ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infinity online (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 14 ภารกิจจากเบื้องบน 00

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.19K
      180
      13 ก.ค. 65

    ตอนที่ 14 ภารกิจจากเบื้องบน

    แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า กลิ่นอาหารที่หอมกรุ่นชวนน่ารับประทาน บรรยากาศอันสดใสที่หาได้ยามปรกติ ตอนนี้ผมกำลังนั่งทานข้าวที่โต๊ะตัวเล็กๆ ในห้องของผม โดยสร้างบรรยากาศด้วยการเปิดหน้าต่างรับแสงแดดอุ่นๆ

     ผมออกจากเกมมาได้สักพักแล้วครับ ตอนนี้ก็ทำธุระส่วนตัวเสร็จพอดี รวมถึงการทำอาหารเช้าด้วยนะครับ มื้อเช้าวันนี้ก็เมนูเดิมๆ ครับ ไข่ตุ๋น ไข่เจียว ผัดผักรวม เมนูที่ทำได้ง่ายๆ และสะดวก อ้อผมลืมบอกไปว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ และผมก็ปิดเทอมแล้วด้วยไม่ต้องไปเรียน ผมเลยวางแผนว่าไปทำบุญที่วัดใกล้ๆ นี่แหละ

    หลังจากผมทานอาหารเสร็จแล้วก็ออกไปซื้อชุดสังฆทาน และของที่จะเอาไว้ทำบุญอีกเล็กน้อย จากนั้นก็เดินทางไปทำบุญที่วัด พอทำบุญเสร็จก็หาที่สงบๆ ได้ต้นไม้นั่งสมาธิสักพัก แต่ระหว่างที่ผมนั่งสมาธิอยู่นั้นก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมแบบละเอียดอ่อน หอมจนแทรกไปสู่ทุกอณูของร่างกาย

    “กลิ่นดอกไม้นี่ มันไม่ใช่กลิ่นดอกไม้ของโลกมนุษย์นี่นา มาจากไหนนะ” ผมพูดออกมาเป็นเสียงแต่ยังไม่ได้ลืมตานะครับเพราะถึงลืมตาไป ก็คงหาต้นตอไม่เจออยู่ดี และดูเหมือนกลิ่นจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ให้ตายสิครับมันจะเข้าไปในจมูกแล้วมั้ง และแล้วผมก็ได้ยินเสียงกระซิบครับ

    แต่ฟังไม่รู้เรื่อง ผมคงต้องเข้าสู่ห้วงสมาธิ ดิ่งเข้ากายอย่างเดียวจนอยู่ในระดับกลางแล้ว พอผมลืมตาผมก็เห็นผู้หญิงแต่งตัวด้วยชุดทิพย์ของชาวสวรรค์ ใส่ชุดประดับเพชรสีขาวใสปลิวไสวไปตามลม กายเธอประดับด้วยอัญมณีที่มีลักษณะอันเป็นทิพย์ที่ส่องรัศมีแพรวพราวดูน่าหลงใหล เธอมาสอง และมีบุรุษหนุ่มอยู่ตรงหน้าของผม บุรุษนี้ใส่ชุดอันประณีตกว่ารัศมีสว่างไสวกว่า

    “ท่านมหาขุนพล ข้าน้อยมีนามว่าปกิณกาปาละเทพบุตร ขออนุญาตเรียนเชิญท่านไปพบกับนายเหนือของเรา เพื่อการคุยเรื่องภารกิจของท่าน ภารกิจจากเบื้องบนมอบหมายมาขอรับ” บุรุษหนุ่มพูดเสียงอันไพเราะ สดใสกังวานดังแก้วใสก็มิปาน

    “ภารกิจเหรอท่านปกิณกาปาละเทพบุตร แล้วชื่อนายเหนือของท่านล่ะ” ผมถามออกไปเพื่อความแน่ใจ

    “นายเหนือของเราคือท่านโกศาปาเวทานะ เศนาฝ่ายซ้ายของเบื้องบนขอรับ” เขาตอบมาเสียงใสเหมือนเดิม

    “ท่านโกศาเองหรอกเหรอ ได้สิ แล้วใครจะดูแลร่างเราล่ะ” ผมเป็นห่วงร่างผมครับ เดี๋ยวมีคนมาเห็นผมนิ่งๆ เขย่ายังไงก็ไม่ลืมตานี่เรื่องใหญ่แน่

    “เราเตรียมผู้ที่จะรับหน้าที่นี้มาแล้วครับ เตรียมมาสี่ขบวนเพื่อรักษาร่างของท่านโดยเฉพาะ จนกว่าท่านจะกลับมาจะไม่มีใครมองเห็นร่างของท่าน และไม่มีสิ่งใดทำอันตรายท่านได้ขอรับ”

    “ครับ ขอบคุณมาก งั้นช่วยพาผมไปหน่อยนะครับ” ผมตอบกลับและถอดกายออกจากร่าง ขึ้นไปนั่งบนราชรถที่มีสีฟ้าอ่อน แซมด้วยสีชมพู สีเงิน สีทอง ไอ้ที่เป็นสีเนี่ย อัญมณีทั้งนั้นเลยนะครับส่องแสงสว่างจ้าด้วย พอผมขึ้นไปนั่ง ราชรถก็วาปไปทันที ไปยังสถานที่ที่ ท่านโกศาอยู่

    พอผมไปถึงที่นั้นก็มีเหล่าบริวารของท่านโกศามาต้อนรับอย่างดี จากนั้นก็คุยกันเรื่องภารกิจซึ่งใช้เวลาแป๊บเดียว แต่คุยกันเร็วเพราะเวลาที่นั่นมันยาวครับ ผมก็ได้ใจความมาว่า เบื้องบนได้ตรวจพบฐานทัพย่อยของผู้มีฤทธิ์ซึ่งตั้งฐานอยู่ในเกมที่ผมเล่น แต่ยังไม่ทราบว่าตั้งอยู่ตรงไหนเพราะพวกนั้นใช้ฤทธิ์ปกปิดไว้ ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีสำรวจ โดยส่งผมไปสำรวจให้ทั่วในโลกแห่งเกมนั้น

    ซึ่งมีมากมาย และกว้างใหญ่มาก โดยท่านมอบภารกิจให้สามมหาบรมขุนพลสำรวจ สี่อภิมหาบรมขุนพลเป็นผู้ทำลาย แต่ถ้าพวกผมสามารถทำลายได้ก็ทำเลย และภารกิจในครั้งนี้อนุญาตให้ผมสามารถทำลายโลกเหล่านั้นทิ้งไม่ให้เหลือ อนุญาตให้พวกผมฆ่าสัตว์อสูร ฆ่ามอนเตอร์ได้และต้องดึงวิญญาณของพวกเขามาด้วย

    เพราะพวกนี้ถ้าไม่ฆ่าก็ดึงวิญญาณไม่ได้ผู้มีฤทธิ์เขาผนึกไว้ อุปกรณ์เก็บวิญญาณท่านโกศาจะมอบให้ในเกม เพราะท่านเป็นผู้บริหารตำแหน่งสูงและตอนนี้กำลังติดตามตัวละครผมอยู่ ส่วนอีกสองมหาบรมขุนพลที่เหลือจะตามไปทีหลัง เพราะเขายังไม่ได้เล่นเกม ผมล่ะนึกเหตุการณ์ต่อจากนี้ไม่ออกจริงๆ สงสัยผมคงต้องบุกเบิกทวีปต่างๆ แล้วสิ และผมคงต้องฆ่าล้างบางมอนเตอร์และอสูรอย่างนับไม่ได้เลยสินะ

     แต่ว่าการฆ่าไม่ว่าจะฆ่าด้วยเหตุผลอะไร ฆ่าก็คือฆ่า ผมก็ผิดมหันต์เหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่รู้หรอก แต่รู้ดีต่างหาก แต่ก็เอาเถอะการต่อสู้กับผู้มีฤทธิ์มันยังไม่จบแค่นี้หรอกครับ

    เมื่อผมได้รับภารกิจเสร็จแล้ว บริวารท่านโกษาก็มาส่งที่เดิม ผมก็กลับเข้าร่างและเดินทางกลับหอพัก เพื่อที่จะได้ออนไลน์ต่อ แต่พอกลับไปถึงหอพักก็มีพนักงานของบริษัทเกมมารออยู่หน้าห้องพร้อมกับกล่องใบใหญ่ ผมก็เดินไปสอบถามและได้ความว่า เขามาติดตั้งเครื่องเกมรุ่นพิเศษที่มีในโลกเพียงสามเครื่อง (คงจะได้ใช้เฉพาะผู้ทำภารกิจ) เครื่องนี้ท่านผู้บริหารระดับสูงของบริษัทบอกให้มาติดตั้งที่นี่ และเครื่องนี้สามารถออนไลน์ได้ตลอด แต่ต้องออฟไลน์ออกมาทานข้าวบ้าง การธุระส่วนตัวก็ออกมาทำข้างนอกเอง โดยเครื่องจะเตือนให้ในเกมเมื่อค้นพบอาการผิดปรกติของร่างกาย

    ผมรอเขาติดตั้งจนเสร็จทุกอย่าง และทำธุระส่วนตัวสักพักเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออนไลน์ยาว แต่ก่อนผมจะออนไลน์ ผมก็นั่งสมาธิปรับธาตุเข้าสู่ธาตุอวิชชา

     เพื่อที่จะต้องใช้ในโลกจริงและโลกเกม ผมนั่งปรับอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน เพราะต้องไปดึงเอาของต่างๆ ที่มีคุณสมบัติสูงมาด้วย อย่างเช่นเหล็กไหล ผมไปอาราธนาโดยถอดกายไปตามถ้ำ และสถานที่ต่างๆ และนำมาหลอมกับร่าง ไม่ใช่แค่นั้นนะ ผมต้องไปอาราธนาวิชาต้นตำรับแห่งมหาครุฑดำ มหานาคาดำ มหายักษ์ คนธรรภ์ วิทยาธร ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เพราะอวิชชาต้องอาราธนาครูมา ไม่งั้นใช้ได้ไม่เต็มที่ อาราธนาเสร็จก็ต้องปรับอีก กว่าจะเสร็จก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ

    พอผมลืมตามาผมก็สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ และไปซื้อกับข้าวมาทาน ซึ่งทานเยอะเป็นพิเศษ จากนั้นก็เช็คร่างกายให้เรียบร้อย

    ตุ๊ดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

    เสียงโทรศัพท์ของผมดัง เหมือนชัยจะโทรมา ผมจึงรีบรับสาย

    “ฮัลโหลว่าไงเพื่อน” ผมรับโทรศัพท์พูดทัก

    “เออ ไอ้ออฟ เอ็งจะเข้าเกมตอนไหน” ชัยถามไถ่ด้วยน้ำเสียงฉายแววจริงจัง

    “ก็กำลังจะเข้าอ่ะ มีไรป่าว” ผมตอบกลับ ชัยทำเสียงอืมในลำคอแล้วเน้นจริงจังขึ้นมา

    “ไอ้ออฟ ไอ้เพื่อนชัยสารเลวคนนี้ขอร้องแกอย่างได้ไหม” ชัยทำน้ำเสียงจริงจังมาก เหมือนมันเป็นเรื่องซีเรียส

    “อื้อ ถ้าทำได้ก็จะทำ” ผมตอบกลับ รอฟังคำขอจากเพื่อน

    “ฉันรู้ว่าแกไม่ค่อยชอบผู้หญิงประเภทที่นำตัวน่ารักใส่แล้วเข้ามาทำดีเอาหน้า แกมันชอบผู้หญิงที่จริงใจโดยไม่คิดอะไรกับแก แต่ตอนเข้าเกมไอ้ชัยสารเลวคนนี้ขอเถอะ ถ้ามีผู้หญิงเข้ามาไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม แกช่วยกรุณาทำตัวเป็นชายใจดีหน้าหม้อสักหน่อยได้ไหม แบบอยากได้อะไรป๋าจัดให้งี้ ไอ้ชัยคนเลวอยากให้เอ็งได้ประสบการณ์ว่ะ” ชัยทำน้ำเสียงจริงจัง ผมนิ่งคิดสักพัก

    “อืม จะลองทำดูก็แล้วกัน แต่ฉันไม่สนใจผู้หญิงนะเฟ้ย เอาเป็นว่าจะทำตัวเหมือนสนใจก็แล้วกัน มันเป็นเกมนี่เนาะ จะทำเป็นสนใจผู้หญิงแบบไม่สนเพื่อนดีมั้ย ของดี ๆ เอาให้ผู้หญิงอื่นหมด ส่วนเพื่อนก็เอาของกาก ๆ ไปแบบนี้ดีป่าว” ผมพูดติดตลกบอกชัยว่าเป็นแค่เกมทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่านี่ไม่ใช่เกม

    “เออ แบบนี้สิดี เอ็งรับปากแล้วนะ” ชัยกำชับ

    “อืม รับปากก็ได้ แต่จะทำแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้นนะ” ผมบอก

    “แค่นี้ก็ดีถมเถแล้วเพื่อนเลิฟ ไอ้ชัยคนเลวไปล่ะ” ชัยรีบพูดแล้วกดวางสายไป

    ผมจึงวางโทรศัพท์แล้วเช็กดูร่างกายอีกรอบจากนั้นก็เข้าเครื่องเกม โดยผมต้องเข้าไปยืนยันไอดีในนั้นอีกพักหนึ่ง จากนั้นก็เข้าโลกแห่งเกม อินฟินิตี้

    วูปปปปปปป

     

    “” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”” ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×