของบริษัทได้ถูกตัดขาด และเกิดการควบคุมอัตโนมัติขึ้น  อีกอย่างเวลาของโลกนี้ได้แปรเปลี่ยนไปตั้งแต่ทุกคนถูกดึงเข้ามา

                แรกๆ ผู้เล่นก็แตกตื่นและตกใจโวยวายกับเรื่องเหล่านี้  และเพื่อที่จะได้ออกจากโลกอินฟินิตี้นี้ ก็ได้รวมกลุ่มกันบุกเบิกพื้นที่รวมถึงเหล่าจีเอ็มก็เข้าร่วมด้วยเพียงแต่ว่าระบบหรือสกิลโกงๆของจีเอ็มได้ถูกลบไปหมด  เหลือเพียงพลังบางส่วนและฝีมือ  ทุกคนที่รวมกลุ่มกันหวังว่าหากเคลียเกมนี้ได้ ก็จะได้ออกไป แต่ทว่าผ่านไปสองปีในเกม เหล่าผู้เล่นกลับเปลี่ยนใจ และหันไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองบ้าง  ที่ต่างๆ  บ้างก็ใช้ชีวิตอย่างอิสระในโลกนี้ เพราะถึงแม้จะฆ่าใครตายก็ไม่ติดตัวแดง แถมยังตายแล้วเกิดใหม่ การสนองตัณหาจึงเริ่มเกิดขึ้น 

                ส่วนระบบกิลด์ ยังอยู่ดีทุกอย่าง พนักงานที่เป็น NPC นั้นก็ทำหน้าที่ตามปกติของพวกเขา เพราะเขาไม่รู้เรื่องด้วยนะสิจึงทำหน้าที่ของตัวเองไป

               

                มิโกะ ทีแรกเมื่อรู้ว่าออฟหายไปก็ตามหามาตลอด รวมถึงเพื่อนๆของออฟก็พยายามติดต่อทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย  จนพวกเขาเกือบจะถอดใจกันแล้ว ยกเว้นมิโกะนะ

                แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดที่จู่ๆก็ดึงพวกเขาเข้ามาในเกม  และได้ทราบว่า เกมนี้มันดึงมาแม้กระทั่งคนที่ตายแล้ว  ผู้ได้เคยเข้ามาในเกมนี้จะถูกดึงมาทั้งหมด  เมื่อทราบข่าวนี้ พวกเขาจึงได้ฮึดสู้ และตามหาออฟต่อไปและหวังว่าจะได้เจอในสักวัน  ส่วนในเรื่องกิลด์ ตอนนี้ทั้งเจ็ดคนมิได้สังกัดกิลด์ไหนทั้งสิ้น เพราะพวกเขารอหัวหน้ากิลด์กลับมา จึงไม่มีใครถอดถอนรายชื่อออก แม้ว่ากิลด์จะหายไปก็ตาม เแต่เมื่อได้รับการยืนยันตัวตนของหัวหน้ากิลด์หรือตัวตนของออฟ กิลด์ก็จะกลับมาอีกครั้ง เพราะพวกเขาเคยสอบถามแล้วนะสิ จากตาลุงหน้าโหดนั่น แถมลุงแกยังบอกว่า สาเหตุที่กิลด์หายไปก็เพราะยังตั้งกิลด์ไม่ครบเจ็ดวัน ตัวหัวหน้าก็หายไปจากระบบโดยไร้ร่องรอย  เพราะพวกเขาตั้งกิลด์โดยใช้ป้ายมันจึงเป็นแบบนี้แหละ  ถ้าอยากจะเปลี่ยนกิลด์ไหม่ก็ยกเลิกรายชื่อจากกิลด์นี้ซะ แล้วกิลด์นี้ก็จะหายไปจากนั้นพวกเธอก็สามารถตั้งกิลด์ใหม่ได้ แต่หากรายชื่อพวกเธอยังอยู่ กิลด์นี้จะยังไม่หายไป เพียงแต่พวกเธอจะไม่ได้รับสิทธ์ของกิลด์ใดๆทั้งสิ้น รวมไปถึงการสังกัดกิลด์ใหม่ด้วย  นอกจากหัวหน้ากิลด์จะมายืนยันอีกครั้ง

     

     

              “มิโกะ ฝนว่าเรากลับเมืองกันเถอะ”  ฝนที่เดินมาหามิโกะหลังจากที่ไล่เตะอาร์ตเสร็จแล้ว

                “ค่ะ” 

                “เฮ้อ เธอควรจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วนะ  ซึมไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก”  ฝนพยายามปลอบมิโกะ

                “ค่ะ” มิโกะก็ยังตอบเหมือนเดิม จนฝนท้อกับการปลอบแล้ว พาเธอและพรรคพวกกลับเมือง โดยที่ตอนนี้ เอกกับชัยกำลังช่วยกันลากอาร์ตกลับไปในสภาพทีมีรอยไหม้ๆของรองเท้าฝังอยู่บริเวณหลังและลำตัว

               

     

     

                อีกด้านหนึ่ง บริเวณถ้ำที่ผมโดนส่งไปยังอีกโลกหนึ่ง  เป็นสถานที่ๆสงบ เงียบงัน  ไม่มีวี่แววของผู้เล่นอยู่เลย  บัดนี้ได้มีบุรุษหนุ่มคนหนึ่งโผล่ออกมาจากช่องมิติที่ถูกเปิดออกโดยอาวุธทั้งสี่  เมื่อถึงที่หมายแล้วอาวุธเหล่านั้นก็กลายเป็นแสงพุ่งเข้าร่างของบุรุษนั้นทันที

                ตุบ!

                เสียงของร่างกายที่หล่นลงมากระทบพื้นถ้ำ ร่างนั้นไร้การขยับเขยื้อนใดๆ  ชุดนักเวทย์ของอีกโลกในสภาพที่ขาดนั่นนิด นี่หน่อย ที่บุรุษนั้นสวมอยู่บ่งบอกได้ทันที่เลยว่า เขาคือ ออฟ หรือผมเอง แบบว่าใช้พลังมากเกิ๊นจนออกมาสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ คงต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกหลายวันกว่าจะกลับมาเต็มอีกครั้ง ซึ่งผมก็ขี้เกียจฝืนสังขารไปสำรวจอ่ะนะ พักผ่อนด้วยการนอนหลับสักหน่อยละกัน 

                ผ่านไปครึ่งวัน ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลากลางคืนพอดี ผมจึงลุกขึ้นมาขยี้ตา แล้วนอนต่อรอพรุ่งนี้เช้า หุหุ(แล้วจะลุกมาทำไม) รอให้พลังฟื้นฟูก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยเช็คสถานะ และแล้วก็ถึงตอนเช้า  ผมก็ลุกขึ้นมานั่งสมาธิก่อนหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็สำรวจร่างกาย ขยับไปๆมาๆ  ดูเหมือนว่าพลังจะฟื้นมานิดหนึ่ง  ทั้งๆที่ใช้เวลาทั้งคืนเนี่ยนะ

                “เฟิร์ส  ช่วยเช็คสถานะ อัตราการฟื้นฟูพลังให้หน่อยสิครับ”  ผมกล่าวกับกำไล

                “ไม่สามารถทำได้ค่ะ”  เฟิร์สตอบด้วยน้ำเสียงที่ใส

                “อ่าว  ทำไมถึงเช็คไม่ได้ละครับ”

                “ระดับของนายท่านสูงเกินไปค่ะ แถมอัตราการฟื้นฟูพลังก็ไม่อยู่กับที่ เดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็ว  ส่วนค่าพลังต่างๆ ดิฉันวัดไม่ได้ค่ะ เนื่องจากกำไลระดับ X วัดค่าพลังได้แค่หลัก ล้านล้านล้านล้านล้านหน่วยค่ะ ตอนนี้มีแต่ค่าสถานะอย่างเดียวที่วัดไม่ได้  ส่วนสกิล ทักษะ และอื่นๆยังอยู่ตามปรกติค่ะ”  เฟิร์สเริ่มอธิบาย

                “สรุปง่ายๆคือค่าสถานะของผมเกินล้านสินะครับเลยวัดไม่ได้”  ผมทวนคำอธิบายของเฟิร์ส

                “ไม่ใช่ล้านค่ะ ล้านล้านล้านล้านล้าน ต่างหาก”  เฟิร์สสวน

                “อืม  ห๊ะ อะไรนะครับ มากกว่าล้านๆ เฮ้ย เป็นไปได้ยังไงครับ”  ผมอุทานออกมา

                “มันเป็นไปแล้วค่ะ “

                “แล้วระดับคลาสของผมล่ะครับ”  ผมถามอีก

                “เกินระดับซิวส์ตั้งแต่ออกมาจากภพอสูรแล้วค่ะ เพียงแต่พลังเจ้านายโดนอะไรไม่รู้ผนึกไว้แค่นั้นเอง”  เฟิร์สตอบ

                “เอ้า แล้วตอนนี้ผมอยู่ระดับไหนล่ะครับเฟิร์ส”

                “ไม่รู้ค่ะ เพราะไม่เคยมีมาก่อน”  เฟิร์สตอบ

                “เฮ้อ  ตอนนี้พวกมินนี่เป็นไงบ้างก็ไม่รู้” ผมบ่น

                “สบายดีค่ะ ตอนนี้พวกเธอกำลังเลื่อนระดับคลาสอยู่ค่ะ ใช้เวลานาน และไม่ควรไปรบกวนตอนนี้นะคะ” 

                “ครับๆ  เดี๋ยวผมออกไปข้างนอกละ ไปหาอะไรทานก่อน”  ผมตอบแล้วเดินไป เพราะรู้สึกว่าร่างกายยังเพลียๆอยู่เลยไม่อยากฝืนใช้พลังมากไป  พอดีผมยังไม่รู้ครับ ว่าพลังมันใช้ได้ตามปกติ ส่วนที่ร่างกายเพลียนั้นเกิดขึ้นเพราะต้องปรับสมดุลร่างกาย เนื่องจากเดินทางข้ามจักรวาลเร็วเกินไป จึงเกิดการกระจายสมดุลบางส่วน แต่ไม่ต้องห่วง อีกสามวันก็กลับมาเป็นปกติแล้วหุหุ

               

                เดินไปๆมาๆ ก็หลงป่า สุดท้ายก็ต้องพึ่งแผนที่จากเฟิร์สจนได้  ผมเดินตามทางที่เฟิร์สบอกเรื่อยๆ หิวเมื่อไหร่ก็หยิบอาหารกระป๋องมาทานไปด้วยเดินไปด้วย ก็มันไม่เหนื่อยนี่ แต่เพลียอ่ะ เลยไม่มีปัญหา  มั้ง    ผมก็เดินไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ชมนกชมไม้ไปตามทาง  รู้สึกว่าจะเพลียนิดหน่อยแฮะ  แต่ก็คงไม่เป็นไรหรอก เดินต่อไปและในที่สุด

     

                “อืม ที่ไหนเนี่ย  เห  ไม่ใช่ป่านี่นา อืม นึกไม่ออกแฮะว่ามาถึงนี่ตอนไหน”  ตอนนี้ผมกำลังครุ่นคิดถึงความเป็นมาว่าผมมาถึงห้องนอนนี่ได้ยังไง  บริเวณห้องถูกประดับไปด้วย  หนังสือเล่มหนาๆ สิบกว่าเล่ม ดาบไม้เล็กๆ สองเล่ม แล้วก็ถาดอาหารถาดนึง ใช่ อาหารอิอิ

                ผมไม่รอช้าคว้าของที่อยู่ในถาดนั่นมาทานทันที เป็นขนมปังสอดใส้ผลไม้ที่นุ่มและอรอยมาก แถมยังมีกับข้าวอีกสองอย่าง ข้าวสวยอีกจานนึง ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย อิอิ และแล้วก็หมดลงด้วยระยะเวลาอันสั้น

                “อา  รู้สึกสดชื่นดีแฮะ เหมือนว่าพลังจะฟื้นฟูจนเต็มแล้ว  ที่นี้ก็ต้องออกตามหาอีกสามขุนพล แล้วเริ่มตะลุยทันที”  แล้วผมก็ยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย  จากนั้นก็เปิดประตูห้องลงไปด้านล่าง  อืม รู้สึกว่าบ้านจะดูดีมากเลยแฮะ อา เห็นแล้วครับ คนสี่คนกำลังนั่งทานข้าวอยู่ด้านล่างนี่เอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×